Share

บทที่ 13 : แอนติบอดี้

Author: L.sunanta
last update Huling Na-update: 2025-06-21 22:30:57

หน้ากากผ้าถูกสวมคลุมกระชับ บางคนถึงกับควักเอาหน้ากากกันแก๊สขึ้นมาครอบทั้งหน้าเอาไว้ สถานการณ์ดูโกลาหลหนัก ทุกส่วนสัดวุ่นวายจนจับต้นชนปลายไม่ถูก เหล่ารปภ.ต่างกรูกันเข้ามารุมทึ้งร่างอันไร้วิญาณของลุงคนสวน พวกเขาเปลี่ยนคฤหาสน์ส่วนหน้าให้เป็นดั่งตลาดสดที่คนออกันเต็มพื้นที่

.

การสิ้นชีพของลุงเป็นดั่งหลักฐานสำคัญว่าต่อให้เคหะสถานหรูแค่ไหนเชื้อมันก็ไม่เว้น ทุกคนในบ้าน AP กำลังไม่ปลอดภัย และทางที่ดีก็ควรจะรีบย้ายศพออกไปทำลายทิ้ง แล้วก็ปิดข่าวให้เงียบที่สุด

.

พีวิเคราะห์

.

เขายังคงนั่งยองกุมมือแพรวเอาไว้แน่น ความตื่นเต้นทำเอาเจ้าตัวสั่นไปหมด แม้จะอยู่ในร่างชายแต่จิตใจหาได้กล้าหาญสมดั่งสรีระไม่ เหงื่อเปียกชุ่มมือ มีจังหวะหนึ่งแพรวคิดจะชะเง้อคอส่องเข้าไปดูข้างในเขาก็ยังรั้งเธอเอาไว้

.

"อีพี! มึงเป็นบ้าอะไร? กูแค่จะชะเง้อดูเฉย ๆ นิดเดียวเอง!"

ไม่แปลกที่แพรวจะโกรธเพราะเธอโดนเบรคมาหลายทีแล้ว

.

"ชู่ววว~!"

.

ร่างหนารีบจี่ปากสั่งให้เงียบ เนื่องด้วยเสี้ยววินาทีต่อมานั้นบรรดารปภ.ที่รายล้อมศพอยู่ก็เริ่มออกอาการชักเกร็ง พวกเขาทยอยคุกเข่าลงกับพื้นทีละคนสองคน บางคนกุมมือไว้ที่หน้าอกแล้วก็เริ่มไอค๊อก ๆ แค๊ก ๆ ณ ตอนนี้หน้ากากผ้าดูจะเอาไม่อยู่เสียแล้ว พีกับแพรวเห็นเต็มตาว่าสายรัดนั้นเริ่มละลาย บริเวณที่เป็นแผ่นกรองก็ถึงกับย้วยหยดหลอมลงมาเป็นเมือก

.

"แหมะ!"

.

หน้ากากกันแก๊สเองก็เช่นกัน แผ่นกระจกกั้นขึ้นฝ้ามองไม่เห็น อุณหภูมิภายในน่าจะสูงสุดมันถึงได้ร้าวแล้วก็ปริแตกออกจากกันเสียงดังเพล๊ง! ยามแต่ละคนดิ้นพล่านราวกับตกนรก ลำตัวพวกเขาหงิกงอพับยู่พลันสิ้นใจตายด้วยทุกขเวทนาสังขาร 10 ศพแน่นิ่งอิงชิดติดกับศพลุง

.

"อ๊ะ!"

"อะ..อะไรกันเนี่ยะ?"

แพรวปิดปากแผดเสียงกรี๊ดในลำคอ ก่อนจะหลุบสายตาหันมามองใบหน้าพีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ

.

"มันชัดยิ่งกว่าชัดอีกมึง มิวท์ติดเชื้อและพวกเราไม่ควรอยู่ที่นี่"

"ต้องรีบไปจากคฤหาสน์แห่งนี้ให้เร็วที่สุด! , ไป! , ไปเดี๋ยวนี้เลย!"

.

