Share

การรักษา

last update Last Updated: 2025-09-30 22:50:13

ฮารุกะพยุงร่างที่อ่อนแรงของคิชิโระให้เดินลึกเข้าไปในความมืดอย่างช้า ๆ ความเงียบที่ไร้เสียงเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยเสียงหอบหายใจของคิชิโระและเสียงฝีเท้าที่ก้าวเดินอย่างทุลักทุเลของทั้งคู่

“ไหวไหมคิชิโระ? อีกนิดเดียว” ฮารุกะกระซิบถาม

คิชิโระพยักหน้าเล็กน้อย ใบหน้าของเขาซีดเผือด แต่ดวงตายังคงพยายามสอดส่องไปรอบ ๆ “ฉัน... ฉันต้องไหวสิ... อย่าห่วงเลย”

ฮารุกะรู้ว่าเขาพยายามพูดให้เธอสบายใจ เธอใช้แขนโอบรอบเอวของเขาแน่นขึ้นเพื่อช่วยรับน้ำหนัก พวกเขาเดินตามรางรถเข็นไปจนกระทั่งแสงไฟจากนาฬิกาอาคมส่องไปกระทบกับ ห้องโถงกว้าง ที่อยู่ถัดจากอุโมงค์ ห้องนี้ดูเหมือนจะเป็นห้องเก็บของหรือห้องพักคนงานเก่าก่อนที่เหมืองจะถูกทิ้งร้าง มีแคร่ไม้เก่า ๆ ที่พิงอยู่กับผนัง กองลังไม้ผุพัง และเครื่องมือทำเหมืองที่เต็มไปด้วยสนิม

“ตรงนั้นแหละ” ฮารุกะกล่าว เธอพยุงคิชิโระให้ทรุดตัวลงบนแคร่ไม้เก่าอย่างระมัดระวัง คิชิโระพิงศีรษะกับผนังอย่างหมดแรง ดวงตาปิดลงราวกับจะหลับไปได้ทุกเมื่อ

ฮารุกะทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ เขา เธอสัมผัสเบา ๆ ที่รอยช้ำสีดำเข้มบนสีข้างของคิชิโระ ร่องรอยความเจ็บปวดปรากฏบนใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน

“แผลมันใหญ่ขึ้นนะคิชิโระ” ฮารุกะพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “เราต้องรีบรักษา”

คิชิโระลืมตาขึ้นเล็กน้อย เขามองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลของฮารุกะ แล้วยื่นมือที่ยังพอมีแรงกำมือของเธอไว้ “ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกฮารุกะ พลังอาคมของฉันจะช่วยฟื้นฟู... เพียงแต่ต้องใช้เวลา”

“แต่เราไม่มีเวลามากนักหรอกนะ” ฮารุกะแย้ง เธอสะพายกระเป๋าลงจากบ่า แล้วเริ่มคุ้ยหาของข้างใน ในที่สุดเธอก็หยิบ ตำราเล่มหนา ที่ปกถูกห่อหุ้มด้วยหนังสีเข้มและมีอักขระโบราณสลักไว้บนสันปกออกมา

คิชิโระมองตำราเล่มนั้นด้วยความแปลกใจ “นั่นมัน... ตำราอาคมของครอบครัวเธอเหรอ?”

“ใช่” ฮารุกะตอบ พลางวางหนังสือลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง “มันไม่ใช่ตำราอาคมธรรมดา มันมีทั้งคาถาป้องกัน การกักเก็บ และ... คาถาฟื้นฟู”

“เดี๋ยวนะ ฮารุกะ” คิชิโระเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย “เธอใช้คาถาฟื้นฟูเป็นด้วยเหรอ? ฉันไม่เคยเห็นเธอฝึกคาถาที่ซับซ้อนขนาดนี้เลยนะ ปกติเธอจะเน้นแต่คาถาตรวจจับกับกักเก็บวิญญาณนี่นา”

ฮารุกะเงียบไปครู่หนึ่ง เธอยกมือขึ้นแตะที่รอยแผลถลอกและรอยช้ำบนแขนของเธอที่เกิดจากการปะทะกับเงาปีศาจ “ฉันเคย... ศึกษา มาอยู่บ้างน่ะ”

