หลังจากการฟื้นฟูร่างกายอย่างสมบูรณ์ ฮารุกะและคิชิโระก็กลับมาอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด ทั้งคู่ยืนอยู่เบื้องหน้า แผนที่หนังเก่า ที่ส่องสว่างด้วยแสงอ่อน ๆ จากนาฬิกาอาคม เป้าหมายของพวกเขาชัดเจน: ผ้ายันต์ผืนแรก
ตามแผนที่ พวกเขาเดินทางมาถึงส่วนที่เรียกว่า "ห้าทางแยกแห่งเงามืด" ที่ซึ่งอุโมงค์ขนาดใหญ่แตกแขนงออกเป็น ห้าถ้ำทางแยก ที่มืดมิดและดูเหมือนกันทุกประการ มีเพียงเส้นทางเดียวเท่านั้นที่จะนำไปสู่ผ้ายันต์ “ดูแผนที่นี่สิฮารุกะ” คิชิโระชี้ไปที่สัญลักษณ์ผ้ายันต์ “มันถูกทำเครื่องหมายให้เป็น ทางที่ห้า แต่ไม่มีอะไรรับประกันว่ามันจะไม่ถูกซ่อนไว้ในทางใดทางหนึ่งที่อยู่ก่อนหน้า” เบื้องหน้าพวกเขา มีทางเข้าถ้ำห้าแห่งเรียงรายกันอย่างน่าขนลุก แต่ละทางถูกสลักตัวเลขโรมันกำกับไว้เหนือปากทาง: I, II, III, IV, V ฮารุกะกอดตำราอาคมของเธอแน่น “เราจะทำยังไงดีคิชิโระ? แยกกันไปเลยไหม? อาจจะเร็วกว่านะ” คิชิโระส่ายหน้าทันที “ไม่ได้เด็ดขาด! เราไม่รู้ว่าอะไรซุ่มซ่อนอยู่ในถ้ำพวกนี้ และตอนนี้เรามีอาวุธสำคัญถึงสองอย่างคือ มีดอาคม ของฉัน และ คาถาฟื้นฟู ของเธอ ถ้าเราแยกกันไป คนใดคนหนึ่งต้องตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิตแน่ ๆ เราจะไปด้วยกัน” ฮารุกะมองสบตากับเขา แววตาที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นและห่วงใยของคิชิโระทำให้ความกังวลของเธอหายไป “โอเค” ฮารุกะพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ไปด้วยกัน! งั้นเราเริ่มจาก ถ้ำหมายเลข I ก่อน” คิชิโระเรียกมีดอาคมออกมาในมือขวา มีดสั้นสีฟ้าเปล่งแสงสว่างนวล คิชิโระส่งยิ้มบาง ๆ ให้ฮารุกะ ก่อนที่ทั้งคู่จะจับมือกันแน่น แล้วก้าวเท้าเข้าไปใน ถ้ำหมายเลข I อย่างระมัดระวัง 1. ถ้ำหมายเลข I: การต่อสู้กับใยพิษ (The Venomous Web) ภายในถ้ำหมายเลข I ความมืดมิด กลืนกินทุกสิ่งจนสนิท อากาศในถ้ำแห้งและเย็นจัด พวกเขาเดินเข้าไปลึกขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีเพียงแสงจากมีดอาคมของคิชิโระและนาฬิกาอาคมของฮารุกะส่องนำทาง แต่ทว่าความเงียบที่น่าขนลุกนั้นกลับถูกทำลายด้วย เสียงกุกกัก ที่ดังมาจากด้านบนและด้านข้างของอุโมงค์ “ฉันได้ยินเสียงอะไรบางอย่างนะคิชิโระ” ฮารุกะกระซิบ นาฬิกาอาคมของเธอเริ่มกะพริบถี่รัว "อันตราย! เคลื่อนไหวหลายจุด!" ยังไม่ทันที่คิชิโระจะตอบอะไร เงาดำขนาดมหึมา ก็กระโจนลงมาจากเพดานถ้ำ! มันคือ เงาปีศาจแมงมุมยักษ์ ขนาดใหญ่เท่ารถยนต์ ร่างกายที่บิดเบี้ยวของมันมีขาอันยาวเฟื้อยถึงแปดขา ดวงตาสีแดงก่ำหลายดวงจ้องมองพวกเขาอย่างกระหายเลือด ฟุ่บ! ฟุ่บ! ทันทีที่มันลงสู่พื้น เงาปีศาจแมงมุมยักษ์ก็ปล่อย ใยแมงมุมสีดำทมิฬ ออกมาจากปากของมันอย่างรวดเร็ว! ใยแมงมุมเหนียวหนึบพุ่งเข้าหาคิชิโระและฮารุกะอย่างไม่คาดคิด “แย่แล้ว! ใยของมัน!” คิชิโระตะโกน เขาพยายามใช้มีดอาคมฟันใยแมงมุมที่พุ่งมา แต่ใยนั้นแข็งแกร่งและยืดหยุ่นเกินกว่าที่จะถูกตัดขาดได้ง่าย ๆ วืด! ใยแมงมุมเส้นหนึ่งพันเข้าที่ขาซ้ายของคิชิโระ ทำให้เขาล้มลงกับพื้น มีดอาคมหลุดจากมือเขาไปเพียงเล็กน้อย ฮารุกะเห็นดังนั้น เธอพุ่งเข้าไปช่วยคิชิโระทันที เธอใช้มือเปล่าดึงใยแมงมุมนั้นออก แต่ใยนั้นเหนียวแน่นจนมือของเธอเริ่มเป็นรอยถลอก เงาปีศาจแมงมุมยักษ์ไม่รอช้า มันยกขาหน้าขนาดใหญ่ของมันขึ้น เตรียมจะแทงเข้าใส่คิชิโระ “คาถาป้องกัน!” ฮารุกะตะโกน เธอทิ้งตัวลงกับพื้นแล้วร่ายคาถาป้องกันแบบรวดเร็ว “โอม... เกราะแห่งแสง จงบังเกิด!” แสงสีฟ้าอ่อน ๆ พวยพุ่งออกมาจากร่างของฮารุกะ ห่อหุ้มคิชิโระไว้ได้ทันท่วงที ขาของเงาปีศาจแมงมุมยักษ์แทงเข้าใส่เกราะป้องกันอย่างรุนแรงจนเกิดเสียง แคร้ง! “ฮารุกะ! โยนมีดมาให้ฉัน!” คิชิโระสั่ง เขาพยายามดึงขาของตัวเองออกจากใยแมงมุม ฮารุกะรีบคว้ามีดอาคมแล้วโยนไปให้เขา คิชิโระรับมีดอาคมไว้ได้ทัน ก่อนจะใช้มัน กรีดใยแมงมุม ที่ขาของเขาจนขาด เขาลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว การต่อสู้อย่างดุเดือดเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง คิชิโระพุ่งเข้าใส่เงาปีศาจแมงมุมอย่างกล้าหาญ เขาฟันมีดอาคมเข้าใส่ขาของมันอย่างต่อเนื่องเพื่อตัดการเคลื่อนไหว แต่เงาปีศาจแมงมุมยักษ์ก็ยังคงพ่นใยแมงมุมออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน ใยของมันเริ่มปกคลุมผนังถ้ำ ทำให้พื้นที่การเคลื่อนไหวของคิชิโระแคบลงเรื่อย ๆ ความเสียเปรียบ ของพวกเขาคือ ใยแมงมุม ที่จำกัดการเคลื่อนที่ คิชิโระต้องระวังไม่ให้ถูกพันธนาการอีกครั้ง ฮารุกะตัดสินใจใช้ คาถาไฟ ระดับพื้นฐานที่เธอเคยฝึกมาอย่างรวดเร็วที่สุด “มหา อัคคี! จงลุกไหม้!” เธอร่ายคาถาแล้วปล่อย ลูกไฟขนาดเล็ก ออกไป ลูกไฟพุ่งเข้าใส่ใยแมงมุมที่เกาะอยู่บนผนังถ้ำทันที ใยแมงมุมสีดำทมิฬ ส่งเสียง ซู่ และเริ่ม ลุกไหม้ อย่างรวดเร็ว “ฮารุกะ! เยี่ยมมาก! มันกลัวไฟ!” คิชิโระตะโกนด้วยความดีใจ เขาเห็นช่องว่างแล้ว ในขณะที่เงาปีศาจแมงมุมยักษ์พยายามถอยหนีจากเปลวไฟ คิชิโระก็พุ่งเข้าใส่ มันใช้ขาหน้าหกขาปกป้องหัวของมัน แต่คิชิโระเคลื่อนไหวเร็วกว่า เขาใช้พลังอาคมทั้งหมด ฟันมีดอาคม เข้าใส่บริเวณหัวของมันอย่างแรง ฉัวะ! เงาปีศาจแมงมุมยักษ์ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างของมันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ก่อนจะ แตกสลาย ออกเป็น วิญญาณสีน้ำตาล ที่มีลักษณะคล้ายแมงมุมตัวเล็ก ๆ หลายตัว