เพื่อนใหม่
“คุณแบล็คคะ พอดีวินซ์เอารถมา เดี๋ยววินซ์กลับคอนโดเลยนะคะ ไม่แวะเข้าบริษัท” วินเซ่เอ่ยบอกกับเจ้านายหลังจากที่ลูกค้าเดินทางกลับไปแล้ว “ไปกับฉัน” “เอ๋ วินซ์เอารถมาค่ะ ขับกลับเองได้” เธอรีบปฏิเสธเมื่อเขาบอกให้กลับกับเขา “ให้ไอ้โทขับกลับ” เขาพูดพร้อมแบมือมาที่เธอเพื่อขอกุญแจรถของเธอ วินเซ่มองหน้าเขาแล้วหยิบกุญแจจากในกระเป๋ายื่นให้เขาแบบไม่เต็มใจ 'คิดว่าเป็นเจ้านายแล้วจะสั่งได้เหรอ ถ้าไม่ติดว่าทำงานวันแรกนะ ไม่ให้หรอกกุญแจน่ะ' เธอบ่นให้เขาในใจ “นินทาฉันในใจ?” เขาถามเมื่อเห็นคนตัวเล็กทำหน้าแปลกๆ “ใคร๊? ไม่มี๊!!” วินเซ่ตอบเสียงสูง นี่เขารู้ได้ไง อ่านใจคนได้เหรอตาคนนี้เนี่ย “เสียงสูงไป” เขาเดินนำไปที่รถ ร่างบางเดินตาม มองดูแผ่นหลังของเขารู้สึกคุ้นตากับแผ่นหลังนี้เหลือเกิน เคยเจอที่ไหนกันนะ “ให้วินซ์ขับให้ไหมคะ” วินเซ่เอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินมาถึงรถสปอร์ตคันดำที่เขาจอดไว้ “ขับให้ฉัน” “ใช่สิคะ ก็คุณเป็นเจ้านาย วินซ์เป็นเลขาก็ต้องเป็นคนขับไม่ใช่เหรอคะ จะให้เจ้านายมาขับรถให้พนักงานนั่งมีที่ไหนกัน” “มีที่นี่แหละ ไปนั่ง ฉันขับเอง” “ทำไมขับเองคะ บอกว่าวินซ์จะขับให้ไงคะ” “ไม่ไว้ใจ” เขาตอบสั้นๆ หน้านิ่งๆ ก่อนขึ้นไปนั่งในรถ ทิ้งให้ร่างบางยืนทำหน้าไม่พอใจอยู่นอกรถ “ขึ้นรถ ไม่กลับหรือไง จะนอนนี่?” ชายหนุ่มลดกระจกลงแล้วสั่งคนตัวเล็กที่ยังยืนนิ่ง วินเซ่รีบวิ่งมาเปิดประตูด้านหลังคนขับ แล้วขึ้นไปนั่ง “มานั่งข้างหน้า ฉันไม่ใช่คนขับรถ นั่งข้างหลังฉันจะรู้ได้ไงว่าคอนโดของเธออยู่ที่ไหน” “อ้าว ไหนบอกจะขับเองไงคะ แล้วตอนนี้มาบอกไม่ใช่คนขับรถ ก็เห็นอยู่ว่าเป็นคนขับรถ” หญิงสาวบ่นออดๆ แอดๆ แต่ก็ลงจากรถมานั่งด้านหน้าข้างๆ คนขับด้วยใบหน้าบูดๆ “ไม่ใช่พนักงานขับรถ แต่วันนี้จะขับรถ เข้าใจหรือยัง” เขาพยายามจะอธิบายให้คนข้างๆ เข้าใจในภาษาไทย ไม่รู้เขาจะต้องเอ็นดูหรือจะต้องปวดหัวเพิ่มดี แบล็คเกอร์ขับรถมาจอดที่คอนโดของเธอ แต่เขากลับลงจากรถพร้อมกับเธอ สร้างความแปลกใจให้เธอไม่น้อย “คุณมาส่งวินซ์ถูกได้ยังไงคะ ตลอดทางมานี้คุณไม่เห็นถามทางไปคอนโดวินซ์สักคำ แล้วอีกอย่างคุณลงมาทำไมคะ” วินเซ่ถามเขาด้วยความสงสัย เขารู้จักคอนโดเธอได้ยังไง และเขาลงจากรถมาทำไม ทำไมเขาไม่กลับบ้านเขา หรือว่า.... “อย่าบอกนะ ว่าคุณจะขึ้นไปบนห้องวินซ์น่ะ ไม่ได้นะ” เธอรีบปฏิเสธในสิ่งที่เธอคิดไปเอง “ประสาท! ฉันจะกลับห้องฉัน!” “ห๊ะ?! ห้องของคุณ ที่ไหน?” เขาไม่ได้ตอบอะไรเธอแต่ใช้นิ้วชี้ ชี้ขึ้นฟ้าพร้อมรอยยิ้มมุมปาก เธอมองการกระทำก็เป็นอันเข้าใจได้ว่าเขาหมายถึง ชั้นบนของคอนโดนี้ “คุณอยู่ที่นี่ อันนี้เข้าใจได้ค่ะ แต่คุณรู้ว่าวินซ์อยู่ที่นี่ด้วย หมายความว่ายังไงคะ?” เธอมองหน้าเขาหน้าตาเอาเรื่องแบบประมาณว่า จะจับผิดอะไรเขาสักอย่าง เขาไม่สนใจเสียงบ่นของคนตัวเล็ก เดินขึ้นห้องไปโดยมีร่างบางวิ่งตาม ลิฟท์มาหยุดที่ชั้น 7 เขาและเธอก้าวเดินออกจากลิฟท์พร้อมกัน “เอ๊ะ นี่อยู่ชั้นเดียวกันด้วยเหรอเนี่ย” เธอพึมพำเบาๆ “ห้องก็ติดกัน” เขาพูดขึ้นมาก่อนจะเดินเข้าห้องปิดประตูไป เพื่อปั่นให้เธอรู้สึกโมโห เพราะเวลาเธอโมโหดูน่ารักดี วินเซ่ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำหน้าบูดๆ แล้วกลับเข้าห้องของตัวเองไป ก็อก ก็อก ก็อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นในขณะที่เจ้าของห้องตัวเล็กเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ แต่งตัวอยู่ในผ้าขนหนู บนหัวมีผ้าโพกไว้บ่งบอกว่าเธอสระผมเสร็จหมาดๆ เธอส่องตาแมวดูว่าเป็นใคร ก่อนที่จะเปิดประตูเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ก็เห็นเป็นเจ้านายหนุ่มของตัวเอง มาหาเขาทำไมตอนนี้ หรือมีงานด่วน เธอกำลังจับลูกบิดประตูเตรียมจะเปิด แต่ยังไม่ทันได้เปิดกลับมีเสียงสวรรค์หรือเสียงนรกไม่รู้จากนอกห้อง “ส่องแล้วก็เปิด ไม่เปิดฉันกลับ” เขาหมุนตัวหันหลัง ประตูก็ถูกเปิดออกมาอย่างแรง “มาหาทำไมคะ” เขาหันกลับมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เมื่อเขาหลอกเด็กน้อยได้สำเร็จ แต่เมื่อหันกลับมาเป็นเขาเองที่เอาแต่ยืนนิ่ง มองไปยังร่างบางที่อยู่ตรงหน้า หญิงสาวในชุดผ้าขนหนูพันกายสีขาว ดูกลมกลืนกับผิวขาวๆ ของเธอ หน้าอกไม่ใหญ่และก็ไม่เล็กจนเกินไปถูกปิดบังด้วยผ้าเช็ดตัวแบบหมิ่นเหม่ เขาอยากเอามือสะกิดให้มันหลุดเสียตรงนี้เลย ใบหน้าหวานใส ไร้เครื่องสำอางค์ในยามนี้กลับไม่ได้ทำให้คนตรงหน้าหมดความงามเลย แต่กลับดูน่ารักสะอาดสะอ้าน สวยแบบธรรมชาติเสียเหลือเกิน “จะมองอีกนานไหมคะ?” เธอถามเมื่อเห็นชายหนุ่มเอาแต่ยืนตะลึงจ้องงันไม่พูดไม่จา เขาไม่ตอบ แต่ยื่นกุญแจรถของเธอให้เธอคืน “ขอบคุณค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวนะคะ “วินเซ่รีบปิดประตูเข้าห้องไป เพราะเธอรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ กับสายตาคมเข้มสีดำนิล เหมือนสายตาของเขากำลังลูบไล้ตามเรือนร่างของเธอทำให้เธอรู้สึกสยิวขนลุกขนพองจนทนต่อสายตานั้นไม่ไหว