บทที่ 57
“ขอคุยด้วยหน่อย” เลย์ยืนมองหน้าอีกคนที่เพิ่งเดินออกมาจากบ้าน เขาตั้งใจลางานเพื่อตามหาว่าศิลาอาศัยอยู่ที่ไหน มั่นใจว่าคงไม่ห่างจากบ้านอัญญามากนัก และมันก็เป็นอย่างที่เขาคิดจริง ๆ ทะเบียนรถของศิลาเขาจำมันได้ดีและได้ยืนรออยู่ตรงนี้มาเกือบสิบนาทีแล้ว ศิลายืนจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่งไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกไป เขาขยับกายเข้าไปใกล้กับผู้มาเยือนด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “มีอะไร” “มาที่นี่เพราะอัญญาใช่ไหม” เลย์ถามเข้าประเด็น เขาสู้หน้าอีกฝ่ายอย่างไม่มีเกร็งกลัว “กลับไปซะเถอะ” “…” “กลับไปอยู่ในที่ของตัวเองน่ะถูกแล้ว อย่ามาวุ่นวายกับอัญอีกเลย” “แล้วทำไมฉันต้องฟังคนอย่างนาย” ศิลาถามย้อนกลับ สบสายตากับคนตรงหน้าแน่นิ่ง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอัตโนมัติหลังจากฟังอีกคนพูดจบ “อัญญาหนีมาแล้วแท้ ๆยังจะตามมารังควานเพื่ออะไรอีกวะ ทำไมไม่ปล่อยเธอสักที!” เขาขึ้นเสียงใส่ศิลา ท่าทีโมโหหงุดหงิดอย่างชัดเจน “กูจะปล่อยเมียกูหรือไม่ปล่อยทำไมมึงต้องเสือก” ศิลาเองก็ไม่ต่างกัน เขาพ่นคำหยาบใส่อตอนพิเศษ#เด็กแสบ“เอามาเดี๋ยวนี้เลย!” เสียงของเด็กผู้หญิงวัยเจ็ดปีกำลังตะคอกใส่เด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งเด็กผู้หญิงผมยาวที่ถูกมัดรวบไว้ทั้งสองข้าง กำลังยืนเท้าเอวหน้าตาบึ้งตึง เพราะถูกเด็กตรงหน้าขโมยเอากระเป๋าดินสอของตัวเองไป พอตามมาเอาคืนก็ไม่ยอมคืนให้เสียอย่างนั้น“เอามาสิ!” เธอพูดอีกรอบคิ้วขมวดหมุ่น“ไม่ให้!” แต่เด็กผู้ชายคนนั้นตอบกลับมาเสียงดังทั้งยังผลักตัวเธอจนล้มลงหงายหลัง“โอ๊ย!”สมายด์ล้มลงก้นกระแทกพื้น ความเจ็บแล่นแปลบขึ้นมา น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสอง ส่งเสียงร้องไห้เสียงดัง แต่คนตรงหน้ากลับหัวเราะเยาะชอบใจ“ทำอะไรน่ะ!!” เด็กผู้ชายวัยห้าขวบวิ่งเข้ามาหาพี่สาวที่นั่งร้องไห้อยู่กับพื้นจับมือที่ถลอกและมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อยขึ้นดู จากที่ปกติมีสีหน้าบึ้งตึงอยู่แล้ว ตอนนี้คิ้วเข้มทั้งสองขมวดเข้าหากันแน่น ลุกขึ้นจ้องหน้าคนที่แกล้งพี่สาวตัวเองเขม็ง“แกล้งพี่มายด์ทำไม!!”“ไปร์ทไม่ต้อง ฮึก” พี่สาวเอ่ยบอกน้องชายตัวเองที่ยืนประจันหน้าเด็กโต แม้ตัวเองจะโกรธที่ถูกรังแกแต่ไม่อยากให้น้องโดนไปด้วย“ทำพี่มายด์ทำไม!” สไปร์ทยืนกอดอกจ้องหน้
