“ว่านทำดี เดี๋ยวผมให้เลขาฯ เอาสัญญามาให้ว่านอ่านแล้วกันนะ”
พอจบเซ็กซ์รอบทดลองของทั้งคู่แล้ว เชาว์ก็กลับมาเป็นเชาว์ที่คุยด้วยน้ำเสียงสุภาพ ไม่มีคะขา ไม่มีการแทนตัวเองด้วยคำน่าฟังอย่างป๊ะป๋า ทำเอาว่านปรับตัวตามแทบไม่ทัน
“ผมยัง แฮก... ไม่เริ่มเซ็นสัญญาได้ใช่มั้ย”
“ได้สิ พวกข้อสัญญามันก็ปรับแก้ได้ ว่านลองเอาไปอ่านก่อน”
“ครับ”
“ไม่ต้องพูดเพราะก็ได้” คนหน้าสวยยิ้มให้ ดึงทิชชูมาเช็ดทำความสะอาดคราบของเหลวต่าง ๆ ถอดถุงยางโยนทิ้งถังขยะก่อนจะส่งกล่องทิชชูให้กับร่างกายเปลือยเปล่าแสนเลอะเทอะ
“ก็คุณเชาว์...”
“แก่กว่าเยอะน่ะเหรอ”
คนเด็กกว่าไม่ตอบคำถาม ทำเพียงรับกล่องทิชชูมาเช็ดทำความสะอาดร่างกาย โดยที่เหลือบมองอีกคนเป็นระยะ ทำเอาเชาว์ถึงกับหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู
คราวแรก คนหน้าสวยนึกว่าว่านเป็นเด็กใจกล้า เด็กใจแตกทำนองนั้น เพราะดูต้องการมีเซ็กซ์และไม่กลัวเลยที่เขาเรียกเข้ามาคุย ทว่าเมื่อเริ่มบทเซ็กซ์ อีกคนกลับทำทุกอย่างเชื่องช้า ค่อยเป็นค่อยไป มีความเงอะงะ ความเขินอายอยู่บ้าง แถมร่างกายก็ไร้ร่องรอยการมีสัมพันธ์ทางกาย เชาว์จึงได้ข้อสรุปว่าหนุ่มน้อยคนนี้ไม่ได้ช่ำชองบทรักขนาดนั้น
ทว่าข้อดีของว่านคือไม่ปริปากบ่นที่โดนแกล้งให้ไม่เสร็จสม ไม่ว่าเขาจะแกล้งบีบขย้ำแรง ๆ ดึงยอดอกจนยืดออกมาก็ดูเหมือนจะชอบเสียอย่างนั้น ทั้งยังพร้อมเอาอกเอาใจ สังเกตความรู้สึกของคู่อย่างเขาขณะมีสัมพันธ์กัน ไม่ใช่สักแต่จะขย่มกาย บดเบียดสอดใส่ให้ตัวเองเสร็จสม ทำตัวใกล้เคียงเด็กเลี้ยงไปโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่โดนยื่นแค่ข้อเสนอเท่านั้น
“แล้วเราจะติดต่อกันยังไง” คนโตกว่าหลุดจากภวังค์ความคิด สะบัดหัวละทิ้งความคิดว้าวุ่นแล้วหยิบนามบัตรส่งให้ “นี่... คุณเชาว์เป็นเจ้าของที่นี่เหรอ” บนนามบัตรเขียนไว้ว่า Chaos’ CEO ว่านถึงได้เบิกตาโตเท่าไข่ห่านในตอนที่อ่านมัน
“ฮะ ๆ ทำไม ไม่เหมาะกับผมเหรอ” เจ้าของคลับยกขาขึ้นไขว่ห้าง เอียงใบหน้ามองเด็กหนุ่มที่กำลังสวมเสื้อผ้าด้วยความรวดเร็วสลับมองสมาร์ตวอตช์ตรงข้อมือ
“เปล่า ผมแค่... ตกใจเฉย ๆ” ว่านส่ายหน้าไปมาก่อนจะเก็บนามบัตรนั้นไว้ในกระเป๋าตังค์ “งั้นไว้เจอกันนะครับ”
เป็นหนุ่มเซอร์ที่ตอนนี้ผมยุ่งเหยิงยิ่งกว่าเดิมบอกลาก่อน คนแก่กว่าจึงพยักหน้าแล้วรีบเอ่ยรั้งไว้ก่อนอีกคนจะเดินไปไกลกว่านี้
“เดี๋ยว! ลงไปเอาค่าขนมที่จอมนะ อา... ผมหมายถึงตรงเคาน์เตอร์บาร์ ผู้ชายตัวสูง ๆ หล่อ ๆ ใส่โช้กเกอร์สีดำครับ” เพราะนึกขึ้นได้ว่าเด็กตรงหน้าไม่ใช่เด็กที่เคยเรียกมา จึงต้องขยายความเพิ่ม “บอกเขาว่าเอพลัส”
“เอพลัส?”
