Se connecter@มหาวิทยาลัย
"จะกินอะไร?"
"เอากุ้งทอดกระเทียมก็ได้"
"แล้วน้ำล่ะ"
"บลูเบอรี่โยเกิร์ต~"
"เมื่อวานบ่นว่าอยากกินสมูทตี้มะม่วง?"
"ก็ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว"
เสียงพูดคุยของลูกพีชและภาคินดังขึ้นยังบริเวณโรงอาหารของมหาวิทยาลัยโดยมีดวงตากลมโตซึ่งคอยจ้องมองการกระทำเหล่านั้นอยู่ด้วยความรู้สึกบางอย่าง มัดหวายสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางจ้องมองไปยังจี้สร้อยคอของลูกพีชไปด้วยซึ่งปรากฏเป็นอักษรภาษาอังกฤษชื่อของภาคินอย่างชัดเจนราวกับต้องการแสดงความเป็นเจ้าของกับหญิงสาว ทำให้อยู่ๆ คำพูดของพิชญ์ก็วนกลับเข้ามาในความคิดอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นยังไงเช่นเดียวกันที่เธอเองก็รู้ได้เช่นกันว่าภาคินรักลูกพีชมากแค่ไหนเพียงแต่บางทีความรักของเขามันก็ค่อนข้างที่จะสร้างความอึดอัดใจให้กับคนที่ได้รับไม่น้อย หญิงสาวลอบพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ อย่างคิดไม่ตกจนลูกพีชที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเริ่มรู้สึกได้ถึงสิ่งที่แปลกไปจึงเอ่ยถามเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วง
"เป็นอะไรหรือเปล่าหวาย?"
"ปะ..เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไร" น้ำเสียงที่เป็นห่วงของอีกคนฉุดรั้งสติของมัดหวายให้กลับมาอีกครั้ง เธอพยายามทำตัวให้เป็นปกติเพื่อไม่ให้ถูกจับได้ทว่าก็ยังไม่สามารถทำให้ลูกพีชคลายกังวลได้
"แน่ใจนะ แต่สีหน้าเธอดูเหมือนจะไม่ค่อยโอเคเลย"
"ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ ว่าแต่..." มัดหวายเม้มริมฝีปากอย่างชั่งใจพลางเหลือบมองจี้ภาษาอังกฤษที่เป็นชื่อของภาคินบนลำคอระหงเล็กน้อย แล้วตัดสินใจถามลูกพีชออกไปอย่างไม่ค่อยเต็มเสียงนัก
"...ช่วงนี้เธอกับคินเป็นยังไงบ้างเหรอ"
คำถามของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทำให้ใบหน้าเรียวใสชะงักไปเล็กน้อยจนเกิดความเงียบระหว่างทั้งคู่นานนับนาที แต่ลูกพีชก็เลือกที่จะตอบกลับไปตามความจริงเพราะเธอไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังเพื่อนสนิทอย่างมัดหวายอยู่แล้ว
"แล้วพี่พิชญ์รู้เรื่องนี้ไหม" มัดหวายยังคงถามต่อโดยเอ่ยถึงบุคคลที่สามไปด้วย นับว่าโชคดีที่ลูกพีชยังคงให้ความสนใจกับคำถามก่อนหน้า หญิงสาวจึงไม่ทันสังเกตเห็นความกังวลในสายตาของเธอ
มัดหวายเงียบไปอย่างใช้ความคิดหลังจากได้ฟังจากปากของเพื่อนสาวถึงความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงระหว่างคนทั้งสามคนที่เธอเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะมีทางที่มันจะจบลงด้วยดีได้ไหม ตอนนี้เธอพอจะเข้าใจความรู้สึกของพิชญ์แล้วว่าทุกอย่างมันยากเกินกว่าจะจัดการได้หากเขายังคงเป็นห่วงเกี่ยวกับความรู้สึกของลูกพีชอยู่
"แล้วเธอ..เคยคิดจะเลิกกันบ้างไหม"
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน..."
"เธอรู้ใช่ไหมว่าคินเป็นรักแรกของฉัน..มันยากมากนะที่จะตัดใจได้แต่ตอนนี้ฉันเองก็เหนื่อยกับการที่ต้องมานั่งทะเลาะกับคินแล้วเหมือนกัน"
"ความจริงฉันก็หวังตลอดนะว่าเวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นแต่แค่มีความสุขด้วยกันแบบคู่รักคนอื่นๆ ทำไมมันยากแบบนี้ก็ไม่รู้" น้ำเสียงของลูกพีชสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัดในประโยคสุดท้าย และยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าเธอได้ตัดสินใจผิดจริงๆ ที่เป็นคนช่วยให้ภาคินจีบลูกพีชจนทั้งคู่ตกลงคบหากัน ยิ่งเห็นลูกพีชไม่มีความสุขเธอก็ยิ่งรู้สึกผิดไปด้วยที่เป็นต้นเหตุของทั้งหมด มัดหวายเลื่อนมือไปกุมที่มือของลูกพีชไว้หลวมๆ ก่อนจะเอ่ยคำขอโทษออกมาด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
"ขอโทษนะ"
"หวายพูดเรื่องอะไร?"
"คุยอะไรกันอยู่" เสียงเข้มดังขัดจังหวะก่อนที่ริมฝีปากอวบอิ่มจะได้ตอบอะไรลูกพีชกลับไป และเป็นมัดหวายที่เป็นฝ่ายเบือนหน้าหลบสายตาทุกคนไปก่อนในตอนที่ภาคินเดินถือจานข้าวเข้ามาพร้อมกับนั่งลงด้านข้างลูกพีช ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่งตามประสาคนรักทั่วไปก่อนภาคินจะหันมาให้ความสนใจกับเพื่อนสนิทตรงหน้าในตอนที่รับรู้ถึงความผิดปกติได้เช่นเดียวกัน
"แล้วเธอไม่กินข้าวหรือไง?"
"ฉันบอกแล้วไงว่ายังไม่หิว แต่แกก็ลากมา"
"มีเรื่องอะไร"
"ฉันแค่ไม่หิวแล้วอยากกลับห้อง ทำไมต้องมีเรื่องอะไรด้วย" มัดหวายแสร้งทำเสียงดุกลบเกลื่อนเพื่อไม่ให้ถูกจับได้ จากนั้นจึงหยิบกระเป๋าแบรนด์เนมใบหรูขึ้นมาสะพายข้างไว้พร้อมเตรียมจะลุกออกมาจากตรงนั้น
"ฉันกลับก่อนนะ วันนี้อยากนอนพักอะ"
"เธอโอเคใช่ไหม"
"ฉันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ"
"งั้นเอาเค้กของฉันไปกินไหม คินซื้อมาให้ตั้งหลายชิ้น"
"ก่อนจะให้ฉัน เธอดูหน้าคนนั่งข้างเธอก่อนเถอะ" หญิงสาวส่ายหน้าน้อยๆ เมื่อเห็นสายตาของภาคินที่มองมาก่อนจะดันตัวลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะไป โดยไม่ลืมที่จะโบกมือลาทั้งคู่ไปด้วย
"ฉันจะทำยังไงดี..." มัดหวายนั่งพึมพำกับตัวเองอย่างคิดไม่ตกอยู่พักใหญ่ภายในรถที่ถึงแม้เธอจะเข้ามาในรถนานแล้วแต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าหญิงสาวจะขับออกไป ยิ่งได้เห็นสายตาและน้ำเสียงของลูกพีชก็ยิ่งเหมือนเป็นการตอกย้ำคำพูดของพิชญ์ว่าตั้งแต่ที่หญิงสาวรู้จักกับภาคินเธอก็ไม่เคยมีความสุขแบบเมื่อก่อนเลยและทุกอย่างก็เป็นเพราะเธอที่แนะนำภาคินให้ลูกพีชได้รู้จักรวมถึงพยายามที่จะให้ลูกพีชตกหลุมรักเพื่อนสนิทของตนเอง ถึงเธอจะรู้จักกับภาคินมานานแต่ถึงอย่างไรมันก็รู้สึกอดที่จะเป็นห่วงลูกพีชไม่ได้เพราะหญิงสาวเองก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่เธอรักมากคนหนึ่งเหมือนกัน ยิ่งได้รู้ว่าลูกพีชต้องไม่มีความสุขเพราะการกระทำของตัวเองเธอก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก
"ฉันไม่เคยอยากให้เธอไม่มีความสุขเลยนะพีช..."
