LOGIN"มีอะไรเหรอเจนิส? มาทำอะไรที่่นี่แต่เช้า? ร้อยวันพันปีไม่เห็นแกจะเคยสนใจพวกเด็ก ๆ "
เสียงเอ่ยจากเพื่อนสนิทที่หนีตายมาจากเมืองหลวงด้วยกันกระแนะกระแหน เธอผู้นี้เป็นคนละคนกับที่ดูแลเรือนพยาบาล แต่ก็เป็นหนึ่งในทีมงานที่แพรวให้ความไว้วางใจ จนได้รับมอบหมายให้เป็นคนรับผิดชอบงานในศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้
.
อาคารชั้นเดียวผนังโปร่งโล่งเปิดให้ลมโกรกเข้ามาได้จากทุกทิศทุกทาง ขนาดกว้าง X ยาว X สูง ของมันกินพื้นที่ราว 200 ตารางวา และถูกซอยออกเป็นเรือน 3 หลังปลูกติดกัน หลังแรกเอาไว้ทำการเรียนการสอน หลังที่สองเอาไว้เป็นห้องนอนกลางวัน ส่วนหลังที่สามสำหรับเป็นห้องรับประทานอาหาร แม้รูปร่างจะกระท่อนกระแท่นและโคตรจะไม่มั่นคง แต่ก็ตลบอบอวลไปด้วยความรักและความอบอุ่น เพราะจุดเด่นของโซนการเรียนรู้ตรงนี้ก็คือพื้นที่ลานกว้างด้านนอก
.
ยังมีเนื้อที่อีกกว่า 2 ไร่ที่มีไว้สำหรับให้พวกเด็ก ๆ ได้ฝึกฝนทักษะการใช้ชีวิตแบบ New normal โลกแบบเดิมล่มสลายไปแล้ว คุณครูหนีตายอลม่าน พรรคพวกของแพรวและชาววิลเลจจึงถือโอกาสนี้คิดกันว่า ควรถึงเวลาเสียทีที่เราจะต้องทำในสิ่งใหม่ บอกลาห้องเรียนแบบเดิม ๆ และการท่องตำราคร่ำครึ โลกไม่ต้องการคนเรียนเก่งสอบได้ที่หนึ่งอีกต่อไป แต่โลกต้องการเด็กที่เอาตัวรอดเป็นต่างหาก สนามหญ้าด้านนอก เนินหินดินทรายกับต้นไม้ลำธาร จึงถูกเน้นและให้ความสำคัญมากขึ้น
.
เด็ก ๆ ได้เล่นมากกว่าได้เรียน พวกเขาท่องคอนเซ็ป "เรียนคือเล่นและเล่นคือเรียน" ให้เป็นดั่งคติพจน์ประจำใจ ซึ่งคนที่คอยกำกับดูแลสิ่งเหล่านี้อยู่ก็คือเพื่อนของเจนิสรายนี้นี่เอง เธอยังคงยืนเท้าสะเอวหลุบตามองเจนิสแบบไม่วางตา โดยมีฉากหลังเป็นกลุ่มเด็กตัวน้อยวัยอนุบาลที่กำลังแบ่งทีมเล่น "ซอมบี้ล่าเหยื่อ" กันอยู่
.
"ไง! ตกลงแกจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ? ชะเง้อมองอะไรอยู่ได้หรือแกยังไม่หายดี? ฉันได้ยินข่าวว่าแกสลบไปตั้งหลายวันเลยนี่?"
.
"อ่า..ก็คงงั้น! พอดีเมื่อคืนหนักกับพวกที่กำแพงไปหน่อย มีคนที่ไม่ใช่ชาววิลเลจอย่างเรามาแจมก็เลยทำงานลำบาก แต่ฉันเคลียร์กับพวกเขาแล้วล่ะ พวก AP เข้าใจบทบาทของตัวเองดีแล้ว"
เจนิสตอบเสียงเรียบ ยอมรับว่าเธอเองก็ยังหลับไม่เต็มอิ่มเพราะลางสังหรณ์ส่วนตัวที่มีต่อพวกเด็ก ๆ ตื่นเช้ามาก็เลยรีบตรงดิ่งมาที่นี่ก่อน
.
