65
ชัดเจนมาตลอด 11.00 น. “ได้เรื่องมั้ย” ริมฝีปากหนักเอ่ยผ่านปลายสายพลางพ่นควันบุหรี่สีเทาให้ลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณระเบียงห้องนอนของเพนเฮาส์ หลังจากเมื่อคืนลงโทษเด็กดื้อกันไปหนักพอสมควรคนตัวเล็กก็แทบหมดแรงจนต้องอุ้มขึ้นมาบนห้องนอน พอวางลงบนเตียงนอนเท่านั้นแหละก็หลับน็อคไปจนแบดซ์ต้องทำความสะอาดร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แถมเมื่อคืนก็ยังไม่ได้เคลียร์อะไรกันให้หายข้องใจ แม้กระทั่งตอนนี้กอหญ้าก็ยังไม่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอยังคงนอนหลับปุ๋ยบนเตียงนอน แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็พอจะจำคำพูดของแฟนสาวตนเองได้บ้างว่าตนโดนวางยา ( ระดับนี้ ) ปลายสายอย่างริวเซย์ตอบออกมา ด้วยความที่แบดซ์ข้องใจหนักมากว่าใครเป็นคนวางยาเลยให้เพื่อนสนิทที่มีอำนาจมากอย่างริวเซย์สืบหาตัวผู้ชายคนนั้นให้ “มันเป็นใคร” ว่าแล้วก็ทอดสายตามองไปยังเมืองหลงที่อยู่ใจกลางเมืองไปด้วย ( ผู้ชายคนนั้นมันชื่อเจ้านาย เป็นเพื่อนของน้องอะไรข้าว ๆ นี่แหละ ที่อยู่ในชมรมของเรา แล้วน้องผู้หญิงก็เป็นเพื่อนกับเมียมึง ) “เพื่อนฟางข้าว” ( เออ นั่นแหละ แต่มันบอกไม่ได้เป็นคนวางยา กูเลยสั่งให้ลูกน้องเค้นมันเพิ่มจนรู้ว่าพนักงานในร้านมีคนจ้างให้วางยาปลุกเซ็กส์เมียมึง ) “ใคร…” แบดซ์ถามออกมาด้วยความอยากรู้และเขาก็ตั้งใจรอฟังเป็นอย่างมาก ( คู่ขาเก่ามึงไง ) “แพมมี่ ?” ปากทวนคิ้วหนาก็หรี่สงสัยไปด้วย ( เออ ) “รอบก่อนมึงไม่ได้สั่งคนไปเตือนเหรอ” ( บอกสิ แต่สังสัยไม่เข็ด ) “อืม ขอบใจมึงมาก ต่อจากนี้เดี๋ยวกูจัดการเอง” พูดจบแบดซ์ก็กดตัดสายก่อนจะยกบุหรี่ในมือขึ้นสูบอีกรอบแล้วอัดควันเข้าปอด ปลายตามองไปยังท่ี่เขี่ยก้นบุหรี่ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้แล้วเขี่ยก้นให้ดับพร้อมกับทิ้งมัน เท้าหนาเดินหมุนตัวกลับเข้ามาภายในห้องนอนเช่นเดิม ตอนนี้กอหญ้าก็ยังคงหลับอยู่ ดูทรงเธอก็คงจะหลับนาน แบดซ์เลยตัดสินใจขยับผ้าห่มมาคลุมให้ร่างบางที่นอนหมดสภาพ ใจจริงเขาก็ไม่อยากทำรุนแรงขนาดนี้หรอก แต่เรื่องนี้มันคุมตัวเองไม่อยู่จริง ๆ พอมองใบหน้าหวานซีดเผือดที่นอนอยู่บนเตียงแล้ว สักพักแบดซ์ก็คว้ากุญแจรถแล้วเดินออกมาจากห้องนอน