เธอหลบสายตาที่อ่อนล้าแต่ยังเต็มไปด้วยความอยากรู้ของคิชิโระ “ฉันรู้ว่าพลังของฉันเน้นไปที่การสนับสนุน แต่ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเสมอไป ฉันอยากมีประโยชน์มากกว่าแค่การบอกตำแหน่ง หรือกักเก็บวิญญาณที่นายเอาชนะมาได้”

เธอสูดหายใจลึก “...แต่นี่เป็น ครั้งแรก ที่ฉันจะทดลองใช้คาถาฟื้นฟูระดับกลางด้วยตัวเอง”

คำพูดนั้นทำให้คิชิโระตกใจเล็กน้อย “ครั้งแรกงั้นเหรอ! ฮารุกะ! คาถาฟื้นฟูมันใช้พลังงานมากนะ แถมยังเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงถ้าใช้ผิดวิธีด้วย”

ฮารุกะส่ายหน้าอย่างแน่วแน่ “ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วคิชิโระ นายบาดเจ็บมากเกินกว่าจะรอให้พลังของนายฟื้นฟูได้เอง เรายิ่งช้าไปนานเท่าไหร่ โอกาสที่จะเจออันตรายก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น เชื่อใจฉันนะ”

คิชิโระมองเข้าไปในดวงตาของเธอ เห็นความมุ่งมั่นที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในตัวเพื่อนสนิทของเขา เขายิ้มเล็กน้อยแล้วพยักหน้า “โอเค... ฉันเชื่อใจเธอเสมอ”

ฮารุกะสูดหายใจลึกอีกครั้ง เธอเปิดตำราอาคมอย่างระมัดระวังจนมาถึงหน้าที่มีอักขระโบราณสลักไว้ หน้ากระดาษนั้นเปล่งแสงสีทองอ่อน ๆ ออกมา เธอเพ่งมองอักขระเหล่านั้นอย่างตั้งใจ ก่อนจะเริ่มร่ายคาถาด้วยเสียงที่มั่นคง แต่แฝงไว้ด้วยความประหม่า:

“ก่อนอื่น... ต้องรักษาตัวเองก่อน” เธอกล่าวแผ่วเบา แล้วเริ่มร่ายคาถา:

“โอม นะโม พุทธายะ อักขรา เวทา พลัง สัพพัง

จากแหล่งกำเนิดแสงอันบริสุทธิ์ สู่เรือนร่างนี้ จงฟื้นฟู

ธาตุแห่งกาย จงคืนสู่สมดุล ธาตุแห่งใจ จงสถิตมั่น

วายะ สันติ พลัง อักโข มหา เวทา

บาดแผลทั้งมวล จงสลายด้วยอำนาจแห่งศรัทธา

ร่องรอยแห่งการปะทะ จงกลับคืนสู่ความสมบูรณ์

อิทธิฤทธิ์แห่งแสง จงเยียวยาด้วยเมตตาคุณ

โลหิตที่สูญสิ้น จงกลับมาเต็มเปี่ยม พลังที่เหือดแห้ง จงหลั่งไหล

สวาหะ สวาโหม ปะริตัง นิมิตัง นิมิตา... บัดนี้ จงสำแดงฤทธิ์!”

ทันทีที่เสียงสุดท้ายของคาถาจบลง แสงสีขาวเงินบริสุทธิ์ ก็พวยพุ่งออกมาจากตำราอาคม มันส่องสว่างจนแทบจะกลืนกินความมืดมิดในห้องโถงนั้น แสงระยิบระยับเหล่านั้นรวมตัวกันเป็นวงกลมเรืองแสงขนาดใหญ่ ล้อมรอบร่างของฮารุกะเอาไว้

ฮารุกะรู้สึกเหมือนกำลังจมดิ่งลงไปใน กระแสน้ำที่อบอุ่น ความเจ็บปวดจากรอยแผลถลอกและรอยช้ำตามแขนและขาเริ่มจางหายไปอย่างรวดเร็ว แสงสีเงินนั้นซึมซาบเข้าไปในผิวหนังของเธอราวกับน้ำที่ถูกดูดซับอย่างกระหาย ความเหนื่อยล้าทางร่างกายที่สั่งสมมาจากการต่อสู้ก็เริ่มผ่อนคลายลง

