@คอนโดมิเนียมของเพลิง
“อ๊า อื้ออ” ใบหน้าสวยได้รูปเชิดหน้ากัดปากกลั้นความเสียวซ่านซึ่งกำลังได้รับจากคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็น… เพื่อน
เพื่อนที่ทำอะไรกันมากกว่าเพื่อน แต่ก็เป็นได้แค่... เพื่อนกันเท่านั้น
“อ่า อ้ากว้างอีก” เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยสั่งคนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังใช้แขนทั้งสองข้างค้ำยันตัวเองไปทางด้านหลัง พลางเชิดหน้าร้องครางรับสัมผัสจากคนตัวโตซึ่งยืนแทรกกลางอยู่หว่างขาตอกอัดเอวสอบโถมใส่เรือนร่างบาง จนกลีบดอกไม้งานเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเพราะถูกเขาเล่นงานมาร่วมหนึ่งชั่วโมงกว่า
ขณะนั้นมือหนาก็ดึงรั้งเอวคอดให้เข้าหาตัวมากขึ้น และอัดกระแทกด้วยความรุนแรงจนโต๊ะทำงานสั่นคลอนเกิดเสียงเสียดสีกับพื้นดังตามจังหวะการเคลื่อนไหวของสะโพกหนา
“อื้อ ระ... แรงอีก จะไม่ไหวแล้ว” มือเล็กหนึ่งข้างละมาจับข้อแขนแกร่งพลางเอ่ยบอกคนตรงหน้าด้วยสายตาที่สื่อถึงความเสียวซ่านอย่างสุด ๆ เสียงหวานครวญครางเสียงกระเส่าขาดห้วงไปกับแรงอัดกระแทกของเพลิงเป็นระยะ
เมื่อถูกกายหนาโจนจ้วงเข้ามาถี่ระรัวจนแทบหายใจไม่ทัน แต่มันกลับถึงใจเธอสุด ๆ
เรียวนิ้วกรีดกรายลูบไล้ไปตามลำแขนแกร่งที่เด่นนูนไปด้วยมัดกล้ามและเส้นเลือดอย่างหลงใหล เขามอมเมาเธอทั้งการกระทำและรูปลักษณ์ ไหนจะหน้าท้องซิกซ์แพ็กที่เป็นลอนกล้ามเรียงตัวกันอย่างสวยงาม ผิวกายขาวเนียนละเอียดจนอยากสร้างรอยแดงเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
ยิ่งกำลังอัดแรงกระแทกกระทั้นใส่เธอมากเท่าไร ก็ยิ่งเห็นว่ามัดกล้ามทั่วตัวของเขาแน่นขนัดชวนให้อยากกัดอยากงับจนเกิดรอยฟันอย่างนึกมันเขี้ยว
“หึ อ่อน” เสียงหัวเราะในลำคอของเพลิงทำเอาเฟียร์ละจากสิ่งสนใจตรงหน้า ก่อนจะตวัดสายตามองไปยังดวงตาคมที่กำลังจ้องมองเธออยู่
เพลิงยกยิ้มร้ายเมื่อเห็นเพื่อนสาวจดจ้องร่างกายของเขาด้วยแววตาหื่นกระหาย
เอวสอบยังคงกระหน่ำตอกอัดซ้ำ ๆ
“ก็นายเล่นจุดเสียวฉันซ้ำ ๆ ใครจะทนไหว” เสียงหวานเอ่ยบอกแม้ร่างบางจะยังสั่นคลอนไปตามแรงกระแทกของเพื่อนชายพร้อมกับทำหน้าเหยเกกัดปากเพื่อระบายความเสียวซ่านที่เขามอบให้
“ไม่ชอบ ?” คิ้วหนาเลิกขึ้นเป็นเชิงถามพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนมือหนาจะรั้งเอวบางเข้าหาตัวยิ่งขึ้น
และอัดตอกเอวสอบพร้อมกับช้อนก้นกลมจนลอยเหนือพื้นโต๊ะ
“ชอบดิ ชอบมาก... อื้อ... เอาอีก ทำอีกเพลิง” เขาทำถึง ทำมัน ทำดี จนเธอเสียวแทบขาดใจโหยหาอีกฝ่ายซ้ำแล้วซ้ำอีก สะโพกมนก็แอ่นรับเอวสอบเชิดหน้าไปด้านหลังร้องกระเส่าเสียงหลง
“ซี้ด งั้นก็อ้ากว้างอีก แอ่นมา” ไม่พูดเปล่ามือหนายังจับสองขาเรียวอ้าออกและดึงรั้งมันเข้าหาตัวจนเธอแทบจะหล่นจากโต๊ะแล้วจริง ๆ
“อื้อ อีกก็จะฉีกแล้ว” แม้ปากจะบ่นไปอย่างนั้น แต่ความเสียวซ่านยังคงครอบงำเธออยู่ทำให้เรือนกายเพรียวแอ่นรับและอ้าขาออกอย่างว่าง่ายตามคำสั่ง
“ก็กะจะเอาให้ฉีก” เสียงทุ้มแหบพร่ากระเส่าเสียวไม่ต่างกัน
“อ๊ะ อื้อ สะ เสร็จแล้ว” มือเล็กจับลำแขนแกร่งแน่นพร้อมกับเงยหน้าสบตากับดวงตาคู่คมเหนือร่างของเธอ
“อ๊ะ เพลิง” เฟียร์กระตุกเกร็งงึก ๆ เมื่อเสร็จสมถึงฝั่งฝันไปก่อนพลางหอบหายใจหนัก ๆ ออกมา
ร่างกายรู้สึกเหนื่อยอ่อนแขนขาไร้เรี่ยวแรงในทันที แต่ทว่า...
