Home / โรแมนติก / โอบฟ้ามาห่มดิน / บทที่ 10 ปีสุดท้าย - 100%

Share

บทที่ 10 ปีสุดท้าย - 100%

last update Last Updated: 2025-06-09 19:05:28

“ดีแล้ว เห็นด้วยนะ” เขาสนับสนุนเต็มที่หากพราวนภาจะทำงานในบริษัทของบิดา เพราะตั้งแต่เธอเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เขาก็เห็นเธอคลุกคลีอยู่กับเครื่องสำอางจนสามารถแยกสีลิปสติกหรืออายแชโดว์ที่มีสีใกล้เคียงกันได้

“แล้วนี่พี่ดินอยู่ที่ไหนเนี่ย” เมื่อได้ยินเธอถามมา เขาจึงเปลี่ยนโหมดโทรศัพท์ไปใช้กล้องหลังแล้วแพนกล้องช้า ๆ เพื่อให้หญิงสาวเห็นสวนสาธารณะที่เขานั่งอยู่

“ที่นี่คือสวนสาธารณะบอสตัน วันนี้ตื่นเช้าก็เลยมาวิ่งสักหน่อย มาอยู่หลายวันแล้วยังไม่ได้ออกกำลังกายเลย”

“โห กว้างเนอะ ถ้าเทียบกับสวมลุมบ้านเรา ที่ไหนใหญ่กว่าหรือ” คำถามของเธอทำเอาเขาได้แต่ยิ้ม

“ไม่รู้สิ ไม่เคยไปวิ่งสวนลุมสักที” นฤบดินทร์ให้หญิงสาวดูสถานที่โดยรวมจนพอใจแล้วจึงเปลี่ยนโหมดโทรศัพท์มาใช้กล้องหน้าตามเดิม

“ถ้าจำไม่ผิด เดือนมีนาปีหน้าพราวต้องสอบ GAT PAT ใช่ไหม” เขาเห็นเธอพยักหน้าให้แทนคำตอบจึงพูดต่อ

“ถ้าสอบเสร็จทำอะไรเสร็จหมดทุกอย่างแล้วมาเที่ยวบอสตันไหม ซื้อตั๋วขามาอย่างเดียวก็พอ ค่ากินอยู่ก็ไม่ต้องซีเรียสเลย

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 11 คนเลว - 50%

    อันธิกาหันมองตามแล้วก็อดตกใจไม่ได้เพราะไม่แน่ใจว่าเมื่อครู่ตอนที่ตนเปลือยอกอยู่นั้น ผู้ชายต่างชาติคนนี้จะเห็นหรือเปล่า แต่พอเห็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่มของผู้ชายคนนั้นแล้วเธอจึงคิดว่าควรรีบไปจากที่นี่ดีกว่า เพราะดูไปแล้วคนกลุ่มนี้น่าจะเป็นพวกเดียวกับนฤบดินทร์ ถึงได้ช่วยเหลือกันดีอย่างนี้“อีกะหรี่! ฝากไว้ก่อนเถอะ” อันธิกาด่าสองสาวด้วยภาษาไทยก่อนจะผลุนผลันเดินจากไปโดยไม่เหลียวหลัง ทิ้งให้หญิงสาวทั้งสองคนได้แต่มองหน้ากันด้วยความสงสัยครั้นพออันธิกาจากไปแล้ว ประตูห้องของนฤบดินทร์จึงเปิดออก เขามองสองสาวกับหนึ่งหนุ่มด้วยรอยยิ้มพร้อมกับพูดว่า “ขอบคุณมาก”หลังจากที่นฤบดินทร์ลากอันธิกาออกไปจากห้องแล้วเขาก็โทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือจากสองสาวเกาหลีใต้ทันที ด้วยความที่รู้จักและสนิทสนมกันในระดับหนึ่งเพราะเป็นเพื่อนบ้านกันมาร่วมสามเดือน ทั้งคู่จึงยินดีช่วยเป็นอย่างยิ่ง และโชคดีที่อดัมส์ หนุ่มไอริชที่อยู่ห้องเยื้องไปเปิดประตูออกมาเห็นพอดี สองสาวจึงให้เขาช่วยไหลตามน้ำไป“พวกเราต้องคิดถึงเธอแน่เลย” หนึ่งในสองสาวเดินเข้ามาสวมกอดนฤบดินทร์อย่างสน

