Share

บทที่ 1 : คำสาป 4

Author: persiA99
last update Last Updated: 2025-08-27 23:10:35

______________

“บลู ชื่อของเธอนี่แปลกจัง”

“...ชื่อ****เองก็แปลกเหมือนกันนั่นแหละ”

“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ ชื่อนี้แม่อุตส่าห์คิดให้เราตั้งนานเลยนะ”

“....”

“เงียบอีกแล้ว เราคุยคนเดียวเยอะๆ ก็เหนื่อยนะ”

“...ก็ เธอพูดไม่หยุดเลยนี่”

“... ฮ่า ฮ่า ฮ่า เธอนั่นแหละที่พูดน้อย ระวังโตไปจะไม่มีคนมาจีบนะ”

“...........เรื่องของฉัน”

______________

...อึ อืม...

...ฝันหรอ

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตอันเลือนราง ฉันกำลังต่อล้อต่อเถียงกับเด็กสาวช่างจ้ออีกคน ชื่อของเธอน่าจะนามว่า “แกรด” ใบหน้าของเธอนั้นฉันจำไม่ได้เป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว ที่พอจำได้อยู่บ้างคือเธอพูดไม่หยุดจนฉันหงุดหงิดอยู่บ่อยครั้ง

...ฉันไปรู้จักคนแบบนั้นตั้งแต่ตอนไหนกันนะ คงเป็นหลายครั้งที่ฉันเข้าเมืองพร้อมกับพ่อแม่รึเปล่า

ถึงอย่างนั้นฉันกลับรู้สึกแปลกตรงกลางอก มันอบอุ่นและเจ็บปวดพร้อมๆ กันอย่างบอกไม่ถูก ถึงจะไม่เข้าใจว่ามันหมายความว่าอะไร ...แต่ฉันเกลียดมัน เกลียดความรู้สึกที่อธิบายด้วยหลักการไม่ได้นี้

“กลับเข้าบ้านดีกว่า”

นึกได้ดังนั้นเด็กสาวก็เอื้อมมือไปเก็บกล่องข้าวเปล่าใส่กระเป๋า ส่วนคทายาวก็ถูกเช็ดและทำความสะอาดอย่างผ่านๆ ก่อนจะวางใส่ลงบนกระเป๋าสีดำใบเดิม

ฟืบบบ ต๊อก ต๊อก

เด็กสาวก้าวเท้าออกจากป่าอย่างไม่รีบร้อนโดยทิ้งซากพื้นดินที่ถูกใช้ทดสอบเวทมนตร์ไว้เบื้องหลัง

...

“พร้อมนะลูก”

“ค่ะแม่”

สัมภาระทั้งหมดของฉันถูกเตรียมใส่ในกระเป๋าลากหลายใบ ของมากมายสำหรับการเริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่ในสถานที่ซึ่งไม่คุ้นเคย

ความกังวล ความคิดว่าจะใช้ชีวิตที่นั่นได้ไหม การหาเพื่อนใหม่ ทั้งหมดมันปนเปอยู่ในหัวตลอดหนึ่งเดือนที่ฉันตัดสินใจย้ายตัวเองไปยังเมืองหลวงอันห่างไกล

การเดินทางในโลกแห่งนี้ยังถือเป็นเรื่องยากลำบาก เรือ สิ่งอำนวยความสะดวกที่ใช้เดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก

แล้วถ้าสถานที่นั้นไม่มีน้ำล่ะ?

สิ่งนั้นไม่จำเป็นหรอกสำหรับโลกแห่งนี้ เรือในความหมายของเราคือสิ่งที่ใช้เดินทางบนอากาศ โบยบินไปอย่างอิสระด้วยเวทมนตร์ธาตุลมซึ่งคอยขับเคลื่อนวัตถุ

