Jay & Aeng Aei – 4
ขอย้ำ พี่ไม่ชอบผู้หญิงครับ
“เออ...เรื่องสิทธิพิเศษสามวัน งั้นเราไปทานข้าวกันไหมคะวันละหนึ่งมื้อ จะตอนเช้าหรือเย็นก็ได้ค่ะ^^” เอิงเอยเพิ่งนึกคำตอบที่พี่เจย์ถาม
ที่นั่งเงียบ ๆ ไปเป็นเพราะเอิงเอยกำลังนั่งคิดอยู่ว่าจะทำอะไรดีในสามวัน แต่ที่คิดออกมา ก็มีแค่การไปกินข้าวธรรมดา ๆ นั่นแหละ
เจย์ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะพยักหน้ารับ
ทำเอาเอิงเอยยิ้มกว้าง เพราะเธอก็แค่กินชวนพี่เขากินข้าวไม่ได้ฝืนใจให้เขาทำอย่างอื่น
“พี่ว่า น้องเอิงควรกลับบ้านดีไหมครับ ดูเหมือนจะเมามากแล้ว”
คำพูดของเจย์ ทำเอาเอิงเอยเอนศีรษะออกมาจากอกกว้าง ก่อนจะยกมือเล็กๆ ตีเบา ๆ เข้าที่ใบหน้าเพื่อดึงสติของตัวเอง พยายามทำตาเบิกกว้าง ให้เขาเห็นว่าเธอยังไม่เมา
“ไม่ค่ะ เอิงไม่เมาเลยสบายมากฮ่า ๆ” เอิงเอยตอบด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะบอกให้เจย์ชงเหล้าให้เอิงเอยต่อ เจย์เลยทำตามเงียบ ๆ เหมือนว่าเขาจะไม่ค่อยดื่มเลย แต่ปล่อยให้เอิงเอยดื่มอยู่ฝ่ายเดียว
อยู่ ๆ ยัยมิ้นเพื่อนสาวก็เดินเข้ามาหาเอิงเอยที่โต๊ะ หลังจากที่นางก็ได้หนุ่มโฮสต์อีกคนหนึ่งไปบริการอยู่ข้าง ๆ เหมือนกัน
“เอิง ฉันกลับก่อนนะ พอดีพ่อโทรมาตามอะ” เอิงเอยมองเพื่อนสนิทที่เดินเข้ามาบอก ก่อนที่เธอจะพยักหน้ารับ แล้วโบกมือลาเพื่อนสาวด้วยรอยยิ้ม
เจย์มองการกระทำของหญิงสาวนิ่ง ๆ ไม่พูดอะไร พอเห็นเอิงเอยหันไปมองหน้าเขา เขาก็ส่งยิ้มจาง ๆ กลับมา
ผู้ชายอะไรไม่รู้ ดาเมจรุนแรงมีผลต่อหัวใจของเอิงเอยมาก
เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ เจย์ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ พอมาถึงเขาก็ถึงกลับหลุดหัวเราะพร้อมกับส่ายหัวเบา ๆ
สภาพของเอิงเอยในตอนนี้ คือหัวมันหนักอึ้ง เรียกได้ว่าเมาขั้นสุดทรงตัวไม่ไหว เธอปล่อยให้ตัวเองนอนราบไปกับเบาะโซฟา เอิงเอยปรือตามองเห็นเขาหัวเราะ ก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ แล้วขยับเข้ามาจับตัวเอิงเอยให้ลุกขึ้นมาพิงตัวเองอีกครั้ง เพราะตอนนี้เอิงเอยนั่งไม่ค่อยเรียบร้อย จนลืมไปแล้วว่าตัวเองนั้นใส่กระโปรงอยู่