"ถึงว่าล่ะ.. เสียงปืนเสียงระเบิดนี่ดังระงม ท้องฟ้าตรงชายป่ากลายเป็นสีส้มเลย มีผู้ติดเชื้อบุกเข้ามาได้ไหมอ่ะ? แล้วฝั่งเราตายไปกี่คน?"
.
"ก็หลายคนอยู่ แต่ 90% เป็นทหารรับจ้างของพวก AP ส่วนเรื่องที่ว่ามีผู้ติดเชื้อบุกเข้ามาไหม? คำตอบคือไม่! ถ้าฉันยังอยู่จะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน เราต่างก็ได้รับความไว้วางใจจากพี่แพรว สัญญาไว้แล้วก็ต้องทำให้ได้"
"ฉันก็เลยแวะมาดูแกกับพวกเด็ก ๆ นี่แหละ มีเด็กใหม่ที่มากับเฮลิคอปเตอร์อีกเป็นโขยงเลยไม่ใช่เหรอ? แกบริหารจัดการยังไง? เมื่อคืนเป็นยังไงกันบ้างตั้งแต่ที่ไฟฟ้าโดนตัด"
สีหน้าเจนิสดูเปลี่ยนไปทันที แววตาเธอเจือด้วยความเป็นห่วง โดยที่ด้านหลังนั้นเป็นสนามหญ้าที่มีเด็กวัยอนุบาลวิ่งกันกระจองงองแงเต็มไปหมด
.
เช่นกันกับเพื่อนสนิทที่ทำอะไรไม่ได้นัก นอกจากการเล่าความจริงออกไปตรง ๆ ว่านับตั้งแต่ที่เจนิสสลบไปมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่บ้าง ชะตากรรมแม่งไม่ต่างจากเรือนพยาบาล คลังอาวุธ และเหตุการณ์บนกำแพงเลย อำนาจของเจนิสได้ถูกริดรอนไปโดยสมบูรณ์แบบ และคราวนี้ก็เกิดขึ้นโดยคนธรรมดาที่ไม่ได้มีอาวุธยุทธภัณฑ์ใด ๆ มิหนำซ้ำยังเป็นเพียงแค่ "พ่อบ้าน!"
.
ย้อนความกลับไปเมื่อ 2 - 3 วันก่อน ปฏิเสธไม่ได้ว่า ฮ. ชีนุกใบพัดคู่ของบริษัท AP นั้นขนคนมาได้มากจริง ๆ ในห้องโดยสารไม่ได้มีแค่กลุ่มเด็กกระตุ้งกระติ้ง LGBT , มิวท์ , แล้วก็ทหารรับจ้าง หากแต่ยังมีกลุ่มคนที่ทำหน้าที่เป็นพ่อบ้านแม่บ้านและคนใช้ติดสอยห้อยตามมาจากเซฟเฮาส์ด้วย ด้วยความสัตย์จริงว่าตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าจะติดตามมาในฐานะอะไร ทว่าพอนำเครื่องแลนด์ดิ้งลงจอดยังวิลเลจเท่านั้นแหละ พวกเขาก็มีงานเกี่ยวกับการบริการให้ทำเต็มไปหมดเลย
.
ขึ้นชื่อว่าแม่บ้านย่อมถนัดงานทำความสะอาดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แล้วจะมีที่ไหนในโลกสกปรกไปมากกว่าที่นี่อีกเล่า ด้วยเพราะบรรยากาศและสถานการณ์ที่หวิดจะเกิดสงครามและการปะทะได้ตลอด อาคารบ้านเรือนถนนหนทางภายในวิลเลจจึงค่อนข้างรกร้างไร้คนปัดกว่าเช็ดถู ยิ่งเป็นอาคารศูนย์การเรียนรู้ด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง บุคลากรที่มีน้อยอย่างจำกัดจำเขี่ยชนิดที่แม้แต่คนที่สวมบทบาทเป็นครูก็ยังเป็นแค่เด็กมัธยม พวกพ่อบ้านแม่บ้านจาก AP จึงได้รับโอกาสนี้ให้เข้ามาเติมเต็มในจุดดังกล่าว
.