จุดมุ่งหมายของเขาก็คือคอนโดของแพมมี่ 30 นาทีต่อมา… ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นทำให้แพมมี่ที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงนอนหันไปมองยังต้นเสียง เธอชั่งใจมองอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจลุกลงมาจากเตียงนอนแล้วเดินไปดูพร้อมกับเอ่ยปากถาม “ใครอ่ะ ?” “เปิดประตู ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ” คนที่อยู่ด้านนอกประตูพูดออกมาทำให้แพมมี่ก้าวถอยหลังสามก้าวด้วยความตกใจเล็กน้อย เธอเกิดอาการหวาดระแวงกลัวว่าแบดซ์จะรู้ว่าตนเองทำอะไรลงไป แต่คงไม่หรอกมั้ง เมื่อคืนยัยกอหญ้าคงเสร็จผู้ชายคนอื่นไปแล้ว ป่านนี้คงทะเลาะกันแล้วซมซามกลับมาหาตนเองเหมือนเดิม ความคิดเข้าข้างตนเองมากมายเข้ามาในหัวของแพมมี่จนเจ้าตัวแอบยิ้มดีใจออกมา คิดว่าแผนกำจัดกอหญ้าของตนเองสำเร็จไปแล้ว “แบดซ์มาหาแพมมีอะไรรึเปล่าคะ” “มีเรื่องจะคุยด้วย” พอได้ยินแพมมี่ก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เธอเปิดประตูให้คนด้านนอกเข้ามา แบดซ์เดินเข้ามาภายในห้องของเธอด้วยสีหน้าเรียบนิ่งไร้อารมณ์แต่มันก็ซ่อนไปด้วยความโมโหที่อยู่ข้างใน หมับ…! ร่างของแพมมี่โผล่เข้ากอดที่แผ่นหลังกว้างแน่น ราวกับคิดถึงคนตรงหน้านักหนา ทั้งที่รู้ว่าแบดซ์มองตนเองยังไงแต่ก็ยังหลอกตนเองเพราะชอบเขา “เอามือของเธอออกไป” พูดจบก็สะบัดมือแพมมี่ออกจากเอวตนเองอย่างรุนแรจนร่างของเธอแทบเซล้ม “ที่แบดซ์มาหาแพมเพราะไม่ใช่อยากเจอหรอกเหรอคะ แต่ทำไมถึง…อึก!” ไม่ทันที่แพมมี่จะได้พูดจบปลายคางของเธอก็ถูกมือหนาคว้าหมับเข้าไห้จนร่างเล็กแทบเซล้มอีกครั้ง แพมมี่ใช้มือทั้งสองข้างของตนเองจับเข้าที่ข้อมือหนาแล้วพยายามสะบัดออกจากคางตนเองแต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะแรงผู้ชายที่มากกว่า “เคยบอกไปแล้วว่าจบตั้งแต่วันนั้น ทำไมเธอถึงไม่ยอมจบ” “บะ แบดซ์พูดถึงเรื่องอะไร แพมไม่เข้าใจ…” แพมมี่เอ่ยออกมาเสียงติดขัดจากนั้นมือหนาของแบดซ์ก็เลื่อนเข้ามาบีบที่ลำคอของเธอแทน “เรื่องอะไรก็รู้ดีอยู่แก่ใจ เธอวางยากอหญ้าทำไม ไหนจะเรื่องที่โกหกว่าเราคบกัน ทั้งที่ฉันไม่เคยคิดจะคบกับเธอเลยสักนิด” “ปล่อยแพมก่อน…ปล่อย!” พอถูกพูดจาแทงใจดำ สะกิดแผลในใจ แพมมี่ก็เริ่มจะไม่อยากแสดงละครต่อแล้ว เธอเองก็เจ็บเหมือนกันที่ต้องมายอมเขาขนาดนี้ “ฉันจะเตือนเป็นครั้งสุดท้าย ออกไปจากชีวิตฉันแล้วเลิกยุ่งกับกอหญ้า” แบดซ์พูดออกมาพร้อมกับปล่อยร่างของแพมมี่ลงบนพื้นห้อง จนเข่าของเธอกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง แพมมี่เจ็บทั้งกายทั้งใจ เธอยิ้มออกมานึกสมเพชกับตนเองพร้อมกับยกมือขึ้นลูบที่ลำคอของตนเอง “แบดซ์รักมันมากขนาดนั้นเลยเหรอ แพมนอนกับแบดซ์มาตั้งกี่ครั้ง ดูแลตอนไม่สบาย คอยให้กำลังใจเรื่องครอบครัวเฮงซวยของแบดซ์มาตลอด ทำไมคนที่อยู่ในใจของแบดซ์มีแต่มัน แพมอยากรู้ว่าวันนั้นมันมีอะไรนักหนา ถ้ามันดีก็คงไม่ทิ้งแบดซ์ไปหรอก แบดซ์อย่าโง่ให้มันนักเลย” “ไม่รู้อะไรก็แค่หุบปาก ฉันก็เคยบอกมาตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอว่าต้องการแค่คนแก้เงี่ยน ไม่ได้อยากได้คนรัก เธอคิดไปเองแพมมี่ เธอรู้สึกเอง เพราะฉะนั้นจัดการกับความรู้สึกตัวเองแล้วไสหัวไป” ยิ่งแบดซ์พูดออกมายิ่งตอกยํ้าความเจ็บปวดภายในใจของเธอ แพมมี่พยายามอยากได้แบดซ์มาเป็นคนรักอยู่ตลอด เธอไม่คุยกับใคร ไม่เปิดใจให้ผู้ชายคนไหนเพราะอยากรอเขาเปิดใจ แต่มันก็ไม่มีวันนั้นสักที คนเดียวที่อยู่ในใจแบดซ์มาตลอดคือกอหญ้าและมันก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง บางครั้งมันก็ตลกมากเกินไปที่เธอพยายามมากขนาดนี้ทั้งที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ “งั้นก็เชิญอยู่กับมันตลอดไปก็แล้วกัน อย่าเลิกกันอีกล่ะ คราวนี้แพมจะเหยียบให้จมตีน” แพมมี่เอ่ยออกมาด้วยความแค้น เธอหัวเราะออกมาเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกมากมายภายในใจตนเอง “ลองแตะกอหญ้าแม้แต่ปลายเล็บ ครอบครัวของเธอพังพินาศไม่มีชิ้นดีแน่นอนแพมมี่” ก่อนจะก้าวเดินออกมาจากห้องของแพมมี่แบดซ์ก็บอกกับเธอเป็นประโยคสุดท้ายเพื่อเตือนพร้อมกับหยิบปืนออกมาจ่อที่ข้างหัวของแพมมี่ ทำเอาคนโดนขู่อย่างเธอตัวสั่นเทาและกลัวเป็นอย่างมาก แพมมี่ค่อย ๆ ขยับร่างกายถอยห่างออกมา เธอไม่กล้าแม้จะขยับร่างกาย “อยากยิงก็ยิงเลยสิ แค่คนแก้เงี่ยนเองไม่ใช่เหรอ” ถึงจะกลัวมากแค่ไหนความเสียสติของเธอก็ยังมีอยู่บ้าง แพมมี่ท้าทายอดีตคู่นอนของตนเองออกไป