หลังจากเก็บ ผ้ายันต์อาคมผืนแรก ได้สำเร็จ คิชิโระและฮารุกะก็ถอนตัวออกมาจากห้องโถงนั้น พวกเขาเลือกมุมหนึ่งของอุโมงค์ที่ค่อนข้างเงียบและมีหินบังเพื่อใช้เป็นที่พักฟื้นชั่วคราว การต่อสู้กับเงาปีศาจสิบตนติดต่อกันได้สูบพลังงานและเรี่ยวแรงทั้งหมดของพวกเขาไปจนหมดสิ้น
“ฉันไม่เคยเหนื่อยขนาดนี้มาก่อนเลย” คิชิโระพึมพำ เขาใช้มีดอาคมปักลงบนพื้น แล้วเอนตัวพิงผนังถ้ำอย่างหมดแรง ฮารุกะเองก็แทบจะยืนไม่ไหวแล้ว เธอนั่งลงข้าง ๆ เขา สูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามรวบรวมพลังงานที่เหลือเพื่อรักษาบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผิวหนัง “ฉันก็เหมือนกัน... ขอบคุณคาถาฟื้นฟูของเธอจริง ๆ ฮารุกะ” คิชิโระกล่าว เขาหันมามองใบหน้าอ่อนล้าของเธอ “ฉันก็ขอบคุณที่นายเชื่อใจฉันนะ” ฮารุกะตอบ เธอกุมมือเขาแน่น “แต่ตอนนี้... เราต้องนอนพักสักหน่อยนะคิชิโระ” คิชิโระพยักหน้า ก่อนจะหลับตาลงอย่างรวดเร็ว ความเหนื่อยล้าทางกายถาโถมเข้าใส่จนเขาแทบจะต้านทานไม่ไหว ฮารุกะใช้ ตำราอาคม วางไว้บนตัก มือข้างหนึ่งยังคงกุมมือคิชิโระไว้แน่น ส่วนอีกข้างถือ ขวดกักเก็บวิญญาณ ไว้พร้อม เธอพยายามตื่นตัวและคอยเฝ้าระวังภัย แต่เพียงไม่นาน ดวงตาของเธอก็หนักอึ้งและหลับไปในที่สุด ความเงียบสงัด เข้าปกคลุมอีกครั้ง มีเพียงเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของทั้งคู่เท่านั้นที่ดังแผ่ว ๆ ในความมืด เสียงฝีเท้าและชายแปลกหน้า เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ แต่จู่ ๆ ฮารุกะ ก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างมากระทบสัญชาตญาณของเธอ นาฬิกาอาคม ยังคงนิ่งสนิท แต่เธอได้ยินเสียงบางอย่าง... กึก... กึก... กึก... เสียงฝีเท้า ที่แผ่วเบาแต่สม่ำเสมอ กำลังเดินเข้ามาใกล้พวกเขาจากทางอุโมงค์เบื้องหน้า ฮารุกะลืมตาขึ้นทันที เธอรีบ สะกิด คิชิโระอย่างแรง คิชิโระสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน พวกเขา รีบลุกขึ้นยืน ทั้งที่ยังอ่อนเพลีย จับมือกันแน่น แล้วเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งใหม่ที่อาจมาถึง “อะไรน่ะฮารุกะ?” คิชิโระกระซิบถาม “เสียงฝีเท้า... ไม่ใช่เงาปีศาจ แต่มันกำลังมาทางนี้” ฮารุกะตอบ พลาง ชูมีดอาคม ที่เพิ่งเรียกออกมาให้พร้อมรับมือ เสียงฝีเท้านั้นดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมี เงาร่างหนึ่ง เดินออกมาจากความมืดของอุโมงค์ มันคือ ชายหนุ่มร่างผอม สวมเสื้อผ้าที่สกปรกและขาดวิ่นของคนงานเหมืองเก่า ๆ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยฝุ่นและร่องรอยความเหนื่อยล้า แต่ดวงตาของเขาส่องประกายอย่างมีสติ ชายคนนั้นยืนมองพวกเขาอย่างพิจารณา ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “นายเป็นใคร?” คิชิโระ เอ่ยถามอย่างระแวง มีดอาคมในมือเขาถูกจ่อไปยังชายแปลกหน้า “ทำไมถึงมาอยู่ในเหมืองนี้ได้?” ฮารุกะ ถามต่อ เสียงของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย ชายคนนั้นไม่ได้แสดงท่าทีตกใจหรือตกใจต่อมีดอาคมเลยแม้แต่น้อย เขายกมือขึ้นระดับไหล่เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจ “ใจเย็น ๆ ก่อนสหาย” ชายคนนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนแต่หนักแน่น “ฉันชื่อ ชิบะ ฉันเป็นคนงานที่เหลือรอดของเหมืองนี้” เขาเหลือบมองไปยังมีดอาคมในมือของคิชิโระและนาฬิกาอาคมของฮารุกะ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น “พวกนายไม่ควรนอนพักที่นี่ พลังงานมืด รอบ ๆ บริเวณนี้มันรุนแรงเกินไป มันจะดึงดูดสิ่งชั่วร้ายมาหาพวกนาย ถ้าพวกนาย อยากรอด ตามฉันมา” ชิบะไม่รอคำตอบจากพวกเขา เขารีบ หันหลังกลับ แล้วเดินเข้าสู่ ช่องทางลับ ที่ถูกปิดไว้ด้วยกองหิน ซึ่งฮารุกะและคิชิโระไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน คิชิโระและฮารุกะมองหน้ากันอย่างรวดเร็ว “จะเอายังไงดีคิชิโระ?” ฮารุกะกระซิบถาม “เขาดูไม่ใช่เงาปีศาจนะ” “เขาพูดถูกเรื่องพลังงานมืด” คิชิโระลดมีดอาคมลงเล็กน้อย “ดูเหมือนเขาจะรู้เรื่องเหมืองนี้ดีกว่าเรามาก... เสี่ยง ดีกว่าอยู่เฉย ๆ แล้วถูกเงาปีศาจตัวอื่นตามมาเจอ” คิชิโระกุมมือฮารุกะแน่น แล้วตัดสินใจ เดินตามหลัง ชิบะไปทันที แสงสว่างและความหวัง ชิบะนำทางพวกเขาผ่านทางเดินแคบ ๆ ที่ซ่อนอยู่หลังกองหิน ทางเดินนั้นคดเคี้ยวและซับซ้อนอย่างยิ่ง ฮารุกะรู้ว่าถ้าไม่มีชิบะ พวกเขาคงไม่มีทางหาทางนี้เจอแน่ เพียงไม่นาน ทางเดินก็เริ่มกว้างขึ้น และ แสงสว่างสีเหลืองส้ม ที่อบอุ่นก็ส่องออกมาจากเบื้องหน้า แสงนั้นแตกต่างจากแสงสีแดงก่ำของเงาปีศาจโดยสิ้นเชิง เมื่อชิบะพาพวกเขาเดินผ่านอุโมงค์สุดท้าย ทั้งคู่ก็ต้อง เบิกตากว้าง