เสียงทุ้มตวาดก้อง จนคนทั้งสองตกใจผละออกจากกัน ชายหนุ่มในชุดสูทสากลสีดำพอดีตัวแบรนด์ดัง ดึงแขนผู้หญิงตัวบางมากอดแนบอก ดวงตาคมกริบกร้าวดุจ้องไปยังเด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาที่เบิกตากว้างมองภาพตรงหน้าด้วยความตกใจ
“นี่มันหมายความว่ายังไงดาว ผู้ชายคนนี้เป็นใคร”
แม้จะรู้สึกคุ้นตา แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยเห็นผู้ชายหล่อเหลาคนนี้ที่ไหนมาก่อน
“เขา เขาเป็น..”
“ฉันเป็นแฟนใหม่ของนับดาว”
“ไม่จริง ดาวไม่มีวันทรยศผม คุณเป็นใครกันแน่”
“ฉัน เอกอนันต์ ประธานบริษัทที่แม่ของนับดาวทำงานอยู่ ตอนนี้นับดาวเป็นของฉัน นายอย่ามายุ่งกับผู้หญิงของฉันอีก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
รัฐภูมิมองคนรักสาวอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เธออยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายที่หล่อเหลา ร่ำรวย โปรไฟล์ดี และเหนือเขาในทุกอย่าง
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงที่เขารัก ก็ไม่ต่างอะไรจากผู้หญิงหิวเงินทั่วไป ที่ต่อให้รักกันขนาดไหนก็แพ้กลิ่นหอมหวานของเงินอยู่ดี
“ดาว..บอกกับภูมิที ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ดาวไม่ได้ทรยศหักหลังภูมิ”
“ดาวขอโทษ ดาวขอโทษนะภูมิ”
คนตัวบางปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้ม คนรักที่กำลังจะกลายเป็นอดีตมองมาที่เธอด้วยแววตาผิดหวัง ยิ่งทำให้หัวใจของเธอแทบแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
เขาส่ายหน้าทั้งน้ำตา หมดแล้ว ความรัก ความหวัง อนาคต..ระหว่างเธอกับเขาที่วาดฝันกันมา วันนี้เธอใช้เท้าของเธอเหยียบย่ำทุกอย่างจนไม่เหลือซาก แม้แต่ลมหายใจของเขา ก็แทบจะไม่มีเหลือ
“ก็ได้ ถ้าความรักของภูมิมันไม่มีค่ากับดาวอีกต่อไปแล้ว ภูมิจะไป ขอให้ดาวมีความสุข กับทางที่ดาวเลือก”
เขากัดกรามแน่น มองผู้หญิงที่รักสุดหัวใจด้วยแววตาผิดหวังและเจ็บปวดเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเดินจากบ้านหลังนี้ไป ไม่หันหลังกลับมามองคนใจร้ายอีกเลย
นับดาวขยับตัวออกมาจากอกแกร่ง เธอหลับตาเพื่อไล่หยาดน้ำตาแห่งความเจ็บปวด กัดกรามแน่น กลั้นสะอื้นจนลมหายใจขาดห้วง แล้วสูดหายใจปนแรงสะอื้นจนตัวกระตุกเบาๆ ก่อนเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วหันมามองหน้าเจ้าหนี้ของเธอ
“ขอขึ้นไปเอาของใช้ส่วนตัวสักครู่นะคะ”
