Beranda / โรแมนติก / โอบฟ้ามาห่มดิน / บทที่ 6 ถึงเวลาห่างไกล - 50%

Share

บทที่ 6 ถึงเวลาห่างไกล - 50%

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-31 19:06:28

“หนูเรียนม.หกหนึ่งปีกับป.ตรีอีกสี่ปี โห! ตั้งห้าปีเชียวนะคะคุณพ่อ จะไม่ให้หนูพราวมีแฟนกับเขาเลยหรือ แล้วถ้ามีคนมาจีบหนูเยอะแยะเลยล่ะ หนูจะทำยังไง คุณพ่ออย่าลืมสิคะว่าลูกสาวคุณพ่อน่ะหน้าตาดี”

พูดจบเจ้าตัวก็หัวเราะร่วนที่แอบเนียนชมตัวเองหน้าตาเฉย ภาวินจึงอดหัวเราะตามไปด้วยไม่ได้

“ก็เพราะพ่อรู้ไงว่าลูกสาวพ่อน่ารัก เพราะฉะนั้นพ่อถึงได้หวง ไม่อยากให้หนูมีแฟนเร็วเกินไป มาเร็ว สัญญามาก่อน” ภาวินพูดพลางยกนิ้วก้อยขึ้นมา พราวนภาจึงต้องเอานิ้วไปเกี่ยวก้อยสัญญากับท่านอย่างเสียไม่ได้

“แล้วมาบอกให้หนูใช้ชีวิตวัยรุ่นให้คุ้มค่าแต่ไม่ให้มีแฟนซะงั้น คุณพ่อเนี่ย”

“การใช้ชีวิตวัยรุ่นให้คุ้มค่ามันคือการกิน เที่ยว เล่น เฮฮากับเพื่อนต่างหากล่ะ ไม่เกี่ยวกับการมีแฟนสักหน่อย” ภาวินยักไหล่พลางเอนหลังอย่างผ่อนคลาย แต่ก็ต้องขมวดคิ้วมุ่นเมื่อได้ยินประโยคถัดมาจากบุตรสาว

“ลุงชินกับลุงปกเล่าให้ฟังว่าตอนคุณพ่อเป็นวัยรุ่นน่ะเจ้าชู้มาก รถไฟชนกันเกือบทุกอาทิตย์เลยจริงรึเปล่าคะ”

“พวกนั้นมันก็พูดไปเรื่อย หนูอย่าไปเ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 10 ปีสุดท้าย - 100%

    “ดีแล้ว เห็นด้วยนะ” เขาสนับสนุนเต็มที่หากพราวนภาจะทำงานในบริษัทของบิดา เพราะตั้งแต่เธอเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เขาก็เห็นเธอคลุกคลีอยู่กับเครื่องสำอางจนสามารถแยกสีลิปสติกหรืออายแชโดว์ที่มีสีใกล้เคียงกันได้“แล้วนี่พี่ดินอยู่ที่ไหนเนี่ย” เมื่อได้ยินเธอถามมา เขาจึงเปลี่ยนโหมดโทรศัพท์ไปใช้กล้องหลังแล้วแพนกล้องช้า ๆ เพื่อให้หญิงสาวเห็นสวนสาธารณะที่เขานั่งอยู่“ที่นี่คือสวนสาธารณะบอสตัน วันนี้ตื่นเช้าก็เลยมาวิ่งสักหน่อย มาอยู่หลายวันแล้วยังไม่ได้ออกกำลังกายเลย”“โห กว้างเนอะ ถ้าเทียบกับสวมลุมบ้านเรา ที่ไหนใหญ่กว่าหรือ” คำถามของเธอทำเอาเขาได้แต่ยิ้ม“ไม่รู้สิ ไม่เคยไปวิ่งสวนลุมสักที” นฤบดินทร์ให้หญิงสาวดูสถานที่โดยรวมจนพอใจแล้วจึงเปลี่ยนโหมดโทรศัพท์มาใช้กล้องหน้าตามเดิม“ถ้าจำไม่ผิด เดือนมีนาปีหน้าพราวต้องสอบ GAT PAT ใช่ไหม” เขาเห็นเธอพยักหน้าให้แทนคำตอบจึงพูดต่อ“ถ้าสอบเสร็จทำอะไรเสร็จหมดทุกอย่างแล้วมาเที่ยวบอสตันไหม ซื้อตั๋วขามาอย่างเดียวก็พอ ค่ากินอยู่ก็ไม่ต้องซีเรียสเลย