“อยู่นิ่งๆ ครับโป๊หมดแล้ว” เจย์เอ่ยเสียงเรียบพยายามจับร่างกายของเอิงเอยให้อยู่นิ่งโดยเฉพาะขาที่เจ้าตัวเผลอขยับไปมาอยู่ตลอด
“อืม...พี่เจย์หนูชอบพี่เจย์นะคะ^^” เขาดูชะงักไปเล็กน้อยกับสิ่งที่เอิงเอยพูด ในขณะที่ตัวเองเมาเอิงเอยพูดออกมาพร้อมหัวเราะอย่างเขินอาย ตอนนี้จากผิวขาวๆ ของเอิงเอยก็เป็นสีแดงจากฤทธิ์เหล้าหมดแล้ว เขาถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเอ่ยตอบ
“พี่ไม่ชอบผู้หญิงครับ”
เขาตอบเสียงเรียบก่อนจะมองเอิงเอยที่แบะปากเหมือนเสียใจแต่ไม่นานก็หัวเราะคิกคักออกมาอีกครั้ง เขาคงมองว่าเอิงเอยเป็นลูกค้าที่แปลกสุด ๆ
“เมาหนักแล้วกลับบ้านเถอะครับเดี๋ยวพี่ไปส่งขึ้นแท็กซี่” เจย์เอ่ยขึ้นพร้อมกับหยิบกระเป๋าของเอิงเอยมาสวมใส่ตัวเองและพยายามดึงเอิงเอยให้ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก เพราะเอิงเอยเอาแต่ยื้อตัวเองกลับและไม่ยอมลุกง่าย ๆ จนดูเขาทำท่าเหนื่อยใจ
“ไม่อาวววว เอิงไม่ไปแท็กซี่ เอิงกลัว..” เอิงเอยเอ่ยตอบแม้รู้ว่าตัวเองเมา แต่ก็ยังพอมีสติได้ยินคำพูดของเจย์ที่บอกจะไปส่งขึ้นรถแท็กซี่
แต่เพราะเธอเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับการนั่งแท็กซี่คนเดียวจนทำให้กลัวและขยาดการนั่งแท็กซี่ไปเลย
เธอเลยพยายามดื้อดึงไม่ยอมไป เจย์ถอนหายใจอีกครั้ง ดูเหมือนว่าครั้งนี้เขาเริ่มจะหงุดหงิดกับเอิงเอยตรงหน้าแล้วเหมือนกัน
เพราะแบบนี้แหละเขาถึงไม่ชอบผู้หญิง ยิ่งผู้หญิงแบบเอิงเอย อ่อนแอ ขี้ตื้อ สำออย หลากหลายอย่าง
“แล้วน้องเอิงจะกลับยังไงครับ หรือโทรให้เพื่อนคนนั้นมารับไหม”
“พ่อนางโทรตามคงไม่ยอมให้ออกมาอีกหรอกค่ะ”
“งั้นหรือให้พี่ โทรหาพ่อแม่ของเราดี” เอิงเอยชะงักไปทันทีเมื่อได้ยินเจย์พูดถึงพ่อกับแม่ ทำให้เอิงเอยนั่งเหม่อไปเลย
เรื่องที่น่าปวดหัวที่สุดของผู้หญิง ก็คืองี่เง่าเวลาเมานี่แหละ เจย์ถอนหายใจอีกรอบในขณะยื้อยุด
แม้จะรู้สึกแปลกนิดหน่อยที่ผู้หญิงคนนี้ พอเขาพูดถึงพ่อแม่แล้ว แววตาของเธอดูเศร้ามาก
หรือ....เธอเทลาะกับที่บ้านมา?
หรือ…เธอหนีมาเที่ยวเลยกลัวพ่อแม่ดุ?
