12
ก็ตรงสเปกดี 2 วันต่อมา ดวงตากลมโตเหลือบมองตนเองผ่านกระจกภายในห้องนอนก่อนจะเอื้อมมือแตะลงบนรอยแดงที่คอตนเองเบา ๆ รอยดูดเริ่มจางลงแล้วคงไม่มีใครสังเกตเห็น เมื่อมองสังเกตร่างกายตนเองเรียบร้อยร่างเล็กในชุดนักศึกษาก็เดินออกมาจากห้องเพื่อออกมารอรถเมล์ที่หน้าซอยเข้าหอของตน รอไม่นานรถเมล์สายประจำทางก็เลื่อนมาจอด เท้าเรียวเล็กบนรองเท้าผ้าใบสีขาวคู่ใจก้าวเดินขึ้นไปแล้วมองหาที่นั่ง ก่อนที่เธอจะเลือกนั่งติดริมหน้าต่างตรงเกือบท้ายรถ กอหญ้าหยิบหูฟังออกมาจากกระเป๋าสะพายข้างแล้วเสียบกับโทรศัพท์เปิดเพลงฟังทันที สายตาก็คอยทอดมองไปยังนอกกระจกรถเมล์ไปด้วย ผู้คนมากมายต่างทยอยกันเดินขึ้นมาบนรถ เมื่อรถจอดตามป้ายต่าง ๆ กระทั่งคนเต็มทั้งคัน ใช้เวลาเดินทางไม่นานมากก็เดินทางมาถึงมหาลัย กอหญ้าหยิบเงินเหรียญออกมาจ่ายตังค์ให้กับกระเป๋ารถเมล์ก่อนจะเดินเบียดกับผู้คนลงมาตรงประตูทางออกท้ายรถ นักศึกษาที่ลงตรงหน้าป้ายคาบาเรียลมีเพียงกอหญ้าเพราะคนอื่นล้วนขับรถส่วนตัวของตนเองมาหมด พอลงมาจากรถร่างเล็กก็เดินเข้ามาในมหาลัยและตรงดิ่งไปยังคณะของตนเอง ซึ่งทุกการก้าวเท้าเดินของเธอก็มีสายตาของเหล่านักศึกษาคอยมองอยู่เป็นระยะ มองแล้วแอบซุบซิบกันจนทำเอาเธอแปลกใจไม่น้อย แต่กอหญ้าก็ไม่ได้สนใจอะไรเดินตรงมายังตึกเรียนของตนเองและขึ้นไปบนห้องเรียนทันที มือเล็กเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปข้างในก็เห็นกลุ่มเพื่อนมาถึงก่อนแล้ว “ทางนี้กอหญ้า” นินิวเอ่ยเรียก กอหญ้าจึงเดินเข้าไปหา เธอนั่งอยู่ข้างเมษา ส่วนควีนและนินิวนั่งด้วยกัน “ทำไมแกมาสายจัง” “สายหรอ ไม่เห็นจะสายตรงไหนเลย” กอหญ้าตอบเมษาแล้วหย่อนตัวนั่งลงที่นั่งของตนเอง “นี้กอหญ้า แกเดินเข้ามาในคณะมีใครมองแกแปลก ๆ ป่ะ” นินิวหันหน้ามาเม้าท์มอย “อื้อ ทำไมหรอ” “อย่าบอกนะว่ายังไม่รู้เรื่อง” ควีนพูด “ไม่อ่ะ หมายถึงเรื่องอะไร” “แกจำวันเชียร์กลางได้ป่ะ ที่พี่เจคเอาเสื้อช็อปให้แกใส่อ่ะ แล้วมันก็มีคนถ่ายรูปจนกลายเป็นข่าว” เมษาเล่าแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมาพร้อมกับเปิดข่าวจากเพจของมหาลัยขึ้น แต่ปรากฏว่าข่าวมันถูกลบไปแล้ว “อ้าว ข่าวถูกลบไปแล้วอ่ะ” “ข่าวประมาณไหนหรอ” กอหญ้าถามออกไปด้วยความสงสัย