เมื่อคุณหนูแสนเอาแต่ใจถูกส่งมาดัดนิสัยในไร่ภูพนา เหตุการณ์อลหม่านจนเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน --- “แหวะๆๆๆๆๆ” เอกกวียืนท้าวสะเอวมองคุณหนูตัวร้ายที่กำลังโก่งคออาเจียนเอาอาหารเช้าออกมาจนหมดไส้หมดพุงอย่างอ่อนอกอ่อนใจ “จะอ้วกจนตายไปข้างเลยหรือไง แม่คุ๊ณ” คนที่อ้วกอยู่หันมามอง น้ำหูน้ำตาไหล “ก็ฉันเหม็นนี่ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยอยู่ใกล้ขี้ขนาดนี้มาก่อนเลย” เอกกวีส่ายหน้าน้อยๆ อย่างเอือมระอา “งั้นก็คิดว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดีอีกอย่างหนึ่งของชีวิตสิ” “นี่นายจะบ้าหรือไง การมาอยู่ใกล้เรื่องขี้ๆ เนี่ยนะเป็นประสบการณ์ที่ดี” “อืม” เขาทำหน้าได้น่าตบนัก “แต่ฉันไม่รู้สึกดีด้วย ฉันขยะแขยง เข้าใจไหม!” หล่อนเดินมาหยุดตรงหน้า และตะโกนใส่เสียงดังลั่น เขาไหวไหล่กว้างน้อยๆ และส่ายหน้า “ไม่เข้าใจ เพราะยังไงซะ คุณก็ต้องตักปุ๋ยคอกพวกนี้ให้ได้ห้าสิบกระสอบ ไม่อย่างนั้นคุณจะไม่ได้พักกลางวัน”
view moreฟ้าลดา อมรสกุล หรือที่เพื่อนเรียกว่า นางฟ้า หล่อนเป็นคุณหนูผู้ร่ำรวยและหยิ่งผยองในชาติตระกูลของตัวเองเป็นที่สุด บ่าของหล่อนเชิดชูตั้ง สวมใส่หัวโขนที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิดด้วยความภาคภูมิใจ
ด้วยฐานะทางสังคมที่สูงส่ง เงินทองมีมากมายจนไม่รู้จะเอาเก็บไว้ที่ใด ทำให้หล่อนมีนิสัยเอาแต่ใจ จองหอง และเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ หนักไม่เอา เบาไม่สู้ ชอบการถลุงเงินไปวันๆ เป็นที่สุด จนบิดาเอือมระอา
“ยายฟ้า!”
พ่อของหล่อนชื่อปฐพีเป็นมหาเศรษฐีลำดับต้นๆ ของเอเชีย วันๆ ท่านก็ทำแต่งาน ไม่เคยมีวันว่างให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวเลยสักนิด ท่านเลี้ยงหล่อนด้วยเงิน ซื้อของทุกอย่างให้ตามที่ต้องการ โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งที่ฟ้าลดาต้องการที่สุดก็คืออ้อมกอดของบุพการี
“คะ คุณพ่อ?”
หญิงสาวในชุดรัดรูปสีดำชะงักเท้า และหันมามองบิดาที่นั่งหน้าเครียดอยู่ในห้องรับแขก
“ทำไมถึงกลับบ้านเช้า เมื่อคืนแกไปนอนที่ไหนมา”
หล่อนยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาท่าน ดวงตาของหล่อนเต็มไปด้วยความอวดดี
“แปลกนะคะที่วันนี้คุณพ่อยังไม่ไปทำงาน”
“แกอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง” ปฐพีลุกขึ้นยืน จ้องหน้าบุตรสาวด้วยความไม่พอใจ “บอกมาว่าแกไปนอนค้างอ้างแรมกับใคร”
“จำชื่อไม่ได้ค่ะ หลายคนค่ะ”
“ยายฟ้า!”
