LOGINไม่เคยรู้สึกโกรธจนอยากบีบคอใครขนาดนี้มาก่อน แต่ตอนนี้เขากำลังควบคุมตัวเองที่อยากทำร้ายเธอไม่ได้ ยิ่งเห็นดวงตากลมโตไม่มีแววสะทกสะท้านกับสิ่งที่ทำ ยิ่งทำให้เขาต้องระงับอารมณ์ตัวเองอย่างหนัก
"ได้!!! ไหน ๆ ฉันก็เสี้ยนอยู่พอดี ว่าจะหาเด็กมากระแทก แต่ตอนนี้คงไม่ต้องหาแล้ว"นัยน์ตาคมหื่นกระหายก้มมองหน้าอกเธออย่างไม่ปิดบัง "....." "มีผู้หญิงร่านมาให้เอาถึงที่ ใส่ถุงยางหลับตาเสียบเข้าไปคงไม่เป็นไรหรอก" "....." "ไปสิไป จะไปเอากันที่ไหน" คำพูดที่พ่นออกมาจากคนตัวสูง ทำให้ใจดวงน้อยกระตุกครั้งแล้วครั้งเล่า ที่เธอยั่วเขาไม่ใช่เพราะไม่พอใจเขาอย่างเดียว แต่เธออยากหาใครสักคนให้เธอได้ระบายอารมณ์เคร่งเครียดของตัวเองในแต่ละวัน แต่เธอไม่รู้ว่าจะไปหาจากที่ไหน เพราะไม่เคยทำเรื่องพวกนี้มาก่อน แล้ววันนี้ไทเกอร์ก็เข้ามาในความคิดเธอพอดี บวกกับเขาที่ทำท่าทางรังเกียจเธอ ยิ่งทำให้เธออยากท้าทายเขามากขึ้น อยากรู้ว่าเธอจะสามารถทำให้เขาเปลี่ยนความคิดที่มีต่อเธอได้หรือเปล่า "ที่ไหนก็ได้ค่ะ" "งั้นเธอไปรอฉันที่ลานจอดรถ เดี๋ยวฉันตามไป" ร่างสูงผละออกจากตัวเธอ เขาเดินขึ้นไปยังโต๊ะวีไอพีที่ธันเดอร์นั่งดื่มอยู่คนเดียว เพื่อไปหยิบกุญแจรถที่เขาวางทิ้งเอาไว้ "กูกลับก่อนนะ" "อะไรว่ะ ลงไปข้างล่างปุ๊บมึงก็จะกลับทันที มีพิรุธนะโว้ยยย!!" "มีพิรุธเหี้ยไร กูมึน ๆ แล้วว่ะ อยากกลับไปนอน" เขาไม่มีทางให้เพื่อนรู้เด็ดขาดว่ากำลังจะไปทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้น เลยต้องพูดโกหกออกไป "แล้วที่บอกว่าเสี้ยนหายแล้วเหรอว่ะ" "เออ กูไปก่อนนะ" ธันเดอร์หรี่ตาจับผิดเพื่อน มองตามหลังไทเกอร์ไปจนสุดสายตา คนแบบมันที่บอกเขาว่าเสี้ยน แต่ยังไม่ได้แล้วกลับบ้านไปเฉย ๆ แบบนี้ มีพิรุธสุด ๆ เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างมันกับเด็กเก่าไอ้ฟรินท์คนนั้น ไทเกอร์รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาที่ลานจอดรถของผับ มองเห็นไกล ๆ ว่าใบเฟิร์นยืนรอเขาอยู่ใกล้กับที่เขาจอดรถพอดี แต่เธอคงไม่รู้ว่ารถของเขาคันไหน เลยไปยืนรออยู่ตรงรถอีกคัน “เดินมานี่”เขาเดินนำเธอไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่ตรงลานจอดรถวีไอพี "ยืนอยู่ทำไม รีบขึ้นรถสิ อยากมากไม่ใช่หรือไง" คนตัวเล็กรีบดึงประตูรถเปิดออก แล้วแทรกตัวขึ้นไปนั่ง ก่อนที่เขาจะขึ้นมานั่งฝั่งคนขับและรีบสตาร์ทรถขับออกไปทันที "พี่จะพาฉันไปไหน" "คนจะเอากัน ต้องไปไหนล่ะหืม