五
“ทำไงได้...ก็เฮียดันมาทำให้หนูตกใจเองนี่...” เธอกล่าวเสียงเบา พร้อมกับหลบสายตาของทั้งคู่ที่จ้องมองมาอย่างลึกซึ้ง หยวนหลงยื่นมือมาแตะหน้าผากของเธอเบา ๆ “หน้าแดงขนาดนี้ เป็นไข้รึเปล่า?” คำพูดของเขาแฝงความห่วงใย แต่สายตานั้นทำให้เธอรู้สึกราวกับถูกมองทะลุถึงหัวใจ หัวใจของถังหูลู่เต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา... เธอหลบสายตาและรีบเบี่ยงตัวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว “ไปกินข้าวกันเถอะ...” เสียงของเธอแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย หยวนยิงและหยวนหลงมองแผ่นหลังเล็กที่ลับสายตาไป ก่อนที่ทั้งสองจะหันมายิ้มให้กันอย่างเข้าใจความหมายในใจของกันและกัน... ในห้องครัว โต๊ะอาหารยาวเหยียดถูกจัดเตรียมไว้อย่างประณีต บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารจีนหลากหลายเมนูที่ล้วนแล้วแต่เป็นของโปรดของถังหูลู่ ถ้วยและจานกระเบื้องลายครามบรรจงจัดวางอยู่คู่กับตะเกียบไม้ไผ่ที่มันวาว เธอเห็นทั้ง ‘เป็ดปักกิ่งหนังกรอบ’ ที่กลิ่นหอมของเครื่องเทศโชยขึ้นมาทำให้น้ำลายสอ ‘หมูสามชั้นตุ๋นซีอิ๊ว’ ที่ดูนุ่มจนแทบละลาย เพียงมองก็รู้ว่าตุ๋นด้วยไฟอ่อนมาหลายชั่วโมง และยังมี ‘กุ้งอบวุ้นเส้น’ ที่มีกลิ่นของกระเทียมเจียวและพริกไทยลอยมาแตะจมูกอย่างเย้ายวนใจ นอกจากนี้ยังมี ‘ข้าวผัดหยางโจว’ ที่แต่งหน้าด้วยกุ้งสดและหมูแดงหั่นเป็นชิ้นเล็กพอดีคำ เสริมด้วยผักดองและซุปกระดูกหมูที่ยังคงไอร้อนกรุ่นอยู่ในหม้อเคลือบสีขาว ทุกอย่างดูเหมือนเป็นงานศิลปะที่สร้างขึ้นด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด “ว้าว! น่ากินจังเลยค่ะ!” ถังหูลู่เบิกตากว้างขณะที่เธอหันมามองอาหารตรงหน้า น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสุข เธอสูดกลิ่นหอมจากอาหารที่ลอยขึ้นมาอย่างเต็มปอดจนเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว หยวนชิงหลานที่พึ่งจะถอดผ้ากันเปื้อนหมาด ๆ เดินเข้ามาลูบหัวเธอเบา ๆ “กินเลยสิจ๊ะ อาหารพวกนี้น้าทำเพื่อน้องถังโดยเฉพาะเลยนะ” น้ำเสียงของเธออบอุ่นและเต็มไปด้วยความเอ็นดู ราวกับจะบอกว่าทุกจานนั้นใส่ใจและตั้งใจทำเพื่อถังหูลู่เพียงคนเดียว ยังไม่ทันที่ถังหูลู่จะได้เอ่ยปากขอบคุณ เสียงหยอกล้อก็ดังขึ้นจากฝั่งหนึ่งของโต๊ะ “เพราะม๊าให้ท้ายแบบนี้ไงล่ะ อาหมวยถึงได้กลายเป็นเด็กตะกละ” หยวนหลงพูดขึ้นพลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางกึ่งขี้เล่นกึ่งยียวน สายตาของเขาจงใจจ้องมาที่ถังหูลู่ซึ่งเริ่มหน้าขึ้นสีเล็กน้อย หยวนยิงที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ กันเสริมทัพด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ “ใช่ม๊า…ม๊าก็เห็นใช่ไหมว่าน้องถังทำอะไรในวันแต่งงาน...” เขาหมายถึงเหตุการณ์ที่ถังหูลู่แอบกินหมูตุ๋นอยู่ แต่กลับถูกเปิดโปงโดยช่อดอกไม้จากหยวนชิงหลานที่ตกลงมาใส่จานหมูตุ๋นของเธอ ถังหูลู่รีบหันขวับไปมองพวกเขาด้วยดวงตาที่วาวโรจน์เล็กน้อย “พวกเฮียนี่แหละ! พูดอะไรไม่รู้เรื่องเลย!” เธอเถียงกลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่จริงจังนัก แต่ในใจกลับรู้สึกอับอายจนอยากจะหายตัวไปจากโต๊ะ หยวนชิงหลานเห็นดังนั้นก็หัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นปรามลูกชายทั้งสอง “พวกเฮียก็เกินไป…เลิกแกล้งน้องได้แล้ว ล้อน้องมาสามวันติดแล้วนะ” คำพูดของเธอเหมือนจะดุ แต่แววตาที่มองพวกเขากลับมีแต่ความเอ็นดู “ครับ ๆ …” หยวนหลงตอบรับอย่างไม่จริงจังนัก พลางยักไหล่เหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก “ผมจะพยายามครับ” หยวนยิงพูดเสียงเรียบเหมือนเดิม แต่แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่ซ่อนความเจ้าเล่ห์เอาไว้ “แต่ฟังไว้เลยนะ อย่าให้ม๊าต้องพูดเรื่องนี้อีก ถ้าคราวหน้าเห็นพวกเฮียในสภาพเหงื่อซกแล้วมานั่งทานข้าวแบบนี้อีก ม๊าไม่ยอมแน่” น้ำเสียงของหยวนชิงหลานเข้มขึ้นเล็กน้อย แต่เต็มไปด้วยความหวังดี เธอไม่ได้ตำหนิพวกเขาอย่างรุนแรง เพียงแต่ต้องการสอนให้รู้จักรักษาความสะอาดและมารยาท ถังหูลู่ที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ พลางตักข้าวเข้าปากด้วยท่าทางขำ ๆ แอบคิดในใจ ‘ถึงจะบอกว่าไม่พูดก็เถอะ แต่น้าชิงหลานก็พูดจนได้อยู่ดี…’ เธอได้แต่ยิ้มบาง ๆ และไม่กล้าส่งเสียงอะไรออกมา หยวนหลงและหยวนยิงที่รู้ตัวว่าถูกดุเบา ๆ ก็รีบขานรับพร้อมกัน “ครับ…” “เข้าใจแล้วครับ…” แม้ทั้งคู่จะดูยอมรับ แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ยังคงประดับอยู่บนใบหน้าของพวกเขา “ชิงหลานที่รัก…มานั่งกินข้าวกันเถอะ พวกเด็ก ๆ คงเข้าใจแล้วล่ะ” ถังไห่เฉิงสามีของหยวนชิงหลานพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่นขณะที่วางมือลงบนบ่าของเธออย่างแผ่วเบา สัมผัสนั้นทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย “อืม…” หยวนชิงหลานพยักหน้ารับอย่างแผ่วเบาก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะ ขณะที่ถังไห่เฉิงคอยช่วยเธอจัดการเสิร์ฟอาหารเพิ่มเติม บรรยากาศในครอบครัวเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและการพูดคุยหยอกล้อสัพเพเหระ ถังหูลู่รู้สึกอบอุ่นในหัวใจแม้ว่าเธอจะเขินกับคำแซวของพวกพี่ชายก็ตาม ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นเพียงวันธรรมดา แต่สำหรับเธอแล้ว นี่คือช่วงเวลาที่เธอรู้สึกถึงคำว่าครอบครัวอย่างแท้จริง... ถังหูลู่เดินขึ้นห้องด้วยท่าทีอิดโรยเล็กน้อยหลังจากอิ่มเต็มที่จากมื้ออาหารที่แสนอร่อย พอประตูห้องนอนปิดลง เธอก็เอนตัวลงบนเตียงนุ่ม ตรึงสายตาไปยังเพดานที่มีลวดลายเรียบง่าย มือบางยกขึ้นทาบที่หน้าอกของตัวเองที่ยังเต้นตุบ ๆ อย่างรุนแรงจากบางสิ่งที่เธอพยายามห้ามใจไม่ให้คิด แต่เหมือนยิ่งห้าม ความคิดก็ยิ่งผุดพรายเหมือนน้ำพุในฤดูใบไม้ผลิ “อา…อิ่มแปล้เลย…” เธอพึมพำกับตัวเองก่อนจะยกแขนขึ้นปิดหน้าด้วยความเขินอาย ‘เราจะคิดอะไรบ้า ๆ แบบนั้นไม่ได้…’ แต่ถึงอย่างนั้น ภาพในหัวกลับไม่ได้เป็นไปตามคำที่เธอพยายามห้าม ภาพของหยวนยิงและหยวนหลงในห้องออกกำลังกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นกระชับ และเหงื่อที่ชุ่มโชกไปทั่วร่างจนมันวาวยังคงวนเวียนอยู่ในจิตใจ ทั้งกลิ่น ทั้งลมหายใจ และน้ำเสียงทุ้มต่ำเองก็ไม่ได้จางหายไปไหน มันก่อกวนเธอและทำให้เธออ่อนไหวมากขึ้นทุกวินาที ‘อื๊อ~ หุ่นของพวกอาเฮียนี่…แซ่บจริง ๆ เลย…’ เธอครางเบา ๆ ออกมาขณะที่ครุ่นคิดในใจ รู้สึกได้ถึงความร้อนรุ่มที่ก่อตัวขึ้นในอกและลามไปทั่วร่างกาย ‘แต่เราคิดอะไรแบบนี้ไม่ได้นะ! เรามันแย่…เรามันผู้หญิงลามก…’ เธอพยายามตำหนิตัวเอง แต่กลับรู้สึกเหมือนเสียงภายในใจอีกด้านกำลังกระซิบปลอบเธอว่า ‘แต่ใครจะห้ามความคิดตัวเองได้ล่ะ...ว่างั้นไหม?’ ใบหน้าของถังหูลู่ร้อนผ่าว หัวใจเต้นถี่เหมือนกลองศึกที่ถูกเร่งจังหวะ เธอยิ่งนึกถึงหุ่นสมส่วนและกล้ามเนื้อที่ดูเหมือนแกะสลักของหยวนยิงและหยวนหลง ยิ่งทำให้ความร้อนในร่างกายเพิ่มพูนจนเหมือนจะระเบิดออกมา เธอพลิกตัวไปมาบนเตียงอย่างอึดอัด ความรู้สึกนี้มันเกินจะควบคุม ‘ไม่ไหว…ไม่ไหวแล้ว…เราต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อทำให้ตัวเองสงบลง…’ เธอกัดริมฝีปากแน่น สายตาเริ่มเหลือบมองไปที่กระจกบานใหญ่ที่สะท้อนภาพตัวเองในชุดนอนบางเบาเนื้อผ้าลื่นไหล เธอสูดลมหายใจเข้าลึกเหมือนจะตัดสินใจบางอย่าง แล้วค่อย ๆ ดึงสายชุดนอนลงจากไหล่เล็ก ๆ ของเธอ เนื้อผ้าสีอ่อนค่อย ๆ เลื่อนลงจากเนินไหล่ที่ขาวราวกับหยก ผ่านกระดูกไหปลาร้าสวยงามที่เหมือนถูกวาดด้วยพู่กัน จนเผยให้เห็นผิวเนียนละเอียดราวกับผ้าซาติน