กระเทยควายตะคอกใส่ หมดความจำเป็นที่ทั้งสองจะกระซิบกระซาบกันอีกต่อไป เพราะต่อให้เสียงดังยังไงก็ไม่เหลือยามหน้าไหนมาล็อคตัวอยู่ดี แพรวเห็นด้วยกับสิ่งที่พีพูดทุกอย่างเธอประเมินสถานการณ์เข้ากับข่าวที่เพิ่งดูมา เลยพอจะอนุมานได้ว่ามิวท์น่าจะติดเชื้อจากอสุจิ ดูจากพฤติกรรมการคุกเข่าอมนกเขาให้คนสวนแล้ว แค่นี้เพื่อนลุคคุณหนูก็ไม่ใช่คนเดิมที่แพรวเคยรู้จักอีกต่อไป

.

วาดขาขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซต์โดยพลัน ภาพสุดท้ายก่อนยวดยานพาหนะจะลับทิวรั้วไป เธอมองเห็นภาพมิวท์ตอนกำลังคุกเข่าถ่างปากอ้าซ่าโม้คดุ้นให้พี่เปรม แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาเอง

.

"หืม?"

"ใจเย็นแพรว มึงรอดแน่มึงไม่ต้องร้องหรอกกูเปียกหลัง"

.

"ฮึ.. ฮือ.. ฮือ.. ฮือ.."

"ใครบอกกูร้อง กูไม่ได้ร้องสักหน่อย.. ฮือ.. ฮือ.. ฮือ.."

.

.

การตายรายวันยังคงมีต่อเนื่อง เชื้อไวรัสร้ายแพร่กระจายขึ้นสู่อากาศต้านทานแรงโน้มถ่วงทำให้ลอยค้างอยู่ได้นานถึง 3 วัน 3 คืนโดยไม่ตกกระทบสิ่งใด ทำให้มันแพร่ระบาดไปได้ไกลโดยไม่ต้องใช้วีซ่า มันกระจายลงสู่แหล่งน้ำแทรกซึมลงไปทุกหนทุกแห่งไม่ว่าจะเป็นน้ำประปา , แม้น้ำลำคลอง , ท่อระบายน้ำอันโสโครก , หรือแม้กระทั่งท้องทะเลมันก็แพร่ลงไปถึง ไวรัสไม่ได้มีเหงือกไว้หายใจแต่มันก็ไม่ตายแม้จะอยู่ในน้ำที่มีออกซิเจนน้อยเต็มที

.

ผลพวงจากการระบาดนี้ทำให้หน้ากากครอบแก้วติดใบพัดของบริษัท AP ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า รูปลักษณ์ของเจ้านี่คงไม่ต้องอธิบายซ้ำ แพรวใช้มันจนคล่องแถมคนอื่น ๆ ก็ขาดมันไม่ได้เช่นกัน บริษัท AP ตักตวงจากนวัตกรรมชนิดนี้จนได้รับเม็ดเงินไปมหาศาล พวกเขาขายหน้ากากรุ่นใหม่ตัดราคาหน้ากากอนามัยของรัฐบาล แถมยังส่งออกไปต่างประเทศอีกตั้งหลายคอนเทนเนอร์

.

ยังมีเรื่องของน้ำดื่ม ด้วยความที่ตัวเชื้อแพร่กระจายลงสู่แหล่งน้ำอุปโภคบริโภค ประชาชนจึงจำเป็นจะต้องกดน้ำจากตู้กรองของบริษัท AP เพียงอย่างเดียว มันถูกเรียกว่าตู้อัลตร้าเพราะใช้ระบบแสงอัลตร้าไวโอเลตในการทรานซิสชั่นน้ำให้กลายเป็นไอ ทว่ารูปลักษณ์ภายนอกก็เหมือนตู้กดน้ำหยอดเหรียญธรรมดาทั่วไปนี่แหละ มันถูกติดตั้งกระจายไปตามแหล่งชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ แล้วก็มีช่องหยอดเหรียญที่รองรับแค่เหรียญ 10 เพียงอย่างเดียว มิหนำซ้ำยังต้องหยอดถึง 8 เหรียญต่อน้ำเพียง 1 ขวด โอ้แม้เจ้า! โปรดจินตนาการเอาเถอะว่าบริษัท AP จะร่ำรวยขนาดไหน

.

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าท่ามกลางความวิกฤตเช่นนี้ คนเดียวในประเทศที่ยังคงเชิดหน้าชูตาอยู่ได้ก็คือมหาเศรษฐีจากบริษัท AP นี่เอง มิวท์กับครอบครัวกำลังมั่งคั่งขึ้นเป็นเท่าทวี ซึ่งนี่แหละคือความจริงที่มิอาจปฏิเสธ

.