“คุณพ่อจะโกรธทำไมกันล่ะคะ ในเมื่อปกติคุณพ่อก็ไม่เคยใส่ใจฟ้าอยู่แล้ว เอาล่ะ คุณพ่อไปทำงานที่รักเถอะนะคะ ฟ้าง่วงจะขึ้นไปนอนแล้ว”
หล่อนพูดจบก็หมุนตัวจะเดินหนี แต่พ่อของหล่อนเรียกเอาไว้ด้วยน้ำเสียงดุดันเสียก่อน
“แกยังจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นแหละ!”
หล่อนหันหน้ามามองท่าน และเบ้หน้าด้วยความเบื่อหน่าย
“คุณพ่อมีอะไรก็รีบพูดมาเถอะค่ะ ฟ้าง่วง ฟ้าจะไปนอนแล้ว”
พ่อของหล่อนกัดฟันแน่น วันนี้ท่าทางของท่านโกรธน่าดูเชียว แต่หล่อนไม่สนใจหรอก ในเมื่อท่านไม่เคยมีเวลาให้หล่อนเองนี่น่า
“ฉันจะส่งแกไปภูเรือ”
หล่อนอึ้งไปพักก่อนจะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสนจะดื้อดึง
“ทำไมฟ้าต้องไปด้วยล่ะคะ”
“ที่แกต้องไปก็เพราะฉันสั่งให้ไปยังไงล่ะ ยายฟ้า”
หน้าของหล่อนบูดบึ้งทันที
“อย่ามาบังคับฟ้านะคะคุณพ่อ เพราะถึงยังไงฟ้าก็ไม่ไป!”
“ถ้าแกไม่ไป บัตรเครดิตทุกใบของแกจะถูกฉันระงับทั้งหมด ฟ้าลดา”
น้ำเสียงของพ่อจริงจังมากกว่าทุกครั้ง และมันก็ทำให้หล่อนเสียวสันหลังวาบ แต่กระนั้นก็ยังอดที่จะอวดดีต่อไปไม่ได้
“ฟ้าไม่กลัวหรอกค่ะ”
“งั้นก็ลองดูว่าใครจะแพ้ ฟ้าลดา”
หล่อนเม้มปากเป็นเส้นตรง ก่อนจะหมุนตัวเดินหนีไปทันที เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธของบิดาดังตามหลังมาไม่หยุด แต่หล่อนไม่คิดจะฟัง
“ฟ้าไม่มีทางไปที่กันดารแบบนั้นแน่นอน”
หล่อนพึมพำด้วยความโมโห ขณะกระชากบานประตูให้ปิดลงเสียงดังลั่น เพื่อระบายอารมณ์ ก่อนจะเดินไปนั่งบนเตียง เหวี่ยงกระเป๋าลงกับพื้นอย่างหัวเสีย
หล่อนนั่งหงุดหงิดงุ่นง่าน หน้าบอกบุญไม่รับอยู่หลายนาทีก่อนจะโทรหาเพื่อนสนิท
“อรเหรอ ฉันเบื่อๆ น่ะ มาหาที่บ้านหน่อยสิ”
“ฉันไม่มีรถไปน่ะสิฟ้า แกมาหาฉันเองได้ไหม ฉันจะรอที่บ้าน”
เพื่อนของหล่อนตอบออกมา หล่อนใจเบาๆ “ก็ได้ งั้นอีกสักครึ่งชั่วโมงจะไปบ้านแกนะ”
ฟ้าลดาวางสาย ก่อนจะรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า และออกมาจากห้องนอนทันที พ่อของหล่อนคงไปทำงานแล้ว เพราะภายในห้องรับแขกว่างเปล่า
“ก็เหมือนเดิม เห็นงานสำคัญกว่าลูกเสมอ”
หล่อนประชดบิดา ก่อนจะเรียกสาวใช้ให้เอากุญแจรถมาให้
“เอ่อ คุณท่านเอากุญแจรถของคุณหนูติดตัวไปด้วยค่ะ”
“ห๊ะ? ว่าไงนะ”
“และคุณท่านก็ยังสั่งอีกว่าไม่ให้คุณหนูออกไปไหนค่ะ”
“คุณพ่อเล่นแบบนี้กับฟ้าใช่ไหมคะ” หล่อนกำมือแน่นด้วยความโมโห “งั้นไปบอกให้ลุงชิดเอารถออก”
“เอ่อ คุณท่านสั่งคนขับรถทุกคนเอาไว้ว่าอย่าไปส่งคุณหนูเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะถูกไล่ออกค่ะ”
“นี่มันอะไรกันเนี่ย!”
