จุดเริ่มต้น... ของเรื่องราวทั้งหมด
@มหาวิทยาลัย King
ร่างบางในชุดนักศึกษารัดรูปก้าวเท้าเข้ามาในพื้นที่ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ท่ามกลางอุณหภูมิสามสิบแปดองศาของแสงแดดที่ร้อนจัด ซึ่งเจ้าตัวเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นวันแรก
สายตาคู่เฉี่ยวกวาดมองไปรอบ ๆ เพื่อหาคนที่นัดเธอมาเจอ ทว่ากลับเห็นแต่สายตาจิกกัดจากบรรดานักศึกษาหญิงที่กำลังนั่งจ้องมองมาทางเรือนร่างเพรียว พร้อมกับท่าทางซุบซิบนินทาราวกับกำลังพูดถึงการมาเยือนของเฟียร์
“บ้าเอ๊ย ไอ้ไฟมันอยู่ไหนของมันวะ” เสียงหวานสบถออกมาอย่างหัวเสีย เธอทั้งร้อนทั้งรู้สึกรำคาญ แม้จะเป็นคนที่ค่อนข้างมั่นใจในตัวเองสูง แต่ก็ไม่ชอบการตกเป็นเป้าสายตาผู้คน
ถึงอย่างนั้น ด้วยความที่เป็นคนสวย หุ่นดี ผิวขาวมีออร่า มองตรงไหนก็ไม่มีจุดบกพร่องเลยสักนิด ทำให้เธอโดดเด่นตั้งแต่ก้าวแรกที่เดิน รวมถึงมีบุคลิกที่ดูเป็นสาวเฉี่ยวและเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูง กอปรกับการแต่งกายด้วยเสื้อนักศึกษารัดรูปบวกกับกระโปรงสั้นโชว์ขาเรียวยาวบนส้นสูงหลายนิ้วที่น้อยนักจะมีนักศึกษาหญิงใส่กัน ทำให้ยิ่งเสริมความเด่นเป็นที่จับตามอง
เรียวคิ้วสวยบนใบหน้าเหวี่ยงขมวดกันเป็นปมอย่างไม่ชอบใจ ก่อนที่สายตาคู่เฉี่ยวจะกวาดมองรอบ ๆ แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาลูกพี่ลูกน้องของเธอ
ที่จะพอเห็น… ก็มีกลุ่มผู้ชายหลายกลุ่มนั่งตามโต๊ะหินอ่อนข้างทางเดิน ที่ต่างพากันมองเธอด้วยสายตาแทะโลมพร้อมกับรอยยิ้มชวนให้ขนลุก
ใบหน้าสวยทำมุมปากคว่ำด้วยความไม่ชอบใจกับสายตาพวกนั้น ดวงตาคู่งามกรอกตาฉวัดเฉวียนดึงสีหน้าพร้อมกับปรายตากลุ่มผู้ชายเหล่านั้นตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างนึกรังเกียจ ส่วนกลุ่มผู้หญิงที่เอาแต่จับกลุ่มซุบซิบนินทาก็เช่นกัน เธอตวัดสายตาเหวี่ยงใส่กลุ่มคนเหล่านั้นอย่างไม่แคร์
ก็ลองหาเรื่องสิ แม่พร้อมตบ !
หญิงสาวกลุ่มนั้นชะงักทันทีที่เห็นสายตาเอาเรื่องของเฟียร์ รีบกระวีกระวาดก้มหน้าหลบเป็นพัลวัน
“เฟียร์” เสียงทุ้มจากคนทางด้านหลังทำให้เจ้าของใบหน้าสวยสายตาเฉี่ยว เปลี่ยนเป็นหันไปเหวี่ยงใส่คนที่เรียกเธอแทน
“วันแรกก็เอาเลยนะ” ไฟเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาวพร้อมกับส่ายหน้าอย่างเอือม ๆ
“อะไร ! ฉันเดินมาของฉันเฉย ๆ นะ” ร่างบางไหวไหล่มนเบา ๆ อย่างไม่แคร์
ซึ่งมันก็จริง เธอเดินมาเฉย ๆ ของเธอ แต่คนพวกนั้นต่างหากที่มองด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเอง
ก็แค่มองกลับ ผิดตรงไหน ?