.

"วี้หว่อ! , วี้หว่อ! , วี้หว่อ! , วี้หว่อ!"

.

เสียงหวอรถตำรวจดังแข่งกับรถพยาบาล สถานการณ์อันตึงเครียดทำให้บุคลากรต้องทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ ทว่าระยะหลังมานี้ปริมาณเกินกว่าครึ่งดันกลายเป็นเสียงหวอสัญญาณของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองแทน

.

นั่นก็เพราะชาวต่างชาติทุกคนที่ลงเครื่องมาล้วนต้องถูกกักตัวทั้งหมด พวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศได้หากไม่ได้รับการกักกันโรคจนครบระยะเวลาฟักตัวที่ 14 วัน "State Quarantine" คือชื่อเรียกปฏิบัติการ โดยจะทำการคัดสรรโรงแรมต่าง ๆ ที่สะอาดสะอ้านและมีศักยภาพพอเพื่อนำมาใช้เป็นที่กักกัน ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีโรงแรมไหนเข้าเกณฑ์เลยสักแห่งนอกเสียจากโรงแรมในเครือ AP ที่มีนวัตกรรมฆ่าเชื้อแบบอัลตร้าลักษณะเดียวกับที่ใช้ในตู้กดน้ำ

.

ความชาญฉลาดของพวกเขากลายเป็นการผูกขาดแบบกลาย ๆ เหมือนเป็นการมัดมือชกให้ภาครัฐไม่มีทางเลือกจนต้องยอมจ่ายเพื่อให้มาตรการนี้ดำเนินต่อไป นี่แหละคือธุรกิจเพราะถ้าลองนับดูแล้วตั้งแต่เหนือจรดใต้โรงแรมของบริษัท AP มีมากถึงพันกว่าแห่ง ชนิดที่ต่อให้ไม่มีโรคระบาดเฮงซวยนี่แค่ค่าเปิดห้องให้คนเข้าไปขี้ AP ก็นับเงินแต่ละปีไม่หวาดไม่ไหวแล้ว

.

ก็เลยไม่แปลกใจที่พอเวลาผ่านไปสักพัก กระแสความไม่พอใจของสังคมจะปะทุขึ้นมา!

.

รถตำรวจตม.วิ่งจับฝรั่งต่างชาติ รถพยาบาลวิ่งขนส่งผู้ป่วยที่ติดเชื้อ แล้วรถตำรวจล่ะคิดว่าวิ่งกันทำไม? คำถามนี้คนที่น่าจะตอบเราได้ดีที่สุดเห็นจะเป็นแพรว เพราะตอนนี้เธอแทบจะอยู่ใจกลางกลุ่มผู้ชุมนุมเลย

.

"ออกไป! , ออกไป! , ออกไป! , ออกไป! , ออกไป! , ออกไป!"

"AP จงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ!"

เป็นสโลแกนที่แกนนำตะโกนใส่โทรโข่ง เพื่อเชื้อเชิญให้ม็อบพูดตามจะได้ปลุกพลังให้ฮึกเหิม

.

แน่นอนว่าแพรวเองก็ใส่สุดเสียง เธอชูกำปั้นขึ้นฟ้าขย่มโครม ๆ ไปตามจังหวะ เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าสิ่งที่บริษัท AP ทำนั้นไม่ถูกต้อง พวกเขาควรจะอยู่ข้างประชาชนที่ลำบากไม่ใช่มาขูดเลือดขูดเนื้อกันในยามวิกฤตเช่นนี้

.

"ไอ้ขี้ตู่! , ไอ้ขี้ตู่! , ไอ้ขี้ตู่!"

เธอตะโกนเสริม ด้วยความหมั่นไส้ AP ที่ตอแหลมานานแสนนาน ผนวกรวมกับการโกรธมิวท์ด้วยก็ส่วนหนึ่ง

.

บ้านเมืองกำลังเกิดกลียุค สถานการณ์บานปลายจนขยายวงกว้าง ทุกอย่างกำลังจะเอาไม่อยู่ กระแสธารแห่งความไม่พอใจถาโถมหนักขึ้นเรื่อย ๆ รัฐบาลต้องเผชิญกับแรงกดดันในทุก ๆ มิติ เพราะถ้าไม่ง้อนวัตกรรมของบริษัทหน้าเลือดนี่ชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ก็จะเป็นอันตราย บุคลากรที่เก่งที่สุดในประเทศล้วนสังกัดอยู่ใน AP พวกเขามีโรงพยาบาลเอกชนที่เจ๋งที่สุดในโลก พวกเขามีโรงแรมที่ฆ่าเชื้อด้วยรังสีอัลตร้าเทคโนโลยีระดับสูง มิหนำซ้ำยังมีทีมวิศวกรที่ควบคุมอุปกรณ์ไฮเทคทุกชนิดในประเทศนี้ได้ โดยใช้เพียงคอมพิวเตอร์แล็ปท็อบเพียงแค่เครื่องเดียว

.

เรียกได้ว่าภาครัฐไม่มีแต้มต่อใด ๆ เลยมีแต่ตายกับตาย แต่ก็ถือว่ายังพอมีโชคอยู่บ้างเพราะท้ายที่สุดแล้วประเทศนี้ก็หลุดพ้นจากวิกฤตม็อบมาได้ ด้วยการใช้วิกฤตโรคภัยที่มีอยู่เดิมให้เป็นประโยชน์

.

นั่นก็คือ..

.

จู่ ๆ พื้นถนนก็แตกระแหง รอยแยกฉีกตัวเป็นแนวยาวราวกับสายฟ้าฟาดปักลงไปในเนื้อดิน ท่อแก๊สรั่วพ่นละอองฟูฟ่อง กลุ่มคนแตกกระเจิงต่างคนต่างไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าพลานุภาพของเชื้อไวรัสมรณะสายพันธุ์นรกจะรุนแรงถึงเพียงนี้ คำเตือนที่ว่าให้รักษาระยะห่างจึงไม่ใช่เรื่องตลก เพราะถ้าพวกเขาแออัดยัดเยียดจนเกินไปก็จะกลายเป็นเหยื่ออันโอชะของมัน

.

กลุ่มผู้ประท้วงหลอมละลายดุจไอติมแท่ง เสื้อผ้าพวกเขากลืนหายกลายเป็นน้ำกลั้วไปกับกระดูกที่โดนเชื้อร้ายย่อยสลายจนเละเทะ นับร้อยชีวิตไหลย้อยลงไปในซอกถนนที่แตกระแหง ไม่เหลือแม้แต่ศพ ไม่มีแม้แต่เศษชิ้นส่วนเนื้อ covid สายพันธุ์ใหม่ทรงพลังยิ่งกว่าอาวุธเคมีใด ๆ ดีแค่ไหนแล้วที่แพรวหนีรอดออกมาได้อย่างเฉียดฉิว

.

ภาพการตายหมู่กับเสียงโหยหวนยังคงก้องอยู่ในหูเธอ หมดกันความเกรี้ยวกราดอยากเรียกร้องที่เตรียมมา แม้แต่ป้ายผ้าป้ายไฟก็ยังไม่ได้ใช้ งานนี้ม็อบเป็นฝ่ายแพ้อย่างราบคาบ "อย่าเก๋ากับธรรมชาติ" น่าจะเป็นคำคมที่เหมาะที่สุดเพราะศัตรูตัวจริงหาใช่บริษัท AP หรือรัฐบาลไม่ หากแต่เป็นเชื้อไวรัสขนาดจิ๋วที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าต่างหาก

.

บทเรียนจากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มาตรการต่าง ๆ ถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น เสียงไซเรนดังระงมไปทั่ว จากแต่ก่อนที่เป็นเสียงหวอของรถตำรวจ , รถพยาบาล , แล้วก็รถตม. ตอนนี้ได้เพิ่มหวอของรถตรวจเชื้อเคลื่อนที่เข้ามาด้วย พวกมันได้รับคำสั่งให้วิ่งพร่านไปทั่วทั้งเมืองเพื่อสุ่มตรวจผู้คนซึ่งเป็นการตรวจแบบเชิงรุก กล่าวคือหากพบผู้ติดเชื้อเมื่อไหร่ก็จะทำการจับกุมและนำตัวมากักกันในทันทีไม่มีข้อยกเว้น

.

.

ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึี่งในสังกัดของ AP

.

