66
วันประเมิน หลังจากจัดการกับเรื่องแพมมี่เสร็จแบดซ์ก็ขับรถกลับมาหากอหญ้าที่เพนเฮาส์ทันที ร่างสูงเดินลงมาจากรถแล้วเข้าไปด้านใน ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนก็ไม่ได้ยกมือขึ้นเคาะก่อนเพราะคิดว่าคนที่นอนอยู่ด้านในยังคงนอนหลับอยู่ พอเดินมาที่เตียงนอนก็เห็นคนตัวเล็กนั่งขดตัวอยู่ในผ้าห่ม สายตาเพ่งมองมาที่เขาแต่พอโดนมองกลับก็หลบสายตาทันที “ตื่นแล้วเหรอ…” “ค่ะ” ใบหน้าหวานพยักตอบเบา ๆ นํ้าเสียงของเธอบ่งบอกออกมาอย่างชัดเจนว่าเหนื่อยล้ามากแค่ไหน “ลุกไปอาบนํ้า” “กอหญ้าลุกไม่ไหวค่ะ” เธอเอ่ยแล้วช้อนตามอง “เป็นอะไร เจ็บ ?” “เจ็บค่ะ อุ้มหน่อยได้ไหมคะ” คนมีความผิดออดอ้อนออกไปทำให้แบดซ์เดินเข้ามาอุ้มร่างบอบบางที่นั่งอยู่บนเตียง เขาอุ้มร่างแฟนสาวเดินเข้ามาในห้องนํ้าจากนั้นก็วางลงบนพื้นแล้วถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกายให้ ในการกระทำนั้นสายตาของกอหญ้าก็มองคนด้านหลังผ่านกระจกในห้องนํ้าไปด้วย “มองทำไม” “พี่แบดซ์ยังโกรธกอหญ้าอยู่เหรอคะ” “อืม” “แล้วไปไหนมา” “ไปจัดการคนที่วางยาเธอ” “ใครเป็นคนทำ..” “แพม” “พี่ไปหาเธอมา..” “ไปสั่งสอนไม่ได้ไปทำอะไร” “เข้าใจแล้วค่ะ” กอหญ้าตอบออกมาเสียงเบาจากนั้นร่างกายของเธอก็ถูกอาบนํ้าทำความสะอาดร่างกาย บนผิวกายขาวเนียนมีรอยดูดหลายจุดโดยเฉพาะลำคอมันเด่นชัดมาก แต่ถึงอย่างนั้นกอหญ้าก็ไม่ได้ว่าอะไรให้กับเจ้าของการกระทำพวกนี้ เธอปล่อยให้แบดซ์อาบนํ้าให้กระทั่งเรียบร้อย พออาบนํ้าเสร็จเรียบร้อยก็อุ้มร่างเปลือยออกมาจากห้องนํ้าแล้ววางลงบนเตียงนอน เขาเดินกลับไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาคลุมร่างกอหญ้าเอาไว้ “เจ็บมากมั้ย” “นิดนึงค่ะ” “จะทายาให้” ว่าแล้วก็หยิบกระปุกยาออกมาแล้วย่อตัวคุกเข่าลงตรงหน้าคนตัวเล็ก แบดซ์จับขาเรียวอ้าออกจากนั้นก็บรรจงทายาให้เธออย่างอ่อนโยน การกระทำของคนตรงหน้าทำให้กอหญ้าแอบเบ้หน้าคล้ายกับคนจะร้องไห้ รู้สึกผิดที่ตนเองออกไปโดยไม่ให้แบดซ์รู้ก่อน หากเขาไม่มาเจอเธอก็คงถูกข่มขืนไปแล้ว “ขอโทษนะคะ ต่อไปนี้จะไม่ดื้อกับพี่อีกแล้ว” “จำคำพูดของตัวเองให้ดี พี่ไม่ใช่แค่โกรธ แต่พี่ทั้งเป็นห่วง ทั้งหวง ถ้าเธอเป็นอะไรขึ้นมาพี่จะทำยังไง