หรือปกติเธอชอบบนรถ" "เปล่าค่ะ" "ก็ดี ฉันก็ไม่ชอบเหมือนกัน มันอึดอัดคับแคบ ฉันไม่ชอบแนบชิดกับใครขนาดนั้น" "เดี๋ยวนะ การที่พี่นอนกับผู้หญิงแบบนั้นยังไม่เรียกแนบชิดเหรอคะ" มุมปากหนายกยิ้มขึ้น"หึ ไม่ใช่ แค่เอากันใส่ถุงยาง เรียกแนบชิดตรงไหน ใคร ๆ ก็เอากันได้" "ถึงขนาดแก้ผ้าแบบนั้น ยังไม่เรียกแนบชิด" เสียงหวานพึมพำออกมา ไม่เข้าใจคำพูดเขาสักนิด แต่ทว่าเธอก็ไม่อยากสนใจเรื่องนี้อีก ตอนนี้ใจเธอกำลังเต้นรัวที่กำลังจะได้ลองเรื่องแปลกใหม่ในชีวิตของลูกผู้หญิงที่เธออยากลองมาตลอด รถคันหรูขับเข้าไปจอดในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง ประตูรถฝั่งคนขับถูกเปิดออก ก่อนที่ใบเฟิร์นจะหลับตาหายใจเข้าปอดลึก ๆ และเปิดประตูรถเดินตามเขาเข้าไป "ไปอาบน้ำให้เรียบร้อยก่อน"เขาโยนผ้าขนหนูมาให้เธอ ส่วนตัวเขาก็ไปนั่งจุดบุหรี่สูบอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง "แล้วพี่ไม่อาบเหรอคะ" "ฉันอาบมาแล้ว" "ฉันก็อาบแล้วเหมือนกัน" "ฉันสั่งให้ไปอาบก็แค่ไปอาบ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากเรื่อง" ผู้หญิงคนนี้น่าเบื่อ น่ารำคาญที่สุด ที่เขามาอยู่กับเธอตอนนี้ไม่ใช่เพราะอยากได้โทรศัพท์อย่างเดียว แต่เพราะเขาเองก็เสี้ยนเหมือนกัน อย่างน้อยต่อให้เธอผ่านผู้ชายมามากแค่ไหน ใส่ถุงยางเอากันก็พอได้อยู่ ใบเฟิร์นอาบน้ำชำระร่างกายจนสะอาด เธอหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาเช็ดจนแห้ง แล้วใช้มันนุ่งห่มร่างกายเปลือยเปล่าของเธอ แกร๊ก!!! เสียงประตูห้องน้ำเปิดออก พร้อมกับร่างเล็กนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวออกมาด้วยท่าทางที่เขาต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน อาการของเธอเหมือนกำลังรู้สึกประหม่าที่ต้องเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพนี้ ถ้าเขาไม่รู้จักเธอมาก่อน ก็ต้องยอมรับว่าเธอแสดงได้ดีมาก จนเขาเกือบเชื่อ ว่าเธอไม่เคยผ่านผู้ชายมาก่อน "ถอดผ้าขนหนูออก" "ถอดเลยเหรอ?" "อย่ามาทำอิดออด ฉันรู้หรอกว่าเธอกำลังแสดงทำตัวเป็นว่าไม่เคยแก้ผ้าต่อหน้าผู้ชาย" คนตัวเล็กเม้มปากแน่น ไม่อยากโต้เถียงกับเขาให้เสียบรรยากาศ เธอใช้มือปลดผ้าขนหนูร่วงลงไปบนพื้น ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปนอนบนเตียงดึงผ้าห่มออกมาคลุม แต่ทว่าร่างสูงก็ตามมาดึงผ้าห่มออกไปจากร่างกายเธอทันที แววตาคมดุดันจ้องมองร่างกายของเธอด้วยแววตาหื่นกระหาย ไม่อยากเชื่อว่าเธอจะมีร่างกายสวยได้ขนาดนี้ ผิวขาวผ่องจนสะท้อนกับแสงไฟในห้อง หน้าอกอวบอิ่มตั้งเต้าสวยงาม ตรงกลางมีจุกยอดเล็กสีหวาน เลื่อนสายตาลงมาตามหน้าท้องแบนราบจนถึงเนินอวบอิ่มโหนกนูนไร้ขน มองจากภายนอกมันดูอิ่มเอิบ จนเขาเผลอกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ ตอนนี้เลือดลมในกายเขาสูบฉีดอย่างหนัก ฤทธิ์แอลกอฮอล์แล่นพล่าน อยากจะกระโจนใส่ร่างเล็กของเธอ แต่ต้องอดทนใจเย็นไว้ ใช้มือถอดเข็มขัดและกางเกงออกไปจากเรียวขา หญิงสาวเม้มปากแน่น ร่างกายรู้สึกร้อนผ่าวจากสายตาคมที่ไล้มองตามร่างกายของเธอ อีกทั้งตอนนี้ที่เขาถอดกางเกงตัวเองออก เธอยังเห็นอาวุธลับของเขาที่เด่นนูนออกมาท้าทายสายตาเธอ มันทำให้เธอเสียววูบวาบตรงกลางกายตัวเอง เป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ทำให้เธอตื่นเต้นเป็นที่สุด คนตัวสูงไม่ได้ถอดเสื้อออก เขาทิ้งตัวลงตรงปลายเท้าของเธอ จับเรียวขาสวยให้อ้าออกยกขึ้นเป็นรูปตัวเอ็ม จ้องมองร่องรักของเธอแล้วก็ต้องตกตะลึงที่มันดูชมพูและปิดสนิท เขาไม่เคยเห็นร่องรักของผู้หญิงคนไหนสวยเท่าของเธอมาก่อน หรือเพราะว่าเขาไม่เคยสังเกตุกันนะ ได้แต่คิดเองตอบเองอยู่ในใจ ก่อนจะเอานิ้วไปถูไถปากทางรักของเธอ มองเห็นน้ำหวานสีใสหลั่งออกมาติดนิ้วของเขา ก็ยิ้มเยาะออกมาทันที "น้ำออกมาเยอะแล้วนิ เอาเลยแล้วกันนะ" หญิงสาวไม่รู้ว่าต้องตอบเขาว่าอะไร เห็นเขาถอดกางเกงตัวเองออก แล้วฉีกซองถุงยางสวมครอบทับลงไปบนแก่นกายขนาดมหึมาของตัวเอง สารภาพว่าที่เคยดูวิดีโอวาบหวิวมา ยังไม่เคยเห็นความเป็นชายของใครใหญ่ขนาดนี้มาก่อน มันดูน่ากลัวว่าจะเข้ามาในร่องรักของเธอได้ไหม ในเมื่อมันเป็นครั้งแรกของเธอ แล้วต้องมาเจอของใหญ่ขนาดนี้ สงสัยว่าร่องรักคงฉีกขาดและเจ็บมากแน่นอน "จ้องขนาดนี้ เธอคงไม่เคยเห็นของใครใหญ่เท่านี้มาก่อนสินะ" "ไม่เคยค่ะ" "หึ หึ"ไทเกอร์หัวเราะออกมาในความตรงไปตรงมาของเธอ เมื่อสวมถุงยางเสร็จเขาก็แทรกตัวเข้าไปตรงหว่างขาเธอ จับแก่นกายใหญ่ถูไถขึ้นลงตรงปากทางรักชื้นแฉะของเธอ "มะ ไม่จูบก่อนเหรอคะ" คนตัวเล็กกลั้นใจถามออกไป เธอกำลังกลัวท่อนลำแข็งขืนของเขาที่กำลังหยอกเย้ากับส่วนนั้นของเธอ อย่างน้อยเขาควรเล้าโลมให้เธอหายตื่นเต้นและผ่อนคลายอาการตื่นกลัวสักนิด "ฉันไม่เคยจูบใครและไม่คิดจูบ"ดวงตากลมโตกระพริบขึ้นลงช้า ๆ หันหน้าไปมองคนข้าง ๆ ใช้สองมือจับแก้มสากทั้งสองข้างของคนตัวสูง“คนนี้ไง คนหล่อของเรน เป็นรักแรกและเป็นรักเดียวของเรน”คนตัวสูงพยายามกลั้นยิ้มอย่างที่สุดเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ เขาต้องเก๊กขรึมพูดเสียงเข้มออกไป“จำผิดหรือเปล่า ฉันไม่ใช่ผัวเธอ”“ไม่ผิด ๆ คนนี้ไงชื่อปารวัตรหรือเปล่า ปารวัตร บวรกิจวัฒนา”“…..”