หลังจากที่คิชิโระและฮารุกะได้พักฟื้นและทำแผลจนร่างกายกลับมาแข็งแรงเต็มที่ โมริ หัวหน้าคนงาน และ ชิบะ อดีตคนงานที่รอดชีวิต ก็มาหาพวกเขาพร้อมกับ แผนที่เหมืองฉบับเต็ม ที่ทำเครื่องหมายตำแหน่งของผ้ายันต์ทั้งห้าไว้
“ผ้ายันต์ผืนที่สอง” ชิบะชี้ไปที่จุดหนึ่งบนแผนที่ที่อยู่ลึกเข้าไปทาง ทิศเหนือ ของเหมือง “มันอยู่ใกล้กับ อุโมงค์ระบายอากาศหลัก เป็นพื้นที่ที่อันตรายมาก เพราะเงาปีศาจใช้เป็นทางเข้าออกหลัก” “เราพร้อมแล้วครับ” คิชิโระกล่าวอย่างหนักแน่น โมริส่ายหน้าเล็กน้อย “ฉันรู้ว่าพวกหนูเก่งมาก แต่พวกหนูยังขาด ประสบการณ์ ในการต่อสู้กับ เงาปีศาจ ที่หลากหลายชนิดขนาดนี้ การต่อสู้กับสิบเงาปีศาจเมื่อวานนี้สอนบทเรียนที่สำคัญที่สุดให้กับฉัน... คือพวกหนูต้องมี ความพร้อม มากกว่านี้” “ชิบะและพวกคนงานที่นี่อาจไม่มีพลังอาคมเหมือนพวกหนู แต่พวกเราเคยฝึกฝนการต่อสู้เพื่อป้องกันตัวจาก สัตว์ป่า และ คนงานเถื่อน มาตั้งแต่โบราณ เรามี กระบวนท่าพื้นฐาน ที่สามารถใช้ต่อกรกับเงาปีศาจได้บ้าง” โมริอธิบาย “พวกเราตัดสินใจแล้ว... จะสอน ห้ากระบวนท่าหลัก ให้กับพวกหนู” ฮารุกะและคิชิโระมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ การได้เรียนรู้วิชาการต่อสู้จากผู้ที่อยู่รอดในเหมืองแห่งนี้ ถือเป็นโอกาสอันล้ำค่า การฝึกฝนห้าวันเต็ม: ห้ากระบวนท่าลับ การฝึกฝนเริ่มต้นขึ้นทันทีในโถงถ้ำลับแห่งนี้ ชิบะ และ โมริ ได้เลือกคนงานที่มีฝีมืออีกสามคนมาร่วมสอน ห้ากระบวนท่าหลัก ที่ถูกถ่ายทอดกันมาในหมู่คนงานเหมือง คิชิโระและฮารุกะทุ่มเทให้กับการฝึกฝนอย่างหนัก ตลอด ห้าวันเต็ม พวกเขาตื่นแต่เช้าตรู่ และฝึกฝนจนกระทั่งร่างกายอ่อนล้า 1. กระบวนท่า ‘ตาเหยี่ยวส่องเงา’ (Hawk-Eye Shadow Scan): * ความสามารถ: การเรียนรู้ที่จะ มองทะลุ ม่านพลังงานมืดเพื่อค้นหา แก่นวิญญาณ หรือ ช่องโหว่ ของเงาปีศาจ * การฝึก: ฮารุกะเรียนรู้การใช้ นาฬิกาอาคม ประสานกับ สัญชาตญาณ ในการระบุจุดอ่อน คิชิโระฝึกฝนการเพ่งมองผ่านความมืดเพื่อหา การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ 2. กระบวนท่า ‘ก้าวเท้าเงาสับหลีก’ (Phantom Evasion Stride): * ความสามารถ: การเคลื่อนไหวที่ รวดเร็ว และ เบา เพื่อหลบหลีกการโจมตีแบบ วงกว้าง และการโจมตีจาก ด้านหลัง * การฝึก: เน้นความว่องไวและการทรงตัว พวกเขาฝึกฝนการเคลื่อนที่แบบ ซิกแซ็ก และการ กระโดดหลบ จากทิศทางที่ไม่คาดคิด เพื่อต่อกรกับเงาปีศาจที่มีความเร็วสูง 3. กระบวนท่า ‘หมัดสะท้อนเกราะ’ (Armor Reflection Fist): * ความสามารถ: การใช้ พลังงานอาคม