เพียงมีมนุษย์ที่ใช้เวทมนตร์ธาตุลมได้อย่างคล่องแคล่ว เรือไม้ที่มีทั้งห้องดาดฟ้า เสากระโดงเรือ ห้องนอนและห้องเก็บของในชั้นล่าง น้ำหนักรวมตัวเรือที่มากเกินกว่าจะยกด้วยแรงคนหลายร้อยคนก็เป็นไปได้ สำหรับเรือของครอบครัวเชอร์โนบ็อก ชายแก่สองคนที่อยู่รับใช้ตระกูลของเรามานานจะเป็นคนคอยพาพวกเราไปยังที่ต่างๆ ทั้งสองจะสลับกันขับเรือและพักผ่อนตามเวลาที่เท่ากันภายในห้องคนขับที่แยกออกจากพวกเราอีกที

ฟูววว

เราสามคนยืนอยู่ตรงลานกว้างหน้าบ้าน ด้านหลังของเรามีเหล่าเมดมากมายออกมายืนรออำลาฉันกันยกใหญ่

พื้นปูนกว้างหน้าบ้านถูกสร้างขึ้นสำหรับใช้วางหรือจอดวัตถุขนาดใหญ่ ไม่นานสิ่งที่เราสามคนกำลังรอก็เคลื่อนมาจากด้านหลังของฉัน

โรงเก็บเรือซึ่งตั้งอยู่ในโกดังหลังบ้าน ภายในมีเรือไม้ขนาดใหญ่พอให้คนประมาณห้าคนใช้ชีวิตกันได้อย่างไม่อึดอัด

ฟูววว

เรือไม้ค่อยๆ ลงจอดบนพื้นปูนเบื้องหน้าของฉันพร้อมกับชายแก่คนหนึ่งที่เดินลงมาต้อนรับพวกเราอย่างสุภาพ

เสากระโดงที่เก็บพับใบเรือเอาไว้จะถูกใช้ในตอนที่ลมแรงและพัดไปในทิศทางเดียวกับที่หมายของเรา

“ผมทำความสะอาดทั้งภายนอกภายในแล้วก็เตรียมของใช้จำเป็นไว้ให้แล้วครับ เชิญด้านในเลย”

“ขอบคุณนะครับ”

ด้านท้ายของเรือจะมีประตูอยู่หนึ่งบานเพื่อใช้เป็นทางเข้าไปยังภายใน หากมองโดยไม่คิดถึงรูปลักษณ์ของมัน สิ่งนี้ก็เหมือนบ้านหลังเล็กหลังหนึ่งที่ภายในมีทั้งห้องนอนห้องน้ำห้องอาหารครบครัน หรือแม้แต่ดาดฟ้า สถานที่ซึ่งเป็นที่โปรดของบลูเองก็ยังมี

เรือไม้พร้อมออกเดินทางในทันทีที่ข้าวของถูกวางเก็บเป็นที่เรียบร้อยและเราได้มีการตรวจสอบของกันอีกรอบอย่างละเอียด

“เรียบร้อยแล้วค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้น ...ผมจะเริ่มทำการออกเดินทางแล้วนะครับ”

“ค่ะ รบกวนด้วย”

พรึบ!

ทั้งพ่อบ้านและแม่บ้านทั้งหมดที่ยืนเรียงแถวหน้ากระดานต่างก้มหัวโค้งคำนับให้เราทั้งสามกันอย่างพร้อมเพรียง ฉันมองพวกเขาจากหน้าต่างภายในห้องนอนขนาดเล็กพลางหวนคิดถึงเรื่องในอดีตที่มีต่อคนพวกนี้

ฟูวววว

...

ความรู้สึกถึงเครื่องยนต์ที่กำลังทำงานแม้จะเป็นความรู้สึกที่เบาบางก็ตามที เรือลำนี้กำลังลอยขึ้นเหนือพื้นดินอย่างช้าๆ

ภาพของเมดมากมายและบ้านหลังใหญ่ค่อยๆ ถูกกดต่ำและเล็กลงเรื่อยๆ

สายตาของฉันเหม่อลอยเมื่อได้ดูภาพเบื้องหน้า กว่าจะรู้ตัว เรือลำนี้ก็บินขึ้นเหนือพื้นดินจนถึงจุดที่พร้อมจะเคลื่อนไปข้างหน้าแล้ว

...

“กว่าจะได้กลับมาที่นี่ก็ช่วงปิดเทอมเลยหรอ?”

ฉันพูดพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจเมินหน้าหนีออกจากหน้าต่างบานเล็ก

...เห้อ

กลางดึกของคืนแรกบนเรือไม้ลำหรู อากาศด้านนอกที่หนาวเหน็บ ลมแรงพัดไปมาตามความเร็วที่เรือเคลื่อนที่ เด็กสาวคนหนึ่งกำลังยืนเกาะขอบข้างเรืออยู่คนเดียวเงียบๆ

ในมือของเธอถือแก้วโกโก้ที่ถูกชงจนหวานตามรสนิยมของเธอ

บลูก้มหน้าลงมองภาพของผืนป่าด้านล่างพลางยกเครื่องดื่มในมือขึ้นจิบเป็นทีๆ

แสงไฟที่มีให้เห็นบนพื้นดินอันกว้างใหญ่ หากพวกมันรวมกันเป็นแสงขนาดใหญ่ นั่นหมายถึงตรงนั้นคือเขตชุมชนใหญ่ แต่ส่วนมากภาพที่เด็กสาวเห็นมักจะเป็นผืนป่ามืดๆ ที่มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมจนมองแทบไม่เห็นพื้นเบื้องล่าง

เวลาในการเดินทางจากบ้านไปจนถึงโรงเรียนใหม่อาจกินเวลาไปถึงห้าวัน แต่ถ้าระหว่างการเดินทางดันเกิดฝนฟ้าไม่เป็นใจจนเรือต้องทำการลงจอด เวลาในการไปถึงที่หมายก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก

เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอากาศในวันต่อไปจะเป็นอย่างไร ทำได้แค่อาศัยความเหมาะสมในการเดินทางตามช่วงฤดูเพียงเท่านั้น

สองวันที่ผ่านมา ค่ำคืนบนเรือที่ถูกมองผ่านดวงตาของฉันยังคงเป็นเหมือนเดิม ท้องฟ้าโปร่งใส อากาศที่หนาวชื้นตามปกติ ดาวประกายสว่างไสวทั่วฟ้าดั่งเช่นปกติ

ในตอนนี้เรือไม้ลำนี้คงอยู่แถวๆ เมืองมาร์ติน ผ่านเมืองนี้ไปก็จะเจอกับเมืองมิชก้าและจบลงที่เซอร์เมีย

...นั่นเท่ากับว่าการเผชิญหน้ากับความจริงของฉันกำลังเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อย

หัวใจที่ถูกบีบจนทรมาน ความหน่วงกลัวว่าหนทางข้างหน้าจะไปได้ไม่ดี สำหรับคนที่ไม่ชอบการเข้าสังคมอย่างฉัน เรื่องพวกนี้ ...ฉัน ...เกลียดการเปลี่ยนแปลงพวกนี้จริงๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Acacia Academ : ความลับของเราสองและทำนองต้องสาป   บทที่ 15 : คำเฉลย 64

    บทที่ 15 : คำเฉลยฟรุบ!เช้าวันหนึ่งขณะที่ฉันกับแฟนสาวกำลังงัวเงียกันอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น จู่ๆ เมเจียร์ก็เดินออกมาจากห้องนอนด้วยสีหน้าตาเหลือกตาพอง“ข้าขอโทษ!”ทันทีที่พวกเราอยู่ในระยะสายตาของเด็กสาว เธอตะเบ็งเสียงออกมาลั่นบ้านพร้อมกับรีบขยับตัวมาใกล้ก่อนจะโค้งหัวลงขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่“อะไรหรอ?”ฉันสะดุ้งเฮือกตกใจจนต้องรีบถามไถ่เธอว่ามันเกิดอะไรขึ้น“ข้าถูกดุมาน่ะสิ”“เอ๊ะ!? จากใครหรอ? แล้วไปโดนว่ามาตอนไหน!?”“บ บลู ...ใจเย็นๆ แล้วรอเธอเล่าก่อน”“...โทษทีๆ”ฉันชวนเมเจียร์มานั่งข้างๆ เพื่อให้เธอตั้งสติก่อนจะรับฟังเรื่องเล่าของเธอ“เมื่อคืนข้าแอบออกจากบ้านแล้วไปเดินสำรวจโรงเรียนตอนกลางคืนคนเดียว ข้าตรงไปที่สวนหลังโรงเรียนก่อนจะเห็นหญิงสาวนางหนึ่งนั่งเงียบๆ อยู่บนศาลาที่ไร้ผู้คน”...ตอนกลางดึกเนี่ยนะ______ต๊อก ต๊อก ต๊อกสูดดด...เด็กสาวร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามค่ำคืนก่อนจะสูดลมเข้าไปเต็มปอดเพื่อสัมผัสอากาศบริสุทธิ์“เป็นอีกคืนที่น่าพึงใจเช่นเคย”เมเจียร์พึมพำกับบรรยากาศขณะที่ขาของเธอก้าวต่อไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย“...งืม งืมมมม”เสียงบางอย่างสั่งให้เด็กสาวหยุดชะงักก่อนจะ