วินเซ่มองกุญแจที่อยู่ในมืออย่างพิจารณา ก่อนจะตัดสินใจ “คืนนี้ไปเที่ยวดีกว่า คลับที่ไทยจะเหมือนที่ต่างประเทศไหมนะ” วินเซ่รีบแต่งหน้า แต่งตัว เธอลองหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตว่าคลับไหนเป็นที่น่าเที่ยว BK CLUB' สถานที่เที่ยวกลางคืนที่ติดท็อปในรีวิวมากที่สุด แต่ BK คุ้นๆ จัง เคยเห็นตัวอักษรนี้ที่ไหนกันนะ หญิงสาวอ่านข้อมูลที่เธอในอินเทอร์เน็ต “อ้อ นึกออกแล้ว” วินเซ่ยกนิ้วขึ้นมา ถอดแหวนจากนิ้วนางข้างขวาแล้วดูตัวอักษรที่สลักด้านในแหวนของเธอ “นี่ไง อยู่ในนี้ 'BNM BK' ” ร่างบางสวมแหวนเข้าไปยังนิ้วเดิมก่อนคว้ากระเป๋าและกุญแจรถออกจากห้องไป BK CLUB หญิงสาวก้าวเข้ามาในคลับ ทุกสายตาจับจ้องมายังร่างบางที่ตอนนี้ดูเด่นเพราะชุดมินิเดรสรัดรูปสีดำที่ตัดกับผิวขาวๆ เมื่อยามมันต้องแสงไฟ ใบหน้าหวานๆ น่ารักๆ ผมยาว ลอน สีน้ำตาลคาราเมล ทำให้ดึงดูดสายตาผู้คนได้เป็นอย่างดี แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้เข้าไปหาโต๊ะนั่งก็เดินชนกับใครสักคนหนึ่ง จนล้มลง ผลั๊ก!! “โอ้ย ขอโทษค่ะ เป็นอะไรไหมคะ” วินเซ่เอ่ยออกมาในทันทีที่เธอชน “ไม่เป็นไรค่ะ ขอโทษเช่นกันนะคะ พอดีเรามองไม่ดีเอง” หญิงสาวคู่กรณีเอ่ยขึ้นเช่นกัน หญิงสาวคนนี้ตัวเล็กกว่าเธอนิดหน่อย ผมยาวประบ่า สีดำสนิทหรือว่าอยู่ในคลับที่ไฟสลัวทำให้ดำก็ไม่แน่ใจ ผิวขาว หน้าตาน่ารัก ปากนิด จมูกหน่อย รวมๆ แล้วดูจิ้มลิ้มน่าทนุถนอม “เจ็บไหมคะ” วินเซ่เอ่ยถามอีกครั้งเมื่อมองไปเห็นรอยถลอกที่ข้อศอกของคนตรงหน้า “อุ้ย แย่แล้ว ถ้าเฮียเห็นต้องโดนดุแน่ๆ” คนตัวเล็กกว่าบ่นพึมพำ “เพื่อเป็นการขอโทษ ไปนั่งกับฉันหน่อยได้ไหม ฉันมาคนเดียวน่ะ ไม่มีเพื่อน เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง” วินเซ่เอ่ยชวน รู้สึกถูกชะตา อยากเป็นเพื่อนกับคนที่เพิ่งพบเจออย่างบอกไม่ถูก “ได้เลยยย เพราะฉันก็ไม่มีเพื่อนเหมือนกัน นั่งกินอยู่แต่กับเฮียข้างบน เหงามาก” เธอบอกอย่างเจื้อยแจ้ว พูดเก่ง ร่าเริงสดใสเหมือนเป็นฝาแฝดวินเซ่ นี่สินะที่เขาบอกว่า คนเหมือนกันถึงคบกันได้ “แล้วเธอชื่ออะไรเหรอ เราชื่อ ‘แฟร์รี่’ นะ อายุ 25 เธออายุเท่ากันไหมฉันจะได้เรียกถูก” “ฉันชื่อ ‘วินเซ่’ เรียก ‘วินซ์’ เฉยๆ ก็ได้นะ อายุ 25 เท่ากันเลย” วินเซ่เอ่ย แล้วยิ้มสดใสส่งให้เพื่อนใหม่ เดินตามกันไปหาโต๊ะนั่ง ทางด้านแบล็คเกอร์ “นายครับ นายหญิงอยู่กับเพื่อนใหม่ครับ” องศา ลูกน้องคนสนิทรายงานการกระทำของนายหญิงของเขาให้กับมิวนิค