หล่อนขัดใจเป็นที่สุด กระทืบเท้าเร่าๆ ด้วยความหงุดหงิด
“เอ่อ คุณหนูอยู่บ้านเถอะนะคะ เพิ่งกลับมาเองค่ะ”
“ไม่! ฉันจะไปหาเพื่อน”
“แต่คุณหนูไม่มีรถแล้วนะคะ”
หล่อนเดินออกมานอกบ้าน สาวใช้รีบเดินตามมาด้วยความเป็นห่วง
“ถึงไม่มีรถ ฉันก็ไปแท็กซี่ได้”
“แต่คุณหนูคะ มันอันตรายนะคะ”
หล่อนหยุดเดินและหันไปมองสาวใช้
“ฝากบอกคุณพ่อด้วย ว่าฉันจะกลับมาอีกทีเดือนหน้า”
“คุณหนูคะ คุณหนู...”
สาวใช้พยายามเรียกเตือนสติ แต่ฟ้าลดาที่กำลังหงุดหงิด เดินออกไปนอกรั้วและขึ้นแท็กซี่ไปเสียก่อน
“คิดว่าจะทำอะไรฟ้าได้เหรอคุณพ่อ” หล่อนพูดอย่างอวดเก่ง
“ไปไหนดีครับน้องสาว”
หล่อนตวัดตามองคนขับรถแท็กซี่ ก็เห็นสายตาหื่นกระหายของมันสะท้อนมาเข้าตา
“พระรามสี่”
แท็กซี่ขับรถออกไปทันที และหล่อนก็ไม่ได้สนใจหนทางอีกเลย เพราะมัวแต่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ จนกระทั่งรถจอดสนิทนั่นแหละ หล่อนถึงได้เงยหน้าขึ้น
สภาพแวดล้อมรอบตัวทำไมมันดูไม่คุ้นตาเลยนะ หล่อนเอ่ยถามคนขับแท็กซี่เสียงขุ่น
“นี่อย่าบอกนะว่าแกพาฉันหลงทางน่ะ”
มันหันมายิ้มให้หล่อน และมองทางกระจกลงมาที่ร่างกายของหล่อน
“น้ำมันหมดน่ะครับ”
เอาแล้วไง ฟ้าลดาอุทานในใจ
“นี่แกขับรถบ้าอะไร น้ำมันหมดยังไม่รู้อีก ไอ้แท็กซี่เฮงซวย”
หล่อนคว้าประตูรถและเปิดมันออกไปอย่างรวดเร็ว ไอ้คนขับรถรีบลงตามมา
“เอาเป็นว่าผมขอโทษก็แล้วกัน”
ตอนที่ 57. ตอนอวสาน“ใครจะกล้าไปสารภาพรักกับคุณหนูขาวีนอย่างคุณกันล่ะ มีหวังถูกหัวเราะเยาะตายกันพอดี”หล่อนกับเขาสบตากัน และหล่อนก็ได้เห็นประกายความรักจากดวงตมคมกริบของเขาชัดเจน หัวใจของหล่อนฟูฟ่อง แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้“ถ้าฉันนิสัยไม่ดีขนาดนั้น ก็อย่ามายุ่งสิ ปล่อยฉันไปตามทางของฉัน”“ใครจะปล่อยเมียตัวเองไปได้ล่ะ ไม่มีวันเสียล่ะ ผมรักของผม”“แต่ฉันนิสัยไม่ดีนะ แถมยังชอบใส่จีสตริงด้วย”เขาหัวเราะร่วน ก้มลงจูบแก้มนวลอย่างแสนรัก“ใส่เฉพาะในห้องนอน ตอนอยู่กับผมบนเตียงน่ะไม่ว่าหรอก แต่ห้ามใส่ไปเดินอวดผู้ชายคนอื่น เพราะผมหึงคุณมาก เข้าใจไหม”หล่อนยังคงมึนงง และไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน“นาย... ไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม เรื่อง... ที่บอกว่ารักฉันน่ะ”ศีรษะทุยส่ายน้อยๆ ก่อนจะระบายยิ้มหวานฉ่ำให้กับหล่อน“เรื่องแบบนี้ใครเขาเอามาล้อเล่นหรือโกหกกันล่ะ ผมรักคุณจนแทบจะล้นออกมาจากอกอยู่แล้ว รักทั้งๆ ที่คิดเสมอว่าคุณเป็นผู้หญิงรักสนุก”“อีตาบ้า ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย”“ผมรู้ก็ตอนที่ได้เข้าไปในตัวของคุณแล้วนั่นแหละ” เขาอมยิ้ม มองลึกเข้ามาในดวงตาคู่งามของหล่อน “ผมรักคุณนะฟ้าลดา ยิ่งได้กอด ได้จูบ ผมก็ยิ
ตอนที่ 56.“ผมจะแต่งงานกับฟ้าครับ ผมรักเธอ”ปฐพีระบายยิ้มโล่งอกออกมา“พูดแบบนี้ พูดเสียงดังๆ เลยนะ เวลาอยู่ต่อหน้ายายฟ้าน่ะ”“แต่ผม... ไม่รู้เลยครับว่าเธอไปอยู่ที่ไหนตอนนี้”ปฐพีหัวเราะร่วน “โอ๊ย... การตามหาตัวยายฟ้าน่ะไม่ยากหรอก”“คุณลุงหมายความว่ายังไงครับ”“เดี๋ยวดูจากข้อมูลการใช้บัตรเครดิตก็รู้แล้วล่ะพ่อเอกว่ายายฟ้าไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน”เอกกวีได้ฟังคำพูดของปฐพีก็ระบายยิ้มออกมาอย่างโล่งอก“คุณหนูขา... เราจะไปช็อปปิ้งกันอีกแล้วเหรอคะ”แววที่เดินตามฟ้าลดาเข้ามาในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดภาคตะวันออกเอ่ยถามด้วยความวิตกกังวล“ใช่ ฉันเครียด ช็อปปิ้งแล้วมันทำให้รู้สึกดีขึ้น”“แต่ที่ห้องพักของเรามันแทบจะไม่มีที่เดินแล้วนะคะคุณหนู มีแต่ของที่ซื้อไว้เต็มห้องไปหมดเลย”“งั้นฉันจะซื้อวันนี้อีกวัน พรุ่งนี้จะไม่ซื้ออะไรแล้ว โอเคไหมแวว”“ค่ะคุณหนู”ฟ้าลดาเดินตรงหน้าไปในร้านเสื้อผ้ายี่ห้อดัง หยิบทุกชุดที่อยู่ตรงหน้าส่งให้แววถือ จนแววต้องรีบเตือนสติเพราะเกรงว่าคุณหนูของตัวเองจะไม่มีมือหิ้วกลับห้อง“คุณหนูขา พอเถอะค่ะ นี่ก็สิบกว่าชุดแล้วนะคะ”“ก็ได้”ฟ้าลดาแขวนชุดเดรสสีดำคืนที่เดิม ก่อนจะหันมาห