คิชิโระมองดูปรากฏการณ์ตรงหน้าด้วยความทึ่ง ใบหน้าของฮารุกะที่เคยซีดเซียวค่อย ๆ มีสีเลือดฝาดกลับคืนมาอย่างเห็นได้ชัด รอยแผล และ รอยช้ำ บนแขนของเธอจางหายไปจนเกือบหมดสิ้นภายในไม่กี่วินาที

เมื่อร่างของฮารุกะกลับคืนสู่สภาพเกือบสมบูรณ์ แสงสีขาวเงินบริสุทธิ์นั้นก็ค่อย ๆ หรี่ลงและจางหายไปอย่างรวดเร็ว เหลือไว้เพียงความสว่างสลัว ๆ จากนาฬิกาอาคมเท่านั้น

ฮารุกะลืมตาขึ้น เธอมองไปยังมือของตัวเอง แล้วยกแขนขึ้นสำรวจ “หายไปแล้ว...” เธออุทานด้วยความประหลาดใจและตื่นเต้น ร่องรอย การบาดเจ็บของเธอหายไปจนหมดสิ้น เหลือไว้เพียงความรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าอย่างไม่น่าเชื่อ

“ให้ตายสิฮารุกะ” คิชิโระอุทานด้วยความประทับใจ “เธอทำได้! มันเป็นคาถาที่ทรงพลังมาก!”

ฮารุกะยิ้มกว้างด้วยความโล่งอกและความภาคภูมิใจที่ซ่อนไว้มานาน “ถึงตาคุณแล้วคิชิโระ”

เธอสูดหายใจอีกครั้ง รวบรวมสมาธิทั้งหมดที่เธอมี เธอรู้ดีว่าการรักษาบาดแผลของคิชิโระซึ่งถูกพลังงานมืดเข้าปะทะนั้นยากกว่าการรักษาตัวเองหลายเท่า

ฮารุกะยื่นมือไปเหนือรอยช้ำสีดำเข้มบนสีข้างของคิชิโระ เธอเริ่มร่ายคาถาที่ซับซ้อนขึ้นอย่างช้า ๆ แต่หนักแน่น:

“โอม ศานติ ศานติ ศานติ มหา พลัง เวทา

จิตรา มนต์ตรา อักขรา สันติ โลกา

จากดินสู่ฟ้า จากแสงสู่ธาตุ จากวิญญาณสู่กาย

อำนาจมืดที่ฝังลึก จงถูกชำระด้วยแสงสว่างแห่งดวงจิต

กายเนื้อที่บอบช้ำ จงได้รับการเยียวยาจากพลังแห่งความรักและผูกพัน

ขอให้เลือดลมกลับคืนสู่สมดุล เส้นประสาทที่เสียหาย จงคืนความรู้สึก

อักขรา เวทา สวาหะ มะอะอุ มหา เวทา ปะริตัง โลกา

หายนะจงสลาย ความเจ็บปวดจงมลาย

จงหาย ณ บัดนี้! โอม... สันติ สวาหะ!”

ครั้งนี้ แสงสีขาวเงินบริสุทธิ์ ที่ออกมาจากตำราอาคมและฝ่ามือของฮารุกะ เข้มข้นกว่าเดิมมาก มันไม่ได้โอบล้อมแค่ตัวเธอ แต่พุ่งตรงเข้าสู่รอยช้ำสีดำเข้มบนสีข้างของคิชิโระ

ทันทีที่แสงสัมผัสกับรอยช้ำ คิชิโระก็ร้อง อื้อ! ออกมาด้วยความเจ็บปวดเล็กน้อย ร่างกายของเขาสั่นสะเทือนขณะที่ พลังงานมืดสีดำ ที่ฝังอยู่ในบาดแผลพยายามต้านทานพลังงานแสงบริสุทธิ์ของคาถา แสงสีเงินและเงาสีดำต่อสู้กันอย่างดุเดือดอยู่ครู่หนึ่ง

