“เป็นยังไง ยอมรับสัญญาของฉันได้ไหม ถ้าไม่ได้ ก็เลือกทางเลือกแรกของเธอก็ได้นะ กลับไปง้อขอคืนดีกับแฟนเธอซะ แล้วฉันจะแจ้งความเอาแม่เธอเข้าคุกทันที”
“มะ ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไร”
“อืม ไม่มีปัญหา ก็เซ็นซะสิ”
เธอมองหน้าเขาแล้วจับปากกาด้วยมืออันสั่นเทา จรดปลายปากกาค้างอยู่ที่ช่องที่มีชื่อของเธอกำกับไว้ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเซ็นชื่อลงไปในสัญญาฉบับนั้นอย่างไม่คิดลังเลอีก
เมื่อเธอเซ็นชื่อเสร็จ เขาก็เซ็นชื่อของตัวเองลงไปบ้าง และให้คนสนิทของเขาทั้งสองคนลงชื่อเป็นพยาน
“นายสองคนกลับไปพักผ่อนได้แล้ว ขอบใจมาก ค่อยมารับฉันอีกทีเช้าวันจันทร์แล้วกัน”
“แล้วเสาร์อาทิตย์นี้คุณเอกไม่ไปไหนหรือครับ”
พวกเขาหมายถึงนัดเดตกับดาราสาวแสนสวยที่ลงคิวเอาไว้แล้ว คนนี้กว่าเจ้านายของเขาจะทำให้เธอใจอ่อนยอมรับนัดได้ก็เล่นตัวอยู่นาน เวลาว่างของเธอก็แทบไม่มี ถ้าเจ้านายของเขาพลาดนัดครั้งนี้ ไม่รู้อีกนานแค่ไหนเธอถึงจะมีคิวให้
“ไปไหนล่ะ ก็อยู่ห้องสิ”
“แต่คุณเอกมีเดตกับคุณพระแพงนี่ครับ ผมจองโรงแรมพร้อมโต๊ะดินเนอร์ไว้ให้แล้ว สั่งโรงแรมจัดห้องนอนแบบที่คุณเอกชอบเอาไว้แล้วด้วย คุณเอกลืมหรือครับ”
คนตัวบางเหลือบตามองเขา ก็พร้อมกับที่เขามองมาที่เธอพอดิบพอดี ก่อนคนตัวโตจะกระแอมแก้เก้อ แล้วโวยวายลูกน้องคนสนิทที่พูดจาไม่รู้กาลเทศะ
“ไม่ลืม แต่ยกเลิกไปก่อน”
“จะดีหรือครับ คุณพระแพงเล่นตัวจะตาย ถ้าพลาดคราวนี้คุณเอกอาจไม่ได้แอ้มเธออีกเลยก็ได้นะครับ”
“ไอ้รงค์..”
เอกอนันต์กัดกรามกรอด เรียกชื่อลูกน้องคนสนิทอีกคนลอดไรฟัน แต่เหมือนว่ามันยังไม่รู้ตัว
“ครับ ก็จริงนี่ครับ บ้านเธอไฮโซก็เลยเล่นตัวเรียกคะแนนนิยมเป็นธรรมดา หยิ่งๆ แบบนี้คุณเอกชอบนี่ครับ ไม่ได้มีธุระด่วนที่ไหนทำไมไม่ไปตามนัดล่ะครับ”
“หุบปากไปเลยไอ้รงค์ ถ้ามึงยังพูดถึงเรื่องนี้อีก กูจะให้ไอ้ชัยยำมึงให้เละเลย”
รงค์เม้มปากปิดแน่น ไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิด ปกติหน้าที่การติดต่อนัดหมายและจัดคิวคู่เดต คู่นอนให้เจ้านาย เขาทำได้ดีไม่มีที่ติมาตลอด ยกเว้นผู้หญิงบางคนที่เจ้านายเขาจะเข้าไปจีบด้วยตัวเอง อย่างเช่นดาราสาวพระแพงคนนี้ แต่สุดท้ายก็เป็นเขาที่จัดหาสถานที่ให้เจ้านายอยู่ดี แล้วของชอบรสหวานกำลังจะเข้าปากอยู่แล้ว ทำไมถึงสั่งให้เขายกเลิกนัด