เธอหันหลังให้เขาแล้วเดินขึ้นชั้นบนของบ้านด้วยใบหน้าเรียบเฉย ทั้งที่หัวใจของเธอแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี เมื่อเข้ามาถึงในห้องนอนก็วิ่งไปทิ้งตัวลงนอนคว่ำหน้าแล้วร้องไห้ราวกับจะขาดใจอีกครั้ง สัญญากับตัวเอง ว่าครั้งนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะร้องไห้ให้กับชีวิตบัดซบ หลังจากนี้เธอจะตั้งหน้าตั้งตาทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมาใช้หนี้เขาให้หมดเร็วๆ และจะไม่มีวันเจ็บปวดกับอะไรอีกแล้ว
เขานั่งไขว่ห้างรอเธออยู่ที่โซฟาพักใหญ่ แม้จะรู้สึกผิดไม่น้อย แต่ก็คิดเข้าข้างตัวเองว่า เธอเองที่เป็นคนอ้อนวอนร้องขอความเห็นใจและความช่วยเหลือจากเขา ซึ่งนักธุรกิจอย่างเขา ก็มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่ยอมให้กับลูกหนี้ได้ และเธอก็เต็มใจรับข้อเสนอของเขาเอง ไม่ได้มีใครไปบีบบังคับ
สุดท้ายเธอก็เดินลงมาในเสื้อผ้าชุดใหม่พร้อมกับกระเป๋าผ้าสีหวานใบโตที่ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในนั้นบ้าง ส่วนกระเป๋าเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวของเธอที่จัดเอาไว้ก่อนหน้านี้ คนขับรถได้เอาไปเก็บไว้ให้ที่คอนโดของเขาตั้งแต่เช้าแล้ว
“พร้อมหรือยัง”
“ค่ะ”
เธอกวาดตามองบ้านที่เธออาศัยอยู่มาตั้งแต่จำความได้ ก่อนตัดใจทิ้งทุกอย่างไว้เป็นเพียงอดีตอันแสนสุข แล้วก้าวเดินตามเขาไปสู่อนาคตที่คงมืดมนไม่ต่างจากตายทั้งเป็น
ระหว่างที่นั่งรถกลับคอนโดมิเนียมหรูหราสูงเสียดฟ้าราคาแสนแพง เขาลอบสังเกตเธอบ่อยครั้งก็เห็นว่าเธอทำเพียงเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง ปล่อยใจให้ล่องลอยไปที่ไหนก็สุดรู้ โดยไม่มีแม้น้ำตาสักหยดให้เขาได้เห็นอีกเลย
“นี่ห้องของเธอ แม่บ้านเอาเสื้อผ้าจัดเข้าตู้ให้เธอหมดแล้ว อยู่ที่นี่เธอต้องเชื่อฟังฉันทุกอย่าง ฉันสั่งอะไรก็ให้ทำตามไม่มีข้อแม้ ถ้าฉันห้ามอะไรก็อย่าบังอาจทำเด็ดขาด ฉันไม่ชอบคนพูดไม่รู้เรื่อง งานบ้านเธอไม่ต้องทำ เพราะจะมีแม่บ้านเข้ามาทำให้ทุกวันอยู่แล้ว กับข้าวก็เหมือนกัน มื้อเช้ากับเย็น แม่บ้านจะทำไว้รอ เธอแค่อยู่เฉยๆ ใช้ชีวิตให้มีความสุข แล้วรอรับคำสั่งจากฉันเท่านั้น เข้าใจไหม”
“ค่ะ”
“ส่วนที่ทำงาน อย่างที่เห็น ฉันมีเลขาอยู่แล้วหนึ่งคน ชื่อใบบัว จะให้เธอไปช่วยแบ่งเบางานของบัว มีหน้าที่หลักๆ คือคอยดูแลฉันทุกเรื่อง กาแฟ น้ำ ของว่าง และทุกครั้งที่ฉันออกไปพบลูกค้า เธอจะต้องไปกับฉัน คอยบันทึกรายละเอียดเวลาฉันคุยงานกับลูกค้า ดูแลตารางนัดหมายของฉัน แล้วก็ทำตามที่ฉันสั่ง เข้าใจไหม”
“ค่ะ
“ไม่คิดจะพูดอะไรนอกจาก ค่ะ บ้างเหรอ”