“ขอดูบัตรประชาชนหน่อยได้ไหม”มือเล็กล้วงเข้ามาในกระเป๋ากางเกง แต่ทว่าล้วงเข้ามาลึกจนเจอกับความเป็นชายของเขาที่ยังอ่อนตัวอยู่“นี่ตัวอะไรอ่ะ ทำไมมันนิ่ม ๆ”“ลองดึงออกมาดูสิ”“ดึงยังไง ตรงนี้มันดึงไม่ได้”ฟรินท์เอามือเธอออกมาจากกระเป๋ากางเกงของตัวเอง และปลดซิปกางเกงลงจับมือเธอสอดเข้ามาสัมผัสกลางกายของเขาแบบที่ไม่มีอะไรกั้น“เอ๊ะ!! ไม่ใช่อันนี้นี่นา อันนี้มันแข็ง เมื่อกี้มันนิ่ม ๆ”เรนเดียร์ก้มหน้าลงมามองความเป็นชายของเขาที่เธอควักออกมาด้านนอก ก่อนหน้าที่เธอจับมันนิ่มก็จริง แต่ทว่าพอโดนมือนุ่ม ๆ ของเธอก็ตั้งลำขึ้นมาทันที“แข็งแบบนี้แหละดี ตอนนิ่ม ๆ ไม่ดี”แววตาราวกับสาวน้อยไร้เดียงสาของคนตัวเล็กทำเขาแทบคลั่ง เธอเอาแต่จ้องมองแก่นกายของเขาราวกับเห็นตัวประหลาดปรากฏม
เมื่อจัดท่าสำหรับให้นมเสร็จ เรนเดียร์ก็จับเต้าอวบ เอายอดอกไปสกิดตรงปากเล็กของลูกน้อย จนรันเวย์อ้าปากอมเข้าไปในปากและเริ่มดูดทันที ช่วงแรกเธอก็รู้สึกเจ็บแปลบ แต่ทว่าพอผ่านไปสักพักก็รู้สึกดีขึ้น ลูกชายของเธอดูดนมแรงและเร็วมาก ทำให้เต้าอวบอีกข้างมีน้ำนมไหลหยดออกมาด้วย “ให้เฟรย่าดูดด้วยได้ไหม”เรนเดียร์พยักหน้าตอบ ฟรินท์รีบไปอุ้มลูกสาวที่เพิ่งตื่นและกำลังส่งเสียงอ้อแอ้ออกมา เขาจัดท่าทางใหม่ให้ลูกแฝดทั้งสองคนสามารถดูดนมแม่ได้คนละข้าง ภาพที่เห็นทำเอาเขาเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เดินเข้าไปจับหัวเล็กของเธอลูบผมนุ่มเบา ๆ และกดจูบลงไปบนหน้าผากทันที “ฟรินท์รักเรนนะครับ” “เป็นอะไรอ่ะ ทำไมร้องไห้” น้ำตาของชายหนุ่มไหลออกมาไม่รู้ตัว อันที่จริงมันก็ไหลตั้งแต่เขาเห็นหน้าลูกในห้องผ่าตัดแล้ว เพียงแต่ว่าตอนนั้นมีหมอพยาบาลอยู่หลายคน เขาเลยต้องสะกดกลั้นเอาไว้ และมาบ่อน้ำตาแตกตอนนี้ “ดีใจที่เรนมีลูกกับฟรินท์” “เรนก็ดีใจเหมือนกันที่ฟรินท์เป็นพ่อของลูกเรน” หนึ่งปีผ่านไป ตอนนี้ลูกแฝดชายหญิงของฟรินท์และเรนเดียร์อายุหนึ่งขวบกับสองเดือนแล้ว ก็ถึงเวลาฤกษ์งามยามดีของคนเป็นพ่อแม่ ที่จะจัดงานแต่งงานในวัย
