9
มีซัมติง
กอหญ้ามองเสื้อช็อปในมือตนเองแบบงง ๆ ก่อนจะยอมเอามาสวมคลุมเอาไว้เพราะตนไม่อยากมีปัญหากับแบดซ์ทีหลัง แล้วไม่นานสามสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอก็เดินเข้ามาถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่ากอหญ้าไปรู้จักกับแบดซ์ตอนไหน
“นี่กอหญ้าแกรู้จักกับพี่แบดซ์เป็นการส่วนตัวหรอ หรือเคยรู้จักกันมาก่อน” นินิวพยายามคะยั้นคะยอถาม
“ก็รู้จักพร้อมกับพวกแกนี่แหละ”
“แต่แปลกจังเลยอ่ะ พี่แบดซ์เอาเสื้อช็อปของตัวเองมาให้แกใส่ทำไม กันซีนเว่อร์”
“หรือว่า…”
“ว่า?” ควีนพูดต่อนินิวและรอคำตอบจากเธอ
“หรือว่าพี่แบดซ์แอบชอบแกวะกอหญ้า”
“นี่ใครเข้ามาคุยด้วยนิวจะคิดว่าชอบเราหมดรึไง ไม่ใช่หรอก” กอหญ้าตกใจกับคำพูดของเพื่อนไม่น้อยและเธอก็พูดพยายามบ่ายเบี่ยงออกไป สาเหตุก็เพราะว่าเธอไม่อยากให้ใครมารู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอและแบดซ์ ถึงกอหญ้าจะแอบแปลกใจกับการกระทำของเขาก็ตาม..
“มันน่าคิดนี่นา”
“น้อง ๆ คณะวิศวะมารวมตัวกันเร็วค่ะ อีกหน่อยงานจะเริ่มแล้ว” ในขณะที่พวกเธอกำลังยืนเมาท์กันอยู่ เสียงของขนมผิงก็เอ่ยขึ้นผ่านโทรโข่ง ทำให้พวกเธอหยุดบทสนทนาของตนเองเอาไว้แล้วเดินไปรวมตัวกันเรียงเป็นแถวตามสาขาแต่ละสาขาจะมีรุ่นพี่หนึ่งคนยืนอยู่หัวแถวเพื่อจะนำรุ่นน้องเข้าไปที่สนาม
“รบกวนให้ผู้หญิงมายืนอยู่ด้านหน้าหัวแถวด้วยนะคะ” พอเสียงยูกิเอ่ยขึ้นมาอีกคนพวกเธอที่ยืนอยู่แถวเดียวกันก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่มีใครอยากยืนอยู่หัวแถวเพราะมันเด่นเกินไป
“ควีนแกไปเลย!” นินิวสะกิดควีน
“โนจ๊ะ ให้ไอ้เมไป” ควีนปฏิเสธและโบ้ยปากไปที่เมษา
“หือ?…ไม่อ่ะ ฉันเขิน”
“งั้นกอหญ้า ต้องแกแล้วแหละ” ควีนพูดต่อ
“ไม่เอาอ่ะ” ใบหน้าหวานส่ายปฏิเสธ กดดันจะบ้าตาย ยืนอยู่ตรงหน้าแบดซ์ แถมยังสวมเสื้อช็อปของเขาอีก
“ให้ความร่วมมือกับพี่หน่อยนะคะ เรียงตามความสูงก็ได้ค่ะ” เมื่อเห็นว่ารุ่นน้องมัวแต่เกี่ยงกัน ยูกิก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้งจนได้บทสรุปและคนที่ตัวเล็กที่สุดในกลุ่มก็คือกอหญ้า...