แม่บ้านบางส่วนได้รับการแต่งตั้งให้ไปหยิบจับงานในโรงครัว และด้วยความที่วัตถุดิบส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่ชาววิลเลจปลูกเองกินเอง สองสามวันมานี้เด็ก ๆ เลยได้ทานอาหารรสมือแปลกที่ทั้งอร่อยแล้วก็มีสารอาหารครบครัน ส่วนแม่บ้านที่เหลือก็ได้รับมอบหมายให้มาช่วยดูแลงานจิปาถะในศูนย์การเรียนรู้แทน อาทิเช่นการจัดเก็บที่นอน การเป็นผู้ช่วยในการเรียนการสอน รวมไปถึงการออกทำกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ
.
พวกเธอไม่ใช่ครูไม่ได้มีใบประกอบโรคศิลป์ใด ๆ แต่ด้วยความที่มีความโอบอ้อมอารีย์และรักงานบริการจากหัวใจ สิ่งเหล่านี้จึงถือเป็นแค่เรื่องหมู ๆ พวกเธอไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใครเลย หนำซ้ำยังถูกยกย่องชมเชยจากคนในวิลเลจแล้วก็เพื่อนของเจนิสด้วยซ้ำ ว่าการมาของคนกลุ่มนี้ช่วยแบ่งเบาภาระงานของวิลเลจได้มากเหลือเกิน
.
"ฉันขอโทษนะเจนิสที่ไม่ได้บอกแก.. แต่ฉันกับทุกคนคุยกันแล้วว่าจะให้พวกเขาอยู่ด้วยกันที่นี่ มีเด็กเข้ามาเพิ่มอีกตั้ง 50 คนแหนะ แล้วแต่ละคนก็เป็นกลุ่มเพศทางเลือกที่ฉันไม่ถนัดจะรับมือ การมีพวกเขาคอยช่วยจะทำให้เด็กไม่เกิดปมด้อย เพราะบางทีฉันก็ไม่รู้จะปฏิบัติต่อเด็กยังไง เด็กบ้าอะไรเป็นตุ๊ดเป็นแต๋วตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอ"
เพื่อนสาวพยายามจะอธิบาย และเจนิสเองก็พยายามจะเข้าใจ เธอพยักหน้าให้พลางทอดสายตาเข้าไปยังสนามหญ้าด้านหลัง
.
"แล้วเด็กเก่าของพวกเราล่ะ.. มีเพื่อนใหม่เข้ามาเยอะขนาดนี้ไม่ทะเลาะกันตายเหรอ? คงปรับตัวกันยากน่าดู"
.
"อืม.. นั่นสินะ"
.
"แล้วก็อีกประเด็น! กรณีผู้ใหญ่อ่ะฉันเข้าใจ! แต่เด็กเล็ก ๆ แบบนี้แกตรวจเชื้อโควิดจากพวกเขาครบทุกคนรึยัง เท่าที่ฉันรู้มาเรือนพยาบาลของเราไม่มีชุดตรวจสำหรับเด็กหรอกนะ ถ้าพวกเขาติดเชื้อขึ้นมาล่ะก็ แค่คนเดียวพวกเราก็ถึงกับจบเห่ได้เลย แกเช็คเรื่องนี้บ้างรึเปล่า? "
เจนิสยิงคำถามสำคัญเข้าใส่ ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงเด็ก ๆ ร้องตะโกนเล่นไล่จับกันอย่างสนุกสนานแบบไม่มีแบ่งแยก ไม่มีฝักไม่มีฝ่าย ไม่มีใครเป็นคนเก่าคนใหม่ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเชื้อ Covid-19 คืออะไร ทำไมผู้ใหญ่ถึงเครียดกันจัง เป็นเด็กนั้นช่างแสนดีทั้งไร้เดียงสาแล้วก็มีแต่คนอยากปกป้อง
.
โดยหารู้ไม่ว่าวันหนึ่งวันใดเลือด LGBT ในตัวของพวกเขาเองนั่นแหละ ที่จะเป็นตัวแปรสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ มันคือสสารชนิดเดียวในโลกที่ใช้ต้านเชื้อ Covid -19 ได้ในตอนนี้ และถ้าเปรมล่วงรู้ว่ามีเด็กเพศทางเลือก LGBT ที่หลบหนีจากหอวัคซีนมาซ่อนตัวอยู่ที่นี่ล่ะก็.. เขาก็คงจะไม่ลังเลที่จะหาทางบุกเข้ามาโจมตีอีก การเล่นและการส่งเสียงหัวเราะครื้นเครงของพวกเด็ก ๆ จึงเป็นอะไรที่สุดแสนจะย้อนแย้งกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่
.