“แต่สายตามึงอะ เบา ๆ ลงหน่อยเถอะถ้าไม่อยากย้ายมหา’ลัยอีก” ไฟเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี
เฟียร์เป็นลูกพี่ลูกน้องคนสนิทของเขา เนื่องจากหญิงสาวตรงหน้าเป็นคนหน้าเหวี่ยงโดยเฉพาะสายตาที่พร้อมจะหาเรื่องคนอื่นอยู่ตลอดเวลา
และนี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอต้องย้ายมหาวิทยาลัยช่วงกลางเทอมปีสองแบบนี้ เพราะไปมีเรื่องกับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเดิม บวกกับความหน้าเหวี่ยงและนิสัยไม่ยอมใครแบบนี้
“ฉันไม่ได้เป็นคนอยากย้ายมหา’ลัยสักหน่อย” สายตาเฉี่ยวหันกลับมาสบตากับดวงตาคมกริบอย่างเอาเรื่อง
“เออ ๆ กูรู้ ปะ ไปคุยกันใต้ตึก ตรงนี้มันร้อน” ไฟตัดบทเพราะคนตรงหน้าเขาเริ่มจะร้อนยิ่งกว่าอากาศไปเสียแล้ว
“แต่ก็คงไม่ร้อนเท่าหัวฉันตอนนี้หรอก !” เสียงหวานแกมหงุดหงิดบ่งบอกอารมณ์ออกมาทั้งคำพูด สายตา และการกระทำ
“เออ ! กูเชื่อ !” ชายหนุ่มแอบบ่นพึมพำพร้อมกับเดินนำเข้าไปยังโรงอาหารที่มีเพื่อน ๆ ของเขานั่งรออยู่ที่นั่น
“เฮ้ย ๆ ไอ้ไฟเอาสาวที่ไหนมาวะ อย่างแจ่ม...”
พายุ เป็นคนแรกที่เห็นทั้งสองคนถึงกับรีบเอ่ยแซวในทันที เมื่อเพื่อนชายเดินเข้ามาพร้อมกับสาวสวยหุ่นดี แต่พอเห็นสีหน้าของร่างบางแสนสวยเท่านั้นแหละ คำพูดที่จะเอ่ยแซวเหล่านั้นได้กลืนลงคอไปจนหมดสิ้น
“พูดต่อดิ” ไฟที่รู้ว่าเพื่อนของตัวเองกำลังจะพูดอะไรต่อแต่กลับหยุดไว้จนประโยคขาดห้วงหายไป เขาจึงท้าให้อีกฝ่ายพูดต่อให้จบประโยคที่อยากจะแซว
พายุได้แต่ส่ายหัวเม้มปากเอาไว้อย่างรู้ตัวว่าเจอกับคนที่ไม่ควรจะเล่นด้วย เพราะสายตาเฉี่ยวกับคิ้วขมวดและลุคดูแรงของหญิงสาวที่อยู่ทางด้านหลัง ทำให้บรรยากาศภายในโต๊ะเปลี่ยนไปทันทีที่ เฟียร์ เดินเข้ามา
“หวัดดี เราพายุ” แม้จะรับรู้ถึงรังสีอะไรบางอย่างในสายตาของร่างบาง แต่คนที่เข้ากับคนง่ายและกะล่อนอย่างเขาก็เอ่ยทักทายด้วยใบหน้าหล่อที่ยิ้มแย้มเป็นกันเองตามสไตล์
“ดี เราเฟียร์” เสียงหวานแนะนำตัวเองกลับอย่างห้วน ๆ
“อย่างตึงสัส” พายุเอ่ยยกยิ้มให้กับหญิงสาวตรงหน้า เขาไม่เคยเจอใครแบบเธอมาก่อน ทั้งอึ้ง ทั้งแปลกใจ และประทับใจในเวลาเดียวกัน
“มึงเปลี่ยนมาชอบแบบนี้แล้วเหรอวะ” ก่อนจะหันไปทำท่าเอ่ยกระซิบถามไฟที่ยื่นอยู่ข้าง ๆ
“เชี่ยเหอะนี่ลูกพี่ลูกน้องกู เพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่วันแรก คณะอะไรนะ ?” ไฟอธิบายให้เพื่อนฟัง ก่อนจะหันมาเอ่ยถามเฟียร์ที่ยืนอยู่อีกฝั่ง
“นิเทศฯ” เธอเอ่ยตอบลูกพี่ลูกน้องแต่สายตากลับจ้องมองไปยังชายหนุ่มอีกคนที่นั่งก้มหน้ากำลังพิมพ์โทรศัพท์อยู่ตรงหน้าเหมือนไม่ได้ใส่ใจต่อการมาเยือนของผู้มาใหม่เลย
“แล้วนั่น ?”