ฮารุกะกัดริมฝีปากแน่น เธอมุ่งมั่นอย่างที่สุด เธอรวบรวมพลังงานทั้งหมดที่เพิ่งฟื้นฟูไป ผลักดันให้คาถานั้นแข็งแกร่งขึ้นอีก ค่อย ๆ พลังงานมืด ก็เริ่มอ่อนแรงลงและถูกขับออกมาในรูปของควันดำจาง ๆ ก่อนจะสลายหายไปในอากาศ

แสงสีขาวเงิน เข้าทำหน้าที่ เยียวยา แทนที่ รอยช้ำสีดำเข้ม ค่อย ๆ จางหายไป ร่างกายของคิชิโระเริ่มหยุดสั่น อาการเหนื่อยล้าที่กัดกินเขาก็เริ่มบรรเทาลง เขาหายใจเข้าลึก ๆ ได้เต็มปอดอีกครั้ง

เมื่อการรักษาเสร็จสิ้น แสงสีเงินบริสุทธิ์ก็จางหายไป คิชิโระลุกขึ้นนั่งอย่างช้า ๆ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง

“ฮารุกะ...” คิชิโระพูดเสียงแผ่ว “ฉัน... ฉันรู้สึกเหมือนไม่เคยบาดเจ็บมาก่อนเลย” เขาตรวจดูสีข้างของตัวเอง รอยช้ำขนาดใหญ่ หายไปอย่างไร้ร่องรอย ผิวหนังกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิม ความรู้สึกอ่อนแอ และ ความเหนื่อยล้า หายไปจนหมดสิ้น เหลือไว้เพียงความกระปรี้กระเปร่าอย่างเต็มที่

“เห็นไหมล่ะ ฉันบอกแล้ว” ฮารุกะพูดด้วยรอยยิ้มอย่างโล่งใจ แม้ตอนนี้ใบหน้าของเธอจะเริ่มมีร่องรอยความเหนื่อยล้าจากการใช้คาถาที่ซับซ้อนไปสองครั้งติด ๆ กัน แต่ก็คุ้มค่า

คิชิโระโน้มตัวเข้าหาฮารุกะ แล้วกอดเธอแน่น “ขอบใจมากนะฮารุกะ เธอ... เธอช่วยชีวิตฉันไว้จริง ๆ”

“เราเป็นเพื่อนกันนี่นา” ฮารุกะตอบ พลางกอดตอบเขาอย่างอบอุ่น

หลังจากที่ทั้งคู่พักฟื้นจนหายเป็นปกติ พวกเขาก็เริ่มสำรวจห้องโถงนั้นอย่างละเอียดอีกครั้ง ในที่สุดคิชิโระก็พบ โต๊ะไม้เก่า ๆ ที่มีฝุ่นเกาะหนาเตอะ เขาปัดฝุ่นออกอย่างรวดเร็ว

“นี่มันอะไรน่ะ” คิชิโระมองไปที่สิ่งที่อยู่บนโต๊ะ มันคือ แผนที่ ขนาดใหญ่ที่ถูกวาดลงบนหนังสัตว์ที่เก่าแก่และเปื่อยยุ่ย มันคือแผนผังของ เหมืองร้าง แห่งนี้ทั้งหมด

ฮารุกะก้มลงมองทันที ดวงตาของเธอเบิกกว้างเมื่อเธอเห็นสิ่งผิดปกติบนแผนที่:

“นี่มัน...” ฮารุกะชี้ไปที่จุดต่าง ๆ บนแผนที่ “ดูสัญลักษณ์พวกนี้สิ คิชิโระ”

บนแผนที่นั้น นอกจากจะมีเส้นทางและห้องต่าง ๆ ของเหมืองแล้ว ยังมี สัญลักษณ์รูปผ้ายันต์โบราณ ที่มีลักษณะแตกต่างกัน ห้าจุด ปรากฏอยู่ แต่ละจุดถูกทำเครื่องหมายด้วยสีที่แตกต่างกัน

“สัญลักษณ์พวกนี้...” คิชิโระเพ่งมองอย่างตั้งใจ “ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน แต่พวกมันดูมี พลังงานอาคม บางอย่างแผ่ออกมา”