เจนิสทราบข้อมูลดังกล่าวจากการมาถึงของเขา ชายวัยกลางคนที่เดินดุ่ม ๆ แหวกผ่ากลางกลุ่มเด็กนับร้อยชีวิตออกมาจากสนามหญ้า เขาอยู่ในชุดพละเสื้อยืดกางเกงวอร์ม ไม่เหลือคราบความเป็นพ่อบ้านสุดเนี๊ยบประจำเซฟเฮาส์ของ AP แต่อย่างใด ทว่าก็ยังมีแววตาที่แฝงไปด้วยความฉลาดและความเก๋าประสบการณ์อยู่ เผิน ๆ ใต้เสื้อผ้าอาจจะมีรีโมทไว้คอยกดนั่นกดนี่ให้ขยับเขยื้อนด้วยก็เป็นไปได้
.
"สวัสดีครับ.. ผมขออนุญาตแนะนำตัว.."
.
ก้มหัวน้อมตัวลงด้วยท่วงท่าอันคุ้นเคย แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรเลยเพื่อนของเจนิสก็ตัดบทซะก่อน ด้วยการปล่อยให้ทั้งสองคนลุงพ่อบ้านกับเจนิสได้พูดคุยกันเอง เธอขอตัวเข้าไปสลับสับเปลี่ยนดูแลพวกเด็ก ๆ ก่อน การเล่น "ซอมบี้ล่าเหยื่อ" ก็เหมือนเล่น "ตำรวจจับโจร" พอลุงเดินออกมาจากวงล้อมแบบนี้พวกเด็ก ๆ ก็ขาดซอมบี้ไปน่ะสิ ขาดช่วงความสนุกไปแล้วพัฒนาการที่หยุดชะงักไปล่ะใครจะรับผิดชอบ คนเป็นครูจึงรับเรื่องนี้ไม่ได้ เธอก็เลยต้องรีบขอตัว
.
"เออ ๆ ไปเหอะไปทำงานของแกซะ! ฉันจะคุยกับลุงเขาเอง ยังไงก็ต้องอยู่ด้วยกันในนี้อีกนานคงเต็มใจจะเล่าทุกอย่างใช่ไหมคะ จะอยู่ที่นี่ห้ามมีความลับต่อกันค่ะหนูขอเตือนไว้ก่อน"
เจนิสตีหน้านิ่ง จากยิ้ม ๆ อยู่ดูดุขึ้นมาในเสี้ยวพริบตา
.
"ครับ.. เข้าใจแล้วครับ แค่แว๊บเดียวผมก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนคุมที่นี่ เอาเป็นว่าผมจะเล่าทุกอย่างจนคนฟังอย่างคุณหูระบมเลยล่ะ เชิญถามมาได้เลยครับว่าอยากจะรู้เรื่องอะไร?"
เท้าสะเอวยืดตัวขึ้นสูดลมหายใจพักเหนื่อย ลุงพ่อบ้านมาในมาดแฟร์ ๆ เลยไม่จำเป็นต้องปกปิดข้อมูลอะไรทั้งสิ้น
.
.
แต่แล้วข้อมูลที่เจนิสได้มา ก็กลับกลายเป็นวีรกรรมความห้าวหาญเยี่ยงวีรสตรีของคุณหนูมิวท์ไปซะได้ ดูทรงแล้วลุงพ่อบ้านแกจะรักและเทิดทูนเจ้านายคนนี้มาก ๆ แกถึงกับมีรูปมิวท์ตอนเป็นเด็กเก็บไว้ในกระเป๋าตังค์และเอาออกมาโชว์ประกอบการบรรยาย แกเริ่มเล่าถึงความสำคัญของเด็ก ๆ LGBT ทั้ง 50 คน ว่าไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะมีเชื้อโควิดหรอก เพราะเด็กเหล่านี้ถูกมิวท์กับทีมทหารรับจ้างเสี่ยงตายบุกไปชิงตัวมาจากหอวัคซีน เลือดของพวกเขาเป็นสิ่งสำคัญอันแสนจะบริสุทธิ์ ประกอบกับหอวัคซีนเองก็เป็นอาคารปลอดเชื้อ พอพวกเด็ก ๆ ถูกกักตัวไว้ในนั้นอย่างดี โลกใบนี้ก็ไม่มีอะไรสะอาดไปกว่าพวกเขาอีกแล้ว
.
นอกเหนือจากนั้นลุงยังเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างมิวท์กับเปรมที่เริ่มระหองระแหง พวกเขาตัดขาดจากกันในท้ายที่สุดทำให้ปัจจุบันมิวท์กลายเป็นสาวสวยลุคคุณหนูที่โสด จีบได้และแฟนกลายเป็นสัตว์ประหลาด รวมไปถึงเหตุผลสำคัญที่มิวท์เลือกที่จะใช้เฮลิคอปเตอร์บินมาถึงที่นี่ด้วย ลุงเล่าว่ามิวท์ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะมีวิลเลจที่ตั้งตัวอย่างลับ ๆ อยู่ตรงนี้ แต่สิ่งที่นำพาทุกคนมาถึงนี่ก็คือ "แพรว" ความสัมพันธ์ระหว่างมิวท์กับแพรวนั้นช่างซับซ้อน แต่ก่อนเป็นเพื่อนแต่เดี๋ยวนี้เหมือนไม่ใช่เพื่อน แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าถ้าแพรวยังอยู่ที่นี่และไม่ใช่เจนิสที่ดูแลแทน ชะตากรรมของชาว AP อพยพกลุ่มนี้จะเป็นยังไง
.
ศักยภาพของพวกเขาจะถูกนำมาใช้หรือเปล่าก็มิอาจคาดเดาได้ รู้แต่ว่าตอนนี้กำลังไปได้สวย พวกเขาอยู่ร่วมกับชาววิลเลจได้อย่างกลมกลืน ไม่มีการสร้างปัญหาใด ๆ แถมยังเป็นประโยชน์อย่างอเนกอนันต์อีกต่างหาก
.
"น่าเสียดายนะครับที่คุณแพรวไม่อยู่.. ไม่งั้นคุณมิวท์คงได้พบกับคนที่อยากจะเจอเป็นที่สุด"
ลุงพ่อบ้านพูดสรุปปิดท้าย หลังจากร่ายยาวอยู่คนเดียวมาซะนาน
.
"........!"
ตรงกันข้ามเพราะเจนิสได้แต่อึ้ง! สติเธอหลุดไปอีกครั้งนับตั้งแต่ที่ล่วงรู้ว่ามิวท์กับแพรวมีปัญหาอะไรกัน สองคนนี้แย่งผู้ชายคนเดียวกัน และมีอะไรกับเปรมแล้วทั้งคู่! นั่นทำให้เธอช็อคจนไม่ได้ยินข้อมูลอย่างอื่นอีกเลย ในหัวเธอมีแต่หน้าสวย ๆ ของมิวท์ผู้หญิงคนที่ชอบลอยวนเวียนเต็มไปหมด เธอเริ่มคิดถึงมิวท์ขึ้นมาอีกแล้ว.. แล้วหน้าก็เริ่มมืด , หัวใจเป็นหวิว ๆ , คล้ายจะเป็นลมล้มตรึงไปอีกหน
.
ก่อนที่เธอจะทนไม่ไหว เลยกลั้นใจถามหามิวท์ขึ้นมาแบบดื้อ ๆ
.
"แล้วตอนนี้คุณมิวท์เขาอยู่ไหนเหรอคะลุง? วันสองวันมานี้หนูยังไม่เห็นหน้าพี่เขาเลย?"
.
"เฮ้อ.. ก็นะ! ที่จริงผมก็ไม่อยากพูดหรอก แต่เมื่อคุณถามขึ้นมาแล้วล่ะก็.."
.
โคตรแม่มมึง! ช่างเป็นการเว้นวรรคที่ทั้งบีบเค้นแล้วก็จุกแน่น ราวกับโดนต่อยท้องแล้วเตรียมจะถูกลากเข้าป่าไปข่มขืนก็มิปาน แต่สุดท้ายลุงก็โพล่งความจริงออกมาอยู่ดี
.
"คุณมิวท์อยู่ร่วมกับพวกเราไม่ได้หรอกครับ.."
"เธอต้องอยู่นอกกำแพงกับเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว.. เพราะว่าเธอติดเชื้อ Covid-19 ! "
.
"ห๊าาาา!!! , อะไรนะ!?"
"เป็นไปได้หรอ? , ไม่ใช่อ่ะ! , ไม่ใช่! , ไม่ ๆ ๆ ๆ !"