หนุ่มไทยเชื้อสายจีน รูปร่างสมาร์ท สูงโปร่ง จมูกโด่ง ตาคม ใส่เชิ้ตสีขาวแหวกอกตามสไตล์ผู้ชายที่มีเสน่ห์ เขาเป็นหนึ่งในมาเฟียที่เป็นเพื่อนสนิทของแบล็อคเกอร์ นั่งอยู่ในห้อง VIP ของ BK CLUB ที่มีแบล็คเกอร์เป็นเจ้าของพิเศษ 3 รักได้ไหม บอกพี่ที เช้ามืดของอีกวัน นัตตี้งัวเงียตื่นขึ้นมา รู้สึกเหมือนมีอะไรกดทับที่บริเวณหน้าท้อง นัตตี้ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น แผงขนตาหนากระพริบถี่เพื่อปรับแสงภายในห้อง เธอก้มลงมองหน้าท้องว่าสิ่งที่กดทับหนักๆนั้นคืออะไร ท่อนแขนแกล่งพาดทับกอดเอวเธอไว้อย่างหลวมๆ นัตตี้หยิบนาฬิกาจากมือถือขึ้นมามอง เป็นเวลา หกโมงเช้า เธอค่อยๆหันไปเขย่าตัวคนที่หลับพริ้มสนิทไม่รู้เรื่องให้ตื่น เพื่อไปทำหน้าที่ของตัวเอง “พี่โท ตื่นได้แล้ว เดี๋ยวนายตื่นจะถามหา” นัตตี้ปลุกคนร่างโตที่นอนหลับพริ้ม “อื้อ ไม่ตื่นหรอก นายน่าจะเพิ่งได้นอนเหมือนเราเนี่ยแหละ” ไม้โทงัวเงียพูด และจะหลับต่ออีกรอบ แต่โดนมือบางฟาดปลุกไปที่ไหล่แกร่งเสียงดัง จนทำให้ชายหนุ่มต้องสะดุ้งตื่นอย่างเต็มตา “ทำไมตื่นเช้า ไม่ง่วงเหรอ” “ไม่ง่วง ตื่นได้แล้ว” นัตตี้บอกก่อนยันตัวลุกขึ้น มองหาเสื้อผ้าเพื่อเอามาสวมใส่แต่กลับโดนท่อนแขนแกร่งคว้าหมับรอบเอวบางให้ล้มลงนอนเหมือนเดิม “นอนต่ออีกหน่อย เจ้านายไม่ว่าอะไรหรอก เจ้านายรู้” ไม้โทบอกนัตตี้ จนเธอใจอ่อนยอมล้มตัวลงนอนอีกรอบ แต่ไม่ได้
พิเศษ 2 กินได้เลย ฉันอนุญาต “อยากกิน แล้วทำไมไม่กินล่ะ” ไม้โทเอ่ยแค่นั้น ก่อนจะจับใบหน้าหวานเกินผู้ชายทั่วไปของนัตตี้ให้แหงนขึ้นมารับริมฝีปากหยักได้รูปที่ทาบทับลงบนริมฝีปากนุ่มมีลิปสติกสีอ่อนทาไว้ นัตตี้เบิกตากว้างเพียงชั่วครู่ให้กับการกระทำของชายหนุ่มที่เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะทำกับเธอ นัตตี้เริ่มหายใจติดขัดไม่ทั่วท้องเมื่อริมฝีปากหยักบดขยี้ริมฝีปากเธออย่างรุนแรง ก่อนจะเริ่มสอดแทรกลิ้นอุ่นที่มีกลิ่นจางๆของบุหรี่เข้ามาผสมผสานกับกลิ่นแอลกอฮอล์ ตวัดควานหาความหวานในโพรงปาก “อื้อออ” “จะกินหรือไม่กิน” ไม้โทถามขึ้นเมื่อถอนริมฝีปาก ปล่อยให้ปากบางได้รับอิสระ “กินได้จริงๆเหรอ” นัตตี้ถามเพื่อความแน่ใจ กลัวทำทำไปแล้วเขาเกิดเปลี่ยนใจไม่ทำ เธอจะค้างคามากกว่านี้ “ไม่กินฉันจะไปนอนข้างนอกแล้ว” ไม้โททำท่าจะเดินออกไป แต่โดนนัตตี้ดึงรั้งขอบกางเกงเอาไว้เสียก่อน “กะ...กิน ค่ะ” นัตตี้พูดค่ะกับเขาเป็นครั้งแรก คำตอบของเธอทำรอยยิ้มผุดขึ้นบนมุมปากหนาทันที ริมฝีปากหยักทาบทับบดขยี้ริมฝีปากบางนั้นอีกครั้ง ก่อนค่อยๆเลื่