ฮารุกะไม่รอช้า เธอรีบกักเก็บวิญญาณทั้งหมดลงในขวด การต่อสู้จบลงด้วยชัยชนะ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเหนื่อยล้าอีกครั้ง “นั่นแหละ! เราจัดการมันได้แล้ว” คิชิโระหอบหายใจ เขาเดินไปหาฮารุกะ “ไปสุดทางกันเถอะ” ฮารุกะกล่าว พลางชี้ไปที่อุโมงค์ เมื่อพวกเขาเดินไปจนสุดทางถ้ำหมายเลข I พวกเขาก็พบเพียง ผนังหินตัน “อืม... ผิดทางจริง ๆ ด้วย” คิชิโระถอนหายใจ “ถอยกลับไปหมายเลข II กันเถอะ” 2. ถ้ำหมายเลข II: การต่อสู้กับกบกระโดดพรางตา (The Leaping Amphibian) ทั้งคู่เดินย้อนกลับมาที่ทางแยกอีกครั้ง และตรงเข้าไปใน ถ้ำหมายเลข II ถ้ำหมายเลข II มี ความชื้น สูง อากาศเต็มไปด้วยไอน้ำและกลิ่นดินโคลน เสียงน้ำตก ดังขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพวกเขาเดินลึกเข้าไป “นั่นไง! น้ำตก!” คิชิโระชี้ไปข้างหน้า แสงไฟจากมีดอาคมส่องกระทบกับ ผิวน้ำ ที่กำลังไหลลงสู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่เบื้องล่าง ทันใดนั้น เสียงสะเทือน ดังขึ้นจากผิวน้ำ พร้อมกับ เงาดำขนาดมหึมา พุ่งกระโจนขึ้นมาจากแอ่งน้ำ! มันคือ เงาปีศาจกบยักษ์ ที่มีขนาดใหญ่โตเท่ามนุษย์ มันมีผิวหนังสีดำเมือก และดวงตาสีเขียวเรืองแสงขนาดใหญ่ ลิ้นยาว ของมันสะบัดออกมาอย่างรวดเร็วราวกับแส้ “กบยักษ์! ระวังลิ้นมัน!” คิชิโระตะโกนเตือน เขาและฮารุกะ จับมือกันแน่น แล้ววิ่งเข้าใส่เงาปีศาจกบยักษ์! ความสามารถหลัก ของเงาปีศาจกบยักษ์คือ การกระโดดหลบหลีก และ การโจมตีด้วยความเร็วสูงจากทิศทางที่คาดไม่ถึง คิชิโระพุ่งมีดอาคมเข้าใส่ แต่เงาปีศาจกบยักษ์ก็ กระโดดหลบ ด้วยความเร็วสูง! มันกระโดดไปมาตามผนังถ้ำอย่างคล่องแคล่วราวกับเป็นลูกบอลพลังงานมืด “มันเร็วเกินไป! ฉันมองหาหัวมันไม่ทัน!” คิชิโระสบถ ฮารุกะต้องเข้าแทรกแซงอีกครั้ง “ฉันจะใช้ คาถาหน่วง อีกครั้ง! คิชิโระ! เตรียมตัวให้พร้อมตอนที่มันหยุด!” ฮารุกะร่าย คาถาหน่วงเวลา อย่างรวดเร็ว พลังงานสีม่วงอ่อน ๆ พุ่งเข้าใส่เงาปีศาจกบยักษ์ที่กำลังกระโดดอยู่บนเพดาน พลังงานหน่วงเวลา ทำให้เงาปีศาจกบยักษ์ หยุดชะงัก กลางอากาศเพียงเสี้ยววินาที คิชิโระอาศัย ประสาทสัมผัสที่เฉียบคม ของเขา เขาพุ่งมีดอาคมไปในทิศทางที่มันจะตกลงมาพอดี! ฉัวะ! เงาปีศาจกบยักษ์ส่งเสียงกรีดร้องอย่างรุนแรง มีดอาคมของคิชิโระปักเข้าที่ กลางลำตัว ของมันอย่างแม่นยำ แม้จะไม่ใช่หัว แต่การโจมตีก็หนักหน่วงมากพอที่จะทำให้มัน บาดเจ็บสาหัส “หัวมัน! คิชิโระ!” ฮารุกะตะโกน คิชิโระไม่ลังเล เขาใช้ คลื่นพลังงาน จากมือซ้าย ผลัก เงาปีศาจกบยักษ์ให้ เซถลา เข้าไปในน้ำตก จากนั้นเขาก็กระโดดตามเข้าไป ฟันมีดอาคม เข้าใส่ หัว ของมันซ้ำอีกครั้งในจังหวะที่มันเสียหลัก