ในห้องประชุมปลอดเชื้อต่อหน้าฟิล์ม TC แสกนของผู้ป่วย covid รายหนึ่ง คณะแพทย์กำลังถกเถียงกันเกี่ยวกับประเด็นการรักษาอย่างเข้มข้น

.

"ตัวอย่างเลือดหมายเลข 001 ให้ผลออกมาเป็นบวก มีความเป็นไปได้ที่เราจะทำการผลิตแอนติบอดี้จากเลือดของเขาครับ"

นายแพทย์คนหนึ่งบอก เขาเดินไปดูใกล้ ๆ ฟิล์มแสกน พลางทอดสายตาลงต่ำมองดูผู้ป่วยที่สลบอยู่บนเตียงผ่านจอมอนิเตอร์ไปด้วย

.

"แต่มันจะเป็นการทรมานผู้ป่วยนะ พวกเขาไม่ใช่ศพยังเป็นคนที่มีลมหายใจ ผมไม่เห็นด้วย! เราควรทดลองกับสัตว์ทดลองก่อนอย่างน้อยก็ไม่ผิดจรรยาบรรณ"

หมออีกคนค้าน

.

"แล้วมันมีเวลาขนาดนั้นไหมล่ะ! คุณก็เห็นว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่มีหมออย่างเราประเทศนี้ก็ไม่มีทางรอด!"

.

"แต่?"

.

"ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น เราได้ข้อสรุปแล้ว เชื้อไวรัสนี้จะทำลายตัวเองถ้าใช้แอนติบอดี้ของผู้ป่วยเก่า ถ้าคุณกลัวทำคนตายนักคุณก็แค่ไปหาผู้ป่วยมาสะสมไว้เยอะ ๆ แค่นี้ก็พอแล้ว"

.

คำพูดจากปากหมอช่างเหมือนหมาซะยิ่งกระไร หลังการถกเถียงอันเผ็ดร้อนก็ได้มีการเซ็นคำสั่งอนุมัติโดยท่านประธานใหญ่ของ AP ข้อมูลผู้ป่วย covid มากมายใน State Quarantine ก็เลยถูกเปิดเผยออกมาหมด นั่นเท่ากับว่าบรรดาผู้ป่วยล้วนต้องถูกเกณฑ์ไปเป็นหนูทดลองให้พวกหมอ ๆ โดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่

.

แต่ก็ยังไม่พอเพราะเมื่อความรุนแรงของเชื้อถูกนำมาเป็นข้ออ้างโดยชอบทำ กระดาษคำสั่งแผ่นนั้นจึงเป็นดั่งอาญาสิทธิ์ที่เปิดทางให้รถตรวจเชื้อวิ่งไปที่ไหนก็ได้ เพื่อควานหาคนติดเชื้อเข้ามาเพิ่ม

.

ยานพาหนะสี่ล้อหักเลี้ยวเข้ามาจอดนิ่งอยู่ในซอกตึกแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ในชุดเกราะถือไม้กระบองกระโดดลงจากท้ายรถ พลันกระหน่ำฟาดใส่คนทุกคนที่เดินผ่านมาจนช้ำ พวกเขาพิพากษาคนผ่านปืนวัดอุณหภูมิที่ถือไว้ในมืออีกข้าง ใครมีไข้สูงถือว่ามีความเสี่ยงและจะต้องโดนจับไปตรวจอย่างละเอียดบนรถอีกรอบ หากพบว่าเป็นบวกคือเรียบร้อย! ต้องถูกส่งเข้าสถานกักกันทันที

.

ปากก็อ้างว่ารักษาแต่ความจริงคือการเอาคนไปสกัดเป็นยาเสียมากกว่า นี่เหรอหมอ? นี่เหรอบุคลากรทางการแพทย์ที่ใครต่างก็คาดหวัง