ห่อหุ้ม กำปั้น เพื่อต่อยใส่เงาปีศาจที่มี เกราะป้องกัน (เช่น ควายธนู, สิงโตยักษ์) โดยเน้นไปที่จุดเชื่อมของเกราะหรือจุดอ่อนจากการสั่นสะเทือนทางกายภาพ * การฝึก: คิชิโระฝึกการส่งพลังอาคมที่ ไม่เจาะจง แต่เน้นไปที่ แรงกระแทกทางกายภาพ ฮารุกะเรียนรู้การสร้าง เกราะบาง ๆ ที่มือเพื่อเพิ่มแรงปะทะ 4. กระบวนท่า ‘ผนึกคู่พันธนา’ (Dual Sealing Bind): * ความสามารถ: การ ประสานพลัง ระหว่าง มีดอาคม ของคิชิโระ และ คาถากักเก็บ ของฮารุกะ เพื่อให้การผนึกวิญญาณเป็นไปอย่าง รวดเร็ว และ สมบูรณ์ * การฝึก: การซ้อมจังหวะการโจมตีและการผนึก โดยฮารุกะต้องร่ายคาถาพร้อมกับการโจมตีครั้งสุดท้ายของคิชิโระ 5. กระบวนท่า ‘ลมหายใจแห่งการฟื้นฟู’ (Breath of Recovery): * ความสามารถ: การหายใจที่ถูกควบคุมเพื่อ ฟื้นฟูพลังงานอาคม ในร่างกายอย่างรวดเร็ว หลังจากการใช้คาถาหรือพลังงานไปอย่างหนัก * การฝึก: ฮารุกะเรียนรู้การควบคุมลมหายใจเพื่อเร่งการฟื้นฟูพลังอาคม คิชิโระฝึกฝนการหายใจเพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัวและลดความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ต่อเนื่อง บททดสอบกลางทาง: การลอบโจมตีของเงาพราง ในวันที่หก ทั้งคิชิโระและฮารุกะก็พร้อมที่จะออกจากที่ซ่อนตัวของคนงานเหมืองแล้ว พวกเขาทั้งสองสวมเสื้อผ้าที่สะอาดขึ้นและดูแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก “จำไว้นะ” โมริกล่าวอย่างเคร่งเครียด “ห้ากระบวนท่า ที่เราสอนไป มันคือความรู้พื้นฐานที่ช่วยชีวิตพวกเรามานับครั้งไม่ถ้วน... ขอให้พระเจ้าคุ้มครองพวกหนู” ชิบะพยักหน้าให้ทั้งคู่ “ถ้าเจอเรื่องคับขัน... ใช้ กระบวนท่าที่ 4 เสมอ การร่วมมือคืออาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกนาย” คิชิโระและฮารุกะกล่าวขอบคุณคนงานทุกคน ก่อนจะเดินเข้าสู่ อุโมงค์ทิศเหนือ ตามคำแนะนำของชิบะ การเดินทางมุ่งสู่ผ้ายันต์ผืนที่สองเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง พวกเขาต้องผ่านพื้นที่ที่ถูกทำลายจากเงาปีศาจมาแล้วหลายจุด มีซากแร่ธาตุที่พังทลาย และเศษอุปกรณ์ทำเหมืองที่ถูกทิ้งร้าง พวกเขาเดินทางไปได้ประมาณหนึ่งชั่วโมง คิชิโระใช้ กระบวนท่าที่ 1: ตาเหยี่ยวส่องเงา ตรวจสอบพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ฮารุกะก็ใช้ นาฬิกาอาคม สแกนหาพลังงานมืด “ดูเหมือนจะโล่งนะคิชิโระ” ฮารุกะกระซิบ “ไม่มีสัญญาณอันตราย...” วืดดดดด! ทันใดนั้นเอง เงาสีดำขนาดใหญ่ ก็พุ่งออกมาจาก ผนังถ้ำ ที่ดูเหมือนจะเป็นหินธรรมดา! มันคือ เงาปีศาจงูยักษ์ ที่มีผิวสีดำสนิท มันมี เกล็ด ที่สร้างจากพลังงานมืดที่หนาแน่น และ ความสามารถหลัก ของมันคือ การพรางตัว ในผนังถ้ำ ทำให้มันสามารถ ลอบโจมตี จากทิศทางใดก็ได้! เงาปีศาจงูยักษ์พุ่งเข้าพันรอบตัว คิชิโระ อย่างรวดเร็ว! “อั๊ก!” คิชิโระร้องด้วยความเจ็บปวด ร่างกายของเขาถูกเงาปีศาจงูยักษ์บีบรัดอย่างแรง มีดอาคมหลุดจากมือเขาไป ฮารุกะตกใจ แต่สัญชาตญาณที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนักทำให้เธอไม่หยุดนิ่ง เธอใช้ กระบวนท่าที่ 2: ก้าวเท้าเงาสับหลีก ถอยห่างจากการโจมตีของเงาปีศาจงูยักษ์ที่พยายามใช้หางฟาดเธอ “คิชิโระ!” ฮารุกะตะโกน เธอเห็นว่าเขาถูกรัดแน่นจนหายใจไม่ออก เงาปีศาจงูยักษ์ส่งเสียงขู่ฟ่อ แล้ว บีบ ร่างของคิชิโระแน่นขึ้น “แก่นวิญญาณ... มันอยู่ตรงไหน!” คิชิโระกัดฟันแน่น เขาพยายามใช้ กระบวนท่าที่ 1 ในขณะที่ถูกบีบรัด ฮารุกะรู้ว่าเธอต้องเข้าช่วย! เธอเรียกใช้ มีดอาคม ของคิชิโระที่เขาฝากไว้กับเธอ เธอรวบรวม พลังอาคม ทั้งหมดไว้ที่มือที่จับด้ามมีดอาคม “ฉันต้องทำให้มันคลาย! หมัดสะท้อนเกราะ!” ฮารุกะพุ่งเข้าไปหาเงาปีศาจงูยักษ์อย่างกล้าหาญ เธอใช้ มือเปล่า ที่ห่อหุ้มด้วยพลังอาคม ทุบ เข้าไปที่ส่วนหางที่พันรอบตัวคิชิโระอย่างรุนแรง ปัง! การโจมตีทางกายภาพที่รุนแรงของฮารุกะทำให้เงาปีศาจงูยักษ์ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด มันคลายการบีบรัดคิชิโระลงเล็กน้อย คิชิโระจึงฉวยโอกาสนั้น เตะ เข้าไปที่คอของมันจนหลุดออกมาจากการพันธนาการ “ขอบใจนะฮารุกะ!” คิชิโระหอบหายใจอย่างหนัก เงาปีศาจงูยักษ์โกรธจัด มันพุ่งเข้าโจมตีฮารุกะทันที มันใช้ ความเร็ว และ ความลื่นไหล พยายามที่จะกัดเธอ ฮารุกะใช้ กระบวนท่าที่ 2 หลบหลีกอย่างรวดเร็ว แต่เธอก็เสียเปรียบเพราะการเคลื่อนที่ของงูยักษ์รวดเร็วเกินไป คิชิโระลุกขึ้นยืนแล้วเรียกมีดอาคมของตัวเองกลับมา เขาสังเกตเห็นว่า เกล็ด ที่สร้างจากพลังงานมืดของมันหนามาก การโจมตีธรรมดาไม่สามารถเจาะเข้าไปถึงแก่นวิญญาณได้ “ฮารุกะ! โยนมีดอาคมของฉันมา! เราจะใช้ ผนึกคู่!” คิชิโระตะโกน ฮารุกะเข้าใจทันที เธอใช้จังหวะที่เงาปีศาจงูยักษ์พลาดเป้า ปา มีดอาคมของคิชิโระกลับไปหาเขา คิชิโระรับมีดอาคมได้ทัน เขามี มีดอาคมสองเล่ม ในมือแล้ว “กระบวนท่าที่ 4: ผนึกคู่พันธนา!” คิชิโระตะโกน คิชิโระพุ่งมีดอาคม ทั้งสองเล่ม เข้าใส่เงาปีศาจงูยักษ์อย่างรุนแรง มีดเล่มแรก พุ่งเข้าใส่ ส่วนหัว ของมันเพื่อตรึงการเคลื่อนไหว มีดเล่มที่สอง พุ่งเข้าใส่ กลางลำตัว ที่ฮารุกะเคยโจมตีด้วยหมัดสะท้อนเกราะไว้ ฉัวะ! ฉัวะ! การโจมตีด้วยมีดอาคมสองเล่มพร้อมกันทำให้เงาปีศาจงูยักษ์ ชะงักงัน ทันที มันบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถพรางตัวได้อีก ฮารุกะ ไม่รอช้า เธอร่าย คาถากักเก็บ ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ “อาตมันแห่งรัตติกาล... สู่การผนึกด้วยแสง! จงดูดซับ!” พลังดูดมหาศาล พุ่งออกจากขวดกักเก็บวิญญาณดึง เงาร่าง ของงูยักษ์ที่กำลังสลายเข้ามา! การผนึกในครั้งนี้ รวดเร็ว และ สมบูรณ์แบบ เพราะเป็นการประสานพลังตามที่ได้ฝึกฝนมา [วิญญาณถูกกักเก็บสำเร็จ] บทสรุปของการฝึกฝน คิชิโระทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรงอีกครั้ง เขากุมบาดแผลที่ถูกบีบรัดอย่างแรง “ให้ตายสิ... ถ้าไม่ได้ หมัดสะท้อนเกราะ ของเธอ... ฉันคงไม่รอดแล้ว” คิชิโระกล่าว พลางส่งรอยยิ้มที่อ่อนล้าให้ฮารุกะ ฮารุกะทรุดตัวลงข้าง ๆ เขา เธอยังคงหายใจหอบถี่ “ฉันก็... ถ้าไม่ได้ ก้าวเท้าเงาสับหลีก ฉันคงถูกมันกัดแล้วเหมือนกัน การฝึกฝนได้ผลจริง ๆ นะคิชิโระ” เธอหยิบตำราอาคมออกมาทันทีเพื่อใช้ กระบวนท่าที่ 5: ลมหายใจแห่งการฟื้นฟู ก่อน แล้วจึงใช้ คาถาฟื้นฟู ที่ร่ำเรียนมากับบาดแผลของคิชิโระ “นายรู้ไหมคิชิโระ” ฮารุกะกล่าว พลางรักษาบาดแผลของเขา “ฉันคิดว่าการต่อสู้ครั้งนี้สอนอะไรที่สำคัญกว่าการชนะนะ” “อะไรเหรอ?” คิชิโระถาม “มันสอนว่า... เราไม่ควรประมาท” ฮารุกะตอบอย่างจริงจัง “เราคิดว่าเราแข็งแกร่งพอแล้ว แต่เงาปีศาจมันฉลาดกว่าที่เราคิดมาก การพรางตัวของมันทำให้เราเสียเปรียบอย่างรุนแรง และเราต้องใช้ ทั้งห้ากระบวนท่า ที่โมริกับชิบะสอนมาถึงจะเอาชนะได้” “ใช่” คิชิโระเห็นด้วย “ความแข็งแกร่งของฉันยังไม่พอที่จะต่อกรกับความสามารถเฉพาะตัวของเงาปีศาจที่หลากหลาย... แต่ การประสานงาน ของเราต่างหากที่แข็งแกร่งกว่า” เมื่อร่างกายของทั้งคู่เริ่มฟื้นตัวจากบาดแผลภายนอกแล้ว พวกเขาก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ฮารุกะเก็บตำราอาคมและขวดวิญญาณอย่างรัดกุม คิชิโระเรียกมีดอาคมกลับมาเก็บไว้ที่เอว “ไปกันเถอะฮารุกะ” คิชิโระกล่าว น้ำเสียงของเขามุ่งมั่นกว่าเดิม “ผ้ายันต์ผืนที่สองรอเราอยู่... ทาง ทิศเหนือ” พวกเขาเดินต่อไปในอุโมงค์ทิศเหนืออย่างระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิมมาก การต่อสู้กับเงาปีศาจงูยักษ์กลางทางได้ตอกย้ำถึงอันตรายที่รออยู่ข้างหน้า และได้พิสูจน์แล้วว่า การฝึกฝนห้าวันเต็ม ที่พวกเขาได้รับจากคนงานเหมืองนั้นคือ อาวุธสำคัญ ที่จะช่วยให้พวกเขาก้าวต่อไปได้ เป้าหมายของพวกเขาคือ ผ้ายันต์ผืนที่สอง ที่อยู่ลึกเข้าไปในความมืดมิดของเหมืองอาคมแห่งนี้...