ไม่สิ บางทีอาจจะกลัวเรื่องที่เปย์เงินให้เขาตั้งห้าล้าน เล่นเอาเงินมาถลุงเล่นให้ผู้ชายง่าย ๆ ผู้หญิงแบบนี้นิสัยไม่ธรรมดาแน่นอน
ทว่าพอเห็นเธอดูเหม่อ ๆ เลยลองดึงแขนของเธอดู ปรากฏว่ารอบนี้เธอลุกขึ้นอย่างง่ายดายโดยไม่มีการขัดขืนแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำเจ้าตัวยังเดินตามเขาออกมาอย่างว่าง่ายอีกด้วย
แปลกจริง ๆ ผู้หญิงคนนี้
เจย์พาเอิงเอยเดินมาถึงหน้าผับ ก่อนจะมองหน้าเอิงเอยที่ยังคงนิ่งเงียบ แต่เขาก็ไม่สนใจ ดูเหมือนเขาจะรีบ ๆ พาเอิงเอยขึ้นรถจะได้จบงานอันแสนเหนื่อยนี่สักที
“นี่เบอร์ผู้จัดการพี่นะครับถ้าจะนัดไปทานข้าวตอนไหนก็โทรมาได้เลย” เจย์เอ่ยบอกก่อนจะกดเบอร์ผู้จัดการลงในมือถือของเอิงเอยและเก็บมันไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิม
ไม่นานแท็กซี่ที่ฝากให้ยามเรียกให้ก็เข้ามาถึงเมื่อเห็นว่ารถมาแล้วเขาก็จะขอตัวบ้างแล้วแหละ
“งั้นพี่ขอตัวนะครับขอให้เป็นวันที่ดียินดีที่ได้บริการครับ”
เขาพูดปิดงาน ตามสเตปของงานที่เคยทำ ก่อนที่เขาจะเดินหันหลังจากไปยังด้านหลังของไนต์คลับที่เป็นบริเวณที่จอดรถของเขาที่จอดอยู่
ส่วนเอิงเอยยังคงยืนนิ่ง เธอทำท่าเปิดประตูด้านหลังของแท็กซี่ช้าๆ เจย์หันกลับมามองหญิงสาว พอเห็นว่าเอิงเอยกำลังเปิดประตูรถก็ยกยิ้มออกมาทันที
จบงานของวันนี้ไปอีกหนึ่งวัน
....
“ขอโทษที่เรียกนะคะ ไม่ไปแล้วค่ะ”
เอิงเอยพูดกับคนขับแท็กซี่ก่อนจะปิดประตูรถ แน่นอนว่าคนขับหัวเสียจนด่าออกมา แต่เอิงเอยก็ทำเป็นไม่สนใจและเดินออกจากไนต์คลับไปอีกทาง
ที่บอกว่าไม่กล้านั่งแท็กซี่ เป็นเพราะเอิงเอยไม่กล้านั่งจริง ๆ พอขึ้นไปก็เห็นแต่ความทรงจำอันเลวร้ายผุดขึ้นมาในสมองเอิงเอยไม่หยุด ที่สุดแล้ว เอิงเอยเลยยังคงยืนอยู่หน้าไนต์คลับอยู่คนเดียว
ลมเย็นๆ ที่พัดเข้ามาหาเอิงเอยทำให้เอิงเอยเริ่มสร่างเมาพร้อมกับนึกถึงเรื่องเมื่อก่อน....
คิดถึงคุณพ่อคุณแม่จัง....
ถ้าตอนนี้พ่อกับแม่ของเอิงเอยยังอยู่ แค่โทรหาท่านก็พร้อมจะออกมารับเธอเสมอไม่ว่าเธอไปที่ไหน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วเอิงเอยตัวคนเดียว จะไปไหนมาไหน ก็มักจะให้เพื่อนไปส่ง และตอนนี้ยัยมิ้นเพื่อนของเอิงเอยก็กลับไปแล้วด้วย
🐇🐇🐇