หรือนี่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้แบดซ์มาหาเรื่องเธอ คงใช่ละมั้ง… “ก็ประมาณว่าแกกับพี่เจคเป็นมากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้องในคณะ มีทั้งพวกที่แอบจิ้นแกกับพี่เขา แล้วก็มีพวกแฟนคลับที่ไม่ชอบด้วย” ควีนพูด ทำให้ใบหน้าเรียวใสพยักหน้าตอบเบา ๆ เธอไม่รู้ว่าควรตกใจดีไหมเพราะว่าตอนนี้ข่าวมันก็ถูกลบออกไปแล้ว อีกอย่างก็โดนคนใจร้ายรังแกไปแล้ว ถึงรู้ก็ย้อนกลับไปทำอะไรไม่ได้ “เรื่องมันผ่านมาแล้ว เราห้ามความคิดคนไม่ได้หรอก อย่าไปสนใจเลย พวกแกก็รู้ว่าเรากับพี่เจคไม่มีทางเป็นมากกว่ารุ่นพี่กับรุ่นน้องในคณะแน่นอน” กอหญ้าเลือกที่จะตอบบ่ายเบี่ยงออกไปเพราะเธอรู้ดีอยู่แก่ใจว่าตนเองบริสุทธิ์ แล้วก็คงทำให้ถูกใจใครไม่ได้ แค่ใช้ชีวิตไม่ให้ลำบากในแต่ละวันก็พอ “นั่นหน่ะสิ พี่เจคเขาดังจะตายอย่าให้มีข่าวกระแสอะไรกับเพื่อนเราเลย มันไม่ใช่ผลดีหรอก” เมษาพยักหน้าเห็นด้วยแล้วหลังจากนั้นบทสนทนาระหว่างกลุ่มเพื่อนก็เงียบลงเพราะตอนนี้เหล่านักศึกษาในเซคเดียวกันก็เข้ามาภายในห้องเรียนเยอะมากแล้ว และการเข้ามาของแต่ละคนก็ไม่วายที่จะมองมาที่กอหญ้าแต่เธอก็ไม่ได้เก็บสายตาพวกนั้นมาใส่ใจ … ตกเย็นในวันเดียวกัน ภายในห้องชมรมดนตรีมีร่างของแบดซ์และเจคนั่งอยู่ด้วยกันสองคน สาเหตุก็เพราะว่าเพื่อนในแก๊งต่างแยกย้ายกันกลับไปหมดแล้ว “วันนี้มึงได้เอาเสื้อช็อปมาคืนกูมั้ย” แบดซ์เอ่ยถามออกไปพลางกระดกกระป๋องเบียร์เข้าปาก พวกเขามักมีเบียร์กระป๋องติดตู้เย็นเอาไว้ในห้องชมรมเสมอ ซึ่งมหาลัยปกติก็คงทำไม่ได้แต่นี่เป็นแก๊งเด็กมีอิทธิพลที่มาอยู่รวมตัวกันการทำผิดกฎอะไรหลายๆ อย่างจึงไม่มีใครกล้าว่าหรือกล้าขัดอะไร แม้แต่อาจารย์ก็ไม่กล้า “เอามา รอแป๊บ” เจคตอบแล้วเดินไปคว้ากระเป๋าแล้วหยิบเสื้อช็อปของแบดซ์ออกมาพร้อมกับโยนลงบนตักเพื่อนส่ง ๆ “กูมีไรอยากถามหน่อย” “ว่ามาดิ” เจคตอบแล้วทิ้งตัวนั่งลงที่เดิม “มึงจริงจังกับยัยนั่นหรอ” “หมายถึงใคร น้องกอหญ้า ?” “อืม” “ถามทำไม” “กูอยากรู้ไม่ได้เลยรึไง” แบดซ์ตอบออกไปแบบไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่นัก “น้องมันตรงสเปกดี” “….” แบดซ์เงียบ รอบก่อนบอกกอหญ้าน่ารัก รอบนี้บอกตรงสเปก ก็คงจะไม่เล่น ๆ แล้ว “ก็แค่อยากเอา ไม่ได้คิดจริงจัง แต่ถ้าไปกันรอดก็อาจจะจริงจัง” “อืม” “ทำไม