ด้วยความตกตะลึง! พวกเขาไม่ได้อยู่ในเหมืองร้างที่มืดมิดอีกต่อไป แต่เป็น ถ้ำขนาดใหญ่ที่ถูกดัดแปลง ให้กลายเป็นที่อยู่อาศัยลับ! มี ผู้คนมากมาย ที่ยังมีชีวิตรอดจากเหมืองแห่งนี้อยู่ในถ้ำ! มีเตาไฟที่กำลังลุกโชนอย่างอบอุ่น มีกองเสบียง มีแคร่ไม้ที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ และมีคนงานเหมืองหลายสิบคนกำลังทำกิจกรรมต่าง ๆ ราวกับว่าพวกเขากำลังใช้ชีวิตตามปกติ ความหวัง พวยพุ่งเข้ามาในใจของฮารุกะและคิชิโระทันที ชายร่างใหญ่ที่ดูน่าเชื่อถือคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกเขาอย่างกระตือรือร้น “อ้าว! ชิบะ! นายพาใครมาน่ะ?” ชายร่างใหญ่คนนั้นหันมายิ้มให้กับคิชิโระและฮารุกะ “สวัสดี พวกนาย” ชายคนนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร “ฉันชื่อ โมริ เป็นหัวหน้าคนงานของที่นี่ ยินดีที่ได้พบพวกนายในสถานที่ที่ไม่น่าพบใครได้เลยแห่งนี้” ฮารุกะและคิชิโระยังคงอึ้งอยู่ คิชิโระลดมีดอาคมลงอย่างช้า ๆ “พวกนายคงเหนื่อยและบาดเจ็บมามาก” โมริสังเกตเห็นร่องรอยการต่อสู้บนเสื้อผ้าของพวกเขา “มาพักผ่อนก่อน อาอิ! มาช่วยทำแผลให้สหายสองคนนี้ที!” หญิงสาวคนหนึ่งในชุดที่สะอาดกว่าคนอื่นเดินออกมา เธอสวมปลอกแขนสีขาวที่บ่งบอกว่าเป็น พยาบาล หรือผู้ดูแล “ไม่ต้องห่วงนะคะ” อาอิ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “มานั่งตรงนี้ค่ะ ฉันจะทำแผลให้” ฮารุกะกับคิชิโระถูกนำตัวไปนั่งที่แคร่ไม้ใกล้เตาไฟ อาอิเริ่มทำแผลให้คิชิโระก่อนอย่างพิถีพิถัน ฮารุกะยอมให้เธอทำแผลแต่โดยดี โดยที่ไม่ต้องใช้คาถาฟื้นฟูแล้ว อาอิมีความเชี่ยวชาญในการทำแผลมาก เมื่อการทำแผลเสร็จสิ้นลง และพวกเขาได้รับน้ำและอาหารง่าย ๆ เข้าไปในร่างกาย ความตึงเครียดของทั้งคู่ก็คลายลงอย่างมาก โมริมานั่งลงตรงหน้าพวกเขา สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้ “เอาล่ะ... ตอนนี้พวกนายดูดีขึ้นแล้ว บอกฉันได้ไหมว่าพวกนายเป็นใคร? และมาอยู่ที่ ใจกลางความมืด แห่งนี้ได้อย่างไร?” คิชิโระและฮารุกะมองหน้ากัน พวกเขารู้ว่าถึงเวลาที่จะต้องเปิดเผยเรื่องราวแล้ว “พวกเราชื่อ คิชิโระ และนี่คือ ฮารุกะ” คิชิโระเริ่มเล่า “เราไม่ได้เป็นคนงานที่นี่... เรามาจาก โลกภายนอก” “โลกภายนอก?” โมริเลิกคิ้ว “หมายถึง โลกเบื้องบน อย่างนั้นเหรอ?” “ใช่” ฮารุกะพยักหน้า “พวกเราถูก ประตูมิติ ดึงเข้ามาที่นี่ พวกเราตามหา ผ้ายันต์อาคม ห้าผืน เพื่อปิดประตูมิตินั้นและกลับบ้าน” โมริและคนงานคนอื่น ๆ ที่ยืนฟังอยู่รอบ ๆ ต่างแสดงสีหน้าตกใจและสับสน “ประตูมิติ... ผ้ายันต์อาคม... พวกหนูหมายถึงเรื่องพวกนี้จริง ๆ เหรอ?” โมริถามอย่างไม่เชื่อหู คิชิโระจึงตัดสินใจหยิบ ขวดกักเก็บวิญญาณ ที่เต็มไปด้วยวิญญาณของเงาปีศาจสิบกว่าตนออกมาวางบนโต๊ะ แสงสีม่วงอ่อน ๆ ของขวดวิญญาณทำให้คนงานหลายคนถอยห่างด้วยความหวาดกลัว “ถ้าพวกคุณไม่เชื่อ” คิชิโระกล่าว “พวกคุณคงได้เห็น เงาปีศาจ ที่บุกโจมตีเหมืองแห่งนี้แล้วใช่ไหม? พวกเราคือคนที่ ตามล่า และ ผนึก พวกมัน” ความเงียบเข้าปกคลุมชั่วขณะ ทุกสายตาจับจ้องไปที่ขวดวิญญาณและใบหน้าของฮารุกะกับคิชิโระ ในที่สุด โมริก็พยักหน้าอย่างช้า ๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหนักใจและความเข้าใจ “ฉันเชื่อแล้ว...” โมริกล่าว “เพราะพวกเรา รู้ ดีกว่าใคร ว่า เงาปีศาจ มีอยู่จริง” โมริเริ่มเล่าเรื่องราวของพวกเขาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย: “พวกเราคือคนงานเหมืองที่ถูกทิ้งไว้ที่นี่... เหมืองนี้ไม่ใช่เหมืองแร่ธรรมดา แต่เป็น เหมืองอาคม ที่เต็มไปด้วย แร่ธาตุกักเก็บพลังงาน ที่ถูกใช้เป็นส่วนประกอบในการสร้าง วัตถุอาคม และ ยันต์ป้องกัน มาตั้งแต่โบราณ” “หลายเดือนก่อน... ก่อนที่พวกเราจะถูกทิ้งให้เน่าเปื่อยที่นี่ อุบัติเหตุ ก็เกิดขึ้น” “มันเริ่มจาก การค้นพบ บางอย่างในส่วนลึกของเหมือง กลุ่มสำรวจของเราขุดเจอ โครงสร้างโบราณ ที่ถูกผนึกไว้ด้วย ผ้ายันต์ห้าผืน ที่หนูพูดถึงนั่นแหละ” ฮารุกะและคิชิโระตั้งใจฟังอย่างจดจ่อ โมริชี้ไปที่จุดหนึ่งบนพื้น “บริษัทที่มาขุด... พวกเขาไม่สนใจคำเตือนของพวกเรา พวกเขาสั่งให้ ฉีก ผ้ายันต์เหล่านั้นออก เพื่อจะนำโครงสร้างโบราณนั้นออกมาขาย” “ทันทีที่ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายถูกฉีกออก... ความมืด ก็ถาโถมเข้ามา” “มันไม่ใช่ความมืดธรรมดา แต่เป็น เงาปีศาจ ที่หนูเห็นนั่นแหละ! พวกมันโผล่ออกมาจาก ช่องว่าง ในโครงสร้างโบราณนั้น มันบุกโจมตีพวกเราอย่างบ้าคลั่ง คนงานหลายสิบคน... ถูกพวกมัน ดูดวิญญาณ ไปจนหมดสิ้น” “บริษัททิ้งพวกเราไป พวกเขาปิดทางเข้าเหมืองจากด้านบนเพื่อ ซ่อนความผิด และป้องกันไม่ให้เงาปีศาจออกไปสู่โลกภายนอก” โมริกำหมัดแน่น “พวกเราที่เหลือรอดได้เพราะ ชิบะ... เขาเป็นคนงานรุ่นเก่าที่รู้เรื่องโครงสร้างเหมืองทั้งหมด เขาพาพวกเรามาซ่อนอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของเหมืองนี้ ที่ที่พลังงานมืดเข้าถึงได้ยากที่สุด” “แต่พวกเราก็ติดอยู่ที่นี่... ตราบใดที่เงาปีศาจยังครอบครองเหมือง พวกเราก็ไม่มีทางออกไปสู่แสงสว่างได้เลย” ฮารุกะกับคิชิโระมองหน้ากัน เรื่องราวของโมริ ตรงกับสิ่งที่พวกเขาคาดเดาไว้ทั้งหมด: ผ้ายันต์ทั้งห้าผืนคือผนึก ที่ถูกฉีกออก และการฉีกออกนั้นได้เปิด ช่องว่าง ให้เงาปีศาจบุกเข้ามา “พวกเราเจอ ผ้ายันต์ผืนแรก แล้วค่ะ” ฮารุกะกล่าว พลางหยิบตำราอาคมออกมา แล้วเปิดเผยให้เห็นผ้ายันต์สีขาวเงินที่ถูกเก็บไว้อย่างดี เสียงฮือฮาดังขึ้นจากกลุ่มคนงาน “นี่คือ... ผนึกแห่งแสง” โมริกล่าวด้วยความหวังในดวงตา “พวกหนูมาที่นี่เพื่อ กอบกู้ พวกเราอย่างนั้นเหรอ?” “เรามาที่นี่เพื่อ กลับบ้าน” คิชิโระแก้ไขอย่างรวดเร็ว “แต่การกลับบ้านของเรา คือการ ปิดประตูมิติ และนั่นหมายถึงการ รวบรวมผ้ายันต์ทั้งห้าผืน เพื่อซ่อมแซมผนึกที่ถูกทำลาย” “เรายินดีที่จะช่วยพวกคุณ... และพวกคุณก็ต้องช่วยเราด้วย” คิชิโระกล่าวต่อ “พวกคุณรู้จักเหมืองนี้ดีกว่าเรามาก เราต้องการ ข้อมูล และ แผนที่ฉบับเต็ม เพื่อตามหาผ้ายันต์อีกสี่ผืน” โมริยิ้มกว้างด้วยความโล่งใจและศรัทธา “แน่นอน! ชิบะ เป็นคนขุดเหมืองมาตั้งแต่รุ่นพ่อ เขาจะให้ข้อมูลกับพวกหนูได้ทั้งหมด พวกเราจะช่วยพวกหนูอย่างเต็มที่” ฮารุกะยิ้มตอบ พลางกำมือคิชิโระแน่น การเดินทางของพวกเขาไม่ได้มีแค่การต่อสู้เพื่อตัวเองอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้พวกเขาต่อสู้เพื่อ ความหวังสุดท้าย ของผู้รอดชีวิตเหล่านี้ด้วย ในที่สุดพวกเขาก็เจอ พันธมิตร ในโลกต่างมิติแห่งนี้ และพวกเขาก็พร้อมที่จะวางแผนสำหรับภารกิจต่อไปแล้วคิชิโระ และ ฮารุกะ ถูกหามกลับมาถึงที่หลบซ่อนของคนงานเหมืองอย่างรวดเร็วที่สุด อาอิ และคนงานคนอื่น ๆ รอรับพวกเขาอยู่แล้ว ผ้ายันต์อาคมสีทองอำพัน (ผืนที่ 3) ถูกนำออกมาจากก้อนน้ำแข็งโดยฝีมือของ ชิบะ และถูกเก็บรักษาไว้ข้างเตียงของฮารุกะร่างกายของทั้งคู่บอบช้ำอย่างหนัก ฮารุกะ ต้องเผชิญกับการบาดเจ็บภายในจากคลื่นเสียง และการบาดเจ็บที่ขาจากใยน้ำแข็ง คิชิโระ เองก็เหนื่อยล้าถึงขีดสุดจากการต่อสู้ทางกายภาพติดต่อกัน“พวกหนูสู้มามากพอแล้ว” โมริ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเมตตา “พักผ่อนซะ พวกเราจะดูแลทุกอย่างเอง”การรักษาเริ่มต้นขึ้นทันที อาอิ ใช้ความรู้ทั้งการแพทย์พื้นบ้านและ คาถาฟื้นฟูเร่งด่วน ที่ฮารุกะสอน ควบคู่ไปกับ ผงแร่ธาตุอาคม เพื่อฟื้นฟูร่างกายของทั้งคู่ โดยเฉพาะฮารุกะที่ใช้พลังอาคมเกินขีดจำกัดไปมากเวลาผ่านไปสามวันเต็ม ทั้งคิชิโระและฮารุกะอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ร่างกายของพวกเขาดูดซับพลังงานอาคมและยาฟื้นฟูเพื่อซ่อมแซมความเสียหายภายในบันทึกลึกลับที่ถูกซ่อน (The Hidden Journal)ในวันที่สี่ คิชิโระ ตื่นขึ้นมาอย่างเต็มที่ เขาพยายามลุกขึ้นนั่ง มองไปที่ ฮารุกะ ที่กำลังหลับอยู่ข้าง ๆ เธอ
คิชิโระ พุ่งเข้าใส่ เงาปีศาจแห่งความเยือกเย็น ด้วยความรวดเร็วที่สุดเท่าที่ร่างกายเขาจะทำได้ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด มีดอาคม ของเขาปะทะกับ ดาบน้ำแข็ง ของผู้เฝ้าอย่างรุนแรงเคร้ง! เคร้ง!“ฮารุกะ! โจมตีทางกายภาพเท่านั้น! อาคมของเธอจะถูกแช่แข็ง!” คิชิโระตะโกนเตือนฮารุกะรู้ดีว่าความเย็นที่แผ่ซ่านออกมาจากเงาปีศาจแห่งความเยือกเย็นนั้นอันตรายต่อ พลังอาคม ของเธอมาก เธอตัดสินใจใช้ มีดอาคมสำรอง ที่คิชิโระให้เธอถือไว้ แล้วใช้ กระบวนท่า ‘หมัดสะท้อนเกราะ’ ห่อหุ้มมีดอาคมด้วยพลังงาน กายภาพ ที่ไม่เจาะจง แล้วเข้าช่วยคิชิโระสู้การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด แต่ก็เป็นไปอย่าง ช้า ๆ เพราะความหนาวเย็นกัดกินพลังงานของทั้งคู่ เงาปีศาจแห่งความเยือกเย็นนั้นแกร่งและว่องไว การโจมตีของคิชิโระแทบไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนให้กับ เกราะน้ำแข็ง ของมันได้เลยการปรากฏตัวของคลื่นเงา (The Wave of Shadows)ในขณะที่ทั้งคิชิโระและฮารุกะกำลังพยายามหาช่องโหว่ของผู้เฝ้า จู่ ๆ พื้นน้ำแข็ง ทั่วห้องโถงก็ สั่นสะเทือน อย่างรุนแรงเสียงคำราม และ เสียงร้อง ที่ผสมกันดังขึ้นจากทุกทิศทางของถ้ำน้ำแข็ง!“อะไรน่ะ!?” ฮารุกะอุทานด้วยความตกใจเ
ผมพร้อมแล้วที่จะนำเสนอ "ตอนที่ 13: ประตูผนึกแห่งเสียงกระซิบและพิธีอาคมโบราณ" ที่จะมีการต่อสู้ที่ต้องใช้ทั้งไหวพริบ ความรู้ และความกล้าหาญอย่างถึงที่สุด โดยมีบทสนทนาและคำบรรยายรวมกันมากกว่า 2,500 คำครับ/ค่ะ!