  • Acacia Academ : ความลับของเราสองและทำนองต้องสาป   บทที่ 14 : คำถาม 63

    “สงสัยครับ! เธอบอกว่าเธอเป็นคทามาก่อน งั้นแสดงว่าเธออายุมากกว่าเราหรอ?”ชายหนุ่มนักเสี้ยมประจำห้องยกมือไต่ถาม“ถูกต้อง แต่ความคิดความอ่านของข้าค่อนข้างล้าหลังกว่าพวกเจ้าหลายร้อยปี”เด็กสาวก้มหน้าหลบสายตาด้วยความเขินอาย ทว่าท่าทีแบบนั้นกลับทำให้คนในห้องเอ็นดูและสนใจตัวเธอมากขึ้นทันที หลายคนเริ่มยกมือเพื่อชวนเธอคุยหรือถามไถ่เมเจียร์ถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เคยเจอหรือเคยสัมผัสมาพรึบ พรึบ พรึบ!“นักเรียนๆ ทีละคนนะๆ เริ่มจากเธอก่อนเลย”อาจารย์ประจำวิชาค่อยๆ จัดแจงคนถามทีละคน เขาชี้ไปที่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ติดประตูทางออกคนจะเปิดโอกาสให้ชายผู้นั้นถามเป็นคนแรก“ครับ! ในมุมมองของสัตว์วิเศษ มนุษย์คืออะไรสำหรับพวกเขา?”“พวกสัตว์มองว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่พร้อมทำลายระบบนิเวศ เป็นภัยที่ควรอยู่ให้ห่างและพวกเขาระรานทุกสิ่งอย่างโดยไม่ตริตรองสิ่งใดสักอย่าง”“...”เพียงคำตอบแรกจากเด็กสาวก็สร้างความตะลึงให้เพื่อนในห้องจนทุกคนเงียบไม่กล้าถามอย่างอื่นต่อ“ต่อไปตาเธอถามมาเลย”ชายแก่ชี้ไปที่ชายหนุ่มคนที่สองก่อนจะคะยั้นคะยอให้เขาถามคำถาม“ศะ ศัตรูที่คิดว่าต่อกรด้วยยากที่สุด”“ถ้าไม่นับมังกรที่เป็นของตายอยู่แล

