LOGINเดิมพันรักครั้งที่ 1
2/3
“อื้อ อ๊ะ” ริมฝีปากฉันเผยอขึ้นตอบรับกับจูบที่คนบนร่างโน้มลงมา ทุกคนการขยับกายเข้าออกของเขาทำเอาฉันแทบไร้เรี่ยวแรง
“มินนี่ อา” ใบหน้าหล่อเหลาถอนจูบออก สองมือฉันคล้องคอเขา ด้านล้างกระแทกกระทั้นเข้ามาไม่หยุด ทุกจังหวะชวนให้ฉันผวาเฮือกไปทั้งกาย ดวงตาคมกริบเร่าร้อนของ ‘เกียร์’ ทำเอาฉันแทบบ้าตาย
รสรักและจังหวะดุดันสาดซัดเข้ามาหาฉัน ฉันรู้สึกเหมือนว่ากำลังถูกสัตว์ตัวใหญ่ฉีกทึ้งร่างกายให้ออกเป็นคนละส่วน ทุกจังหวะที่เขาทำมันทำเอาฉันเหมือนถูกเหวี่ยงขึ้นไปในที่สูงที่สุดแล้วตกลงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาร้อนแรง ดุดัน และร้ายกาจเหลือเกิน
ร่างฉันถูกกอดรัดฟัดจนแน่นขนัด เสียงครวญครางดังก้องในหัวราวกับว่าเป็นกิจกรรมที่สุขสมหาที่เปรียบไม่ได้ เหมือนว่าฉันยอมศิโรราบให้เขาแล้วทุกการกระทำ
“เฮือก” ฉันผวาลืมตาตื่นขึ้นมา แต่ตอนนั้นรู้สึกเหมือนว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางป่าที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ ร่างกายเหมือนถูกกอดรัดเอาไว้แน่นมากจนหายใจไม่ออก งูที่รัดฉันอยู่ค่อย ๆ รัดจากทางด้านล่างแล้วค่อย ๆ เลื้อยมาจนถึงด้านบน ไม่ได้รัดทั้งตัวในทีเดียว
“งะ งู” ปากฉันขยับและสั่นเทาตอนหลุบตาลงแล้วเห็นร่างของงูขนาดใหญ่ที่รัดร่างของตัวเองเอาไว้ ฉันรู้สึกอึดอัด แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้รู้สึกอยากจะหนีไปจากการกอดรัดนั้น ทั้งที่ปกติฉันกลัวงู แต่ทำไมฉันถึงยอมให้งูตัวใหญ่ขนาดนี้รัดกันนะ
มันเหมือนว่าการกอดรัดของงูตัวนี้เป็นอะไรที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น และอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ฉันไม่ได้กลัว ไม่ได้พยายามหนี และรู้สึกเหมือนว่ามันคุ้นเคยมากด้วย....
“คุณหนู คุณหนูคะ”
“พี่วรรณ” ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาทันทีที่ความรู้สึกเหมือนว่าร่างถูกเขย่า
“ฝันร้ายเหรอคะ ทำไมถึงเหงื่อออกขนาดนั้น” ฉันขยับตัวลุกขึ้นนั่งแล้วก็สั่นหัวปรับสายตาให้เข้ากับแสงแดดที่สาดส่องมา พี่วรรณคงมาปลุกฉันเหมือนทุกวัน และเธอก็คงเป็นคนเปิดม่านออก
ฉันฝันเหรอ ทุกอย่างเมื่อกี้คือฝันสินะ
“ค่ะ” ฉันตอบเสียงเบา
“พี่เตรียมน้ำอุ่นไว้ให้แล้วนะคะ จะได้สบายตัว ไปอาบน้ำเถอะค่ะ” ฉันพยักหน้ารับเบา ๆ ก่อนจะลุกจากเตียงแล้วก็ไปเข้าห้องน้ำ พี่วรรณคือพี่เลี้ยงของฉันที่จะทำหน้าที่ทุกอย่างให้ ตั้งแต่เตรียมน้ำให้อาบน้ำ เตรียมชุด ช่วยแต่งตัวและอีกมากมายเลย