หยดเหงื่อบาง ๆ เกาะพราวที่หน้าอกขนาดพอเหมาะที่สะท้อนแสงไฟอ่อน ๆ ในห้อง เธอค่อย ๆ เลื่อนชุดนอนลงไปอีกจนมันหลุดไปกองอยู่ที่ปลายเท้า เปิดเผยทุกสัดส่วนบนร่างกายนี้อย่างไม่หมกเม็ด ร่างกายของถังหูลู่เหมือนประติมากรรมที่ถูกสลักอย่างวิจิตร ทุกส่วนโค้งเว้าดูสมบูรณ์แบบ ผิวของเธอเรียบเนียนและเปล่งประกาย เธอยกมือขึ้นสัมผัสแก้มของตัวเองที่ยังคงแดงเรื่อ แล้วเลื่อนมือลงมาที่หน้าอกอย่างลังเล หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้นอีกครั้ง ‘โทษทีนะอาเฮีย…’ เธอคิดในใจอย่างละอาย แต่ก็ไม่อาจห้ามตัวเองได้ ‘หุ่นกับเบ้าหน้าหล่อ ๆ ของพวกเฮียทำให้หนูอดใจไม่ไหวจริง ๆ …’ เธอหลับตาแน่นปล่อยให้จินตนาการพาเธอไปไกล ภาพของหยวนยิงและหยวนหลงที่ยิ้มมุมปากและมองเธอด้วยสายตาคมกริบปรากฏขึ้นในหัว เธอรู้สึกได้ถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้นภายในร่างกาย ในขณะที่มือข้างหนึ่งเกาะกุมเนินเนื้อเอาไว้พร้อมปัดเขี่ยยอดปทุมถันสีชมพูหวานนั้นอย่างละเล่น มืออีกข้างยกนิ้วนางกับนิ้วกลางขึ้นมาเลื้อยไล้ลงไปเรื่อย ๆ ตามหน้าท้องแบนราบก่อนที่จะจรดลงตรงร่องรักสีชมพูหวานซึ่งหยาดเยิ้มไปด้วยน้ำสีใสเหนียวหนืด ริมฝีปากเผยอเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงความอ่อนไหวที่ก่อตัวขึ้นทุกครั้งที่มือของเธอเลื่อนต่ำลง ความคิดของเธอยิ่งเร่งเร้าตัวเองด้วยภาพของหยวนยิงและหยวนหลงที่กำลังโน้มตัวลงมาหาเธอ ใบหน้าหล่อเหลาของทั้งคู่ปรากฏเด่นชัดจนเหมือนจริง To be continued...六‘หนูขอจินตนาการภาพของเฮียสองคนในเชิงสวาทเลยนะ…ถึงเฮียจะไม่อนุญาต แต่มันก็ไม่ทันแล้ว…’ เธอคิดอย่างรู้สึกผิด แต่ก็ปนเปด้วยความสุขที่ยากจะอธิบายเสียงลมหายใจของเธอเริ่มถี่ขึ้น ท่ามกลางห้องที่เงียบสงบ เสียงกระซิบของจินตนาการและความปรารถนาของเธอดังขึ้นอย่างชัดเจนในใจ ทุกสัมผัสที่เธอมอบให้ตัวเองเต็มไปด้วยความเร้าอารมณ์ ราวกับไฟที่โหมกระหน่ำไม่ยอมมอดดับในตอนนั้นเอง ถังหูลู่รู้เพียงอย่างเดียวว่า เธอไม่อาจหนีจากความรู้สึกนี้ได้อีกต่อไป…หยวนหลงที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ร่างกายยังคงชุ่มไปด้วยละอองน้ำที่เกาะพราวตามแผงอกและกล้ามเนื้อแน่นกระชับผ้าขนหนูผืนเดียวที่พันรอบสะโพกของเขาเผยให้เห็นร่องรอยของความเป็นชายที่น่าหลงใหล ความคิดเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นในหัวทันทีเมื่อเขานึกถึงถังหูลู่ น้องสาวบุญธรรมที่เขาชอบกลั่นแกล้งมาตั้งแต่ไหนแต่ไร‘สงสัยจะต้องแกล้งให้เธอหน้าแดงเล่นอีกแล้ว...’ หยวนหลงยิ้มมุมปาก เดินตรงไปยังห้องของถังหูลู่ด้วยท่าทีสบาย ๆ เขาหมุนลูกบิดประตูเข้าไปโดยไม่ได้เคาะตามนิสัย และสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าก็ทำให้เขาชะงักไปชั่วขณะร่างเปล
七หยวนหลงไม่ได้ตอบในทันที เขาเดินเข้ามาใกล้ช้า ๆ สายตาคมกริบของเขาจับจ้องเธออย่างไม่ละสายตา และทันทีที่ถังหูลู่เหลือบมองไปยังผ้าขนหนูตรงช่วงล่างของเขา เธอก็ต้องเบือนหน้าหนีด้วยความตกใจ เพราะสิ่งที่เธอเห็นใต้ผ้าขนหนูนั้น โป่งนูนจนยากจะปฏิเสธว่าเขาได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เพิ่งเห็น‘หรือว่าเฮียเขาจะมีอารมณ์กับเรา?’ ถังหูลู่อดคิดไม่ได้“เฮียสิที่ต้องถามว่าหนูกำลังทำอะไรอยู่...” น้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความดุร้าย ปลายประโยคเปรียบเสมือนคำสั่งที่กดดัน‘อา...อย่าบอกนะว่าเธอกำลังครางเรียกเราอยู่...ร้ายไม่เบาเลยนะอาหมวย...’ เขาเองก็ยากที่จะปฏิเสธความคิดที่แสนโสมมของตัวเอง ซึ่งอาจจะเป็นความจริงที่ยากจะยอมรับได้ในขณะนี้หยวนหลงหยุดยืนตรงข้างเตียง จ้องมองเธอที่กำลังนั่งขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ดวงตาคู่นั้นของเขาราวกับสัตว์ร้ายที่เพิ่งพบเหยื่ออันโอชะ“เฮีย...คือ...เอ่อว่า...หนู...” เสียงของถังหูลู่ขาดห้วง เธอไม่รู้จะหาคำอธิบายอะไรให้ตัวเองดี ความจริงมันชัดเจนเกินไป ภาพที่หยวนหลงเห็นนั้นได้บอกทุกสิ่งที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้‘ทำไงดี...ทำไงดี...ทำ