เขามองเธออย่างไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก มองใบหน้าที่เฉยชาไร้วิญญาณแล้วหงุดหงิด คงอาลัยอาวรณ์ไอ้หมอนั่นมาก เขาจะปล่อยให้เธอใช้ชีวิตแบบคนอกหักแบบนี้ไปสักระยะ ค่อยเรียกเก็บดอกเบี้ยจากเธอ เพราะไม่อยากเป็นตัวแทนของใคร อีกอย่างก็คงหมดอารมณ์ ถ้าต้องนอนกับผู้หญิงที่แข็งทื่อเป็นท่อนไม้และทำหน้าอมทุกข์ตลอดเวลาแบบนี้
เธอเองก็เหลือบมองเขาด้วยสายตาที่พยายามซ่อนความเกลียดชังเอาไว้แต่ไม่มิด ก่อนจะเอ่ยถามในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ถึงเธอจะขายทั้งร่างกายและชีวิตเพื่อใช้หนี้ให้เขา แต่เธอควรจะมีชีวิตที่เป็นของตัวเองบ้าง
“ฉันขอถามว่า งานฉันที่ห้อง เริ่มกี่โมงคะ”
“หมายถึงงานบนเตียงเหรอ”
เขาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอย่างกวนอารมณ์
“งานบนเตียงที่ฉันต้องทำ เริ่มตอนกี่โมงคะ”
“ทำไม”
“ฉันจะได้จัดตารางชีวิตถูก ฉันอาจจะมีธุระหลังเลิกงานบ้าง เพราะฉันก็มีเพื่อน หรือมีธุระส่วนตัว และอยากใช้เวลาส่วนตัวเหมือนกัน อีกอย่าง เผื่อฉันจะหาอะไรทำเพื่อหารายได้เสริมที่เหมาะกับเวลาจำกัด หวังว่าคุณคงไม่ใจร้าย กักขังฉันให้อยู่แต่ที่ห้องของคุณตลอดเวลาหรอกนะคะ”
เขาเองก็ไม่ได้อยากจะกักขังเธอเอาไว้ให้อยู่แต่ในห้องเพื่อรองรับอารมณ์บนเตียงของเขาทุกวันเสียเมื่อไหร่ เขามันคนขี้เบื่อ นอนกับเธอไม่กี่วันก็คงต้องเปลี่ยนกลิ่น ไปหากินนอกบ้านแล้ว
“ฉันไม่มีเวลาตายตัว อยากเอาเมื่อไหร่ก็เอา แต่ไม่เอาเธอทุกวันหรอกน่า ยิ่งทื่อๆ อย่างเธอคงน่าเบื่อ ฉันอาจจะออกไปเที่ยว ไปปาร์ตี้ ไปเดต หรือบางคืนอาจกลับดึกเพราะปกติฉันไม่พาผู้หญิงเข้ามานอนในพื้นที่ส่วนตัว บางวันฉันก็ต้องกลับบ้านไปให้พ่อเห็นหน้าบ้าง วันไหนฉันไม่อยู่ หรือไม่เข้าไปหาเธอที่ห้อง เธออยากทำอะไรก็ทำ วันหยุดฉันก็อาจจะไปเดต ไปต่างจังหวัด หรือกลับบ้าน เธออยากออกไปทำธุระ ไปหาเพื่อน ไปไหนก็เรื่องของเธอ แต่ขอแค่อย่างเดียว อย่ายุ่งกับผู้ชายคนอื่นเด็ดขาด ถ้าฉันรู้ ฉันเอาเธอตายแน่”
ก็นับว่าไม่ได้ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่แต่ในกรงขังของเขา เธอก็ยังมีชีวิตที่ค่อนข้างอิสระ แค่ไม่ทำอะไรขัดคำสั่งของเขาก็น่าจะใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างไม่เดือดร้อน แม้จะไม่ได้มีความสุขก็ตาม
“ขอบคุณมากค่ะ ที่คุณไม่โหดร้ายกับฉันเกินไป”
“ฉันไม่ใช่คนโหดร้าย แต่ถ้าเธอขัดคำสั่งของฉันเมื่อไหร่ เธอจะได้เจอกับปีศาจแน่”
“ค่ะ ฉันไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวให้ชีวิตต้องลำบากกว่าเดิมหรอกนะคะ”