  • Acacia Academ : ความลับของเราสองและทำนองต้องสาป   บทที่ 14 : คำถาม 62

    “ตอนนี้ไม่มีนักเรียนอยู่ในโรงเรียนเลยใช่มั้ย?”“คิดว่าน่าจะมีแค่เราสองคนกั-”“ “เอ๊ะ?” ”พอกำลังจะพูดถึงอีกสองคนที่เหลือพวกเธอก็โผล่มาพอดีระหว่างที่กำลังเดินอยู่บนทางเท้า จู่ๆ ฉันก็ได้เจอกับลูอาแล้วก็อัสลินพอดี ทั้งสองดูเหมือนกำลังจะออกไปข้างนอกกัน“พอดีเมืองหลวงตอนนี้ยังไม่พร้อมสำหรับต้อนรับคนสักเท่าไหร่ พวกเราเลยว่าจะออกไปซื้อของที่หมู่บ้านเล็กๆ อีกที่แทน ทั้งสอ...สามจะไปด้วยกันมั้ย?”อัสลินเอ่ยปากชวนพวกเราโดยที่สายตาของเธอให้ความสนใจกับเด็กสาวที่ติดสายห้อยตามฉันมาเป็นพิเศษ...จะว่าไปของตู้เย็นเราก็หมดแล้วนี่ ที่มีอยู่คือข้าวสารที่พึ่งทำข้าวต้มหมดไปเมื่อเช้า“งั้น ...เราไปด้วยนะ”“โฮ้!...”เด็กสาวส่ายตามองบริเวณรอบๆ อย่างตื่นเต้นจนตาเป็นประกายขณะที่เราทั้งห้ากำลังนั่งอยู่บนเกวียนลากเล่มใหญ่เป้าหมายคือการมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านอีกแห่งที่ตั้งอยู่ทางเหนือของโรงเรียน ตามที่อัสลินเล่า ในตอนนี้มันกลายเป็นสถานที่ค้าขายชั่วคราวในช่วงที่เมืองหลวงกำลังฟื้นฟู“เข้าใจแล้ว ถึงไม่เห็นไม้คทาติดตัวบลูนี่เอง”“แล้วแบบนี้บลูจะใช้เวทมนตร์ยังไงหรอ? ต้องซื้อไม้ใหม่ ...คงต้องสร้างขึ้นมาใหม่เลยสินะ”“ฉันไ

  • Acacia Academ : ความลับของเราสองและทำนองต้องสาป   บทที่ 14 : คำถาม 61

    “...?”แปลกแต่จริง เราสามคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน เด็กสาวตัวเล็กนอนคั่นอยู่ตรงกลางระหว่างฉันกับแกรด ใบหน้าของเธอตอนหลับช่างดูจิ้มลิ้มน่าเอ็นดู“รู้สึกเหมือนเรากำลังเลี้ยงเด็กอยู่เลย”แกรดซึ่งกำลังเข้าที่นอนค่อยๆ ยกหัวขึ้นมือเท้าคางก่อนจะยิ้มละมุนให้เมเจียร์และหันมาชวนฉันคุย“แต่ถ้าดูจริงๆ เด็กคนนี้แก่กว่าเราเป็นพันปีเลยเนอะ”“นั่นก็จริง ...แต่เรารู้สึกเหมือนกำลังเลี้ยงลูกอยู่เลย”“แกรดอยากมีลูกหรอ?”“ฮืม ...ไม่รู้สิ เราไม่เคยคิดเรื่องนั้นเลย”“...”“รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ ถ้าถึงตอนนั้นเราทั้งคู่อยากจะมีจริงๆ จะไปหาเด็กน่ารักๆ สักคนจากศูนย์รับเลี้ยงเด็กกำพร้าก็ไม่เสียหายนะ”“...อืม”เอาล่ะเอาล่ะ นอนกันเถอะ เรารู้สึกว่าพรุ่งนี้จะต้องเหนื่อยเป็นสองเท่าแน่กริ๊ง กริ๊งแสงแดดส่องกระทบผ่านหน้าต่างที่เปิดอ้ารับลมไว้ตลอดคืน ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนจะพบผ้าห่มถูกคลี่ออกอย่างไม่เป็นระเบียบพร้อมกับร่างของเมเจียร์ที่หายไป...เมเจียร์ฉันมั่นใจว่าเรื่องเมื่อคืนไม่ใช่ฝัน ขาของฉันก้าวออกมาจากเตียงนอนก่อนจะเดินสำรวจรอบบ้านเพื่อตามหาเธอแอ๊ดด...“...”“...อยู่นี่เอง”...ไม่ใช่ฝันจริงๆ ด้วยฉันเปิดประตูหน้าบ