ถ้าไอ้เวรนั้นมันทำอะไรไปแล้วพี่คงโทษตัวเองไปตลอดชีวิตที่ดูแลเธอไม่ได้” แบดซ์เอ่ยออกมาพร้อมกับปิดกระปุกยาเอาไว้ กอหญ้าที่ได้ยินคำพูดออกมาจากปากของแฟนหนุ่มจึงเข้าไปโผล่กอดพร้อมกับร้องไห้ออกมาอีกครั้ง “ขอโทษจริง ๆ ค่ะ กอหญ้าจะไม่ยุ่งกับผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว หรือคนอื่น ๆ ก็ตาม กอหญ้าจะเชื่อฟังจะมีแค่พี่คนเดียว” พอเห็นว่าคนตรงหน้ายอมสำนึกผิดแบดซ์เลยยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังบางเป็นการปลอบใจ นอกจากเมื่อคืนจะกลัวเขามาก ก็คงจะตกใจมากเช่นกันที่ตนเองเกือบโดนข่มขืน “พี่ก็ขอโทษด้วยที่ไม่ได้อ่านแชทเธอ แบตพี่หมด พี่สะเพร่าเอง” “กอหญ้าไม่โกรธพี่เลยค่ะ” เธอตอบออกไปแล้วแล้วปล่อยกอด ทั้งสองจ้องมองกันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักก่อนที่กอหญ้าจะเป็นฝ่ายยิ้มออกมาทั้งนํ้าตาก่อน “ต่อจากนี้ก็คงไม่อยากปิดบังสถานะของตนเองกับพี่แล้วใช่ไหม รู้รึยังทำไมพี่ถึงอยากเปิดตัว” แบดซ์ขยับร่างกายขึ้นมานั่งบนเตียงพร้อมกับอุ้มร่างเล็กมานอนทับแขนตนเองเอาไว้โดยที่ร่างกายของกอหญ้ามีเพียงผ้าเช็ดตัวคลุมร่างเอาไว้ผืนเดียว กอหญ้าเองก็ไม่ปฏิเสธการกระทำของเขา เธอนอนหนุนแขนแฟนหนุ่มแล้วใช้สายตามองกรอบหน้าหล่อเหลา “เข้าใจดีแล้วค่ะ กอหญ้าก็ไม่อยากปิดบังสถานะกับพี่แล้วเหมือนกัน” เหตุการณ์เมื่อคืนทำให้กอหญ้าเปลี่ยนความคิดตนเองไปมาก พอเรื่องคบกันมันเป็นความลับมีทั้งคนจ้องจะรังแกเธอเหมือนเมื่อคืน ไหนจะคนที่ชอบเข้ามาอ่อยแฟนหนุ่มของตนอีก ถึงมันจะยังไม่มีเรื่องแบบนั้นมาให้คิดแต่กอหญ้าก็ไม่ชอบอยู่ดี อีกอย่างเธอไม่อยากจะแคร์คำพูดของสังคมแล้วว่าสถานะของเรามันจะต่างกันแค่ไหน แค่รักกันก็พอ ตอนนี้เองทางครอบครัวของแบดซ์ก็ไม่มีใครมาคอยกรีดกันความรักของเขาและเธอแล้ว “ถ้างั้นพี่จะเปิดตัวให้คนทั้งโลกรู้เลยว่าแฟนพี่สวยมากแค่ไหน” คนคลั่งรักเอ่ยออกมาแล้วก้มหน้าจุ๊บกลีบปากบางด้วยความรักใคร่ เขาหายโกรธเรื่องเมื่อคืนเป็นปลิดทิ้งแล้วเนื่องจากได้เคลียร์กันกับกอหญ้า ตอนนี้ก็กลับมารักเมียมากเหมือนเดิม “สวยมากแค่ไหนเหรอคะ” “ก็สวยจนพี่อยากได้ลูกสาว เขาคงได้แม่มาเต็ม ๆ” ปากตอบสายตาทอประกายก็มองกรอบหน้าสวยไปด้วย ไม่ว่าจะมองตรงไหนกอหญ้าก็สวยมากจริง