หรือมึงก็ชอบกอหญ้า” เจคหรี่ตาถาม “เปล่า กูไม่ได้อยากมีใครตอนนี้” “แล้วแพมมี่ คืออะไรวะ” “คู่นอนขาประจำไง” แบดซ์ตอบออกมาเสียงเรียบ เขาเป็นคนไม่ค่อยชอบยุ่งกับใครเท่าไหร่นักแต่จะยุ่งบ้างบางครากับคนที่สนใจและอยากเอาจริง ๆ และแพมมี่ก็เป็นคนคนนั้น ไม่ถึงขั้นว่าจะเอามาคบเป็นแฟนแต่ก็อยู่ระหว่างสถานะคู่นอนและคนคุยถ้าดีก็ไปต่อถ้าไม่ดีก็หยุด “แต่มึงเองก็ดูสนใจน้องไม่น้อยเลยนะ เคยรู้จักกันมาก่อนรึเปล่า” “รุ่นน้องตอนเรียนมอปลาย เคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน” และแน่นอนว่าแบดซ์ไม่ยอมบอกความจริงออกไป เขาไม่ยอมแสดงท่าทีออกไปหรอกว่าตนเองเคยเป็นแฟนเก่ากับกอหญ้า กับผู้หญิงแบบนั้นขึ้นชื่อว่าเคยคบก็อายไปถึงไหนต่อไหน สั่งสอนตอนอยู่ลับหลังคนอื่นก็พอ “ถ้าแบบนั้นก็ดี” “แล้วเรื่องข่าวมึงเคลียร์แล้วใช่ไหม” “ผู้จัดการกูเคลียร์ให้ เรียบร้อยหมดแล้ว” “เซฟตัวเองด้วย” “รู้แล้วหน่า” เจคตอบออกมาแบบติดเล่นพลางเขี่ยหน้าจอโทรศัพท์ในมือเล่นไปด้วย และในตอนนั้นเอง.. “สองหนุ่มคุยอะไรกันอยู่เอ่ย” เสียงของแพมมี่ก็เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับร่างสวยที่เดินเข้ามาในห้องชมรม แพมมี่สวมชุดนักศึกษารัดรูป หุ่นสวย ใบหน้าดูแรงและออกทางเซ็กซี่ เธอเรียนอยู่คณะบริหาร เป็นดาวของคณะ “เรื่อยเปื่อย ได้แบดซ์มันนัดมาหรอ” เจคทักแพมมี่ แพมมี่และกลุ่มของพวกเขาค่อนข้างเจอกันบ่อย เพราะแพมมี่ตัวติดกับแบดซ์อยู่พักหนึ่งใหญ่ ๆ “ใช่แล้วแหละ” ตอบแล้วก็เดินไปทิ้งตัวนั่งลงข้างกายแบดซ์ “เรียนเสร็จแล้วหรอ” “เสร็จแล้วค่ะ” “เร็วกว่าที่คิด” “วันนี้ต้องรีบกลับไปเตรียมงานสำคัญไงคะ แบดซ์จำได้ไหมว่าวันนี้วันอะไร” แพมมี่พูดออกมาอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับตวัดท่อนขาขึ้นไขว้กัน เรียวแขนก็สอดเข้าไปแขนของแบดซ์ด้วยท่าทีสนิทสนม “วันเกิดแพมทำไมแบดซ์จะจำไม่ได้” “วันนี้แพมอยากชวนแบดซ์กับเพื่อนแบดซ์ไปด้วย ไปด้วยกันนะเจค แล้วคนอื่นกลับกันหมดแล้วหรอ” แพมหันไปคุยกับเจค “กลับกันหมดแล้วแต่เดี๋ยวบอกพวกมันให้” “วันเกิดแพมจัดที่เพนเฮาส์แบดซ์ก็ได้นะ” “จริงหรอ จัดที่เพนเฮาส์แบดซ์ได้ใช่ไหม” “ได้ดิ ชวนเพื่อนมาเยอะ ๆ” “ขอบใจนะแบดซ์ ฝากบอกคนอื่นด้วยนะเจคจะชวนใครมาเพิ่มก็ได้ จัดหลาย ๆ คนสนุกดี” แพมมี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจเมื่อคนข้างกายบอกว่าไปจัดที่เพนเฮาส์ของเขาได้ “โอเค ดีล” เจคตอบก่อนจะเหยียดกายลุกขึ้นจากโซฟา ท่าทีเหมือนจะเดินออกไปข้างนอก “ไปไหนวะ” “มีเด็กมาหา” เขาตอบก่อนจะเดินออกไปยังหน้าชมรมดนตรี ทันทีที่เจคเดินออกมาก็เห็นกอหญ้ายืนรออยู่ก่อนแล้ว “มานานรึยัง” “ยังค่ะ กอหญ้าพึ่งมาถึงเมื่อกี้” เธอตอบพลางยื่นถุงเสื้อช็อปของเจคไปที่ตรงหน้าเขา “เข้าไปข้างในก่อนสิ” “พี่อยู่กับใครคะ” “พี่อยู่กับเพื่อนแล้วก็เด็กมัน” “ไม่ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวเอาเสื้อคืนพี่ก็จะกลับแล้ว” “เข้ามาก่อน พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับหนูพอดี” “ไม่นานมากใช่ไหมคะ” “ไม่นานครับ” “ก็ได้ค่ะ” และในที่สุดกอหญ้าก็ยอมตอบตกลงและเดินตามเจคเข้าไปภายในห้องชมรม ด้วยความที่เธอไม่รู้ว่าเพื่อนที่เจคหมายถึงคือแบดซ์ พอเดินเข้ามาเเล้วเห็นเขานั่งอยู่ข้างกายกับผู้หญิงด้วยท่าทีสนิทสนมเลยแอบตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่แสดงอาการอะไรออกไป เพราะเจคบอกว่าแบดซ์นั่งอยู่กับเด็ก ก็แปลว่าคงเป็นคนที่เขาคุยอยู่ด้วย.. “นั่งข้างพี่ก็ได้” “…” เธอพยักหน้าตอบเบา ๆ แล้วเดินไปหย่อนก้นนั่งลงข้างกายเจค ไม่ใช่ว่าไม่ฟังที่แบดซ์เตือน แต่เธอไม่มีเจตนาแอบแฝงอะไรกับเจคอยู่แล้ว เลยไม่อยากทำอะไรแบบนั้น เพราะเจคก็คือรุ่นพี่ในคณะคนหนึ่ง อีกอย่างที่เจอกับเจควันนี้ก็เพราะต้องเอาเสื้อมาคืน หลังจากนี้ก็คงไม่ได้เจอกันแล้ว อาจจะเดินสวนกันในคณะหรือเจอตอนรับน้องบ้างแต่ก็คงไม่ได้ทักหรือคุยกันมาก “แฟนนายหรอ” แพมมี่ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เปล่า รุ่นน้องในคณะ” “ดูเหมาะกับนายดีนะ น้องน่ารักมากด้วย ว่าแต่น้องชื่ออะไร” แพมมี่ชวนคุย “กอหญ้าค่ะ” “นายชวนน้องมาวันเกิดฉันด้วยสิเจค” “ว่าไง…ไปวันเกิดแพมกับพี่ไหม” เจคหันมาถามกอหญ้า ทำให้เธออ้ำอึ้งไม่กล้าตอบอะไรออกไป ทั้งที่ใจจริงกอหญ้าไม่อยากไปแต่ถ้าปฏิเสธคนชวนก็คงจะเสียนํ้าใจ ช่วยไม่ได้นี่…เธอไม่อยากเจอกับแบดซ์ เลี่ยงเจอกันจะดีกว่า.. “ขอบคุณนะคะพี่แพมที่ชวน แต่ว่า…” “ก็ดีเหมือนกันนะ เผื่อแพมไม่รู้น้องเคยเรียนโรงเรียนเดียวกันกับแบดซ์ตอนมัธยมด้วย