ฮารุกะหยิบ ขวดกักเก็บวิญญาณสีดำสนิท ของเงาปีศาจยักษ์ที่เธอเพิ่งจับมาวางลงบนแผนที่ ทันใดนั้น แสงสีม่วงอ่อน ๆ ก็เปล่งออกมาจากขวด แล้วพุ่งตรงไปที่ สัญลักษณ์ผ้ายันต์ จุดหนึ่งบนแผนที่

“มันตอบสนอง!” ฮารุกะอุทานด้วยความตื่นเต้น

“ถ้าเงาปีศาจตัวใหญ่ขนาดนั้นตอบสนองต่อสัญลักษณ์นี้... ฉันคิดว่าฉันรู้แล้วว่า ภารกิจที่แท้จริง ของเราคืออะไร” คิชิโระกล่าว ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความเข้าใจ

“อะไรเหรอคิชิโระ?”

“ผ้ายันต์ห้าผืน” คิชิโระตอบเสียงหนักแน่น “ฉันเดาว่า เงาปีศาจ พวกนี้ไม่ได้แค่หลุดออกมาจากหีบ แต่หีบนั้นอาจเป็นแค่ ช่องทาง ที่ถูกเปิดออกโดยพลังงานของมัน ส่วนพลังงานที่ทำให้พวกมันแข็งแกร่งขึ้นจนกระทั่งเปิดประตูมิติได้ มาจาก ผ้ายันต์อาคม ทั้งห้านี้ที่ถูกฝังไว้ในเหมือง”

เขาชี้ไปที่สัญลักษณ์ทั้งห้าบนแผนที่ “ผ้ายันต์พวกนี้อาจเป็น ผนึก ที่คอยกักเก็บพลังงานมืด หรืออาจเป็น แหล่งพลังงานมืด ที่เงาปีศาจต้องการ”

“นั่นหมายความว่า...” ฮารุกะก้าวเข้ามาใกล้แผนที่มากขึ้น “เราต้อง ตามหาผ้ายันต์ทั้งห้าผืน นี้ก่อนที่เงาปีศาจจะครอบครองมันได้ทั้งหมดอย่างนั้นเหรอ?”

“ใช่เลย” คิชิโระพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ไม่ว่าผ้ายันต์เหล่านี้จะเป็นผนึก หรือแหล่งพลังงาน ถ้าเราเก็บพวกมันได้ทั้งหมด เราอาจจะสามารถ ปิดประตูมิติ และ กลับบ้าน ได้”

เขายื่นมือไปหาฮารุกะ “เธอพาเรากลับมามีชีวิตอีกครั้งแล้ว ฮารุกะ ตอนนี้เธอต้องเป็น ผู้นำทาง ให้เราด้วยการใช้แผนที่นี้”

ฮารุกะมองไปยังแผนที่ที่ส่องสว่างด้วยความหวัง แล้วมองไปยังดวงตาที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นของคิชิโระ เธอกำมือเขาแน่น

“ไปกันเถอะ คิชิโระ” ฮารุกะกล่าวอย่างหนักแน่น เธอไม่ได้รู้สึกกลัวอีกต่อไป ความตื่นเต้นในการเป็น ผู้ค้นพบ ได้เข้ามาแทนที่ “เราจะไปหาผ้ายันต์ผืนแรก... ที่อยู่ใกล้ที่สุด”

ฮารุกะชี้ไปที่สัญลักษณ์แรกบนแผนที่ ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ไม่ไกลจากห้องโถงที่พวกเขาอยู่ ทั้งคู่หยิบอาวุธและอุปกรณ์ขึ้นมาเตรียมพร้อมอีกครั้ง ทิ้งความอ่อนล้าและความหวาดกลัวไว้เบื้องหลัง ตอนนี้พวกเขามี เป้าหมาย ที่ชัดเจน และ ความเชื่อใจ ที่แน่นแฟ้นยิ่งกว่าเดิมในการเผชิญหน้ากับความมืดมิดที่รออยู่เบื้องหน้า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • 5/B เหมืองร้างมรณะ   รหัส