ห้าปีต่อมา“เดซี่”“พ่อคะแม่คะ” ใบหน้าสวยหวานโบกมือทักทายผู้เป็นพ่อกับแม่ด้วยรอยยิ้มใสเด็กตัวน้อยที่หน้าตาน่ารักเหมือนนางฟ้านางสวรรค์คนนี้มีชื่อว่าเดซี่และแน่นอนว่าเอิงเอยคือลูกสาวของเอิงเอยและเจย์“ขอบคุณพ่อกับแม่นะครับที่ดูแลเดซี่ให้” เจย์เอ่ยขึ้นมองพ่อกับแม่ที่เริ่มแก่ลงแต่ก็ยังมาคอยช่วยเลี้ยงหลานในวันที่เขาและเอิงเอยติดธุระ“ไม่เป็นไรลูกแล้วเอิงเอยไปไหนล่ะ” ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม“หลับน่ะครับสงสัยเดินเยอะแล้วคงจะเพลีย” เจย์เอ่ยบอกพร้อมกับหอมแก้มลูกสาวตัวน้อยด้วยความคิดถึง“ดูแลกันดีๆ นะลูกพ่อกับแม่ขอตัว” เจย์โบกมือลาพ่อกับแม่รวมถึงเดซี่ที่ยิ้มส่งลาทั้งคู่อย่างน่ารัก“แม่หลับเหรอคะ” เดซี่เอ่ยถาม“ครับสงสัยน้องน่าจะกวนทั้งคืน” เขาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มวันนี้เขาพาเอิงเอยไปตรวจครรภ์ครบแปดเดือนมา ท้องของเอิงเอยใหญ่มาก เนื่องจากใกล้จะคลอดเต็มที่เด็กในท้องเป็นผู้ชายร่างกายสมบูรณ์และคึกมากๆ เพราะเจ้าตัวถีบท้องเล่นตลอดจนเอิงเอยต้องตื่นกลางดึกอยู่บ่อยครั้ง“น้องดีน่ะเหรอคะ” คำพูดของลูกสาวทำเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะวางเดซี่ลงนั่งบนโซฟาและเดินไปหาน้ำมาให้ลูกสาวดื่ม“น้องดีเหรอใครเป็นคนตั้งชื่อ” เขาเอ่
วันต่อมา“พ่อคะแม่คะ หนูพาลูกเขยพ่อกับแม่มาหาแล้วนะ” เอิงเอยเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใสกับหลุมศพของพ่อกับแม่ซึ่งเจย์ก็ได้แต่ยืนนิ่งแม้จะรู้ว่าเอิงเอยในตอนนี้กำลังยิ้มอยู่แต่ภายในของเอิงเอยก็คงเศร้ามากอย่างแน่นอน“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมเจย์ครับ” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพก่อนจะวางดอกไม้เป็นการเคารพทั้งสองท่านเอิงเอยยิ้มและปัดไปที่รูปภาพเล็กๆ ของทั้งสองอย่างคิดถึง“ไม่ต้องห่วงหนูนะคะหนูใช้ชีวิตอย่างดีมาโดยตลอดและต่อไปนี้หนูก็จะมีคนมาดูแลด้วย” เอิงเอยพูดพร้อมหันไปหาเจย์ที่ส่งยิ้มและบีบมือของเอิงเอยอยู่“คิดถึงนะคะ..นะ..หนูคิดถึงฮึกก....พะพ่อกับแม่มากๆ เลย” เจย์มองเอิงเอยที่เริ่มร้องไห้ออกมาเขาโอบไหล่บางเป็นการปลอบเอิงเอยเข้มแข็งมากที่อยู่ตัวคนเดียวได้บนโลกใบนี้“ตะต่อไปฮึกหนูก็จะคิดถึงพ่อกับแม่อีกฮึกถ้าชาติหน้ามีจริงหนูขอเกิดมาเป็นลูกพ่อกับแม่อีกนะคะ” เอิงเอยเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเศร้าเจย์ดึงเอิงเอยมาก่อนพร้อมกับลูบผมของเอิงเอยอย่างแผ่วเบา ปล่อยให้เอิงเอยร้องไห้ออกมาจนพอใจก่อนจะผละตัวออกไป“พี่สัญญาว่าต่อจากนี้พี่จะเป็นคนดูแลเราแทนพ่อกับแม่ของเอิงเอง” เจย์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะกดจู
“พร้อมไหม?” เจย์เอิงถามกับเอิงเอยตอนนี้ทั้งคู่มายืนอยู่หน้าบ้านของเจย์แล้ว สายตาคมจ้องมองบ้านตัวเองที่ไม่ได้มานาน ไม่รู้ว่าป่านนี้พ่อกับแม่จะแก่ไปมากขนาดไหนซึ่งก่อนมาเขาก็ฝากบอกน้องชายให้บอกพ่อกับแม่ไว้แล้ว“ค่ะ!” เอิงเอยเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มเจย์ประหลาดใจเล็กน้อยที่เอิงเอยดูไม่ได้ตื่นเต้นมากเท่าไหร่ และทั้งสองก็พากันเดินเข้าไปในบ้านทันที“ลูก/เจย์” ใบหน้าหล่อมองบุคคลทั้งสองด้วยความคิดถึง เอิงเอยปล่อยมือให้เจย์ได้เข้าไปกอดกับพ่อแม่ทั้งสามยืนกอดกันและเป็นแม่ของเจย์ที่ร้องไห้ออกมาด้วยความคิดถึงลูกชายส่วนเจย์ก็ยิ้มดีใจที่ได้กลับมาเจอพ่อกับแม่อีกครั้ง“ผมขอโทษนะครับ” เจย์เอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิดแต่ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้เขาก็คงจะเลือกหนีออกจากบ้านเหมือนเดิมเพราะเขาคงทนอยู่ด้วยความอับอายกับความโง่เขลาของตัวเองไม่ได้เหรอ“ไม่เป็นไรลูกผิดพลาดแล้วก็ช่างมัน” แม่ของเจย์เอ่ยขึ้นอย่างอบอุ่นพร้อมกับกอดเจย์อีกครั้ง ส่วนพ่อของเขาก็ยกมือขึ้นลูบผมลูกชายด้วยความรักเช่นกันเอิงเอยมองภาพอบอุ่นด้วยน้ำตาคลอเบ้า เธอเองก็อยากกอดพ่อกับแม่แบบนี้บ้างจัง“แล้วแม่สาวน้อย..”“สวัสดีค่ะหนูชื่อเอิงเอยค่ะ^^” เอิงเอยเอ่ยขึ
เคร้ง!คำพูดของเอิงเอยทำเขาถึงกับทำช้อนตกใส่จานอาหาร เอิงเอยถึงกับหัวเราะออกมาเมื่อเห็นเจย์ทำท่าช็อก“พูดอะไรเนี่ย!” เจย์เอ่ยขึ้นพร้อมหัวเราะอย่างไม่เชื่อหู มีที่ไหนผู้หญิงจะขอผู้ชายแต่งงานก่อน“ไม่แต่งเหรอคะหนูให้สินสอดพี่เยอะๆ เลยก็ได้” เอิงเอยยังคงพูดต่อ เธอเกรงใจที่เจย์ต้องไปๆ มาๆ ที่คอนโดกับที่บ้านเอิงเอย สู้ย้ายมาอยู่บ้านเธอให้เป็นเรื่องเป็นราวก็สิ้นเรื่อง“เอิงครับ พี่สิต้องเป็นคนขอ ไม่ใช่เรา” เจย์เอ่ยตอบเสียงเรียบ“นี่มันสมัยไหนกันแล้วค่ะไม่สำคัญหรอกว่าใครจะเป็นคนขอก่อน นะๆ แต่งงานกันนะคะ พี่เจย์จะได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเอิงไง”เจย์ผ่อนลมหายใจด้วยความเหนื่อยใจต้องเป็นเขาสิที่เป็นคนขอเอิงเอยแต่งงานและต้องเป็นเขาสิที่ต้องพาเอิงเอยย้ายมาอยู่ด้วยกัน“น้าๆ ~” เอิงเอยยังคงเว้าวอนไม่เลิกดวงตาสวยกะพริบกันถี่ ๆ จนคนเจย์อมยิ้มออกมา“ไหนแหวนล่ะ” เขาเอ่ยถามเอิงเอยชะงักไปทันทีเพราะไม่ได้เตรียมมา“อะเอ่อเป็นจุ้บ ๆ ขัดไว้ก่อนได้ไหมคะแหะ ๆ ^^” เจย์มองเอิงเอยที่จำแห้งเขาลุกขึ้น ก่อนจะเชยคางเอิงเอยมาจูบอย่างดูดดื่มเอิงเอยจูบตอบด้วยรอยยิ้มเขินในทันทีไม่นานเจย์ก็ผละจูบออกไปสองสายตามองกันพร้อมกับ
