Mag-log inเทปกาวหลายขนานปิดทับช่องว่างใต้ประตู ขอบหน้าต่างอัดแน่นไปด้วยกาวยางซิลิโคน ชนิดที่แม้แต่แมลงวันสักตัวก็แทรกผ่านเข้ามาไม่ได้ แอร์ถูกปิด เปิดเพียงระบบฟอกอากาศพอให้ได้ใช้หายใจ และถ้าหากฆ่าแพรวที่มีส่วนร่วมในการแย่งหายใจทิ้งได้ พีก็คงทำไปแล้ว
.
“มึงเว่อร์อ่ะอีพี!”
แพรวตะโกนบอก ขณะนั่งกดโทรศัพท์เล่นอยู่บนโซฟา
.
“ช่างมึงสิ! ก็นี่มันห้องกู ๆ จะทำอะไรก็ได้ มึงไม่เห็นสิ่งที่มิวท์ทำเหรอ? มึงเห็นกับตาแล้วมิใช่รึไงว่าข้างนอกนั้นเป็นยังไงบ้าง กันไว้ดีกว่าแก้นะมึง!”
ร่างหนาดั่งหมีป่าแบกตู้กับข้าวโครม ๆ พีลากมันมากั้นประตูหน้าห้องเอาไว้ เขากลัวเชื้อไวรัสขึ้นสมองจนต้องรีบกลับมารีโนเวทห้องตัวเอง ให้เป็นดั่งห้องปิดตายอย่างที่เห็น
.
“เฮ๊อะ! ตื่นตูมชะมัด! ต่อให้มีโคนัน 10 คนก็ไขเข้ามาไม่ได้หรอกถ้ามึงทำขนาดนี้”
แพรวประชด
.
“ไม่ช่วยก็อย่าพาลดิ กูรู้หรอกว่ามึงคิดอะไรอยู่ในหัว ทำเป็นกลบเกลื่อนความเสียใจใช่ไหมล่ะ? ตอนซ้อนมอไซต์กูกลับมามึงถึงไม่พูดไม่จาสักคำ”
.
เจอประโยคนี้เข้าไปเล่นเอาสาวเจ้าถึงกับจุก แพรวเสยผมหนึ่งทีถึงรู้ว่าใบหน้าที่เคยขาวเด้งบัดนี้มีแต่คราบน้ำตา พีแทบไม่อยากเชื่อว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเห็นแพรวนั่งนิ่งไม่สนใจโลก แต่แท้ที่จริงแล้วเพื่อนกลับชุ่มโชกไปด้วยความเศร้าโศก
.
“ฮะ..ฮือ..อ..อ~!”
มุมปากเบ้ออกข้างทำเหมือนจะร้อง
.
สตรีผู้มีสามีคนเดียวกับเพื่อนลุกขึ้นยืนกอดอก พลางเลี่ยงสายตามองไปทางอื่น สุดวิสัยที่พีจะต้องรีบเข้าไปปลอบ
.
“เฮ๊ยแพรวกูขอโทษ ปากกูไม่ดีเอง มึงทำใจดี ๆ ไว้นะ”
“เดี๋ยวมันก็ผ่านไปมึง อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด สันดานคนมันไม่ดีมึงจะไปแก้อะไรได้”
“มึงร้องไห้ไปทั้งมิวท์ทั้งพี่เปรมเขาก็ไม่รู้หรอก มีแต่ตัวมึงแล้วก็กูนี่แหละที่ต้องแบกรับแทน”
ร่ายยาวเป็นฉาก ๆ ปากพูดไปมือก็โอบไหล่เพื่อนไว้ด้วย
.