คิชิโระ และ ฮารุกะ ถูกหามกลับมาถึงที่หลบซ่อนของคนงานเหมืองอย่างรวดเร็วที่สุด อาอิ และคนงานคนอื่น ๆ รอรับพวกเขาอยู่แล้ว ผ้ายันต์อาคมสีทองอำพัน (ผืนที่ 3) ถูกนำออกมาจากก้อนน้ำแข็งโดยฝีมือของ ชิบะ และถูกเก็บรักษาไว้ข้างเตียงของฮารุกะร่างกายของทั้งคู่บอบช้ำอย่างหนัก ฮารุกะ ต้องเผชิญกับการบาดเจ็บภายในจากคลื่นเสียง และการบาดเจ็บที่ขาจากใยน้ำแข็ง คิชิโระ เองก็เหนื่อยล้าถึงขีดสุดจากการต่อสู้ทางกายภาพติดต่อกัน“พวกหนูสู้มามากพอแล้ว” โมริ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเมตตา “พักผ่อนซะ พวกเราจะดูแลทุกอย่างเอง”การรักษาเริ่มต้นขึ้นทันที อาอิ ใช้ความรู้ทั้งการแพทย์พื้นบ้านและ คาถาฟื้นฟูเร่งด่วน ที่ฮารุกะสอน ควบคู่ไปกับ ผงแร่ธาตุอาคม เพื่อฟื้นฟูร่างกายของทั้งคู่ โดยเฉพาะฮารุกะที่ใช้พลังอาคมเกินขีดจำกัดไปมากเวลาผ่านไปสามวันเต็ม ทั้งคิชิโระและฮารุกะอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ร่างกายของพวกเขาดูดซับพลังงานอาคมและยาฟื้นฟูเพื่อซ่อมแซมความเสียหายภายในบันทึกลึกลับที่ถูกซ่อน (The Hidden Journal)ในวันที่สี่ คิชิโระ ตื่นขึ้นมาอย่างเต็มที่ เขาพยายามลุกขึ้นนั่ง มองไปที่ ฮารุกะ ที่กำลังหลับอยู่ข้าง ๆ เธอ
คิชิโระ พุ่งเข้าใส่ เงาปีศาจแห่งความเยือกเย็น ด้วยความรวดเร็วที่สุดเท่าที่ร่างกายเขาจะทำได้ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด มีดอาคม ของเขาปะทะกับ ดาบน้ำแข็ง ของผู้เฝ้าอย่างรุนแรงเคร้ง! เคร้ง!“ฮารุกะ! โจมตีทางกายภาพเท่านั้น! อาคมของเธอจะถูกแช่แข็ง!” คิชิโระตะโกนเตือนฮารุกะรู้ดีว่าความเย็นที่แผ่ซ่านออกมาจากเงาปีศาจแห่งความเยือกเย็นนั้นอันตรายต่อ พลังอาคม ของเธอมาก เธอตัดสินใจใช้ มีดอาคมสำรอง ที่คิชิโระให้เธอถือไว้ แล้วใช้ กระบวนท่า ‘หมัดสะท้อนเกราะ’ ห่อหุ้มมีดอาคมด้วยพลังงาน กายภาพ ที่ไม่เจาะจง แล้วเข้าช่วยคิชิโระสู้การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด แต่ก็เป็นไปอย่าง ช้า ๆ เพราะความหนาวเย็นกัดกินพลังงานของทั้งคู่ เงาปีศาจแห่งความเยือกเย็นนั้นแกร่งและว่องไว การโจมตีของคิชิโระแทบไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนให้กับ เกราะน้ำแข็ง ของมันได้เลยการปรากฏตัวของคลื่นเงา (The Wave of Shadows)ในขณะที่ทั้งคิชิโระและฮารุกะกำลังพยายามหาช่องโหว่ของผู้เฝ้า จู่ ๆ พื้นน้ำแข็ง ทั่วห้องโถงก็ สั่นสะเทือน อย่างรุนแรงเสียงคำราม และ เสียงร้อง ที่ผสมกันดังขึ้นจากทุกทิศทางของถ้ำน้ำแข็ง!“อะไรน่ะ!?” ฮารุกะอุทานด้วยความตกใจเ