“ครับ บอกตามนี้นะ ห้ามบอกผิดเด็ดขาด”
ว่านพยักหน้าส่งท้าย ลุกขึ้นยืนตรงแล้วก็ต้องเบ้ปากเล็กน้อยเพราะความขัดเคืองตรงช่องทางด้านหลัง แต่ตนไม่อยากกลับดึกไปมากกว่านี้เพราะพรุ่งนี้มีนัด จึงได้พยายามเดินให้ปกติที่สุดไปถึงด้านหน้าบาร์ที่ว่า
“เอ่อ คนไหนคือพี่จอมเหรอครับ” บาร์เทนเดอร์คนเดิมที่เคยเสิร์ฟเบียร์ให้คือคนที่ว่านเลือกถาม เพราะกวาดสายตาไปไม่เจอลักษณะของคนที่เชาว์บอกมา
“อ้อ จอมใจใช่มั้ย แป๊บนะ พี่ไปเรียกให้” บาร์เทนเดอร์เดินกลับไปด้านหลังไว ๆ
ประมาณนาทีต่อมา ร่างสูงของชายหนุ่มที่หน้าตาทั้งหล่อและสวยชวนเหลียวหลังกลับไปมองก็ก้าวยาว ๆ เดินมา ใบหน้านั้นนิ่งเรียบ ส่งสายตามองมาที่ว่านแล้วเลิกคิ้วถามแทนคำพูด
“คะ คุณเชาว์บอกว่าเอพลัสครับ” อาจเพราะคนชื่อจอมหรือที่บาร์เทนเดอร์เรียกว่าจอมใจมีสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรนัก ใบหน้านั้นนิ่งเรียบเกินไปจนว่านรู้สึกราวกับโดนดุด้วยสายตา
“เฮ้อ... รอแป๊บ” ร่างสูงชะลูดของจอมถอนหายใจหนักหน่วง หอบสีหน้าเหนื่อยหน่ายใจแล้วเดินไปยังเครื่องคิดเงินตรงมุมในสุดของบาร์ ทำอะไรยุกยิกอยู่ตรงนั้นสักพัก แล้วส่งซองสีน้ำตาลเล็ก ๆ มาให้ว่าน “เอาไป”
“ขอบคุณครับ”
ว่านรับมันมาแล้วกำแน่น เพราะไม่รู้ว่าค่าขนมที่ว่าคือเงินหรืออะไรจำนวนเท่าไหร่ จึงได้รีบเดินตัวลีบเข้าห้องน้ำเพื่อคลายความสงสัยให้ตัวเอง
“เชี่ย...” ว่านถึงกับเอามือลูบหน้า นับแบงก์สีเทาอยู่อีกสองสามรอบเพื่อความแน่ใจว่านี่ไม่ใช่การจ่ายผิดแต่อย่างใด
ไอ้คำว่า ‘เอพลัส’ นั่น ทำเงินให้เขาตั้งหนึ่งหมื่นบาท
หนุ่มผมยาวลอบยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อคิดว่าหากตนได้เข้าไปเป็นเด็กเลี้ยงละก็... จะได้ทั้งหนุ่มโพรุกที่ตามหา แถมเงินยังหล่นทับเป็นฟ่อนอีกโว้ย
บุญของไอ้ว่านเหลือเกิน!
“แฮก... เสียวเหมือนจะตายเลย” คนเด็กกว่าว่าเสียงสั่น ปล่อยขาที่สั่นระริกและอ่อนแรงลงมา หอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดเพราะรู้สึกเหมือนกลั้นหายใจมานานเป็นนาที“ป๊ะป๋าก็เหมือนกันค่ะ จุ๊บ ชอบเซ็กซ์ตอนเช้ากับว่านจัง” คนโตกว่ายกยิ้มกว้าง หอมตรงหลังกกหูแฟนเด็กแล้วค่อย ๆ ถอนกายออกจนของเหลวสีขาวขุ่นข้นคลั่กไหลย้อนออกมาจนเลอะเตียง“แล้วตอนอื่นไม่ชอบเหรอครับ” เด็กหน้าหล่อพลิกตัวมาอย่างรวดเร็วไม่สนอาการขัดเคืองตรงสะโพก ส่งใบหน้ายู่ ๆ ให้แล้วก็งับเข้าไปตรงปลายคางเชาว์“ฮ่า ๆ ชอบค่ะ ชอบหมดทุกตอนที่ทำกับว่านนั่นแหละ” คนโตกว่าดึงเด็กหน้างอเข้ามากอด หอมแก้มสองข้างไปมาแล้วก็พรมจูบไปทุกอวัยวะบนใบหน้าด้วยความเอ็นดู “อะไรที่เป็นว่านที่ป๊ะป๋าเคยเจอมาก็ชอบทั้งหมดนั่นแหละ ไม่ใช่แค่เซ็กซ์หรอก ไม่รู้หรือไงคะ”น้ำเสียงที่อ่อนโยนกว่าปกติพูดขึ้น เชาว์โน้มตัวลงเล็กน้อยแล้วใช้จมูกเขี่ยจมูกแสนโด่งของว่านไปมาพร้อม ทั้งยังเผยรอยยิ้มที่ชวนให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจ“จีบเหรอ” เด็กหนุ่มถามเสียงค่อย ก่อนจะมุดเข้าไปจมอกคนโตกว่าเพื่อซ่อนใบหน้าแดงก่ำ“ถ้าว่านมองว่าป๊ะป๋าจีบก็คงจีบนั่นแหละ แต่ถ้าถามป๊ะป๋า... นั่นคือสิ่งที่ป๊ะป๋ารู้สึกแล้ว
เช้านี้เชาว์ตื่นมาด้วยความรู้สึกแปลกใหม่เล็กน้อย เพราะเมื่อคืนเป็นครั้งแรกที่ทั้งเขาและว่านไม่ได้มีเซ็กซ์กันก่อนนอน แต่มันไม่ได้แย่เลย กลับกันแล้วเชาว์รู้สึกถึงความรู้สึกอบอุ่นใจและสบายใจเสียด้วยซ้ำเราพูดคุยกันด้วยเรื่องทั่วไป อย่างการทำงาน อาหาร การเดินทางและสัพเพเหระเกินกว่าจะจัดหมวดหมู่ได้ทั้งหมด คุยกันด้วยน้ำเสียงเฉกเช่นคนง่วงและอ่อนเพลีย จนผล็อยหลับกันไปทั้งคู่ ตอกย้ำว่าระหว่างเรามีบางอย่างเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ทั้งในด้านของความรู้สึกและการปฏิบัติตัวต่อกันลูกแก้วสีมรกตมองไปยังด้านหลังของแฟนเด็กร่างสูงที่นับวันจะกล้ามโตขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็อมยิ้ม พลางนึกย้อนกลับไปว่าเพียงเพราะคำพูดของเขาที่บอกว่าชอบกล้ามของว่าน เจ้าตัวเลยตั้งใจออกกำลังกายปั้นหุ่นมาเอาอกเอาใจกัน ถ้าเขาเอะใจสักนิดคงจะรู้ว่าว่านน่ะรู้สึกลึกซึ้งมาสักพักแล้ว แต่ถ้าว่านสารภาพความรู้สึกในใจเร็วกว่านี้ เชาว์คิดว่าตัวเองคงปฏิเสธ หากไม่ได้ใช้เวลาอยู่กันบ่อย ๆ และห่างกันนานนับเดือนในคราวนั้น เขาก็ไม่มีวันรู้เลยว่าตัวเองรู้สึกอะไรไปบ้างแล้วเหมือนกันเชาว์ส่ายหน้าไปมาสะบัดทิ้งความคิดภายในหัว ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้คนรักมากขึ้น ใช้จ