“ยกเลิกนัดทั้งเสาร์ทั้งอาทิตย์ ฉันจะออกไปไหนได้ยังไง นับดาวเพิ่งเข้ามาอยู่ ยังไม่คุ้นกับสถานที่ จะปล่อยให้เด็กนี่อยู่ห้องคนเดียวหรือไง”
คนตัวบางเหลือบตามองเขาอีกครั้ง แล้วลอบเบะปาก หมั่นไส้ผู้ชายมักมากที่เห็นผู้หญิงเป็นแค่วัตถุทางเพศ มีไว้แค่ใช้ระบายอารมณ์หื่น ก่อนตัดสินใจพูดอะไรบางอย่างออกไป
“อย่าให้ฉันเป็นตัวปัญหาที่ทำให้คุณพลาดนัดสำคัญเลยค่ะ ฉันอยู่ได้ คุณบอกเองว่ามีแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดและทำอาหารให้ ฉันหาอะไรไม่เจอหรืออยากรู้อะไร ฉันคุยกับแม่บ้านก็ได้ ฉันโตแล้ว นอนคนเดียวมาตลอด ไม่ได้กลัวผีหรอกค่ะ เชิญคุณไปหาความสุขกับชีวิตแบบที่คุณชอบเถอะนะคะ”
เขาตวัดดวงตาคมดุมองหน้าเธออย่างไม่สบอารมณ์ รู้สึกว่ารอยยิ้มมุมปากนั้นมันเหมือนหยามเหยียดและรังเกียจเขา จนอยากจะกระชากคนอวดดีมาจูบให้ปากเจ่อจนหุบปากไม่ลงนัก
“ฉันจะต้องไปหาความสุขนอกบ้านทำไม ในเมื่อในบ้านของฉันก็มีคนนอนรอรองรับอารมณ์อยู่แล้ว ไม่ต้องมีพิธีรีตอง ไม่เสียเวลา”
เดิมกะว่าจะให้เธอได้ใช้เวลาเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำจากการเสียคนรัก แต่นี่ขนาดยังเสียใจอยู่ ยังปากดีและกล้าอวดดีกับเขาขนาดนี้ จิตใจของเธอก็คงแกร่งไม่ใช่เล่น ดีเหมือนกัน เขาจะได้ไม่ต้องอดใจรออีกต่อไป
เธอเม้มปากแน่น อยากตบปากตัวเองตามอายุที่ไปแหย่รังแตน เธอพยายามแล้วที่จะไม่ต่อต้านเขา แต่จิตใจมันก็อดหมั่นไส้คนมักมากไม่ได้อยู่ดี
“แกสองคนกลับไปเสียที ฉันจะได้พาลูกหนี้ของฉันไปเก็บดอก”
“คุณ..”
เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แม้ในสัญญาจะระบุว่าเธอต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมสำหรับการเรียกเก็บดอกเบี้ยของเขา แต่นี่มันเพิ่งวันแรกที่เธอเป็นลูกหนี้ของเขาอย่างสมบูรณ์ ไม่คิดจะละเว้นให้เธอสักวันเลยหรือไง
“ทำไม ตกใจอะไร เพิ่งเซ็นสัญญาไป ไม่ได้อ่านเหรอ”
“อ่านค่ะ แต่เราเพิ่งเซ็นสัญญากัน ฉัน ฉันยัง..”