เพื่อนก็ห่วงโรคก็กลัวไวรัสร้ายไม่เข้าใครออกใคร ในยามที่ยาฆ่าเชื้อกับแอลกอฮอล์หาซื้อลำบาก วิธีไหนพอจะทำได้ก็ต้องทำไปพลางก่อน นี่ถ้าวันหนึ่งวันใดเชื้อเกิดมีแนวโน้มแรงขึ้นกว่าเก่า พีก็เตรียมใจไว้แล้วว่าอาจจะต้องสละเหล้าที่สะสมไว้ เขาคงต้องอาศัยแอลกอฮอล์ที่อยู่ในขวดเหล่านั้นราดรดโซนอาศัยตรงนี้ไปพลางก่อน
.
ดึงสติกลับมา ณ เหตุการณ์ปัจจุบัน ในอ้อมกอดอันสุดล่ำแพรวเอ่ยคำขึ้น
.
“มึงดีกับกูจังเลยพี~!”
หน้าสวยแฉลบสายตาขึ้นถาม กายของพวกเขาติดกันแนบชิด ชนิดที่ระยะห่างที่เกิดขึ้นมีเพียงฝุ่นผงบนโซฟาเท่านั้นที่แทรกตัวเข้าไปได้
.
“เอ้า! ก็มึงเพื่อนกูนี่นา?!”
.
“แต่มิวท์ก็เพื่อนกูเหมือนกันนะ ทำไมถึงทำกับกูแบบนี้ได้ ไม่อยากจะเชื่อเลย ฮึ.. ฮือ.. ฮือ.. ฮือ ๆ ”
น้ำในตาเอ่อล้นดวงเนตร ปลายเล็บจิกลงที่ต้นแขนพีจนเกิดเป็นรอยข่วน
.
“แกร๊ก!”
.
“โอ๊ย! กูเจ็บนะอีแพรว! , อีดอก!”
โน้มตัวลงตะแคงข้างเข้าใส่ บัดนี้กลายเป็นร่างกายของพวกเขาที่หันหน้าเข้าหากันนอนเหยียดขาตีคู่กันอยู่บนโซฟา ตาประสานตาได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจของคนตรงข้าม
.
“พี~~!”
กระเส่ากว่านี้ก็เสียงของนางเอก AV ตอนโดนเล้าโลมแล้ว
.
“มึงเคยได้กับพี่เปรมไหมกูถามตรง ๆ ?”
.
จ้องเขม็งตะแคงมองจริงจัง มือเรียวกรีดกรายขึ้นไปอังกับแผงอกแกร่ง แม้จะแตะโดนแค่เสื้อแต่แพรวก็สำผัสได้ถึงลอนกล้ามแน่น ๆ กับเสียงเต้นของหัวใจพีที่สั่นรัวผิดปกติ
.
“อีบ้า! ไม่เคยโว๊ย! กูแค่ไปกินเหล้ากับพวกพี่ ๆ เขาเฉย ๆ กูไม่เคยคิดจะทำอะไรกับแฟนเพื่อนหรอก ถึงกูจะเป็นเกย์แต่พี่เขาไม่ได้เป็นโอเค๊!”
.
“งั้นที่มึงเล่าตอนอยู่ร้านเหล้าก็โกหกสิ?”
.
จากแค่แตะคราวนี้ปลายนิ้วซุกซนถึงขั้นเขี่ยวนที่ยอดถัน นั่นทำให้แพรวรับรู้ได้ถึงความชูชันอันเกิดจากการปลุกเร้า พีจึงรีบสวนคำกลับ
.
“กูไม่ได้โกหก!”
.
“งั้นก็พิสูจน์มา!”
.
“อะไร?! ยังไง?!”
.
“จูบปากกู!”
.
“เพื่อ..?”
“มึงเป็นบ้าเหรอ..อีแพร..ว..ว… อุ๊บ!!!”
.
“จุ๊บ ,จุ๊บ , จ๊วบบบ..บ..บ..บ , จุ๊บ”
.