โฮก! เงาปีศาจกบยักษ์สลายกลายเป็น วิญญาณสีเขียวเข้ม หลายดวงลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ฮารุกะรีบกักเก็บวิญญาณเหล่านั้นทันที พวกเขาเดินไปจนสุดทางถ้ำหมายเลข II แต่ก็พบกับ ผาหินสูงชัน ที่ไม่สามารถปีนป่ายขึ้นไปได้ “ผิดทางอีกแล้ว” ฮารุกะถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า พวกเขากลับออกมาที่ทางแยก 3. ถ้ำหมายเลข III: การต่อสู้กับกองทัพนักรบโบราณ (The Phantoms' Phalanx) พวกเขาเข้าสู่ ถ้ำหมายเลข III ทันที ถ้ำนี้แตกต่างจากถ้ำอื่น ๆ เพราะมี แสงสว่างสีเหลืองสลัว ๆ สาดส่องลงมาจาก ปล่องด้านบน ของเหมือง “แสงสว่าง! เยี่ยมเลยคิชิโระ! เราอาจจะมาถูกทางแล้วก็ได้!” ฮารุกะกล่าวอย่างตื่นเต้น แต่ความดีใจของพวกเขาอยู่ได้ไม่นาน เสียงหัวเราะ ที่แหบโหยและน่าขนลุกก็ดังขึ้นก้องไปทั่วโถงถ้ำ เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเย้ยหยันและดุดัน “หึ หึ หึ... ยินดีต้อนรับสู่แดนนักรบ” ทันใดนั้น กลุ่มเงาปีศาจรูปร่างนักรบโบราณ หลายสิบตนก็ พุ่งทะลุ ออกมาจากผนังถ้ำที่เต็มไปด้วยหิน พวกเขามีรูปร่างคล้ายมนุษย์โบราณ สวมชุดเกราะเก่า ๆ ถือดาบและโล่ที่ทำจากพลังงานมืด ความสามารถหลัก ของเงาปีศาจนักรบโบราณคือ การเพิ่มจำนวน และ การโจมตีแบบรุม “พวกมันเยอะมาก!” คิชิโระอุทานด้วยความตกใจ เขาเรียกมีดอาคมออกมาในมือทั้งสองข้างเตรียมพร้อม เงาปีศาจนักรบโบราณโจมตีพวกเขาพร้อมกันจากทุกทิศทาง คิชิโระใช้มีดอาคม ฟัน และ แทง เงาปีศาจนักรบโบราณที่พุ่งเข้ามา แต่ทุกครั้งที่เขาทำลายเงาตัวหนึ่งได้ เงาปีศาจอีกสองตัวก็จะปรากฏขึ้นมาแทนที่! “ฮารุกะ! เราต้องรีบจัดการ! พวกมันเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ!” คิชิโระตะโกน เขาเริ่มหอบหายใจอย่างหนัก ความเหนื่อยล้า จากการต่อสู้สองครั้งเริ่มส่งผล ฮารุกะเห็นสถานการณ์ที่เสียเปรียบอย่างรวดเร็ว เธอหยิบ ขวดกักเก็บวิญญาณ ออกมา แล้วร่าย คาถากักเก็บแบบวงกว้าง ที่เธอไม่เคยใช้มาก่อน “อาตมันแห่งรัตติกาล... ผนึกด้วยอำนาจแห่งแสง! โอม!” เธอพยายามรวบรวม กลุ่มเงา ทั้งหมดที่รายล้อมคิชิโระไว้ใน รัศมี ของคาถา พลังงานสีม่วงเข้ม แผ่ขยายออกไป! แรงดูดมหาศาล จากขวดวิญญาณเริ่มดึง เงาร่างเล็ก ๆ ที่ประกอบกันเป็นนักรบโบราณแต่ละตนเข้ามาหา! เสียงกรีดร้อง นับร้อยดังขึ้นพร้อมกัน เงาปีศาจนักรบโบราณเริ่ม แตกสลาย และถูกดูดเข้าไปในขวดอย่างรวดเร็วราวกับเป็นพายุ! คิชิโระใช้จังหวะนั้น แทงมีดอาคม เข้าใส่ เงาแก่นกลาง ของกลุ่มนักรบ ซึ่งเป็นตัวที่หัวเราะอยู่ ฉัวะ! เงาแก่นกลางสลายหายไป และวิญญาณของนักรบโบราณทั้งหมดก็ถูกกักเก็บจนหมดสิ้น ความเหนื่อยล้า แผ่ซ่านเข้าสู่ร่างของฮารุกะอย่างรวดเร็ว เธอทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง พวกเขาเดินไปจนสุดทางถ้ำหมายเลข III และพบเพียง หลุมลึก ขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็นก้น “กลับเถอะ...” คิชิโระกล่าว พลางพยุงฮารุกะให้ลุกขึ้น “เราเกือบไม่รอดแล้วนะ” 4. ถ้ำหมายเลข IV: การต่อสู้กับฝูงค้างคาวแห่งความเร็ว (The Swarm of Speed) ทั้งคู่เดินเข้าไปใน ถ้ำหมายเลข IV ด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด ถ้ำนี้มีแต่ ความมืดมิด และ ความเงียบงัน จนผิดปกติ แต่กลางโถงถ้ำกลับมี อัญมณีสีแดงเข้ม ขนาดใหญ่เปล่งแสงสลัว ๆ อยู่ “อัญมณี?” ฮารุกะสงสัย “มันต้องเป็นกับดักแน่ ๆ” แต่ด้วยความเหนื่อยล้าและความอยากรู้อยากเห็น พวกเขาเดินเข้าไปใกล้ขึ้น และทันใดนั้น... วืด! เชือกอาคม ที่มองไม่เห็นก็ พุ่งรัดขา ของทั้งคู่! พวกเขารู้สึกเหมือนเท้าถูกดึงขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างของพวกเขาถูกห้อยหัว เหนือโถงถ้ำ! “ให้ตายสิ! กับดัก!” คิชิโระสบถ และในจังหวะนั้นเอง เสียงปีศาจค้างคาวนับร้อย ก็ดังขึ้น! ฝูงเงาปีศาจค้างคาว จำนวนมาก พุ่งตรง ออกมาจากซอกหินของถ้ำ! ความสามารถหลัก ของเงาปีศาจค้างคาวคือ ความเร็ว และ จำนวน ที่ทำให้การโจมตียากยิ่งขึ้นไปอีก “ฮารุกะ! มีดอาคม!” คิชิโระตะโกน เขายื่นมือไปหาฮารุกะ ฮารุกะรีบคว้า มีดอาคม ที่เหน็บอยู่ที่เอวของคิชิโระ แล้วใช้มีดนั้น กรีดเชือกอาคม ที่ขาของเธออย่างรวดเร็ว ฟุ่บ! ร่างของฮารุกะร่วงลงสู่พื้นอย่างแรง เธอรีบลุกขึ้นยืน แล้ว ฟันมีดอาคม ใส่เชือกที่รัดขาของคิชิโระ ในจังหวะนั้น ฝูงเงาปีศาจค้างคาว ก็ พุ่งเข้าใส่ ทั้งคู่ด้วยความเร็วที่เหนือกว่าเสียง! คิชิโระและฮารุกะ จับมือกันแน่น แล้ววิ่งเข้าปะทะกับฝูงค้างคาว! คิชิโระใช้ มีดอาคม สองเล่ม ฟัน และ ปัดป้อง ฝูงค้างคาวอย่างดุเดือด ในขณะที่ฮารุกะใช้ คาถาป้องกัน และ คาถาไฟ เพื่อสกัดการโจมตีที่รวดเร็วของพวกมัน การต่อสู้เต็มไปด้วยความเร็ว คิชิโระต้องเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วที่สุดในชีวิต เขาทั้งหมุนตัว หลบหลีก และฟันมีดอาคมเข้าใส่ แก่นกลาง ของฝูงค้างคาว “แก่นกลาง! คิชิโระ! มันอยู่ตรงกลาง! โจมตีพร้อมกัน!” ฮารุกะตะโกน คิชิโระพุ่งมีดอาคมเข้าใส่ แก่นกลาง ของฝูงค้างคาวอย่างแรง! มีดอาคม ปักเข้าที่ เงาแก่น ของพวกมัน! เสียงกรีดร้อง ของฝูงค้างคาวดังสนั่น ร่างของพวกมัน แตกสลาย กลายเป็น วิญญาณสีน้ำเงินเข้ม หลายร้อยดวง ฮารุกะรีบกักเก็บวิญญาณเหล่านั้นทันที พวกเขาเดินไปจนสุดทางถ้ำหมายเลข IV และพบเพียง กับดัก ที่ถูกกระตุ้นแล้วอีกมากมาย คิชิโระหันไปหาฮารุกะที่กำลังหอบหายใจอย่างหนัก “มันต้องเป็น ถ้ำหมายเลข V แล้วแหละ” ฮารุกะยิ้มทั้งที่ใบหน้าเปื้อนฝุ่น “ก็หวังว่าอย่างนั้นนะคิชิโระ ฉันไม่มีแรงเหลือพอที่จะไปถ้ำหมายเลข VI แล้วล่ะ!” ทั้งคู่ หัวเราะเบา ๆ ท่ามกลางความเหนื่อยล้า ความผูกพัน ของพวกเขาแน่นแฟ้นยิ่งกว่าเดิม จากนั้นทั้งคู่ก็ จับมือกันแน่น แล้วหันหน้าไปยัง ถ้ำหมายเลข V ด้วยความมุ่งมั่นสุดท้ายที่เหลืออยู่ เป็นอย่างไรบ้างครับ/ค่ะ สำหรับการต่อสู้ที่ดุเดือดสี่ครั้งติด ๆ กัน! ตอนนี้เหลือเพียง ถ้ำหมายเลข V เท่านั้นที่จะเป็นบทสรุปของภารกิจนี้คิชิโระ และ ฮารุกะ ถูกหามกลับมาถึงที่หลบซ่อนของคนงานเหมืองอย่างรวดเร็วที่สุด อาอิ และคนงานคนอื่น ๆ รอรับพวกเขาอยู่แล้ว ผ้ายันต์อาคมสีทองอำพัน (ผืนที่ 3) ถูกนำออกมาจากก้อนน้ำแข็งโดยฝีมือของ ชิบะ และถูกเก็บรักษาไว้ข้างเตียงของฮารุกะร่างกายของทั้งคู่บอบช้ำอย่างหนัก ฮารุกะ ต้องเผชิญกับการบาดเจ็บภายในจากคลื่นเสียง และการบาดเจ็บที่ขาจากใยน้ำแข็ง คิชิโระ เองก็เหนื่อยล้าถึงขีดสุดจากการต่อสู้ทางกายภาพติดต่อกัน“พวกหนูสู้มามากพอแล้ว” โมริ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเมตตา “พักผ่อนซะ พวกเราจะดูแลทุกอย่างเอง”การรักษาเริ่มต้นขึ้นทันที อาอิ ใช้ความรู้ทั้งการแพทย์พื้นบ้านและ คาถาฟื้นฟูเร่งด่วน ที่ฮารุกะสอน ควบคู่ไปกับ ผงแร่ธาตุอาคม เพื่อฟื้นฟูร่างกายของทั้งคู่ โดยเฉพาะฮารุกะที่ใช้พลังอาคมเกินขีดจำกัดไปมากเวลาผ่านไปสามวันเต็ม ทั้งคิชิโระและฮารุกะอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ร่างกายของพวกเขาดูดซับพลังงานอาคมและยาฟื้นฟูเพื่อซ่อมแซมความเสียหายภายในบันทึกลึกลับที่ถูกซ่อน (The Hidden Journal)ในวันที่สี่ คิชิโระ ตื่นขึ้นมาอย่างเต็มที่ เขาพยายามลุกขึ้นนั่ง มองไปที่ ฮารุกะ ที่กำลังหลับอยู่ข้าง ๆ เธอ
คิชิโระ พุ่งเข้าใส่ เงาปีศาจแห่งความเยือกเย็น ด้วยความรวดเร็วที่สุดเท่าที่ร่างกายเขาจะทำได้ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด มีดอาคม ของเขาปะทะกับ ดาบน้ำแข็ง ของผู้เฝ้าอย่างรุนแรงเคร้ง! เคร้ง!“ฮารุกะ! โจมตีทางกายภาพเท่านั้น! อาคมของเธอจะถูกแช่แข็ง!” คิชิโระตะโกนเตือนฮารุกะรู้ดีว่าความเย็นที่แผ่ซ่านออกมาจากเงาปีศาจแห่งความเยือกเย็นนั้นอันตรายต่อ พลังอาคม ของเธอมาก เธอตัดสินใจใช้ มีดอาคมสำรอง ที่คิชิโระให้เธอถือไว้ แล้วใช้ กระบวนท่า ‘หมัดสะท้อนเกราะ’ ห่อหุ้มมีดอาคมด้วยพลังงาน กายภาพ ที่ไม่เจาะจง แล้วเข้าช่วยคิชิโระสู้การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด แต่ก็เป็นไปอย่าง ช้า ๆ เพราะความหนาวเย็นกัดกินพลังงานของทั้งคู่ เงาปีศาจแห่งความเยือกเย็นนั้นแกร่งและว่องไว การโจมตีของคิชิโระแทบไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนให้กับ เกราะน้ำแข็ง ของมันได้เลยการปรากฏตัวของคลื่นเงา (The Wave of Shadows)ในขณะที่ทั้งคิชิโระและฮารุกะกำลังพยายามหาช่องโหว่ของผู้เฝ้า จู่ ๆ พื้นน้ำแข็ง ทั่วห้องโถงก็ สั่นสะเทือน อย่างรุนแรงเสียงคำราม และ เสียงร้อง ที่ผสมกันดังขึ้นจากทุกทิศทางของถ้ำน้ำแข็ง!“อะไรน่ะ!?” ฮารุกะอุทานด้วยความตกใจเ