“ทันทีที่เธอเซ็นชื่อลงไป สัญญาฉบับนี้ก็มีผลตามกฎหมาย ตอนนี้เธอเป็นลูกหนี้ของฉันแล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้..ฉันก็มีสิทธิ์เรียกเก็บดอกเบี้ยสำหรับวันนี้”
เขาลุกขึ้นแล้วคว้าข้อมือของเธอ ก่อนจะลากคนตัวบางที่ขืนแรงเอาไว้เข้าไปในห้องนอนของเธออย่างค่อนข้างทุลักทุเล จึงย่อตัวลงอุ้มเธอพาดบ่า แล้วเดินเข้าห้องไปหน้าตาเฉยแม้เธอจะดิ้นรนทุบตีเขาอย่างไรก็ตาม
ประตูห้องนอนของหญิงสาวปิดลงพร้อมเสียงลงกลอนอย่างแน่นหนา ลูกน้องทั้งสองคนของเขาหันมองหน้ากันด้วยความงุนงง ว่าเจ้านายของพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
จริงอยู่ที่ลูกหนี้สาวตรงหน้า ทั้งขาว ทั้งสวย ทั้งบอบบางน่ารักน่าทะนุถนอม และเป็นของใหม่น่าลิ้มลอง แต่ดาราสาวที่เพียรตามจีบเธอมาเป็นอาทิตย์เพื่อให้ได้นอนกับเธอสักครั้งก็เป็นของใหม่ที่เจ้านายเขายังไม่เคยลิ้มลองเหมือนกัน แถมกว่าจะได้มาก็ยากยิ่ง แล้วทำไมถึงทิ้งโอกาสงามๆ มาจับลูกหนี้ที่เป็นของตายขึ้นโต๊ะก่อน ทั้งที่จะจับเธอกินเมื่อไหร่ก็ได้
สงสัยเพราะเด็กดื้อในวัยแรกแย้มคงส่งกลิ่นหอมกรุ่นเรียกน้ำลายจนเจ้านายของเขารู้สึกอยากอาหารมากกว่าผู้หญิงที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
เสียงข้าวของตกกระจายในห้องนอนที่ปิดสนิทแน่น ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องตกใจของสาวน้อย ทำให้เขาสองคนรีบพากันกลับออกไปจากห้องหรูที่กำลังจะกลายเป็นห้องเชือดนี้ทันที
“ปล่อยฉันนะ คุณเอก ปล่อย ว้ายยยย”
เขาทุ่มคนตัวบางที่แบกไว้บนบ่าทิ้งลงบนที่นอนนุ่มอย่างแรงจนเธอจุก นอนตัวงออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะรวบรวมกำลังขว้างหมอนและสิ่งของที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงใส่เขาไม่ยั้ง
“ออกไปนะ อย่ามายุ่งกับฉัน”
เขาหลบของที่เธอปาใส่ได้ทุกชิ้น ยกเว้นขวดยาดมพลาสติกสีเขียวที่เธอปาใส่หน้าผากเขาอย่างจังจนรู้สึกเจ็บ
กรามแกร่งขบแน่น ดวงตาคมดุวาบขึ้น ก่อนย่างสามขุมเข้าหาเธอ จับล็อกข้อมือทั้งสองข้างที่ระดมทุบตีเขาไม่ยั้งแล้วทิ้งตัวลงนอนทับจนเธอหงายหลังไม่เป็นท่า
“ปล่อยฉันนะ ปล่อย”
“ฉันว่าเธอคงลืมข้อตกลงของเราไปนะ นับดาว ดี งั้นก็ร้องสิ ดิ้นอีก ฉันจะได้ฉีกสัญญาของเราทิ้ง แล้วให้ตำรวจตามล่าแม่ของเธอทันที ดีไหม”
คนตัวบางที่เพิ่งมีสติระลึกได้หยุดชะงักการกระทำทุกอย่างของตัวเองอย่างฉับพลัน มองจ้องดวงตาของเขาด้วยแววตาตื่นตระหนก กลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจ จึงนอนนิ่งๆ แล้วหลับตาลงอย่างยอมจำนน
ท่านประธานหนุ่มกวาดตามองใบหน้าสวยงามขาวใสไร้ที่ติ แม้เปลือกตาที่ปิดสนิทนั้นจะบวมช้ำ แต่เธอก็ยังสวยและน่ารักมากอยู่ดี
ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูสดของเธอมันโดดเด่นชวนมองจนเขาไม่อาจละสายตาไปได้ อยากรู้เหลือเกินว่ามันจะให้รสชาติและรสสัมผัสแบบใด
เขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เป็นครั้งที่เท่าไรก็จำไม่ได้ ก่อนจะค่อยๆ โน้มใบหน้าลงไปหาเธอช้าๆ ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดอยู่ที่แก้มใส ทำเอาเธอหลับตาปี๋ เกร็งตัวขึ้นทันทีด้วยความตื่นกลัว
ริมฝีปากหยักได้รูปแตะแนบสัมผัสกับความอวบอิ่มสีชมพูสดที่เขาจ้องมองมานาน เมื่อเธอไม่ได้ขัดขืนเขาอีกจึงบดเบียดเคล้าคลึงกลีบปากคู่นั้นอย่างเนิบนาบเชื่องช้า
ริมฝีปากของเธอมันนุ่มนิ่มหอมกรุ่นราวกับพุดดิ้ง มันให้ความรู้สึกดีเหลือเกิน จนหัวใจแกร่งเต้นแรง
คนตัวบางปลดปล่อยน้ำตาแห่งความอดสูให้ไหลอาบแก้มแม้จะนึกรังเกียจทุกสัมผัสของผู้ชายแปลกหน้าอย่างเขา แต่กลับเผยอกลีบปากที่สั่นน้อยๆ นั้นให้เขาบดเบียดขบเม้มได้อย่างเต็มที่ ด้วยกลัวว่าถ้าเธอกล้าขัดขืนเขาอีกเพียงนิด เขาอาจตัดสินใจฉีกสัญญาฉบับนั้นทิ้งจริงๆ ก็ได้
ความนุ่มนิ่มหอมกรุ่นของสาววัยแรกแย้ม ให้ความรู้สึกดีจนต้องเพิ่มจังหวะจูบเธอหนักเน้นแต่เนิบนาบแฝงไปด้วยความร้อนแรงและพลังแห่งความปรารถนาจนหัวใจดวงน้อยเต้นรัวราวกับจะทะลุออกมานอกอก หูอื้อจนไม่ได้ยินสรรพเสียงรอบตัวใดๆ
แม้จะนึกรังเกียจ แต่ความร้อนแรงที่กำลังแผดเผาเธออยู่ในตอนนี้มันไม่เคยคุ้น มันมีอิทธิพลต่อเลือดในร่างกายจนร้อนวูบวาบแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง
ถึงจะเคยจูบกับคนรักหนุ่มมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยเลยที่เขาจะสัมผัสเธออย่างร้อนแรงทรงพลังจนรู้สึกราวกับร่างกายกำลังจะล่องลอยขึ้นไปแตกกระจายบนท้องฟ้าอย่างนี้มาก่อน
คนตัวบางหลุดเสียงครางในลำคอเมื่อมือใหญ่ร้อนผ่าวเคล้นคลึงหน้าอกของเธออย่างถือวิสาสะ เป็นโอกาสให้เขาสอดแทรกลิ้นร้ายเข้าไปกวาดต้อนความหวานในโพรงปากของเธอได้อย่างถึงใจ
คราวนี้เป็นคนตัวโตเองที่หลุดเสียงครางในลำคอเมื่อสอดลิ้นเข้าไปไล่ต้อนลิ้นเล็กที่ขยับหนีเขาอย่างไม่ประสา แต่ความมากประสบการณ์ก็สามารถเกี่ยวกระหวัดไล้เลียลิ้นเล็กของเธอจนได้ สุดท้ายคนตัวบางจึงค่อยๆ ยื่นลิ้นนั้นออกมาให้เขาดูดดึงได้ดั่งที่ใจต้องการ
หนุ่มสาวบดจูบกันอย่างดูดดื่มสลับกับแลกลิ้นดูดดึงกันนัวเนียอยู่นานจนกายบางอ่อนระทวย หายใจหอบสะท้านไปกับความช่ำชองของเขา
มือใหญ่ร้อนผ่าวสอดเข้าใต้ชายกระโปรงสั้นแล้วลูบไล้ผิวกายขาวนวลเนียนของเธอ ก่อนจะถลกเลิกบราเซียสีหวานขึ้นไปกองอยู่บนเนินอกอวบแล้วบีบขยำเคล้นคลึงความนุ่มหยุ่นของวัยสาวอย่างมันมือ