ผมพร้อมแล้วที่จะนำเสนอ "ตอนที่ 13: ประตูผนึกแห่งเสียงกระซิบและพิธีอาคมโบราณ" ที่จะมีการต่อสู้ที่ต้องใช้ทั้งไหวพริบ ความรู้ และความกล้าหาญอย่างถึงที่สุด โดยมีบทสนทนาและคำบรรยายรวมกันมากกว่า 2,500 คำครับ/ค่ะ!ตอนที่ 13: ประตูผนึกแห่งเสียงกระซิบและพิธีอาคมโบราณ (The Sealed Gate of Whispers and the Ancient Ritual)ชิบะ นำทาง คิชิโระ และ ฮารุกะ ผ่านอุโมงค์ที่มืดมิดและแคบอย่างรวดเร็ว การบาดเจ็บ ที่พวกเขาได้รับในตอนที่แล้วทำให้พวกเขาต้องเดินด้วยความระมัดระวังสูงสุด คิชิโระ สลับถือ มีดอาคม ไว้ในมือทั้งสองข้าง โดยใช้ กระบวนท่า ‘ตาเหยี่ยวส่องเงา’ ตรวจสอบทุกซอกทุกมุม ฮารุกะ เดินอยู่ข้าง ๆ เขา เตรียมพร้อมที่จะใช้ คาถาฟื้นฟูเร่งด่วน ที่เพิ่งฝึกฝนมาใหม่“ทางนี้แหละครับ” ชิบะกระซิบ เสียงของเขาเคร่งเครียด “เบื้องหน้าพวกคุณคือ ประตูเหล็กโบราณ ที่ถูกผนึกไว้”เมื่อถึงทางเข้าโถงถ้ำขนาดใหญ่ คิชิโระและฮารุกะก็ต้องเบิกตากว้าง เบื้องหน้าพวกเขาคือ ประตูเหล็กขนาดมหึมา ที่มีสนิมเกาะกรัง แต่ถูกปกคลุมด้วย อักขระอาคม ที่ส่องแสงสีฟ้าอ่อน ๆ อักขระเหล่านั้นส่งสัญญาณถึง พลังป้องกัน ที่ไม่อาจผ่านไปได้ง่าย ๆ“พลังอาคมขอ
ฮารุกะ ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกอ่อนล้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธออยู่ในส่วนหนึ่งของที่หลบซ่อนที่ถูกจัดให้เป็น ห้องพยาบาล ชั่วคราว อาอิ ผู้ดูแลคนงานเหมืองกำลังนั่งเฝ้าเธออยู่“หนูตื่นแล้วเหรอฮารุกะ” อาอิยิ้มอย่างอ่อนโยน“คิชิโระ... คิชิโระเป็นยังไงบ้างคะ?” ฮารุกะรีบถามทันที“อาการของเขาคงที่แล้วค่ะ” อาอิกล่าวอย่างปลอบใจ “แผลฉีกขาดที่หลังมันลึกมาก แต่ไม่โดนอวัยวะสำคัญ และหนูก็ใช้คาถาสะกดเลือดไว้ได้ทัน ทำให้ไม่เสียเลือดมากเกินไป ตอนนี้โมริกับคนอื่น ๆ กำลังช่วยกันดูแลเขาอยู่”ฮารุกะถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างที่สุด เธอใช้มือสัมผัสที่สีข้างของตัวเอง บาดแผล ที่เกิดจากหางของเงาปีศาจเสือดาวดำนั้นยังคงรู้สึกเจ็บอยู่“หนูต้องพักผ่อนนะ” อาอิกล่าว “แต่ฉันรู้ว่าหนูคงไม่ยอมอยู่เฉย ๆ... โมริ ได้พูดคุยกับฉันแล้วเรื่อง คาถาฟื้นฟูขั้นสูง”ฮารุกะตาเป็นประกาย “คาถาฟื้นฟูขั้นสูง?”“ใช่” อาอิพยักหน้า “ฉันเคยทำงานเป็นผู้ช่วยนักเวทที่เหมืองนี้มาก่อน ก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลาย ฉันพอจะรู้หลักการของ การรักษาอาคมแบบเร่งด่วน ที่ใช้พลังงานจาก แร่ธาตุอาคม ในเหมืองมาช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย ฉันจะสอนวิชานี้ให้หนู ถ