ค่ำคืนที่เปรียบเสมือนดั่งเทพนิยายที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นความจริง แสงไฟระยิบระยับสาดส่องไปทั่วห้องจัดเลี้ยงโรงแรมหรูหราที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นปราสาทกลางเมืองในจินตนาการ ผ้าม่านสีขาวนวลประดับด้วยคริสตัลใสและดอกกุหลาบสดนับพันดอกถูกจัดเรียงอย่างประณีต กลิ่นหอมละมุนลอยคลุ้งไปทั่ว สร้างบรรยากาศโรแมนติกเกินบรรยายให้กับงานแต่งงานของไทเกอร์และใบเฟิร์น แขกผู้มีเกียรติทั้งนักธุรกิจ เพื่อนสนิท และคนสำคัญในวงการ ต่างแต่งกายด้วยชุดราตรีและสูทสุดหรู เสียงดนตรีสุดโรแมนติกดังคลอเบา ๆ ทำให้ทุกสายตาหันไปยังคู่บ่าวสาวที่กำลังก้าวเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ ไทเกอร์อยู่ในชุดสูทสั่งตัดเข้ารูปสีดำตัดกับเสื้อเชิ้ตขาวสะอาด สายตาคมแฝงไปด้วยความสุขและความภาคภูมิใจ ส่วนใบเฟิร์นเธอดูงดงามราวเจ้าหญิงในชุดแต่งงานสีงาช้างที่ปักด้วยคริสตัลเลื่อมแวววาวทั้งชุด ผ้าคลุมยาวระยิบระยับสะท้อนกับแสงไฟ รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอทำให้บรรยากาศทั้งงานสดใสขึ้นมาทันตา เมื่อทั้งสองคนขึ้นมายืนบนเวที เสียงพิธีกรกล่าวเชิญชวนแขกทุกคนให้เป็นสักขีพยาน เป็นการกล่าวขอบคุณแขกเหรื่อในงานและมีการพูดคุยเกี่ยวกับความรักที่ผ่านมาของเจ้าบ่าวเจ้าสาว ที่มีเสียงโ
"อื้อ~ อย่าทำแบบนั้น มะไหว อ๊าสส ฟรินท์" เรนเดียร์ร้องครางดังลั่น มือเล็กที่กอบกุมเอ็นร้อนของเขาสั่นเทา เมื่อเขาแหย่ลิ้นเข้ามากวาดต้อนน้ำหวานสีใสในโพรงอ่อนนุ่ม นิ้วเรียวแหวกกลีบอวบอูมของเธอออกจากกัน ก่อนจะใช้นิ้วสะกิดตรงติ่งเสียวของเธอถี่รัว จนเรนเดียร์ส่ายสะโพกดิ้นเร่า ๆ ร่างกายจิกเกร็งตั้งแต่ช่วงบนไปจนถึงปลายเท้า "อย่าขี้โกงเรนเดียร์" ฟรินท์เอ่ยเสียงแหบพร่าออกมา เมื่อมือบางเอาแต่จับเอ็นร้อนไว้แบบนั้นโดยไม่ทำอะไร เรนเดียร์เลยจำต้องอ้าปากอมแก่นกายใหญ่เอาไว้ในปาก ขบเม้มส่วนปลายหัวบานไปพร้อมกับสาวรูดส่วนโคนไปด้วย "ซี้ดด เร็วเลยเมีย" คนตัวสูงเร่งเร้าจังหวะ ลิ้นร้อนตวัดปากทางรักระรัว ขยี้เน้นย้ำตรงจุดเสียวซ่าน ไปพร้อมกับเรนเดียร์ที่ผงกหัวเล็กขึ้นลงกลืนกินท่อนเนื้อแดงก่ำเข้าออกไปพร้อมกัน ทั้งสองคนครางอื้ออึงในลำคอ เสียวกระสันอย่างที่สุด แต่ทว่ายังคงปรนเปรอส่วนกลางกายของอีกฝ่ายอย่างไม่มีใครยอมใคร อุณหภูมิในห้องเพิ่มระดับขึ้น โดยเฉพาะฟรินท์ที่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ก่อนหน้าทำให้เลือดลมสูบฉีดอย่างหนัก ความร้อนแผ่ขยายออกมาจนคนตัวเล็กสัมผัสได้ เมื่อความกระสันพุ่งสูงขึ้น ร่องรักก็ขมิบตอดรัดลิ