พรึ่บ ! เอวบางถูกมือแกร่งอุ้มให้ลงมายืนบนพื้นพร้อมกับจัดการเรือนร่างของเฟียร์ให้หันไปฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ก่อนจะยกสะโพกมนให้สอดรับแก่นกายที่กำลังแทรกเข้ามาในโพรงนุ่มอีกครั้งจากที่ด้านหลัง
“อ๊า ลึกอะ” เฟียร์ที่กำลังโก้งโค้งรับเอวสอบที่ช้อนอยู่ด้านหลังส่งเสียงครางลั่น
“เสียวสัสๆ ตอดดีจริง” เพลิงครางสบถออกมาพลางกัดกรามแน่น
เพียะ ! พร้อมกับฟาดมือแกร่งลงบนก้นงามงอนตามแรงอารมณ์ที่เพิ่มสูงขึ้น
“ท่านี้มันลึก อ๊ะ จุก” เมื่อเอวสอบขยับเข้าออกจากจังหวะเนิบช้าแปรเปลี่ยนเป็นถี่รัวตอกอัดเน้นทุกจุดเสียวเพื่อเรียกเสียงครางหวาน ๆ
“เงี่ยนเองไม่ใช่เหรอ ? แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้ว ?” เพลิงก้มหน้าลงไปกระซิบข้างใบหูเล็กของเฟียร์ มือหนาค้ำยันคร่อมตัวอยู่เหนือร่างของหญิงสาว
กายหนาจัดการตอกอัดกระแทกกระทั้นจนเกิดเสียงหยาบโลนดังไปทั่วห้อง
“ใครว่า” เมื่อโดนอีกฝ่ายดูถูกจากเรี่ยวแรงที่เริ่มหมดไปกับความเสียวซ่าน กลับมีแรงฮึดสู้ขึ้นมาทันทีทันใด
พรึ่บ !
เฟียร์หันหน้าใช้แขนเรียวคล้องต้นคอหนา ก่อนที่จะวาดขากลับมาแล้วตวัดเกี่ยวสะโพกสอบโดยที่ส่วนนั้นของทั้งคู่ยังคงเชื่อมกันอยู่
“อื้อ/อื้ม” ดวงหน้าสวยของเฟียร์ก้มลงไปประกบปากจูบแลกลิ้นกับชายหนุ่มโดยที่เธอเป็นฝ่ายรุกจูบ
เพลิงอุ้มร่างบางลอยหวือกลางอากาศขึ้นมาไว้แนบอกพร้อมกับโถมกายใส่กลางกายสาวจนเกิดเสียงอันน่าอดสูดังไปทั่วห้อง ยิ่งท่านี้ยิ่งลึกสะใจเขาสุด ๆ
ชายหนุ่มเดินกระแทกเพื่อนสาวมาหยุดที่ขอบเตียงก่อนจะค่อย ๆ วางร่างสวยนอนลงบนเตียง ส่งผลให้ริมฝีปากของทั้งคู่ผละออกจากกัน
“อ๊า เธอแม่ง” สายตาคมก้มลงมองจุดที่เชื่อมกันอยู่ซึ่งตอนนี้คนตัวเล็กใต้ร่างกำลังส่ายสะโพกนอนควงลูกรักของเขาอยู่
“น่ากระแทกไหมล่ะ” เสียงหวานแหบพร่าเอ่ยท้าทาย
เลือดในกายแกร่งสูบฉีดยิ่งกว่าเดิมเมื่อเจอสายตาและท่าทางยั่วยวนจากเพื่อนสาวตรงหน้า
“พรุ่งนี้เธอเตรียมหยุดเรียนได้เลย” ดูท่าคืนนี้เขาจะสั่งสอนเพื่อนคนนี้อีกหลายท่าและหลายน้ำ
“นายก็เหมือนกัน เพราะฉันจะอ้อนนายแบบนี้ทั้งคืนเลย” ไม่ว่าเปล่ามือเรียวยังคงลูบไล้กรีดกรายที่หน้าท้องและอกแกร่งอย่างเย้ายวนชวนให้เกิดอารมณ์
“ถ้าไม่ฉีกซะก่อน อย่าหวังว่าจะหยุด”
“อยากฉีกจะแย่อยู่แล้วค่ะ ! พี่เพลิง”
“หึ แม่งอ้อนค... กูฉิบ”
และทั้งหมดนี่คงจะเป็นคำนิยามของคำว่า
เพื่อน... สำหรับเราสองคน
