Share

ตอนที่ 4 : นางทำอันใดอยู่

last update Dernière mise à jour: 2025-03-20 14:56:23

ตอนที่

[4]

นางทำอันใดอยู่

 หลังจากที่ซูซีหลินได้ก้าวเท้าเข้าสู่วังวนวังหลัง ชีวิตก็คล้ายถูกมือมืดของใครบางคนคอยชักจูงอยู่เสมอ ด้วยความเกลียดชัง อคติและความคิดอันตื้นเขิน หญิงสาวจึงมักจะคิดว่าเป็นฝีมือของช่ายเฟิ่งจิ่วอยู่ร่ำไป ทว่าแท้จริงกลับเป็นบุคคลที่ซูซีหลินแทบจะไม่ค่อยได้ไปข้องเกี่ยวเลยด้วยซ้ำ

 แต่บัดนี้เห็นทีจะต้องไปพัวพันด้วยเสียแล้ว เพื่อที่จะทำให้ซูซีหลินในชาตินี้หรือก็คือตัวนางเองไม่ต้องถูกใส่ร้ายและลงเอยด้วยความตาย รวมถึงเด็กคนนั้นก็ไม่ต้องถูกใช้เป็นเครื่องมือจนสุดท้ายก็ต้องตายอย่างน่าสงสารเช่นกัน 

 องค์ชายจูจิ่งหลง วัยห้าหนาว พระโอรสขององค์ชายรัชทายาทแคว้นจ้าวและองค์หญิงอวี๋กงเชี่ยน หรือก็คือพระขนิษฐาร่วมอุทรของอวี๋กงซู่ฮ่องเต้ ทว่าชีวิตของทั้งคู่ช่างสั้นนัก แคว้นจ้าวถูกแคว้นหมิงโจมตีอย่างรุนแรง ส่งผลให้แคว้นทั้งแคว้นต้องล่มสลายลงในเวลาไม่นาน แต่ทว่าก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายขึ้น องค์ชายจูจิ่งหลงได้ถูกพระบิดาและพระมารดาได้เอาตัวไปซ่อนไว้ในที่หลบภัย โดยหลังจากนั้นทั้งคู่ได้ไหว้วานคนที่ไว้ใจได้ให้นำเด็กน้อยไปส่งให้ผู้เป็นลุงอย่างอวี๋กงซูฮ่องเต้ดูแล นับแต่นั้นมาองค์ชายจูจิ่งหลงจึงได้มาอยู่ที่แคว้นหลิวหยวน ในความดูแลของอวี๋กงซู่ฮ่องเต้ เรื่องราวไม่จบเพียงเท่านั้นเมื่อต่อมาคนชั่วแคว้นหมิงยังคิดจะรุกรานฉกชิงเอาดินแดนชายแดนของแคว้นหลิวหยวนต่อ ด้วยเหตุเหล่านี้ทำให้โอรสสวรรค์บังเกิดโทสะพวยพุ่งขึ้นอย่างขีดสุด จนถึงขั้นคิดจะไปออกรบด้วยตนเอง แต่ทว่าเหล่าขุนนางต่างคัดค้านอย่างหนัก วังหลวงจะต้องมีฮ่องเต้อยู่ มิเช่นนั้นแคว้นหลิวหยวน จะต้องเกิดความไม่มั่นคงเกิดขึ้นเป็นแน่ 

ในจังหวะเดียวกันนั้น แม่ทัพซูก็เขียนแผนการจัดการแคว้นหมิงได้สำเร็จพอดี พร้อมทั้งอาสาจะออกไปจัดการคนชั่วแคว้นหมิงด้วยตนเอง ทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงเล็กน้อย แม่ทัพซูใช้เวลาราวปีกว่าจะจัดการแคว้นหมิงได้อย่างสิ้นซาก แต่ทว่าน่าเสียดายที่เชื้อพระวงศ์ทั่วทั้งแคว้นกลับเหลือเพียงองค์ชายจูจิ่งหลงวัยห้าหนาวที่เป็นผู้ที่รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็เพราะเขาถูกส่งตัวมาที่แคว้นหลิวหยวนก่อนนั่นเอง