ทำให้แบดซ์ยิ่งโมโหมากกว่าเดิมเมื่อถูกท้าทาย เขาไม่รอช้าชักกระสุนแล้วกดกระแทกเข้ากับข้างศีรษะของแพมมี่ แต่ไม่ทันที่เขาจะได้กดยิงแพมมี่ก็เหงื่อแตกพรากพร้อมกับสะอื้นรํ่าไห้ออกมา “…อึก!” “ถ้ายังกลัวตายอย่ามาท้าทายฉัน” “…แล้วทำไมไม่ยิงล่ะ ฮะ? ยิงสิ ยิง!” “คนเรามีโอกาสแค่สามรอบเท่านั้น รอบที่หนึ่งปล่อยผ่านให้แก้ไข รอบที่สองตักเตือน ถ้ามีรอบที่สาม…ถูกกำจัดแน่นอน” แบดซ์เอ่ยออกมาแล้วเก็บปืนเอาไว้ จากนั้นก็ขยับร่างกายลุกขึ้นเต็มความสูงเพราะเมื่อครู่ตนได้ก้มตัวลงไปใช้ปืนขู่คนตรงหน้า “นายมันสารเลวแบดซ์…” “ฉันไม่จำเป็นต้องดีกับคนที่ไม่ได้รัก หวังว่าเธอคงเข้าใจทั้งหมดแล้ว” พูดจบก็เดินออกจากห้องของแพมมี่ไป เธอเองก็ไม่วายหยิบแจกันและข้าวของโยนตามหลังแบดซ์ออกไปอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับเสียงกรี๊ดร้องลั่นห้องนอน มันเจ็บ เจ็บจนไม่รู้จะแสดงความรู้สึกนี้ออกมายังไง แพมมี่ได้แต่นั่งชันเข่าขึ้นแล้วยกแขนขึ้นกุมข้างศีรษะ ทำทุกอย่างแล้ว เธอทำทุกอย่างแล้วจริง ๆ แต่ก็ไม่สามารถแทนที่คนในใจของแบดซ์ได้ เพราะที่ตรงนั้นมันเป็นกอหญ้ามาตั้งแต่แรกไม่มีวันเปลี่ยนแปลงแม้แต่วินาทีเดียว ที่แบดซ์ทำทั้งหมดกับแพมมี่ก็เพราะแค่เซ็กส์ เรื่องบนเตียงที่ผู้ชายทุกคนขาดไม่ได้ สำหรับแพมมี่มันเป็นได้แค่นั้นจริง ๆ “ฉันเกลียด เกลียดพวกแก!” แพมมี่พูดออกมาพร้อมกับกรี๊ดร้องทั่วห้องของตนเองอีกครั้ง แต่ถึงจะเกลียดยังไงเธอก็ต้องยอมถอยออกมาเพราะมีเดิมพันเป็นครอบครัว… —————————————————68ลงเอย (ตอนจบ)2 สัปดาห์ต่อมา ตึก Blak swan ภายในห้องรับรองแขกบนตึก Black swan ห้าหนุ่มกำลังนั่งรวมตัวกันอยู่ แบดซ์ เจค นั่งอยู่โซฟาตัวเดียวกัน ส่วนไคโรและเคเลนนั่งโซฟาตัวกันข้าม คนที่นั่งอยู่คนเดียวเป็นเจ้าของที่อย่างริวเซย์ “นัดพวกกูมาซะดิบดี สรุปมีเรื่องอะไร” ริวเซย์พูดขึ้นเป็นคนแรกของกลุ่ม เนื่องจากก่อนหน้านี้แบดซ์ได้โทรเรียกเหล่าหนุ่ม ๆ มาเจอกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ยกเว้นพวกสองสาวนั้น “มีข่าวที่น่ายินดีมาบอก” พูดแล้วก็ยิ้มออกมาปากแทบฉีก ทำเอาสี่หนุ่มมองด้วยความสงสัย “ลองพูดมา” ไคโรเป็นคนถามด้วยสีหน้าราบเรียบ“กูกำลังจะแต่งงานแล้วโว๊ย!” แบดซ์ตะคอกออกมาเสียงดังลั่นห้องด้วยท่าทางดีใจ “….” ทุกคนต่างเงียบ ไม่ได้ตกใจกับข่าวที่น่ายินดีของแบดซ์ จนทำเอาเจ้าตัวต้องถามยํ้า“นี้พวกมึงไม่ดีใจหน่อยเหรอวะ กูกำลังจะแต่งงานทั้งที” “พวกกูรู้อยู่แล้วว่ายังไงมึงก็ต้องแต่งกับน้อง” เคเลนพูด “แววหมามาแต่ไกล เหี้ยฉิบหายสุดท้ายซมซามกลับมาหาน้องเขาเหมือนเดิม” ริวเซย์ส่ายหัวเอือมระอา“ขาดเขาไม่ได้ ไม่หมาธรรมดาแต่โคตรหมา” เจคพูดเสริม“ซํ้าเติมห่าไรกันนักหนา หรือต้องให้กูลงไปคลานเหมือนหมาพวกมึงถึง
67ทำตามสัญญาลับร่างของฟางข้าวพวกเธอก็มองหน้ากันด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้มีใครห้ามฟางข้าวเนื่องจากตอนนี้เธอได้เดินไปไกลแล้ว “ข้าวคงมีวิธีเคลียร์เรื่องนี้อยู่หรอกมั้ง เดี๋ยวจัดการได้คงมาเล่าให้พวกเราฟังเองแหละ” ท่ามกลางความเงียบกอหญ้าก็เอ่ยขึ้นมา “คงงั้น” ควีนตอบแล้วไม่นานนินิวก็ชวนเปลี่ยนเรื่องคุย“พวกแกจะแยกกันกลับเลยเหรอ เราไม่ได้รวมตัวกันแบบนี้นานพอสมควรแล้วนะ” “ทำไมเหรอ อยากชวนไปไหนรึไง” เมษาถาม “ก็อยากชวนไปปาร์ตี้ที่ห้องของใครสักคนแล้วทำปิ้งย่างกันกินดีมั้ย กว่าพวกเราจะมีเวลาว่างเจอกันนะ” นินิวเสนอออกไปด้วยความที่เรียนคนละชั้นปีจึงทำให้เวลาว่างตรงกันมันค่อนข้างหายากแต่ดีหน่อยที่วันนี้พวกเธอว่างตรงกันแถมเป็นวันประเมินของฟางข้าวอีก “เป็นความคิดที่ดีงั้นไปบ้านเราไหม” “บ้านแกอยู่ที่ไหนอ่ะกอหญ้า แล้วแกอยู่กับใคร” ควีนถามขึ้นมาทันที“มันไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แถมหลังเล็กอยู่ในสลัม พวกแกอยากไปกันไหมล่ะ แล้วเราก็อยู่กับยายด้วยนะ” “จะเป็นไรไป ที่ไหนก็ดีเหมือนกันหมดแหล่ะ งั้นไปบ้านแกก็แล้วกันนะกอหญ้า” นินิวเอ่ยสรุป “ไม่มีปัญหา~” เจ้าตัวตอบแล้วยิ้มออกมาก่อนที่สี่สาวจะพากันคล้องแขนเดิ
66วันประเมินหลังจากจัดการกับเรื่องแพมมี่เสร็จแบดซ์ก็ขับรถกลับมาหากอหญ้าที่เพนเฮาส์ทันที ร่างสูงเดินลงมาจากรถแล้วเข้าไปด้านใน ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนก็ไม่ได้ยกมือขึ้นเคาะก่อนเพราะคิดว่าคนที่นอนอยู่ด้านในยังคงนอนหลับอยู่ พอเดินมาที่เตียงนอนก็เห็นคนตัวเล็กนั่งขดตัวอยู่ในผ้าห่ม สายตาเพ่งมองมาที่เขาแต่พอโดนมองกลับก็หลบสายตาทันที“ตื่นแล้วเหรอ…” “ค่ะ” ใบหน้าหวานพยักตอบเบา ๆ นํ้าเสียงของเธอบ่งบอกออกมาอย่างชัดเจนว่าเหนื่อยล้ามากแค่ไหน “ลุกไปอาบนํ้า” “กอหญ้าลุกไม่ไหวค่ะ” เธอเอ่ยแล้วช้อนตามอง“เป็นอะไร เจ็บ ?”