“กลับมาแล้วคร้าบ” เสียงยานคางเอ่ยขึ้นเมื่อก้าวผ่านประตูของเพนต์เฮาส์มาตรงโซนรับแขกแล้วเจอกับป๊ะป๋าในชุดคลุมผ้าซาตินสีแดงเบอร์กันดี้ที่ชอบใส่ทับชุดนอน“ไงคะ ติดงานหรือติดสังสรรค์กันล่ะ” ดวงตาคู่สวยละออกจากหน้าจอแล็ปท็อปที่กำลังอ่านอีเมลงาน ส่งมือไปด้านหน้าเป็นการเรียกเด็กตัวสูงให้เดินเข้ามาหาและจับมือกัน“สังสรรค์ครับ เพื่อนบอกว่าไม่เจอนานแล้ว พอส่งงานลูกค้าเสร็จก็ไปกินข้าวกินเบียร์กันนิดหน่อย” เด็กหนุ่มโยนกระเป๋าไว้ตรงโซฟาตัวเดี่ยวแล้วพุ่งเข้าไปกอดคนรักทั้งยังฝังหน้าไว้ตรงหน้าอกแบนราบอย่างคนหมดแรง “เหนื่อยมากเลยป๊ะป๋า”“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องทำงานก็ได้ ตัวแค่สิบเซ็นต์ ป๊ะป๋าเลี้ยงได้” เชาว์โดนมือขวาอย่างจอมใจพูดใส่หน้ามาในวันที่ไปคลับพร้อมกับว่านว่าเขาน่ะตามใจแฟนเกินไปแล้ว เพราะทันทีที่ว่านพูดเล่น ๆ ว่าอยากให้มีเครื่องดื่มใหม่มาบ้าง เขาสั่งให้จอมใจสรรหามาเลยทันที กะอีแค่แฟนบ่นว่าทำงานแล้วเหนื่อย เขาสามารถให้แฟนเลิกทำงานได้เลย ถึงเชาว์จะไม่ได้เข้าขั้นมหาเศรษฐีแต่การเงินก็ไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับเขา“ไม่ได้อยากเลิกทำงานซะหน่อยนี่ครับ แค่อยากให้คุณแฟนโอ๋”“ฮะ ๆ โอเคค่ะ งั้นมาให้คุณแฟนโอ๋นะ”สอ
“อยากย้ายไปอยู่ที่บ้านของป๊ะป๋ามั้ยคะ”เคร้ง!คำถามบนโต๊ะอาหารจากเชาว์ ทำให้ว่านมือไม้อ่อนจนช้อนหล่นกระทบจาน เด็กหนุ่มอ้าปากค้างซ้ำยังเบิกตาโตจนเชาว์หลุดหัวเราะท่าทางนั้นหลังกลับมาจากพัทยา เชาว์มีประชุมด่วนที่บริษัทขนส่งทางเรือซึ่งเจ้าตัวเพิ่งสืบทอดจากพ่อบุญธรรม พอส่งว่านที่คอนโดฯ เสร็จก็แยกย้ายไปแล้วเจอกันอีกทีตอนค่ำ หลังจากนั้นหากวันไหนไม่ได้เลิกงานดึกเกินไป ป๊ะป๋าคนสวยของว่านก็จะเข้ามาหาและค้างคืนที่คอนโดฯ นี้เสมอ ส่วนว่านยังคงทำหน้าที่เหมือนเด็กเลี้ยง มอบเซ็กซ์เร่าร้อนหรือไม่ก็ปรนเปรอให้เชาว์ได้สบายตัวอย่างไม่อิดออด จนมาถึงวันนี้ก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้ว และเหมือนว่าเชาว์จะกำลังคิดอะไรบางอย่างถึงได้ชวนย้ายที่อยู่แบบนี้“บ้าน... แบบที่หมายถึงว่าเป็นบ้านของป๊ะป๋าหรือบ้านหลังใหม่เหรอครับ”“หมายถึงเพนต์เฮาส์ที่ป๊ะป๋าอยู่ค่ะ ที่นั่นกว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะกว่าแล้วก็มีทั้งแม่บ้าน คนขับรถสแตนด์บายตลอด ป๊ะป๋าไม่อยากให้ว่านเหนื่อยทำอะไรเอง อยากให้ใช้เวลาไปกับการพักผ่อนมากกว่า” เสียงทุ้มหวานอธิบายพลางใช้ส้อมจิ้มอาหารเข้าปาก “อีกอย่างแถวนี้รถติดมากขึ้นทุกวันค่ะ”“อ้อ นั่นสิครับ” เด็ก
