คนตัวบางสะดุ้งโหยง หมุนตัวกลับมาอย่างรวดเร็วทั้งยังชี้ปลายมีดมายังเขา ดีที่เขากระโดดถอยหลังหลบได้ทัน ไม่อย่างนั้นปลายมีดแหลมคมนั้นคงฝังเข้ามากลางหน้าอกของเขาไปแล้วแน่ๆ
“เฮ้ย นี่จะฆ่าฉันเหรอ ของขวัญ”
“ก็ใครใช้ให้นายมาเล่นบ้าๆ กับฉันแบบนี้ ถอยออกไปไกลๆ อย่าขยับมาใกล้ฉันอีก”
“ฉันแค่จะมาดูว่าเธอหั่นผักเสร็จหรือยัง เห็นยืมงมอยู่ตั้งนาน จนฉันหุงข้าว หั่นหมู ทุบกระเทียมเสร็จแล้วเนี่ย”
“ก็นายเข้ามาข้างหลังฉัน”
“หึ คุณหนูของขวัญครับ ครัวนี้มันแคบ ถ้าฉันไม่เข้ามาดูเธอหั่นผักทางนั้น แล้วจะให้เข้าทางไหน”
“ไม่ต้องพูดมาก คนอย่างนายเจตนามันไม่ดีตั้งแต่ต้น อย่าคิดว่าฉันรู้ไม่ทันนายนะ ไอ้โรคจิต”
“ทำไมมองฉันในแง่ร้ายแบบนั้นล่ะ ฉันไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย”
นิดหน่อยน่ะ เขาไม่คิดหรอก แต่คนอย่างเขามันคิดเกินเลยไปไกลแล้วต่างหาก ก็ใครใช้ให้เธอทั้งสวยทั้งหอมแบบนี้ล่ะ ยิ่งมองเธอจากด้านหลัง เห็นบั้นท้ายงอนๆ เรียวขาขาวเนียนพ้นชายกระโปรงสั้นๆ ออกมาอีก แถมยิ่งอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนแบบนี้ เธอยิ่งดูน่ารักน่ากระแทกที่สุดจนเขาแทบจะอดใจไม่ไหวอยู่แล้ว
“เชื่อนายก็ออกลูกเป็นควายแล้ว”
“ยังไม่ทันมีผัวเลย จะมีลูกแล้วเหรอ”
“ไอ้บ้าฟืน”
“คุณหนูของขวัญทำไมพูดจาไม่เพราะเลยครับ ไม่เถียงด้วยแล้ว เดี๋ยวโดนคุณหนูกินหัว ไหนดูซิ ว่าหั่นผักไปถึงไหนแล้ว เฮ้ย นี่อะไรวะเนี่ย เธอหั่นยังไง ทำไมมันใหญ่แบบนี้เนี่ย”
คนกวนประสาทถลามาที่เขียง หยิบผักชิ้นใหญ่บ้างเล็กบ้างขึ้นมาดูแล้วมองหน้าคนหั่นอย่างทดท้อ
“ทำกับข้าวไม่เป็นจริงๆ สินะ”
คนสวยมองหน้าเขาเลิ่กลั่ก ทั้งยังหันไปยังหนุ่มสาวสองคนที่นั่งมองเธออยู่ไกลๆ ก่อนจะเชิดใบหน้าขึ้นเล็กน้อย
“ใครบอกนาย นายจะไปรู้อะไร หั่นใหญ่ๆ เล็กๆ แบบนี้นี่แหละดีแล้ว ฉันชอบกินใหญ่ๆ แต่ใครชอบชิ้นเล็กๆ ก็จะได้กินได้แบบไม่ลำบากไง คนความคิดตื้นเขินอย่างนายไม่มีวันเข้าใจหรอก เอาผักมานี่”