“มันชื่อเพลิง”
“เต้นกัน” พายุสะกิดบ่าฉันให้หันไปหามัน ฉันเลยละสายจากเพลิงแล้วหันไปเต้นคู่กับพายุ ยั่ว ๆ บด ๆ ตามสไตล์ไปสักพักจนจบเพลง“เพลงนี้ไม่มันว่ะ ขอพัก” ฉันบอกกับกลุ่มเพื่อนก่อนจะขอตัวเดินไปที่โต๊ะของพวกนางที่อยู่ใกล้กับฟลอร์ เมื่อมาถึงโต๊ะก็จัดการชงเหล้าเองแบบเข้ม ๆ ก่อนจะกระดกดื่มเป็นน้ำเปล่า“อ่า”รสชาติขมบาดคอใช้ได้เลยแต่ก็นะ… รสชาติเหล้าถึงแม้จะขมบาดคอแต่ก็หวานบาดใจ ยังไงวันนี้ฉันก็สามารถเมาได้เต็มที่ เพราะอย่างน้อยก็มีไฟมาด้วยถ้าเมามากอย่างเก่งก็ให้มันแบกกลับแค่นั้นเมื่อหมดแก้ว ฉันถึงกับก้มหน้ากุมศีรษะตัวเองเพราะเริ่มมึนจากฤทธิ์เหล้าบวกการที่เต้นแบบสุดเหวี่ยงเมื่อกี้ แถมเสียงเพลงรอบข้างที่ยิ่งดังกระหึ่มก็ยิ่งรู้สึกมึนทว่า…“เฟียร์”เสียงคุ้นหูตะโกนเรียกฉันจากด้านหลัง ส่งผลให้ผงกหัวขึ้นมาพร้อมกับหันกลับไปมอง“อ้าว พี่บากิ” ใบหน้าหล่อเหลาของพี่บากิที่ฉันรู้จักเป็นอย่างดียืนอยู่ข้าง ๆ พร้อมส่งยิ้มมาให้“เพื่อน ๆ เราไปไหนกันหมดล่ะ”“เต้นอยู่โน้นค่ะ” ฉันพยักเพยิดหน้าไปทางกลุ่มเพื่อนที่เต้นอยู่ เพื่อบอกให้พี่บากิหันไปยังตำแหน่งเพื่อนสาวที่กำลังเต้นอย่างสนุกสนานกับพายุ“ดูท่าจะสนุกกันอยู่นะ
“ว้า แต่เพื่อนที่คบแกมาตั้งแต่มัธยมดูออกนะคะสาว” นีน่ายิ้มกรุ้มกริ่ม อาศัยความเพื่อนที่คบกับเฟียร์นานที่สุดเอ่ยขึ้น ก็นะ… ทั้งสายตาที่มองเพลิง ทั้งน้ำเสียงเวลาพูดถึงเขา มันปกปิดไม่ได้เลยสักนิด รับรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนสาวเริ่มรู้สึกอะไรกับอีกคน“อย่ามามั่ว” เฟียร์ส่ายหน้าปฏิเสธ ทว่าแววตาคู่เฉี่ยวที่เคยดูมั่นใจกลับฉายแววไม่มั่นใจในคำพูดของตัวเองก่อนที่เธอจะโดนเพื่อนสาวทั้งสองคนคาดคั้นมากกว่านี้...“เฟียร์ !”เสียงของพายุจากด้านหลังก็ตะโกนดังขึ้นเหมือนช่วยเอาไว้ได้ทัน ใบหน้าเฉี่ยวรีบหันไปหาเพื่อนชายที่โบกไม้โบกมือเรียกเธอทันที“ไปนะ ทำหน้าที่ก่อน” เฟียร์หันกลับมาบอกเพื่อนสาว เพราะการแข่งขันรอบแรกใกล้จะจบ เธอจะต้องไปโบกธงหมากรุกเมื่อรถคันแรกเข้าสู่เส้นชัยแล้วร่างสวยหุ่นเซ็กซี่ในหน้าที่เรซควีนเดินกลับไปยังจุดโบกธง สายตาเฉี่ยวเหลือบไปเห็นเพลิงที่กำลังยกยิ้มตรงมุมปาก แต่สายตาเขากลับส่งไปทางด้านหลังเธอหึ… เฟียร์เดาได้ไม่ยากว่าเพื่อนสาวทั้งสองกำลังโบกไม้โบกมือทักพวกเขาอยู่ และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เมื่อเธอหันไปมองยังเพื่อนสาวที่อยู่ด้านหลัง สองสาวกำลังท่าทางตามที่เฟียร์คิดเอาไว้ให้เพลิงและพา