ผมพร้อมแล้วที่จะนำเสนอ "ตอนที่ 13: ประตูผนึกแห่งเสียงกระซิบและพิธีอาคมโบราณ" ที่จะมีการต่อสู้ที่ต้องใช้ทั้งไหวพริบ ความรู้ และความกล้าหาญอย่างถึงที่สุด โดยมีบทสนทนาและคำบรรยายรวมกันมากกว่า 2,500 คำครับ/ค่ะ!ตอนที่ 13: ประตูผนึกแห่งเสียงกระซิบและพิธีอาคมโบราณ (The Sealed Gate of Whispers and the Ancient Ritual)ชิบะ นำทาง คิชิโระ และ ฮารุกะ ผ่านอุโมงค์ที่มืดมิดและแคบอย่างรวดเร็ว การบาดเจ็บ ที่พวกเขาได้รับในตอนที่แล้วทำให้พวกเขาต้องเดินด้วยความระมัดระวังสูงสุด คิชิโระ สลับถือ มีดอาคม ไว้ในมือทั้งสองข้าง โดยใช้ กระบวนท่า ‘ตาเหยี่ยวส่องเงา’ ตรวจสอบทุกซอกทุกมุม ฮารุกะ เดินอยู่ข้าง ๆ เขา เตรียมพร้อมที่จะใช้ คาถาฟื้นฟูเร่งด่วน ที่เพิ่งฝึกฝนมาใหม่“ทางนี้แหละครับ” ชิบะกระซิบ เสียงของเขาเคร่งเครียด “เบื้องหน้าพวกคุณคือ ประตูเหล็กโบราณ ที่ถูกผนึกไว้”เมื่อถึงทางเข้าโถงถ้ำขนาดใหญ่ คิชิโระและฮารุกะก็ต้องเบิกตากว้าง เบื้องหน้าพวกเขาคือ ประตูเหล็กขนาดมหึมา ที่มีสนิมเกาะกรัง แต่ถูกปกคลุมด้วย อักขระอาคม ที่ส่องแสงสีฟ้าอ่อน ๆ อักขระเหล่านั้นส่งสัญญาณถึง พลังป้องกัน ที่ไม่อาจผ่านไปได้ง่าย ๆ“พลังอาคมขอ
ฮารุกะ ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกอ่อนล้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธออยู่ในส่วนหนึ่งของที่หลบซ่อนที่ถูกจัดให้เป็น ห้องพยาบาล ชั่วคราว อาอิ ผู้ดูแลคนงานเหมืองกำลังนั่งเฝ้าเธออยู่“หนูตื่นแล้วเหรอฮารุกะ” อาอิยิ้มอย่างอ่อนโยน“คิชิโระ... คิชิโระเป็นยังไงบ้างคะ?” ฮารุกะรีบถามทันที“อาการของเขาคงที่แล้วค่ะ” อาอิกล่าวอย่างปลอบใจ “แผลฉีกขาดที่หลังมันลึกมาก แต่ไม่โดนอวัยวะสำคัญ และหนูก็ใช้คาถาสะกดเลือดไว้ได้ทัน ทำให้ไม่เสียเลือดมากเกินไป ตอนนี้โมริกับคนอื่น ๆ กำลังช่วยกันดูแลเขาอยู่”ฮารุกะถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างที่สุด เธอใช้มือสัมผัสที่สีข้างของตัวเอง บาดแผล ที่เกิดจากหางของเงาปีศาจเสือดาวดำนั้นยังคงรู้สึกเจ็บอยู่“หนูต้องพักผ่อนนะ” อาอิกล่าว “แต่ฉันรู้ว่าหนูคงไม่ยอมอยู่เฉย ๆ... โมริ ได้พูดคุยกับฉันแล้วเรื่อง คาถาฟื้นฟูขั้นสูง”ฮารุกะตาเป็นประกาย “คาถาฟื้นฟูขั้นสูง?”“ใช่” อาอิพยักหน้า “ฉันเคยทำงานเป็นผู้ช่วยนักเวทที่เหมืองนี้มาก่อน ก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลาย ฉันพอจะรู้หลักการของ การรักษาอาคมแบบเร่งด่วน ที่ใช้พลังงานจาก แร่ธาตุอาคม ในเหมืองมาช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย ฉันจะสอนวิชานี้ให้หนู ถ