    สายลมแห่งยามรุ่งอรุณพัดโชยมาปะทะร่าง อิจิ และ ฮารุ ที่ยืนอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ แสงแรกของดวงอาทิตย์สาดส่องลงมายังทิวทัศน์เบื้องหน้า เผยให้เห็นยอดเขาไฟที่สูงเสียดฟ้า มันตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผืนป่าดิบชื้นที่พวกเขาเพิ่งฝ่าฟันออกมา หมอกจางๆ ลอยปกคลุมรอบฐานของภูเขาไฟราวกับผ้าห่มสีขาว กลิ่นกำมะถันจางๆ ลอยมาตามลมเป็นสัญญาณเตือนถึงพลังงานที่ไม่สงบนิ่งที่อยู่ภายใน “นั่นแหละ… ยอดเขาไฟ” ฮารุพึมพำ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความกังวล “มันดูน่ากลัวกว่าที่คิดไว้เยอะเลยนะอิจิ” อิจิพยักหน้า สีหน้าของเขาเคร่งเครียด “ใช่… พลังงานมืดมิดที่แผ่ออกมาจากที่นั่นมันมหาศาลมาก ‘ผู้ตื่น’ กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาในไม่ช้า” ผ้ายันต์แห่งความจริงที่ผนึกอยู่ในฝ่ามือของฮารุเรืองแสงจางๆ เป็นการยืนยันถึงความรู้สึกของอิจิ พวกเขามีเวลาเพียงสองราตรีเท่านั้นก่อนที่ ดวงจันทร์สีเลือด จะปรากฏขึ้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พันธนาการของ ‘ผู้ตื่น’ จะอ่อนแอที่สุด “เราต้องไปถึงที่นั่นให้เร็วที่สุด” อิจิกล่าว “และเราต้องหารหัสลับแห่งบรรพกาลให้เจอด้วย” “รหัสลับนั่น… มันอยู่ที่ไหนกันนะ?” ฮารุถาม “จิตวิญญาณแห่งต้นไม้บอกแค่ว่ามันอยู่ในผืนป่าแห

  • 5/B เหมืองร้างมรณะ   เจ็บ

    คืนเดือนมืดปกคลุมผืนป่าดิบชื้นทางตอนเหนือของสยามประเทศ แสงจันทร์แทบไม่สามารถส่องผ่านม่านไม้หนาทึบลงมาได้ มีเพียงเสียงจิ้งหรีดเรไรร้องระงม และเสียงลมกระโชกแรงที่พัดกิ่งไม้ใบหญ้าให้เสียดสีกันเป็นระยะ ราวกับเสียงกระซิบกระซาบจากวิญญาณแห่งป่า อิจิและฮารุยังคงก้าวเดินอย่างเชื่องช้า ร่างกายของอิจิอ่อนล้าจากบาดแผลที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างเต็มที่ ส่วนฮารุก็ดูซีดเซียวจากการใช้พลังแห่งชีวิตครั้งล่าสุด แต่ดวงตาของทั้งคู่ยังคงฉายแววความมุ่งมั่นที่จะค้นหาผ้ายันต์ผืนสุดท้ายที่ปรากฏในนิมิตของฮารุ “อากาศที่นี่มันแปลกๆ นะอิจิ” ฮารุพึมพำ น้ำเสียงของเธอแผ่วเบา “มันเย็นยะเยือกกว่าที่ควรจะเป็น… เหมือนมีบางอย่างกำลังจับจ้องเราอยู่” “ใช่… ฉันก็รู้สึกได้” อิจิตอบ เขากระชับดาบในมือแน่นขึ้น “พลังงานที่นี่ไม่ใช่พลังงานของปีศาจ แต่มันเป็นพลังที่เก่าแก่กว่านั้น… ลึกซึ้งกว่านั้น” ตามนิมิตของฮารุ ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายถูกซ่อนอยู่ใต้ต้นไม้โบราณที่สูงเสียดฟ้าในป่าลึกแห่งนี้ ต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมไปทั่วบริเวณ และมีแสงสีม่วงเข้มเปล่งออกมาจากรากของมัน “เรามาถูกทางแล้วใช่ไหมอิจิ?” ฮารุถาม “ฉันหวังว่าอย่างนั้นฮารุ