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 10 ปีสุดท้าย - 75%

    “ถ้าคุณแม่ไม่พูดป่าวประกาศออกไปก็ไม่มีใครรู้หรอกค่ะ” ปวันรัตน์เถียงมารดากลับไปอย่างเหนื่อยหน่าย“ฉันน่ะไม่มีทางพูดแน่เรื่องเสื่อมเสียแบบนี้รู้ถึงไหนอายถึงนั่น แกทำให้ฉันผิดหวังมากนะ ฉันอุตส่าห์เลี้ยงแกมาอย่างดี เงินทองอยากได้เท่าไรก็ไม่เคยเกี่ยงขอแค่เป็นเด็กดีและเชื่อฟัง โตขึ้นจะได้ทำงานที่มีเกียรติและหาสามีดี ๆ ให้เป็นที่เชิดหน้าชูตา แล้วนี่อะไร แกตอบแทนฉันแบบนี้หรือ”“หนูก็เป็นเด็กดีให้คุณแม่แล้วไงคะ หนูไม่ชอบวิทย์คณิต อยากเรียนศิลป์ภาษาเพราะอยากเป็นแอร์ คุณแม่ก็บังคับให้หนูเรียนสายวิทย์ และบอกให้หนูสอบเข้าคณะแพทย์ คุณแม่ให้หนูเรียนพิเศษทั้งเสาร์อาทิตย์ สารพัดวิชาที่คุณแม่อัดมาให้หนูก็เรียนตามที่คุณแม่บอก หนึ่งอาทิตย์มีเจ็ดวันหนูต้องเรียนซ้ำ ๆ ซาก ๆ กับสิ่งที่หนูไม่ชอบทั้งเจ็ดวันก็เพราะไม่อยากขัดใจคุณแม่ แต่คุณแม่เคยถามหนูบ้างไหมว่าเหนื่อยรึเปล่า เครียดไหม เรียนหนักเกินไปไหม อยากพักผ่อนบ้างรึเปล่า...ไม่เลย คุณแม่ไม่เคยถามหนูสักครั้ง คุณแม่เอาแต่พูดว่าสอบเทอมนี้เกรดห้ามต่ำกว่าสามจุดห้า ถ้าต่ำกว่านี้หนูจะโดนตัดเงินเดือน และต้องเรียนเสริมเพ

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 10 ปีสุดท้าย - 50%

    “เออว่ะ หายไปทั้งคู่เลย ไปห้องน้ำมั้ง” ภัทรวีนึกอยากส่งข้อความไปหาเพื่อนทั้งสองคนแต่ติดที่กฎของโรงเรียนห้ามใช้โทรศัพท์ในเวลาเรียน จึงได้แต่นั่งรอพลางมองไปที่ประตูห้องเป็นระยะ“จะเช็กชื่อแล้วด้วยว่ะ สองคนนั้นยังไม่มาอีก” มนัสนันท์มองไปทางหน้าห้องด้วยความหวาดหวั่นเพราะอาจารย์ที่ปรึกษากำลังไล่เช็กชื่อนักเรียนตามเลขที่ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงเลขที่ของปวันรัตน์“ปวันรัตน์” อาจารย์โฉมสุดามองไปรอบห้องแต่ไม่เห็นมีคนยกมือขานรับจึงถามขึ้น “ขาดเรียนหรือ”“ตอนเข้าแถวยังเห็นอยู่นะคะอาจารย์ น่าจะไปเข้าห้องน้ำค่ะ” เพื่อนในห้องคนหนึ่งเป็นฝ่ายตอบ ภัทรวีกับมนัสนันท์จึงมองหน้ากันด้วยความโล่งอกขณะเดียวกัน พราวนภาที่ยืนเล่นโทรศัพท์อยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเมื่อได้ยินเสียงครางแผ่วปนสะอื้นดังมาจากห้องที่ปวันรัตน์เข้าไปใช้ หญิงสาวจึงเดินไปยืนหน้าห้องนั้นแล้วถามเบา ๆ“เปิ้ล แกเป็นอะไรรึเปล่า” ถามออกไปแล้วก็ต้องสงสัยมากกว่าเดิมเมื่อเสียงของเพื่อนที่ได้ยินผ่านประตูออกมานั้นราวก

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 10 ปีสุดท้าย - 25%

    นฤบดินทร์ได้ยินคำถามก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยก่อนจะตอบสั้น ๆ แต่ชัดถ้อยชัดคำ “มีแล้ว”“ก็ว่างั้นแหละ อย่างแกนี่ไม่น่าโสด” ชลณิชาพูดกลั้วหัวเราะ เธอจำได้ดีว่าตอนเรียนมัธยมปลายด้วยกันมาสามปีเต็มนั้น นฤบดินทร์ฮอตมากแค่ไหน เทศกาลสำคัญโดยเฉพาะวันวาเลนไทน์ เขามักได้ของขวัญหรือขนมดี ๆ มาเพียบ ซึ่งแน่นอนว่าพวกเธอที่เป็นเพื่อนสนิทนั้นก็พลอยได้อานิสงส์ไปด้วย“รุ่นเดียวกันรึเปล่า แล้วเขาเรียนเมืองไทยหรือ ทำไมไม่มาเรียนที่นี่ด้วยกันล่ะ” หญิงสาวถามต่อ แต่ชายหนุ่มเหลือบตามองคนถามพลางยิ้มอ่อน“แกนี่มันช่างซักช่างถามเหมือนเดิมเลยนะมิ้นต์” เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดรูปที่บันทึกไว้ในนั้นแล้วส่งให้เพื่อนดูบ้าง พร้อมกับพูดต่ออีกว่า“รุ่นน้อง ยังเรียนไม่จบก็เลยยังมาไม่ได้”ชลณิชาได้ยินคำตอบห้วน ๆ สั้น ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของอีกฝ่ายจึงส่งค้อนให้ด้วยความหมั่นไส้“แกก็ถามคำตอบคำเหมือนเดิมนั่นแหละวะ แหม...แล้วมาบอกว่าฉันช่างถาม ก็ฟังแกตอบเข้าสิ แทนที่จะบอกมาให้ครบเลยว่าเรียนปีอะไรแล้ว อยู่ม