เธอคว้าบล็อคโคลี่ชิ้นใหญ่จากมือเขาคืนมา แล้วตั้งหน้าตั้งตาหั่นต่อไปในแบบที่ตัวเองอวดอ้างว่าทำเพื่อทุกคน แต่ความจริงแล้วนอกจากเข้าไปต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกินเองตอนดึกๆ เวลาที่แม่ครัวนอนหลับแล้ว เธอก็แทบไม่เคยเข้าไปในครัวเลยสักครั้ง เพราะไม่ชอบให้กลิ่นของอาหารติดตามผมและเสื้อผ้าสวยๆ ของเธอ
“หึ เอาที่สบายใจเลยทูนหัว ฉันทำกับข้าวเพิ่มอีกอย่างดีกว่า อันนี้รบกวนเธอผัดในแบบที่คุณหนูของขวัญชอบด้วยนะครับ”
เธอตวัดสายตามองเขาด้วยความไม่ชอบใจ รู้หรอก ว่าเขาตั้งใจจะกลั่นแกล้งให้เธออับอาย แต่คนอย่างคุณหนูของขวัญคนสวยไม่จนแต้มง่ายๆ แน่ ยูทูปก็มี มันจะยากอะไร
“โอ๊ย เจ็บ”
กุ้งตัวโตกระเด็นหล่นจากมือ เมื่อคุณหนูของขวัญหันมาแกะเปลือกออกหลังจากหั่นผักหลายชนิดสำหรับทำผัดผักรวมมิตรสูตรเชฟของขวัญที่แอบเข้าห้องน้ำไปเปิดยูทูปเพื่อจดจำสัดส่วนของเครื่องปรุงมาอย่างคร่าวๆ แล้ว
เสียงร้องดังลั่นของคนตัวบางทำให้คนที่กำลังปรุงผัดกะเพราปิดแก๊สแล้วถลามาจับมือเล็กๆ ที่มีเลือดไหลซิบของเธอขึ้นดู
“โดนมีดบาดเหรอ”
“เปล่า กุ้งตำ”
“ฮะ กุ้งตำ”
“อือ ไม่ต้องมายุ่งน่า ฉันแค่จับมันแรงไปหน่อย มันลื่นหลุดมือ ตรงเขามันเลยตำฉัน”
เขา..กุ้งมีเขาด้วยเหรอ เกิดมาจนอายุยี่สิบสองปีก็เพิ่งรู้ ที่จริงเขาเห็นเธอยื่นๆ หดๆ มือจะไปจับกุ้งที่แช่น้ำอยู่ในอ่างล้างจานมาหลายรอบแล้ว รู้ว่าเธอกลัวมัน คงไม่เคยจับตอนมันดิบๆ มาก่อนล่ะสิ ถึงแสดงท่าทีกล้าๆ กลัวๆ แบบนั้น
แต่ใครจะคิด ว่าแค่เขาคลาดสายตา หยิบเครื่องปรุงมาเหยาะใส่กระทะแป๊บเดียว คุณหนูคนสวยก็โดน “เขากุ้ง” ตำเสียแล้ว
“พอเลย ไปนั่งไป เดี๋ยวฉันทำแผลให้ ของดิบมันสกปรกแผลจะอักเสบเอา”
“ฉันทำเองได้น่า”
“ของขวัญ ถ้าเธอดื้อ ฉันจะจูบเดี๋ยวนี้”
“ไอ้บ้าฟืน ถ้านายจูบฉัน ฉันจะกัดลิ้นนายให้ขาดเลย”
“หึหึ ยังไม่ได้บอกเลยว่าจะใช้ลิ้น โคตรลามกเลยเธอเนี่ย”
“ไอ้..”
“ถ้าอยากโดนจูบก็ด่ามา จะลากเข้าห้องด้วย ของยิ่งขาดๆ อยู่ เธอก็เห็นว่าฉันโสด คนเพิ่งเลิกกับแฟนมันหิวนะครับ”
เธอไม่พูดอะไรอีก แต่เดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร รอให้ผู้ชายดิบเถื่อนไม่สมกับหน้าตาหล่อๆ เอาอุปกรณ์ทำแผลจากในห้องนอนมาทำแผลให้เธออย่างอ่อนโยน
หลังจากที่เขาล้างแผล ใส่ยา แปะปลาสเตอร์ให้เธอเสร็จก็บริการเป่าลมอุ่นๆ ปลอบประโลมบาดแผลให้โดยไม่ได้ร้องขอ เธอมองเขาด้วยความตกใจในขณะที่เขาเองก็เงยหน้าขึ้นมามองสบตากับเธอพอดี
หัวใจดวงน้อยเต้นกระตุกกับดวงตาคมกริบดำขลับแสนมีเสน่ห์ที่มันฉายแววแปลกๆ อยากจะดึงมือของตัวเองออกมาจากมือเขา แต่ร่างกายกลับไม่ขยับตามอย่างที่ใจคิด
“เสร็จแล้ว”
“เอ่อ..ขอบใจ”
เสียงทุ้มดังขึ้นเรียกสติที่ตื่นเตลิดของเธอให้กลับคืนมา จึงค่อยๆ ดึงมือออกจากมือเขา แล้วเดินกลับมามองสบตากับกุ้งตัวโตนับสิบในกะละมังใบเล็ก
“ไม่ต้องทำแล้ว เดี๋ยวฉันทำให้ เธอรอผัดเฉยๆ ก็ได้ ดูนะว่าทำยังไง เดี๋ยวฉันจะทำให้ดู”
“ฉันทำเป็น”
“อ๋อ ทำเป็น งั้นเธอดูฉันแล้วกัน ว่าทำถูกต้องเหมือนที่เธอทำหรือเปล่า”
“อือ ทำสิ เดี๋ยวดูให้”
สาวสวยยกแขนขึ้นมากอดอก ดวงตากลมโตมองกุ้งที่อยู่ในมือเขาอย่างสนใจ จึงไม่ทันได้รู้ตัวว่าเขากำลังกลั้นขำอย่างสุดความสามารถ
ก็ไม่เห็นจะยาก แต่ทำไมเธอทำไม่ได้ กุ้งตัวโตมันลื่นเกินไปและเธอรู้สึกขยะแขยงกับสัมผัสแบบนี้ จึงทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร เสียหน้าชะมัด
เมื่อเขาแกะเปลือกกุ้งจนหมด ก็หันมาผ่าหลังและทำความสะอาด เธอมองมือใหญ่ที่ทำทุกอย่างด้วยความคล่องแคล่วแล้วก็อดจะทึ่งไม่ได้
หมอนี่เองก็ท่าทางรวยอย่างกับอะไร แม่บ้านแม่ครัวคงมีมากมายไม่ต้องพูดถึง แต่ทำไมถึงทำอาหารได้คล่องแคล่วแบบนี้ ขนาดเธอเป็นผู้หญิงยังทำได้ไม่ถึงครึ่งของเขาเลย
เธอคิดว่าวันๆ หมอนี่เอาแต่ออกเดตและนอนคลอเคลียกับผู้หญิงเสียอีก ไม่น่าเชื่อว่าจะมีมุมนี้กับเขาด้วย
ปกติที่เธอมากินข้าวเย็นที่นี้ พวกเธอมักจะซื้ออาหารเข้ามา หรือไม่ก็โทรสั่งร้านประจำของพวกเธอ จึงไม่เคยเห็นเขาทำอาหารเองทุกขั้นตอนแบบนี้มาก่อน
“อะ เสร็จแล้ว เดี๋ยวฉันไปผัดกะเพราต่อ แล้วเธอก็ผัดผักได้เลย ต้องการผู้ช่วยไหม ฉันช่วยเธอได้นะ”
เธอรับจานกุ้งมาจากเขา แล้วถอยหลังหนีจนชิดเคาน์เตอร์อ่างล้างจานเมื่อเขาก้าวเข้าหาเธอด้วยท่าทีคุกคาม แถมยังใช้มือทั้งสองข้างเท้าเคาน์เตอร์อ่างล้างจานกักขังเธอที่ยืนถือจานกุ้งด้วยมือสั่นๆ และเอนหลังหนีจนแผ่นหลังแทบจะชนกับก๊อกน้ำ
เขาคว้าเอวบางแล้วรั้งเธอให้กลับมายืนเหมือนเดิม เพราะอีกเพียงนิด เธอคงเสียศูนย์และหงายหลังลงไปในอ่างล้างจานเป็นแน่ เอาเป็นว่าวันนี้กวนประสาทเธอเพียงเบาะๆ พอ