พอไม่มีพี่วรรณฉันก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองทำอะไรไม่ถูกเลยล่ะ
“มินนี่บ้า ๆ ๆ ฝันอะไรก็ไม่รู้” ระหว่างแช่น้ำอยู่นั้นฉันก็ดันคิดถึงฝันอีกจนได้ พอภาพมันผุดเข้ามาในหัวฉันก็ทึ้งผมตัวเองไปที สงสัยจะพบเจอเรื่องเมื่อวานแล้วมันติดอยู่ในจิตใต้สำนึกล่ะมั้ง แต่ฝันว่ามีอะไรกับเขามันก็เกินไปมั้ง “บ้า ๆ ๆ บ้าที่สุดเลย”
“บ้าอะไรเหรอคะ” พี่วรรณเดินเข้ามาพร้อมกับอุปกรณ์ขัดผิวของฉัน
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร” ฉันโน้มตัวเอนหลังลงกับพนักขอบอ่างแล้วหลับตาลง แต่ทั้งภาพทั้งเสียงของฝันกับเรื่องของเมื่อวานที่ห้องน้ำมันตีกันไปหมดเลย ระหว่างที่พี่วรรณกำลังขัดผิวให้ฉันใช้มือที่ยังไม่ถูกขัดกดหาทำนายฝันไปเรื่อย แน่นอนฉันต้องทำนายที่ถูกฝันว่างูดรัดอยู่แล้ว
ไม่ได้ทำนายฝันสิบแปดบวกบ้านั่นหรอก
ฝันว่างูรัดจะได้พบเนื้อคู่ ถ้างูรัดส่วนบนจะได้คู่ที่ฐานะเหนือกว่า แต่ถ้ารัดต่ำก็จะได้เนื้อคู่ฐานะต่ำกว่า ฉันอ่านทำนายฝันนั้นในใจ แต่ว่าในฝันของฉันงูรัดที่ด้านล่างนะ แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนมาด้านบนแบบนี้หมายความว่ายังไงนะ แต่ว่ามันก็คงเป็นฝันเพ้อเจ้อแหละ ไม่มีอะไรมากหรอกมั้ง
พอลงมาจากบ้านพร้อมชุดนิสิตสำหรับเตรียมไปเรียนก็พบเจอคุณพ่อคุณแม่และมิกกี้บนโต๊ะอาหาร แถมยังมีคนอื่นนอกจากคนในครอบครัวด้วยคือเปรม
“มินนี่ มานั่งสิลูก” คุณพ่อเรียกแล้วดูเหมือนว่าจะจัดที่นั่งให้ฉันไว้ข้างเปรมเชียวนะ
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ” ฉันทักทายทุกคนแบบที่ไม่ได้เจาะจงและสนใจอาหารตรงหน้าแทนที่จะสนใจแขกที่มาแต่เช้าอย่างเปรม ฉันไม่ได้ไม่ชอบเขานะ แต่ก็ไม่ได้ชอบด้วย ก็แค่เฉย ๆ ไม่ได้อะไรมากน่ะ
“วันนี้เปรมกับมิกกี้จะเข้าโรงเรียนก่อนเที่ยงใช่ไหมจ๊ะ” คุณแม่ถาม
“ครับคุณแม่” เปรมน่ะเรียกแม่ฉันว่าคุณแม่ด้วยนะ เมื่อก่อนก็เฉย ๆ หรอกเพราะว่าเปรมเป็นเพื่อนมิกกี้นี่นา จะเรียกว่าคุณแม่ก็ไม่แปลกอะไร แต่ว่าพอการจับคู่ค่อย ๆ ชัดขึ้นและเปรมเรียกพ่อกับแม่ฉันว่าแม่แล้วก็มันก็กระดากหูแปลก ๆ “มินนี่เรียนสิบโมงใช่ไหมครับ”
“อ๋อ ค่ะ” ฉันตอบแล้วส่งสายตาไปมองมิกกี้ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เจ้าบ้านั่นแน่ ๆ ที่บอกตารางเรียนฉันน่ะ มิกกี้เฉไฉไม่มองตาฉันแล้วสนใจเข้าต้มกุ้งแทน มิกกี้คนบ้า คอยดูเถอะ ๆ
งั้นวันนี้ก่อนเข้าโรงเรียนเปรมกับมิกกี้แวะไปส่งมินนี่ก่อนได้ไหมล่ะ คุณพ่อเสนอส่วนฉันก็...
