#เพ้นท์เฮ้าส์หรู
"นี่เธอ" "คะ คุณคิม ?" หันหลังกลับไปมองตามเสียงด้วยความตกใจ "ฉันอยากได้กาแฟ" พูดเสียงเรียบ "อ๋อ สักครูนะคะ" "ฉันอยากได้ตอนนี้ แต่ฉันจะไม่รอ เอาขึ้นไปส่งฉันที่ห้องทำงานด้วย อย่าให้เกินห้านาที" "ค่ะ" เธอตอบรับเขา ก่อนที่มาเฟียหนุ่มจะหันหลังและเดินกลับขึ้นไปด้านบน เธอถึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างแรง พร้อมกับคิดในใจว่า 'เขานี่เอาแต่ใจเนอะ' ตอนเด็กๆ คงถูกเลี้ยงมาแบบตามใจสิท่า โตขึ้นมาถึงได้เป็นคนอยากได้อะไรแล้วต้องได้เลยแบบนี้ ไม่รู้จักคำว่ารอเลยหรือยังไง หญิงสาววางผ้าในมือลง ก่อนจะเข้าครัวไปชงกาแฟให้กับเขา จากนั้นก็รีบเอาขึ้นไปให้เขาที่ด้านบน ก๊อกๆๆๆ ~ พอเคาะประตูเสร็จเธอก็เดินเข้าไปทันที เพราะต่อให้เขาจะขานรับเธอก็คงไม่ได้ยิน "กาแฟที่สั่งค่ะ" "เอาวางไว้" "....." เธอไม่ได้ตอบ แต่รีบวางแก้วกาแฟเอาไว้ตามคำสั่ง "เดี๋ยวก่อน" "คะ ??" "จะออกไปไหน" "กะ ก็ทำงานต่อไงคะ" "ฉันมีอารมณ์" "ห๊ะ ?" "ถกกระโปรงขึ้น ดึงกางเกงในลง แล้วหันหลังคว่ำหน้าไปกับโต๊ะ" "ตะ แต่นี่มันห้องทำงานนะคะ" "แล้วยังไง ที่นี่มันที่ของฉัน" ก็จริง ที่นี่มันที่ของเขา และที่นี่ก็มีแค่เธอและเขาด้วย คนของเขาจะเข้ามาก็ต่อเมื่อถูกเรียกเท่านั้น "....." ขณะที่กำลังตกใจ สายตาของเธอก็เผลอดันไปสบเข้ากับส่วนกลางกายของมาเฟียหนุ่ม ที่ซึ่งแข็งและดันกางเกงออกมาจนนูนเป็นลำยาว และก็ทำให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่น ตรงส่วนนั้นของเขามันกำลังพร้อมรบแล้วจริงๆ "เมื่อไหร่จะรีบทำ หรือเธอจะรอให้ฉันทำเอง แต่ฉันคงไม่รับประกันว่าเธอจะไม่เจ็บตัว" "ค-ค่ะๆ" ร่างบางรีบตอบรับ ก่อนจะเดินเข้าไปที่โต๊ะทำงานของมาเฟียหนุ่ม จากนั้นก็ถกกระโปรงขึ้นและดึงกางเกงในลงตามคำสั่ง ก่อนที่เจ้าของร่างกำยำจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงาน เธอไม่ได้มองตาม ได้ยินแต่เสียงรูดซิปและปลดเข็มขัด ก่อนที่เขาจะมายืนซ้อนข้างหลังเธอ พร้อมกับโน้มตัวลงทับเธอเล็กน้อย "ยืนให้มันดีๆ ล่ะ ถ้าขาอ่อนแล้วล้มลงไป ฉันจะไม่จบที่รอบเดียวแน่" "อึก ~ " แก่นกายใหญ่ค่อยๆ ถูกดันเข้าไปในกายสาวของเธอ ตั้งแต่วันนั้นที่เป็นครั้งแรก นี่ก็เป็นครั้งที่สองเองที่เธอมีอะไรกับเขา "อึกอ๊ะ !" "ซี๊ด !! บอกว่าอย่าเกร็งไงวะ อ่าส์ ~" เธอก็อยากทำให้ได้อย่างที่เขาบอก แต่ทุกครั้งที่ส่วนนั้นกระแทกเข้ามาในตัว มันก็ทำเอาเถอะจุกจนต้องเกร็งตัวไปหมด มือก็พยายามควานหาที่ยึดด้านหน้า แต่ก็กลายเป็นว่าทำของบนโต๊ะทำงานของเขาหล่นลงพื้นหมด ปึก~ ปึก~ ปึก~ "อึกอ๊ะ..