 เนื่องด้วยเป็นสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ของน้องสาวอันเป็นที่รัก เด็กน้อยจึงเป็นที่รักและหวงแหนของเสด็จลุงของตนไม่น้อย

 และด้วยจุดนี้เองที่ทำให้คนบางคนใช้เด็กน้อยที่ไร้บิดามารดาผู้นี้มาเล่นงานซูซีหลิน

 หากว่าซูซีหลินรอบคอบและฉลาดเฉลียวสักนิด ทุกอย่างคงไม่ต้องจบลงเช่นนั้น บิดามารดา พี่ชาย ไม่สิ ทั้งตระกูลซูก็ไม่ต้องจบชีวิตลงด้วยข้อหาก่อกบฏต่อแว่นแคว้นเช่นนั้น

 ใช่แล้วเรื่องราวมันเลวร้ายถึงเพียงนั้น 

 หลังจากที่ซูซีหลินถูกคนใส่ร้ายว่าเป็นผู้สังหารองค์ชายจูจิ่งหลง พร้อมทั้งได้ถูกเปิดเผยความชั่วร้ายว่าได้คิดแผนร้ายต่อช่ายเฟิ่งจิ่วและสตรีผู้อื่นที่คิดจะเข้าหาอวี๋กงซู่อย่างไรบ้าง เหล่าขุนนางและเหล่าบัณฑิตได้ส่งฎีกาเพื่อให้ฮ่องเต้พระราชทานโทษให้ซูกุ้ยเฟยอย่างสาสมกับความผิดที่ได้ก่อ

 ขณะเดียวกันนั้นแม่ทัพซูพร้อมครอบครัวก็เร่งเดินทางมาจากเมืองชายแดน แต่ทว่าก็ไม่ทันเสียแล้ว ซูกุ้ยเฟยถูกประหารไปแล้ว เพราะมีคนปลอมแปลงราชโองการของฮ่องเต้สั่งลงโทษประหารซูกุ้ยเฟยทันทีโดยไม่ต้องสืบความอันใด

 ครอบครัวตระกูลซูไม่ได้รู้เรื่องนี้ รู้แต่เพียงว่าฮ่องเต้สั่งประหารบุตรสาวของตนทั้งที่ยังไม่ได้สืบหาความจริง ไหนจะเหล่าขุนนางและเหล่าบัณฑิตที่ยั่วยุ ด้วยความเสียใจและความโกรธเข้าครอบงำจิตใจ แม่ทัพซูจึงได้เรียกรวมทหารของตนให้มารวมกันเพื่อถล่มวังหลวงและคนที่เกี่ยวข้องให้สิ้นซากไป 

 ทัพใดในแคว้นหลิวหยวนจะแข็งแกร่งเท่ากองทัพเจี้ยนคังของแม่ทัพใหญ่ 

แต่สุดท้ายความแข็งแกร่งก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับเล่ห์กลคนชั่ว เพราะถูกนำจุดอ่อนเรื่องบุตรสาวว่าแท้จริงซูซีหลินยังมีชีวิตอยู่มาลวงหลอก ทั้งยังถูกช่วยชีวิตไว้และพาไปยังที่แห่งหนึ่งแล้ว ให้แม่ทัพใหญ่รีบไปช่วยบุตรสาวโดยด่วน ครอบครัวตระกูลซูที่รู้เรื่องนี้ต่างก็มีความหวังโดยไม่ทันได้ระวังสิ่งใด ทั้งที่ความจริงแล้ว ทั้งหมดนี้กลับเป็นแผนหลอกล่อให้ครอบครัวตระกูลซูติดกับ ตีวงล้อมให้ถูกคนชั่วจัดการ ในช่วงสุดท้ายของชีวิตกว่าจะรู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นเช่นไร ก็ไม่สามารถที่จะทำอันใดได้ต่อไปแล้ว…. 