八 “เป็นไงบ้าง...ชอบรึเปล่า?” เสียงกระซิบของหยวนหลงดังใกล้ใบหู ทำให้ขนอ่อนบนร่างกายของเธอลุกชัน ความอบอุ่นจากลมหายใจของเขาทำให้ใบหน้าของเธอร้อนวูบจนแทบลุกเป็นไฟ ‘อื๊อ~เฮีย...อย่ามาพูดใกล้ ๆ หูแบบนี้สิ...มันยิ่งทำให้หนูเงี่ยน...' เธอคิดแต่ไม่ได้พูดออกมา “เฮีย...หนูเสียว...อ๊า...เสียวมากเลย...” ส่วนคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของถังหูลู่ก็แทบจะกลืนหายไปกับเสียงครางหวาน ร่างกายของเธอร้อนระอุจนหยาดเหงื่อไหลซึมออกมาตามไรผมและแผ่นหลัง เธอพยายามห้ามตัวเองไม่ให้หลุดปล่อยความรู้สึกออกมามากกว่านี้ แต่ทุกการเคลื่อนไหวของนิ้วของหยวนหลงกลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกผลักให้จมลึกลงไปในห้วงแห่งความเสียวซ่าน “ทำแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว...” เขาถามด้วยน้ำเสียงเจือความสนุก ราวกับพึงพอใจที่ได้เห็นเธออยู่ในสภาพนี้ ถังหูลู่หลบสายตาคมกริบของเขา หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมานอกอก “ก็ตั้งแต่ที่กินข้าวเสร็จ...อึ๊ก...อ๊า...” เธอตอบออกมาพร้อมเสียงสะอื้นอย่างขัดเขิน ใบหน้าของเธอแดงซ่านจนลามไปถึงลำคอ แจ๊ะ! แจ๊ะ! แจ๊ะ! เสียงน้ำที่ดังขึ้นอย่างชัดเจนระหว่างนิ้วของเขาและร่องรักของเธอทำให้เธอยิ่งอับอาย แต่กลับไม่สามารถหยุ
九 หลังประตู เสียงเคาะประตูดังขึ้นสามครั้ง ทำลายความเงียบที่เพิ่งกลับคืนมาในห้อง ถังหูลู่สะดุ้งเฮือก หัวใจเต้นระส่ำเมื่อเสียงนั้นมาพร้อมกับน้ำเสียงที่คุ้นเคย “น้องถัง! เห็นเฮียหลงบ้างไหม?” เสียงของหยวนยิงดังขึ้นจากอีกฟากของประตู หยวนยิงอยู่ในชุดนอนลำลอง ผ้าขนหนูพาดบ่า บ่งบอกว่าเขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ ผมเปียกยังมีหยดน้ำเกาะพราว บ่งบอกถึงความสดชื่นที่ตัดกับสถานการณ์ตึงเครียดที่กำลังเกิดขึ้นภายในห้อง ถังหูลู่รีบปรับสีหน้าพลางตอบกลับไปด้วยเสียงที่พยายามทำให้ราบเรียบ แต่ไม่อาจปิดความร้อนรนในน้ำเสียงได้ทั้งหมด “ไม่เห็นเลยค่ะ...” หยวนยิงเงียบไปชั่วครู่ก่อนถามต่อด้วยน้ำเสียงสงสัย “แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่?” “อาบน้ำอยู่ค่ะ...แป๊บนะเฮีย...” เสียงตอบกลับดังออกมาจากหลังประตูอย่างเร่งรีบ เธอเหลือบมองหยวนหลงที่นั่งสงบอยู่บนเตียง ขณะที่ตัวเธอพยายามรวบรวมสติและทำให้ดูเป็นปกติที่สุด หยวนยิงยืนรออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เสียงปลดล็อกประตูจะดังขึ้น ประตูแง้มออกเพียงเล็กน้อยพอให้เห็นร่างของถังหูลู่ที่อยู่ในชุดผ้าขนหนูพันรอบกาย ผ้าขนหนูผืนน้อยเผยให้เห็นไหล่ขาวเนียน และช่วงขาเรียวเล็กที่ชวนมองโดยไม่ตั้งใจ
十 ‘ทำอะไรของเขาเนี่ย…’ ถังหูลู่คิดในใจ แม้จะอยากปฏิเสธ แต่เธอกลับไม่อาจต่อต้านได้ ความอบอุ่นจากมือของเขาที่ลูบไล้แผ่นหลังของเธอ และสัมผัสราวกับไฟที่กำลังเผาไหม้หัวใจของเธอ ทำให้เธอคล้อยตามไปโดยไม่รู้ตัว หยวนหลงผละออกช้า ๆ น้ำลายใสเชื่อมโยงระหว่างเขาและเธอ ริมฝีปากของเขายังเปื้อนรอยยิ้มเล็ก ๆ “เอาไว้ก่อนนะ...” เขาพูดขณะที่มองดูเธอที่ยังคงตกอยู่ในภวังค์ แก้มแดงเรื่อของเธอทำให้เขายิ่งมองด้วยความพึงพอใจ “ถึงหนูจะตะกละ...” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า ก่อนจะยิ้มกว้าง “แต่เฮียกก็รักหนูนะ...อาหมวยของเฮีย” พูดจบ หยวนหลงก็เดินไปทางหน้าต่าง ก่อนจะทำสิ่งที่ทำให้ถังหูลู่ตกใจจนแทบลืมหายใจ เขากระโดดลงจากหน้าต่างชั้นสองราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่ “เฮีย!” ถังหูลู่รีบวิ่งไปดูที่หน้าต่าง ใจหายวาบ แต่เมื่อมองลงไปก็เห็นเขายืนอย่างปลอดภัย เขายิ้มพร้อมทำรูปหัวใจด้วยแขนทั้งสองข้าง ก่อนจะเดินจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เอางี้เลยเหรอ... ประตูก็มีไหม?” ถังหูลู่พึมพำกับตัวเองด้วยความตกใจ ก่อนจะเผลอยกมือแตะริมฝีปากของตัวเองที่ยังคงรู้สึกถึงสัมผัสจากเขา รสชาติ กลิ่น และสัมผัสอันอบอุ่นยังคงหลงเหลืออยู่ใน