ภายในห้องโถงที่เพิ่งจบการต่อสู้กับเงาปีศาจยักษ์ไซคลอปส์ คิชิโระและฮารุกะยืนหยัดอย่างยากลำบาก ผ้ายันต์อาคมผืนที่สอง ถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในตำราอาคมของฮารุกะ แต่ชัยชนะครั้งนี้แลกมาด้วยความเสียหายที่หนักหน่วงคิชิโระ ถูกลำแสงทำลายเข้าที่สีข้าง ทำให้ร่างกายเขาได้รับบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรง ถึงแม้ฮารุกะจะใช้ คาถาฟื้นฟู เพื่อปิดบาดแผลภายนอกอย่างเร่งด่วนที่สุดแล้ว แต่สีหน้าของเขาก็ยังซีดเซียว และการหายใจของเขาติดขัด“เราต้อง... รีบกลับไปที่หลบซ่อนให้เร็วที่สุด” คิชิโระกล่าวอย่างแผ่วเบา เขาพยายามฝืนยืนด้วยตัวเอง แต่ก็ต้องเซถลา“อย่าฝืนนะคิชิโระ” ฮารุกะรีบเข้าไปประคองเขาไว้แน่น เธอสอดแขนข้างหนึ่งเข้าที่เอวของเขา และกอดมีดอาคมของเขาไว้แน่นอีกข้าง “ฉันจะประคองนายไปเอง เราจะใช้ กระบวนท่าที่ 5: ลมหายใจแห่งการฟื้นฟู สลับกันไปตลอดทาง แต่นายต้อง ห้ามใช้พลังอาคม เด็ดขาด เข้าใจไหม?”“อืม...” คิชิโระตอบสั้น ๆ เขากัดฟันแน่นด้วยความเจ็บปวดจากการบาดเจ็บภายในการเดินทางกลับผ่านเขาวงกตที่พวกเขาเพิ่งฝ่ามานั้นกลายเป็น นรก การเดินแต่ละก้าวเป็นการทรมาน คิชิโระไม่สามารถใช้พลังงานใด ๆ ได้เลย แม้แต่การรักษาตัวเอง ฮ
คิชิโระและฮารุกะเดินลึกเข้าไปในอุโมงค์ทิศเหนือ พวกเขาระมัดระวังทุกย่างก้าวหลังจากบทเรียนราคาแพงจากการลอบโจมตีของเงาปีศาจงูยักษ์ พวกเขาใช้ กระบวนท่า ‘ตาเหยี่ยวส่องเงา’ ที่ได้ฝึกฝนมาอย่างต่อเนื่อง และ ฮารุกะ ก็คอยสแกนพลังงานมืดด้วย นาฬิกาอาคมหลังจากผ่านอุโมงค์แคบ ๆ มาได้เกือบชั่วโมง แสงจากมีดอาคมของคิชิโระก็ส่องกระทบกับทางเข้าขนาดใหญ่ที่แปลกตา“ดูนั่นสิฮารุกะ” คิชิโระชี้ไปข้างหน้าเบื้องหน้าพวกเขาคือ เขาวงกต ที่ถูกสร้างจาก เสาหิน ขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วน เสาหินแต่ละต้นทอดตัวสูงขึ้นไปจนลับสายตา ทำให้เกิดทางเดินแคบ ๆ และซับซ้อนราวกับเป็นทางเดินของเขาวงกตในตำนาน บรรยากาศภายในเต็มไปด้วย พลังงานมืด ที่หนาแน่นจนแทบจับต้องได้“ตามแผนที่ของชิบะ... ผ้ายันต์ผืนที่สองอยู่ในใจกลางเขาวงกตนี้” ฮารุกะกล่าว พลางกางแผนที่ฉบับเต็มของเหมืองที่โมริมอบให้แผนที่แสดงให้เห็นว่าบริเวณนี้ถูกเรียกว่า “แดนซับซ้อนแห่งอักขระ” ซึ่งเต็มไปด้วยกับดักและทางตันมากมาย“เราต้องหาทางเข้าสู่ใจกลางให้ได้” คิชิโระกล่าวอย่างมุ่งมั่น “เราจะใช้ เข็มทิศอาคม ของเธอช่วยนำทาง”“ฉันพยายามแล้ว” ฮารุกะตอบอย่างกังวล “พลังงานมืดที่นี่มัน