หนุ่มสาวร้องครางในลำคอพร้อมกัน ต่างกันตรงความรู้สึก เมื่อสาวน้อยผู้ยังไม่เคยถูกชายใดสัมผัสหน้าอกมาก่อน ตื่นเตลิดเสียวซ่านจนหัวใจวูบไหว ส่วนชายหนุ่มผู้สัมผัสส่วนนี้ของผู้หญิงมานับไม่ถ้วน กลับรู้สึกถูกใจที่สุดที่ความนุ่มหยุ่นของเธอเด้งสู้มือจนต้องร้องครางออกมาเพื่อลดความตื่นเต้นเขาถอดถอนริมฝีปากออกมา แล้วไถลความร้อนรุ่มเข้ากดจูบซุกไซ้ซอกคอจนทั่ว สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ จากน้ำหอมราคาแพงและกลิ่นกายของเธอที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวราวกับฟีโรโมนชั้นดีก็ไม่ปานหญิงสาวเอียงหน้าเปิดเปลือยลำคอให้เขาตักตวงความหอมจากเธอไม่หยุด มือเล็กยกขึ้นมาปิดปากเพื่อกลั้นเสียงแปลกประหลาดน่าอับอายที่เธอไม่เคยทำมาก่อนในชีวิตความหอมหวานของเนื้อกายสาว ทำเอาเขาสติแทบหลุด ควบคุมตัวเองไม่ได้ ซุกไซ้จมูกและปากสูดดมขบเม้มซอกคอเธออย่างไม่ลืมหูลืมตา มือทั้งสองข้างบีบขยำดอกบัวตูมแรงขึ้นทุกทีตามความกระสันซ่านที่กำลังตีวนอยู่ในร่างกายของเขามือใหญ่สั่นเทาคลำหาซิปแล้วถอดชุดเดรสตัวสวยของเธอลงไปทิ้งกองที่พื้น ตามมาด้วยเสื้อชั้นในผ้าลูกไม้สีชมพูหวานทันทีที่ปราศจากสิ่งปกปิด หน้าอกใหญ่โตเกินตัวก็ปรากฏต่อสายตา ดวงตาคมกริบเบิกขึ้นแล้วกวาด
“เป็นยังไง ยอมรับสัญญาของฉันได้ไหม ถ้าไม่ได้ ก็เลือกทางเลือกแรกของเธอก็ได้นะ กลับไปง้อขอคืนดีกับแฟนเธอซะ แล้วฉันจะแจ้งความเอาแม่เธอเข้าคุกทันที”“มะ ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไร”“อืม ไม่มีปัญหา ก็เซ็นซะสิ”เธอมองหน้าเขาแล้วจับปากกาด้วยมืออันสั่นเทา จรดปลายปากกาค้างอยู่ที่ช่องที่มีชื่อของเธอกำกับไว้ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเซ็นชื่อลงไปในสัญญาฉบับนั้นอย่างไม่คิดลังเลอีกเมื่อเธอเซ็นชื่อเสร็จ เขาก็เซ็นชื่อของตัวเองลงไปบ้าง และให้คนสนิทของเขาทั้งสองคนลงชื่อเป็นพยาน“นายสองคนกลับไปพักผ่อนได้แล้ว ขอบใจมาก ค่อยมารับฉันอีกทีเช้าวันจันทร์แล้วกัน”“แล้วเสาร์อาทิตย์นี้คุณเอกไม่ไปไหนหรือครับ”พวกเขาหมายถึงนัดเดตกับดาราสาวแสนสวยที่ลงคิวเอาไว้แล้ว คนนี้กว่าเจ้านายของเขาจะทำให้เธอใจอ่อนยอมรับนัดได้ก็เล่นตัวอยู่นาน เวลาว่างของเธอก็แทบไม่มี ถ้าเจ้านายของเขาพลาดนัดครั้งนี้ ไม่รู้อีกนานแค่ไหนเธอถึงจะมีคิวให้“ไปไหนล่ะ ก็อยู่ห้องสิ”“แต่คุณเอกมีเดตกับคุณพระแพงนี่ครับ ผมจองโรงแรมพร้อมโต๊ะดินเนอร์ไว้ให้แล้ว สั่งโรงแรมจัดห้องนอนแบบที่คุณเอกชอบเอาไว้แล้วด้วย คุณเอกลืมหรือครับ”คนตัวบางเหลือบตามองเขา ก็พ