ๆ ตัวก็นุ่มนิ่มราวกับปุยเมฆ ผิวขาวเนียน นมใหญ่ กระแทกก็มัน เวลานอนอยู่ใกล้แบบนี้ทีไรก็ทำให้มีอารมณ์ตลอด “คิดเรื่องนั้นแล้วรึไงคะ เรายังไม่ได้หมั้นหรือแต่งงานกันเลยนะ” “ก็แต่งมันซะพรุ่งนี้เลยสิ…” พูดจบก็โน้มหน้าลงไปจูบปากบางของคนตรงหน้าก่อน มือไม้ก็ไม่อยู่นิ่งเริ่มซุกไซร้บีบเคล้นตามร่างนุ่มนิ่มอีกครั้ง จนกอหญ้าแอบตกใจ “มะ ไม่ต่อรอบเช้านะคะ” “วันนี้วันหยุด” “พี่แบดซ์…อ๊ะ!” กอหญ้าไม่สามารถห้ามแฟนหนุ่มของตนเองได้เมื่อแบดซ์กำลังใช้ปากดูดนมเธออีกแล้ว ก็เท่ากับว่าที่ทายาไปเมื่อกี้ คงได้ทาซํ้าอีกแน่นอน …. @Gabriel International University วันประเมินมาถึงช่วงบ่ายการประเมินจะถูกจัดขึ้นที่หอประชุมของมหาลัย ช่วงเช้ากอหญ้าก็มาเรียนตามปกติส่วนฟางข้าวเธอขออนุญาตลาเพื่อไปซ้อม ก่อนเข้าเรียนวันนี้กอหญ้าจึงมีโอกาสได้คุยกับเพื่อนสาวกลุ่มเดิมที่ใต้ตึกคณะวิศวะ “ตกลงมันยังไงกอหญ้า คนที่พี่แบดซ์โพสต์ลงในไอจีส่วนตัวตนเองตอนนั้นเป็นแกจริง ๆ ใช่ไหม” นินิวคะยั้นคะยอถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นเพราะตอนนี้คนทั้งมหาลัยเขาลือกันให้ทั่วว่าแก๊งของแบดซ์นั้นสละโสดไปแล้ว แถมคนที่คบด้วยยังเป็นแฟนเก่าสมัยเรียนมัธยม “ก็…ใช่ เราเอง” ในเมื่อไม่มีอะไรต้องปิดบังใครอีกแล้วกอหญ้าก็ตอบออกไปพลางหลบสายตาของเพื่อนที่จ้องมองมา กอหญ้าที่โดนจ้องก็ทำตัวไม่ค่อยถูกเธอแอบเขินอยู่คนเดียวแล้วยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแก้เก้อ “มันอะไรยังไงอ่ะ ไหนบอกเป็นแฟนเก่า” ควีนถามอีกครั้ง “ที่พวกแกรู้มันไม่ใช่ทั้งหมดไง วันนั้นที่เล่าให้ฟังแค่ครึ่งเดียว” “แล้วเรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไงกอหญ้า ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เล่าส่วนที่พวกฉันไม่รู้ให้เข้าใจหน่อย นี่งงไปหมดแล้วนะ” เมษาเสนอออกไป “เหตุผลที่เราต้องเลิกกันเพราะความต่างทางฐานะ ครอบครัวของพี่เขาไม่ชอบเราเลยเสนอให้เราเลิกกับพี่แบดซ์พร้อมกับเงินก้อนใหญ่ ตอนนั้นเราต้องใช้เงินในการผ่าตัดเปลี่ยนไตให้คุณยายพอดี เลยจำใจต้องยอมถอยออกมาและปล่อยให้ตัวเองถูกมองเป็นคนใจร้าย พี่เขาเลยเกลียด” “เอาง่าย ๆ ก็คือแกกับพี่แบดซ์เลิกกันทั้งที่ยังรักอยู่” นินิวทวน “ส่วนเต ก็คือคนที่แกคบเพื่อปิดบังความจริง” “อื้อ” “โห ซับซ้อนอย่างกับฉากในละคร” “แต่สุดท้ายก็ลงเอยกันนิ” ควีนพูดออกมาพร้อมกับคำพูดต่อมาที่เมษาเอ่ย “เราไม่เคยไม่รักกัน แค่มันมีอุปสรรคกับความรักเข้ามาเท่านั้นเอง” “ไม่น่าล่ะตอนแรกพี่เขาถึงได้เกลียดแกนักหนา” นินิวเท้าคางคิด “นี่มีแค่พวกแกที่รู้เท่านั้นนะ ห้ามบอกใคร” “เข้าใจแล้ว พวกเราไม่บอกใครหรอก” เมษาเป็นคนตอบ แล้วในตอนนั้นเองกอหญ้าก็ก้มหน้ามองเวลา มันใกล้ถึงเวลาที่เธอต้องเข้าเรียนแล้ว “เจอกันตอนบ่ายที่หอประชุมนะ เราต้องไปเชียร์ฟางข้าว เราต้องเข้าเรียนแล้ว” “โอเค เจอกัน” ควีนบอกแล้วสี่สาวก็แยกย้ายกัน กอหญ้าเดินไปอีกตึกส่วนสามสาวก็แยกขึ้นไปชั้นบนเพื่อรอเวลาเรียนเหมือนกัน …. ตกบ่ายในวันเดียวกัน ตอนนี้ที่หอประชุมของมหาลัยก็เต็มไปด้วยเหล่านักศึกษาที่ชั่วโมงเรียนว่างมารวมตัวกันอยู่ตรงนี้เกือบเต็ม เนื่องจากคนในชมรมดนตรีมีแต่คนที่มีชื่อเสียงบนโซเชี่ยล หรือบางคนก็ดีกรีเป็นถึงนักร้อง เลยทำให้คนสนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งคนที่มาประเมินหนึ่งในนั้นก็คืออธิการบดีของมหาลัย “ข้าวขึ้นร้องคนที่เท่าไหร่” ระหว่างรอสมาชิกคนแรกของชมรมขึ้นร้องเมษาก็เป็นคนถามกอหญ้า ตอนนี้พวกเธอก็มานั่งอยู่แถวโซนหน้าเกือบติดเวทีได้ “ไม่แน่ใจเหมือนกันอ่ะ อยู่ช่วงกลาง ๆ นี่แหละมั้ง” “ชมรมนี้เหมือนรวมตัวคนดังเลยเนาะว่าไหม” นินิวเอ่ย “ก็แหงสิ คัดคนเข้าขนาดนั้น” ควีนสอดขึ้นมา “มาแล้ว ๆ คนแรกขึ้นร้องแล้ว” พอเสียงของเมษาพูดขึ้นมาก็ทำให้สามสาวเงียบพร้อมกับทุกคนในหอประชุมเองก็เช่นกัน คนแรกร้องจบก็เต็มไปด้วยเสียงกรี๊ดคนที่สองเองก็เช่นกัน กระทั่งเวลาผ่านไปนานพอสมควรก็ถึงคิวของฟางข้าว เธอขึ้นร้องด้วยบทเพลงที่แต่งขึ้นวันนั้นและฟางข้าวก็ทำมันออกมาดีมากเหมือนเดิม เหมือนจะดีกว่ารอบก่อนด้วยซํ้า ดีจนทุกคนต่างโห่ร้องชมกับนํ้าเสียงที่แสนไพเราะของเธอ “ข้าวเอ่ย ร้องดีอะไรขนาดนี้” ควีนเอ่ยชมออกมาอย่างอดไม่ไหว “นั่นอ่ะดิ เซอร์ไพรส์มาก พัฒนาขึ้นเยอะเลย” “ข้าวมันร้องดีกว่าคนอื่นอีกนะ แบบนี้มีโอกาสเป็นตัวแทนไปแข่งแน่นอน~” นินิวเอ่ยขึ้นมาก่อนแล้วประโยคนี้ก็เป็นของเมษา พวกเธอพูดคุยกันนิดหน่อยก็ชมการประเมินต่อกระทั่งการประเมินมันจบลง 