“อุบ..แหวะ”อัคราสะดุ้งตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ในวันหยุดเพราะภรรยาคนสวยวิ่งพรวดพราดเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำอย่างเอาเป็นเอาตาย“ขวัญครับ ไหวไหม”เขารีบวิ่งมาลูบหลังให้ภรรยาที่อาเจียนจนเหลือแต่น้ำย่อย ก่อนจะส่งแปรงสีฟันให้เธอเพื่อดับกลิ่นน่าเวียนหัวในปากและลำคอ“แปรงฟันก่อนครับ”เธอรับแปรงสีฟันมาแปรง ก่อนจะรีบบ้วนปาก เพราะน้ำย่อยในกระเพาะอาหารมันตีวนขึ้นมาจุกที่คอหอยจนอยากอาเจียนอีกแล้ว“ไม่ไหวแล้ว ขวัญจะอ้วก”“ไปหาหมอไหม อยู่ๆ ก็อ้วก อาหารเป็นพิษหรือเปล่า”“แต่ขวัญไม่ได้ท้องเสีย”“ขวัญยังให้นมลูกอยู่ ถ้าเป็นอะไรเดี๋ยวลูกจะป่วยไปด้วย เราไปหาหมอกันเถอะ”“แต่ขวัญเป็นห่วงลูก”“ที่รักครับ เรามีพี่เลี้ยงมาช่วยดูแลเด็กๆ แล้วนะ แล้วลูกเราก็ห้าเดือนแล้ว พวกแกเก่งและเข้ากับคนง่ายจะตาย”ที่เขาและเธอต้องหาพี่เลี้ยงเด็ก เพราะในวันหยุด เขาและเธอต้องไปเรียนต่อในระดับปริญญาโทแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ให้แม่ของเขาและแม่บ้านเก่าแก่ของเธอมาช่วยดูแลให้เป็นครั้งคราวในเวลาที่เธอกับเขาไปเรียน“งั้นก็ได้ค่ะ”“ยินดีด้วยนะคะ คุณแม่ตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วค่ะ”ขวัญชนกชะงักไปเพราะกำลังช็อก แต่อีกคนกลับยิ้มกว้างอย่างยินดี“ขอบค
“ขวัญครับ ผมกลับมาแล้ว”ว่าที่คุณพ่อมือใหม่เลิกงานแล้วก็ตรงไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของบางอย่างที่เพื่อนแนะนำ“วันนี้ทำไมกลับสายคะ งานเยอะเหรอ”ว่าที่คุณแม่ที่ท้องใหญ่ด้วยอายุครรภ์ห้าเดือนกำลังนอนอ่านหนังสืออยู่ที่พรมขนสัตว์นุ่มฟูที่ห้องนั่งเล่นเพื่อเตรียมตัวสอบเข้าเรียนในระดับปริญญาโท ไม่รู้ว่าปีนี้จะพร้อมจริงๆ หรือเปล่า แต่เธอก็จะลองดู“เยอะเหมือนเดิมครับ ดีนะที่พ่อเห็นใจผมให้มาเรียนรู้งานบริหารแล้ว พ่อบอกจะได้ไม่เหนื่อยมาก เพราะอีกเดี๋ยวขวัญคลอดลูกมาแล้วเราสองคนจะยิ่งเหนื่อย”เพราะเธอกับเขาซื้อบ้านแยกตัวออกมาสร้างครอบครัวกันเองสองคนสามีภรรยา ด้วยอยากใช้ชีวิตแบบไม่ต้องมีใครวุ่นวายหรือต้องเกรงใจใคร โดยเฉพาะการเลี้ยงลูก ซึ่งพ่อแม่มือใหม่อย่างพวกเธอต้องการอิสระและไร้ความกดดัน“ดีจังเลยค่ะ ขวัญดีใจกับฟืนด้วยนะคะ”“อีกอย่าง ผมแวะห้างไปซื้อไอ้นี่มา”ว่าที่คุณพ่อขี้เห่อที่จะต้องมีของติดไม้ติดมือมาแทบทุกวัน ทั้งสั่งออนไลน์และไปเลือกซื้อหามาด้วยตัวเอง และวันนี้ มีของเล่นใหม่มานำเสนอว่าที่คุณแม่วัยใสอีกแล้ว“อะไรอีกแล้วคะ ของเล่นเหรอ ลูกเราเพิ่งห้าเดือนเองนะคะ อีกนานกว่าจะคลอด”“ไม่ใช่ของเ