ตอนที่ 55.“ก็คุณหนูฟ้าลดาคนสวยไงครับ”“บ้า ฉันจะไปงอนนายทำไมกันล่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย อ๊ะ... อื้อ... อย่าขยับแบบนี้สิ คนบ้า อื้อ... อ๊า... อา...”หล่อนครวญครางเลยทีเดียวเมื่อคนที่นอนทับนิ่งๆ อยู่เคลื่อนไหวสะโพกเป็นวงกลม คลึงเค้นจนหล่อนเสียวสะท้าน“ก็ผมอยากจะยืนยันไงครับว่าเราสองคนเป็นอะไรกันแค่ไหน”หล่อนแก้มแดงก่ำ และก็อดตัดพ้อไปอย่างน้อยใจไม่ได้“ก็แค่เซ็กซ์เท่านั้นแหละ”“ถึงจะเป็นแค่เซ็กซ์ แต่มันก็ทำให้เราสองคนได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ผมว่าชีวีตคู่หากไม่มีเซ็กซ์เป็นส่วนประกอบก็คงจะจืดชืดมากเลยทีเดียว”“ไอ้คนบ้ากาม”“ผมบ้าคุณต่างหาก เมียจ๋า...”“นี่อย่ามาพูดแบบนี้นะ ออกไปจากตัวฉันเลย”“อย่าไล่ผัวสิครับ” เขาพูดเสียงอ่อนเสียงหวานและระดมพรมจูบหล่อนทั้งใบหน้า มือใหญ่ก็บีบเค้นเต้าอวบตลอดเวลา“นายรักฉันหรือเปล่า”ในที่สุดหล่อนก็ตัดสินใจถามออกมา และจ้องหน้าเขาอย่างรอคอยคำตอบเอกกวีระบายยิ้มอ่อนโยน มองลึกเข้าไปในดวงตาคู่งามของภรรยาคนสวย“ผมจะพิสูจน์ให้คุณดู ฟ้าลดา”แล้วเขาก็ก้มลงมาบดขยี้ปากอิ่มของหล่อน ปลุกเร้าให้หล่อนร้อนผ่าวและร้อนฉ่าพรักพร้อมต่อเกมสวาทของเขาอีกครั้งหล่อนอยากฟังคำตอบ
ตอนที่ 54. ฝ่ามือกางออกเค้นคลึงจนยอดถันแข็งชันเป็นไต นิ้วยาวถูไถจนเม็ดทรวงเคร่งครัด ก่อนจะส่งเข้าไปในอุ้งปาก ดูดอมมันอย่างเอร็ดลิ้น ทั้งกัดทั้งดูดทั้งเลียจนสาวน้อยกรีดร้องทรมานร่างอวบอัดส่ายระริก ดิ้นพล่านด้วยความเสียวกระสัน หยาดน้ำสวาทไหลซึมออกมาจนกลีบสาวเปียกชุ่ม ความร้อนฉ่าอัดแน่นอยู่เต็มซอกขา“อ๊า... อา... อ๊า...”หล่อนกรีดร้องด้วยความเสียวซ่านทรมาน ยิ่งยามที่เขาดูดเม็ดทรวงแรงๆ ตามด้วยการขบกัดด้วยแล้ว หล่อนก็ยิ่งแสนรัญจวน ร่างสาวลอยสูงขึ้นทุกขณะ“อ๊า... อา... เอก... เอกขา...”เขาคลายยอดถันออกจากปาก เลื่อนหน้าต่ำลงไปยังหน้าท้อง สองมือเลื่อนนำหน้าลงไปกระชากต้นขาอวบให้แยกกว้างออกจากกัน ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำลดต่ำลงไปอยู่ที่เนินสวาทพอดิบพอดีเสียงคำรามด้วยความพึงพอใจจากปากหยักสวยดังขึ้นไม่หยุด นิ้วยาวค่อยๆ แยกแย้มกลีบนางออก ดวงตาคมกริบจับจ้องมองสีสันความงดงามนั้นด้วยความตื่นตะลึง เขารู้สึกพรึงเพริดทุกครั้งที่ได้จับจ้องกับความอูมอวบของฟ้าลดา“สีสวยเหลือเกินฟ้าจ๋า...”หล่อนจิกเล็บลงกับศีรษะของเขา และกรีดร้องไม่หยุด เมื่อกลีบสาวถูกโจมตีด้วยปากด้วยลิ้น และนิ้วมื