"แล้วฉันจะไปคุยกับไอ้คินยังไงดีเนี่ย" มัดหวายฟุบหน้าลงไปกับพวงมาลัยรถยนต์แล้วบ่นโอดออกมาอีกครั้ง คงจะมีแค่ทางเดียวที่จะช่วยให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นได้โดยลูกพีชและภาคินไม่ต้องเลิกรากันคือการพยายามไปพูดคุยและโน้มน้าวกับเพื่อนสนิทในการที่จะให้อิสระกับแฟนสาวมากกว่านี้รวมถึงการพยายามแก้นิสัยหึงหวงที่มากเกินไปของเขา เพราะเธอก็เห็นอยู่ตลอดว่าภาคินมีนิสัยยังไงแต่ก็ไม่คิดว่านิสัยเหล่านั้นจะทำให้ลูกพีชไม่มีความสุขขนาดนี้
"ฉันต้องพยายามทำให้พี่พิชญ์ยอมรับมันให้ได้ แล้วพีชก็จะได้มีความสุขจริงๆ สักที" หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยให้กำลังใจตัวเองด้วยแววตาที่มุ่งมั่นเป็นอย่างมาก คงจะมีแค่เธอที่พอจะเตือนสติของภาคินได้จากระยะเวลาที่เป็นเพื่อนกันมานาน ถึงสิ่งที่พิชญ์พูดจะถูกในบางส่วนแต่สิ่งที่เธอมั่นใจเป็นอย่างมากก็คือความรักของทั้งคู่ ภาคินจะไม่มีทางขอลูกพีชเป็นแฟนเลยหากเขาไม่ได้รักหญิงสาวจริงๆ ดังนั้นเธอยังเชื่อว่าหากมีคนไปเตือนสติสักหน่อยยังไงภาคินก็ต้องยอมปรับปรุงตัวเพื่อความสุขของอีกคน
"สวยจัง..." ร่างบางในชุดเดรสสีชมพูอ่อนหลุดปากออกมาตอนได้เห็นวิวของเมืองหลวงและบรรยากาศบนชั้นดาดฟ้าที่ถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงามพร้อมกับโต๊ะดินเนอร์สุดหรูที่เด่นอยู่ตรงกลาง ทำให้เธอนึกถึงตอนได้มาเดตกับพิชญ์ครั้งแรกเมื่อสามปีก่อนที่บรรยากาศทุกอย่างก็ดูอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรักแบบนี้ราวกับทุกอย่างไม่ได้หายไปตามกาลเวลาที่ยาวนานของทั้งคู่"เชิญครับ" พิชญ์ยื่นมือมาตรงหน้าแล้วพาคนตัวเล็กให้เดินไปยังโต๊ะอาหารซึ่งถูกจัดเตรียมเอาไว้ด้วยกันก่อนชายหนุ่มจะเป็นฝ่ายเลื่อนเก้าอี้ให้แล้วรวบผมยาวสลวยให้เธออย่างอ่อนโยน"ขอบคุณนะคะ""หวายนึกถึงวันแรกที่เรามาเดตกันเลย แต่ไม่คิดว่าแด๊ดดี๊จะจำได้""พี่จำได้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรา" ไม่ว่าจะวันที่เจอกันวันแรก วันครบรอบที่เขาขอเธอเป็นแฟน หรือวันที่แต่งงานกันพิชญ์ล้วนจดจำมันได้ทั้งหมดถึงแม้ตลอดระเวลาที่ผ่านมาจะมีเรื่องราวมากมายผ่านเข้ามาแต่เขากลับไม่ลืมความทรงจำที่ได้ใช้ร่วมกับหญิงสาวเลยแม้แต่วินาทีเดียว"ตอนแรกหวายเห็นแด๊ดดี๊เฉยๆ ก็คิดว่าจะลืมแล้ว...""แล้วทำไมไม่เตือนพี่ล่ะ""ก็เพราะหวายไม่อยากเป็นคนงี่เง่าไงคะ แด๊ดดี๊ทำงานเหนื่อยแล้วต้องเลี้ยงลูกอีก ถ้าจะลืมเร