อะอ๊า ~ คะ คุณ..." "ซี๊ดอ่าส์ !" มือหนาถกกระโปรงของหญิงสาวขึ้นไปสูงอีก จนได้เห็นก้นสวยๆ ของเธอ และเห็นช่องรักของเธอที่กำลังกลืนกินแก่นกายของเขาอยู่ เอ็นร้อนกระแทกเข้าช่องทางรักคับแคบอย่างหนักหน่วงก่อนที่เขาจะถอนแก่นกายออกไป "ฮ่า หันหน้ามา แล้วขึ้นไปนั่งชันเข่าบนโต๊ะ" "ตะ แต่ว่า.." "ทุกส่วนของเธอ ฉันเห็นมาหมดแล้ว จะยังอายอะไรอีก" "....." เพราะขัดใจเขาไม่ได้ เธอเลยจำใจต้องขึ้นไปนั่งตามที่เขาบอก พร้อมกับชันขาขึ้นบนโต๊ะทำงาน "เอามือกอดคอฉันเอาไว้ให้ดีล่ะ เวลาฉันกระแทก จะได้ไม่หงายหลัง" สวบ !! "อึก !!" ทั้งจุกทั้งเสียว พอได้มองหน้าเขาแบบนี้แล้วเธอรู้สึกแปลกจนบอกไม่ถูก หัวใจมันเต้นรัวไปหมดเลย สีหน้าของเขาที่กำลังแสดงออกว่ารู้สึกดี มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นหนักขึ้นไปอีก "อึกอืม.." พั่ก ! พั่ก ! พั่ก ! "อะอ๊า ~ ปะ ปราง อื้ม ~" "มองหน้าฉัน !" "อึก.." "แล้วจำเอาไว้ว่า ใครคือเจ้าของของเธอ และรูตรงนี้ของเธอ มีแค่ฉันที่ใส่เข้าไปได้ !" มาเฟียหนุ่มพูดขณะที่เอวของเขานั้นยังคงขยับไม่หยุดพัก "ปะ ปรางจะจำ...ค่ะ" "พูดดังๆ ให้เหมือนเสียงครางหน่อย" บีบบังคับเธอพร้อมกับดันเอวเข้าไปลึกมากขึ้นอีก "อึกอ๊า !! ปรางจะจำค่ะ !" "ซี๊ด ~ ดี ! ฉันอยากแตกใส่ปาก อ่าส์" มาเฟียหนุ่มกระแทกเข้าไปอย่างไม่ยั้ง ก่อนที่เขาจะรีบดึงแก่นกายของตัวเองออกไป จากนั้นก็ดึงหญิงสาวให้ลงมา พร้อมกับดึงถุงยางที่สวมแก่นกายเอาไว้ออก เธอเหมือนรู้โดยสัญชาตญาณว่าควรทำอะไรต่อ ริมฝีปากบางอ้าและรับปลายท่อนเอ็นเข้าไปพร้อมกับใช้มือรูดช่วงลำช่วยจนกระทั่งมีน้ำอุ่นๆ รสชาติคาว พุ่งกระฉูดเข้าไปในปากของเธอ รสชาติมันแย่จนรู้สึกกระอักกระอ่วนอยากอาเจียนออกมาให้ได้ "อึก !!" "อ่าส์ ~ ของดีนะ ห้ามคายเด็ดขาด กลืนมันลงไป !" "อึก ! แหวะ !!" เธอพยายามกลั้นใจกลืนลงไปแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้จริงๆ สุดท้ายเธอก็รีบคายออกมาใส่ฝ่ามือของตัวเอง ก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วออกไปจากห้อง #สักพักต่อมา มะปรางรีบมาที่ห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างหน้าล้างตา โดยเฉพาะในปากเธอไม่ลืมที่จะเอาน้ำกลั้ว แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถลบความทรงจำของรสชาตินั้นได้เลย มันแย่กว่าที่เธอคิดมาก เขาดูเป็นผู้ชายที่เถื่อน ดูชอบอะไรแบบโรคจิต ไม่สมกับหน้าตาของเขา หรือการแต่งตัวของเขาเลยสักนิด แต่ก็เอาเถอะ เพราะนี่ก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรขนาดนั้นอยู่แล้ว ถ้าเทียบกับสิ่งที่เขาทำให้ย่าของเธอ มันดีกว่าไหนๆ ด้วยซ้ำ ถ้าไปกู้นอกระบบหรือพวกมาเฟียเถื่อนหรือพวกเสี่ยแถวบ่อน ก็คงได้โดนรุมตื๊บไม่ต่างอะไรจากพ่อของเธอ แต่จะว่าไป เธอก็ไม่ได้รับสายพ่อเธอเลยนี่นา ไม่รู้ว่าป่านนี้เป็นยังไงบ้าง พอนึกได้อย่างนั้นมะปรางก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดดู ก่อนที่จะเห็นว่ามีเบอร์โทรแปลกๆ โทรมาอยู่หลายสายเลย เธอโทรกลับเพราะในใจคิดว่าเป็นเบอร์ของโรงพยาบาล ตู๊ด ~ ( ฮัลโหล มะปรางรึ ) "ใครคะเนี่ย" ( ยายเอง จะโทรมาบอก พ่อเอ็งมันโวยวายอะไรไม่รู้ พังบ้านไปหมดแล้วนั่น แต่วันนี้มันไม่อยู่ สงสัยไปนอนที่บ่อนอีกแล้ว ) "เฮ้อ ช่างเขาเถอะจ้ะยาย เอาไว้ย่าหายดีแล้วหนูจะกลับค่ะ" ( อ๋อ เห็นว่าพาย่าไปโรงพยาบาลนี่ ) "จ้ะ ปรางไม่ได้บอกพ่อ กลัวเขาจะตามมาอาละวาดที่โรงพยาบาล ปรางไม่อยากมีปัญหาจ้ะ" ( เออๆ ดีแล้ว ป้าจะโทรบอกแค่นี้แหละ ) "ขอบคุณนะจ๊ะป้าที่ส่งข่าว ปล่อยเขาไปเถอะจ้ะ ที่บ้านไม่มีอะไรหรอก" ( เออๆ แค่นี้แหละ ) "จ้ะ"ณ ห้องนั่งเล่นในเพ้นท์เฮ้าส์ในวันว่างๆ ที่แสนเงียบสงบ มะปรางกำลังนั่งอยู่ทีวีอยู่หลังจากที่เพิ่งเสร็จจากงานบ้านทั้งหลาย ส่วนอนาคินทร์ก็นั่งอยู่ข้างๆ เช่นกัน"เธออยากให้ย่ามาอยู่ด้วยกันที่นี่หรือเปล่า" อนาคินทร์เอ่ยถามขึ้นมา"ใจนึงก็อยากค่ะ แต่คิดว่าย่าคงไม่ชอบหรอก คนแก่ไม่ชอบอะไรแบบนี้" ก่อนหน้านั้นก็คิดอยู่เหมือนกัน ว่าอยากจะให้ย่าของเธอมาอยู่ด้วยกันซะที่นี่ จะได้คอยดูแลกันอย่างใกล้ชิดและเจอหน้ากันทุกวัน แต่พอเห็นว่าย่ามีความสุขเวลาอยู่ที่นั่นเธอก็เปลี่ยนใจ"มันก็จริง""ถ้าย่าอยู่ที่บ้านหลังนั้นแล้วชอบ ก็ให้ย่าอยู่ไปเถอะ ปรางแวะเวียนเข้าไปหาได้อยู่""อืม.."