“หมายความว่าไงเรน” เรนเดียร์ก้มหน้าสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เพื่อคลายความประหม่า ตอนนี้เธออยากจะบอกความจริงทุกอย่างกับเขา ทุกความรู้สึกที่ผ่านมาของเธอ “หมายความว่าฉันชอบนายก่อนหน้านั้น” “จริงเหรอเรนเดียร์” เธอพยักหน้า“ฉันมีเรื่องเล่าให้นายฟัง” “…..” “ตอนเด็ก ๆ ฉันเอาแต่แอบมองเพื่อนน้องชายคนหนึ่งมาตลอด เขาชอบมาเล่นเกมส์กับน้องชายฉันที่บ้าน และมักจะมาเป็นเพื่อนคุยเวลาฉันนั่งเล่นตุ๊กตาอยู่คนเดียว หลังจากนั้นเสาร์อาทิตย์ ฉันก็จะคอยมองหาเขาคนนั้น เพราะอยากให้เขามานั่งคุยกับฉัน จนถึงวันที่ฉันเข้าเรียนมหาลัย เราก็ไม่ค่อยได้เจอกัน แต่ทว่าเขาก็ยังมาเรียนมหาลัยเดียวกับฉัน ถึงจะคนละคณะ แต่เพราะน้องชายของฉันทำให้เราได้เจอกันบ่อย ๆ” “…..” “คืนนั้นตอนงานวันเกิดไทเกอร์ ฉันไม่ได้เมา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะฉันตั้งใจ” “เรนเดียร์” ฟรินท์พูดออกมาเหมือนละเมอ เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเธอรู้สึกแบบนั้นกับเขาจริง ๆ แต่ก็แอบสงสารที่เธอเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเองนานขนาดนี้ “แต่ตอนนั้นที่ฉันไม่ยอมให้นายรับผิดชอบก็เพราะรู้ว่านายไม่ได้คิดอะไรกับฉันจริง ๆ ฉันเห็นแก่ตัวยื่นข้อเสนอเอาแต่ใจตัวเองกับนายไป เพราะอย
ด้านเรนเดียร์ตอนนี้กำลังนอนคุยโทรศัพท์กับกิ่งเพื่อนสนิท ระหว่างรอให้ฟรินท์กลับคอนโด เขาบอกเธอว่าขอไปนั่งดื่มฉลองกับเพื่อน จะกลับไม่เกินสี่ทุ่ม หันมองดูเวลาตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มครึ่งแล้ว(นี่กูกำลังจะมีหลานแฝดเหรอว่ะ)“เออ กูรู้ว่ามึงไม่ค่อยว่าง เลยไม่อยากบอกให้มึงรู้เรื่องที่กูอยู่โรงพยาบาล”(ไม่อยากบอกหรือว่ามึงลืม เอาดี ๆ เรนเดียร์)“กูไม่ได้ลืม”เรนเดียร์ขึ้นเสียงสูง เธอไม่อยากรบกวนเพื่อน อีกอย่างตอนนั้นเรื่องของเธอก็กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่อีก เลยไม่อยากให้เพื่อนมาเห็นสภาพเธอตอนนั้น(กูดีใจด้วยนะ ที่มึงกำลังจะมีลูก มีครอบครัว)“อย่าทำซึ้ง กูไม่อยากร้องไห้อีกตอนนี้”(ว่าแต่ผัวมึงไปไหนว่ะ)“ออกไปนั่งดื่มกับน้องกูนั่นแหละ อีกเดี๋ยวก็คงกลับ”(ปล่อยไปได้ยังไง ผัวมึงหล่อขนาดนั้น ไม่กลัวพวกอีแร้งจะคาบไปแดกเหรอว่ะ เวลาแบบนี้มึงควรล่ามโซ่ไว้กกคนเดียวมึงเชื่อกูอีเรน)“ถ้าเขาจะเป็นแบบนั้น เขาคงเป็นไปตั้งนานแล้วอีกิ่ง ไม่ทนรอผู้หญิงไม่มีเหตุผลแบบกูมาตั้งสามปีหรอก”พอผ่านช่วงเวลาที่สำคัญมา เธอก็คิดได้ว่าต่อให้เธอจะกักขังตัวผู้ชายคนหนึ่งไว้นานแค่ไหน วันหนึ่งถ้าเขาไม่รักเธอ เขาก็ต้องไปอยู่ดี แต่ต่างจ