“ไม่เป็นไรค่ะ มินนี่ให้พี่สนไม่ส่งเหมือนทุกวันดีกว่าไม่รบกวนหรอก ทางกลับโรงเรียนไม่ใช่ทางผ่านมหาลัยมินนี่” ฉันเสนอไป เปรมกับมิกกี้เรียนที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจน่ะ ถึงจะเรียกว่าโรงเรียนแต่ก็สอนระดับมหาลัยนะ เป็นโรงเรียนนายร้อยสายตำรวจที่อยู่จังหวัดใกล้ ๆ กรุงเทพเลย
พ่ออยากให้มิกกี้เรียนเพราะว่าพี่เรย์ไม่ยอมเรียนและรายนั้นก็บังคับไม่ค่อยได้หรอก ไม่ค่อยอยู่ในโอวาทของพ่อกับแม่เท่าฉันกับมิกกี้เท่าไหร่ แต่เขาเรียนเก่งนะ ได้ป.ตรีมาแล้วตั้งสองใบ
ปกติแล้วเวลามิกกี้กลับโรงเรียนเขาก็จะไปพร้อมเปรม เหมือนว่าเอารถไปจอดไว้ที่หอเพื่อนที่เช่าอยู่แถวโรงเรียน บางครั้งก็ให้คนที่บ้านไปรับบ้าง ทำนองนั้นล่ะ วันหยุดของโรงเรียนมิกกี้จะปล่อยวัยศุกร์ช่วงเย็น และเข้าไปอีกทีวันอาทิตย์เย็น แต่วันนี้ไม่รู้ทำไมเหมือนกันที่ให้เข้าจันทร์ตอนเช้า
“แม่จะให้สนพาไปทำธุระให้จ้ะ” แม่ว่าส่วนฉันก็ตัดข้าวเข้าปาก ไม่อยากจะแสดงกิริยาขัดอกขัดใจตอนนี้หรอกนะ “เหลือเวลาอีกตั้งนานคงเข้าโรงเรียนทันอยู่แล้ว”
“ใช่ครับ ไปส่งมินนี่ได้สบาย ๆ” เปรมบอกต่อ
“โอเคค่ะ” ฉันตอบไป แต่ก็นะมัดมือชกกันขนาดนี้แล้วนี่
“มินนี่ไปนั่งหน้ากับเปรมก่อนไป” เดี๋ยวถึงมอมินนี่เค้าจะเปลี่ยนขับกับเปรม มิกกี้คนบ้า บอกว่าไม่ชอบก็ยัดเยียดอยู่ได้ ระวังตัวไว้วันพระไม่ได้มีหนเดียวหรอกนะ เจ้าแฝดนิสัยไม่ดี
“มินนี่เมามากหรือเปล่าเมื่อคืน” ระหว่างทางเปรมก็ชวนฉันคุยโดยที่เจ้าแฝดบ้านั่นก็เปิดทางให้สุด ๆ มิกกี้ไม่ยอมหาเรื่องคุยเลยทั้งที่คุยเก่งจะตายไป
“ก็นิดหน่อย” ฉันก็น่ะก็พยายามตอบให้ห้วนที่สุดให้เปรมรัยรู้ถึงสัญญาณไม่อยากคุยของฉัน
“แต่มินนี่รู้จักกับไอ้เกียร์ด้วยเหรอ” ตอนนั้นเปรมก็ถามเรื่องใหม่ขึ้นมา แต่ก็นะทำไมถึงต้องเรียกคนอื่นว่าไอ้ทั้งที่ไม่สนิทกันด้วย ฉันคิดว่าการเรียกคนอื่นว่าไอ้น่ะ มันดูต้องใช้เรียกคนที่สนิทกัน หรือไม่ก็เกลียดกันสิ แต่เอ๊ะ ๆ เหมือนว่าเมื่อคืนมิกกี้จะเล่าให้ฟัง ฉันเกือบลืมไปเลย
“ทำไมเปรมต้องเรียกคนอื่นว่าไอ้แบบนั้นค” ฉันถามไปแล้วก็หันไปมอง “เปรมสนิทกับเกียร์เหรอ”
“เปล่าครับ ไม่ได้สนิทกัน”
“เรียกคนไม่สนิทว่าไอ้แบบนั้น ไม่ดีเลยนะคะ” ฉันบอกไปแล้วหันกลับมา ก่อนจะกอดอก