@คอนโดเพลิง“อื้อ” เสียงครางในลำคอแกร่งดังขึ้นเป็นระยะให้กับหญิงสาวที่กำลังนั่งคล่อมบนตักเขาอยู่ในตอนนี้อาจเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์บวกกับความคิดถึงในส่วนลึกที่ทำให้เธอกลายเป็นฝ่ายรุก ส่งเรียวลิ้นทั้งสองดูดดึงตวัดหยอกเย้ากันไปมาอย่างไม่มีใครยอมกันอีกทั้งสะโพกมนก็ร่อนเอวบดเร้าไปมาทำเอาเพลิงแทบบ้าคลั่งไปกับความเร่าร้อนของคนตัวเล็กบนตักเมี๊ยวเสียงแมวตัวน้อยเดินวนไปมาด้านล่าง แต่ก็ไม่อาจทำให้ทั้งคู่สนใจได้ เพราะตอนนี้ต่างก็สนใจที่กันและกันอย่างโหยหา“อ่า ใจเย็นสิ” เมื่อละริมฝีปากออกจากกัน เพลิงเชิดหน้าร้องครางอย่างกระเส่าเสียวซ่าน เมื่อใบหน้าสวยได้ทำการซุกไซ้ซอกคอเขาอย่างหื่นกระหายและมีหรือที่เขาจะยอมให้เธอเป็นฝ่ายกระทำอยู่ฝ่ายเดียว มือแกร่งเลื่อนลูบไล้ไปตามลำตัวผ่านแผ่นหลังบาง เอวคอดและสะโพกมน บีบเคล้นมันอย่างหนัก“เย็นไหวเหรอ” เฟียร์เงยหน้าขึ้นจ้องมองดวงตาคม ตอนนี้ความเขินอายได้ละลายหายไปสิ้นเพราะเธอคิดถึงสัมผัสจากเขาเป็นที่สุดเหมือนว่าตัวตนจริง ๆ ของเธอได้กลับมาแล้ว“งั้นก็” สิ้นเสียงของเพลิงเขาจัดการถอดเสื้อของตัวเองออกเผยให้เห็นมัดกล้ามและหุ่นที่สมส่วนสุดเพอร์เฟคเฟียร์ก็ไม่น้อยห
“ปากแข็งนะเรา แต่พอเมาปากหว๊านหวาน”หมับ เมื่อเล็กยกขึ้นทาบทับปิดปากเพลิงในทันที ดวงตาสวยตาโตใจสั่นระรัวเมื่อนึกถึงคืนนั้นเธอเมาจนจำอะไรไม่ได้มาก แต่ก็พอจำได้“อย่ามาหื่น” เฟียร์ก้มลงดุและสิ่งที่แปลกไปอีกอย่างสำหรับการห่างกันไปหนึ่งปีและกลับมาเจอกันอีกครั้งก็คือ เมื่อพูดถึงเรื่องอย่างว่าหรือแม้แต่แต่การกอดจูบทีไร เธอรู้สึกเขินอายทุกที อาจจะเป็นเพราะห่างหายกันไปนาน“เสร็จงานแล้วกลับกันเลยนะ” เพลิงยิ้มจ้องมองคนหน้าแดงด้วยความเอ็นดู“ไม่ได้ ต้องไปกินเลี้ยงทีมก่อน ไม่คิดจะไปด้วยหรอกใช่ไหม” เฟียร์ก้มมองถาม“ก็ต้องไปด้วยอยู่แล้ว นี่ลูกเจ้าของบริษัทนะ”“ถามอะไรหน่อยสิ” และจู่ ๆ เธอก็นึกอะไรขึ้นได้จากประโยคเมื่อครู่ของเขา“ว่าไงครับ ถามเยอะ ๆ เลยก็ได้” ได้ทีแขนแกร่งก็กระชับกอดแน่นขึ้น พร้อมกับลอบสูดดมกลิ่นหอมเฉพาะตัวหญิงสาวอย่างคิดถึงและโหยหา“เรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือนายใช่ไหม”“เรื่องอะไร”“อย่ามาทำเป็นตีหน้ามึน เรื่องที่ให้มีอามาแนะนำบริษัทนายให้เรามาสมัคร ฝีมือนายใช่ไหม” เฟียร์หรี่ตามองคนตรงหน้าอย่างจับผิด เพราะเมื่อประติประต่อเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่มีอาแนะนำบริษัทให้สมัครงานแถมเธอผ่านการค