"เอาลูกของเธอมาให้ฉันก่อนสิ แล้วฉันจะยอมกลับ""พอเลยพอกันทั้งคู่เลยแกกับพีชเนี่ย ฉันไม่ใช่แม่แมวที่จะคลอดลูกออกมาให้พวกแกเลี้ยงเล่นนะ""อ้าว ทำไมต้องเอาฉันไปเกี่ยวข้องด้วยล่ะ ฉันแค่เลี้ยงหลานของฉันเองนะ""อีกหน่อยฉันจะติดป้ายไม่ให้พวกเธอสองคนเข้าบ้าน"เสียงพูดคุยที่ดังขึ้นบริเวณห้องโถงของบ้านทำให้ร่างสูงที่เพิ่งกลับจากการทำงานต้องชะงักฝีเท้าก่อนจะเห็นว่าภรรยาของตัวเองกำลังนั่งพูดคุยกับเพื่อนสนิททั้งสองของเธออยู่พร้อมกับลูกน้อยที่นอนหลับอยู่ภายในเปล มุมปากหนาเผลอยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพความอบอุ่นตรงหน้าก่อนเขาจะเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว"เหนื่อยไหมคะ?" และแน่นอนว่ามัดหวายเองหันมาถามเขาด้วยความเป็นห่วงอย่างเช่นทุกครั้ง มือเรียวลูบตามกรอบใบหน้าหล่อแล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากหยักเบาๆ แบบที่ชอบทำโดยมีเสียงลอบถอนหายใจของสองหนุ่มสาวที่ดังออกมาอย่างเอือมระอา"นี่! ทีพวกเธอหวานกันต่อหน้าฉันยังไม่ทำขนาดนี้เลยนะ" มัดหวายหันไปแหวใส่เพื่อนรักทั้งสองคนที่นั่งอยู่ในขณะที่พิชญ์ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ กับภาพเหตุการณ์ที่เขาเห็นบ่อยจนเคยชิน"ทะเลาะกันเหมือนเด็ก""ก็พวกนั้นแกล้งหวายก่อน""แ
"มะ..." เสียงของเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบที่กำลังนั่งเล่นของเล่นอยู่เอ่ยเรียกคนเป็นแม่ราวกับต้องการอะไรบางอย่างก่อนมัดหวายจะหันมาพูดกับลูกชายคนเล็กของเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเมื่อรู้ว่าเวสตินต้องการอะไร"หนูอยากกินนมเหรอคะ เดี๋ยวรอให้พี่วินกินอิ่มก่อนได้ไหมแล้วตินค่อยกินนะ""ยม..." แต่ดูเหมือนเด็กน้อยจะไม่ค่อยเข้าใจที่คนเป็นแม่บอกเท่าไรนัก เขาจัดการคลานเข้ามาหาแม่และพี่ชายของตัวเองที่นั่งอยู่ไม่ไกล"ติน! ดะ..