เสียงทุ้มตวาดก้อง จนคนทั้งสองตกใจผละออกจากกัน ชายหนุ่มในชุดสูทสากลสีดำพอดีตัวแบรนด์ดัง ดึงแขนผู้หญิงตัวบางมากอดแนบอก ดวงตาคมกริบกร้าวดุจ้องไปยังเด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาที่เบิกตากว้างมองภาพตรงหน้าด้วยความตกใจ“นี่มันหมายความว่ายังไงดาว ผู้ชายคนนี้เป็นใคร”แม้จะรู้สึกคุ้นตา แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยเห็นผู้ชายหล่อเหลาคนนี้ที่ไหนมาก่อน“เขา เขาเป็น..”“ฉันเป็นแฟนใหม่ของนับดาว”“ไม่จริง ดาวไม่มีวันทรยศผม คุณเป็นใครกันแน่”“ฉัน เอกอนันต์ ประธานบริษัทที่แม่ของนับดาวทำงานอยู่ ตอนนี้นับดาวเป็นของฉัน นายอย่ามายุ่งกับผู้หญิงของฉันอีก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”รัฐภูมิมองคนรักสาวอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เธออยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายที่หล่อเหลา ร่ำรวย โปรไฟล์ดี และเหนือเขาในทุกอย่างไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงที่เขารัก ก็ไม่ต่างอะไรจากผู้หญิงหิวเงินทั่วไป ที่ต่อให้รักกันขนาดไหนก็แพ้กลิ่นหอมหวานของเงินอยู่ดี“ดาว..บอกกับภูมิที ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ดาวไม่ได้ทรยศหักหลังภูมิ”“ดาวขอโทษ ดาวขอโทษนะภูมิ”คนตัวบางปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้ม คนรักที่กำลังจะกลายเป็นอดีตมองมาที่เธอด้วยแววตาผิดหวัง ยิ่งทำให้หัวใจของ
“เย้ ในที่สุด เราก็เรียนจบกันแล้ว”หยาดทิพย์ เพื่อนรักของนับดาวและรัฐภูมิ กระโดดกอดคอเพื่อนรักทั้งสองทันทีที่ออกมาจากห้องสอบวิชาสุดท้ายของชีวิตนักศึกษา“เย็นนี้เราไปฉลองกันไหม”รัฐภูมิถามสองสาว วันนี้เขาโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอก เพราะชีวิตต่อจากนี้จะถือว่าตัวเองและคนรักเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว สามารถตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองได้เสียที“ไม่ได้น่ะสิ ฉันต้องรีบกลับบ้าน คุณหญิงแม่จองคิวเลี้ยงฉลองที่บ้านแล้ว”หยาดทิพย์ที่มักจะชอบเรียกมารดาของตัวเองแบบนั้น เพราะแม่ของเธอเป็นคนเรื่องมากและจุกจิกจู้จี้ ทุกอย่างต้องเป็นระเบียบ แถมยังสอนให้เธอเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ แต่ลูกสาวคนเล็กอย่างเธอที่มีแต่พี่ชายกลับกระโดกกระเดกราวกับม้าดีดกะโหลกจนคนเป็นแม่ปวดหัวทุกวัน“งั้นวันหลังก็ได้หยาด แกกลับบ้านก่อนเถอะ เดี๋ยวรถติด เราค่อยโทรนัดกันนะ”นับดาวกอดกับเพื่อนรักอีกครั้ง พร้อมโบกมือลาจนคนตัวบางวิ่งหายไปกับฝูงชนที่เร่งเดินออกจากอาคารสอบเพื่อรีบกลับบ้านหนีรถติด“วันนี้ดาวยังต้องไปทำธุระอีกไหมครับ”“ไม่แล้วค่ะ แต่ดาวมีอะไรอยากคุยกับภูมิ”“ที่ไหนดีครับ”“ที่บ้านดาวก็ได้ค่ะ”“โอเคครับ งั้นเราไปกันเถอะ รถผมจอดอยู่ข้างตึ