ท่ามกลางสายตาของพนักงานที่กำลังชื่นชมสปิริตและความตั้งใจทำงานของเธอรวมถึงเพลิงที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดพร้อมกับยืนมองอย่างชื่นชมแงะภาคภูมิใจในตัวคนที่เขารักยังโชคดีที่ฝนไมาได้ตกหนักอะไรมาก แค่ปรอยลงมาพอชุ่มเท่านั้นฟึบ เสียงกางร่มดังขึ้นพร้อมกับเสียงทุ้มที่เอ่ยบอก“เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก เข้าไปหลบฝนดีกว่าไหม เธอโดนละอองฝนนิดเดียวก็ป่วยแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยบอก เมื่อเขาเดินมาทุกคนที่อยู่ก็หันมามองทั้งคู่เป็นตาเดียว“บอกไว้ว่าอะไร” เฟียร์หันมากระซิบคนที่ยืนกางร่มบังฝนให้เธออยู่ด้วยแววตาเหวดุใส่เพราะเธอเคยบอกกับเขาแล้วว่าอย่าแสดงออกเกินไป“แต่เธอจะป่วยเอานะ” เพลิงไม่สนใจใด ๆ ทั้งสิ้น แม้ตอนนี้ทั้งสองกำลังตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนอยู่“เดี๋ยวคนอื่นสงสัย” เฟียร์กระซิบกระซาบอีกครั้ง พร้อมกับพยายามถอยห่างจากเขา“ไม่สน คบกับลูกเจ้าของบริษัทไม่เห็นมีอะไรน่าเสียหายเลย” ไม่ว่าเปล่ามือหนายังเอื้อมไปจับไหล่มนอีกฝั่งก่อนจะออกแรงกระชับกอดให้คนตัวเล็กเข้ามาแนบชิดติดกับอกแกร่งยิ่งขึ้น“เดี๋ยว เราไปตกลงคบกับเธอตอนไหน” เฟียร์หันเงยหน้าเพื่อค้อนมองคนข้าง ๆ แต่เมื่อหันมามองปรากฏว่าหน้าหล่อก็ก้มลงมาใกล้ ส่งผลให้จ
@คอนโดมิเนียมของเพลิงกว่าที่เพลิงจะเกลี้ยกล่อมให้เฟียร์มาที่ห้องได้ก็ใช้เวลาเนิ่นนาน แต่ก็ไม่เกินความสามารถของเขาเลยเพราะชายหนุ่มรู้ว่าพอเฟียร์เริ่มเมาแล้ว เขาจะพูดอะไร ขออะไร เธอก็พยักหน้ายอมไปเสียหมดเพลิงจึงได้พาร่างเล็กมาที่ห้องของตัวเอง“น้องเหมียวคิดถึงกันไหมคะ” เมื่อเข้ามาถึงก็พบกับน้องเหมียวตัวเดิมแต่เพิ่มเติมคืออ้วนขึ้นเพลิงย้ายมาอยู่คอนโดมิเนียมที่ทั้งใกล้บริษัทและใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า“จำได้ด้วย” เฟียร์ที่มีอาการมึน ๆ จากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มไป ทำให้เธอทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นส่งผลให้เจ้าเหมียวขนปุยขึ้นมาเล่นบนเรือนร่างเพรียวอย่างออดอ้อนภาพเฟียร์หัวเราะคิกคักเล่นกับแมวอยู่ในสายตาของเพลิงที่ยืนมองอยู่ ทำให้เขานึกถึงวันแรกที่เธอได้เล่นกับแมวที่คอนโดมิเนียมเก่าเขามองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปหยิบอาหารเปียกของแมวมาฉีกและยื่นให้เธอพร้อมกับหย่อนตัวนั่งลงข้าง ๆเฟียร์หันมามองซองขนมเปียกในมือแกร่งที่ยื่นมาให้ก่อนจะมองตามมือของเพลิงไล่ไปยังดวงตาคมคู่นั้นที่มองเธออยู่ราวกับเป็นภาพเดจาวูที่ฉายขึ้นมาอีกครั้ง เธอนึกย้อนไปถึงวันนั้น วันที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ของทั้งสองค