ไปด้วยกันสิ…ทบทวนความหลังหน่อยเป็นไง” แบดซ์ที่เงียบอยู่พักใหญ่เอ่ยออกมาและจ้องมองมาที่กอหญ้า เธอบีบมือตนเองแน่นแล้วคิดวิตกกังวล ไม่อยากไปแต่หากขัดความต้องการของเขาละก็.. ครืด! ‘ตอบตกลงสิ ลืมไปรึเปล่าคลิปอะไรอยู่กับฉัน’ ข้อความเด้งขึ้นหน้าจอโทรศัพท์มือถือของกอหญ้า เธอก้มมองแล้วบีบมันแน่นด้วยอาการกดดัน คงไม่โดนแกล้งอะไรอีกหรอกใช่ไหม สายตาของแบดซ์มันดูไม่น่าไว้ใจเลยสักนิดเดียว “เดี๋ยวพี่ไปรับ ไม่ต้องห่วงหรอก มากับพี่ไม่เป็นอะไร” เจคพูดกับกอหญ้า เธอไม่ได้ต้องการให้เจคมารับหรืออะไรหรอก เหตุผลเดียวที่ไม่อยากไปคือไม่อยากเจอหน้าแบดซ์ต่างหาก “ว่าไง ตกลงจะไปไหม” แบดซ์เอ่ยถามยํ้าขึ้นมา “ค่ะ วันไหนคะ แล้วจัดที่ไหน” “ที่เพนเฮาส์ของแบดซ์ สองทุ่มวันนี้นะ แล้วน้องรู้จักเพนเฮาส์แบดซ์ไหม แต่เดี๋ยวมากับเจคก็ได้เจครู้จัก” “ไม่เป็นไรค่ะ บอกแค่ทางก็พอเดี๋ยวกอหญ้ามาเอง ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ” เธอเอ่ยตอบออกมาเพียงเท่านั้นก็เอ่ยลาแล้วเหยียดกายลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมกับก้าวเดินออกมาจากห้องชมรมด้วยความเร่งรีบ แบดซ์มองตามหลังคนตัวเล็กก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากอย่าง ‘นึกสนุก’ ในใจ —————————————————— จะทำอะไรน้องอี๊กกกกก…. เรื่องอีบุ๊คไรท์มีอยู่สองช่วงที่กำลังคิดค่ะว่าจะปล่อยประมาณไหน อาจจะปลายเดือนนี้ไม่ก็ต้นเดือนหน้า ขึ้นอยู่กับกำลังใจล้วน ๆ เลยคั้บ ตอนนี้กำลังวางพล็อตตอนที่เหลือแล้วก็ปั่นเนื้อหาพร้อมกันไปด้วย หากมีคนรอเยอะมากจะรีบมาปลายเดือนค่ะ 🔥🔥🔥68ลงเอย (ตอนจบ)2 สัปดาห์ต่อมา ตึก Blak swan ภายในห้องรับรองแขกบนตึก Black swan ห้าหนุ่มกำลังนั่งรวมตัวกันอยู่ แบดซ์ เจค นั่งอยู่โซฟาตัวเดียวกัน ส่วนไคโรและเคเลนนั่งโซฟาตัวกันข้าม คนที่นั่งอยู่คนเดียวเป็นเจ้าของที่อย่างริวเซย์ “นัดพวกกูมาซะดิบดี สรุปมีเรื่องอะไร” ริวเซย์พูดขึ้นเป็นคนแรกของกลุ่ม เนื่องจากก่อนหน้านี้แบดซ์ได้โทรเรียกเหล่าหนุ่ม ๆ มาเจอกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ยกเว้นพวกสองสาวนั้น “มีข่าวที่น่ายินดีมาบอก” พูดแล้วก็ยิ้มออกมาปากแทบฉีก ทำเอาสี่หนุ่มมองด้วยความสงสัย “ลองพูดมา” ไคโรเป็นคนถามด้วยสีหน้าราบเรียบ“กูกำลังจะแต่งงานแล้วโว๊ย!” แบดซ์ตะคอกออกมาเสียงดังลั่นห้องด้วยท่าทางดีใจ “….” ทุกคนต่างเงียบ ไม่ได้ตกใจกับข่าวที่น่ายินดีของแบดซ์ จนทำเอาเจ้าตัวต้องถามยํ้า“นี้พวกมึงไม่ดีใจหน่อยเหรอวะ กูกำลังจะแต่งงานทั้งที” “พวกกูรู้อยู่แล้วว่ายังไงมึงก็ต้องแต่งกับน้อง” เคเลนพูด “แววหมามาแต่ไกล เหี้ยฉิบหายสุดท้ายซมซามกลับมาหาน้องเขาเหมือนเดิม” ริวเซย์ส่ายหัวเอือมระอา“ขาดเขาไม่ได้ ไม่หมาธรรมดาแต่โคตรหมา” เจคพูดเสริม“ซํ้าเติมห่าไรกันนักหนา หรือต้องให้กูลงไปคลานเหมือนหมาพวกมึงถึง
67ทำตามสัญญาลับร่างของฟางข้าวพวกเธอก็มองหน้ากันด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้มีใครห้ามฟางข้าวเนื่องจากตอนนี้เธอได้เดินไปไกลแล้ว “ข้าวคงมีวิธีเคลียร์เรื่องนี้อยู่หรอกมั้ง เดี๋ยวจัดการได้คงมาเล่าให้พวกเราฟังเองแหละ” ท่ามกลางความเงียบกอหญ้าก็เอ่ยขึ้นมา “คงงั้น” ควีนตอบแล้วไม่นานนินิวก็ชวนเปลี่ยนเรื่องคุย“พวกแกจะแยกกันกลับเลยเหรอ เราไม่ได้รวมตัวกันแบบนี้นานพอสมควรแล้วนะ” “ทำไมเหรอ อยากชวนไปไหนรึไง” เมษาถาม “ก็อยากชวนไปปาร์ตี้ที่ห้องของใครสักคนแล้วทำปิ้งย่างกันกินดีมั้ย กว่าพวกเราจะมีเวลาว่างเจอกันนะ” นินิวเสนอออกไปด้วยความที่เรียนคนละชั้นปีจึงทำให้เวลาว่างตรงกันมันค่อนข้างหายากแต่ดีหน่อยที่วันนี้พวกเธอว่างตรงกันแถมเป็นวันประเมินของฟางข้าวอีก “เป็นความคิดที่ดีงั้นไปบ้านเราไหม” “บ้านแกอยู่ที่ไหนอ่ะกอหญ้า แล้วแกอยู่กับใคร” ควีนถามขึ้นมาทันที“มันไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แถมหลังเล็กอยู่ในสลัม พวกแกอยากไปกันไหมล่ะ แล้วเราก็อยู่กับยายด้วยนะ” “จะเป็นไรไป ที่ไหนก็ดีเหมือนกันหมดแหล่ะ งั้นไปบ้านแกก็แล้วกันนะกอหญ้า” นินิวเอ่ยสรุป “ไม่มีปัญหา~” เจ้าตัวตอบแล้วยิ้มออกมาก่อนที่สี่สาวจะพากันคล้องแขนเดิ
66วันประเมินหลังจากจัดการกับเรื่องแพมมี่เสร็จแบดซ์ก็ขับรถกลับมาหากอหญ้าที่เพนเฮาส์ทันที ร่างสูงเดินลงมาจากรถแล้วเข้าไปด้านใน ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนก็ไม่ได้ยกมือขึ้นเคาะก่อนเพราะคิดว่าคนที่นอนอยู่ด้านในยังคงนอนหลับอยู่ พอเดินมาที่เตียงนอนก็เห็นคนตัวเล็กนั่งขดตัวอยู่ในผ้าห่ม สายตาเพ่งมองมาที่เขาแต่พอโดนมองกลับก็หลบสายตาทันที“ตื่นแล้วเหรอ…” “ค่ะ” ใบหน้าหวานพยักตอบเบา ๆ นํ้าเสียงของเธอบ่งบอกออกมาอย่างชัดเจนว่าเหนื่อยล้ามากแค่ไหน “ลุกไปอาบนํ้า” “กอหญ้าลุกไม่ไหวค่ะ” เธอเอ่ยแล้วช้อนตามอง“เป็นอะไร เจ็บ ?”