“หงึ…โดนจนได้” ปากเรียวเล็กบ่นอุบอิบแล้วเดินคอตกไปยืนอยู่ตรงหน้า ไม่นานแต่ละแถวก็เรียงเสร็จ
“ทำไมเราได้ใส่เสื้อของไอ้แบดซ์มัน” ทันใดนั้นเองเจคก็เดินเข้ามาหากอหญ้าเพราะเขายืนอยู่พร้อมกับขนมผิงและยูกิ ใบหน้าเรียวใสจึงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของคำถาม
“พี่เขาให้สวมเอาไว้ค่ะ”
“เสื้อรัดเกินไปหรอ”
“….” เธอพยักหน้าตอบ เพราะสรรหาเหตุผลมาโกหกไม่ได้ในระยะเวลาประชันชิดแบบนี้แล้ว
“เอาของพี่ไปสวมดีกว่า แบดซ์มันเป็นประธานมหาลัยต้องขึ้นไปกล่าวต้อนรับรุ่นน้อง” เจคเอ่ยออกมาเพียงเท่านั้นก็ถอดเสื้อช็อปของตนเองออกแล้วให้คนตรงหน้าสวมของตนเองแทน กอหญ้านิ่งคิดแต่มันก็ถูกอย่างที่เจคพูด ให้ขึ้นไปแบบไม่มีเสื้อช็อปและแบดซ์ก็สวมแค่เสื้อยืดแขนสั้นตัวเดียวคงไม่เป็นทางการเท่าไหร่และก็คงไม่เหมาะสม
“กอหญ้าไม่ใส่ก็ได้ค่ะ”
“รับไปเถอะ พี่ต้องเซฟรุ่นน้องคณะเดียวกันอยู่แล้ว” เจคบอกและยิ้มให้เธอ กอหญ้าเม้มปากแน่นรู้สึกไม่ค่อยดีนักแต่ก็ยอมรับเสื้อช็อปจากเจคมาแล้วสวมเอาไว้แทนเสื้อช็อปของแบดซ์
“ขอบคุณค่ะ งานจบแล้วจะรีบคืนนะคะ”
“ว่างค่อยเอามาคืนพี่ก็ได้” ชายหนุ่มเอ่ยตอบเพียงเท่านั้นก็เดินปลีกตัวห่างออกมาจากกอหญ้า โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าตอนที่ตนเองเอาเสื้อให้กอหญ้ายืมนั้นมีกล้องได้จับมาที่เขาหลายตัว
ส่วนบรรยากาศตอนนี้ก็ครึกครื้นมาก เหล่ารุ่นพี่แต่ละคณะกำลังทยอยพารุ่นน้องเดินเข้าไปในสนามและล้อมกันเป็นวงกลมขนาดใหญ่ กลุ่มของพี่ว๊ากช่วยกันดูแลน้อง ๆ คณะตนเองยกเว้นแต่ประธานนักศึกษาอย่างแบดซ์ที่ตอนนี้กำลังยุ่งหลายอย่างถึงแม้เขาจะยุ่งมากแค่ไหนก็ไม่ลืมเดินแวะมาหาเรื่องกอหญ้าก่อน ไม่รู้ว่าเกลียดหรือแอบชอบกันแน่ถึงชอบทำตัวเกาะติดเป็นเห็บเหาอยู่ตลอด
ตอนนี้เฟรชชี่ปีหนึ่งทุกคณะมายืนล้อมกันเป็นวงกลมทั่วสนามแล้ว ถึงจะไม่มากันทุกคนแต่ก็ 90% ของเด็กปีหนึ่งได้ที่เข้าร่วมกิจกรรม เมื่อล้อมวงกันเสร็จรุ่นพี่ปีสองก็มาล้อมรุ่นน้องต่อ เพื่อทำการบูม KBR ชื่อย่อของมหาลัยพร้อมกับร้องเพลงประจำมหาวิทยาลัยเพื่อเป็นการต้อนรับน้องใหม่
หลังร้องเพลงจบประธานนักศึกษาก็กล่าวต้อนรับน้องใหม่ กิจกรรมต่อจากนั้นก็เป็นการแข่งเชียร์ของน้องปีหนึ่งต่อ ทุกอย่างในวันประเพณีเชียร์กลางดำเนินมาเรื่อย ๆ กระทั่งจบงาน..