30 นาทีต่อมา… พอจบการประเมินผลก็ออกมาแล้ว มันผิดคลาดมาก ๆ เมื่อคะแนนของฟางข้าวตํ่าสุดจนน่าแปลกใจ “ไม่เอาสิข้าว หนูไม่ต้องเสียใจนะ หนูทำเต็มที่ที่สุดแล้ว” นินิวเห็นรุ่นน้องนั่งซึมนํ้าตาไหลเอ่ยออกไป ตอนนี้พวกเธอทั้งสี่คนนั่งอยู่โต๊ะม้าหินอ่อนใต้ร่มไม้หน้าหอประชุม “มันผิดคลาดจนน่าแปลกใจเลยค่ะ ใคร ๆ ก็บอกเป็นเสียงส่วนมากว่าข้าวทำดีมาก อย่างน้อย ๆ มันไม่ควรคะแนนตํ่าสุดแบบนี้ ตํ่าสุดจนต้องถูกเด้งออกจากชมรม” ฟางข้าวพูดออกมาพลางยกมือขึ้นปาดนํ้าตาบนพวงแก้มตนเองออก มันเสียใจที่พยายามขนาดนี้แต่ผลมันไม่ได้ตามคาดหมาย “ข้าวให้กอหญ้าลองให้พี่แบดซ์ไปถามเพื่อนพี่เขาดูไหม ประธานชมรมน่าจะรู้ทุกอย่าง เผื่อคะแนนมันมีผิดพลาดตรงไหน” “มันคงไม่น่าผิดพลาดขนาดนี้มั้ง ถ้าผิดพลาดอาจจะเลื่อนตํ่าลงมาจากคะแนนจริงหนึ่งหรือสองอันดับ นี้ตกมาอยู่ท้าย ๆ บางทีก็น่าสงสัยว่าเป็นการจงใจรึเปล่า” ควีนยืนกอดอกพูดออกมา เพราะเป็นคนที่ทันคนอื่นเลยทำให้ควีนพอจะมองออก “ตั้งใจเหรอคะพี่ควีน…” “พี่ว่าอาจจะใช่” “ข้าวขอบใจทุกคนมากเลยนะที่มาเชียร์ แต่เรื่องนี้ข้าวต้องได้คำตอบค่ะ” ฟางข้าวเอ่ยออกมาอย่างแน่วแน่ ก่อนจะลุกขึ้นจากม้าหินอ่อนแล้วเดินออกมาจากกลุ่มรุ่นพี่ด้วยความสงสัยของทุกคนว่าเธอไปไหนและกำลังจะทำอะไร…? ——————————————————- ตรงนี้รออ่านของเคเลน x ฟางข้าวนะค้าบบบ ลูกชายอธิการบดีหน้าหล่ออบอุ่นแต่สันดาน….🤭🤭🤭68ลงเอย (ตอนจบ)2 สัปดาห์ต่อมา ตึก Blak swan ภายในห้องรับรองแขกบนตึก Black swan ห้าหนุ่มกำลังนั่งรวมตัวกันอยู่ แบดซ์ เจค นั่งอยู่โซฟาตัวเดียวกัน ส่วนไคโรและเคเลนนั่งโซฟาตัวกันข้าม คนที่นั่งอยู่คนเดียวเป็นเจ้าของที่อย่างริวเซย์ “นัดพวกกูมาซะดิบดี สรุปมีเรื่องอะไร” ริวเซย์พูดขึ้นเป็นคนแรกของกลุ่ม เนื่องจากก่อนหน้านี้แบดซ์ได้โทรเรียกเหล่าหนุ่ม ๆ มาเจอกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ยกเว้นพวกสองสาวนั้น “มีข่าวที่น่ายินดีมาบอก” พูดแล้วก็ยิ้มออกมาปากแทบฉีก ทำเอาสี่หนุ่มมองด้วยความสงสัย “ลองพูดมา” ไคโรเป็นคนถามด้วยสีหน้าราบเรียบ“กูกำลังจะแต่งงานแล้วโว๊ย!” แบดซ์ตะคอกออกมาเสียงดังลั่นห้องด้วยท่าทางดีใจ “….” ทุกคนต่างเงียบ ไม่ได้ตกใจกับข่าวที่น่ายินดีของแบดซ์ จนทำเอาเจ้าตัวต้องถามยํ้า“นี้พวกมึงไม่ดีใจหน่อยเหรอวะ กูกำลังจะแต่งงานทั้งที” “พวกกูรู้อยู่แล้วว่ายังไงมึงก็ต้องแต่งกับน้อง” เคเลนพูด “แววหมามาแต่ไกล เหี้ยฉิบหายสุดท้ายซมซามกลับมาหาน้องเขาเหมือนเดิม” ริวเซย์ส่ายหัวเอือมระอา“ขาดเขาไม่ได้ ไม่หมาธรรมดาแต่โคตรหมา” เจคพูดเสริม“ซํ้าเติมห่าไรกันนักหนา หรือต้องให้กูลงไปคลานเหมือนหมาพวกมึงถึง
67ทำตามสัญญาลับร่างของฟางข้าวพวกเธอก็มองหน้ากันด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้มีใครห้ามฟางข้าวเนื่องจากตอนนี้เธอได้เดินไปไกลแล้ว “ข้าวคงมีวิธีเคลียร์เรื่องนี้อยู่หรอกมั้ง เดี๋ยวจัดการได้คงมาเล่าให้พวกเราฟังเองแหละ” ท่ามกลางความเงียบกอหญ้าก็เอ่ยขึ้นมา “คงงั้น” ควีนตอบแล้วไม่นานนินิวก็ชวนเปลี่ยนเรื่องคุย“พวกแกจะแยกกันกลับเลยเหรอ เราไม่ได้รวมตัวกันแบบนี้นานพอสมควรแล้วนะ” “ทำไมเหรอ อยากชวนไปไหนรึไง” เมษาถาม “ก็อยากชวนไปปาร์ตี้ที่ห้องของใครสักคนแล้วทำปิ้งย่างกันกินดีมั้ย กว่าพวกเราจะมีเวลาว่างเจอกันนะ” นินิวเสนอออกไปด้วยความที่เรียนคนละชั้นปีจึงทำให้เวลาว่างตรงกันมันค่อนข้างหายากแต่ดีหน่อยที่วันนี้พวกเธอว่างตรงกันแถมเป็นวันประเมินของฟางข้าวอีก “เป็นความคิดที่ดีงั้นไปบ้านเราไหม” “บ้านแกอยู่ที่ไหนอ่ะกอหญ้า แล้วแกอยู่กับใคร” ควีนถามขึ้นมาทันที“มันไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แถมหลังเล็กอยู่ในสลัม พวกแกอยากไปกันไหมล่ะ แล้วเราก็อยู่กับยายด้วยนะ” “จะเป็นไรไป ที่ไหนก็ดีเหมือนกันหมดแหล่ะ งั้นไปบ้านแกก็แล้วกันนะกอหญ้า” นินิวเอ่ยสรุป “ไม่มีปัญหา~” เจ้าตัวตอบแล้วยิ้มออกมาก่อนที่สี่สาวจะพากันคล้องแขนเดิ
66วันประเมินหลังจากจัดการกับเรื่องแพมมี่เสร็จแบดซ์ก็ขับรถกลับมาหากอหญ้าที่เพนเฮาส์ทันที ร่างสูงเดินลงมาจากรถแล้วเข้าไปด้านใน ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนก็ไม่ได้ยกมือขึ้นเคาะก่อนเพราะคิดว่าคนที่นอนอยู่ด้านในยังคงนอนหลับอยู่ พอเดินมาที่เตียงนอนก็เห็นคนตัวเล็กนั่งขดตัวอยู่ในผ้าห่ม สายตาเพ่งมองมาที่เขาแต่พอโดนมองกลับก็หลบสายตาทันที“ตื่นแล้วเหรอ…” “ค่ะ” ใบหน้าหวานพยักตอบเบา ๆ นํ้าเสียงของเธอบ่งบอกออกมาอย่างชัดเจนว่าเหนื่อยล้ามากแค่ไหน “ลุกไปอาบนํ้า” “กอหญ้าลุกไม่ไหวค่ะ” เธอเอ่ยแล้วช้อนตามอง“เป็นอะไร เจ็บ ?”