“ที่รัก ไม่ต้องกลัว ใจเย็นๆ ตอนนี้เราทั้งคู่เรียนจบแล้ว ผมมีงานทำและขวัญก็มีงานรออยู่ เรากำลังจะเรียนโทต่อเพื่ออนาคตของเรา เรียนโทขวัญท้องได้และมีลูกได้ ไม่ได้เป็นปัญหาเลยครับ อีกอย่างผมอยู่ตรงนี้ ไม่ได้หนีไปไหน ผมพร้อมรับผิดชอบขวัญและลูก เราแต่งงานกันนะที่รัก”อัคราดึงขวัญชนกเข้าสู่อ้อมกอด ทั้งยังลูบหลังเพื่อปลอบใจให้เธอคลายความกังวล ดวงตาสับสนวุ่นวายใจคู่นั้นทำเอาเขารู้สึกสงสาร แต่เขาอยากมีลูกและสร้างครอบครัวกับเธอจริงๆ ถึงได้ตัดสินใจทำแบบนั้นลงไป“ฟืนพร้อมแล้วจริงๆ หรือคะ ถ้าฟืนยังไม่พร้อม..ขวัญจะ..”เธอขยับตัวออกจากอ้อมกอด พูดจาลนลานสับสน มือเย็นเยียบกำแน่นด้วยความกดดัน“อย่าแม้แต่จะคิดนะ เขาเป็นลูกของผม ผมตั้งใจทำให้เขาเกิดมา นอกจากขวัญแล้ว ลูกก็เป็นของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิตของผม อย่าเอาเขาไปจากผมเลยนะที่รัก”ทั้งคำพูด น้ำเสียง และแววตาจริงจัง ติดจะดูเศร้าด้วยซ้ำเมื่อเธอคิดจะทำลายเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา มันทำให้เธอเสียใจและรู้สึกผิดมากที่คิดอะไรเอาแต่ได้ชั่ววูบ จนต้องนึกขอโทษลูกในใจ“ฟืนอยากมีลูกจริงๆ เหรอคะ”“อยากมีสิ คิดว่าผมไม่รู้หรือไงว่าการที่ผมแตกในใส่ขวัญทุกครั้งมันจะไม
บนโต๊ะดินเนอร์ที่ตกแต่งด้วยเชิงเทียนและดอกกุหลาบสีขาวนำเข้าช่อโตส่งกลิ่นหอมฟุ้ง ขวดไวน์แดงแช่อยู่ในถังที่มีน้ำแข็งอัดจนเต็ม สเต๊กเนื้อวากิว A5 จานใหญ่ส่งกลิ่นยั่วยวนชวนน้ำลายสอ แต่น่าแปลกที่วันนี้มันกลับทำให้คนตัวบางรู้สึกพะอืดพะอมจนต้องวิ่งไปโก่งคออาเจียนที่ชักโครกเอาอาหารมื้อก่อนหน้านี้ออกมาจนหมดกระเพาะ“ของขวัญ..เป็นอะไรครับ”อัครารีบวิ่งตามแฟนสาวมาลูบหลังให้ด้วยความตกใจ ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ช่วงที่เธออ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบปลายภาคครั้งสุดท้ายของชีวิตนักศึกษา เธอเคร่งเครียดเกินไปหรือเปล่า จนทำให้เธอกลายเป็นโรคกระเพาะอาหารแบบนี้“ขวัญคลื่นไส้ค่ะ มันเหม็น”“เหม็นอะไรครับ ดอกไม้เหรอ มันมียาฆ่าแมลงหรือเปล่า เดี๋ยวผมเอาไปทิ้งให้นะ”“ไม่ได้เหม็นดอกไม้ค่ะ เหม็นสเต๊ก ขวัญว่ามันบูด”อัคราเลิกคิ้วสูงสเต๊กเนื้อวากิว A5 ของโปรดของเธอ มันส่งกลิ่นหอมยั่วยวนออกปานนั้น จะเสียได้อย่างไร อีกอย่างเขาเลือกมาเปิดห้องพักสุดหรูของโรงแรมชื่อดังและให้ทางโรงแรมจัดโต๊ะดินเนอร์ส่วนตัวให้ในห้อง อาหารจานนั้นราคาเหยียบหมื่น ทางโรงแรมไม่มีทางนำเนื้อวัวเสียมาทำอาหารให้กับลูกค้าระดับนี้แน่ๆ“เนื้อไม่บูดหรอกครับขวั