ภายในห้องโถงที่เพิ่งจบการต่อสู้กับเงาปีศาจยักษ์ไซคลอปส์ คิชิโระและฮารุกะยืนหยัดอย่างยากลำบาก ผ้ายันต์อาคมผืนที่สอง ถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในตำราอาคมของฮารุกะ แต่ชัยชนะครั้งนี้แลกมาด้วยความเสียหายที่หนักหน่วงคิชิโระ ถูกลำแสงทำลายเข้าที่สีข้าง ทำให้ร่างกายเขาได้รับบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรง ถึงแม้ฮารุกะจะใช้ คาถาฟื้นฟู เพื่อปิดบาดแผลภายนอกอย่างเร่งด่วนที่สุดแล้ว แต่สีหน้าของเขาก็ยังซีดเซียว และการหายใจของเขาติดขัด“เราต้อง... รีบกลับไปที่หลบซ่อนให้เร็วที่สุด” คิชิโระกล่าวอย่างแผ่วเบา เขาพยายามฝืนยืนด้วยตัวเอง แต่ก็ต้องเซถลา“อย่าฝืนนะคิชิโระ” ฮารุกะรีบเข้าไปประคองเขาไว้แน่น เธอสอดแขนข้างหนึ่งเข้าที่เอวของเขา และกอดมีดอาคมของเขาไว้แน่นอีกข้าง “ฉันจะประคองนายไปเอง เราจะใช้ กระบวนท่าที่ 5: ลมหายใจแห่งการฟื้นฟู สลับกันไปตลอดทาง แต่นายต้อง ห้ามใช้พลังอาคม เด็ดขาด เข้าใจไหม?”“อืม...” คิชิโระตอบสั้น ๆ เขากัดฟันแน่นด้วยความเจ็บปวดจากการบาดเจ็บภายในการเดินทางกลับผ่านเขาวงกตที่พวกเขาเพิ่งฝ่ามานั้นกลายเป็น นรก การเดินแต่ละก้าวเป็นการทรมาน คิชิโระไม่สามารถใช้พลังงานใด ๆ ได้เลย แม้แต่การรักษาตัวเอง ฮ
คิชิโระและฮารุกะเดินลึกเข้าไปในอุโมงค์ทิศเหนือ พวกเขาระมัดระวังทุกย่างก้าวหลังจากบทเรียนราคาแพงจากการลอบโจมตีของเงาปีศาจงูยักษ์ พวกเขาใช้ กระบวนท่า ‘ตาเหยี่ยวส่องเงา’ ที่ได้ฝึกฝนมาอย่างต่อเนื่อง และ ฮารุกะ ก็คอยสแกนพลังงานมืดด้วย นาฬิกาอาคมหลังจากผ่านอุโมงค์แคบ ๆ มาได้เกือบชั่วโมง แสงจากมีดอาคมของคิชิโระก็ส่องกระทบกับทางเข้าขนาดใหญ่ที่แปลกตา“ดูนั่นสิฮารุกะ” คิชิโระชี้ไปข้างหน้าเบื้องหน้าพวกเขาคือ เขาวงกต ที่ถูกสร้างจาก เสาหิน ขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน เสาหินแต่ละต้นทอดตัวสูงขึ้นไปจนลับสายตา ทำให้เกิดทางเดินแคบ ๆ และซับซ้อนราวกับเป็นทางเดินของเขาวงกตในตำนาน บรรยากาศภายในเต็มไปด้วย พลังงานมืด ที่หนาแน่นจนแทบจับต้องได้“ตามแผนที่ของชิบะ... ผ้ายันต์ผืนที่สองอยู่ในใจกลางเขาวงกตนี้” ฮารุกะกล่าว พลางกางแผนที่ฉบับเต็มของเหมืองที่โมริมอบให้แผนที่แสดงให้เห็นว่าบริเวณนี้ถูกเรียกว่า “แดนซับซ้อนแห่งอักขระ” ซึ่งเต็มไปด้วยกับดักและทางตันมากมาย“เราต้องหาทางเข้าสู่ใจกลางให้ได้” คิชิโระกล่าวอย่างมุ่งมั่น “เราจะใช้ เข็มทิศอาคม ของเธอช่วยนำทาง”“ฉันพยายามแล้ว” ฮารุกะตอบอย่างกังวล “พลังงานมืดที่นี่มัน