ตกเย็นวันนี้เป็นวันนัดรวมตัวกินข้าวกับมีอา ไฟ พายุ และภรรยาของพายุ ที่ตอนนี้เพิ่งจะได้กลายเป็นคุณแม่คุณพ่อมือใหม่ไปหมาด ๆ ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเฟียร์เดินเข้ามายังร้านอาหารสุดหรูที่นัดกับเพื่อน ๆ ไว้ โดยตลอดทางที่เดินเข้ามาล้วนมีสายตาจากบรรดาลูกค้าผู้ชายภายในร้านมองตามตลอดทางแต่ก็ต้องชะงัก เมื่อเจอเข้ากับสายตาคมดุที่เดินตามหลังร่างบางเข้ามาเพลิงเดินตามหลังเฟียร์มาโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เลยว่ามีใครเดินตามมาตั้งแต่ที่ลานจอดรถ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภายในร้านอาหารมีคนมองตามเธอตาเป็นมันขนาดไหนก็มีแต่เพลิงที่เห็นและทำหน้าดุใส่ไปจนคนเหล่านั้นต้องหลบสายตาของเขากันอย่างลุกลี้ลุกลนนี่แค่วันแรกเธอยังทำให้เขาต้องสู้รบกับคนมากมายขนาดนี้การกลับมาเจอกันครั้งนี้เพลิงไม่อยากจะรีบร้อนผลีผลามอย่างเมื่อครั้งเป็นวัยรุ่นที่ผ่านมาเขาอยากจะค่อย ๆ แสดงความจริงใจและแสดงความรู้สึกให้ชัดเจนมากที่สุด อยากจะตั้งใจเดินหน้าจีบเธออย่างที่ควรจะเป็นตามสเต็ปและขั้นตอนเมื่อเข้าใกล้ห้องอาหารที่นัดรวมตัวกัน เสียงจากด้านในก็ยิ่งดังขึ้นจนได้ยินมาถึงด้านนอกความรู้สึกของคนที่ไม่ได้เจอเพื่อน ๆ มานานอย่างเฟียร์ก็อดไม่ได้ที่จะตื
เสียงของหัวใจที่นิ่งสงบมานานนับปี พลันเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง...เฟียร์หันหลังกลับไปมองแผ่นหลังกว้างที่คุ้นเคย เพื่อดูให้แน่ชัดว่าเป็นเขาจริง ๆ และชัดเจนร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าคนที่เพิ่งเดินผ่านไปเป็นเขา คนที่เธอคิดถึงมาตลอด...เมื่อครู่ ทั้งเธอและเขาอยู่ห่างกันเพียงแค่คืบเดียวแต่ดูเหมือนว่าเพลิงจะมองไม่เห็นมาทางเธอเลยด้วยซ้ำและคิ้วเรียวก็ขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย เพลิงจบวิศวะแต่ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ ในเมื่อที่นี่เป็นบริษัทผลิตสื่อโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ แถมยังใส่สูทผูกไทและบทสนทนาเมื่อครู่กับคนที่มาด้วยกันราวกับเป็นผู้บริหารท่านหนึ่งแต่ก่อนที่เธอจะสงสัยไปมากกว่าเดิม เสียงลิฟต์ก็ดังขึ้นติ๊ง!เฟียร์เดินเข้ามาในลิฟต์ก่อนที่คนข้างกายจะกดไปยังชั้นจุดหมาย และเมื่อประตูลิฟต์เปิดสนิท...“คนเมื่อกี้ที่เดินผ่านไปคือคุณเตโช ลูกชายท่านประธานที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเป็นรองประธานได้ไม่นานนี้เองค่ะ” พนักงานที่อยู่ข้างกายของเธอหันมาเอ่ยบอกในทันทีและทุกอย่างที่เฟียร์สงสัยก่อนหน้าก็ถูกไขกระจ่างขึ้นมาทันทีพลางคิดว่าโลกมันช่างกลมอะไรขนาดนั้น ที่เธอได้มาทำงานที่บริษัทของเพลิง และเป็นบริษัทแรกที่เฟียร์ยื่นใ