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 78 : ทะเลแหวก

    “ผมทุบกระป๋องก๊าซได้รึยังพี่แพรว!”หนูน้อยป้องปากตะโกนถาม ภายใต้กระแสลมต้านที่พุ่งอัดเข้ามาอย่างรุนแรง .ณ ตอนนี้หัวเรือกำลังเชิดทำมุมราว 30 องศา มันแล่นแหวกอากาศและโดนน้ำทะเลน้อยมาก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร เพราะทุกครั้งที่แรงพุ่งจากก๊าซด้านหลังเริ่มซาลง ส่วนหน้าที่โบ๊ทรับผิดชอบอยู่ก็จะเป็นที่แรกที่โดน Covid-19 เล่นงานก่อนส่วนอื่น แพรวจึงรีบตะโกนตอบน้องกลับไปในเสี้ยวอึดใจ.“รอจังหวะให้เรือช้ากว่านี้อีกนิดแล้วจัดการเลยโบ๊ท! เราต้องทำงานให้สัมพันธ์กันนะ งั้นจะใช้ประโยชน์จากก๊าซได้ไม่เต็มที่!”“เราอาจจะหนีไปไม่พ้นเมืองหลวงก็ได้ ถ้าก๊าซในสต็อกเราหมดก่อน!”.“ครับพี่.. ผมเข้าใจแล้ว!”.ร่างเล็กของเด็กประถมก้มต่ำลงจนลำตัวแทบจะครูดกับพื้นเรือ โบ๊ทเจตนาจะทำให้ตัวเองสัมผัสโดนลมให้น้อยที่สุด พลันกระเถิบตัวขึ้นหน้ากระดืบ ๆ ไปราวกับตัวหนอน กระทั่งมาถึงจุดที่เป็นมุมสามเหลี่ยมตรงหัวเรือได้สำเร็จ ที่นี่เขาก้มลงไปมองผืนน้ำด้านล่างได้อย่างสบาย อ่านค่าความเร็วจากการกะด้วยสายตา แล้วทันทีที่เห็นว่าเรือเริ่มช้า เขาก็ได้ทุบก๊าซกระป๋องหนึ่งแล้วก็ปามันลงไป.“ตูมมมมม!!!!”.“ฟู่~~~!!!!!!!

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 77 : ออกทะเลแกรนด์ไลน์

    “ซ่าาาา~!”เสียงโครงเรือยอร์ชที่ยังต่อไม่เสร็จกระทบผิวน้ำกระซ่านเซ็น พอดีกันกับโดรนอารักขาที่ใช้งานได้โคตรจะคุ้ม มันตัดสายเคเบิลที่ยึดโยงออกไปหมดสิ้น พลันลอยขึ้นไปบนฟ้าเพื่อทำหน้าที่ฉายไฟส่องสว่างลงมา ราวกับสปอร์ตไลท์ตามสนามกีฬากลางแจ้ง.“แชะ! , แชะ!”.ราตรีกาลเข้าครอบครองท้องฟ้า ส่วนท้องธาราก็เป็นไปตามการคำนวณ ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจริงเฉกเช่นที่แพรวฟันธงเอาไว้ ต่างคนต่างรีบกระโจนลงเรือ และแม้ตัวบอดี้จะโคลงเคลงหนักมาก แต่ก็นับว่าดีอย่างที่ยังพอจะแบกรับน้ำหนักของทุกคนไหว ในส่วนนี้ต้องยกเครดิตให้กับทักษะของช่างต่อเรือ หรือไม่ก็เศรษฐีเจ้าของทุนทรัพย์ เพราะลำพังก้าวแรกที่ย่ำลงมา แพรวก็เห็นแล้วว่าทุกส่วนของโครงสร้างล้วนทำขึ้นจากวัสดุชั้นเยี่ยมเกรดพรีเมี่ยมทั้งสิ้น .เธอสั่งให้สองเด็กสาวเพื่อนเจนิสเอาเศษไม้แผ่นแบน ที่วางกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปมาทำเป็นที่คัดท้าย มีความโชคดีอย่างที่ของเหล่านี้ไม่ใช่ของหายากอะไรนัก ถ้าอยู่บนเรือที่ยังต่อไม่เสร็จ หลังจากนั้นก็สั่งให้พวกเธอ Stand by รอคัดท้ายตามคำสั่งอีกที ก็เลยเหลือแต่เจนิสกับโบ๊ทที่ยังว่างงานและยังไม่ได้รับมอบหมายให้ทำอะไร.เรือค่อย ๆ แล่นออ