…
ตกดึกในวันเดียวกันกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่ก็จบลง นักศึกษาแต่ละคนต่างทยอยแยกกันกลับจากสนามกลางของมหาลัยหมดแล้ว ส่วนกลุ่มของแบดซ์ก็มารวมตัวกันอยู่ที่ห้องชมรม เพื่อคุยกันว่าวันเปิดเรียนกิจกรรมรับน้องที่เหลืออยู่จะจัดการยังไงบ้าง รวมถึงการรับสมัครรุ่นน้องเข้าชมรมด้วย
“วันนี้เหนื่อยชะมัดเลยว่ะ” ริวเซย์เอ่ยออกมาแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้าสายตาของเขาก็คอยกวาดมองหาร่างของขนมผิงไปด้วยแต่ก็ไม่พบเธอ
“ผิงขอตัวกลับไปแล้ว มึงไม่ต้องมองหาหรอก” ยูกิเอ่ยออกมาพลางไถไอจีเล่น แล้วไม่นานร่างของใครบางคนก็หย่อนก้นนั่งลงข้างกายเธอ เขาคนนั้นคือเจค ไม่เพียงแค่นั่งข้างกายยูกิเฉย ๆ แต่เขากวาดท่อนแขนตนเองโอบเอวบางอย่างใกล้ชิดแทบจะสิงร่างกันอีกด้วย
“ไม่ได้อยากรู้” ริวเซย์ตอบอย่างไม่ใส่ใจนักแล้วก้มหน้าตอบแชทแฟนสาวของตนเองต่อ
“ไอ้เจคเสื้อช็อปมึงไปไหน ?” แบดซ์ที่นั่งฟังบทสนทนาของเพื่อนอยู่พูดขึ้นมาบ้าง เพราะเขาสังเกตเห็นว่าเจคสวมเพียงเนื้อยืดสีดำตัวข้างในเพียงตัวเดียว
“เจค มึงยังไม่บอกไอ้แบดซ์หรอ แล้วไอ้แบดซ์ใส่ของใคร” ยูกิมองหน้าเจคที่เอาแต่ใช้มือลวนลามตนเองอย่างโจ่งแจ้งแต่เธอก็ชินไปแล้วแหละ
“เวลามันประชันชิดเกินไป เลยไม่ได้บอก” เจคตอบ
“กูใส่เสื้อไอ้เค ตอนกิจกรรมมันหายหัวไปไหนไม่รู้ ไม่เข้ากิจกรรมอีกแล้ว” แบดซ์ตอบแล้วมองไปที่เคเลน เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาและยากจะคาดเดาว่าตอนนี้เขาคิดอะไรอยู่ เคเลนเป็นคนเดียวของกลุ่มที่ไม่ค่อยชอบเข้ากิจกรรมเท่าไหร่ แถมยังไม่สุงสิงกับใครและทำตัวลึกลับ เรื่องผู้หญิงไม่ต้องนึกถึงร้อยทั้งร้อยมาจีบก็ไม่สนใจใคร
“ขี้เกียจ” เคเลนตอบออกมาสั้น ๆ แล้วพ่นควันบุหรี่ให้ลอยคละคลุ้งทั่วบริเวณห้องชมรม จนยูกิต้องยกมือปัดควันหนีอย่างนึกรำคาญ
“เดี๋ยวเสื้อมึงพรุ่งนี้กูเอามาคืน ตอนนี้อยู่บนรถขี้เกียจไปเอา”
“สรุปเสื้อมึงไปไหน”
“ให้รุ่นน้องยืม”
“ใคร ?”
“น้องกอหญ้า” เจคตอบออกมาด้วยนํ้าเสียงราบเรียบ และคำตอบนั้นมันก็ทำให้แบดซ์ขมวดคิ้วยุ่ง ทั้งที่เขาเอาเสื้อของตนเองให้สวมแล้วแต่ทำไมถึงเลือกที่จะใส่ของเจคหรือที่เคยเตือนไปเธอไม่ฟัง แบดซ์คิดอยู่ในหัวก็หงุดหงิดขึ้นมามากแต่เขาก็พยายามสกัดกั้นอารมณ์ตนเองไว้ แต่งตัวโป๊ไม่พอเสือกอ่อยเพื่อนเขาอีกแล้ว ยัยเมียเก่าคนนี้มันร่านดีจริง ๆ
“น้องเขาใส่เสื้อผิดไซซ์อ่ะ ยืนอยู่แถวหน้าด้วย เจคมันเลยให้ยืมก่อนเดี๋ยวน่าเกลียดเกินไป” ยูกิอธิบาย
“ปกป้องผัวสุดที่รักดีจังเลยนะ”
“ก็ผัวกูอ่ะ กูก็รักของกู จริงไหมคะผัวขา” ยูกิพูดประชดริวเซย์แบบเล่นจริงทำจริง ซึ่งสองคนนี้ก็มักจะเล่นแบบนี้กันประจำอยู่แล้ว เป็นผัวเมียของกลุ่มที่ตัวติดกันตลอดและสนิทกันมากที่สุดในกลุ่มอีกด้วย