 ตระกูลซูทั้งตระกูลและกองทัพเจี้ยนคังถูกกล่าวหาว่าก่อกบฏลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้และเข่นฆ่าประชาชนราวผักปลา จึงต้องโทษประหารชีวิตและเสียบศีรษะประจานหน้าประตูเมืองหลวงเป็นเวลาเจ็ดวัน

 เรื่องราวที่แท้จริงในนิยายที่กว่าจะเปิดเผยก็เป็นช่วงท้ายของเนื้อเรื่องที่พระเอกและนางเอกของเรื่องอย่างช่ายเฟิ่งจิ่วและข่ายเชี่ยนหยุนที่ร่วมกันจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นจนรู้ความจริงด้วยความบังเอิญ คนที่ทำผิดที่แท้จริงจึงได้ถูกจัดการไป ส่วนอวี๋กงซู่ฮ่องเต้ก็มีการปฏิรูปจัดระเบียบกองทัพและในวังหลวงอีกหลาย ๆ อย่างจนทุกอย่างกลับมาเข้าที่เข้าทาง รวมถึงที่เลือกจะปล่อยวางเรื่องราวของช่ายเฟิ่งจิ่วลง เพราะช่ายเฟิ่งจิ่วและข่ายเชี่ยนหยุนต่างก็มีใจตรงกัน และพวกเขามีส่วนช่วยอย่างมากที่จัดการความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ส่วนชีวิตหลังจากนั้นของเขาในนิยายไม่ได้กล่าวถึงมากนัก โดยส่วนมากจะเน้นเรื่องราวของพระนางหลังผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาแล้วมากกว่า

 

 เฮ้อ แม้ว่าคนที่ถูกประหารในตอนนั้นจะไม่ใช่นาง แต่ยามที่นางนึกถึงเรื่องราว ก็รู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ ที่คอไม่น้อย 

 ถูกตัดหัวเลยนา 

 จะไม่ให้รู้สึกอะไรได้ยังไง 

 ซูซีหลินนอนคิดทบทวนเรื่องราวไปมา ไม่นานก็ผล็อยหลับไป ตื่นมาอีกทีก็พบว่าท้องฟ้าด้านนอกนั้นเริ่มจะไร้แสงสว่างเสียแล้ว 

 นอนกินบ้านกินเมืองจริง ๆ ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้กินแม้กระทั่งข้าวเช้า อ่า ข้าวเที่ยงด้วย ถึงว่ารู้สึกหิวขนาดนี้

 “จินจูข้าหิวววววว” หญิงสาวลากเสียงยานคางแกมออดอ้อนนางกำนัลคนสนิทด้วยกิริยาที่เคยชอบทำกับเหล่าพี่ ๆ พยาบาลที่เคยดูแลครั้นยังเป็นผู้ป่วยติดเตียงในโลกเก่า

 จินจูทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะ พระสนมเปลี่ยนไปมากจริง ๆ แต่ก่อนมีหรือที่จะทำน้ำเสียงออดอ้อนเช่นนี้ เพราะหากพระนางทำจริง ๆ เกรงว่าจะมิได้เป็นการออดอ้อน หากแต่เป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังไม่พอใจและจะลงโทษนางไม่ก็ใครสักคนมากกว่า คิดได้ดังนั้นจึงรีบเอ่ยออกไป

 “พระสนมรอสักครู่นะเพคะ หม่อมฉันจะรีบไปสั่งการให้นางกำนัลด้านนอกนำอาหารมาเพคะ”

 “อื้ม เร็ว ๆ นะข้าหิว” ตายแล้ว ต้องตายแน่ ๆ จินจูคิดในใจเช่นนั้นพลางเร่งฝีเท้าให้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม 

 ทว่าหลังจากที่ผู้เป็นนายกินอาหารเสร็จเรียบร้อยก็ไม่ได้มีอันใดเกิดขึ้น หนำซ้ำพระนางยังชำระกายเองพลางฮัมเพลงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนคล้ายอารมณ์ดีอีกต่างหาก จากนั้นก็ขึ้นเตียงบรรทมไม่พอยังกวาดขาไปมาราวกับรู้สึกผ่อนคลายหนักหนา 

 จินจูขมวดคิ้วมุ่นนี่มันเกิดอะไรขึ้น? 