“เจ็บค่ะ อุ้มหน่อยได้ไหมคะ” คนมีความผิดออดอ้อนออกไปทำให้แบดซ์เดินเข้ามาอุ้มร่างบอบบางที่นั่งอยู่บนเตียง เขาอุ้มร่างแฟนสาวเดินเข้ามาในห้องนํ้าจากนั้นก็วางลงบนพื้นแล้วถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกายให้ ในการกระทำนั้นสายตาของกอหญ้าก็มองคนด้านหลังผ่านกระจกในห้องนํ้าไปด้วย“มองทำไม” “พี่แบดซ์ยังโกรธกอหญ้าอยู่เหรอคะ” “อืม” “แล้วไปไหนมา”“ไปจัดการคนที่วางยาเธอ”“ใครเป็นคนทำ..”“แพม”“พี่ไปหาเธอมา..” “ไปสั่งสอนไม่ได้ไปทำอะไร” “เข้าใจแล้วค่ะ” กอหญ้าตอบออกมาเสียงเบาจากนั้นร่างกายของเธอก็ถ
65ชัดเจนมาตลอด11.00 น. “ได้เรื่องมั้ย” ริมฝีปากหนักเอ่ยผ่านปลายสายพลางพ่นควันบุหรี่สีเทาให้ลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณระเบียงห้องนอนของเพนเฮาส์ หลังจากเมื่อคืนลงโทษเด็กดื้อกันไปหนักพอสมควรคนตัวเล็กก็แทบหมดแรงจนต้องอุ้มขึ้นมาบนห้องนอน พอวางลงบนเตียงนอนเท่านั้นแหละก็หลับน็อคไปจนแบดซ์ต้องทำความสะอาดร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แถมเมื่อคืนก็ยังไม่ได้เคลียร์อะไรกันให้หายข้องใจ แม้กระทั่งตอนนี้กอหญ้าก็ยังไม่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอยังคงนอนหลับปุ๋ยบนเตียงนอน แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็พอจะจำคำพูดของแฟนสาวตนเองได้บ้างว่าตนโดนวางยา ( ระดับนี้ ) ปลายสายอย่างริวเซย์ตอบออกมา ด้วยความที่แบดซ์ข้องใจหนักมากว่าใครเป็นคนวางยาเลยให้เพื่อนสนิทที่มีอำนาจมากอย่างริวเซย์สืบหาตัวผู้ชายคนนั้นให้ “มันเป็นใคร” ว่าแล้วก็ทอดสายตามองไปยังเมืองหลงที่อยู่ใจกลางเมืองไปด้วย ( ผู้ชายคนนั้นมันชื่อเจ้านาย เป็นเพื่อนของน้องอะไรข้าว ๆ นี่แหละ ที่อยู่ในชมรมของเรา แล้วน้องผู้หญิงก็เป็นเพื่อนกับเมียมึง ) “เพื่อนฟางข้าว”( เออ นั่นแหละ แต่มันบอกไม่ได้เป็นคนวางยา กูเลยสั่งให้ลูกน้องเค้นมันเพิ่มจนรู้ว่าพนักงานในร้านมีคนจ้างให้ว