“แย่จังนะคะ พอดีพ่อแม่เอิงทิ้งมรดกไว้ให้เยอะมากเสียด้วยสิ” เอิงเอยเอ่ยพร้อมยกยิ้มที่มุมปากเมย่าได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ แต่ที่ไม่สามารถเอาชนะผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเอิงเอยได้แล้วตอนนี้ผู้หญิงตัวเล็กหน้าตาใสซื่ออย่างเอิงเอยก็กำลังควบคุมเอิงเอยจนอยู่หมัดเมย่ามองทั้งสองด้วยความแค้นก่อนจะเอ่ยขึ้น“ฝากไว้ก่อนเถอะ!” เมย่าเอ่ยขึ้นก่อนจะหันหลังเดินจากไป ส่วนเอิงเอยได้ยักไหล่ออกมาอย่างไม่แคร์ “ไม่รับฝากจ้าขี้เกียจถือมันหนักคิกๆ” เจย์ส่ายหน้าให้กับความขี้เล่นของเอิงเอยเขาถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกไม่สบายใจทั้ง ๆ ที่เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้กับเข้ามาสะสางปัญหาให้เขาจนหมดสิ้น“ขอโทษนะครับ เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะพี่แท้ ๆ” เขาเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกผิด เอิงเอยมองใบหน้าหล่อก่อนฉีกยิ้มกว้าง“งั้นเอิงขอกอดจากพี่เจย์แน่น ๆ เป็นของรางวัลได้ไหม?”"แถมให้มากกว่ากอด ทั้งคืนเลยครับ"ใบหน้าหล่อระบายยิ้มออกมาก่อนจะสวมกอดอีกฝ่ายเต็มรัก เอิงเอยจมอยู่ในอ้อมกอดแกร่งด้วยรอยยิ้มและหวังว่าต่อจากนี้ผู้ชายของเอิงเอยจะมีแต่ความสุขในทุกๆ วันหนึ่งเดือนต่อมากระแสคู่จิ้นของเจย์และเควินได้ค่อย ๆ หาย
“นายแบบชิดกับนางแบบหน่อยครับ” เจย์ขยับตามคำสั่งเขาโอบเอวบางอันเปลือยเปล่าของเอิงเอยก่อนจะบีบเคล้นมันเบาๆ เอิงเอยเบ้หน้าด้วยความเจ็บเล็กน้อยเงยหน้ามองเจย์ที่ส่งสายตาดุให้กับเธอ แต่เจ้าตัวก็ได้แต่ส่งยิ้มหวานกลับไป“ดีครับน้องนางแบบขอยิ้มแบบสดใสเลยนะครับ” เอิงเอยทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะปรับเปลี่ยนท่าไปตามที่ช่างภาพบอกทุกคนต่างมองด้วยความอึ้งเพราะทั้งสองดูเข้ากันได้ดีมากประหนึ่งถ่ายแบบคู่รักก็ไม่ปาน“ดีครับเจย์กอดจากด้านหลังได้ไหมครับนางแบบโอเครึเปล่า” ช่างภาพเอ่ยถามเอิงเอยพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มไม่นานเจย์ก็เดินไปทางด้านหลังของเอิงเอย ก่อนจะสวมกอดจากด้านหลังและใช้ใบหน้าหล่อเกยบนไหล่ของเอิงเอย“ดีมากครับยิ้มหน่อยครับนางแบบเอามือ แตะหน้านายแบบ เยี่ยมครับ” ทั้งสองถ่ายอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงก่อนจะออกไปรอเปลี่ยนฉากเอิงเอยโดนช่างแต่งหน้าเรียกไปเติมหน้า เช่นเดียวกับเจย์ไม่นานฉากใหม่ก็ถูกจัดขึ้นและทั้งสองต้องลงไปนั่งในบ่อน้ำด้วยกันเอิงเอยลงนั่งเป็นคนแรกระดับน้ำอยู่ตรงช่วงอกของเอิงเอยพอดีไม่นานเจย์ก็เดินตามเข้ามา“กลับบ้านไปเจอแน่” เขาเอ่ยเสียงดุก่อนจะหันไปสนใจช่างภาพอีกครั้ง เอิงเอยที่ได้ยินแบบนั้นก็