“ก็เปรมไม่ชอบมัน มินนี่รู้ไหมว่าผู้ชายคนนั้นเคยมีอะไรกับเบล แฟนเก่าเปรมลับหลัง” เปรมเล่าต่อไปอีก ดูเหมือนว่าเปรมจะต้องการให้ฉันไม่ชอบเกียร์ไปด้วย คำพูดคำจาของเปรมดูไม่ได้พูดว่าร้ายกับเบลแฟนเก่าเขาเท่าเกียร์เลย แน่นอนว่าการเล่าแค่นี้ก็ทำให้รู้สึกเหมือนว่าเกียร์เป็นคนทำอยู่ฝ่ายเดียว
“ของแบบนี้มินนี่ว่าตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกนะเปรม” ฉันพูดแล้วก็หันหน้าออกไปนอกรถ ฉันไม่ได้ปกป้องเกียร์ ไม่ได้อยากจะให้เปรมว่าร้ายเบลด้วย แต่ว่านะฉันแค่ไม่ชอบการที่เปรมทำเหมือนว่าอยากจะให้ฉันอคติกับเกียร์ไปด้วยทั้งที่รู้ข้อมูลแค่นี้
ฉันอึดอัดกับการถูกจับคู่กับเปรม และฉันรู้ว่าเปรมก็ชอบฉัน แต่ฉันไม่ได้คิดกับเปรมแบบนั้น
Mickey : มินนี่ไม่น่ารักเลยนะ เปรมแค่ไม่อยากให้มินนี่ไปยุ่งกับเกียร์เพราะเป็นคนไม่ดี
Me : เค้าจะตัดสินเองว่าใครดีหรือไม่ดี
Me : มิกกี้ไม่ต้องจับคู่ให้เค้ากับเปรมเลยนะ ไม่งั้นเค้าจะให้แม่บังคับมิกกี้ไปกินข้าวกับน้ำฟ้าแน่
น้ำฟ้าคือคู่หมั้นของมิกกี้เอง หมั้นกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว เดชะบุญที่ฉันไม่ได้ถูกจับหมั้นเหมือนกัน แต่ตอนนี้ฉันก็ชักจะตกอยู่ในสถานการณ์นั้น บ้านฉันลูกมีคู่หมั้นคู่หมายอยู่กันแล้วทุกคนเลย พี่เรย์ก็มีและเขาก็ต่อต้าน พยายามทำทุกทางให้การหมั้นเป็นโมฆะ
“มินนี่ไปก่อนนะ ขอบคุณที่มาส่งค่ะเดินทางดี ๆ นะ” ฉันลงจากรถและตอนนั้นเห็นว่ามีกลุ่มผู้ชายนั่งอยู่ตรงม้านั่งหน้าคณะ ฉันมองแวบหนึ่งและเห็นว่าเป็นกลุ่มเกียร์กับเพื่อน แต่ยิ่งเห็นก็ยิ่งอารมณ์ไม่ดีก็เลยรีบเดินจ้ำไปที่ตึกคณะ วันนี้มันวันอะไรของมินนี่กันนะ
ฉันรู้สึกแฮงค์อ่อน ๆ เพราะซ่ากินเหล้าแรงน่ะสิ แล้วก็มาฝันแปลก ๆ เมื่อคืนด้วย มาเจอเปรมที่บ้านแต่เช้าแถมพูดจาไม่เข้าหูอีก เห้อ ๆ
เดิมพันรักครั้งที่ 12/3“อื้อ อ๊ะ” ริมฝีปากฉันเผยอขึ้นตอบรับกับจูบที่คนบนร่างโน้มลงมา ทุกคนการขยับกายเข้าออกของเขาทำเอาฉันแทบไร้เรี่ยวแรง“มินนี่ อา” ใบหน้าหล่อเหลาถอนจูบออก สองมือฉันคล้องคอเขา ด้านล้างกระแทกกระทั้นเข้ามาไม่หยุด ทุกจังหวะชวนให้ฉันผวาเฮือกไปทั้งกาย ดวงตาคมกริบเร่าร้อนของ ‘เกียร์’ ทำเอาฉันแทบบ้าตายรสรักและจังหวะดุดันสาดซัดเข้ามาหาฉัน ฉันรู้สึกเหมือนว่ากำลังถูกสัตว์ตัวใหญ่ฉีกทึ้งร่างกายให้ออกเป็นคนละส่วน