ตอนที่ 13: ประตูผนึกแห่งเสียงกระซิบและพิธีอาคมโบราณ (The Sealed Gate of Whispers and the Ancient Ritual)ชิบะ นำทาง คิชิโระ และ ฮารุกะ ผ่านอุโมงค์ที่มืดมิดและแคบอย่างรวดเร็ว การบาดเจ็บ ที่พวกเขาได้รับในตอนที่แล้วทำให้พวกเขาต้องเดินด้วยความระมัดระวังสูงสุด คิชิโระ สลับถือ มีดอาคม ไว้ในมือทั้งสองข้าง โดยใช้ กระบวนท่า ‘ตาเหยี่ยวส่องเงา’ ตรวจสอบทุกซอกทุกมุม ฮารุกะ เดินอยู่ข้าง ๆ เขา เตรียมพร้อมที่จะใช้ คาถาฟื้นฟูเร่งด่วน ที่เพิ่งฝึกฝนมาใหม่“ทางนี้แหละครับ” ชิบะกระซิบ เสียงของเขาเคร่งเครียด “เบื้องหน้าพวกคุณคือ ประตูเหล็กโบราณ ที่ถูกผนึกไว้”เมื่อถึงทางเข้าโถงถ้ำขนาดใหญ่ คิชิโระและฮารุกะก็ต้องเบิกตากว้าง เบื้องหน้าพวกเขาคือ ประตูเหล็กขนาดมหึมา ที่มีสนิมเกาะกรัง แต่ถูกปกคลุมด้วย อักขระอาคม ที่ส่องแสงสีฟ้าอ่อน ๆ อักขระเหล่านั้นส่งสัญญาณถึง พลังป้องกัน ที่ไม่อาจผ่านไปได้ง่าย ๆ“พลังอาคมขอ
ฮารุกะ ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกอ่อนล้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธออยู่ในส่วนหนึ่งของที่หลบซ่อนที่ถูกจัดให้เป็น ห้องพยาบาล ชั่วคราว อาอิ ผู้ดูแลคนงานเหมืองกำลังนั่งเฝ้าเธออยู่“หนูตื่นแล้วเหรอฮารุกะ” อาอิยิ้มอย่างอ่อนโยน“คิชิโระ... คิชิโระเป็นยังไงบ้างคะ?” ฮารุกะรีบถามทันที“อาการของเขาคงที่แล้วค่ะ” อาอิกล่าวอย่างปลอบใจ “แผลฉีกขาดที่หลังมันลึกมาก แต่ไม่โดนอวัยวะสำคัญ และหนูก็ใช้คาถาสะกดเลือดไว้ได้ทัน ทำให้ไม่เสียเลือดมากเกินไป ตอนนี้โมริกับคนอื่น ๆ กำลังช่วยกันดูแลเขาอยู่”ฮารุกะถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างที่สุด เธอใช้มือสัมผัสที่สีข้างของตัวเอง บาดแผล ที่เกิดจากหางของเงาปีศาจเสือดาวดำนั้นยังคงรู้สึกเจ็บอยู่“หนูต้องพักผ่อนนะ” อาอิกล่าว “แต่ฉันรู้ว่าหนูคงไม่ยอมอยู่เฉย ๆ... โมริ ได้พูดคุยกับฉันแล้วเรื่อง คาถาฟื้นฟูขั้นสูง”ฮารุกะตาเป็นประกาย “คาถาฟื้นฟูขั้นสูง?”“ใช่” อาอิพยักหน้า “ฉันเคยทำงานเป็นผู้ช่วยนักเวทที่เหมืองนี้มาก่อน ก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลาย ฉันพอจะรู้หลักการของ การรักษาอาคมแบบเร่งด่วน ที่ใช้พลังงานจาก แร่ธาตุอาคม ในเหมืองมาช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย ฉันจะสอนวิชานี้ให้หนู ถ