“รู้สึกดีมากเลยครับ” เสียงของว่านยานคางปะปนอาการหอบ ใบหน้าหล่อที่นอนทับแขนคนรักเงยขึ้นมองจากมุมที่ต่ำกว่า วางคางไว้กับอกแบนราบที่ขยับขึ้นลงตามอัตราการหายใจ “ได้เรียกป๊ะป๋าว่าแฟนแล้วดีสุด ๆ เหมือนฝันเลย”นัยน์ตาสีมรกตหลุบลงมองใบหน้าที่โดนเส้นผมสีดำเปียกชื้นเป็นช่อ ๆ แนบไปทั่ว นิ้วเรียวปัดเกลี่ยมันออกไปให้พ้นกรอบหน้าแล้วจ้องดวงตาสีเหมือนอัญมณีพร้อมยกยิ้ม “ได้เรียกว่านว่าแฟนก็ดีเหมือนกันค่ะ”เด็กหนุ่มหน้าแดงซ่านเมื่อได้ยินแบบนั้น ว่านมุดใบหน้าเข้าหาหน้าอกขาวผ่อง โอบรอบเอวคอดไว้แน่นอย่างขวยเขินเล็กน้อยและทำอะไรไม่ถูก“อะไรคะเนี่ย แล้วว่านก็มาเขินป๊ะป๋าเหรอ”“ทีตอนว่านเรียกป๊ะป๋าว่าคุณแฟน ป๊ะป๋าก็เขินเหอะ” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาเถียง ยู่หน้าใส่จนเชาว์ต้องหยิกแก้มจนยืดเพราะทนมันเขี้ยวท่าทางเหล่านั้นไม่ไหว “เอ็บ (เจ็บ) ”“ช่างแซว”“ก็เขินนี่”“ยอมรับแล้วเหรอว่าเขิน” ว่านเม้มปากแน่น มองยิ้มกรุ้มกริ่มจากคนหน้าสวยแล้วก็นึกล้มเลิกการเบือนหน้าหนีเพราะคิดว่าทำไปแล้วเสียเปล่า ก่อนจะพยักหน้าให้แทน “เป็นคนหล่อที่น่ารักจริง ๆ”“ป๊ะป๋าก็เป็นคนสวยที่เท่ที่สุดของว่าน”“ปากหวาน”“มีทิปมั้ยครับ ถ้ามีทิปจะช
“อะ!” คนรักหน้าสวยของว่านจับตัวเขาพลิกไปนอนคว่ำอย่างง่ายดาย ก่อนจะดึงสะโพกของเขาให้ลอยเด่นขึ้นโดยที่กายท่อนบนแนบไปกับผืนเตียงทั้งที่เชาว์เป็นคนตัวผอม เตี้ยกว่าเขา ร่างกายไม่ได้มีกล้ามเนื้อแน่นปึ้ก แต่พอเป็นเรื่องบนเตียงทีไร รู้สึกว่าพละกำลังเยอะแยะนั่นไม่เหมาะกับตัวบาง ๆ แบบป๊ะป๋าสักนิด“อ๊า!” ระหว่างที่ว่านกำลังครุ่นคิดถึงเรี่ยวแรงของคนรัก สัมผัสชื้นที่สากและนุ่มจู่โจมตรงรูจีบด้านหลังอย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าว่านทั้งเสียวทั้งตกใจ เพราะเชาว์ไม่เคยใช้ลิ้นกับตรงนั้นของเขามาก่อน“อืม... นุ่มจังค่ะ”“ป๊ะป๋า... มัน อะ!”“ไม่ชอบให้ป๊ะป๋าเลียเหรอคะ”“ฮึก เปล่า มัน อ๊า! มันเสียว”ใบหน้าหล่อมุดเข้ากับผืนเตียง สองมือจิกขยำผ้าปูที่นอนจนขยุกอยู่ในกำมือ ปากอ้าค้างครางเสียงดัง สะโพกก็ส่ายร่อนเข้าหาปลายลิ้นที่ชอนไชเข้ามาในรูสลับกับดูดเลียอย่างตะกรุมตะกรามเสียงลามกลั่นก้องห้องนอน เชาว์ทั้งดูด เลีย แหย่ลิ้นเข้ารูเร้าอารมณ์ความรู้สึกดีให้กับแฟนเด็ก มือบีบนวดสะโพกหนั่นแน่นที่เขาโปรดปราน และเมื่อเห็นปฏิกิริยาการบิดเร่าไปทั้งกายของว่านแบบนี้ก็กลายเป็นสิ่งโปรดปรานอีกหนึ่งอย่างเสียแล้ว เพราะว่านทั้งครางร