ให้ตายเถอะพับผ่า! ชั่วเสี้ยววินาทีแห่งความสับสนในอารมณ์ทางเพศ แพรวก็ได้จู่โจมเข้าก่อน หล่อนยื่นริมฝีปากตัวเองเข้าไปประกบกับพี ทั้งยังมีการสอดลิ้นเข้าไปเวียนวนจนสาสมใจ รสสัมผัสนั้นเต็มไปด้วยความรุนแรงหน่วงหนัก พีพยายามจะดึงรั้งแต่ก็ถูกแพรวขืนเอาไว้ บางจังหวะก็ถึงกับตบแขนของพีออก
.
“จ๊วบบบบ..!”
“จุ๊บ! , จุ๊บ! , จุ๊บ!”
.
“อ่าาา~! เอากับกูสิพี~! เอากู! กูมันผู้หญิงขี้เงี่ยนที่ไร้ค่าไม่มีราคาอะไร อ่าาา~!”
“ก็แค่อีตัวที่ถูกผู้ชายฟันแล้วก็ทิ้ง , อืม , อ่าาา..า..า..า"
.
" จุ๊บ , จุ๊บ , จุ๊บ , จ๊วบบบ! ”
.
สติแพรวหลุดไปไกลมาก จนพีต้องกลั้นใจสุดแรงเกิดเพื่อผลักแพรวให้กระเด็นออกไปห่าง ๆ ทั้งสองรุกขึ้นนั่งหยุดการกระทำทุกอย่าง แล้วคุยกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไม่สิ! พีตะโกนอัดหน้าแพรวเลยต่างหาก
.
“อีแพรว! อีบ้า! ผีเข้ามึงหรออีห่า?!”
พูดไปพลางเช็ดคราบน้ำลายออกจากปากตัวเองไปด้วย ชายหนุ่มเร่งจัดระเบียบเสื้อผ้าตนเองบัดสีบัดเถลิงที่สุด ตุ๊ดที่ไหนจะรับได้เกือบถูกชะนีปล้ำ
.
แพรวก็เลยตอบกลับไป
.
“ก็พิสูจน์ไง? พิสูจน์ว่าเพื่อนแต่ละคนจะจริงใจกับกูรึเปล่า กูรู้จักกับคนไหนคนนั้นแม่งหักหลังกูหมด!”
“มึงเองก็ด้วย มึงไม่ต้องทำเป็นพูดดีเลย อยากเอากูก็บอกเหอะ!?”
.
จบคำพูดนี้เจ้าของหุ่นสวยก็สานต่อ แพรวปรี่เข้าไปคร่อมทับร่างของพีไว้ในท่านั่ง เธอสอดมือเข้าไปใต้เป้ากางเกงเขาก่อนจะใช้เพียงปลายนิ้วเกลี่ยแยงเบา ๆ พอให้ได้อารมณ์
.
“ซีดดดดดด~!”
.
“อย่าแพรว.. กูขอร้อง.. กูไม่หักหลังมึงหรอก.. กูสาบาน”
“มึงทำแบบนี้.. กูกลัวใจตัวเอง.. โอ๊ยยย..ย..ย.. อย่าแพรว..ว.ว.ว~!”
.
“อื้อ!!!”
.
“หึ..!”
แพรวได้แต่แสยะยิ้มเธอไม่แม้แต่จะปริปากพูดอะไรเพราะหลักฐานก็เห็นอยู่ทนโท่ แม่งเกร็งโด่อย่างกับสากตำน้ำพริก ไหนล่ะที่บอกว่าจะไม่เอาเพื่อน ทำจู๋แข็งใส่เพื่อนสนิทได้นี่คือสิ่งที่คนเป็นเกย์เขาทำกันงั้นเหรอ
.
มือเรียวยังคงชักต่อ มันตะกุยเขี่ยแท่งเอ็นมหัศจรรย์ราวกับเห็นเป็นคอนโทรลเลอร์ของเกมเพลย์สเตชั่น ข้อมือหมุนติ้วปั่นควงชักเข้าชักออก ฝั่งเปรมเองก็ไม่หยอก เขาเร่งใช้เท้าเขี่ยเอากางเกงของตนออกไปไกล ๆ
.
“ไม่ไหวแล้วโว๊ย!!!”
“อ่าาาา…อั๊กก…ก…ก…ก”
“กูเตือนมึงแล้วนะแพรว!…อื้อ..อ..อ..อ..อ่าาา”
.
“ก็เอาสิ! เอาเลย! ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ผู้ชายมันก็สันดานเดียวกันทั้งโลก”
ฟังก็รู้ว่าประชด
.
แต่!
.
“ซีดดดด! มึงนี่มันนน!”
กัดฟันแน่นเสียวสะท้านปลายเท้าแทบจะหงิกงอเป็นยอดผัก ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ณ ตอนนี้พีเหลือแค่เสื้อผ้าท่อนบนเท่านั้นที่ยังไม่ได้ปลดเปลื้องออกไป ก่อนที่แพรวจะแทรกขึ้น
.
“ต่อไปกูจะอมแล้วนะ?”
.
“อย่า!!!”
.
“เอ้าพี! ทำไมต้องปฏิเสธล่ะ มึงโกหกร่างกายตัวเองไม่ได้หรอกนะ มึงอ่ะแข็งใส่เพื่อน! ”
.
ถึงตรงนี้ระเบียบร่างกายก็ได้มีการเปลี่ยนแปลง แพรวยืดตัวเองกระเถิบขึ้นด้านบนพลางปล่อยให้เปรมนั่งถ่างขาเอาแผ่นหลังพิงโซฟาเอาไว้ มันคือท่า cow girl ตามแบบฉบับของชาวอเมริกัน เพียงแค่ขย่มไม่กี่ครั้งกระดูกเชิงกรานก็จะกระแทกกับหัวหน่าวในจังหวะที่เร้าใจฟินโคตร ๆ
.
แต่ก็ไปไม่ถึงฝันเพราะพีที่เป็นคู่นอนดันเกิดอาการตบะแตกขึ้นมาซะก่อน เขากลายเป็นเกย์เสินเจิ้นไปแล้ว ทันทีที่พ่ายแพ้ให้แก่กลิ่นกายสาวของเพื่อนและเรือนร่างอันอ้อนแอ้นแอ่นนูน
.
“พรวดดดดด!”
.
“ว๊ายยย!”
.
สปริงตัวขึ้นทีเดียวเนื้อตัวแพรวก็ถึงกับกระเด้งกระดอน เธอนอนเอียงกระเท่เร่อยู่บนโซฟาขาไปทางแขนไปทางกลับหัวกลับหาง โดยมีร่างหนาถมึงทึงของพียืนค้ำในมุมสูง เขาเอาเธอแน่เธอรู้สึกได้ ตอกย้ำสิ่งที่คิดด้วยคำพูดคำจาที่คิดไว้แล้วว่าคงได้ยินเข้าในสักวันหนึ่ง
.
“มึงยั่วกูเองนะอีแพรว!”
“ถ้าอยากโดนนักกูก็จะจัดให้ เอาให้แม่งคลานไปฉี่ไม่ไหวเลยคอยดู!”
.
เค้นเสียงแน่นในลำคอเสียงกรามขบกันเหมือนจะแตก แถมไม่มีพฤติกรรมเกย์ที่หลงเหลือ พีพุ่งเข้าไปขย้ำแพรวโดยไม่ทันให้ตั้งตัว เขาขึ้นคร่อมทับร่างกดน้ำหนักตัวทั้งหมดขึงให้แพรวไร้ซึ่งการขัดขืน ตามติดมาด้วยการสอดฝ่ามือเข้าไปใต้ชายเสื้อ ตวัดแค่ทีเดียวเสื้อยืดคอกลมตัวบางก็ฉีกขาดเป็นแนวลึกแหกเป็นสองซีก
.