พิเศษ 1 อยากจับไหม? อยากกินมากกว่า... นัตตี้ หรือ นาที ลูกน้องคนสนิทของแบล็คเกอร์ นัตตี้เป็นสาวประเภทสองที่แต่งตัวดูดี ไม่ได้แต่งตัวเป็นสาวจ๋าเหมือนสาวประเภทสองทั่วๆไป ที่สวยเหมือนผู้หญิงจนแยกไม่ออก นัตตี้มีรูปร่างสูงโปร่ง ค่อนข้างไปทางบอบบางกว่าชายปกติทั่วไป ผิวขาวใส ทรงผมรากไทรประบ่าไม่แมนเกินไปและไม่ยาวจนออกสาวมากนัก แต่เรื่องการแต่งหน้านัตตี้จัดเต็ม เพราะเธอชอบดูแลตัวเองให้สวยดูดี ดูแพงอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเป็นบอดี้การ์ดให้นายหญิง แม้ว่าจะเป็นการดูแลอยู่ห่างๆก็เถอะ แต่เธอก็ต้องพร้อมอยู่ทุกสถานการณ์ จึงต้องแต่งตัวให้ดูทะมัดทะแมง เสื้อเชิ้ตขาวสวมทับด้วยสูทสีชมพูอ่อน กางเกงรัดรูปสีขาวดูดี นัตตี้เป็นสาวประเภทสองที่ทั้งเก่งศิลปะป้องกันตัวและเก่งด้านไอทีพอสมควร เธอมีหน้าที่ติดตามดูแลวินเซ่อยู่ห่างๆตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจากแบล็คเกอร์ คอยรายงานเรื่องราวของวินเซ่ตอนที่ไม่ได้อยู่กับแบล็ค แต่ดูเหมือนว่าจะดูแลห่างๆได้ไม่นาน บางสถานการณ์ก็ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยจนเธอเองรู้สึกอึดอัด อยากจะแสดงและติดตามอย่างเปิดเผยให้รู้แล้วรู้รอดไป จนแล้วจนรอดเธอก็ตัดสินใจแสดงตัวก
Special Bom Bay 3 ปีต่อมา... เตาะแตะ เตาะแตะ เด็กชายฝาแฝดวัย 3 ขวบ สองคน ในชุดไดโนเสาร์สีเขียวมีฮู้ด เดินเล่นเตาะแตะ อยู่บนถนนแข่งรถ ในสนามแข่งรถของมิวนิค โดยมีสายตาอบอุ่น สองคู่มองดูด้วยความเอ็นดู “ปีนี้ บอม กับ เบย์ ก็ 3 ขวบแล้ว เมื่อไรมึงจะมีเป็นของตัวเอง มาแย่งกูเลี้ยงลูกอยู่เนี่ยแหละ” แบล็คเกอร์เอ่ยขึ้นกับเพื่อนท่ามกลางความเงียบ “อย่ามาหวง กูแค่มาเล่นด้วยเป็นครั้งคราว ทำบ่น” มิวนิคตอบกลับ “ครั้งละหลายวัน บางทีก็เอากลับบ้านด้วย และมาทุกวัน แทบจะย้ายมาอยู่บ้านกูแล้ว” แบล็คตอบอย่างกวนๆ “ก็เมียมึงชวนเมียกู กูไม่ได้อยากมาสักหน่อย” “สาบาน!” แบล็คเกอร์ถามห้วนๆ อย่างไม่จริงจัง เขารู้ดีว่าเพื่อนของเขาน่าจะติดหลานชาย เจ้าก้อนทั้งสองของเขาแน่นอน “ไม่! กูจะตายฟรี” มิวนิคตอบ แล้วเดินออกไปยังรถแข่งคันโปรดที่จอดไม่กลางสนามแข่ง เพื่อเช็คสภาพ เตรียมจะเอาไว้ลงแข่งในค่ำคืนนี้ แบล็คเกอร์ยิ้มๆ แล้วส่ายหัวให้กับความฟอร์มเยอะของเพื่อน ที่ไม่ยอมรับความจริงว่าตัวเองเห่อหลานขนาดไหน เขาเดินตามมิวนิคลงมาเช็ครถ ปล่อยให้ลูกชายทั้งสองเดินเล่นไปเรื่อยๆ “ป๊ะๆ นุงๆ” เสียงอ้อแอ้ร้องเรียกป