“จริงครับเมีย” เจคตอบกลับแล้วซุกหน้าเข้าที่ลำคอขาวของยูกิ ท่าทางติดยูกิเหมือนหมาน้อยติดแม่ลูกอ่อนแบบนี้เพื่อน ๆ ในกลุ่มก็ชินกันหมดแล้ว
“ไปเปิดห้องไหมมึงสองคน” ไคโรเอ่ยขึ้นมาอย่างเอือมระอา
“ไม่อ่ะ กูอยากไปดริ้งมากกว่า มีใครไปกับกูป่ะ” ยูกิชวนเพื่อนขึ้นมา
“อืม เบื่อ ๆ” เคเลนตอบซึ่งมีน้อยครั้งนักที่เขาจะไปกับกลุ่มเพื่อน
“กูไป” ไคโรตอบ
“ที่เหลืออ่ะ”
“กูไม่ไป” ริวเซย์ตอบเพราะแฟนสาวชอบงอแงเวลาเขาไปเที่ยวกลางคืน
“มึงไปกูก็ต้องไปด้วยอยู่แล้ว” คราวนี้เป็นเจคตอบ
“มึงละไอ้แบดซ์”
“ไม่ว่าง มีธุระต่อ” แบดซ์ตอบออกมาทั้งที่สายตาของเขายังคงจ้องมองหน้าจอมือถือของตนเองอยู่ จนกระทั่งเพื่อนสงสัยกันเลยถามออกไป เพราะปกติแบดซ์จะเป็นคนที่ดื่มหนักที่สุดในกลุ่มแต่ครั้งนี้มันแปลกไป
“ธุระอะไรวะ” ริวเซย์ถามขึ้น
“ไม่ต้องรู้หรอก” แบดซ์ตอบออกมาและพยายามควบคุมอารมณ์ตนเอง
“กูว่าเป็นเรื่องแล้ว” และในตอนนั้นเองไคโรก็เอ่ยออกมาพลางส่งอะไรบางอย่างเข้าไปในกลุ่มแชท ทุกคนเลยต่างกดเข้าไปดูรวมถึงแบดซ์ด้วย สิ่งที่ไคโรส่งเข้ามาเป็นข่าวของเจค โดนหัวข่าวถูกพาดโดยเพจคนดังของมหาลัยคาบาเรียล มีหัวข้อว่า..
‘วันนี้แอดมีเรื่องมาเมาท์ค่า น้องเจคหนุ่มวิศวะรูปหล่อของเรามีแววว่า ‘มีซัมติง’ กับสาวนอกวงการ บอกเลยว่าท่าทางดูสนิทกันมากกกก งานนี้ต้องมาลุ้นว่าแค่รุ่นพี่รุ่นน้องหรือมันมากกว่านั้น ลูกเพจของแอดคิดเห็นอย่างไรบ้าง แล้วสาวคนนี้เป็นใครกันน๊า’
“พรุ่งนี้คงแห่นักข่าวมาทั้งสำนัก” ริวเซย์เอ่ยออกมาอย่างเบื่อหน่าย
“มึงชอบน้องเขาหรอไอ้เจค” เคเลนถามพร้อมกับละสายตาจากหน้าจอมือถือของตน
“ไม่เชิง แต่ก็…น่ารักดี” เจคตอบ ทำให้แบดซ์ยิ่งแทบจะระเบิดออกมา เขาไม่คิดว่า เตือนไปแล้วกอหญ้าจะไม่ฟังและท้าทายขนาดนี้
ส่วนยูกิเธอก็ทำหน้านิ่งแต่ภายในมันกลับเจ็บแปลบขึ้นมายังไงไม่รู้..
“กูขอตัวก่อนนะ มีเรื่องต้องจัดการ” แบดซ์พูดแทรกขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ แล้วเขาก็ลุกพรวดเดินออกมาจากห้องชมรมไม่นานเสียงประตูก็ถูกปิดลงอย่างรุนแรงตามอารมณ์เจ้าของการกระทำ เป้าหมายของเขาคือห้องของกอหญ้าเพราะแบดซ์ไม่ยอมปล่อยให้เธอไปมีความสุขง่าย ๆ ไม่ว่าจะเริ่มความสัมพันธ์ใหม่กับใครหรือแม้แต่เจค ชายหนุ่มจะคอยขัดขวางและตามรังควานเธอให้ไม่มีความสุขและทำให้เหมือนตายทั้งเป็น
ในเมื่อเขาเองไม่สามารถเริ่มต้นใหม่กับใครได้ กอหญ้าเองก็เช่นกัน เธอไม่มีสิทธิ์มีความสุขไม่ควรมีเลยสักนิด..
—————————————————
ไม่อยากเห็นน้องเริ่มต้นใหม่กับใครเพราะแค้น ❌
เพราะลืมน้องไม่ได้ ✅