มะปรางนั่งเงียบอีกครั้งเพราะสายตาและสมาธิทั้งหมดของเธอกำลังจดจ่ออยู่กับการ์ตูนตรงหน้า ใช่! เขากำลังนั่งดูการ์ตูนเด็กน้อยกับเธออยู่"อยากมีลูกหรือเปล่า?""คะ? อะไรนะคะ" ถามย้ำเพื่อความชัดเจน ว่าที่เธอได้ยินมันไม่ใช่เพราะเธอหูฝาด เพราะเธอมัวแต่สนใจกับทีวีตรงหน้า"เปล่า ไม่มีอะไร""คุณคิม..""ฉันก็แค่ถามเธอว่า เธออยากมีลูกหรือเปล่า""ถ้าหมายถึงตัวของปราง ไม่เลยค่ะ.." เธอมองหน้าเขาพร้อมกับส่ายหัว "สภาพชีวิตของปราง มันไม่ควรจะให้เด็กคน
เวลาต่อมาสายลมเย็นพัดเอื่อยผ่านระเบียงในห้องนอน อนาคินทร์ยืนพิงราวเหล็กเงียบๆ ในมือมีซองบุหรี่กับไฟแช็กคู่ใจ เขาหยิบมันขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เหมือนเป็นความเคยชินที่สั่งให้ร่างกายทำตามโดยไม่ต้องคิดแต่แล้วก็มีบางสิ่งบางอย่างทำให้เขาต้องชะงัก สายลมอ่อนๆ ที่พัดมากระทบใบหน้า มันทำให้ต้นไม้เล็กที่มะปรางปลูกเอาไว้หน้าระเบียงมันพลิ้วตามไปด้วย เขาชะงักพร้อมกับหยิบบุหรี่ที่กำลังคาบอยู่ในปากออกมา ในหัวก็พลันนึกถึงประโยคที่เธอเคยพูดเอาไว้"บุหรี่ไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ ต้นไม้เองก็ไม่ชอบ เดี๋ยวมันตายนะคะ เลิกได้ก็ดีค่ะ" หลายครั้งที่เธอมักจะพูดแบบนี้กับเขาเวลาที่เห็นเขาออกมาสูบบุหรี่อนาคินทร์มองเข้าไปด้านใน มองหญิงสาวที่นอนหลับนิ่งอยู่บนเตียง หลังจากที่เพิ่งเสร็จภารกิจรักแสนเร่าร้อนกันไป เธอก็ผล็อยหลับไปในทันที ส่วนตัวเขาก็ออกมายืนรับลมเย็นๆ ที่ด้านนอกเขาไม่ได้สูบมาสักพักแล้ว แต่ก็ไม่ได้เลิกจริงจัง นานๆ ครั้งจะสูบสักทีนึง ไม่ใช่คนที่สูบจัดอะไรขนาดนั้นร่างสูงมองทอดยาวออกไปยังตึกราสูงลิบที่อยู่เบื้องหน้า เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ เหมือนได้ลิ้มรสชาติความอิสระของชีวิต ความอิสระของความคิดและการวางตัว เหมือนรู้
บ่ายวันหนึ่ง หลังจากที่มะปรางกลับมาจากดูแลย่าแล้ว เธอกลับมาที่เพ้นท์เฮ้าส์พร้อมกับต้นไม้หลากหลายชนิดที่เพิ่งใช้เงินของอนาคินทร์ซื้อมา เพราะบอกกับเขาไว้ว่าจะปลูกต้นไม้ให้เขาไว้ตรงหน้าระเบียงด้านนอก"พี่คะรบกวนเอาไว้ข้างนอกนั้นเลยค่ะ" บอกกับพนักงานที่ช่วยยกของขึ้นมาให้ เพราะลำพังเธอคนเดียวคงขนขึ้นมาไม่หมดหรอก"ได้ครับ""เอาวางไว้เฉยๆ ก็พอค่ะ ไม่ต้องเรียง เดี๋ยวฉันจัดการเองอีกที""ครับ""ขอบคุณมากๆ นะคะ"หลังจากนั้นเธอก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะรีบมาจัดการต้นไม้ที่ตัวเองซื้อมา ไม่นานนักอนาคินทร์ก็กลับมา เขาเดินตรงมาที่ระเบียงเพราะมองเห็นมะปรางกำลังก้มหน้าก้มหน้าวุ่นกับอะไรด้านนอกอยู่ จนเธอไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าเขากลับมาแล้ว"ปราง.." เป็นครั้งแรกที่เขาเรียกชื่อของเธอ"คุณคิม..."เสียงใสของมะปรางดังขึ้นมาเมื่อหันกลับมาเห็นอนาคินทร์ที่ยืนหน้าเข้มมองเธออยู่จากด้านใน"มาช่วยกันสิคะ""ใช้?""ไม่ได้ใช้ค่ะ ให้ช่วยค่ะ ให้ช่วย""....." เขายืนมองเธอนิ่งๆ แต่ก็ยังไม่ได้เข้ามาช่วยอะไร "เธอไปซื้อมาตอนไหน?""ขากลับจากบ้านย่าค่ะ แวะซื้อมา แล้วก็ให้พี่ๆ ข้างล่างช่วยขนขึ้นมา""นี่เธอสนิทกับลูกน้องของฉันด้วยเ
เช้าอันเงียบสงบหลังฝันร้าย หลังจากที่เมื่อคืนลงมาหาของกินกันแล้วกลับขึ้นไปนอนก็ล่วงเวลาไปเกือบตีสามแล้วล่ะ พอเช้าก็พากันตื่นขึ้นมาตามเวลาปกติเฉกเช่นทุกวัน"วันนี้เธอไม่ไปหาย่าหรือไง" เพราะเห็นว่ามันเริ่มสายแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นเธอแต่งตัวเตรียมออกไปเลย แต่แรกก็ไม่ได้บอกไว้ก่อนว่าจะไม่ไป"ว่าจะไปค่ะ แล้วจะแวะไปซื้อต้นไม้ด้วย""ซื้อมาทำไม""ตกแต่งเพ้นท์เฮ้าส์ให้คุณไงคะ ดูสิ มีแต่อะไรก็ไม่รู้ ไม่มีสีเขียวเป็นสีสันเลย""ฉันไม่ชอบ" เขาพูดแบบห้วนๆ ก่อนจะจิบกาแฟแก้วโปรดที่ดื่มอยู่ทุกวันอันที่จริงก็แค่ไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งดูแลต้นไม้ที่อ่อนไหวต่อสภาพอากาศหรืออะไรต่อมิอะไรหรอกเขาก็แค่ไม่ชอบการต้องมานั่งดูแลอะไรๆ แบบนี้ เพราะมันไม่ใช่ตัวของเขาเลย"ปรางไปศึกษามาแล้วนะคะ คนที่มีอาการเครียดบ่อยๆ นอนละเมอ ฝันร้ายเนี่ย ต้องมีกิจกรรมยามว่างแบบนี้ แล้วการปลูกต้นไม้ก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด""ยังไง?""ไม่มีเหตุผลค่ะ ปรางคิดเอาเองว่ามันต้องดีที่สุด""ฉันไม่ชอบต้นไม้""ไม่ชอบก็ทำได้ค่ะ อย่าเอาแต่ใจให้มันมาก บอกไว้ว่าไง? อะไรที่อยู่ในกรอบอ่ะไม่ต้องเดินตามมันมากก็ได้ค่ะ นอกกรอบบ้างก็ได้""ได้ทีแล้วเอาใหญ