“เจ็บค่ะ อุ้มหน่อยได้ไหมคะ” คนมีความผิดออดอ้อนออกไปทำให้แบดซ์เดินเข้ามาอุ้มร่างบอบบางที่นั่งอยู่บนเตียง เขาอุ้มร่างแฟนสาวเดินเข้ามาในห้องนํ้าจากนั้นก็วางลงบนพื้นแล้วถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกายให้ ในการกระทำนั้นสายตาของกอหญ้าก็มองคนด้านหลังผ่านกระจกในห้องนํ้าไปด้วย“มองทำไม” “พี่แบดซ์ยังโกรธกอหญ้าอยู่เหรอคะ” “อืม” “แล้วไปไหนมา”“ไปจัดการคนที่วางยาเธอ”“ใครเป็นคนทำ..”“แพม”“พี่ไปหาเธอมา..” “ไปสั่งสอนไม่ได้ไปทำอะไร” “เข้าใจแล้วค่ะ” กอหญ้าตอบออกมาเสียงเบาจากนั้นร่างกายของเธอก็ถ
65ชัดเจนมาตลอด11.00 น. “ได้เรื่องมั้ย” ริมฝีปากหนักเอ่ยผ่านปลายสายพลางพ่นควันบุหรี่สีเทาให้ลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณระเบียงห้องนอนของเพนเฮาส์ หลังจากเมื่อคืนลงโทษเด็กดื้อกันไปหนักพอสมควรคนตัวเล็กก็แทบหมดแรงจนต้องอุ้มขึ้นมาบนห้องนอน พอวางลงบนเตียงนอนเท่านั้นแหละก็หลับน็อคไปจนแบดซ์ต้องทำความสะอาดร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แถมเมื่อคืนก็ยังไม่ได้เคลียร์อะไรกันให้หายข้องใจ แม้กระทั่งตอนนี้กอหญ้าก็ยังไม่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอยังคงนอนหลับปุ๋ยบนเตียงนอน แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็พอจะจำคำพูดของแฟนสาวตนเองได้บ้างว่าตนโดนวางยา ( ระดับนี้ ) ปลายสายอย่างริวเซย์ตอบออกมา ด้วยความที่แบดซ์ข้องใจหนักมากว่าใครเป็นคนวางยาเลยให้เพื่อนสนิทที่มีอำนาจมากอย่างริวเซย์สืบหาตัวผู้ชายคนนั้นให้ “มันเป็นใคร” ว่าแล้วก็ทอดสายตามองไปยังเมืองหลงที่อยู่ใจกลางเมืองไปด้วย ( ผู้ชายคนนั้นมันชื่อเจ้านาย เป็นเพื่อนของน้องอะไรข้าว ๆ นี่แหละ ที่อยู่ในชมรมของเรา แล้วน้องผู้หญิงก็เป็นเพื่อนกับเมียมึง ) “เพื่อนฟางข้าว”( เออ นั่นแหละ แต่มันบอกไม่ได้เป็นคนวางยา กูเลยสั่งให้ลูกน้องเค้นมันเพิ่มจนรู้ว่าพนักงานในร้านมีคนจ้างให้ว