“เจ็บค่ะ อุ้มหน่อยได้ไหมคะ” คนมีความผิดออดอ้อนออกไปทำให้แบดซ์เดินเข้ามาอุ้มร่างบอบบางที่นั่งอยู่บนเตียง เขาอุ้มร่างแฟนสาวเดินเข้ามาในห้องนํ้าจากนั้นก็วางลงบนพื้นแล้วถอดเสื้อผ้าออกจากร่างกายให้ ในการกระทำนั้นสายตาของกอหญ้าก็มองคนด้านหลังผ่านกระจกในห้องนํ้าไปด้วย“มองทำไม” “พี่แบดซ์ยังโกรธกอหญ้าอยู่เหรอคะ” “อืม” “แล้วไปไหนมา”“ไปจัดการคนที่วางยาเธอ”“ใครเป็นคนทำ..”“แพม”“พี่ไปหาเธอมา..” “ไปสั่งสอนไม่ได้ไปทำอะไร” “เข้าใจแล้วค่ะ” กอหญ้าตอบออกมาเสียงเบาจากนั้นร่างกายของเธอก็ถ
65ชัดเจนมาตลอด11.00 น. “ได้เรื่องมั้ย” ริมฝีปากหนักเอ่ยผ่านปลายสายพลางพ่นควันบุหรี่สีเทาให้ลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณระเบียงห้องนอนของเพนเฮาส์ หลังจากเมื่อคืนลงโทษเด็กดื้อกันไปหนักพอสมควรคนตัวเล็กก็แทบหมดแรงจนต้องอุ้มขึ้นมาบนห้องนอน พอวางลงบนเตียงนอนเท่านั้นแหละก็หลับน็อคไปจนแบดซ์ต้องทำความสะอาดร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แถมเมื่อคืนก็ยังไม่ได้เคลียร์อะไรกันให้หายข้องใจ แม้กระทั่งตอนนี้กอหญ้าก็ยังไม่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอยังคงนอนหลับปุ๋ยบนเตียงนอน แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็พอจะจำคำพูดของแฟนสาวตนเองได้บ้างว่าตนโดนวางยา ( ระดับนี้ ) ปลายสายอย่างริวเซย์ตอบออกมา ด้วยความที่แบดซ์ข้องใจหนักมากว่าใครเป็นคนวางยาเลยให้เพื่อนสนิทที่มีอำนาจมากอย่างริวเซย์สืบหาตัวผู้ชายคนนั้นให้ “มันเป็นใคร” ว่าแล้วก็ทอดสายตามองไปยังเมืองหลงที่อยู่ใจกลางเมืองไปด้วย ( ผู้ชายคนนั้นมันชื่อเจ้านาย เป็นเพื่อนของน้องอะไรข้าว ๆ นี่แหละ ที่อยู่ในชมรมของเรา แล้วน้องผู้หญิงก็เป็นเพื่อนกับเมียมึง ) “เพื่อนฟางข้าว”( เออ นั่นแหละ แต่มันบอกไม่ได้เป็นคนวางยา กูเลยสั่งให้ลูกน้องเค้นมันเพิ่มจนรู้ว่าพนักงานในร้านมีคนจ้างให้ว