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 11 คนเลว - 25%

    นฤบดินทร์เก็บของส่วนตัวและของใช้ที่จำเป็นใส่กระเป๋าเดินทางอีกใบที่เพิ่งซื้อมาใหม่ วันนี้เขาต้องย้ายไปอยู่อพาร์ตเมนต์เดียวกับชลณิชา เพราะเอกสารสัญญาที่ทำเอาไว้กับที่นี่นั้นวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วเขาได้ยินเสียงเคาะประตูจึงเดินไปเปิดเพราะคิดว่าเป็นสองสาวเกาหลีใต้ที่อยู่ห้องติดกัน ทว่าพอเปิดออกดู คนที่ยืนอยู่หน้าห้องกลับเป็นอันธิกา“อ้าว มีอะไรรึเปล่า” เขาถามแต่ไม่ชวนหญิงสาวเข้าไปในห้องเพราะรู้สึกว่าพักหลังมานี้อันธิกาดูแปลกไป เธอดูเคร่งเครียดและเก็บกดอย่างบอกไม่ถูก“ขอเข้าไปคุยในห้องดินได้ไหม ยืนคุยตรงนี้คงไม่สะดวก” เธอมองเขานิ่ง สีหน้าไม่ยิ้มแย้มอย่างเคย นฤบดินทร์จึงเบี่ยงตัวเพื่อเปิดทางให้หญิงสาวเข้ามาในห้อง เมื่อเธอเดินเข้ามาแล้วชายหนุ่มจึงเปิดประตูทิ้งไว้อย่างนั้นอันธิกามองข้าวของที่วางอยู่บนพื้นแล้วเดินไปนั่งบนเก้าอี้ของโต๊ะเขียนหนังสือ นฤบดินทร์จึงทรุดตัวนั่งกับพื้นแล้วจัดของลงกระเป๋าต่อ“ตกลงเธอมีเรื่องอะไรหรือถึงมาหาเราที่นี่” ชายหนุ่มถามอีกครั้งเพราะอีกฝ่ายยังไม่ยอมบอกจุดประสงค์ที่มาหาเข

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 10 ปีสุดท้าย - 100%

    “ดีแล้ว เห็นด้วยนะ” เขาสนับสนุนเต็มที่หากพราวนภาจะทำงานในบริษัทของบิดา เพราะตั้งแต่เธอเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เขาก็เห็นเธอคลุกคลีอยู่กับเครื่องสำอางจนสามารถแยกสีลิปสติกหรืออายแชโดว์ที่มีสีใกล้เคียงกันได้“แล้วนี่พี่ดินอยู่ที่ไหนเนี่ย” เมื่อได้ยินเธอถามมา เขาจึงเปลี่ยนโหมดโทรศัพท์ไปใช้กล้องหลังแล้วแพนกล้องช้า ๆ เพื่อให้หญิงสาวเห็นสวนสาธารณะที่เขานั่งอยู่“ที่นี่คือสวนสาธารณะบอสตัน วันนี้ตื่นเช้าก็เลยมาวิ่งสักหน่อย มาอยู่หลายวันแล้วยังไม่ได้ออกกำลังกายเลย”“โห กว้างเนอะ ถ้าเทียบกับสวมลุมบ้านเรา ที่ไหนใหญ่กว่าหรือ” คำถามของเธอทำเอาเขาได้แต่ยิ้ม“ไม่รู้สิ ไม่เคยไปวิ่งสวนลุมสักที” นฤบดินทร์ให้หญิงสาวดูสถานที่โดยรวมจนพอใจแล้วจึงเปลี่ยนโหมดโทรศัพท์มาใช้กล้องหน้าตามเดิม“ถ้าจำไม่ผิด เดือนมีนาปีหน้าพราวต้องสอบ GAT PAT ใช่ไหม” เขาเห็นเธอพยักหน้าให้แทนคำตอบจึงพูดต่อ“ถ้าสอบเสร็จทำอะไรเสร็จหมดทุกอย่างแล้วมาเที่ยวบอสตันไหม ซื้อตั๋วขามาอย่างเดียวก็พอ ค่ากินอยู่ก็ไม่ต้องซีเรียสเลย

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 10 ปีสุดท้าย - 75%

    “ถ้าคุณแม่ไม่พูดป่าวประกาศออกไปก็ไม่มีใครรู้หรอกค่ะ” ปวันรัตน์เถียงมารดากลับไปอย่างเหนื่อยหน่าย“ฉันน่ะไม่มีทางพูดแน่เรื่องเสื่อมเสียแบบนี้รู้ถึงไหนอายถึงนั่น แกทำให้ฉันผิดหวังมากนะ ฉันอุตส่าห์เลี้ยงแกมาอย่างดี เงินทองอยากได้เท่าไรก็ไม่เคยเกี่ยงขอแค่เป็นเด็กดีและเชื่อฟัง โตขึ้นจะได้ทำงานที่มีเกียรติและหาสามีดี ๆ ให้เป็นที่เชิดหน้าชูตา แล้วนี่อะไร แกตอบแทนฉันแบบนี้หรือ”“หนูก็เป็นเด็กดีให้คุณแม่แล้วไงคะ หนูไม่ชอบวิทย์คณิต อยากเรียนศิลป์ภาษาเพราะอยากเป็นแอร์ คุณแม่ก็บังคับให้หนูเรียนสายวิทย์ และบอกให้หนูสอบเข้าคณะแพทย์ คุณแม่ให้หนูเรียนพิเศษทั้งเสาร์อาทิตย์ สารพัดวิชาที่คุณแม่อัดมาให้หนูก็เรียนตามที่คุณแม่บอก หนึ่งอาทิตย์มีเจ็ดวันหนูต้องเรียนซ้ำ ๆ ซาก ๆ กับสิ่งที่หนูไม่ชอบทั้งเจ็ดวันก็เพราะไม่อยากขัดใจคุณแม่ แต่คุณแม่เคยถามหนูบ้างไหมว่าเหนื่อยรึเปล่า เครียดไหม เรียนหนักเกินไปไหม อยากพักผ่อนบ้างรึเปล่า...ไม่เลย คุณแม่ไม่เคยถามหนูสักครั้ง คุณแม่เอาแต่พูดว่าสอบเทอมนี้เกรดห้ามต่ำกว่าสามจุดห้า ถ้าต่ำกว่านี้หนูจะโดนตัดเงินเดือน และต้องเรียนเสริมเพ