“ทำศพค่ะ ขวัญจะเป็นเจ้าภาพข้าวต้มคืนแรกให้”“โห ที่รักใจร้ายจัง”เขาก้มหน้าลงมาหาเธอที่เงยหน้าขึ้นมองเขาพอดิบพอดี จึงจูบหน้าผากมนอย่างแผ่วเบาครั้งหนึ่ง“ก็ฟืนเป็นของขวัญ ขวัญหวง”เธออมยิ้มแล้วยกตัวขึ้นจูบปลายคางเขาอย่างออดอ้อน การกระทำที่แสนน่ารักของเธอทำเอาหัวใจแกร่งอุ่นวาบไปทั้งดวง“ผมก็หวงขวัญเหมือนกัน ทั้งรักทั้งหวงเลยรู้ไหม”“รู้สิคะ วันนี้ขอบคุณฟืนมากจริงๆ นะ ที่เอะใจเรื่องนี้จนตามไปช่วยขวัญไว้ได้ทัน ตอนนั้นขวัญกลัวมาก ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าโดนมันปล้ำจริงๆ แล้วขวัญจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง ตอนนั้นขยะแขยงแทบอ้วก”“ขวัญอย่าคิดแบบนี้รู้ไหม ต่อให้ผมตามไปช่วยขวัญไม่ทันแล้วขวัญต้องโดนมันทำอะไรจริงๆ ผมก็ไม่อยากให้ขวัญคิดว่าตัวเองสกปรกไม่มีค่า เพราะขวัญมีค่าสำหรับผมเสมอ และผมไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ผมยังรักขวัญเหมือนเดิมและรับได้ทุกอย่าง”“ขวัญโชคดีจังที่คืนนั้นห้าวไปแย่งเหล้าของฟืนมากิน ไม่อย่างนั้นเราก็คงไม่มีวันนี้”“ฮ่าๆๆ ต่อให้คืนนั้นขวัญไม่โดนมอมยา ยังไงเราก็ต้องได้คบกันแบบนี้อยู่แล้ว”“ทำไมล่ะ คืนนั้นฟืนตั้งใจจะปล้ำขวัญอยู่แล้วหรือ”“เปล่าซะหน่อย ถ้าขวัญไม่ยอม ผมก็ไม่ทำหรอก ขวัญก็รู้
เมื่อทุกอย่างกลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้งอัคราก็พาขวัญชนกกลับคอนโดมิเนียม เกศรินและอัคคีรอคนทั้งคู่อยู่แล้วที่ห้องชุดของฝาแฝด เขาจึงพาเธอมาหาเพื่อนก่อน“ยัยขวัญ เป็นไงบ้าง ฉันเป็นห่วงแกแทบแย่ เจ็บตรงไหนไหม”เกศรินตรงเข้ามากอดแล้วสำรวจร่างกายบอบบางเพื่อหาร่องรอยการถูกทำร้าย เมื่อเห็นมุมปากแตกยับเริ่มมีสีม่วงช้ำก็รู้สึกโกรธเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ไม่ต่างจากอัคคีเลย“นี่มันตบแกเหรอ ไอ้ชลัชมันชั่วจริงๆ”“ใจเย็นเกรซ ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว โชคดีมากที่ฟืนไหวตัวทันโทรหาพ่อ เลยรู้ว่าฉันโดนหลอก ไม่อย่างนั้นฉันต้องตกเป็นเมียของไอ้ชลัชมันแน่ๆ”“ไอ้เลว โดนฟืนยำตีนมันยังน้อยไป แล้วทำไมแกไม่ลากคอมันเข้าคุกไปซะ จะปล่อยให้มันลอยนวลทำไม”“ฉันไม่อยากให้เรื่องมันบานปลาย เกิดถึงหูนักข่าวขึ้นมาก็มีแต่เสียกับเสีย ทั้งบ้านฉันบ้านฟืน ไหนจะคุณตาอีก”“แล้วพ่อแกว่ายังไง”“หย่ากับยัยนั่นแล้ว ตอนนี้พวกนั้นก็กำลังเก็บของออกจากบ้านของฉันอยู่”“ยังดีนะที่คราวนี้พ่อเลือกแก”“ก็หลักฐานมันเห็นคาตาขนาดนั้น ถ้าพ่อยังไม่เชื่อฉันกับฟืนอีกก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ที่จริงถ้ายัยชนิสากับลูกๆ ไม่เป็นคนแบบนี้ ฉันก็คงปล่อยให้อยู่กับพ่อต่อไ