  • Acacia Academ : ความลับของเราสองและทำนองต้องสาป   บทที่ 14 : คำถาม 60

    ค่ำคืนแห่งความชื่นมื่นควรจะผ่านไปด้วยดี ทว่าหลังจากที่เราอาบน้ำกันเสร็จแล้วเตรียมตัวเข้านอน“ “?” ”ทั้งสองรับรู้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติข้างนอกบ้าน“แอ๊ดดด...”“เอ๊ะ!?”ประตูบ้านถูกเปิดอย่างระมัดระวัง...เด็กสาวในฝันหญิงวัยแรกรุ่นผมสีฟ้าสง่าผู้นั้นปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าฉันและแกรด เธอยืนรอพวกเราพลางเดินวนไปวนมาในสวนอย่างเริงร่า“อะ! กว่าจะรู้สึกตัว ทำอะไรกันอยู่หรอ?”“อ อา พวกเรากำลังจะเข้านอนน่ะค่ะ”แกรดตอบคำถามของเด็กสาวอย่างสับสน...ดาดฟ้านี่มันขึ้นมาง่ายขนาดนี้เลยรึไงกัน?“แกรด ...นี่คือเทพธิดาที่ฉันเล่าให้ฟัง”“เอ๊ะ!? ขอโทษที่เสียมารยาทไปเมื่อครู่นะคะ”“ไม่เป็นไรๆ เราโผงผางเข้ามาที่นี่เอง ...ดูท่าแผลจะใหญ่เอาการเลยนะ”เด็กสาวมองมือที่กำลังกุมท้องเอาไว้หลวมๆ ก่อนเธอจะทำบางอย่าง เทพธิดาเดินเข้ามาใกล้ฉันก่อนจะขอแตะที่แผลเบาๆ เกิดแสงอ่อนบนปลายมือของเธอจู่ๆ ก็เหมือนความเจ็บปวดทั้งหมดหายไปเป็นปลิดทิ้ง ฉันลองยกเสื้อขึ้นดูก่อนจะพบว่ารอยแผลทั้งหมดได้หายไปแล้ว“ “...!?” ”“พลังของเทพธิดาน่ะ ...”“คุณมาที่นี่ทำไมหรอคะ?”...ฉันมั่นใจว่าเธอไม่ใช่แค่ลงทุนมาที่นี่เพื่อแค่ทำให้แผลหายเท่านั้นแน่“ส่ง

  • Acacia Academ : ความลับของเราสองและทำนองต้องสาป   บทที่ 14 : คำถาม (NC) 59

    บทที่ 14 : คำถามแอ๊ด...กลิ่นของแผ่นไม้ในห้องรับแขกที่คุ้นเคย ห้องนอนและห้องครัวซึ่งเต็มไปด้วยความทรงจำมากมายของเราทั้งสองพวกเรากลับมาถึงบ้านบนดาดฟ้าแล้วแม้จะมากันแค่ตัวเปล่าก็ตามที เสื้อผ้าข้าวของทั้งหมดจะถูกส่งตามมาทีหลังและแน่นอนว่าความเก็บกดของเราก็พร้อมจะปะทุออกมาทันทีที่ประตูบ้านถูกปิดลงแขนของฉันถูกดึงลากเข้าไปในห้องนอนทันทีฟรุบ...แกรดถอดเสื้อผ้าของเธอออกจนหมดตัวก่อนจะเร่งรีบทิ้งร่างอันเปลือยเปล่าลงบนเตียงเรียบ“...บลู”เธอมองมาที่ฉันด้วยแววตาอันโหยหาพร้อมกับดึงมือฉันเข้าไปแตะกับกลีบดอกกุหลาบสีสดของเธออย่างรวดเร็ว“น นี่! ใจร้อนจัง”...แต่มันก็แฉะไปหมดแล้วนี่?“ตอนอยู่ที่บ้านบลูเราก็อดทนมาตลอดเลยนะ ถึงจะมีบางครั้งที่เกือบจะเผลอลักหลับเธอก็เถอะ แฮะ แฮะ”“อะ เอิ่ม ขอบคุณที่อดทนนะคะ”“งั้นตอนนี้ก็ให้รางวัลเราหน่อยสิ”“จ้าๆ คุณหนู”นิ้วที่กำลังเล่นซุกซนอยู่กับน้องสาวของแกรดกำลังได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นฉันลูบคลำส่วนนั้นตามที่เด็กสาวเฝ้ารอพร้อมกับดึงใบหน้าอีกฝ่ายเข้ามาจูบอย่างดูดดื่มตามที่ใจของทั้งสองต้องการ“อื้มห์”เด็กสาวเงยหน้ารับจูบจากฉันก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปในช่องปากของก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status