  • 5/B เหมืองร้างมรณะ   ปริศนา

    ปดปีผ่านไปนับจากเหตุการณ์บน เกาะแห่งม่านหมอก โลกยังคงสงบสุขภายใต้การดูแลของ อิจิ และ ฮารุ พวกเขายังคงทำหน้าที่ผู้พิทักษ์แห่งสมดุลอย่างเงียบๆ ฮารุในวัย 26 ปี กลายเป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาชุมชนให้กับเมืองหลวง เธอใช้ความเข้าใจในธรรมชาติของผู้คนและความผูกพันกับผืนดินในการช่วยฟื้นฟูหมู่บ้านและส่งเสริมการศึกษา อิจิในวัย 30 ปี ยังคงเป็นองครักษ์เงาที่แข็งแกร่งและรอบคอบ แต่บทบาทของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากผู้ปกป้องส่วนตัวของฮารุ เขากลายเป็นผู้ดูแลความมั่นคงของเมือง คอยสืบสวนเหตุการณ์แปลกประหลาดที่อาจคุกคามความสงบสุขของประชาชน ผ้ายันต์แห่งความจริงที่เคยเป็นกุญแจสำคัญในการผจญภัยครั้งก่อนๆ บัดนี้ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีในหอคอยแห่งปัญญาของเมืองหลวง เป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้และความจริงที่ไม่มีวันถูกลืม แม้โลกจะสงบสุข แต่ภายในใจของอิจิกลับมีความรู้สึกบางอย่างค้างคามาตลอด เขาไม่เคยลืมคำพูดของ ‘ผู้ตื่น’ ที่ว่า “ข้าจะกลับมา!” และความรู้สึกของเขาบอกว่าความสงบสุขนี้อาจเป็นเพียงม่านบังตา “อิจิ นายยังคงกังวลเรื่องนั้นอยู่หรือเปล่า?” ฮารุถามในขณะที่พวกเขากำลังเดินเล่นในสวนของวังหลวง แสงจันทร์สาดส่องลงมาต้อง

  • 5/B เหมืองร้างมรณะ   ยังไม่สิ้นสุด

    หลังจากทำข้อตกลงกับหัวหน้าเผ่าสึนะ ไคลด์ ไดชิ และดาอิ ก็เริ่มต้นภารกิจที่อันตรายที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเผชิญมา การเดินทางสู่ แหล่งพลังอาคมแห่งเงาที่แท้จริง ซึ่งซ่อนอยู่ลึกใต้เกาะแสงอรุณ มีเพียงไคลด์เท่านั้นที่รู้ทางเข้า ซึ่งต้องเดินทางผ่านทางน้ำใต้ดินที่ซับซ้อน "พวกเราทุกคนต้องรู้ว่าความมืดมิดที่พวกเจ้าเคยทำลายไปนั้น...เป็นแค่ เปลือกนอก ของพลังงานทั้งหมด" ไคลด์กล่าวขณะนำทางพวกเขาไปยังปากถ้ำที่ถูกซ่อนไว้ใต้รากต้นไม้ใหญ่ริมทะเลสาบ "พลังเงาที่แท้จริงไม่ได้มีไว้เพื่อทำลายล้าง แต่มีไว้เพื่อ รักษาสมดุลของผืนดิน เมื่อหลายศตวรรษก่อน ผู้พิทักษ์รุ่นก่อนได้ผนึกมันไว้ไม่ให้ถูกผู้ใดครอบครอง" ปากทางสู่ความมืด ปากถ้ำนั้นแคบและมืดมิด มีเพียงแสงจากตะเกียงอาคมที่ดาอิสร้างขึ้นเท่านั้นที่ช่วยให้พวกเขามองเห็นได้ ไคลด์ลงไปในน้ำก่อน ตามมาด้วยไดชิและดาอิ พวกเขาต้องว่ายน้ำตามกระแสน้ำใต้ดินที่เย็นเฉียบและมืดสนิทไปนานหลายนาที เมื่อกระแสน้ำสงบลง พวกเขาก็พบว่าตัวเองอยู่ใน อุโมงค์หินขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำค้างและเสียงสะท้อนที่น่าขนลุก พื้นผิวของผนังถ้ำเต็มไปด้วย คริสตัลเงาสีดำ ที่ส่องแสงสลัว ๆ บ่งบอกถึงคว