ทุกจังหวะที่เขาทำมันทำเอาฉันเหมือนถูกเหวี่ยงขึ้นไปในที่สูงที่สุดแล้วตกลงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาร้อนแรง ดุดัน และร้ายกาจเหลือเกินร่างฉันถูกกอดรัดฟัดจนแน่นขนัด เสียงครวญครางดังก้องในหัวราวกับว่าเป็นกิจกรรมที่สุขสมหาที่เปรียบไม่ได้ เหมือนว่าฉันยอมศิโรราบให้เขาแล้วทุกการกระทำ“เฮือก” ฉันผวาลืมตาตื่นขึ้นมา แต่ตอนนั้นรู้สึกเหมือนว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางป่าที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ ร่างกายเหมือนถูกกอดรัดเอาไว้แน่นมากจนหายใจไม่ออก งูที่รัดฉันอยู่ค่อย ๆ รัดจากทางด้านล่างแล้วค่อย ๆ เลื้อยมาจนถึงด้านบน ไม่ได้รัดทั้งตัวในทีเดียว“งะ งู” ปากฉันขยับและสั่นเทาตอนหลุบตาลงแล้วเห็นร่างขอ
เดิมพันรักครั้งที่ 12/3“เดี๋ยววงลงจะชวนมันมานั่งด้วย ไปสัมภาษณ์กันเอาเองไหม คือว่าจะชวนเขามานั่งด้วยเหรอ” โอ้ ไม่นะ ไม่ ๆ มินนี่ไม่โอเคมาก“ขอกินอันนี้อีกได้ไหม” ฉันถามเพราะเห็นว่ามี B25 ที่พึ่งมาเสิร์ฟรอบที่สามเหลืออยู่อีกหนึ่งแก้ว“ยัยเล็ก หนูจะเอาอีกเหรอลูก” พิงกี้ถามด้วยสายตาหวาดระแวง “อิมิกกี้ยิงกะเทยตายแน่ค่ะ”“มิกกี้ไม่ว่าหรอกน๊า” ฉันลากเสียงยาวแล้วก็คว้ามาดื่มเลย รอบนี้ไม่ใช้หลอดแล้วล่ะ“ว๊าย ชะนีมันติดใจว่ะ” อย่างน้อยนะถ้าเมาก็จะไม่เกร็ง หรือจะตัวแปลก ๆ ตอนเกียร์มาก็แล้วกันน่า แต่ว่านะพอกินเข้าไปรอบนี้ก็ทำเอาวิญญาณจะหลุดเลยล่ะ“ไงมึง” ผ่านไปเกือบชั่วโมงเกียร์ลงมาแล้ว ต้าร์ชวนเขามานั่งด้วย แถมยังนั่งตรงข้ามฉันอีกนะฉันกับเขาไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวมาก่อนหรอก แต่ตอนปีหนึ่งเคยประกวดดาวเดือนด้วยกัน แค่เจอผ่าน ๆ ตามคณะและเพื่อนชอบพูดถึงเขา แล้วก็ต้าร์แฟนของขิงน่ะพึ่งจะคบกันได้สองเดือนเอง ฉันก็พึ่งรู้วันนี้ว่าพวกเขารู้จักกันน่ะ“เกียร์จ๋า เกียร์สุดหล่อ” พิงกี้ที่เป็นเหมือนแฟนคลับของเขาพูดเสียงหวาน ดัดเสียงกว่าที่เคยเป็นจนฉันงงเลย “พิงกี้ขอถามอะไรเกียร์หน่อยได้ไหมอะคะ”“ว่าไง