แผนการสุดท้ายสำเร็จ... “อื้อออ~” วินเซ่ขยับตัวรู้สึกตื่น เมื่อรับรู้ความหนาวจากเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ วินเซ่พลิกตัวไปเมื่อ แขนเรียวควานหาคนข้างๆ แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า ทันทีที่สติกลับมาเกือบเต็มที่ เปลือกตาบางค่อยๆ ลืมขึ้นปรับแสงจากด้านนอก “ไปไหนของเขานะ หรือไปทำงานแล้ว” วินเซ่ลุกขึ้นจากเตียง เตรียมตัวลงไปด้านล่าง เพื่อหายากินก่อนแล้วค่อยหาอาหารกินจากด้านล่าง วินเซ่เหลือบไปเห็นแก้วน้ำเปล่าและยาคุมฉุกเฉินวางอยู่ หญิงสาวนึกแปลกใจที่เขาเตรียมยาไว้ให้เธอ โดยที่เธอไม่ต้องบอกกล่าว ร่างบางกินยานั้นเรียบร้อยจึงจัดแจงทำธุระส่วนตัวแล้วลงไปด้านล่าง ด้านล่างของคฤหาสถ์ใหญ่ ค่อนข้างเงียบไร้ผู้คน เธอเห็นเพียงแค่แม่บ้านที่กำลังจัดเตรียมอาหารไว้ให้เธอเท่านั้น “เอ่อ...” วินเซ่อยากจะเอ่ยถามแม่บ้าน เมื่อกำลังเดินลงมาจากชั้น “นายหญิง ตื่นแล้วเหรอคะ ป้าเตรียมอาหารให้เสร็จพอดีเลย” ป้าแข ป้าแม่บ้านของตระกูลบูรณิมาเอ่ยหขึ้นกับนายหญิงคนใหม่ของบ้านนี้ “เขาไปไหนกันหมดอ่ะคะป้า” วินเซ่เอ่ยถามป้า เมื่อหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ที่ป้าจัดเตรียมไว้ให้ “คุณหนูแบล็คไปข้างนอกค่ะ สั่งป้าไว้ให้ดูแลนายห
จุดจบ...(ต่อ) หมอภูทำแผลให้แบล็คเกอร์แบบไวที่สุด เพื่อเขาจะได้เข้าพิธีสุดท้ายของการแต่งงานให้เสร็จครบทุกขั้นตอนนั้นก็คือ การส่งตัวบ่าวสาวเข้าเรือนหอ “ลุงหมอครับ” แบล็คเกอร์เอ่ยเรียกหมอที่ทำแผลให้เขา “ว่าไง เจ็บเหรอ” หมอภูถามเขา ในขณะที่ยังก้มหน้าก้มตาทำแผลให้ชายหนุ่มรุ่นหลาน “ไม่เจ็บครับ ผมมีเรื่องอยากให้ช่วย” หมอภูหยุดทำแผล แล้วเงยหน้าขึ้นถามเขา ถึงเรื่องจะให้ช่วย “จะให้ช่วยอะไร” “ลุงหมอพอจะช่วยทำยาให้ผมสักตัวได้ไหมครับ” แบล็คตัดสินใจบอกความต้องการของตัวเองไป “ฉันเป็นหมอ ไม่ใช่คนผลิตยาบ้า” หมอภูพูดด้วยรอยยิ้มมุมปาก แล้วก้มลังไปพันแผลต่อ “ผมรู้ว่าลุงมีโกดังผลิตยา ถึงจะไม่ใช่ยาบ้าหรือยาเสพติด แต่ลุงก็เป็นคนคิดค้นยาได้หลายตัว ผมอยากให้ลุงทำยาตัวหนึ่งให้ผมเท่านั้น” หมอภูละสายตาจากแผลขึ้นมาสบตากับแบล็คแวบหนึ่ง ก่อนก้มลงไปทำแผลต่อ แล้วเอ่ยปากให้เขาบอกสิ่งที่เขาต้องการมา ภายในห้องนอนกว้างขวาง ที่ตกแต่งสีขาวโทนสีชมพูไว้สำหรับทำพิธีเข้าหอ บนเตียงสีขาวมีกลีบกุหลาบที่จัดเป็นรูปหัวใจอยู่กลางเตียง เมื่อพิธีเสร็จสิ้น ภายในห้องทั้งห้องก็เหลือแค่เพียงเธอและเขาเท่านั้น “พี่แบล