64เกือบไม่รอด NC+++สะโพกสวยยังคงถูกกระแทกอย่างต่อเนื่อง ความจุกเข้าเล่นงานจนคนตัวเล็กจนต้องกัดฟันเอาไว้แน่น แท่งเอ็นหนายังคงกระแทกเข้าออกตามรูร่องเปียกแฉะอย่างเอาแต่ใจ มือปล่อยเรือนผมสวยให้สยายเต็มแผ่นหลังเรียบเนียนของเธอ ก่อนจะใช้มือจับเข้าที่เอวคอดสุดแรงเพื่อให้ร่างบอบบางได้รับแรงกระแทกได้อย่างถนัด ตับ! ตับ! ตับ!… เสียงจุดเชื่อมกระทบกันดังไม่หยุด ร่องรักคับแคบรับรู้ได้ถึงสัมผัสดุดันและหยาบโลนที่โถมเข้าร่างกายไม่หยุด “อ๊ะ!…อ๊าา…” กอหญ้ายังคงร้องครางออกมาราวกับจะขาดใจ ความอยากในร่างกายเธอก็พลุ่งพล่านมากขึ้นเรื่อย ๆ จากฤทธิ์ยา ยิ่งโดนกระแทกยิ่งเสียวแถมยังจุกมากแทบจะกรีดร้องออกมา พอกระแทกท่านี้พอใจแบดซ์ก็จับร่างสวยให้เปลี่ยนท่าเป็นเกาะกับหลังโซฟาแทน เข่าทั้งสองข้างวางทาบบนเบาะพร้อมกับร่างหนาที่ลงมาจากโซฟาแล้วยืนอยู่บนพื้น แบดซ์ใช้มือจับเอวบางให้แอ่นมาด้านหลังเล็กน้อยก่อนจะดันแก่นกายเข้าไปใหม่เกือบมิดลำเช่นเดิม “กะ กอหญ้าจุก…” นํ้าเสียงไร้เรี่ยวแรงเอ่ยออกมาเบา ๆ พลันร่างกายของเธอก็ถูกกระแทกต่อไม่มีเวลาได้พักหายใจ ทันทีที่จุดเชื่อมสอดประสานกลายเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง เอวสอบก็เริ่
63หึงแรง NC+++ปากที่ยังคงวนเวียนอยู่กับซอกคอกระซิบออกมาพร้อมกับใช้ปลายนิ้วปลดตระขรอบราเชียร์แล้วโยนให้พ้นทาง ไม่นานท่อนบนของกอหญ้าก็เปลือยเปล่าไร้สิ่งปกปิด เผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่มสองข้างสู่สายตา ริมฝีปากหยักก็ดูดซํ้ารอยดูดเดิมให้เป็นรอยของตนเองแทน กระทั่งพอใจแบดซ์ก็ดันร่างบางของแฟนสาวไปยังโซฟาตัวยาวแล้วผลักให้เธอนอนราบลง แล้วตามคร่อมด้วยร่างกายตนเอง “พะ…พี่แบดซ์…” เสียงสั่นเอ่ยเรียกคนบนร่างกระเส้า เมื่อยอดอกเม็ดงามสีแดงระเรื่อถูกครอบงำด้วยริมฝีปากอุ่นร้อนและลิ้นเปียกชุ่ม แบดซ์ทั้งดูดและเลียมันอย่างมูมมาม มือหนาอีกข้างก็บีบเคล้นอกอวบอีกฝั่งไปด้วย หนุ่มวิศวะบีบเคล้นมันอย่างรุนแรงกระทั่งร่างน้อยเริ่มบิดเร้า กอหญ้าเม้มปากแน่นแล้วจิกนิ้วลงบนกลุ่มผมสีดำเงา เพื่อระบายความกระสันที่ตนได้รับ ไม่เพียงเท่านั้นฟันคมก็ยังกัดหัวนมที่กำลังชันขึ้นเป็นไต ซึ่งส่งผลให้ร่างกายหญิงสาวกระตุกเร้า ทั้งเจ็บทั้งเสียวในขณะเดียวกัน “อยะ อย่ากัดค่ะ…อื้อ! มันเจ็บ” ปากเอ่ยขอ ดวงตากลมโตก็มีหยาดนํ้าตาเอ่อคลอเบ้า เธอพยายามปรือตามองการกระทำของแฟนหนุ่มตนเองเป็นระยะ “เชื่อฟังพี่แล้วนอนอยู่เฉย ๆ อย่าทำให้พี่โกรธมากกว