“อืม ดี อ่านสัญญาซะ ถ้าไม่มีอะไรขัดข้องก็เซ็นชื่อได้เลย”
เธอเดินตามเขามานั่งลงที่โซฟา กวาดตาอ่านเนื้อหาในสัญญาอย่างละเอียดตั้งแต่บรรทัดแรก ที่ระบุเรื่องของจำนวนเงินและการชดใช้หนี้สิน ทุกอย่างเป็นไปตามที่เคยคุยกันไว้ทุกอย่าง
ในสัญญาระบุว่า เธอต้องจ่ายดอกเบี้ยให้เขาเป็นร่างกายจนกว่าที่เธอจะหาเงินมาชดใช้หนี้สินให้เขาหมด โดยการเรียกเก็บดอกเบี้ยของเขาไม่มีกำหนดเวลาหรือสถานที่ตายตัว เธอต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ถ้าเขาร้องขอไม่ว่าที่ไหนเวลาใด เธอต้องเต็มใจโดยไม่มีการต้องใช้กำลังบังคับ ถ้าครั้งไหนที่เขาต้องใช้กำลังบังคับให้เสียอารมณ์ เขามีสิทธิ์เพิ่มยอดหนี้ได้ตามต้องการโดยที่เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ
เธอไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งเกี่ยวทั้งทางร่างกายและจิตใจกับผู้ชายคนอื่นอีกเด็ดขาด ถ้าหากฝ่าฝืน สัญญาที่ทำมาทั้งหมดจะเป็นโมฆะ เขาจะแจ้งตำรวจจับแม่ของเธอเข้าคุกทันที หรือแม้จะไม่สามารถแจ้งความเอาผิดได้อีกแล้วด้วยเงื่อนไขของเวลา เงินทั้งหมดที่เธอจ่ายเขามาแล้วจะถือเป็นโมฆะ เธอจะกลับมามีหนี้สินต่อเขาในยอดจำนวนเดิมทันที
ถ้าหากเขาแต่งงานมีครอบครัว เธอก็ยังคงต้องทำหน้าที่ตามสัญญาเดิม โดยไม่มีสิทธิ์วุ่นวายกับครอบครัวของเขา
เธอจะเป็นอิสระจากสัญญาฉบับนี้ก็ต่อเมื่อเธอใช้หนี้เขาจนครบ หรือเขายกหนี้สินทั้งหมดให้ด้วยตัวเขาเองเท่านั้น
และที่สำคัญ ตลอดเวลาที่เธอต้องอยู่กับเขาภายใต้สัญญา ห้ามเธอตั้งท้องเด็ดขาด ถ้าเธอพลาดท้องโดยที่เขาไม่ได้เต็มใจ เขาจะสั่งให้เธอยุติการตั้งครรภ์ หรือเธอต้องยกลูกให้กับเขา และเธอต้องทำตามโดยไม่มีข้อแม้ อยู่ที่เขาจะพิจารณาอีกที
เมื่ออ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้าย มือที่ถือกระดาษแผ่นนี้เอาไว้ก็สั่นเทาอย่างไม่อาจห้าม แม้เธอจะไม่คิดขัดคำสั่งของเขาแม้แต่ข้อเดียว แต่ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าเขาน่ากลัวและไร้หัวใจ เหมือนใบหน้าที่นิ่งเฉยฉาบไปด้วยความเย็นชาของเขาไม่มีผิด
หนุ่มสาวร้องครางในลำคอพร้อมกัน ต่างกันตรงความรู้สึก เมื่อสาวน้อยผู้ยังไม่เคยถูกชายใดสัมผัสหน้าอกมาก่อน ตื่นเตลิดเสียวซ่านจนหัวใจวูบไหว ส่วนชายหนุ่มผู้สัมผัสส่วนนี้ของผู้หญิงมานับไม่ถ้วน กลับรู้สึกถูกใจที่สุดที่ความนุ่มหยุ่นของเธอเด้งสู้มือจนต้องร้องครางออกมาเพื่อลดความตื่นเต้นเขาถอดถอนริมฝีปากออกมา แล้วไถลความร้อนรุ่มเข้ากดจูบซุกไซ้ซอกคอจนทั่ว สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ จากน้ำหอมราคาแพงและกลิ่นกายของเธอที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวราวกับฟีโรโมนชั้นดีก็ไม่ปานหญิงสาวเอียงหน้าเปิดเปลือยลำคอให้เขาตักตวงความหอมจากเธอไม่หยุด มือเล็กยกขึ้นมาปิดปากเพื่อกลั้นเสียงแปลกประหลาดน่าอับอายที่เธอไม่เคยทำมาก่อนในชีวิตความหอมหวานของเนื้อกายสาว ทำเอาเขาสติแทบหลุด ควบคุมตัวเองไม่ได้ ซุกไซ้จมูกและปากสูดดมขบเม้มซอกคอเธออย่างไม่ลืมหูลืมตา มือทั้งสองข้างบีบขยำดอกบัวตูมแรงขึ้นทุกทีตามความกระสันซ่านที่กำลังตีวนอยู่ในร่างกายของเขามือใหญ่สั่นเทาคลำหาซิปแล้วถอดชุดเดรสตัวสวยของเธอลงไปทิ้งกองที่พื้น ตามมาด้วยเสื้อชั้นในผ้าลูกไม้สีชมพูหวานทันทีที่ปราศจากสิ่งปกปิด หน้าอกใหญ่โตเกินตัวก็ปรากฏต่อสายตา ดวงตาคมกริบเบิกขึ้นแล้วกวาด
“เป็นยังไง ยอมรับสัญญาของฉันได้ไหม ถ้าไม่ได้ ก็เลือกทางเลือกแรกของเธอก็ได้นะ กลับไปง้อขอคืนดีกับแฟนเธอซะ แล้วฉันจะแจ้งความเอาแม่เธอเข้าคุกทันที”“มะ ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้มีปัญหาอะไร”“อืม ไม่มีปัญหา ก็เซ็นซะสิ”เธอมองหน้าเขาแล้วจับปากกาด้วยมืออันสั่นเทา จรดปลายปากกาค้างอยู่ที่ช่องที่มีชื่อของเธอกำกับไว้ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเซ็นชื่อลงไปในสัญญาฉบับนั้นอย่างไม่คิดลังเลอีกเมื่อเธอเซ็นชื่อเสร็จ เขาก็เซ็นชื่อของตัวเองลงไปบ้าง และให้คนสนิทของเขาทั้งสองคนลงชื่อเป็นพยาน“นายสองคนกลับไปพักผ่อนได้แล้ว ขอบใจมาก ค่อยมารับฉันอีกทีเช้าวันจันทร์แล้วกัน”“แล้วเสาร์อาทิตย์นี้คุณเอกไม่ไปไหนหรือครับ”พวกเขาหมายถึงนัดเดตกับดาราสาวแสนสวยที่ลงคิวเอาไว้แล้ว คนนี้กว่าเจ้านายของเขาจะทำให้เธอใจอ่อนยอมรับนัดได้ก็เล่นตัวอยู่นาน เวลาว่างของเธอก็แทบไม่มี ถ้าเจ้านายของเขาพลาดนัดครั้งนี้ ไม่รู้อีกนานแค่ไหนเธอถึงจะมีคิวให้“ไปไหนล่ะ ก็อยู่ห้องสิ”“แต่คุณเอกมีเดตกับคุณพระแพงนี่ครับ ผมจองโรงแรมพร้อมโต๊ะดินเนอร์ไว้ให้แล้ว สั่งโรงแรมจัดห้องนอนแบบที่คุณเอกชอบเอาไว้แล้วด้วย คุณเอกลืมหรือครับ”คนตัวบางเหลือบตามองเขา ก็พ
เสียงทุ้มตวาดก้อง จนคนทั้งสองตกใจผละออกจากกัน ชายหนุ่มในชุดสูทสากลสีดำพอดีตัวแบรนด์ดัง ดึงแขนผู้หญิงตัวบางมากอดแนบอก ดวงตาคมกริบกร้าวดุจ้องไปยังเด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาที่เบิกตากว้างมองภาพตรงหน้าด้วยความตกใจ“นี่มันหมายความว่ายังไงดาว ผู้ชายคนนี้เป็นใคร”แม้จะรู้สึกคุ้นตา แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยเห็นผู้ชายหล่อเหลาคนนี้ที่ไหนมาก่อน“เขา เขาเป็น..”