เขาเปิดแฟ้มดูก็เห็นว่าเป็นข้อมูลที่ดุจนภายักยอกเงินบริษัทไป ทั้งที่เขาสั่งพนักงานทุกคนแล้วว่าอย่าให้เรื่องนี้ถึงหูพ่อของเขาเด็ดขาด แต่ก็ยังมีคนกล้าขัดคำสั่ง“พ่อเอาเรื่องนี้มาจากไหนครับ”“จากไหนก็ช่าง ตอบพ่อมา ว่านี่มันอะไร ทำไมแกไม่บอกพ่อ”“เอ่อ ผู้จัดการฝ่ายการเงิน กับพนักงานขายร่วมมือกันยักยอกเงินบริษัทเราไปสิบห้าล้านบาทครับ แต่ตอนนี้ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรแล้วครับพ่อ”“จัดการโดยการโอนเงินส่วนตัวเข้าบริษัทสิบห้าล้าน แล้วปล่อยให้สองคนนั้นลอยนวลโดยที่ไม่ยอมไปแจ้งความงั้นเหรอ”เอกอนันต์กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ไม่มีอะไรหลุดรอดหูตาของพ่อเขาไปได้เลย แม้ท่านจะเกษียณตัวเองออกมาใช้ชีวิตท่องเที่ยวยามบั้นปลายกับแม่เลี้ยงของเขาแล้วก็ตาม“เอ่อ พ่อครับ ผมแค่เอาเงินส่วนตัวจ่ายให้บริษัทไปก่อน แล้วให้ลูกหนี้มาทำสัญญาชดใช้หนี้ที่ผมแทนครับ ไม่อย่างนั้นกว่าจะใช้หนี้กันจบ เงินในบัญชีมันก็ไม่เท่ากันเสียที จะวุ่นวายเปล่าๆ”“หึ ลูกหนี หรือลูกสาวของลูกหนี้”“พ่อ..”“แกอย่าคิดว่าพ่อไม่รู้ทันแกนะ แกกำลังจะทำอะไร บอกพ่อมาเดี๋ยวนี้”“พ่อครับ เรื่องมันก็ไม่ได้มีอะไรเลย ผมแค่ให้ลูกสาวดุจนภามาเป็นเลขาผ
เมื่อเธอวางสายแล้วก็ลุกขึ้นมานั่ง ใช้หลังมือปาดน้ำตา สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วตั้งสติ ก่อนนี้เธอเสียใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย จึงคิดอะไรไม่ทัน แค่คำนวณเงินเดือนแล้วได้รับรู้ว่าต้องอยู่บำเรอกามให้กับเขาหลายสิบปี สมองของเธอก็ตื้อตันจนลืมเลือนไปทุกเรื่องเธอตรงดิ่งไปเปิดตู้เซฟตู้เล็กที่แม่ของเธอติดตั้งให้ในตู้เสื้อผ้า กดรหัสที่มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ แล้วนำกล่องเครื่องประดับขนาดเล็กสองสามกล่องและกล่องไม้ที่อยู่ในนั้นออกมาเปิดบนที่นอนสร้อยและแหวนเพชรเส้นเล็กๆ แต่น้ำงามที่แม่ของเธอซื้อให้เป็นของขวัญวันสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้สะท้อนแสงล้อไฟระยิบระยับ ไม่รู้ว่าจะขายได้กี่บาท แต่มันเป็นของแทนใจที่แม่ซื้อให้ เธอไม่อยากจะขายมันเลยจึงมาเปิดกล่องกำมะหยี่สีแดงขนาดกลาง ที่ภายในบรรจุทองคำแท่งน้ำหนักหนึ่งบาท จำนวนเท่าอายุตัวเอง เพราะแม่จะซื้อให้เธอเป็นของขวัญวันเกิดแบบนี้ทุกปี“ทอง อืม อันนี้ขายได้”เธอปิดกล่องแล้ววางแยกเอาไว้ พรุ่งนี้หลังสอบเสร็จ เธอจะให้คนของเขาพาแวะร้านทอง เพื่อเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ให้เป็นเงินสมุดบัญชีเงินฝากสองเล่มที่วางอยู่ข้างในกล่องไม้ ถูกเปิดออก เล่มหนึ่งไม่ได้มีการเคลื่อน