 ที่จริงซูซีหลินไม่ได้สบายใจอะไรถึงเพียงนั้น แต่แค่นางอยากทำตัวให้ผ่อนคลายที่สุดเพื่อเตรียมรับมือกับความหนักหนาและเตรียมแผนการรับมือต่าง ๆ สำหรับเรื่องในอนาคตต่างหาก และเตียงของกุ้ยเฟยที่ทั้งใหญ่และนุ่มชวนให้นอนสบายกายเช่นนี้ นางจะสงวนท่าทีไปเพื่ออันใด ดังนั้น กว่าที่หญิงสาวจะตื่นเวลาก็ล่วงเลยไปถึงปลายยามเฉิน (บริบทนี้คือแปดโมงเช้า) เลยทีเดียว

 เรื่องนี้สร้างความแตกตื่นและประหลาดใจให้กับคนตำหนักซิ่วอิงรวมถึงห้องเครื่องที่ต้องทำน้ำแกงทุกเช้าเตรียมพร้อมให้ซุกุ้ยเฟยนำไปถวายให้ฝ่าบาทเป็นอย่างมาก เพราะพระนางจะเสด็จมารับน้ำแกงนี้ด้วยพระองค์เองและตรวจสอบทุกอย่างจึงจะวางใจ แต่วันนี้กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของพระองค์ มิใช่มีเพียงแค่คนกลุ่มนี้ที่แปลกใจแม้แต่คนที่อยู่ในตำหนักเฉินไท่ยังขยับหัวคิ้วเข้าหากันด้วยความแปลกใจ 

 “วันนี้ไม่มีน้ำแกง?” 

 “ทูลฝ่าบาทไม่มีพ่ะย่ะค่ะ” เผยกงกงกล่าวเพียงเท่านั้น ผู้ที่กำลังจับพู่กันตวัดอักษรก็นิ่งไป อวี๋กงซู่นั้นไม่ได้อยากจะกินน้ำแกงของซูซีหลินแต่อย่างใด เพราะที่นางทำมานั้นเขาก็ให้นางวางไว้ที่หน้าห้องทรงอักษร ก่อนจะให้คนนำไปเททิ้งในภายหลังเช่นนี้ทุกวัน แต่วันนี้แค่แปลกใจเท่านั้น เมื่อวานนางกล่าวว่าจะไม่มาวุ่นวายกับเขา แล้ววันนี้นางก็ทำเช่นนั้นจริง คนน่ารำคาญอย่างซูซีหลินที่เอาแต่ตามติดเขาผู้นั้นน่ะหรือจะห่างจะเขาได้ ช่างทำให้น่าแปลกใจไม่น้อย 

 “นางไม่นำน้ำแกงมาให้ข้า แล้วตอนนี้นางกำลังทำอันใดอยู่” 

 “เอ่อ คือว่า” ทันใดนั้นจักรพรรดิก็เลื่อนพระพักตร์กลับมาจดจ้องกงกงคนสนิทมากยิ่งขึ้น

 “อ้ำอึ้งอันใดกัน หรือว่าซูซีหลินกำลังคิดแผนการอื่นเพื่อเข้าหาเรา?” ต้องใช่แน่ ๆ หึ ว่าแล้วเชียว 

 ด้านเผยกงกงคิดว่าตนไม่ควรชักช้าจึงได้รีบรายงานไป กระนั้นก็ยังคงด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาไม่น้อย 

 “ทูลฝ่าบาทพระสนมยังไม่ตื่นจากบรรทมพ่ะย่ะค่ะ….” 