“ฉันเป็นแฟนใหม่ของนับดาว”“ไม่จริง ดาวไม่มีวันทรยศผม คุณเป็นใครกันแน่”“ฉัน เอกอนันต์ ประธานบริษัทที่แม่ของนับดาวทำงานอยู่ ตอนนี้นับดาวเป็นของฉัน นายอย่ามายุ่งกับผู้หญิงของฉันอีก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”รัฐภูมิมองคนรักสาวอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เธออยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายที่หล่อเหลา ร่ำรวย โปรไฟล์ดี และเหนือเขาในทุกอย่างไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้หญิงที่เขารัก ก็ไม่ต่างอะไรจากผู้หญิงหิวเงินทั่วไป ที่ต่อให้รักกันขนาดไหนก็แพ้กลิ่นหอมหวานของเงินอยู่ดี“ดาว..บอกกับภูมิที ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ดาวไม่ได้ทรยศหักหลังภูมิ”“ดาวขอโทษ ดาวขอโทษนะภูมิ”คนตัวบางปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้ม คนรักที่กำลังจะกลายเป็นอดีตมองมาที่เธอด้วยแววตาผิดหวัง ยิ่งทำให้หัวใจของ
“เย้ ในที่สุด เราก็เรียนจบกันแล้ว”หยาดทิพย์ เพื่อนรักของนับดาวและรัฐภูมิ กระโดดกอดคอเพื่อนรักทั้งสองทันทีที่ออกมาจากห้องสอบวิชาสุดท้ายของชีวิตนักศึกษา“เย็นนี้เราไปฉลองกันไหม”รัฐภูมิถามสองสาว วันนี้เขาโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอก เพราะชีวิตต่อจากนี้จะถือว่าตัวเองและคนรักเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว สามารถตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองได้เสียที“ไม่ได้น่ะสิ ฉันต้องรีบกลับบ้าน คุณหญิงแม่จองคิวเลี้ยงฉลองที่บ้านแล้ว”หยาดทิพย์ที่มักจะชอบเรียกมารดาของตัวเองแบบนั้น เพราะแม่ของเธอเป็นคนเรื่องมากและจุกจิกจู้จี้ ทุกอย่างต้องเป็นระเบียบ แถมยังสอนให้เธอเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ แต่ลูกสาวคนเล็กอย่างเธอที่มีแต่พี่ชายกลับกระโดกกระเดกราวกับม้าดีดกะโหลกจนคนเป็นแม่ปวดหัวทุกวัน“งั้นวันหลังก็ได้หยาด แกกลับบ้านก่อนเถอะ เดี๋ยวรถติด เราค่อยโทรนัดกันนะ”นับดาวกอดกับเพื่อนรักอีกครั้ง พร้อมโบกมือลาจนคนตัวบางวิ่งหายไปกับฝูงชนที่เร่งเดินออกจากอาคารสอบเพื่อรีบกลับบ้านหนีรถติด“วันนี้ดาวยังต้องไปทำธุระอีกไหมครับ”“ไม่แล้วค่ะ แต่ดาวมีอะไรอยากคุยกับภูมิ”“ที่ไหนดีครับ”“ที่บ้านดาวก็ได้ค่ะ”“โอเคครับ งั้นเราไปกันเถอะ รถผมจอดอยู่ข้างตึ