บทที่ 67“เจ็บไหม” ศิลาเอ่ยถามภรรยาตัวเองที่นอนสบตากับเขาอยู่บนเตียงอัญญายิ้มให้พลางส่ายหน้า ตั้งแต่ตื่นมาเห็นก็เห็นศิลานั่งอยู่ข้างกายแล้ว เขาคอยถามเธอเสมอว่าเจ็บตรงไหน ต้องการอะไรให้บอกเขาได้เลย ดูเป็นห่วงเธอไปหมดซะทุกอย่างมือหนากอบกุมมือเล็กของเธอเอาไว้ เขาจับมันขึ้นมาแนบที่หน้า เอียงคอซบมันไว้ราวกับว่ามันคือหมอนใบโตที่ทำให้เขาหลับสบายเสียงอย่างนั้น“อีกนานไหมคะกว่าลูกเราจะออกมา” อัญญาถามเสียงเบา เธออยากเจอลูกใจจะขาด“ไม่นานหรอก พอเขาแข็งแรงเดี๋ยวพยาบาลก็พามา อดทนรออีกหน่อย’“แต่ลูกยังไม่ได้กินนม”“ยังไม่ถึงเวลาเลย ใจเย็น ๆนะ ไม่ต้องคิดมาก”อัญญาพยักหน้ารับเธอฉีกยิ้มออกมาให้กับเขา ถึงยังไม่เจอหน้าลูกแต่ก็อุ่นในที่มีศิลาอยู่ข้างกายครืด~“ขออนุญาตนะคะ พาน้องมากินนมคุณแม่ค่ะ”เสียงพยาบาลดังขึ้นทันทีที่ประตูเปิด อัญญาทำตาโตสบตากับศิลาด้วยความดีใจ ศิลาลุกขึ้นยืนมองรถเด็กน้อยที่มีลูกของตัวเองนอนอยู่ในนั้นเขาขยับกายดีดดิ้น ลืมตามองไปมา ดูแข็งแรงไม่เหมือนเด็กที่ควรอยู่ในตู้อบ เพียงแค่ตัวเล็กมากเกินไปแค่นั้น พยาบาลอุ้มตัวเด็ก
บทที่ 66“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้นะคะ” อัญญาเอ่ยบอกศิลาที่กำลังนั่งซักผ้าเช็ดตัวให้เธอในห้องน้ำ“ไม่เป็นไร อัญนอนพักเลย” เขาตอบกลับมาแบบนั้นก่อนจะหันกลับไปทำหน้าที่ต่ออัญญายิ้มให้กับภาพตรงหน้าก่อนจะนอนหลับตาเพื่อพักผ่อนต่อ มือลูบท้องกลม ๆของตัวเองไปด้วยศิลานอนเฝ้าเธอทุกวันตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้ามาหา ทำความสะอาดร่างกาย เช็ดปัสสาวะและอุจจาระให้เองตลอด อาบน้ำแต่งตัวเขาก็ทำให้เธอทุกอย่างและทำอย่าสงสม่ำเสมอไม่บกพร่องเลยเวลาผ่านไปอีกหนึ่งเดือนนิด ๆอัญญายังคงนอนอยู่ที่โรงพยาบาลเช่นเคย ตอนนี้สามารถขยับร่างกายได้บ้างแล้วแต่ยังเคลื่อนที่เร็ว ๆไม่ได้ เพราะอาจทำให้ปากมดลูกเปิดอีกศิลาอยู่เป็นเพื่อนคุยเล่นปลอบใจอยู่ตลอด ไม่เคยหายไปไหนนาน ๆ เขาจะบอกตลอดว่าเป็นห่วงอัญญามากขนาดไหน บอกรักเธอทุกวัน ดูแลดีอย่างคาดไม่ถึงครืด ครืด ครืดอัญญาเหลือบมองตามเสียงโทรศัพท์ หน้าจอโชว์ชื่อของเลขาคนสนิทศิลา“พี่ศิลาคะ โทรศัพท์ค่ะ” เธอร้องบอกศิลาเดินขมวดคิ้วเข้ามาหา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย สีหน้าเคร่งเครียดนิดหน่อย เขาถอนหายใจเสียงดังก่อนจะตัดสายทิ้ง
บทที่ 65“ไม่เป็นอะไรแล้วใจเย็น ๆนะอัญญา” อัคคีเข้าปลอบลํกสะใภ้ที่เอาแต่นั่งร้องไห้ไม่หยุดเธอนั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้มาหลายชั่วโมงแล้ว ไม่ยอมลุกไปไหน อาโปพาตัวศิลาขึ้นฮอล์แล้วขับมาที่โรงพยาบาลเดียวกันกับปฐพี โชคดีที่เขาเคยเรียนขับมันมาก่อนศิลาเสียเลือดไปค่อนข้างเยอะมาก อัคคีเกณฑ์ลูกน้องให้มาช่วยกันบริจาคเลือดให้กับเขา แต่ถึงอย่างนั้นอัญญาก็ยังไม่สบายใจ เธอยังกลัวว่าเขาจะเป็นอะไรมากกว่านี้น้ำตาไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง สะอึกสะอื้นจนแรงแทบหมด ท้องก็ปวดเกร็งจนเจ็บแต่อดทนกัดฟันสู้ เธออยากรอให้แน่ใจว่าศิลาปลอดภัยดี“เป็นอะไรไหม” ปานวาดเอ่ยถามอัญญาเธอนั่งสังเกตมาสักพักหนึ่งแล้ว