十一เป่าเปาเบิกตากว้าง รีบหันไปมองทางหนีทีไล่ ราวกับจะหนีจากชะตากรรมที่ถูกตัดสินไปแล้ว แต่สุดท้ายมันก็เดินวนกลับมาหาเธอ พร้อมส่งเสียงร้อง “แง๊ว~!” อีกครั้งอย่างสิ้นหวัง ใบหน้าที่น่ารักน่าชังของมันดูน่าสงสารเสียนี่กระไรหลังจากทะเลาะกับแมวอ้วนไปอีกพักใหญ่ ถังหูลู่ก็นั่งลงพร้อมกับความคิดที่ถาโถมเข้ามา ‘จะทำไงดีนะ...เราไม่อยากโดนพวกนั้นด่ากราดที่ไม่ส่งงานให้ทันเวลา แถมเลทไปให้วันหนึ่งแล้วด้วยเพราะเรื่องย้ายบ้าน…’ ขณะที่กำลังเคาะปากกากับโต๊ะด้วยความเครียด จู่ ๆ ความทรงจำหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว ‘ถ้าจำไม่ผิด...ไฟล์เราบันทึกไว้ในคราวด์นี่...ยังดึงข้อมูลออกมาได้อยู่!’ ดวงตาเธอเปล่งประกายทันทีที่เจอทางออก “ดีล่ะ! ไปขอใช้คอมเฮียหยิงดีกว่า หวังว่าจะยังไม่นอนนะ...” เธอพึมพำกับตัวเอง ก่อนหันไปมองเป่าเปาที่กำลังนั่งจ้องมาด้วยสายตาออดอ้อนน่าเอ็นดู “ส่วนแก! เป่าเปา...แม่จะลดอาหารแกเป็นการลงโทษที่ทำคอมแม่พัง ถือเป็นโอกาสดีที่แกจะได้ลดน้ำหนักด้วย” เธอยิ้มเยาะใส่แมวอ้วน “แง๊ววว~!” เป่าเปาร้องเสียงดังราวกับจะประท้วง แต่ถังหูลู่ไม่สนใจ เธอเดินไปที่ประตูพร้อมพูดทิ้งท้าย “อย่ามาง้อเสียให้ยาก!” เป่าเป
十二ถังหูลู่ตะลึงค้าง ดวงตาเบิกกว้าง เธอหันมามองชายหนุ่มตรงหน้าที่กำลังยืนขวางประตู ร่างสูงใหญ่และแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ทำให้เธอขนลุกไปทั้งตัว ความเงียบงันในห้องนั้นอึดอัดจนเธอแทบหายใจไม่ออก“เฮีย… เฮียจะทำอะไรกับหนู...” เธอพูดเสียงสั่น ขณะที่ก้าวถอยหลังช้า ๆ ราวกับกวางที่พยายามหนีจากเงื้อมมือของเสือที่พร้อมจะขย้ำหยวนยิงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ตอบ แต่สายตาของเขาบ่งบอกทุกอย่างชัดเจน ราวกับว่าเขาคือผู้ล่า และเธอคือเหยื่อที่ไม่มีทางหนีรอด...บนหน้าจอคอมพิวเตอร์เวลา 23:59 น. ตัวเลขสีขาวบนพื้นหลังดำระยับสะท้อนแสงวูบไหวถังหูลู่พยายามรวบรวมสติจัดการไฟล์งานสุดท้ายอย่างรีบเร่ง ก่อนจะกดส่งให้เพื่อน ๆ เสร็จสิ้นตรงตามเวลา ร่างบางนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิมที่หยวนยิงเคยนั่งเมื่อครู่ ทว่าความรู้สึกของเธอในตอนนี้แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เธอรู้สึกเหมือนนั่งอยู่กลางเวทีที่มีสายตาของผู้ชมคอยจับจ้องอยู่และผู้ชมคนนั้นก็คือหยวนยิง...ชายหนุ่มยืนอยู่ด้านหลังของเธอ แขนข้างหนึ่งเท้าพนักพิงเก้าอี้ไว้ราวกับกำลังล้อมกรอ
十三 ‘งื้อ~พอมาเห็นกับตาชัด ๆ แล้วมันใหญ่...ใหญ่มาก...ใหญ่มากเลยจริง ๆ ! ทำไมมันถึงได้ใหญ่ขนาดนี้กันล่ะเนี่ย...ใหญ่ซะจนไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นโคยของคน...เฮียเขาคิดยังไงถึงอยากให้เราอมมัน...โคตรจะน่ากลัว...’ ถังหูลู่กัดริมฝีปากล่างแน่น ความรู้สึกหวั่นไหวระคนความอายทำให้เธอไม่กล้าเงยหน้าสบตาหยวนยิงได้เต็ม ๆ เสียงหัวใจที่เต้นถี่เร็วอยู่ในอกนั้นแทบจะดังกลบความคิดของเธอไปหมด ท่อนเนื้อตรงหน้า แม้ว่าจะเย้ายวนใจ แต่มันก็ชวนให้รู้สึกหวาดหวั่นอย่างอดไม่ได้ ทั้งขนาดและความยาวที่พอ ๆ กับแขนเล็ก ๆ ของถังหูลู่ เส้นเอ็นที่ปูดโปนล้อมรอบ รวมถึงความกระตือรือร้นของมันที่ชูชันอย่างเต็มที่ ทำให้มันน่าสะพรึงกลัวสำหรับเธอ “หนูไม่ไหวหรอกค่ะ...มันเกินไปสำหรับหนู...เฮียก็เห็นนี่คะว่าปากหนูมันเล็กแค่ไหน...มันเล็กมากเลยใช่ไหมล่ะคะ?” เสียงของเธอสั่นไหว แต่เธอยังคงพยายามรวบรวมความกล้าไว้ในน้ำเสียง ท่าทางทำปากจู๋ที่เธอแสดงออกมาแม้จะดูน่าขัน แต่ก็แฝงไว้ด้วยความไร้เดียงสาที่ยากจะมองข้าม หยวนยิงจ้องมองเธอด้วยแววตาคมกริบที่เหมือนอ่านทะลุทุกความคิดของเธอได้หมด “ดูท่าแล้วน้องถังของเฮียคงจะชอบแบบที่โดนบังคับมากกว่าน