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 76 : เรือยอร์ชที่เคยหรู

    นั่นจึงเท่ากับว่าน้ำในทะเลอาจจะไม่ปลอดภัย บางทีแม่น้ำสาขาทุกสายก็อาจจะปนเปื้อนไปด้วยเชื้อแล้วก็ได้ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงโบ๊ทจึงได้ขยับนิ้วมือกับแหวนทั้ง 5 ของเขาอีกที .“ฟิ้ว~!”โดรนอารักขาลำเก่งโฉบปักหัวลงมาจากเบื้องบน ราวกับพญาอินทรีย์พร้อมเข้าประจำที่.มันยื่นท่อนเหล็กสีเงินลักษณะคล้ายก้านปรอทวัดไข้ออกมาจากลำตัวส่วนล่าง ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่กระสุน .35 มม. จำนวนมหาศาลร่วงกราวลงมาเมื่อตอนก่อน ความยาวของอุปกรณ์ชนิดนี้น่าจะราว 2 ไม้บรรทัดเห็นจะได้ และโบ๊ทเรียกมันว่า “โคโรน่ามิเตอร์” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีไว้สำหรับตรวจหาเชื้อโควิดโดยเฉพาะ.เขาสั่งการให้โดรนอารักขาหย่อนมันลงไปในน้ำทะเล แกว่งส่ายวนคนไปมาราว 20 - 30 ทีโดรนก็ยกตัวเองขึ้นจากน้ำ ปรากฏว่าไฟสถานะบนลำโดรนถึงกับแดงโล่! การลิงค์สัญญาณเกิดขึ้นทันที ก่อนจะฉายค่าสถานะและชุดข้อมูลพร้อมกับผลแล็บไปยังกระจกครอบแก้วที่โบ๊ทสวมใส่อยู่ พลันเปลี่ยนใบหน้าบ่องแบ้วของเขาให้กลายเป็นจอแสดงผลไปในบัดดล.“มันก็เหมือนการ “swab”(สว็อป) ตอนเราไปให้หมอแหย่จมูกนั่นแหละครับพี่ ๆ แค่เปลี่ยนจากรูจมูกคนเป็นน้ำทะเล ว่าแต่ผลเป็นไงบ้างครับ? ”โบ๊

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 75 : Drink water

    ห้าชีวิตกับอีกหนึ่งลำโดรนย่างกรายเข้ามายังโซนลับแลแห่งนี้ด้วยความมุ่งมั่น ย้อนกลับไปไม่ได้คือเหตุผลข้อที่หนึ่ง ส่วนการไปต่อไม่ได้เพราะข้างหน้ามีแต่ทะเลคือเหตุผลข้อที่สอง แพรวก็เลยเดินนำหน้าแบกกระเป๋าเป้อาด ๆ พลางควัก Glock 18 อาวุธประจำกายขึ้นมาประทับเล็งเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เรียนตามตรงว่าท่าเรือเป็นแอเรียที่เธอมีข้อมูลน้อยมากเมื่อเทียบกับที่อื่น ที่นี่แทบจะไม่ได้ถูกเขียนรายละเอียดใด ๆ ไว้ในแผนที่เลย ฉะนั้นหน้าที่ของมันจึงจบลงเพียงเท่านี้.“พรึบ!”แพรวพับแผนที่เก็บเข้าไปในกระเป๋า สื่อให้ทุกคนเห็นว่าแต่นี้ต่อไปคือการด้นสดล้วน ๆ พลาดก็คือตายและถ้าไม่อยากตายก็จงอย่าพลาด.“ระวังตัวด้วยทุกคน เราจะเข้าไปในโกดังนั่นดู คิดว่าน่าจะเป็นคลังเก็บสินค้าและบันไดลงสู่ท่าเรือก็น่าจะอยู่ในนั้น”แพรวกระซิบบอก.เช่นกันกับเจนิสกับเพื่อน ๆ ที่ต่างก็ระวังหน้าระวังหลังให้กันเป็นอย่างดี เธอจับมือโบ๊ทเอาไว้แทบจะตลอดเวลา โดยหารู้ไม่ว่าโดรนอารักขาที่ลอยอยู่บนฟ้า นั้นมีขีดความสามารถที่สูงกว่าคนจริง ๆ อย่างพวกเธอสามคนรวมกันซะอีก.“ไม่เป็นไรครับพี่เจนิสไม่ต้องดูแลผมดีนักหรอก ทางที่ดีผมว่าพ

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 74 : ไปไหนไปด้วยเราก็ช่วย 2 บาท