เดิมพันรักครั้งที่ 1“อ๊ะ ๆ เสียวมากเลยค่ะ” เสียงหนึ่งดังกระทบหูฉัน มันเป็นเสียงแหบพร่าผสมกระเส่าของผู้หญิง และที่สำคัญมันดังมาจากห้องน้ำห้องข้าง ๆ กันเลย....“อืม...อา ซี๊ด” ส่วนนี่เสียงผู้ชายนะ แถมยังมีเสียงของเนื้อกระทบเนื้อที่ดังแทรกมาเป็นระยะ ๆ ด้วยตอนเดินมาฉันอาจจะยังไม่ได้ยินเพราะเสียงเพลงมันดัง แต่จังหวะที่เพลงหยุดและกำลังจะเปลี่ยนเพลงนั้นฉันก็ได้ยินมันชัดเจนอยู่ อาจจะคงเพราะอยู่ห้องน้ำติดกันล่ะมั้งฉันรู้สึกเหมือนว่าหน้าตาตัวเองร้อนผ่าวขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ไม่ต้องเดาหรอกนะว่าห้องข้าง ๆ ทำอะไรกัน ฉันไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้นหรอก แต่ว่านะทำไมถึงต้องมาทำอะไรกันในที่แบบนี้ด้วยล่ะ น่าอายจะตายเสียงในห้องข้าง ๆ ยังอยู่นาน ร่วมสิบนาทีถึงได้หยุดลง แต่ฉันยังไม่ออกจากห้องน้ำเพราะกลัวว่าเปิดออกไปแล้วจะจ๊ะเอ๋กับห้องข้าง ๆ น่ะสิอยู่ดี ๆ ก็เหมือนจะมีเสียงอะไรสักอย่างหล่นลงพื้น ฉันหลุบตามองตามสัญชาตญาณและเห็นมือถือเครื่องหนึ่งหล่นแล้วไถลผ่านช่องว่างระหว่างผนังที่ไม่ได้จรดพื้นมาอยู่ที่ฝั่งห้องน้ำของฉัน ดูเหมือนว่าคนห้องนั้นจะทำหล่น หากแต่ว่าบนจอมือถือขึ้นก็เหมือนจะถูกปลดล็อกไว้แล้วก็มีภาพพักหน้
เดิมพันรักครั้งที่ 0 บ่ายอ่อน ๆ ณ ลานหน้าตึกเรียนของคณะบริหาร ปกติแล้วลานนี้จะเป็นลาโล่งและสามารถจอดรถจักรยานยนต์ได้ แต่วันนี้ต่างออกไปเพราะมีกิจกรรมที่ทางสโมสรนักศึกษาของคณะจัดขึ้น มีตลอดขนาดย่อม เวทีแสดงคอนเสิร์ตและกิจกรรมร่วมสนุกด้านบน แต่ละสาขา และแต่ละชั้นปีของคณะมีร้านจำหน่ายสินค้าของตัวที่ต่างคนต่างคิดมา ซึ่งคนที่รับผิดชอบดูแลร้านก็จะมีประมาณสี่ถึงห้าคนช่วยกันเพื่อนไม่ให้ร้าดแออัดเกินไป มีร้านของเหล่าคณะจารย์ที่มาร่วมด้วย ร้านของชมรมที่ทำในคณะซึ่งก็หลายร้านมากพอที่แปลงให้ลานนี้กลายเป็นตลาดขนาดย่อม คณะบริหารเป้นอีกหนึ่งคณะที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงของมหาลัย และด้วยทำเลที่ตั้งของตัวตึกก็ทำให้คนนักศึกษาในคณะอื่นที่ผ่านไปมานั้นเห็นงานที่จัดแล้วเข้ามาร่วมด้วย ทำให้วันนี้คนแน่นขนัดที่ลานหน้าคณะกว่าปกติ และกิจกรรมบนเวทีที่ ตอนนี้มีการประกวดร้องเพลงของผู้ที่สนใจสมัครก็กำลังดำเนินร้านที่ดูจะขายดิบขายดีที่สุดในลานนี้คงหนีไม่พ้นร้านขายน้ำ มีน้ำเปล่า น้ำอัดลมกระป๋อง และน้ำผลไม้ ร้านนี้เป็นของสาขาการจัดการ ชั้นปีที่สาม ซึ่งเลือกที่จะทำขายน้ำแบบนี้เพราะมันสะด