เมื่อสองสาวลงมาถึง ทั้งสามคนรีบโผเข้ากอดกันอย่างคิดถึง แต่ก็นะ ถึงสองสาวที่กอดกับเพื่อนสาวอย่างเฟียร์อยู่ แต่สายตาของนีน่าและเฟมี่กลับชะโงกมองไปยังด้านหลังของเฟียร์ ที่มีเพลิงและพายุกำลังยืนดูจอมอนิเตอร์ที่ซึ่งกำลังฉายรถของไฟกำลังแล่นแข่งอยู่บนสนามด้วยท่าทางจริงจัง“สนใจเพื่อนก่อนค่าสาว ๆ” เฟียร์ผละออกจากกอด สายตาเฉี่ยวมองไปยังจุดที่เพื่อนสาวทั้งสองคนกำลังจ้องมองเป็นตาเดียว“นั่น เพลิงกับพายุใช่ไหม” เฟมี่เป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นมาเมื่อจ้องมองไปยังสองหนุ่มอยู่นานสองนาน“อือ” เฟียร์ตอบเสียงสั้น แขนเรียวยกขึ้นกอดอกมองเพื่อนสาวทั้งสองที่กำลังแสดงสีหน้าดี๊ด๊าออกมาอย่างเปิดเผย“กรี๊ด แก... ฉันชอบพวกเขามาก ไม่คิดเลยว่าแกจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับไฟ ตอนอยู่ที่มหา’ลัยเก่าทำไมแกไม่เห็นบอกพวกเราเลย” เป็นเฟมี่ที่ปิดปากร้องกรี๊ดออกมา ก่อนจะหันมายังเพื่อนสาวที่กำลังยืนมองคิ้วขมวดกับท่าทางของเธอเมื่อครู่“ก็ฉันไม่อยากนับญาติกับมัน” เฟียร์เสมองไปทางอื่นอย่างติดรำคาญให้กับท่าทางของเพื่อนสาวทั้งสอง“ก็แปลกนะ มีแต่คนอยากเข้าหาพวกเขา ก็มีแต่แกเนี่ยที่ไม่อยากรู้จัก” นีน่าเอ่ย“ก็พอเข้าใจได้ พวกญาติ ๆ กันที่นิสัยเห
@สนามแข่ง Fire Speed RaceTrackเสียงฮือฮาและเสียงโห่ร้องเชียร์ของผู้เข้าชมบนอัฒจันทร์ที่กำลังตื่นเต้นกับรถแข่งสองคันซึ่งขับเคลื่อนมาจอดยังจุดสตาร์ทเมื่อรถแข่งพร้อมแข่ง ไม่นานก็ตามมาด้วย...เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นเป็นจังหวะก้าวเดิน เมื่อปรากฏร่างสวยในชุดหนังสีดำเกาะอกกระโปรงสั้นเพียงคืบกำลังย่างกรายเข้ามายืนที่หน้ารถแข่งทั้งสองคันในสนามร่างสวยหุ่นเอ็กซ์อวดทรวดทรงด้วยชุดที่โชว์สัดส่วนเผยให้เห็นผิวขาวผ่อง ขาเรียวยาวยืนเด่นหราท่ามกลางรถแข่งสองคันที่กำลังเร่งเครื่องเตรียมตัวพร้อมออกสตาร์ทเมื่อได้เวลา แขนเรียวยกธงขึ้นเหนือศีรษะเพื่อหมายสะบัดลง แววตาสวยแน่วแน่จ้องมองยังรถสองคันตรงหน้าเพื่อส่งสัญญาณให้นักแข่งเตรียมพร้อม และทันใดนั้นพรึ่บ ! เสียงผืนธงสะบัดลง รถแข่งสองคันแล่นผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมยาวดำขลับพลิ้วไหวไปตามแรงลมก่อนที่ร่างบางจะหันกลับไปมองตามท้ายรถสองคันที่กำลังพุ่งทะยานเพื่อวนกลับมาหาเส้นชัยให้เธอได้โบกธงหมากรุกเพื่อจบการแข่งขันเมื่อได้ผู้ชนะรอบแรกเป็นการแข่งของเจ้าแชมป์สนามอย่างไฟกับผู้ท้าแข่งการแข่งเริ่มขึ้น ผู้คนก็กลับไปสนใจยังรถที่กำลังแล่นแข่งบนสนามดังเดิมเฟียร์ที