 “…..”

 “ท่านว่ายังไงนะ” ด้วยเป็นกงกงที่เคยรับใช้พระบิดามาก่อน อวี๋กงซู่จึงเรียกอีกฝ่ายราวกับให้เกียรติส่วนหนึ่ง

 “เอ่อ ซูกุ้ยเฟยยังไม่ได้ตื่นจากบรรทมพ่ะย่ะค่ะ” เผยกงกงกล่าวแล้วลอบปาดเหงื่อ

 เพียงเท่านั้นพระเนตรลึกล้ำก็หรี่ลงพร้อมกันนั้นหากสังเกตจะเห็นว่าหางคิ้วของนายเหนือหัวนั้นกระตุกไม่น้อย

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ใครจะอยากเป็นนางร้ายที่ต้องตายกัน   ตอนพิเศษ 2 : ผู้ใดก็ห้ามเข้าใกล้ 1/2

    ตอนพิเศษที่[2]ฮ่องเต้แห่งแคว้นจ้าว จะเห็นได้ว่าสีหน้าของคนทั้งสี่ปราศจากแววตาล้อเล่นสนุกสนานดังที่เคยไป หนำซ้ำยังแดงก่ำราวกับคนจะปล่อยโฮออกมาอยู่รอมร่อ อวี่กงซู่อยากจะห้ามแต่เขาเห็นความหวังและความมุ่งมั่นในตาของลูก ๆ จึงได้แต่ปล่อยเด็ก ๆ ไปด้วยกัน “พวกเจ้าต้องดูแลตนเองให้ดี ห้ามเป็นอันใดไปเด็ดขาด” มิได้บอกเพียงลูก ๆ แต่อวี๋กงซู่ยังบอกจู่จิ่งหลงด้วย “พ่ะย่ะค่ะ/เพคะ”“เนื่องจากว่าวันนี้มืดค่ำแล้ว พวกเราต้องรอพรุ่งนี้เช้าถึงจะออกเดินทางได้” ก่อนออกเดินทางจู่จิ่งหลงรีบหันไปสั่งการบางอย่างกับคนของตน ก่อนจะเผยแววตาอันเยือกเย็นเต็มไปด้วยรังสีสังหารแผ่ออกมา ใครกล้าคิดร้ายกับเสด็จป้าของเขามันต้องไม่ตายดี!! จากนั้นห้าคนพี่น้องรวมถึงผู้ติดตามจึงได้พากันเดินทางไปยังป่าทางตอนใต้ของแคว้นที่มีความชื้นมากเป็นพิเศษ ค้นหาอยู่ทั้งวันก็ไม่พบสิ่งที่ใกล้เคียงกับสมุนไพรที่ว่านั้นเลย ระหว่างที่หลายคนเริ่มใจเสีย หางตาของจูจิ่งหลงก็หันไปพบกับบางอย่าง ทว่าระหว่างที่เขากำลังคิดจะไปเก็บมัน กลุ่มคนร้ายกลุ่มใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้น “ฝ่าบาทในที่สุดก็มาถึงวันนี้ วันที่ข้าไม่ต้องก้มหัวให้กับเด็กน้อยปากไม่สิ้นน