เห็นว่าอัญญามีอาการเกร็ง ๆ หอบหายใจผิดปกติทั้งยังหน้าซีดเผือดอีกด้วย“ปะ…เปล่าค่ะ อัญไม่ได้เป็นอะไร” เธอยิ้มตอบกลับไปแม้อาการปวดเกร็งท้องจะเพิ่มทวีคูณขึ้นก็ตาม ดวงตากลมโตก้มมองพื้น เธอชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นเท้าตัวเอง มันบวมเป่งจนน่ากลัว เธอเคยเท้าบวมบ่อย ๆเพราะเดินเยอะ แต่ไม่ได้บวมหนักขนาดนี้“ขอตัวไปห้องน้ำนะคะ” เธอลุกยืนขึ้นเพราะรู้สึกเวียนหัวเหมือนจะอาเจียนแต่พ
บทที่ 64ปัง! ปัง! ปัง!เสียงกระสุนดังขึ้นระรัว ทั้งศิลาและลูกน้องต่างพากันวิ่งหลบลูกกระสุนชุลมุน มีคนดักซุ่มยิง“เหี้ยเอ๊ย!” ศิลาพ่นคำหยาบ คว้าหยิบปืนที่พกติดตัวออกมา ชะเง้อมองออกไปหามือปืนเขาส่งสัญญาณให้ลูกน้องอีกสามคนด้านหลังว่ามีมือปืนตำแหน่งไหนบ้าง และบอกว่าตัวเขาและอาโปจะวิ่งเข้าไปด้านใน อีกคนยกมือขึ้นเป็นการตอบตกลงเขานับหนึ่งถึงสามในใจ หันไปพยักหน้ากับลูกน้องและพุ่งตัวออกไปแบบนั้น เสียงปืนดังระรัวอีกรอบ คนฝั่งนู้นล่วงตกลงมาจากซอกตึกที่แอบอยู่ศิลาและอาโปวิ่งเข้ามาด้านใน ชายฉกรรจ์มากมายกรูกันออกมา ศิลายิ่งปืนใส่สลับกับกาาต่อสู้ด้วยมือ อาโปถีบยอดหน้าพวกมันก่อนจะยกปืนยิงเข้าที่หน้าผากอย่างแม่นยำ“ไป!”เขาตะโกนบอกลูกน้องที่วิ่งตามกันมา ฝั่งของเขาพากันวิ่งกระจายไปคนละทาง ศิลาและอาโปตรงขึ้นไปยังชั้นด้านบนสุด โดยมีลูกน้องตามมาด้วยสี่ห้าคนระหว่างทางมีการต่อสู้อยู่บ่อยครั้ง จนศิลาเริ่มหน้าซีดเผือดเพราะเพิ่งจะบริจาคเลือดให้ปฐพีไปค่อนข้างเยอะและไม่ได้พักผ่อน เขายืนหอบหายใจเสียงดัง มือเท้าผนังพยุงกายตัวเองเอาไว้“ไหวไหมพี่” อาโปเห็นท่า
บทที่ 63 ปึง ปึง ปึง เสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นตามระหว่างทางเดิน ร่างสูงของศิลาออกตัววิ่งอย่างสุดกำลัง หอบหายใจถี่กระชั้นหัวใจเต้นระรัวเร็ว เขาขับรถจากอยุธยามายังโรงพยาบาลใจกลางกรุงเทพในเวลาไม่กี่นาที เพียงเพราะได้รับสายโทรศัพท์จากอาโป “ปฐพีโดนรถชน น้องโดนรถชน!” เขาขับรถหน้าตั้งมาด้วยความเร็ว หัวใจสั่นไหวไปหมด กลัวว่าน้องจะเป็นอันตราย ไม่นานก็เห็นอาโป อัคคีและปานวาดยืนรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน “น้องเป็นไงบ้าง!” “อาการสาหัส เสียเลือดเยอะมากหมอขอรับบริจาคเลือด” อาโปรีบบอก เขาจะโกนเรียกพยาบาลอีกคนที่อยู่ไม่ไกล “คนนี้เลือดเอบีครับ” “ทางนี้เลยค่ะ” พยาบาลสาวเดินนำศิลาไป เขารีบเดินตามไปยังอีกห้องที่ได้ถูกจัดเตรียมอุปกรณ์ไว้ก่อนหน้าแล้ว ร่างสูงเอนนอนกายทันที พยายามหายใจเข้าออกลึก ๆ เข็มถูกจิ้มแทงเข้าไปใต้ชั้นผิว อาโปยืนรออยู่ข้างกาย สีหน้ากังวลไม่ต่างกัน ทั้งสองคนนิ่งเงียบรอให้ได้เลือดตามปริมาณที่ต้องการเสียก่อน ทั้งบ้านมีเพียงศิลาและปฐพีที่มีกรุ๊ปเลือดเอบี จึงทำให้ไม่มีใครสามารถให้เลือดกั