  • 5/B เหมืองร้างมรณะ   แก้ไข

    สองปีผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับความฝัน อิจิ และ ฮารุ กลับมาใช้ชีวิตที่เงียบสงบในเมืองหลวงของสยามประเทศ เมืองที่เคยถูกม่านหมอกแห่งการลืมเลือนปกคลุม บัดนี้กลับมาคึกคักและสดใสกว่าเดิม ผู้คนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและจดจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน แม้บาดแผลจากอดีตจะยังคงอยู่ แต่พวกเขาก็เรียนรู้ที่จะอยู่กับมันและสร้างอนาคตที่ดีกว่า ฮารุในวัย 18 ปี เติบโตเป็นหญิงสาวที่งดงามและเปี่ยมด้วยจิตใจที่เมตตา เธอทุ่มเทเวลาให้กับการสอนหนังสือเด็กๆ ในหมู่บ้านที่เคยถูกทำลาย และช่วยเหลือผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา แม้พลังแห่งชีวิตจะหายไปจนหมดสิ้น แต่จิตวิญญาณอันบริสุทธิ์และเข้มแข็งของเธอกลับเปล่งประกายยิ่งกว่าเดิม อิจิยังคงเป็นองครักษ์เงาของเธอ คอยปกป้องเธอจากห่างๆ และเฝ้ามองการเติบโตของเธอด้วยความภาคภูมิใจ เขารู้สึกถึงความสงบสุขที่แท้จริงที่เขาไม่เคยสัมผัสได้มาก่อน “อาจารย์ฮารุ! วันนี้จะเล่านิทานเรื่องอะไรให้ฟังคะ?!” เสียงใสๆ ของเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งดังขึ้น เด็กๆ หลายคนมารวมตัวกันรอบๆ ฮารุ ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง ฮารุยิ้มอ่อนโยน “วันนี้อาจารย์จะเล่าเรื่องของ ผู้

  • 5/B เหมืองร้างมรณะ   ปรับเปลี่ยน

    แสงแรกของอรุณรุ่งสาดส่องเข้ามาในศาลเจ้าโบราณที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบของป่า อิจิ และ ฮารุ ยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ใบหน้าของพวกเขามีร่องรอยความเหนื่อยล้าจากการผจญภัยที่ยาวนาน แต่ดวงตาของทั้งคู่ยังคงฉายแววความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว หลังจากการเดินทางผ่าน เมืองแห่งความทรงจำ และการเผชิญหน้ากับ ‘ผู้พิทักษ์’ ที่ถูกควบคุมโดย ‘ผู้ตื่น’ พวกเขาได้รับรู้ถึงแผนการอันชั่วร้ายของ ‘ผู้ตื่น’ ที่ต้องการจะลบเลือนความทรงจำของมนุษย์เกี่ยวกับอดีตทั้งหมด เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ที่มันคือผู้ปกครองสูงสุด “เราจะทำลาย ‘คำสาปแห่งการลืมเลือน’ ได้ยังไงอิจิ?” ฮารุถาม น้ำเสียงของเธอแผ่วเบา เธอวางผ้ายันต์แห่งความจริงลงบนฝ่ามือ มันเป็นเพียงแผ่นผ้าเก่าๆ ธรรมดาๆ ไม่มีแสงเรืองรองใดๆ เหลืออยู่แล้ว อิจิหยิบผ้ายันต์ขึ้นมาดูอย่างพินิจพิเคราะห์ “ไคบอกว่าพลังของเธอที่เชื่อมโยงกับจิตวิญญาณแห่งความทรงจำที่แท้จริงคือกุญแจ… และการทำลายคำสาปนี้จะต้องแลกด้วยพลังแห่งชีวิตของเธอทั้งหมด” “ฉันรู้… และฉันก็พร้อมที่จะเสียสละมัน” ฮารุกล่าว ดวงตาของเธอฉายแววแน่วแน่ “ฉันจะไม่ยอมให้ความจริงถูกบิดเบือนไปตล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status