ตอนที่ 53.“ไปเถอะแวว ฉันรับรองด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่าจะไม่ทำร้ายคุณหนูของแววให้ต้องเจ็บปวด ฉันจะพูดดีๆ กับคุณหนูของแววโอเคไหม”“ก็ได้ค่ะ แต่อย่าทำให้คุณหนูร้องไห้นะคะ”“รับรองครับ”แววเดินจากไปแล้ว เขาจึงหันมามองบานประตูไม้ตรงหน้า ยกมือขึ้นค้างอยู่กลางอากาศ ตั้งใจจะเคาะเรียก แต่ก็รู้ดีว่าเจ้าของห้องไม่มีทางยอมเปิดง่ายๆ แน่นอน ดังนั้นการไขกุญแจเข้าไปเลยจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดคนที่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงรีบดีดตัวลุกขึ้นทันที เมื่อเห็นประตูห้องเปิดออกโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า แต่นั่นยังไม่น่าตกใจเท่ากับคนที่ปรากฏตัวขึ้นหลังบานประตูไม้“นาย...”หล่อนช็อกค้าง ตาเบิกกว้าง ปากเผยอจนน้ำลายไหลย้อยออกมาคนตัวโตระบายยิ้มอ่อนๆ ก้าวข้ามธรณีประตูเข้ามาหา และดึงประตูให้ปิดสนิทลง พร้อมกับล็อกอย่างแน่นหนา“นี่ผัวนะไม่ใช่ผี ไม่ต้องทำหน้าตกใจแบบนั้นก็ได้ ฟ้าลดา”“นาย... มาได้ยังไง”“ขับรถมาครับ”“แล้ว... เข้ามาทำไม”เขาอมยิ้มน้อยๆ ก้าวเดินเข้ามาหา หญิงสาวตัวแข็งทื่อขยับไม่ได้“ก็เข้ามาหาเมียไงครับ”“ออกไปนะ ใครเป็นเมียนาย”เขามาหยุดยืนที่ขอบเตียง และมองหล่อนทั้งตัว มองด้วยสายตาเป็นเจ้าข้าวเจ้า
ตอนที่ 52.ฟ้าลดาจำรถของเอกกวีได้ ทันทีที่เห็นมันแล่นเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์ของตัวเองเท่านั้น หล่อนก็รีบโกยแน๊บขึ้นห้องนอนและล็อกประตูอย่างแน่นหนาเลยทีเดียว พร้อมกับกำชับแววไว้ ให้บอกว่าหล่อนไม่อยู่ไปบวชชีสามปีนั่นแหละถึงจะกลับมาแววรีบออกมาต้อนรับเอกกวีที่หน้าบ้านตามหน้าที่ ด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะไม่ชอบที่จะโกหกแต่ก็เลี่ยงไม่ได้“สวัสดีค่ะคุณเอก ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่คะ”เอกกวียิ้มตอบให้กับแวว“ไม่ได้มีลมอะไรหอบฉันมาหรอก ฉันตั้งใจมาที่นี่ด้วยตัวเองเลยแหละ”“เอ่อ ตั้งใจเลยเหรอคะ”“อืม”เอกกวีพยักหน้ารับ ก่อนจะชะเง้อคอมองเข้าไปภายในคฤหาสน์หลังงามเบื้องหน้า“คุณลุงอยู่ไหมครับ แวว”“อยู่ค่ะ เดี๋ยวเชิญคุณเอกเข้าไปนั่งดื่มน้ำเย็นๆ ในห้องรับแขกนะคะ แล้วแววจะไปเรียนคุณท่านให้ค่ะว่าคุณเอกมาขอพบ”“ขอบใจมาก” เอกกวีระบายยิ้ม“เชิญค่ะ”แววทำหน้าที่เชื้อเชิญแขกเข้าไปในบ้าน เอกกวีเดินตามไป แต่ก็อดที่จะเงยหน้าขึ้นมองชั้นบนของบ้านไม่ได้ และก็ได้เห็นเงาของใครบางคนแอบอยู่หลังม่านในห้องหนึ่ง เขาระบายยิ้มน้อยๆ และรีบก้าวตามแววไป“เชิญนั่งก่อนนะคะ เดี๋ยวแววไปเรียนคุณท่านก่อนค่ะ”เอกกวีพยักหน้ารับ ท
ตอนที่ 51.“ผมไม่ได้กล่าวหาคุณเดือน แต่ผมกำลังพูดถึงความชั่วที่คุณทำลงไปกับฟ้าลดาต่างหาก”“เอก... ทำไมคุณพูดแบบนี้คะ เดือนจะไปทำอะไรคุณฟ้าลดาได้ นี่เอกจะต้องถูกเป่าหูมาแน่ๆ เอกใจร้าย เอกทำร้ายจิตใจของเดือน” เดือนเพ็ญบีบน้ำตาใหญ่โต และโวยวายลั่น“ลากมันเข้ามา”เอกกวีหันไปตะโกนบอกคนของตัวเองเสียงดังลั่น และไม่นานร่างสะบักสะบอมที่มีผ้าก็อตสีขาวปิดทั่วใบหน้าของนายศักดิ์กับนายย้งก็ถูกหิ้วปีกเข้ามาเดือนเพ็ญหน้าซีดเผือด และลืมตัวปฏิเสธออกมาทันควัน“เดือนไม่รู้จักพวกมันนะคะเอก”เอกกวียิ้มเยาะ มองเดือนเพ็ญอย่างเดือดดาล“ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะเดือน คุณร้อนตัวทำไม”“คือ...” เดือนเพ็ญแก้ตัวไม่ออก“พูดมาสินายศักดิ์ ว่าใครจ้างแกทำอะไร”“คุณ... คุณเดือนเพ็ญจ้างให้ผมทำร้ายคุณฟ้าลดาครับ”“ใช่ครับ คุณเดือนเพ็ญให้เงินพวกเรา และสั่งให้พวกเราทำครับนาย” ย้งยืนยันอีกเสียง“ไม่จริง! พวกแกโกหก พวกแกใส่ร้ายฉัน”“เดือน คุณเลิกแก้ตัวเถอะ หลักฐานมัดแน่นขนาดนี้ คุณไม่มีทางหนีความผิดของตัวเองรอดหรอก ยอมรับมาเถอะว่าทำชั่วอะไรลงไป” เอกกวีมองเพื่อนสนิทด้วยสายตาลุกเป็นไฟ“เอก... ไม่นะคะ อย่าเชื่อพวกมัน เดือนไม่ได้ทำ