@สนามแข่ง“มาหรือยังวะ จะเริ่มแข่งแล้วนะเว้ย” พายุเอ่ยถามไฟเมื่อทั้งหมดกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัวการแข่งกันกำลังจะเริ่มในอีกไม่นานแต่คนที่ทำหน้าที่เป็นเรซควีนในสนามวันนี้กลับยังไม่มีวี่แววว่าจะมาถึง“เออ กูโทร. ตามอยู่เนี่ย มึงแต่งตัวไปก่อนเลย” ไฟที่แข่งเป็นคนแรกแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว มือหนารีบกดโทรศัพท์ต่อสายหาหญิงสาวซึ่งพึ่งถูกพูดถึงอย่างร้อนรนไม่ต่างจากพายุและในทันใดนั้นเอง“โทษที อาจารย์ปล่อยช้า” เฟียร์เดินจ้ำเข้ามาด้วยใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ก่อนจะเดินผ่านไฟและพายุเข้าไปยังตู้ที่เก็บเสื้อของเรซควีนเรียวขาสวยเดินผ่านเพื่อนชายทั้งสองเข้ามาก่อนจะชะงักนิ่งไป เพราะเป็นจังหวะเดียวกับที่สายตาเฉี่ยวมองไปเห็นเพลิงกำลังเปลี่ยนชุดอยู่พอดีเรือนร่างของอีกฝ่ายจัดว่าเป็นผู้ชายตัวขาวแบบขาวมาก ผิวเนียนสว่างออร่าสะดุดตาขนาดที่ผู้หญิงบางคนยังอายเธอเดินเข้ามาในขณะที่เพลิงกำลังถอดเสื้อนักศึกษาออกเพื่อใส่ชุดนักแข่ง ยังดีที่เขายังใส่เสื้อกล้ามไว้อีกตัว แม้จะเป็นอย่างนั้นแต่ด้วยหุ่นที่เต็มไปด้วยมวลกล้ามเนื้อก็ยังล่อตาให้เฟียร์เผลอมองอย่างลืมตัวกล้ามแขนแข็งแรงอัดแน่นเป็นลอน รวมถึงหุ่นแล
@มหาวิทยาลัย KING“มันมาแล้ว” เสียงของพายุพูดขึ้นเมื่อเห็นเพลิงกำลังเดินมายังพวกเขาที่นั่งประจำอยู่ภายในโรงอาหาร ก่อนร่างสูงจะเดินมาถึงกลุ่มเพื่อน โดยมีไฟ พายุ และเฟียร์ นั่งอยู่“ไงวะ ไปส่งสาวคณะไหนมาล่ะวันนี้ ถึงมาช้า” พายุเอ่ยแซวตามประสา แต่ก็มักจะเป็นเรื่องจริงเสมอ“รู้แล้วชีวิตมึงจะดีขึ้น ?” ใบหน้าหล่อเหลาเลิกคิ้วมองพลางตอบกลับเสียงเรียบก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ พายุ“หึ” ไฟแค่นหัวเราะในลำคอและส่ายหัวเบา ๆ ให้กับเพื่อนทั้งสอง อีกคนก็ปากเบาพูดมากไปเรื่อย ส่วนอีกคนก็ปากหนักมากแต่พอพูดออกมาแต่ละคำก็หนักเหมือนปาก ซึ่งสองคนนี้มักจะกวนตีนกันได้ตลอด“ครับพี่เพลิงครับ กับเพื่อนละปากแซ่บนะครับ ทีกับสาวปากหวานอย่างกับน้ำผึ้งเดือนห้า” พายุแซวอีกหนึ่งกรุบ“หรือมึงไม่เป็น ?” เสียงทุ้มเอ่ยถามกลับพลางยกมือตบบ่าเพื่อนชาย “เออลืมไป อย่างมึงถ้าชอบคือฉุดเลย”“สัสกูไม่ใช่คนป่า”ทั้งสองคนยังต่อล้อต่อเถียงกันไม่เลิก ส่งผลให้เฟียร์ที่นั่งก้มหน้าก้มตาไถไอจีเล่นอยู่ในมือถึงกับยกยิ้มที่มุมปาก เมื่อเธอดันนึกไปถึงเหตุการณ์ที่หน้าคอนโดมิเนียมในช่วงเช้าจริงอย่างที่พายุว่าไม่มีผิดเรื่องเวลาเพลิงอยู่กับสาว ๆ เป็นแบบไ