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 9 นอนคนเดียว - 100%

    เมื่อได้ยินเพื่อนพูดมาแบบนั้น พราวนภาก็อดแย้งขึ้นไม่ได้ เพราะหากพูดกันตามตรงแล้วเธอก็เคยเป็นเด็กที่พ่อแม่ไม่พร้อมจะมีลูกเช่นกัน แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ยังอยู่มาได้จนถึงตอนนี้“มันก็ไม่แย่ขนาดนั้นหรอกมั้ง ท้องตอนเรียนไม่จบก็ออกมาคลอดแล้วกลับไปเรียนใหม่ก็ได้นี่นา เปิ้ลมันหัวดีอยู่แล้ว ภาษามันก็ดี ครอบครัวก็มีเงิน ฉันว่าต่อให้มันลาออกกลางคันแล้วมาหาทำธุรกิจอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ มันก็น่าจะไปรอดนะแพม สมัยนี้งานบางอย่างมันไม่ต้องใช้ใบปริญญาด้วยซ้ำ”“เออเนอะ” เธอได้ยินเสียงภัทรวีถอนหายใจ จากนั้นก็ตามมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น“พราว! ไอ้เปิ้ลมันโทร. มา แค่นี้ก่อนนะ ฉันรับสายมันก่อน”พราวนภานึกถึงเรื่องของตัวเองที่บิดากับแม่จันทร์เจ้าเคยเล่าให้ฟัง เพียงตะวัน มารดาบังเกิดเกล้าของเธอก็ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมเช่นกัน บิดาของเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเลือดเนื้อเชื้อไขของตนกำลังจะลืมตาดูโลก แต่มารดาก็ตัดสินใจเก็บเธอไว้แม้ว่าตอนนั้นครอบครัวจะเจอมรสุมใหญ่ก็ตามหญิงสาวลุกขึ้นแล้วหันหลังกลับเพื่อเดินเข้าบ้าน แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อเห็น

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 9 นอนคนเดียว - 75%

    “พี่ว่าเราอย่ายืนคุยกันตรงนี้ดีกว่าแดดมันร้อนน่ะ น้องพราวนั่งรถไปกับพี่ละกันครับไหน ๆ เราก็จะไปที่เดียวกันอยู่แล้ว พี่เข็นจักรยานไปเก็บให้นะ”ภราดรกุลีกุจอเข็นจักรยานไปไว้ในโรงรถตามเดิมพร้อมกับปิดประตูรั้วให้อย่างเรียบร้อย ก่อนจะผายมือให้หญิงสาวขึ้นไปนั่งข้างคนขับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“ขอบคุณค่ะพี่บาส” พราวนภายิ้มจนแก้มบุ๋มก่อนจะเดินอ้อมตัวรถไปนั่งอีกฝั่งโดยมีสายตาของภราดรมองใบหน้าสวยหวานที่มีลักยิ้มบนแก้มซ้ายนั่นตามหลังไปตาปรอยชายหนุ่มถอนหายใจแผ่วก่อนจะเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ เห็นเธอกำลังคาดเข็มขัดนิรภัยเขาจึงลอบมองเสี้ยวหน้าของหญิงสาวอย่างอดใจไม่อยู่เขาเองก็แอบชอบพราวนภาเช่นเดียวกับเพื่อนรักอย่างนฤบดินทร์ แต่เขาเพิ่งมารู้สึกชอบเธอเมื่อตอนที่หญิงสาวขึ้นชั้นมัธยมปลาย ผิดกับนฤบดินทร์ที่แทบจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกันและกันไปแล้ว และเพราะความเป็นเพื่อนที่มีมาอย่างยาวนาน เขาจึงยอมถอยเพราะรู้ดีว่าความรู้สึกที่นฤบดินทร์มีให้หญิงสาวนั้นลึกซึ้งมากกว่าเขานักแต่พอได้มาอยู่ใกล้กันอย่างนี้ เขาก็อดหวั่นไหวไม่ได้ คิดแล้วก็นึกโทษตัวเองที่

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status