ภายในห้องโถงที่เพิ่งจบการต่อสู้กับเงาปีศาจยักษ์ไซคลอปส์ คิชิโระและฮารุกะยืนหยัดอย่างยากลำบาก ผ้ายันต์อาคมผืนที่สอง ถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในตำราอาคมของฮารุกะ แต่ชัยชนะครั้งนี้แลกมาด้วยความเสียหายที่หนักหน่วงคิชิโระ ถูกลำแสงทำลายเข้าที่สีข้าง ทำให้ร่างกายเขาได้รับบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรง ถึงแม้ฮารุกะจะใช้ คาถาฟื้นฟู เพื่อปิดบาดแผลภายนอกอย่างเร่งด่วนที่สุดแล้ว แต่สีหน้าของเขาก็ยังซีดเซียว และการหายใจของเขาติดขัด“เราต้อง... รีบกลับไปที่หลบซ่อนให้เร็วที่สุด” คิชิโระกล่าวอย่างแผ่วเบา เขาพยายามฝืนยืนด้วยตัวเอง แต่ก็ต้องเซถลา“อย่าฝืนนะคิชิโระ” ฮารุกะรีบเข้าไปประคองเขาไว้แน่น เธอสอดแขนข้างหนึ่งเข้าที่เอวของเขา และกอดมีดอาคมของเขาไว้แน่นอีกข้าง “ฉันจะประคองนายไปเอง เราจะใช้ กระบวนท่าที่ 5: ลมหายใจแห่งการฟื้นฟู สลับกันไปตลอดทาง แต่นายต้อง ห้ามใช้พลังอาคม เด็ดขาด เข้าใจไหม?”“อืม...” คิชิโระตอบสั้น ๆ เขากัดฟันแน่นด้วยความเจ็บปวดจากการบาดเจ็บภายในการเดินทางกลับผ่านเขาวงกตที่พวกเขาเพิ่งฝ่ามานั้นกลายเป็น นรก การเดินแต่ละก้าวเป็นการทรมาน คิชิโระไม่สามารถใช้พลังงานใด ๆ ได้เลย แม้แต่การรักษาตัวเอง ฮ
คิชิโระและฮารุกะเดินลึกเข้าไปในอุโมงค์ทิศเหนือ พวกเขาระมัดระวังทุกย่างก้าวหลังจากบทเรียนราคาแพงจากการลอบโจมตีของเงาปีศาจงูยักษ์ พวกเขาใช้ กระบวนท่า ‘ตาเหยี่ยวส่องเงา’ ที่ได้ฝึกฝนมาอย่างต่อเนื่อง และ ฮารุกะ ก็คอยสแกนพลังงานมืดด้วย นาฬิกาอาคมหลังจากผ่านอุโมงค์แคบ ๆ มาได้เกือบชั่วโมง แสงจากมีดอาคมของคิชิโระก็ส่องกระทบกับทางเข้าขนาดใหญ่ที่แปลกตา“ดูนั่นสิฮารุกะ” คิชิโระชี้ไปข้างหน้าเบื้องหน้าพวกเขาคือ เขาวงกต ที่ถูกสร้างจาก เสาหิน ขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน เสาหินแต่ละต้นทอดตัวสูงขึ้นไปจนลับสายตา ทำให้เกิดทางเดินแคบ ๆ และซับซ้อนราวกับเป็นทางเดินของเขาวงกตในตำนาน บรรยากาศภายในเต็มไปด้วย พลังงานมืด ที่หนาแน่นจนแทบจับต้องได้“ตามแผนที่ของชิบะ... ผ้ายันต์ผืนที่สองอยู่ในใจกลางเขาวงกตนี้” ฮารุกะกล่าว พลางกางแผนที่ฉบับเต็มของเหมืองที่โมริมอบให้แผนที่แสดงให้เห็นว่าบริเวณนี้ถูกเรียกว่า “แดนซับซ้อนแห่งอักขระ” ซึ่งเต็มไปด้วยกับดักและทางตันมากมาย“เราต้องหาทางเข้าสู่ใจกลางให้ได้” คิชิโระกล่าวอย่างมุ่งมั่น “เราจะใช้ เข็มทิศอาคม ของเธอช่วยนำทาง”“ฉันพยายามแล้ว” ฮารุกะตอบอย่างกังวล “พลังงานมืดที่นี่มัน