ตอนที่ 50.“งั้นป้าเดินออกไปส่งที่รถนะ”“ค่ะ คุณป้า”หล่อนเดินมาหยุดที่รถกระบะสี่ประตูที่คนงานของเอกกวีติดเครื่องรออยู่“เดินทางปลอดภัยนะหนูฟ้า”“คุณป้าก็ดูแลตัวเองนะคะ”ฟ้าลดาสวมกอดอังกาบ น้ำตาริน ก่อนจะรีบถอยออกห่าง“ฟ้าไปนะคะ”“ไว้เจอกันที่กรุงเทพฯ จ๊ะ”คงไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้วล่ะฟ้าลดาบอกตัวเองเศร้าๆ ในอก แต่ภายในก็ต้องฝืนยิ้มให้กับอังกาบ“ลาก่อนค่ะคุณป้า”หล่อนกล่าวลาและก้าวขึ้นไปบนรถ หลังจากที่คนงานเอากระเป๋นเดินทางของหล่อนใส่รถเรียบร้อยแล้วรถกระบะแล่นห่างออกมาจากไร่ภูพนามากเท่าไหร่ หัวใจของหล่อนก็ยิ่งปวดร้าวทรมานมากเท่านั้น หล่อนหันไปมองด้านหลังตลอดเวลา มองด้วยความอาลัยอาวรณ์ หล่อนคงไม่มีโอกาสได้มาเหยียบที่นี่อีกแล้ว และก็คงไม่ได้พบเขาอีกน้ำตาของหล่อนร่วงหล่นออกมาเป็นสาย หล่อนไม่อาจจะซ่อนเร้นความเสียใจเอาไว้ได้อีก สองมือยกขึ้นปิดหน้าสะอื้นไห้ โดยไม่สนใจว่าคนงานที่ขับรถอยู่ข้างๆ จะมองด้วยความตกใจแค่ไหนเอกกวีกลับมาถึงบ้านอีกครั้งก็เกือบบ่ายสามโมงเย็นของวันเลยทีเดียว เขาก้าวเข้ามาภายในตัวบ้าน เจอมารดานั่งจิบช้าอยู่ที่ห้องโถง“อ้าว พ่อเอก ไปในเมืองมาเหรอ”“ครับคุณแม่ พอดีคนงานไม
ตอนที่ 49.“โอ๊ย... นายครับ ผมเจ็บครับ”“งั้นก็สารภาพเรื่องเมื่อวานออกมาให้หมด”“ผม... ผมไม่มีอะไรจะสารภาพครับ”“แน่ใจนะ” เอกกวีเค้นเสียงเดือดดาลออกมาจากไรฟัน“ครับ... ครับนาย”นายศักดิ์ก้มหน้าหลบตา ก่อนจะต้องร้องลั่น เมื่อถูกกำปั้นของเอกกวีกระแทกเข้ามาเต็มหน้า และไม่ใช่แค่หมัดเดียวเท่านั้น หลายสิบหมัดที่ชายหนุ่มระดมต่อยเข้ามาที่ใบหน้าของเขา และเมื่อเขาล้มลง คราวนี้ฝ่าเท้าของเอกกวีก็ทำหน้าที่แทนกำปั้นทันที ทั้งเตะทั้งกระทืบ จนเขาต้องร้องขอชีวิต“บอก... บอกแล้วครับ นาย... บอกแล้วครับ”ฝ่าเท้าของเอกกวีที่กำลังเงื้อจะเตะใส่ร่างที่นอนคลุกฝุ่นของศักดิ์ชะงัก ก่อนที่เขาจะก้มลงกระชากร่างชุ่มโชกเลือดขึ้นมาเผชิญหน้า“พูด!”“ผม... ผมจัดฉากขึ้นมาครับ”“ไอ้ระยำ!”“โอ๊ย... อย่าครับนายผมกลัวแล้ว”นายศักดิ์รีบยกมือขึ้นไหว้ ด้วยความหวาดกลัวที่สุดในชีวิต“ทำไมมึงทำแบบนี้ ไอ้ศักดิ์!”“ผม... ผมถูกจ้างมาครับ”คิ้วเข้มของเอกกวีเลิกสูง มองหน้านายศักดิ์ตาวาวโรจน์“ใคร?!”“คุณ... คุณเดือนเพ็ญครับนาย”“เดือนเพ็ญ...?”“ใช่ครับ เดือนเพ็ญเพื่อนของนายนั่นแหละครับ เธอจ้างผมกับไอ้ย้ง ให้ทำเรื่องแบบนี้กับคุณฟ้าลดา ผม
Mga Comments