64เกือบไม่รอด NC+++สะโพกสวยยังคงถูกกระแทกอย่างต่อเนื่อง ความจุกเข้าเล่นงานจนคนตัวเล็กจนต้องกัดฟันเอาไว้แน่น แท่งเอ็นหนายังคงกระแทกเข้าออกตามรูร่องเปียกแฉะอย่างเอาแต่ใจ มือปล่อยเรือนผมสวยให้สยายเต็มแผ่นหลังเรียบเนียนของเธอ ก่อนจะใช้มือจับเข้าที่เอวคอดสุดแรงเพื่อให้ร่างบอบบางได้รับแรงกระแทกได้อย่างถนัด ตับ! ตับ! ตับ!… เสียงจุดเชื่อมกระทบกันดังไม่หยุด ร่องรักคับแคบรับรู้ได้ถึงสัมผัสดุดันและหยาบโลนที่โถมเข้าร่างกายไม่หยุด “อ๊ะ!…อ๊าา…” กอหญ้ายังคงร้องครางออกมาราวกับจะขาดใจ ความอยากในร่างกายเธอก็พลุ่งพล่านมากขึ้นเรื่อย ๆ จากฤทธิ์ยา ยิ่งโดนกระแทกยิ่งเสียวแถมยังจุกมากแทบจะกรีดร้องออกมา พอกระแทกท่านี้พอใจแบดซ์ก็จับร่างสวยให้เปลี่ยนท่าเป็นเกาะกับหลังโซฟาแทน เข่าทั้งสองข้างวางทาบบนเบาะพร้อมกับร่างหนาที่ลงมาจากโซฟาแล้วยืนอยู่บนพื้น แบดซ์ใช้มือจับเอวบางให้แอ่นมาด้านหลังเล็กน้อยก่อนจะดันแก่นกายเข้าไปใหม่เกือบมิดลำเช่นเดิม “กะ กอหญ้าจุก…” นํ้าเสียงไร้เรี่ยวแรงเอ่ยออกมาเบา ๆ พลันร่างกายของเธอก็ถูกกระแทกต่อไม่มีเวลาได้พักหายใจ ทันทีที่จุดเชื่อมสอดประสานกลายเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง เอวสอบก็เริ่
63หึงแรง NC+++ปากที่ยังคงวนเวียนอยู่กับซอกคอกระซิบออกมาพร้อมกับใช้ปลายนิ้วปลดตระขรอบราเชียร์แล้วโยนให้พ้นทาง ไม่นานท่อนบนของกอหญ้าก็เปลือยเปล่าไร้สิ่งปกปิด เผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่มสองข้างสู่สายตา ริมฝีปากหยักก็ดูดซํ้ารอยดูดเดิมให้เป็นรอยของตนเองแทน กระทั่งพอใจแบดซ์ก็ดันร่างบางของแฟนสาวไปยังโซฟาตัวยาวแล้วผลักให้เธอนอนราบลง แล้วตามคร่อมด้วยร่างกายตนเอง “พะ…พี่แบดซ์…” เสียงสั่นเอ่ยเรียกคนบนร่างกระเส้า เมื่อยอดอกเม็ดงามสีแดงระเรื่อถูกครอบงำด้วยริมฝีปากอุ่นร้อนและลิ้นเปียกชุ่ม แบดซ์ทั้งดูดและเลียมันอย่างมูมมาม มือหนาอีกข้างก็บีบเคล้นอกอวบอีกฝั่งไปด้วย หนุ่มวิศวะบีบเคล้นมันอย่างรุนแรงกระทั่งร่างน้อยเริ่มบิดเร้า กอหญ้าเม้มปากแน่นแล้วจิกนิ้วลงบนกลุ่มผมสีดำเงา เพื่อระบายความกระสันที่ตนได้รับ ไม่เพียงเท่านั้นฟันคมก็ยังกัดหัวนมที่กำลังชันขึ้นเป็นไต ซึ่งส่งผลให้ร่างกายหญิงสาวกระตุกเร้า ทั้งเจ็บทั้งเสียวในขณะเดียวกัน “อยะ อย่ากัดค่ะ…อื้อ! มันเจ็บ” ปากเอ่ยขอ ดวงตากลมโตก็มีหยาดนํ้าตาเอ่อคลอเบ้า เธอพยายามปรือตามองการกระทำของแฟนหนุ่มตนเองเป็นระยะ “เชื่อฟังพี่แล้วนอนอยู่เฉย ๆ อย่าทำให้พี่โกรธมากกว