แด๊ดดี๊ ลูก..." ทว่าการกระทำต่อมาก็ทำให้คนเป็นแม่ต้องเอ่ยเรียกสามีเสียงสั่นเมื่อลูกน้อยพยายามที่จะดันร่างเล็กของตัวเองขึ้นก่อนเท้าเล็กจะทำการก้าวไปข้างหน้า แม้จะเป็นเพียงก้าวสั้นๆ ก่อนเวสตินจะล้มลงไปแต่กลับสร้างความตื้นตันให้กับคนเป็นแม่ไม่น้อยกับก้าวแรกของลูก"แด๊ดดี๊ ลูกเดินได้แล้วค่ะ เมื่อกี้แด๊ดดี๊เห็นไหม" มัดหวายหันไปถามสามีที่กำลังยืนอยู่นิ่งซึ่งพิชญ์เองพยักหน้ารับแล้วคลี่ยิ้มออกมาไม่ต่างกัน"เก่งมากเลยลูก หนูเก่งมากๆ เลยนะ" พิชญ์ที่เพิ่งได้สติก็วางจานขนมในมือลงแล้วเดินไปอุ้มลูกชายขึ้นมาแนบกับแผงอกแกร่งแล้วพาเข้าไปหามัดหวายเนื่องจากในตอนนี้เธอกำลังให้นมกับมาร์วินอยู่เลยทำให้ไม่สามาร
@สามปีต่อมา"นอนนะครับ คืนนี้อยู่กับอาพีชก่อนนะ" พิชญ์เอ่ยกับลูกน้อยที่กำลังนอนอยู่ในเปลภายในห้องนอนลูกพีชเสียงอ่อนโยน พวงแก้มป่องสีแดงระเรื่อที่คล้ายกับมัดหวายเวลาร้องไห้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเลื่อนมือไปลูบเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยวแทนการอุ้มลูกชายมาหอมโดยตรงเนื่องจากตอนนี้ทั้งคู่ได้กินนมอิ่มหลับไปแล้ว"พี่พิชญ์ไม่ต้องห่วงนะ คืนนี้พีชจะดูแลเจ้าตัวแสบเอง รับรองว่าจะไม่เข้าไปขัดแผนการของพวกเราอย่างแน่นอน" ลูกพีชเอ่ยบอกกับพี่ชายของตัวเองอย่างมั่นใจในขณะที่กำลังถือขวดนมและของเล่นไปด้วย ซึ่งในตอนนี้บ้านของเธอก็ได้มีสมาชิกใหม่เพิ่มมาสองคนภายในระยะเวลาสองปีกว่า ซึ่งก็คือ'มาร์วิน'ที่เป็นพี่ชายคนโต และ'เวสติน'ที่ในตอนนี้ยังคงเป็นน้องคนเล็กอยู่ แต่สถานะนั้นก็คงจะอยู่ได้ไม่นานเมื่อเธอกับพิชญ์ได้วางแผนการที่จะหาน้องคนเล็กอีกคนมาแทนที่ในตำแหน่งลูกคนเล็กเพิ่ม เนื่องจากพิชญ์อยากได้ลูกสาวแต่ไม่ว่าจะพยายามขอมัดหวายอย่างไรเธอก็ยังคงไม่ยอมใจอ่อนสักที ทำให้เขาต้องทำการล่อลวงคนตัวเล็กให้มาติดกับดักในคืนนี้ให้ได้"ฝากด้วยนะพีช""ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะพีชเลี้ยงเจ้าตัวแสบมาแทบจะมากกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงต่อวันอีก พี