จากด้านหนึ่งสู่อีกด้านหนึ่ง สาวน้อยวัยมัธยมเร่งฝ่ามือกระโจนโผทะยานไปสู่ตำแหน่งที่คิดว่าได้ยินเสียง พลางผงะเข้ากับรอยโหว่บนตัวเครื่องที่เกิดจากบานประตูที่กระเด็นออกไป แสงสว่างจากหลอดไฟภายในส่องลอดออกมาเป็นลำ นาทีนั้นแม้แต่แท่งไฟในมือเธอก็คงจะไม่จำเป็นซะแล้ว."มีการต่อสู้กันงั้นเหรอ?"เจนิสกระซิบ.พูดกับใครก็ไม่รู้ในเมื่อก็อยู่ตัวคนเดียว เหมือนเธอกำลังประเมินสถานการณ์ ข้างหน้ามีศพ ข้างหลังประตูพัง แล้วเมื่อกี้ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกรี๊ด! นั่นอาจจะเป็นเสียงของมิวท์ก็ได้ บางทีเธออาจจะอยู่ในสภาวะวิกฤต."หรือมีผู้ติดเชื้อบุกเข้ามาทำร้ายพี่มิวท์?!".คราวนี้ไม่คิดแล้วแต่เหวี่ยงร่างกายเข้ามาในเครื่องเลย! โดยไม่สนหน้าอินท์หน้าพรหม เจนิสใช้แรงเหวี่ยงจากกระเป๋าเป้ตวัดทีเดียวร่างบางของเธอก็ม้วนหน้าเข้ามาด้านในราวกับนักยิมนาสติก เสี่ยงตายไม่ว่ามารยาทไม่ต้องทุกสิ่งที่ทำล้วนมาจากความต้องการจากหัวใจ ทว่าสิ่งที่เธอเห็นก็คือ...มิวท์ในเวอร์ชั่นผู้ติดเชื้อ.. ที่ยืนจังก้าเล็บยาวเฟื้อยลากมากับพื้น.!.หากย้อนกลับไปอ่านสักหน่อย จะเห็นเลยว่าบุคลิกของมิว์นั้นใกล้เคียงกับเปรมตอนที่รอเย่อร์เธอในห้องกระจกมาก
ปลายนิ้วแห้งผากราวกับกระดาษทราย กว่าจะสัมผัสได้ถึงหยดน้ำหยาดแรกกลีบผกาก็ช้ำมากจนออกสีแดงแกมระเรื่อ มิวท์เสียวแค่ในใจแต่ร่างกายกลับไม่เป็นดังที่หวัง เธอเอาแผ่นหลังพิงกับกำแพงห้องโดยสารพลางหลุบสายตามองเรียวขาของตัวเองทั้งสองข้างที่ตั้งชันขึ้นและกำลังสั่นระริก เธอเร่งเกินไปเธอฝืนทั้งที่ไม่ได้เงี่ยนจริง.ตอกย้ำการโกหกตัวเองด้วยการดีดกางเกงผ้ายืดที่พันอยู่กับข้อเท้าออก เธออยากเห็นความงุ้มเกร็งของปลายตีน เผื่อจะทำให้มีอารมณ์กระสันขึ้นมาต้านทานการกลายร่างได้บ้าง."ซีดดดด...จิ๋มแห้งจัดเลยอ่ะโถ่เอ๊ย!".แท่งน้ิวเปลี่ยนจากสองเป็นสาม ชี้ , กลาง , นาง เรียงตัวเป็นขยุมพลันยัดเข้าไปแบบสุดเหยียดก็แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลหล่อนจึงได้รับแต่ความเจ็บปวดกลับมา แรงเสียดสีที่ขาดน้ำหล่อลื่นเป็นอะไรที่ทำร้ายช่องคลอดมาก มิวท์เหมือนกำลังทำทารุณกรรมกับตัวเอง และที่สำคัญที่สุดก็คือ ณ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ มุมมองสายตาของเธอก็เริ่มเห็นเป็นฉากสีแดงและเส้นเลือดยึกยือถักทอขึ้นมาแล้ว!."เรากำลังจะกลายร่าง.. อ่ะ.. อ๊ากกก..ก..ก..ก , อั๊ก..ก..ก!""เด็กผู้หญิงคนนั้นกับแท่งไฟส่องสว่างในมือ ทำให้เชื้อโควิดในตัวเรากำลังจะออกมา..