  • ใครจะอยากเป็นนางร้ายที่ต้องตายกัน   ตอนพิเศษ 2 : ผู้ใดก็ห้ามเข้าใกล้ 1/1

    ตอนพิเศษที่[2]ฮ่องเต้แห่งแคว้นจ้าว นับตั้งแต่ที่วันนั้นเดินทางจากที่ที่เคยเติบโตมากว่าสิบปีเพื่อมาอยู่ที่แคว้นที่ตนกำเนิดมา เด็กน้อยที่เคยผอมแห้งแรงน้อยและหวาดกลัวผู้คนบัดนี้ได้เติบใหญ่สูงสง่า ท่าทางองอาจ รูปลักษณ์หล่อเหลาไม่แพ้ผู้เป็นพระปิตุลาที่อยู่แคว้นหลิวหยวนเลยแม้แต่น้อย จูจิ่งหลงฮ่องเต้ จักรพรรดิที่ปกครองแผ่นดินด้วยอายุน้อยที่สุดของแคว้นจ้าว ครองราชย์ตั้งแต่พระชนม์มายุสิบหกชันษา จากวันนั้นผ่านมาเจ็ดปี บัดนี้ก็ยี่สิบสองชันษาแล้ว แม้เหล่าขุนนางและคนภายนอกจะมองว่าเขามากความสามารถและน่าเกรงขามเพียงใด แต่ยามนี้พระพักตร์หล่อเหลากลับเต็มไปด้วยการรอคอย ราวกับเด็กน้อยที่รอเพื่อจะได้กินของอร่อยที่สหายคนแรกเคยแอบนำมาให้ เมื่อครั้งยังอยู่ที่ตำหนักซิงเยียน ใช่แล้ว เขากำลังรอคอยสหายหรือยามนี้ที่เขาเรียกว่าเสด็จป้า เดินทางมาเยี่ยมเยียนเขาที่แคว้นจ้าวเฉกเช่นทุกปี ยามนี้คงใกล้ถึงแล้วกระมัง “พี่จิ่งหลงพวกเรามาแล้ว” และคนที่เขารอคอยก็มาถึง เริ่มต้นด้วยเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของเหล่าลูกลิงทั้งสี่ แม้จะเติบใหญ่กันแล้ว แต่พวกเขาก็ยังทำตัวเป็นเด็กน้อยที่สดใส โดยเฉพาะอวี๋กงจวิ้นที่แม้จะอายุเ

  • ใครจะอยากเป็นนางร้ายที่ต้องตายกัน   ตอนพิเศษ 1 : ผู้ใดก็ห้ามเข้าใกล้ 1/2

    ตอนพิเศษที่[1]ผู้ใดก็ห้ามเข้าใกล้“ข้าขอแสดงความยินดีกับพวกท่านทั้งสองด้วยนะ ขอให้พวกท่านครองรักกันตลอดไปไร้ซึ่งอุปสรรค”“ขอบพระทัยเพคะฮองเฮา ไว้หม่อมฉันส่งเมล็ดพันธุ์พืชที่น่าสนใจจากด้านนอกมาให้ฮองเฮาปลูกอีกนะเพคะ” ช่วงนี้นางกำลังชื่นชอบการปลูกพืชชนิดต่าง ๆ ช่ยเฟิ่งจิ่วก็ชอบส่งเมล็ดพันธุ์พืชที่แปลกใหม่และน่าสนใจมาให้นางเรื่อย ๆ“ดีจริง ขอบใจเจ้าล่วงหน้าด้วยนะ” ซูฮองเฮาฉีกยิ้มด้วยความดีใจพลางจับมือของช่ายเฟิ่งจิ่วเอาไว้ คราแรกช่ายเฟิ่งจิ่วไม่คิดอะไร แต่ทว่าเมื่อเห็นพระเนตรของฮ่องเต้แล้ว จึงทำท่าขยับกายเข้าใกล้ฮองเฮาแล้วกระซิบบางอย่าง หากมองจากมุมที่ฮ่องเต้ทอดพระเนตรมา คงคล้ายกับว่านางกำลังหอมแก้มฮองเฮากระมัง “องค์รัชทายาทดูแลคู่หมายของท่านให้ดี อย่าได้มายุ่งกับคนของผู้อื่น!” อวี๋กงซู่รีบเดินเข้ามาแยกทั้งคู่ออกจากกัน แต่ราวกับไม่ทันใจเขาจึงได้ช้อนกายของฮองเฮาลอยหวิวขึ้น “ว้าย” “กลับตำหนักเรากันเถิด” แม้ว่าซูซีหลินจะทุบไปที่ต้นแขนเขาอย่างไร เขาก็ไม่ปล่อยนางลงด้านข่ายเชี่ยนหยุนและช่ายเฟิ่งจิ่วที่มองภาพนั้นจากด้านหลังทั้งคู่ พวกเขาหันมามองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมา “พระองค์สัญญากับ

  • ใครจะอยากเป็นนางร้ายที่ต้องตายกัน   ตอนพิเศษ 1 : ผู้ใดก็ห้ามเข้าใกล้ 1/1

    ตอนพิเศษที่[1]ผู้ใดก็ห้ามเข้าใกล้ นับตั้งแต่ที่มีการแต่งตั้งฮองเฮาก็เป็นอันรู้กันจนทั่วเมืองหลวงว่าฮ่องเต้นั้นมีความรักลึกซึ้งต่อซูฮองเฮามากเพียงใด ไม่ว่าจะเสด็จไปประพาสที่ใดก็มักจะพาซูฮองเฮาไปด้วยเสมอ ทั้งสองพระองค์มักจะพากันไปกินของอร่อยที่เป็นร้านรวงของชาวบ้านตามสถานที่ต่าง ๆ โดยฝ่าบาทมักจะเป็นฝ่ายคีบอาหารให้ฮองเฮาด้วยพระพักตร์เปื้อนรอยยิ้มเสมอ ภายนอกผู้คนมักมองว่าสองผู้สูงศักดิ์ช่างรักใคร่กลมเกลียวต่อกันยิ่งนัก และยามนี้อวี๋กงซู่ก็เป็นที่ชื่นชมของประชาชนหลายคนในความมั่นคงที่มีรักเดียว เหล่าสตรีได้แต่คิดว่าหากมีสามีก็ต้องการหาบุรุษที่เป็นเฉกเช่นฮ่องเต้ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ก็ไม่นับว่าเกินจริงแต่อย่างใด ทว่ามันกลับมีหลายอย่างที่มากกว่านั้น “จินจู เจ้าลองกินขนมนี้ดู ข้าว่าอร่อยมาก” ระหว่างที่ซูฮองเฮากำลังยื่นขนมไปป้อนให้นางกำนัลคนสนิทกลับพบว่าผู้ที่รับขนมนั้นไปมิใช่จินจูแต่เป็นพระสวามี “ฝ่าบาท!” “ทำไมเห็นเราจะต้องตกใจด้วย” “ก็ฝ่าบาทมาไม่ให้สุ้มให้เสียงจะมิให้ตกใจได้อย่างไรเพคะ” “เป็นเจ้าที่ไม่สนใจการมาของเรามากกว่า มัวแต่ไปป้อนขนมให้ผู้อื่น” จินจูที่ได้ยินเช่นนั้นก็ร

  • ใครจะอยากเป็นนางร้ายที่ต้องตายกัน   ตอนที่ 34 : นางร้ายที่ได้เริ่มต้นใหม่ (ตอนจบ)