"มัดหวายอย่าวิ่ง!" เสียงของชายหนุ่มที่ดังขึ้นด้านหลังทำให้เจ้าสาวคนสวยต้องหันหน้ากลับไปมอง เธอสบตากับสามีของตัวเองด้วยรอยยิ้มเจื่อนตอนเห็นพิชญ์มองมาอย่างคาดโทษ ซึ่งในตอนนี้เขากำลังทำหน้าที่ถือชายกระโปรงให้กับชุดเจ้าสาวตัวยาวของเธออยู่"พี่พิชญ์จะดุพี่สะใภ้ของพีชทำไมเนี่ย เดี๋ยวหลานก็เครียดหรอก" ลูกพีชเดินเข้ามาดุพี่ชายของตัวเองเมื่อเห็นสายตาขอความช่วยเหลือของมัดหวายทำเอาชายหนุ่มลอบพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ตอนเห็นหญิงสาวทั้งสองคนเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ก่อนเขาจะเป็นฝ่ายปลีกตัวออกไปเพื่อหาของกินมาให้ภรรยาสาวซึ่งวันนี้ได้ทำพิธีแต่งงานเกือบทั้งวัน"พีชอยู่เป็นเพื่อนหวายก่อน เดี๋ยวพี่จะไปเอาน้ำกับของกินมาให้" "รับทราบค่ะ""หวายเป็นยังไงบ้างลูก" วิรดาเดินเข้ามาถามลูกสาวของตัวเองพลางลูบที่ใบหน้าซึ่งแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเล็กน้อย ระหว่างนั้นเธอก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ว่าหญิงสาวจะแพ้ท้องหรือไม่ แต่โชคดีที่พิธีการทุกอย่างได้จบลงแล้วจนตอนนี้เหลือเพียงแค่การไปทักทายแขกบางคนเท่านั้น"วันนี้เจ้าตัวเล็กไม่ดื้อเลยค่ะ หวายไม่มีอาการอะไรเลย""หึ หลานของแม่เก่งเหมือนลูกแม่อยู่แล้ว งั้นเดี๋ยวหวายทักทายแขกใน
"กอดแบบนี้ไม่เมื่อยเหรอคะ?" มัดหวายเอ่ยถามร่างสูงที่กำลังสวมกอดเธอเอาไว้อย่างนึกเอ็นดูเพราะตั้งแต่ที่กลับมาบ้านพิชญ์ก็เอาแต่กอดเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเลย"ตอนอยู่ที่โรงพยาบาลดีใจมากเกินไปหน่อยเลยลืมกอด""พี่พิชญ์ปล่อยเพื่อนของพีชได้แล้ว พีชเองก็อยากกอดหลานบ้างนะ" ลูกพีชที่นั่งอยู่ด้านข้างเริ่มงอแงเมื่อชายหนุ่มเอาเพื่อนรักของเธอไปกอดไว้อยู่คนเดียวโดยไม่ปล่อยให้เธอได้สัมผัสมัดหวายเลยแม้แต่ปลายเล็บ แต่แทนที่พิชญ์จะสนใจเสียงของเธอเขากลับยังคงกอดมัดหวายไว้อยู่อย่างนั้นจนกระทั่งวิรดาเดินเข้ามาพร้อมกับจานผลไม้ในมือ ชายหนุ่มจึงยอมปล่อยคนรักให้เป็นอิสระ"พอรู้ว่ามีเจ้าตัวเล็กก็ต้องดูแลตัวเองดีๆ นะหวาย ทั้งเรื่องการกิน การพักผ่อน หรือการใช้ชีวิตประจำวัน ยิ่งช่วงแรกๆ ยิ่งต้องระวังเลย""หมอบอกว่าให้ลดของหวาน...""ใช่ พวกของหวานหรือของที่มีรสจัด มีการปรุงแต่งเยอะหวายควรงด หรือแม้แต่ผลไม้ก็ต้องเลือกดีๆ ให้มีประโยชน์และมีน้ำตาลน้อยที่สุด""แม่ไม่ต้องห่วงครับ ผมจ้างเชฟกับนักโภชนาการที่คอยให้คำแนะนำมาแล้ว ส่วนในบ้านก็คิดว่าจะติดลิฟต์เพิ่มและปรับปรุงบางอย่างเพื่อความปลอดภัยด้วย แล้วเรื่องการบำรุงทั่วไปผมค