一百四十八“อึ๊ก...เฮียบีบนมหนูแรงไปแล้วนะคะ!?” เสียงของเธอสั่นพร่า ขณะดิ้นพล่านอยู่ท่ามกลางสัตว์ร้าย มันทั้งอึดอัด จุกเสียด เสียวซ่าน และวาบหวามเกินคำบรรยายในร่องรักก็โดนกระทุ้งแรง...ในรูก้นเองก็โดนกระแทกสวนไม่ขาดสาย ...ถังหูลู่ไม่ได้พักผ่อนจริง ๆ เลย เพราะงั้นเธอจึงอ่อนไหวต่อทุกสัมผัสเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม...แม้เธอจะต้องการหลีกหนี แต่พวกเขาก็คงจะไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ“อยากได้แรงกว่านี้อีกเหรอ?” หยวนยิงแสยะยิ้มชั่วร้าย“แค่นี้ยังไม่พอใจอีกหรือไง?” หยวนหลงหัวเราะเย้ยหยันแต่ถังหูลู่กลับทำให้เขาพวกเลือดร้อนขึ้นอีกครั้งด้วยคำตอบที่ท้าทาย...“เปล่าค่ะ...อยากโดนพวกเฮียบีบคอไปด้วยและกระแทกไปด้วยมากกว่า...” หญิงสาวยังคงยั่วเย้าไม่เลิกราวกับเสียสติไปแล้ว“ปากแซ่บดีจริง ๆ ...” หยวนยิงคำรามในลำคอ ก่อนที่จะกระทุ้งมดลูกเธอสุดแรงด้วยการแทงสุดถอดสุดอย่างรวดเร็ว“อย่างนี้ต้องโดนหนัก ๆ ” หยวนหลงรัดตรึงเธอแน่นขึ้นอีก ขณะที่กระแทกสวนเธอไม่หยุดยั้งพวกเขารุกไล้เธออย่างไม่ปล่อยวาง ร่างกายของถังหูลู่คือเวทีแห่งแรงปรารถนา ที่ซึ่งสองบุรุษผลัดกันร่ายรำด้วยความหิวกระหายท่อนเนื้อของพวกเขาเป็นราวอสรพิษคู่ที่
一百四十七เมื่อเขาเข้าประชิดตัว ความร้อนในร่างก็ระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง มือหนาโอบเธอไว้แน่น ราวกับต้องการหลอมรวมร่างทั้งสองให้กลายเป็นหนึ่งเดียว เสียงหอบหายใจของทั้งสองดังสะท้อนกับผนังห้อง ผสานกับเสียงจูบลึกที่แลกเปลี่ยนราวจะดูดดึงวิญญาณกันและกันร่างของหยวนหลงเคลื่อนไหวอย่างหนักหน่วง ดุดัน แต่แฝงด้วยความอาทร ในขณะที่ถังหูลู่ตอบสนองอย่างหมดหัวใจ—ไม่ใช่เพียงแค่ร่างกายที่คล้องเกี่ยว แต่คืออารมณ์ ความอ่อนแอ และความปรารถนาที่ท่วมท้นไร้ขีดจำกัดเมื่อถึงจุดสูงสุดของการปลดปล่อย—เสียงสุดท้ายที่เปล่งออกมาก็ไม่ใช่เพียงเสียงแห่งความเสียวซ่าน แต่คือเสียงของผู้ที่เสร็จสมและยอมจำนนให้แก่ความสัมพันธ์อันเร่าร้อน ที่ไม่รู้จะเรียกว่าความรัก ความใคร่ หรือความคลั่งไคล้ดี...หลังจากนั้นการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันก็เริ่มต้นขึ้นอีกรอบ...กระจกบานใหญ่หน้าห้องน้ำสะท้อนภาพของหญิงสาวร่างบางผู้หนึ่ง—ถังหูลู่ยืนค้ำอ่างล้างหน้า ร่างเปลือยเปล่าเปียกเหงื่อเกร็งสั่น ดวงตาภายใต้แว่นกลมที่ไหลลงสู่ขอบจมูกแดงเรื่อจากแรงอารมณ์ เธอมองเห็นเงาในกระจกของตนเอง—สะท้อนใบหน้าที่แดงระเรื่อ ผสมความเหนื่อยล้าและความกระหายชนิดหยุดไม่อยู่ด้
一百四十六ในตอนนั้นเอง...“เฮีย...เฮีย! เฮีย!!” เสียงหวานรีบเปล่งออกจากเรียวปากที่สั่นระริกของถังหูลู่ หญิงสาวในแว่นตากลมที่เคยไร้เดียงสา บัดนี้กลับลนลานราวกับไฟในกายกำลังลุกโชนจนควบคุมไม่อยู่ “หนูจะเสร็จแล้ว...จะเสร็จ...ใกล้แล้ว!” ถ้อยคำที่พร่ำพรูออกมาอย่างสับสนสื่อถึงคลื่นความรู้สึกที่กำลังพัดกระหน่ำภายในจิตใจของเธอถังหูลู่พยายามยึดมั่นกับเศษเสี้ยวของสติที่หลงเหลือ ขณะที่ร่างกายสั่นสะท้านสาหัสทุกครั้งที่ถูกกระแทกอย่างหนักหน่วงจากทั้งสองชาย ความรู้สึกตึงเครียด สับสน เสียวซ่าน และต้องการจะปลดปล่อย...หลอมรวมกันเป็นคลื่นความสุขที่ยากจะอธิบาย“อา...ยังตอดแน่นได้อีกนะ...ทั้ง ๆ ที่ก็พึ่งโบ๋ไป!” หยวนยิงเอ่ยขึ้นด้วยเสียงพร่าเหือดแห้งไปด้วยแรงอารมณ์ ดวงตาคู่นั้นทอประกายคล้ายคนที่เพิ่งได้ลิ้มรสของต้องห้าม เขาโถมแรงสวนเธอหนักหน่วงที่สุดเท่าที่ทำได้ ร่างหนาของเขาตึงเกร็งและสั่นสะท้านไม่ต่างจากร่างบางของถังเธอ ขณะที่มือหนาข้างหนึ่งคว้ารั้งเอวบางไว้แน่นหนาสุดขีด อีกข้างยังคงกำขยำเนื้อนมขาวเนียนไม่หยุดหย่อน กระทั่งทำให้มันปรากฏรอยแดงรูปฝ่ามือจำนวนมาก...ครั้งนี้ พวกเขาร่วมรักกันอย่างดุเดือดและเร่าร
一百四十五หยวนหลงขบกรามแน่น คิ้วของเขาขมวดน้อย ๆ ด้วยความซ่านเสียวจากแรงตอดรัดภายในร่องรักของเธอ เขาครางต่ำในลำคอ แล้วพึมพำออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ปนตื่นเต้น“คราวก่อนเป็นเฮียหยิงที่ได้พิสูจน์รูก้นยั่ว ๆ นี่ของอาหมวย ...คราวนี้ถึงตาเฮียบ้าง...อยากรู้จริง ๆ ว่ามันจะเด็ดจริงหรือมีดีแค่ยั่ว!”น้ำเสียงของเขาเปี่ยมไปด้วยแรงปรารถนาและความท้าทาย ราวกับเขาไม่ได้แค่ต้องการเพียงเรือนร่างของเธอ แต่ต้องการพิสูจน์ว่าหัวใจของเธอจะเต้นเพื่อเขาได้มากแค่ไหนรูก้นของถังหูลู่รัดแน่นกว่าที่หยวนหลงคิดไว้ ความตึงเปรี๊ยะจากช่องทางที่ไม่คุ้นเคยนั้นบีบรัดท่อนเนื้อของเขาอย่างรุนแรงจนรู้สึกอึดอัดแทบกลั้นหายใจ แต่ในขณะเดียวกัน ความฝืดเคืองที่โอบรัดก็กลับยิ่งกระตุ้นความวาบหวามขึ้นทวีคูณ โชคดีที่เจลหล่อลื่นช่วยลดแรงต้าน ทำให้เขาสามารถขยับเข้าออกได้อย่างลื่นไหล—แม้จะยังเต็มไปด้วยแรงเสียดสีที่หวามไหวแทบสะท้านถึงกระดูกก็ตามในห้วงเวลานั้น ความอัดอั้นทั้งทางร่างกายและทางอารมณ์ของถังหูลู่ คลี่คลายออกมาเป็นเสียงครางและเสียงหอบหายหนักใจหยวนยิงและหยวนหลงเริ่มการขยับเขยื้อน เสียงเนื้อกระทบกันแผ่วเบาดังไปทั่วห้อง ทำให้บรรยากาศกลายเ
一百四十四 หญิงสาวเพียงคนเดียวในห้องเบี่ยงหน้ามองหยวนหลงที่ยังคงยืนอยู่ไม่ไกล ควันบุหรี่คลอเคลียปลายผมและโครงหน้าคมเข้มของเขา ขณะที่เธอทำหน้ามุ่ยแล้วส่งสายตาค้อนใส่เขาอย่างตำหนิเล็ก ๆ ทั้งเขินทั้งหงุดหงิดอยู่ในที ยังไม่ทันที่เธอจะทันพูดอะไร เสียงของอีกคนก็โอบคลุมเธอไว้ด้วยความอบอุ่นจากเบื้องหลัง “พวกเฮียเตรียมยาคุมฉุกเฉินไว้ให้หนูแล้ว...” น้ำเสียงของหยวนยิงอ่อนโยนเสียจนเธอพูดอะไรไม่ออก ปลายนิ้วเขายังไล้เบา ๆ ตามแนวสันหลังของเธอเหมือนจะกล่อมให้คลายกังวล คล้ายจะบอกเธอว่า... ทุกอย่างอยู่ในการควบคุม และเธอไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น! หญิงสาวเบือนหน้ามองเขาด้วยดวงตาที่สะท้อนทั้งความอาย ความประหลาดใจ และ...ความไว้ใจโดยไม่รู้ตัว มือหนึ่งของหยวนยิงยกขึ้นมาประคองแก้มเธอเบา ๆ ปลายนิ้วไล้หยาดน้ำตาที่แห้งติดผิวหน้าออกด้วยความทะนุถนอม ราวกับเธอเป็นของล้ำค่าที่ไม่มีวันปล่อยให้ใครแตะต้องโดยไม่เต็มใจ ยังไม่ทันที่เธอจะตั้งสติ เสียงของหยวนหลงก็ดังขึ้นต่อ “ที่สำคัญ...พวกเฮียคุยกับม๊าแล้วด้วยว่าจะพาหนูไปฉีดยาคุม...” เขาพ่นควันบุหรี่ออกมาอย่างผ่อนคลาย ท่าทางสบาย ๆ ไม่ได้มีเจตนาล้อเล่น แต่นัยน์ตา
一百四十三แม้คำพูดนั้นจะตีกลับความรู้สึกขัดแย้งในใจของถังหูลู่ แต่เธอรู้ดีว่าความต้องการที่แท้จริงของเธอนั้น ไม่ได้อยู่ในถ้อยคำ...แต่อยู่ในสัมผัส...ในความเร่าร้อนที่กำลังลุกลามไปทั่วทั้งร่างกาย“เฮียได้โปรด...อย่า...อย่าแตกในหนูเลยนะคะ...หนูขอร้องล่ะ!” เสียงเธอขาดห้วง อีกทั้งยังสั่นเครือ ราวกับจะขอความเมตตา แต่สิ่งที่สะท้อนจากดวงตา กลับไม่ใช่การปฏิเสธ—เธอแค่...กลัว กลัวผลลัพธ์ของสิ่งที่เธอเองก็ต้องการ ...กลัวว่าจะท้องในวัยเรียนเพียงเพราะการหลั่งในที่ขาดการยับยั้งช่างใจ!หยวนยิงซึ่งเฝ้ามองอยู่นาน ในที่สุดก็ยื่นมือออกมา รวบเส้นผมยาวนุ่มสลวยของเธอเป็นสองปอยแน่นหนา ปลายนิ้วร้อนผ่าวของเขารั้งศีรษะของเธอเข้าหาตัวอีกครั้ง ราวกับจะเป็นผู้ควบคุมความปรารถนานั้นด้วยตนเอง เป็นอีกครั้งที่เขาสอดใส่ท่อนเนื้อของเขาเข้าไปในช่องปากและลำคอของเธอรวดเดียวมิดด้ามเขาอุดปากไม่ให้เธอพูด...แต่เขาก็อุดปากให้เธอเสียว!เหงื่อไหลซึมผ่านแผ่นหลัง เสียงลมหายใจหนักหน่วงจากทั้งสามคนประสานกันเป็นจังหวะเดียวกับเสียงเร้าเร่งของจังหวะกระทบกระทั่ง กลิ่นกายที่ผสมผสานกันเป็นกลิ่นรัญจวน หอมเร้าใจ ราวกับเป็นกลิ่นของความต้องการ
一百四十二“อึ๊ก~ อร๊าง!! เฮีย...ของขาดรึไงคะ...!?”ถังหูลู่เหลียวหน้ากลับไปมองค้อนหยวนหลง แต่แววตาและเสียงสั่นที่ติดปลายลมหายใจกลับฟ้องอย่างชัดเจนว่าเธอกำลังถูกความหฤหรรษ์กลืนกินสีหน้าของเธอเริ่มบิดเบี้ยว คิ้วขมวดเข้าหากัน ริมฝีปากเผยอออก เสียงครางดังระลอกแล้วระลอกเล่าราวกับคลื่นซัดไม่หยุดหย่อนและนั่นยังเป็นแค่...การเริ่มต้นเท่านั้น...“ถ้าของขาดแล้วมันจะทำไม?”น้ำเสียงทุ้มต่ำของหยวนหลงแทรกผ่านเสียงหอบหายใจของหญิงสาว เขากดสะโพกเข้าหาเธออีกครั้งด้วยจังหวะที่แน่นหนักและต่อเนื่อง ทำให้น้ำสีใสไหลกระฉอกออกมาจากร่องรักของเธอในทุก ๆ จังหวะที่เกิดการเสียดสีเข้าออกมือใหญ่ทั้งสองข้างกำสะโพกเธอแน่นราวกับกลัวว่าเธอจะหลุดรอดจากอ้อมแขนไป แรงกระแทกแต่ละครั้งเหมือนคลื่นใหญ่ที่โถมซัดเข้าฝั่งอย่างไม่ปรานี ร่างของถังหูลู่สะท้านเป็นระลอกจากทั้งความเจ็บแปลบที่แล่นวาบไปทั่วกระดูกสันหลัง และความเสียวซ่านที่เริ่มไหลเวียนกลืนกินสติอย่างช้า ๆ ความเจ็บแสบเริ่มถูกแทนที่ด้วยความลื่นไหลราวกับร่างกายตอบสนองต่อกันอย่างไม่ต้องฝืนเสียงลมหายใจที่สั่นไหวของเธอดังก้องอยู่ในโสตของทั้งสองชายในเวลาเดียวกัน หยวนยิงที่อยู่ต
一百四十一ผิวกายที่เปลือยเปล่าภายใต้แสงไฟอ่อนโยนดึงดูดสายตาของทั้งคู่ ความขาวเนียนลื่นละมุนจนยากจะละสายตา เส้นโค้งของเรือนร่างที่ชวนให้หลงใหล ผิวกายของเธอสะท้อนแสงราวกับหินอ่อนขัดมัน ปลายขาของเธอขยับเล็กน้อยด้วยความเขินอาย แต่กลับไม่ยกมือขึ้นปิดบังตัวเองเลยแม้แต่น้อยร่องรักสีชมพูหวานที่น่าตื่นตาได้รับการเปิดเผยโดยไร้การปกปิดใด ๆ เช่นเดียวกันกับยอดปทุมถันสีเดียวกันที่น่าหลงใหล สายตาที่ใส่ใจรายละเอียดทุกอย่างของพวกเขากวาดไล่ชมทุกอณูรูขมของเธออย่างใกล้ชิดดวงตากลมโตของถังหูลู่จับจ้องหยวนยิงและหยวนหลง ราวกับกำลังส่งสัญญาณที่ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูด ‘หนูถอดออกหมดแล้ว แล้วพวกเฮียล่ะ ทำไมถึงยังไม่ถอด?’แม้เธอจะไม่ได้พูดออกมา แต่เพียงแววตานั้นก็ทำให้เลือดในกายของทั้งสองเดือดพล่าน แอลกอฮอล์อาจทำให้เธอมัวเมา แต่มิใช่เพียงเพราะมันเท่่านั้นที่ทำให้เธอรู้สึกเช่นนี้...ความเร่าร้อนที่สุมอยู่ในร่างกายทำให้เธอแทบอดกลั้นไม่ไหว แต่ยังคงฝืนต้าน ไม่ยอมเผยตัวตนที่กระหายออกมาในทันที ราวกับต้องการยั่วยุให้พวกเขาโหมแรงใส่เธอให้ถึงที่สุดบนโซฟานุ่ม ที่นี่กลิ่นกายหอมรัญจวนของหญิงสาวร่างอรชรในสภาพเปลือยเปล่าลอยคลุ้ง
一百四十หยวนยิงถอนริมฝีปากออกจากลำคอเธอ แววตาคมฉายประกายเจ้าเล่ห์ น้ำลายใสเป็นประกายสะท้อนแสงไฟเยิ้มอยู่ตรงมุมปาก เขาใช้หลังมือปาดมันออกลวก ๆ ก่อนจะแสยะยิ้มเหยียด “มันสำคัญด้วยเหรอ...ถ้าในท้ายที่สุดหนูไม่เลือกใครเลย...” เสียงของเขาเจือแววขบขัน แต่สัมผัสที่ส่งผ่านมากลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง เขากอดร่างบางแน่นขึ้นจนแขนข้างหนึ่งของเธอเบียดชิดกับแผ่นอกแข็งแรงราวกับจะกลืนกินเธอเข้าไปในอ้อมอก มือหนายังคงกดแนบเข้ากับเนินอกของเธอ บีบคลึงราวกับอยากประทับรอยจารึกไว้บนผิวกายขาวนวล นิ้วเรียวไล้สัมผัสผ่านรอยต่อของเสื้อผ้า ก่อนที่ริมฝีปากร้อนจะแปรเปลี่ยนจากการขบเม้มมาสู่การลากไล้ ปลายลิ้นอุ่นแลบเลียผ่านผิวเนียนตรงหัวไหล่ก่อนที่ฟันคมจะขบลงจนเกิดรอยแดงชัดเจนถังหูลู่รับรู้ถึงหัวใจของเธอเองที่เต้นระรัวเร็ว ความร้อนจากร่างกายหยวนยิงเหมือนจะแผ่ซ่านเข้ามาในตัวเธอจนแทบละลาย ในขณะเดียวกัน หยวนหลงเองก็ไม่ได้อ่อนโยนไปกว่ากัน เขาใช้ริมฝีปากและลิ้นโลมเลียต้นคอของเธอ เสียงดูดดึงดังเบา ๆ เป็นจังหวะ ราวกับกำลังแสดงความเป็นเจ้าของอย่างไร้ความปรานีเธอหันไปสบตากับหยวนหลง แววตาของเขาเป็นประกายเหมือนพญาเสือที่กำลังลิ้ม