เขาเปิดแฟ้มดูก็เห็นว่าเป็นข้อมูลที่ดุจนภายักยอกเงินบริษัทไป ทั้งที่เขาสั่งพนักงานทุกคนแล้วว่าอย่าให้เรื่องนี้ถึงหูพ่อของเขาเด็ดขาด แต่ก็ยังมีคนกล้าขัดคำสั่ง“พ่อเอาเรื่องนี้มาจากไหนครับ”“จากไหนก็ช่าง ตอบพ่อมา ว่านี่มันอะไร ทำไมแกไม่บอกพ่อ”“เอ่อ ผู้จัดการฝ่ายการเงิน กับพนักงานขายร่วมมือกันยักยอกเงินบริษัทเราไปสิบห้าล้านบาทครับ แต่ตอนนี้ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรแล้วครับพ่อ”“จัดการโดยการโอนเงินส่วนตัวเข้าบริษัทสิบห้าล้าน แล้วปล่อยให้สองคนนั้นลอยนวลโดยที่ไม่ยอมไปแจ้งความงั้นเหรอ”เอกอนันต์กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ไม่มีอะไรหลุดรอดหูตาของพ่อเขาไปได้เลย แม้ท่านจะเกษียณตัวเองออกมาใช้ชีวิตท่องเที่ยวยามบั้นปลายกับแม่เลี้ยงของเขาแล้วก็ตาม“เอ่อ พ่อครับ ผมแค่เอาเงินส่วนตัวจ่ายให้บริษัทไปก่อน แล้วให้ลูกหนี้มาทำสัญญาชดใช้หนี้ที่ผมแทนครับ ไม่อย่างนั้นกว่าจะใช้หนี้กันจบ เงินในบัญชีมันก็ไม่เท่ากันเสียที จะวุ่นวายเปล่าๆ”“หึ ลูกหนี หรือลูกสาวของลูกหนี้”“พ่อ..”“แกอย่าคิดว่าพ่อไม่รู้ทันแกนะ แกกำลังจะทำอะไร บอกพ่อมาเดี๋ยวนี้”“พ่อครับ เรื่องมันก็ไม่ได้มีอะไรเลย ผมแค่ให้ลูกสาวดุจนภามาเป็นเลขาผ
เมื่อเธอวางสายแล้วก็ลุกขึ้นมานั่ง ใช้หลังมือปาดน้ำตา สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วตั้งสติ ก่อนนี้เธอเสียใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย จึงคิดอะไรไม่ทัน แค่คำนวณเงินเดือนแล้วได้รับรู้ว่าต้องอยู่บำเรอกามให้กับเขาหลายสิบปี สมองของเธอก็ตื้อตันจนลืมเลือนไปทุกเรื่องเธอตรงดิ่งไปเปิดตู้เซฟตู้เล็กที่แม่ของเธอติดตั้งให้ในตู้เสื้อผ้า กดรหัสที่มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ แล้วนำกล่องเครื่องประดับขนาดเล็กสองสามกล่องและกล่องไม้ที่อยู่ในนั้นออกมาเปิดบนที่นอนสร้อยและแหวนเพชรเส้นเล็กๆ แต่น้ำงามที่แม่ของเธอซื้อให้เป็นของขวัญวันสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้สะท้อนแสงล้อไฟระยิบระยับ ไม่รู้ว่าจะขายได้กี่บาท แต่มันเป็นของแทนใจที่แม่ซื้อให้ เธอไม่อยากจะขายมันเลยจึงมาเปิดกล่องกำมะหยี่สีแดงขนาดกลาง ที่ภายในบรรจุทองคำแท่งน้ำหนักหนึ่งบาท จำนวนเท่าอายุตัวเอง เพราะแม่จะซื้อให้เธอเป็นของขวัญวันเกิดแบบนี้ทุกปี“ทอง อืม อันนี้ขายได้”เธอปิดกล่องแล้ววางแยกเอาไว้ พรุ่งนี้หลังสอบเสร็จ เธอจะให้คนของเขาพาแวะร้านทอง เพื่อเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้ให้เป็นเงินสมุดบัญชีเงินฝากสองเล่มที่วางอยู่ข้างในกล่องไม้ ถูกเปิดออก เล่มหนึ่งไม่ได้มีการเคลื่อน