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 10 ปีสุดท้าย - 50%

    “เออว่ะ หายไปทั้งคู่เลย ไปห้องน้ำมั้ง” ภัทรวีนึกอยากส่งข้อความไปหาเพื่อนทั้งสองคนแต่ติดที่กฎของโรงเรียนห้ามใช้โทรศัพท์ในเวลาเรียน จึงได้แต่นั่งรอพลางมองไปที่ประตูห้องเป็นระยะ“จะเช็กชื่อแล้วด้วยว่ะ สองคนนั้นยังไม่มาอีก” มนัสนันท์มองไปทางหน้าห้องด้วยความหวาดหวั่นเพราะอาจารย์ที่ปรึกษากำลังไล่เช็กชื่อนักเรียนตามเลขที่ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงเลขที่ของปวันรัตน์“ปวันรัตน์” อาจารย์โฉมสุดามองไปรอบห้องแต่ไม่เห็นมีคนยกมือขานรับจึงถามขึ้น “ขาดเรียนหรือ”“ตอนเข้าแถวยังเห็นอยู่นะคะอาจารย์ น่าจะไปเข้าห้องน้ำค่ะ” เพื่อนในห้องคนหนึ่งเป็นฝ่ายตอบ ภัทรวีกับมนัสนันท์จึงมองหน้ากันด้วยความโล่งอกขณะเดียวกัน พราวนภาที่ยืนเล่นโทรศัพท์อยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเมื่อได้ยินเสียงครางแผ่วปนสะอื้นดังมาจากห้องที่ปวันรัตน์เข้าไปใช้ หญิงสาวจึงเดินไปยืนหน้าห้องนั้นแล้วถามเบา ๆ“เปิ้ล แกเป็นอะไรรึเปล่า” ถามออกไปแล้วก็ต้องสงสัยมากกว่าเดิมเมื่อเสียงของเพื่อนที่ได้ยินผ่านประตูออกมานั้นราวก

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 10 ปีสุดท้าย - 25%

    นฤบดินทร์ได้ยินคำถามก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยก่อนจะตอบสั้น ๆ แต่ชัดถ้อยชัดคำ “มีแล้ว”“ก็ว่างั้นแหละ อย่างแกนี่ไม่น่าโสด” ชลณิชาพูดกลั้วหัวเราะ เธอจำได้ดีว่าตอนเรียนมัธยมปลายด้วยกันมาสามปีเต็มนั้น นฤบดินทร์ฮอตมากแค่ไหน เทศกาลสำคัญโดยเฉพาะวันวาเลนไทน์ เขามักได้ของขวัญหรือขนมดี ๆ มาเพียบ ซึ่งแน่นอนว่าพวกเธอที่เป็นเพื่อนสนิทนั้นก็พลอยได้อานิสงส์ไปด้วย“รุ่นเดียวกันรึเปล่า แล้วเขาเรียนเมืองไทยหรือ ทำไมไม่มาเรียนที่นี่ด้วยกันล่ะ” หญิงสาวถามต่อ แต่ชายหนุ่มเหลือบตามองคนถามพลางยิ้มอ่อน“แกนี่มันช่างซักช่างถามเหมือนเดิมเลยนะมิ้นต์” เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดรูปที่บันทึกไว้ในนั้นแล้วส่งให้เพื่อนดูบ้าง พร้อมกับพูดต่ออีกว่า“รุ่นน้อง ยังเรียนไม่จบก็เลยยังมาไม่ได้”ชลณิชาได้ยินคำตอบห้วน ๆ สั้น ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของอีกฝ่ายจึงส่งค้อนให้ด้วยความหมั่นไส้“แกก็ถามคำตอบคำเหมือนเดิมนั่นแหละวะ แหม...แล้วมาบอกว่าฉันช่างถาม ก็ฟังแกตอบเข้าสิ แทนที่จะบอกมาให้ครบเลยว่าเรียนปีอะไรแล้ว อยู่ม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status