ภาพในฝันประเดประดังเข้ามาในหัว ภาพของการสังวาชกันในน้ำ ภาพของมิวท์สาวสวยหุ่นงามที่ถูหน้าอกบี้บดกับแผ่นหลังของเธอ สิ่งเหล่านี้ทำเอาเจนิสถึงกับมือไม้สั่น แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นโลโก้ของบริษัท AP ตรงท้ายเครื่องบิน และจากจุดที่ยืนอยู่ก็สูงและมืดเกินกว่าจะพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณที่ติดตัวมายังไงเธอก็ว่าใช่ นี่ต้องเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ตั้งใจออกมาตามหาแน่นอน."เอาไว้ก่อนเรื่องช่วยเหลือผู้คน เสียใจด้วยนะคะน้า แต่ก็ต้องขอบคุณด้วยเหมือนกันนี่ถ้าไม่ใช่ลูกผัวน้าหนูคงไม่ได้เจอกับเครื่องบิน"."ปั๊ก! , ฟู่..!!!"จากอุปกรณ์จุดไฟในมือกลายเป็นแท่งไฟส่องสว่าง มันถูกกระทุ้งด้วยหัวเข่าและเปล่งแสงสว่างโพลงออกมาทำให้ทั้งสองฟากของซอกเขากลายเป็นสีแดง."รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง" ถ้าจะต้องมีซาวด์ดนตรีประกอบเพลง "เล่นของสูง" ของวงบิ๊กแอสถือว่าเหมาะมาก เพราะเจนิสรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเสี่ยงแค่ไหน แท่งความร้อนเรืองแสงที่ถืออยู่จะกลายเป็นตัวล่อชั้นดีให้บรรดาผู้ติดเชื้อพุ่งเป้ามาที่เธอ แต่ก็นะ! จะให้ทำไงได้ล่ะในเมื่อหัวใจเรียกร้อง.เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดหาเหตุผลให้กับความรัก เมื่อนั้นก็แปลว่
"ไป! ,ไป! ,ไป!, เดินหน้าเร่งฝีเท้าหน่อยทุกคน! ใกล้จะค่ำแล้วอย่าแตกแถวดูแลกันและกันด้วย!"เสียงหัวหน้าหน่วยหันมากำชับ."อีกราว 500 เมตรก็จะถึงประตูหน้าวิลเลจแล้ว ในนั้นทุกคนจะปลอดภัยสบายใจได้"แกผินหน้ากลับมามองตรงพลางกระชับปืนคู่ใจแนบวงแขน แบกเป้ประทับบ่าเดินจ้ำอ้าวรวดเร็วปานจรวด.ที่ด้านหลังมีสมาชิกกลุ่มเพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 20 ชีวิต มีทั้งเด็กและผู้หญิงแล้วก็คนแก่ ทุกคนต่างอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าอิดโรย โดยมีสมาชิกหน่วยลาดตระเวนกระจายตัวล้อมรอบพวกเขาไว้อีกชั้นหนึ่ง พวกเขาต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันแล้วก็โชคดีมากที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากการปะทะกันเมื่อตอนบ่ายเลย.แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำแบบนี้ก็ไม่แน่ ไม่มีใครอยากเสี่ยงกับกลุ่มผู้ติดเชื้อเวอร์ชั่นกลางคืนหรอก หัวหน้าหน่วยก็เลยพยายามย้ำนักย้ำหนาว่าให้ทุกคนเร่งฝีเท้าต้องไปให้ถึงวิลเลจก่อนตะวันตกดินให้ได้ ภาษากายดูจริงจังน่าเกรงขาม แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในใจลึก ๆ นั้นหัวหน้าเป็นห่วงเจนิสมากขนาดไหน."โถ่.. เจนิสเอ๊ย! อุตส่าห์บอกแล้วว่าให้รักษาแนวด้านหลังเอาไว้ ทำไมถึงทำอะไรโดยพลการนะ""นี่เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองเก่งพอจะอาสาไปช่วยเหล