    พรรคพวกของโบ๊ทมีกันอยู่หลายคน แล้วก็ดำรงชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ จากการตามล่าของพวก AP เหมือนกับแคลนอื่น ๆ พวกเขามี LGBT รวมอยู่ในกลุ่มเยอะ ก่อนที่ความผิดพลาดจะมาเกิดขึ้นที่ท้องฟ้าจำลอง เมื่อหน่วยแพทย์ของ AP ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมเกิดย้อนกลับมาเช็คทรัพย์สิน มีการปะทะกันเกิดขึ้น! แคลนของโบ๊ทแตกเป็นเสี่ยงเนื่องจากไปถือวิสาสะยึดเอาแลนด์มาร์คตรงนี้เป็นจุดพักแรม ผู้คนก็เลยถูกกวาดต้อนไปเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงพ่อแม่ของเขาด้วย .ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมโบ๊ทถึงรอดมาได้นั้น ก็อยู่ที่แหวนทั้ง 5 วงบนนิ้วมือของเขานั่นเอง อุปกรณ์ชิ้นนี้มีไว้ใช้บังคับโดรนมากกว่า 150 ลำ บางลำเป็น Riot โดรนติดอาวุธหนัก บางลำเป็นโดรนอารักขา ส่วนบางลำก็เป็นโดรนข่าวสาร โบ๊ทใช้พวกมันอย่างคล่องแคล่วในการต่อสู้กับพวก AP และขับไล่พวกทรราชเหล่านี้ออกไปจากอาคารท้องฟ้าจำลองได้เป็นผลสำเร็จ ทว่าก็ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นการอยู่คนเดียวในอาคารหลังโตแบบโดดเดี่ยว พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว เพื่อนฝูงพี่น้องก็โดนหางเลขไปด้วยหมด.ย้อนกลับไปหลายตอนก่อนหน้านี้ เราจึงได้เห็นโบ๊ทใช้กล้องโทรทัศน์ส่องหาแคลนที่ยังมีผู้รอดชีวิตไปทั่วเมือง จนกระทั่งมาพบกับกลุ่

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 73 : โบ๊ท

    เสมือนหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่กระเสือกกระสนหาทางรอด ตัวเป็นจักรกลทว่าข้างในคงมีจิตวิญญาณของปลาช่อนที่กำลังจะโดนทุบหัวบรรจุอยู่ Riot โดรนถึงได้แสดงพฤติกรรมเกรี้ยวกราดดังที่เห็น เปลวไฟพ่นออกมารอบทิศราวกับลูกข้างที่รวมร่างกับกระบองไฟ มันพ่นขู่คำรามแล้วก็ได้ผล เมื่อกลุ่มเรดี้ทั้ง 4 นางต่างก็ถอยกรูออกห่างไปทุกที พอเจนิสลองสืบเท้าเข้าไปใกล้มันก็พ่นไฟออกมาใส่อีก.“อ๊ายยย! ไม่ได้เลยพี่แพรวไฟร้อนมากค่ะ!”เธอรีบผินหน้ากลับมาบอก.สวนทางกับแพรวที่มีประสบการณ์มากกว่า หลังจับสัญญาณได้จากไฟสถานะบนตัวโดรนที่มีการกระพริบเปลี่ยนจังหวะไป พลางบอกให้น้อง ๆ ตระเตรียมอาวุธขึ้นมือเอาไว้.“ไม่เป็นไรเจนิส.. ไม่ต้องเข้าไปหรอก.. เราแค่ต้องตามเจ้านี่ไปก็พอ”.“ไปไหนอ่ะพี่?”.“เดี๋ยวก็รู้! เจ้าโดรนนี่ไม่มีทางทำแบบนี้ได้ถ้าไม่มีใครบังคับ.. เชื่อฉัน!”.แล้วก็จริงอย่างที่แพรวสันนิษฐาน ผ่านไปราว 3 นาทีกับอีกนิดหน่อยแก๊สในตัวก็หมดลง จากไฟพุ่ง ๆ ตอนนี้แค่ถ่มถุยออกมายังยากลำบาก ไหนจะท่วงท่าการบินที่กระท่อนกระแท่นเต็มทีนั่นอีก เพดานบินเริ่มลดระดับต่ำลง Riot โดรน เริ่มเบี่ยงเส้นทางบินหนีออกไปอีกฝั่งผ่านการร่อนที่เอียงกระเ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status