    ตอนที่[24]นางร้ายที่ได้เริ่มต้นใหม่ (ตอนจบ) วันเวลาผันผ่านไปอีกหลายปีทว่าคนในวังหลวงของแคว้นหลิวหยวนกลับยังเต็มไปด้วยความอบอุ่นใจ รักใคร่ปรองดองกัน โดยเฉพาะอวี๋กงซู่ฮ่องเต้ที่หลังจากว่างเว้นจากงานบ้านเมืองก็มักจะพาตนเองมาอยู่ที่ตำหนักหงอี้ ที่เป็นตำหนักที่ประทับของซูฮองเฮาและพระราชโอรสทั้งสอง ผ่านไปห้าปีมีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปมากมาย ซูฮองเฮาหลังได้รับการแต่งตั้งก็ถูกย้ายจากตำหนักซิ่วอิงมาอยู่ที่ตำหนักหงอี้ เหตุผลนั่นก็เพราะตำหนักหงอี้อยู่ใกล้กับตำหนักเฉินไท่ของฝ่าบาทมากที่สุด ที่จริงฮ่องเต้ผู้นั้นอยากจะย้ายตนเองมาอยู่ที่ตำหนักหงอี้เสียให้รู้แล้วรู้รอด ติดก็ตรงที่เผยกงกงเอาแต่บอกว่าไม่เหมาะสม ๆ อยู่นั่น “เผยกงกงขัดใจอันใดมาหรือเพคะ” ซูซีหลินเอ่ยถามพระสวามีที่มีพระพักตร์บูดบึ้งราวกับไม่พอใจบางอย่าง ซึ่งไม่ต้องเดาว่าเรื่องอันใด ต้องเป็นฝีมือเผยกงกงเป็นแน่ “ก็เผยกงกงบอกว่าเรามาค้างที่ตำหนักหงอี้มากเกินไป เดี๋ยวพวกขุนนางเฒ่าจะหาว่าข้าลุ่มหลงในฮองเฮาได้ แล้วมันไม่จริงหรืออย่างไร ก็เราลุ่มหลงในตัวเจ้าจริง ๆ” จากใบหน้าบูดบึ้งจู่ ๆ ก็แปรเปลี่ยนเป็นความเจ้าเล่ห์ หนำซ้ำมือปลาหมึกยังเลื้

  • ใครจะอยากเป็นนางร้ายที่ต้องตายกัน   ตอนที่ 33 :ฮองเฮาพวกเราเข้าหอกันเถิด 1/2

    ตอนที่[23]ฮองเฮาพวกเราเข้าหอกันเถิด “เจ้าก็ควรถอดเช่นกันนะ” “…..” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังคงนิ่ง ชายหนุ่มก็คิดว่าตนไม่อาจรั้งรอได้อีก จึงได้ถือวิสาสะเข้าไปช้อนกายภรรยาก่อนจะรีบพาไปที่เตียงทันที “หลินเออร์ คืนนี้เรามาสร้างความแนบแน่นกันเถิด” “…..” “แล้วก็หากเจ้าได้เราแล้ว ก็ห้ามทิ้งเราไปที่ใดเล่า” นี่มันอันใดกัน ใครได้ใครกันแน่ ในเมื่อสายตาของเขาตอนนี้แทบจะกลืนกินนางทั้งตัวแล้ว! “เหตุใดจึงเงียบ รับปากเราสิ” ระหว่างที่รอคำตอบพระเนตรของจักรพรรดิก็เอาแต่จับจ้องริมฝีปากของฮองเฮาอย่างไม่ละสายตา และยามที่นางเอื้อนเอ่ย “หม่อมฉัน อื้อ” “ข้ารอไม่ไหวแล้ว” ริมฝีปากหนารีบเข้าฉกชิงความหอมหวานจากริมฝีปากของอีกฝ่ายทันที ลิ้นของเขาพยายามเกี่ยวกระหวัดและหยอกล้อหญิงสาวอยู่เนิ่นนาน มือที่ว่างอยู่ก็พยายามแตะไปยังจุดอ่อนไหวของภรรยาจนทั่วร่าง “ฝ่าบาท” รู้ตัวอีกทีซูซีหลินก็ไม่เหลืออาภรณ์ปิดกายแม้แต่ชิ้นเดียวแล้ว “เจ้างดงามและหอมหวานถึงเพียงนี้ ก็อย่ามาโทษว่าเราเอาแต่ใจเล่า” ว่าแล้วก็ก้มใบหน้าลงไปฉกฉวยบุปผางามที่พยายามชูช่อดึงดูดสายตาของเขาอย่างอดใจไม่ไหว และไม่เพียงแค่บุปผางามที่ทั้งขาว

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status