ทิ้งกระเป๋าเป้ปลดสัมภาระที่คิดว่าจะเป็นภาระในภายภาคหน้าไว้ที่พื้น เจนิสทำตามอย่างว่าง่าย เธอไม่มีแม้แต่อารมณ์ขี้งอนหรืองี่เง่าใด ๆ ด้วยเพราะรู้สถานการณ์ดี สิ่งที่ติดตัวมาจึงมีแค่ปืนหน้าไม้กับซองใส่ลูกดอก ในทิศหกนาฬิกาด้านตรงกันข้าม ร่างบางเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการคลานศอก เธอกดตัวให้ต่ำกระดืบ ๆ คืบคลานไปอยู่ในแนวด้านหลังสุดตามที่รุ่นพี่ออกคำสั่ง."เข้าใจแล้วค่ะ.. ไว้ใจหนูได้เลยหนูจะระวังหลังให้เอง ถ้าเจอผู้รอดชีวิตบอกให้ตามมาทางนี้ได้เลยนะคะ!"แม้แต่ซุ่มเสียงก็ดุดันจริงจังขึ้น ตอกย้ำว่าเธอไม่ได้มาเล่น ๆ.ด้วยความสัตย์จริงว่าการบู้นั้นไม่ใช่สไตล์ของเจนิสมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เธอเป็นนักรบสายซับพอร์ตไม่ใช่ตัวแทงค์ และถ้านับสถิติการฆ่าผู้ติดเชื้อแล้วล่ะก็ในแคลนก็คงจะเป็นเธอนี่แหละที่ตัวเลขอยู่ในลำดับต่ำสุด กลับกันแต่ถ้าหากเป็นการหนีเพื่อเอาตัวรอดแล้วล่ะก็ เจนิสก็จะพลิกสถิติกลับขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งวงการได้เลย.จากคลานเริ่มค่อย ๆ ลุกขึ้นกระหยิ่มย่อง มือเรียวเกี่ยวตะขอขึ้นสายหน้าไม้เตรียมไว้ พลันกระโดดยิงหนึ่งดอกออกไปเมื่อเห็นเป้าหมายชัดเจน."ฟิ้ววว!"."ปั๊ก!"."หัว" เหมือนกันแต่เป็น "หัวเ
"ซึบ!!!".เสียบ ๆ ๆ ! กระซวก ๆ ๆ ! ย้ำแผลเดิมอีกราวสิบกว่าครั้ง ทำให้ร่างเปลือยของชายที่แน่นิ่งอยู่แล้วกลายเป็นเหมือนหมูที่อยู่บนเขียง กงเล็บของมิวท์ถูกดึงขึ้นมา ความแหลมเฟี้ยวดังกล่าวถูกฉาบเคลือบไว้ด้วยลิ่มเลือดที่หยดติ๋ง ๆ ไหลซึมลงมาถึงข้อศอก.แววตาแดงก่ำไม่เห็นแม้แต่ลูกตาดำ ขนาดฟันเขี้ยวด้านหน้ายังยื่นแหลมงุ้มออกมาพ้นมุมปาก ไม่มีทางเลยที่มิวท์ตัวจริงจะต่อต้านตัวตนใหม่เฉกเช่นปีศาจนี้ได้ มันบังคับร่างกายเธอให้เคลื่อนไหวไปไหนต่อไหนตามอำเภอใจ และครั้งนี้ก็คงจะหิวถึงได้เริ่มคอนโทรลมืออีกข้างของมิวท์ให้ควักลงไปในปากแผล พลันดึงเอาเครื่องในอวัยวะสด ๆ ออกมาจากลำตัว."ควัก!!!""หมึบบบ! , หมับบบ!!!".ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา ไม่ถามดินถามฟ้า พอได้ออกมาก็จับยัดเข้าปากแล้วก็เคี้ยวตุ้ย ๆ แทบจะทันที ซึ่งนั่นก็คือภาพสุดท้ายที่มิวท์หวนคิดถึง....ตัดภาพกลับมา ณ เหตุการณ์ปัจจุบันในเฮลิคอปเตอร์.หญิงสาวลุคคุณหนูกลับมาสวมใส่เสื้อผ้าแล้ว เธออยู่ในอาภรณ์มิดชิด ปากยังคงเคี้ยวเอื้องเอาเศษอวัยวะของพี่พลขับลงคอไปเป็นอาหาร.. อึก.. อึก...ตอกย้ำว่ามิวท์รู้ทุกอย่างว่าที่ผ่านมานั้นคืออะไร เธอถูกเชื้อโค