64เกือบไม่รอด NC+++สะโพกสวยยังคงถูกกระแทกอย่างต่อเนื่อง ความจุกเข้าเล่นงานจนคนตัวเล็กจนต้องกัดฟันเอาไว้แน่น แท่งเอ็นหนายังคงกระแทกเข้าออกตามรูร่องเปียกแฉะอย่างเอาแต่ใจ มือปล่อยเรือนผมสวยให้สยายเต็มแผ่นหลังเรียบเนียนของเธอ ก่อนจะใช้มือจับเข้าที่เอวคอดสุดแรงเพื่อให้ร่างบอบบางได้รับแรงกระแทกได้อย่างถนัด ตับ! ตับ! ตับ!… เสียงจุดเชื่อมกระทบกันดังไม่หยุด ร่องรักคับแคบรับรู้ได้ถึงสัมผัสดุดันและหยาบโลนที่โถมเข้าร่างกายไม่หยุด “อ๊ะ!…อ๊าา…” กอหญ้ายังคงร้องครางออกมาราวกับจะขาดใจ ความอยากในร่างกายเธอก็พลุ่งพล่านมากขึ้นเรื่อย ๆ จากฤทธิ์ยา ยิ่งโดนกระแทกยิ่งเสียวแถมยังจุกมากแทบจะกรีดร้องออกมา พอกระแทกท่านี้พอใจแบดซ์ก็จับร่างสวยให้เปลี่ยนท่าเป็นเกาะกับหลังโซฟาแทน เข่าทั้งสองข้างวางทาบบนเบาะพร้อมกับร่างหนาที่ลงมาจากโซฟาแล้วยืนอยู่บนพื้น แบดซ์ใช้มือจับเอวบางให้แอ่นมาด้านหลังเล็กน้อยก่อนจะดันแก่นกายเข้าไปใหม่เกือบมิดลำเช่นเดิม “กะ กอหญ้าจุก…” นํ้าเสียงไร้เรี่ยวแรงเอ่ยออกมาเบา ๆ พลันร่างกายของเธอก็ถูกกระแทกต่อไม่มีเวลาได้พักหายใจ ทันทีที่จุดเชื่อมสอดประสานกลายเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง เอวสอบก็เริ่
63หึงแรง NC+++ปากที่ยังคงวนเวียนอยู่กับซอกคอกระซิบออกมาพร้อมกับใช้ปลายนิ้วปลดตระขรอบราเชียร์แล้วโยนให้พ้นทาง ไม่นานท่อนบนของกอหญ้าก็เปลือยเปล่าไร้สิ่งปกปิด เผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่มสองข้างสู่สายตา ริมฝีปากหยักก็ดูดซํ้ารอยดูดเดิมให้เป็นรอยของตนเองแทน กระทั่งพอใจแบดซ์ก็ดันร่างบางของแฟนสาวไปยังโซฟาตัวยาวแล้วผลักให้เธอนอนราบลง แล้วตามคร่อมด้วยร่างกายตนเอง “พะ…พี่แบดซ์…” เสียงสั่นเอ่ยเรียกคนบนร่างกระเส้า เมื่อยอดอกเม็ดงามสีแดงระเรื่อถูกครอบงำด้วยริมฝีปากอุ่นร้อนและลิ้นเปียกชุ่ม แบดซ์ทั้งดูดและเลียมันอย่างมูมมาม มือหนาอีกข้างก็บีบเคล้นอกอวบอีกฝั่งไปด้วย หนุ่มวิศวะบีบเคล้นมันอย่างรุนแรงกระทั่งร่างน้อยเริ่มบิดเร้า กอหญ้าเม้มปากแน่นแล้วจิกนิ้วลงบนกลุ่มผมสีดำเงา เพื่อระบายความกระสันที่ตนได้รับ ไม่เพียงเท่านั้นฟันคมก็ยังกัดหัวนมที่กำลังชันขึ้นเป็นไต ซึ่งส่งผลให้ร่างกายหญิงสาวกระตุกเร้า ทั้งเจ็บทั้งเสียวในขณะเดียวกัน “อยะ อย่ากัดค่ะ…อื้อ! มันเจ็บ” ปากเอ่ยขอ ดวงตากลมโตก็มีหยาดนํ้าตาเอ่อคลอเบ้า เธอพยายามปรือตามองการกระทำของแฟนหนุ่มตนเองเป็นระยะ “เชื่อฟังพี่แล้วนอนอยู่เฉย ๆ อย่าทำให้พี่โกรธมากกว