กลางดึกคืนนั้น...เสียงลมหายใจหนักพ่นพรืดยาวๆ เหมือนคนที่กำลังหายใจไม่ออกหรือหายใจหอบเหนื่อยตัวของเขาสั่นกระตุกเหมือนคนกำลังร้องไห้ พร้อมกับเสียงครางในลำคอและพึมพำออกมาไม่เป็นคำศัพท์ภาษา ทำให้มะปรางรู้สึกตัวจากความง่วงกลางดึก แต่เธอก็คิดว่าเขาแค่นอนละเมอจนกระทั่ง เสียงสั่นพึมพำของเขามันเริ่มชัดเจนขึ้น"ยะ อย่าครับ อย่าทิ้งผมไป อยู่กับผมนะครับ"เสียงพึมพำนั้นไม่ได้ดังมาก แต่ก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ซึ่งมันทำให้เธอที่นอนอยู่ข้างๆ เริ่มคิดแล้วว่าเขาไม่ได้แค่ละเมอมะปรางผุดลุกขึ้นนั่งก่อนจะหันไปมองร่างที่นอนตัวสั่นอยู่ข้างกัน อนาคินทร์กำลังตัวสั่นแรงมือกำผ้าปูเตียงแน่นมีเหงื่อท่วมใบหน้า ตาที่ยังหลับพริ้มอยู่นั้นมีน้ำตาไหลพรากออกมาเป็นสาย "คุณคิมคะ คุณคิม เป็นอะไรหรือเปล่า?" เธอเอื้อมมือไปจับไหล่ของเขาแล้วเขย่าเขาเบาๆ "คุณคิมคะตื่นก่อนค่ะ คุณเป็นอะไร?"อนาคินทร์สะดุ้งเฮือกหายใจแรงเหมือนเพิ่งวิ่งหนีจากฝันร้าย ดวงตากระวนกระวายกวาดมองไปรอบๆ ห้องเหมือนยังไม่แน่ใจว่าตัวเองอยู่ที่ไหน"เป็นอะไรคะ ฝันร้ายเหรอ?" มะปรางถามขึ้นอีกครั้ง มองอีกฝ่ายที่ยังคงอยู่ในท่าทางและสีหน้าที่ตื่นตระหนก"เธอ...?""ปร
ตอนเย็นในวันเดียวกันมะปรางเปิดประตูเข้ามาก่อนจะเริ่มลงมือทำอาหารในช่วงบ่ายเหมือนอย่างเคย ก่อนจะขึ้นไปบนห้องทำงานของเขา เพราะเห็นว่ารองเท้าของเขาจอดอยู่ที่หน้าห้องแล้ว ซึ่งมันก็แปลว่าเขากลับมาก่อนหน้าที่เธอจะมาถึงแล้วมือเล็กค่อยๆ เปิดแง้มประตูเข้าไปก่อนที่ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่เปิดเอาไว้ 23 องศาจะสาดเข้ามาใส่หน้าของเธอจนรู้สึกเย็นเฉียบ บรรยากาศในห้องเงียบสนิท อนาคินทร์ทิ้งตัวนอนอิงไปกับพนักพิงของเก้าอี้ เหมือนกำลังพักสายตายังไงยังงั้นมะปรางค่อยๆ เอามือไปจับแขนของเขาอย่างแผ่วเบา หวังจะปลุกให้เขาตื่น เพื่อที่จะได้มาทานอาหารตอนเย็นที่เธอเพิ่งทำเสร็จ"อือ..." เขาลืมตาขึ้นและมองเธอนิ่งๆ อนาคินทร์ไม่พูดอะไรเลย ดูเหมือนไม่ตกใจด้วยซ้ำที่เธอเข้ามาที่นี่"ปรางทำอาหารเสร็จแล้วค่ะ ลงไปกินข้าวกัน""อือ.." เขาพยักหน้ารับอย่างส่งๆ ก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นมานั่งปรับอิริยาบถ"ไม่สบายหรือเปล่าคะ""ฉันสบายดี""ดูคุณอิดโรยนะ""เหนื่อยงานน่ะ" เขาตอบเพียงสั้นๆ"พักสักหน่อยไหมคะ เรื่องงานน่ะ ปรางเห็นคุณทำตลอดเวลาเลย" บางคืนเธอตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นเขานอนอยู่ข้างๆ พอเดินออกมาข้างนอกก็เห็นแต่ไฟในห้องทำงานขอ