“แคว๊กกกกกก!!!”
.
“กรี๊ดดดด! , เบาหน่อยพี!”
.
“เบาพ่องมึงสิ! กูทนไม่ไหวแล้วโว๊ย! นมมึงใหญ่มาก!”
.
เป็นอีกครั้งที่พละกำลังอยู่เหนือทุกอย่าง ไม่ถอด! ไม่ปลด! ไม่แกะ! ห่าไรทั้งนั้น! พีแค่ทำการขย้ำแล้วก็กระชาก! สายเสื้อในสีพาสเทลขาดกระจุย! เขาปามันทิ้งไปด้านหลังแบบไม่ไยดี พอก้มหน้าลงมาก็เห็นเป็นเนินภูเขาคู่ที่กระเพื่อมดีดเด้งต้านทานแรงโน้มถ่วง
.
“ซีดดดดดดดด!”
.
ความกำหนัดกามสะท้านทรวง เพื่อนก็เพื่อนเถอะเกย์ก็เกย์เถอะในเมื่อผู้หญิงเขายั่วจะให้ทำยังไง อดใจไม่อยู่กระบวนการสมสู่จึงเริ่มต้นขึ้น พีเข้าเกียร์หนึ่งด้วยการซุกหน้าลงมาเลีย
.
“แผล็บ!”
.
“อื้อออ~! พี~! กูเสียว..ว..ว..ว~!”
เจนิสโผเข้าหาแบบไม่สะทบสะท้าน เธอปล่อยชายเสื้อหลุดลุ่ยออกจากลำตัวทิ้งลงเบื้องล่าง พลางเผยอริมฝีปากขบลงที่ซอกคอของมิวท์."งั่ม.. ม.. ม.."เบามากจนเหมือนกับการแทะซะมากกว่า ด้วยเพราะรู้ว่าถ้าหนักกว่านี้พี่สาวคงเจ็บ และจะให้อารมณ์ที่รุนแรงเกินกว่าคำว่าเงี่ยนไปไกลโข เจนิสจึงพยายามจะเลี้ยงไว้ด้วยการละเลงเลีย."หยุดนะน้อง.. นี่เธอคิดจะทำอะไรกันแน่! ไม่เห็นหรือไงว่าฉันติดเชื้อ! อยากตายไปด้วยกันงั้นเหรอ?!"มิวท์ตะโกนดุเสียงดังสนั่น ทุกอย่างประเดประดังเข้ามาหาเธอแบบไม่ทันตั้งตัว มีอย่างที่ไหนได้สติขึ้นมาก็ดูทรงจะต้องเย่อร์กับผู้หญิงซะแล้ว เป็นใครมันจะทำใจได้ แถมยังเป็นเรดี้ที่มาจากไหนก็ไม่รู้ต่อให้เป็นเด็กหน้าตาดีไฟหน้าใหญ่เบิ้มแค่ไหน ถ้าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่! มิวท์เอาแค่กับผู้ชายแล้วเธอก็ไม่ต้องการแพร่เชื้อให้ใครอีกแล้ว.เจนิสก็เลยอ้อนกลับ."โถ่พี่มิวท์.. ก็ทำแบบที่พี่มิวท์ทำกับคนอื่น ๆ ไง เวลาผู้ติดเชื้อจะขย้ำใครก็มักจะกัดที่คอแบบนี้ก่อนไม่ใช่เหรอ?""หนูอ่ะ.. แค่อยากลองทำแบบพี่ดูบ้าง.. พี่จะได้ไม่เกร็ง.."."งั่มมมม!""งับ! , งั่ม.. , งั่ม.. , งับ! , งับ! , งับ!""แผล็บ, แผล็บ , แผล็บ , แผล็บ
หน้าท้องแบนราบบดนาบเข้าหากัน มิวท์อยู่บนเจนิสอยู่ล่างการสั่นเทิ้มดังกล่าวค่อย ