Masuk五
“ทำไงได้...ก็เฮียดันมาทำให้หนูตกใจเองนี่...” เธอกล่าวเสียงเบา พร้อมกับหลบสายตาของทั้งคู่ที่จ้องมองมาอย่างลึกซึ้ง หยวนหลงยื่นมือมาแตะหน้าผากของเธอเบา ๆ “หน้าแดงขนาดนี้ เป็นไข้รึเปล่า?” คำพูดของเขาแฝงความห่วงใย แต่สายตานั้นทำให้เธอรู้สึกราวกับถูกมองทะลุถึงหัวใจ หัวใจของถังหูลู่เต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา... เธอหลบสายตาและรีบเบี่ยงตัวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว “ไปกินข้าวกันเถอะ...” เสียงของเธอแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย หยวนยิงและหยวนหลงมองแผ่นหลังเล็กที่ลับสายตาไป ก่อนที่ทั้งสองจะหันมายิ้มให้กันอย่างเข้าใจความหมายในใจของกันและกัน... ในห้องครัว โต๊ะอาหารยาวเหยียดถูกจัดเตรียมไว้อย่างประณีต บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารจีนหลากหลายเมนูที่ล้วนแล้วแต่เป็นของโปรดของถังหูลู่ ถ้วยและจานกระเบื้องลายครามบรรจงจัดวางอยู่คู่กับตะเกียบไม้ไผ่ที่มันวาว เธอเห็นทั้ง ‘เป็ดปักกิ่งหนังกรอบ’ ที่กลิ่นหอมของเครื่องเทศโชยขึ้นมาทำให้น้ำลายสอ ‘หมูสามชั้นตุ๋นซีอิ๊ว’ ที่ดูนุ่มจนแทบละลาย เพียงมองก็รู้ว่าตุ๋นด้วยไฟอ่อนมาหลายชั่วโมง และยังมี ‘กุ้งอบวุ้นเส้น’ ที่มีกลิ่นของกระเทียมเจียวและพริกไทยลอยมาแตะจมูกอย่างเย้ายวนใจ นอกจากนี้ยังมี ‘ข้าวผัดหยางโจว’ ที่แต่งหน้าด้วยกุ้งสดและหมูแดงหั่นเป็นชิ้นเล็กพอดีคำ เสริมด้วยผักดองและซุปกระดูกหมูที่ยังคงไอร้อนกรุ่นอยู่ในหม้อเคลือบสีขาว ทุกอย่างดูเหมือนเป็นงานศิลปะที่สร้างขึ้นด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด “ว้าว! น่ากินจังเลยค่ะ!” ถังหูลู่เบิกตากว้างขณะที่เธอหันมามองอาหารตรงหน้า น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสุข เธอสูดกลิ่นหอมจากอาหารที่ลอยขึ้นมาอย่างเต็มปอดจนเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว หยวนชิงหลานที่พึ่งจะถอดผ้ากันเปื้อนหมาด ๆ เดินเข้ามาลูบหัวเธอเบา ๆ “กินเลยสิจ๊ะ อาหารพวกนี้น้าทำเพื่อน้องถังโดยเฉพาะเลยนะ” น้ำเสียงของเธออบอุ่นและเต็มไปด้วยความเอ็นดู ราวกับจะบอกว่าทุกจานนั้นใส่ใจและตั้งใจทำเพื่อถังหูลู่เพียงคนเดียว ยังไม่ทันที่ถังหูลู่จะได้เอ่ยปากขอบคุณ เสียงหยอกล้อก็ดังขึ้นจากฝั่งหนึ่งของโต๊ะ “เพราะม๊าให้ท้ายแบบนี้ไงล่ะ อาหมวยถึงได้กลายเป็นเด็กตะกละ” หยวนหลงพูดขึ้นพลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางกึ่งขี้เล่นกึ่งยียวน สายตาของเขาจงใจจ้องมาที่ถังหูลู่ซึ่งเริ่มหน้าขึ้นสีเล็กน้อย หยวนยิงที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ กันเสริมทัพด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ “ใช่ม๊า…ม๊าก็เห็นใช่ไหมว่าน้องถังทำอะไรในวันแต่งงาน...” เขาหมายถึงเหตุการณ์ที่ถังหูลู่แอบกินหมูตุ๋นอยู่ แต่กลับถูกเปิดโปงโดยช่อดอกไม้จากหยวนชิงหลานที่ตกลงมาใส่จานหมูตุ๋นของเธอ ถังหูลู่รีบหันขวับไปมองพวกเขาด้วยดวงตาที่วาวโรจน์เล็กน้อย “พวกเฮียนี่แหละ! พูดอะไรไม่รู้เรื่องเลย!” เธอเถียงกลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่จริงจังนัก แต่ในใจกลับรู้สึกอับอายจนอยากจะหายตัวไปจากโต๊ะ หยวนชิงหลานเห็นดังนั้นก็หัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นปรามลูกชายทั้งสอง “พวกเฮียก็เกินไป…เลิกแกล้งน้องได้แล้ว ล้อน้องมาสามวันติดแล้วนะ” คำพูดของเธอเหมือนจะดุ แต่แววตาที่มองพวกเขากลับมีแต่ความเอ็นดู “ครับ ๆ …” หยวนหลงตอบรับอย่างไม่จริงจังนัก พลางยักไหล่เหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก “ผมจะพยายามครับ” หยวนยิงพูดเสียงเรียบเหมือนเดิม แต่แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่ซ่อนความเจ้าเล่ห์เอาไว้ “แต่ฟังไว้เลยนะ อย่าให้ม๊าต้องพูดเรื่องนี้อีก ถ้าคราวหน้าเห็นพวกเฮียในสภาพเหงื่อซกแล้วมานั่งทานข้าวแบบนี้อีก ม๊าไม่ยอมแน่” น้ำเสียงของหยวนชิงหลานเข้มขึ้นเล็กน้อย แต่เต็มไปด้วยความหวังดี เธอไม่ได้ตำหนิพวกเขาอย่างรุนแรง เพียงแต่ต้องการสอนให้รู้จักรักษาความสะอาดและมารยาท ถังหูลู่ที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ พลางตักข้าวเข้าปากด้วยท่าทางขำ ๆ แอบคิดในใจ ‘ถึงจะบอกว่าไม่พูดก็เถอะ แต่น้าชิงหลานก็พูดจนได้อยู่ดี…’ เธอได้แต่ยิ้มบาง ๆ และไม่กล้าส่งเสียงอะไรออกมา หยวนหลงและหยวนยิงที่รู้ตัวว่าถูกดุเบา ๆ ก็รีบขานรับพร้อมกัน “ครับ…” “เข้าใจแล้วครับ…” แม้ทั้งคู่จะดูยอมรับ แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ยังคงประดับอยู่บนใบหน้าของพวกเขา “ชิงหลานที่รัก…มานั่งกินข้าวกันเถอะ พวกเด็ก ๆ คงเข้าใจแล้วล่ะ” ถังไห่เฉิงสามีของหยวนชิงหลานพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่นขณะที่วางมือลงบนบ่าของเธออย่างแผ่วเบา สัมผัสนั้นทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย “อืม…” หยวนชิงหลานพยักหน้ารับอย่างแผ่วเบาก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะ ขณะที่ถังไห่เฉิงคอยช่วยเธอจัดการเสิร์ฟอาหารเพิ่มเติม บรรยากาศในครอบครัวเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและการพูดคุยหยอกล้อสัพเพเหระ ถังหูลู่รู้สึกอบอุ่นในหัวใจแม้ว่าเธอจะเขินกับคำแซวของพวกพี่ชายก็ตาม ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นเพียงวันธรรมดา แต่สำหรับเธอแล้ว นี่คือช่วงเวลาที่เธอรู้สึกถึงคำว่าครอบครัวอย่างแท้จริง... ถังหูลู่เดินขึ้นห้องด้วยท่าทีอิดโรยเล็กน้อยหลังจากอิ่มเต็มที่จากมื้ออาหารที่แสนอร่อย พอประตูห้องนอนปิดลง เธอก็เอนตัวลงบนเตียงนุ่ม ตรึงสายตาไปยังเพดานที่มีลวดลายเรียบง่าย มือบางยกขึ้นทาบที่หน้าอกของตัวเองที่ยังเต้นตุบ ๆ อย่างรุนแรงจากบางสิ่งที่เธอพยายามห้ามใจไม่ให้คิด แต่เหมือนยิ่งห้าม ความคิดก็ยิ่งผุดพรายเหมือนน้ำพุในฤดูใบไม้ผลิ “อา…อิ่มแปล้เลย…” เธอพึมพำกับตัวเองก่อนจะยกแขนขึ้นปิดหน้าด้วยความเขินอาย ‘เราจะคิดอะไรบ้า ๆ แบบนั้นไม่ได้…’ แต่ถึงอย่างนั้น ภาพในหัวกลับไม่ได้เป็นไปตามคำที่เธอพยายามห้าม ภาพของหยวนยิงและหยวนหลงในห้องออกกำลังกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นกระชับ และเหงื่อที่ชุ่มโชกไปทั่วร่างจนมันวาวยังคงวนเวียนอยู่ในจิตใจ ทั้งกลิ่น ทั้งลมหายใจ และน้ำเสียงทุ้มต่ำเองก็ไม่ได้จางหายไปไหน มันก่อกวนเธอและทำให้เธออ่อนไหวมากขึ้นทุกวินาที ‘อื๊อ~ หุ่นของพวกอาเฮียนี่…แซ่บจริง ๆ เลย…’ เธอครางเบา ๆ ออกมาขณะที่ครุ่นคิดในใจ รู้สึกได้ถึงความร้อนรุ่มที่ก่อตัวขึ้นในอกและลามไปทั่วร่างกาย ‘แต่เราคิดอะไรแบบนี้ไม่ได้นะ! เรามันแย่…เรามันผู้หญิงลามก…’ เธอพยายามตำหนิตัวเอง แต่กลับรู้สึกเหมือนเสียงภายในใจอีกด้านกำลังกระซิบปลอบเธอว่า ‘แต่ใครจะห้ามความคิดตัวเองได้ล่ะ...ว่างั้นไหม?’ ใบหน้าของถังหูลู่ร้อนผ่าว หัวใจเต้นถี่เหมือนกลองศึกที่ถูกเร่งจังหวะ เธอยิ่งนึกถึงหุ่นสมส่วนและกล้ามเนื้อที่ดูเหมือนแกะสลักของหยวนยิงและหยวนหลง ยิ่งทำให้ความร้อนในร่างกายเพิ่มพูนจนเหมือนจะระเบิดออกมา เธอพลิกตัวไปมาบนเตียงอย่างอึดอัด ความรู้สึกนี้มันเกินจะควบคุม ‘ไม่ไหว…ไม่ไหวแล้ว…เราต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อทำให้ตัวเองสงบลง…’ เธอกัดริมฝีปากแน่น สายตาเริ่มเหลือบมองไปที่กระจกบานใหญ่ที่สะท้อนภาพตัวเองในชุดนอนบางเบาเนื้อผ้าลื่นไหล เธอสูดลมหายใจเข้าลึกเหมือนจะตัดสินใจบางอย่าง แล้วค่อย ๆ ดึงสายชุดนอนลงจากไหล่เล็ก ๆ ของเธอ เนื้อผ้าสีอ่อนค่อย ๆ เลื่อนลงจากเนินไหล่ที่ขาวราวกับหยก ผ่านกระดูกไหปลาร้าสวยงามที่เหมือนถูกวาดด้วยพู่กัน จนเผยให้เห็นผิวเนียนละเอียดราวกับผ้าซาติน หยดเหงื่อบาง ๆ เกาะพราวที่หน้าอกขนาดพอเหมาะที่สะท้อนแสงไฟอ่อน ๆ ในห้อง เธอค่อย ๆ เลื่อนชุดนอนลงไปอีกจนมันหลุดไปกองอยู่ที่ปลายเท้า เปิดเผยทุกสัดส่วนบนร่างกายนี้อย่างไม่หมกเม็ด ร่างกายของถังหูลู่เหมือนประติมากรรมที่ถูกสลักอย่างวิจิตร ทุกส่วนโค้งเว้าดูสมบูรณ์แบบ ผิวของเธอเรียบเนียนและเปล่งประกาย เธอยกมือขึ้นสัมผัสแก้มของตัวเองที่ยังคงแดงเรื่อ แล้วเลื่อนมือลงมาที่หน้าอกอย่างลังเล หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้นอีกครั้ง ‘โทษทีนะอาเฮีย…’ เธอคิดในใจอย่างละอาย แต่ก็ไม่อาจห้ามตัวเองได้ ‘หุ่นกับเบ้าหน้าหล่อ ๆ ของพวกเฮียทำให้หนูอดใจไม่ไหวจริง ๆ …’ เธอหลับตาแน่นปล่อยให้จินตนาการพาเธอไปไกล ภาพของหยวนยิงและหยวนหลงที่ยิ้มมุมปากและมองเธอด้วยสายตาคมกริบปรากฏขึ้นในหัว เธอรู้สึกได้ถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้นภายในร่างกาย ในขณะที่มือข้างหนึ่งเกาะกุมเนินเนื้อเอาไว้พร้อมปัดเขี่ยยอดปทุมถันสีชมพูหวานนั้นอย่างละเล่น มืออีกข้างยกนิ้วนางกับนิ้วกลางขึ้นมาเลื้อยไล้ลงไปเรื่อย ๆ ตามหน้าท้องแบนราบก่อนที่จะจรดลงตรงร่องรักสีชมพูหวานซึ่งหยาดเยิ้มไปด้วยน้ำสีใสเหนียวหนืด ริมฝีปากเผยอเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงความอ่อนไหวที่ก่อตัวขึ้นทุกครั้งที่มือของเธอเลื่อนต่ำลง ความคิดของเธอยิ่งเร่งเร้าตัวเองด้วยภาพของหยวนยิงและหยวนหลงที่กำลังโน้มตัวลงมาหาเธอ ใบหน้าหล่อเหลาของทั้งคู่ปรากฏเด่นชัดจนเหมือนจริง To be continued...เธอเม้มริมฝีปากแน่นเล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นไหว“แต่มันจะดีจริง ๆ เหรอคะ... ที่พวกเฮียมาเป็นแฟนหนูกันทั้งสองคนเลย...?”มือเล็กบีบมือพวกเขาแน่นขึ้นจนสัมผัสถึงแรงสั่นที่แผ่วเบาแต่แน่วแน่หยวนยิงหันไปสบตาเธอ เขายกมือลูบผมเธออย่างปลอบประโลม “ไหงไม่มั่นใจขึ้นมาล่ะเด็กดี...?”ถังหูลู่หลุบตาลง มองเห็นเพียงผ้าปูเตียงที่ยับย่นจากเรื่องราวเมื่อครู่เธอสูดหายใจแผ่วเบา ก่อนจะตอบอย่างตรงไปตรงมาในแบบที่เธอเป็น“ก็เพราะพอได้มีเซ็กส์ด้วยกันและนอนด้วยกันแบบนี้แล้ว...มันทำให้ใจหนูอ่อนยวบยาบแปลก ๆ เหมือนหัวใจมันละลายไปหมดแล้วน่ะค่ะ...”เสียงของเธอสั่นเครือ เสียงหัวเราะแห้ง ๆ กลืนหายอยู่ในลำคอ ความรู้สึกอ่อนไหวกำลังพัดผ่านเธออย่างช้า ๆ ราวกับสายลมที่มากับกลิ่นฝนหยวนหลงที่เงียบไปเอื้อมมืออีกข้างมากุมมือเธอ ประคองมือเล็ก ๆ ของเธอเอาไว้ด้วยมือหนาทั้งสอง ราวกับจะปลอบโยนและปกป้องในเวลาเดียวกันเขายิ้ม พลางเอ่ยแซว “ยังอยากได้อีกเหรอ...เซ็กส์น่ะ?” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนแต่แฝงไว้ด้วยความห่วงใยไม่ปิดบังถังหูลู่หัวเราะแผ่ว ๆ ส่ายศีรษะน้อย ๆ“หนูไม่ไหวแล้ว...” เสียงเธอฟังดูเหนื่อยอ่อน แต่รอยยิ้มของเธอกลับอ
一百四十八 “อึ๊ก...เฮียบีบนมหนูแรงไปแล้วนะคะ!?” เสียงของเธอสั่นพร่า ขณะดิ้นพล่านอยู่ท่ามกลางสัตว์ร้าย มันทั้งอึดอัด จุกเสียด เสียวซ่าน และวาบหวามเกินคำบรรยาย ในร่องรักก็โดนกระทุ้งแรง... ในรูก้นเองก็โดนกระแทกสวนไม่ขาดสาย ... ถังหูลู่ไม่ได้พักผ่อนจริง ๆ เลย เพราะงั้นเธอจึงอ่อนไหวต่อทุกสัมผัสเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม... แม้เธอจะต้องการหลีกหนี แต่พวกเขาก็คงจะไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ “อยากได้แรงกว่านี้อีกเหรอ?” หยวนยิงแสยะยิ้มชั่วร้าย “แค่นี้ยังไม่พอใจอีกหรือไง?” หยวนหลงหัวเราะเย้ยหยัน แต่ถังหูลู่กลับทำให้เขาพวกเลือดร้อนขึ้นอีกครั้งด้วยคำตอบที่ท้าทาย... “เปล่าค่ะ...อยากโดนพวกเฮียบีบคอไปด้วยและกระแทกไปด้วยมากกว่า...” หญิงสาวยังคงยั่วเย้าไม่เลิกราวกับเสียสติไปแล้ว “ปากแซ่บดีจริง ๆ ...” หยวนยิงคำรามในลำคอ ก่อนที่จะกระทุ้งมดลูกเธอสุดแรงด้วยการแทงสุดถอดสุดอย่างรวดเร็ว “อย่างนี้ต้องโดนหนัก ๆ ” หยวนหลงรัดตรึงเธอแน่นขึ้นอีก ขณะที่กระแทกสวนเธอไม่หยุดยั้ง พวกเขารุกไล้เธออย่างไม่ปล่อยวาง ร่างกายของถังหูลู่คือเวทีแห่งแรงปรารถนา ที่ซึ่งสองบุรุษผลัดกันร่ายรำด้วยความหิวกระหาย ท่อนเนื้อของพวกเขาเป็นร
ภาพนั้นทำให้หยวนยิงหัวเราะเบา ๆ ในลำคออย่างพึงพอใจ ก่อนที่เขาจะจับสะเอวบางของเธออย่างแนบแน่น แล้วสอดใส่ท่อนเอ็นของตนเข้าที่กลางกลีบเนื้อสีชมพูระเรื่อ—ที่ตอนนี้ทั้งบานคลี่และชุ่มฉ่ำ ราวกับกลีบดอกไม้ที่เบ่งบานในยามรุ่งอรุณและเมื่อทั้งสองประสานแรงกันอย่างแนบแน่น ร่างบางของถังหูลู่ก็แทบจะลอยคว้างขึ้นสู่ขอบฟ้าแห่งเสน่หา ถูกผลักดันให้ทะยานขึ้นไปในความสุขสมอย่างไร้จุดสิ้นสุด แผ่นหลังโค้งงอรับแรงรักของพวกเขาอย่างซ่านสะเทือนในเรือนกาย...“พวกเฮีย... ยังไหวอยู่อีกเหรอคะ...” เสียงเธอสั่นเครือ เบาหวิวแทบไร้แรง พูดไปพร้อมกับยืดแขนไปด้านหลัง เผยเรือนร่างยั่วยวนทั้งหมดโดยการเผยใต้วงแขน ขณะที่ใช้ฝ่ามือเล็กประคองจับลำคอแกร่งของหยวนหลงไว้มั่นหยวนหลงเพียงยิ้มบาง มือหนาสอดผ่านสีข้างลำตัวเธอ ลูบไล้ไปตามหน้าท้องแบบราบ ก่อนจะขึ้นไปยังหน้าอกอวบอิ่มและยอดปทุมถันสีชมพูหวาน ราวกับจะปลอบโยนความเหน็ดเหนื่อยของเธอด้วยความรัญจวน “เรื่อย ๆ นั่นแหละ...” เขาพึมพำด้วยเสียงต่ำที่ขับกล่อมประสาท พร้อมละเล่นยอดอกเต่งตึงคู่นี้ของเธออย่างสนุกสนาน ทำให้เธอสั่นไหวทุกครั้งที่เริ่มบีบคลึงหรือดึงแรง“ยิ่งเป็นอาหมวยด้วยแล้ว พวกเ
一百四十七 เมื่อเขาเข้าประชิดตัว ความร้อนในร่างก็ระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง มือหนาโอบเธอไว้แน่น ราวกับต้องการหลอมรวมร่างทั้งสองให้กลายเป็นหนึ่งเดียว เสียงหอบหายใจของทั้งสองดังสะท้อนกับผนังห้อง ผสานกับเสียงจูบลึกที่แลกเปลี่ยนราวจะดูดดึงวิญญาณกันและกัน ร่างของหยวนหลงเคลื่อนไหวอย่างหนักหน่วง ดุดัน แต่แฝงด้วยความอาทร ในขณะที่ถังหูลู่ตอบสนองอย่างหมดหัวใจ—ไม่ใช่เพียงแค่ร่างกายที่คล้องเกี่ยว แต่คืออารมณ์ ความอ่อนแอ และความปรารถนาที่ท่วมท้นไร้ขีดจำกัด เมื่อถึงจุดสูงสุดของการปลดปล่อย—เสียงสุดท้ายที่เปล่งออกมาก็ไม่ใช่เพียงเสียงแห่งความเสียวซ่าน แต่คือเสียงของผู้ที่เสร็จสมและยอมจำนนให้แก่ความสัมพันธ์อันเร่าร้อน ที่ไม่รู้จะเรียกว่าความรัก ความใคร่ หรือความคลั่งไคล้ดี... หลังจากนั้นการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันก็เริ่มต้นขึ้นอีกรอบ... กระจกบานใหญ่หน้าห้องน้ำสะท้อนภาพของหญิงสาวร่างบางผู้หนึ่ง—ถังหูลู่ยืนค้ำอ่างล้างหน้า ร่างเปลือยเปล่าเปียกเหงื่อเกร็งสั่น ดวงตาภายใต้แว่นกลมที่ไหลลงสู่ขอบจมูกแดงเรื่อจากแรงอารมณ์ เธอมองเห็นเงาในกระจกของตนเอง—สะท้อนใบหน้าที่แดงระเรื่อ ผสมความเหนื่อยล้าและความกระหายชนิดหยุดไม่อ
ในห้องนอนของหยวนหลงเสียงลมหายใจของทั้งสามคนสอดประสานกันอย่างอ่อนระโหย เหงื่อยังไหลย้อยเกาะผิวกายราวกับหยดน้ำค้างที่หลงเหลือในยามรุ่งสาง—บ่งบอกถึงความร้อนแรงที่เพิ่งสงบลงราวพายุที่เพิ่งผ่านพ้นถังหูลู่นอนแนบอยู่บนผืนอกแกร่งของหยวนยิง ร่างกายอ่อนแรงดั่งดอกไม้ที่เพิ่งบานสะพรั่งแล้วถูกสายลมกระโชกแรงพัดซัดจนกลีบร่วงหล่น เธอหายใจถี่ สะโพกยังสั่นระริกจากแรงกระตุกครั้งสุดท้าย คล้ายกับร่างกายยังไม่ยอมรับว่าสงครามแห่งอารมณ์ได้ยุติลงแล้วเมื่อความสงบเริ่มกลับคืนมา ทั้งหยวนยิงและหยวนหลงจึงค่อย ๆ ถอนกายออกจากเธออย่างนุ่มนวล ค่อย ๆ แทนที่ด้วยความโล่งโหว่งท่อนเนื้อใหญ่ยาวราวแขนทั้งสองถูกขย้อนออกมาจากรูร่องของถังหูลู่ ขณะที่หยวนยิงและหยวนหลงช่วยกันพยุงอุ้มเธอขึ้นอย่างทะนุถนอมในที่สุด เมื่อขาดการถูกเติมเต็ม ทั้งร่องรักและรูก้นต่างก็เปิดเผยตัว แสดงให้เห็นถึงความกลวงโบ๋และบานเบอะอย่างน่าตกใจของพวกมันไม่นานนัก รูร่องดังกล่าวก็ค่อย ๆ ถ่ายเทของเหลวสีขาวขุ่นที่ไม่สามารถกักเก็บออกมาเป็นจำนวนมาก พวกมันหยาดเยิ้มอย่างหนืดเหนียวออกจากทั้งสองรูร่อง ก่อนที่จะจรดลงบนเตียงนอนผ้าปูที่นอนสีเทาเข้มตัดกับสีของของเห
一百四十六 ในตอนนั้นเอง... “เฮีย...เฮีย! เฮีย!!” เสียงหวานรีบเปล่งออกจากเรียวปากที่สั่นระริกของถังหูลู่ หญิงสาวในแว่นตากลมที่เคยไร้เดียงสา บัดนี้กลับลนลานราวกับไฟในกายกำลังลุกโชนจนควบคุมไม่อยู่ “หนูจะเสร็จแล้ว...จะเสร็จ...ใกล้แล้ว!” ถ้อยคำที่พร่ำพรูออกมาอย่างสับสนสื่อถึงคลื่นความรู้สึกที่กำลังพัดกระหน่ำภายในจิตใจของเธอ ถังหูลู่พยายามยึดมั่นกับเศษเสี้ยวของสติที่หลงเหลือ ขณะที่ร่างกายสั่นสะท้านสาหัสทุกครั้งที่ถูกกระแทกอย่างหนักหน่วงจากทั้งสองชาย ความรู้สึกตึงเครียด สับสน เสียวซ่าน และต้องการจะปลดปล่อย...หลอมรวมกันเป็นคลื่นความสุขที่ยากจะอธิบาย “อา...ยังตอดแน่นได้อีกนะ...ทั้ง ๆ ที่ก็พึ่งโบ๋ไป!” หยวนยิงเอ่ยขึ้นด้วยเสียงพร่าเหือดแห้งไปด้วยแรงอารมณ์ ดวงตาคู่นั้นทอประกายคล้ายคนที่เพิ่งได้ลิ้มรสของต้องห้าม เขาโถมแรงสวนเธอหนักหน่วงที่สุดเท่าที่ทำได้ ร่างหนาของเขาตึงเกร็งและสั่นสะท้านไม่ต่างจากร่างบางของถังเธอ ขณะที่มือหนาข้างหนึ่งคว้ารั้งเอวบางไว้แน่นหนาสุดขีด อีกข้างยังคงกำขยำเนื้อนมขาวเนียนไม่หยุดหย่อน กระทั่งทำให้มันปรากฏรอยแดงรูปฝ่ามือจำนวนมาก... ครั้งนี้ พวกเขาร่วมรักกันอย่างดุเดือด







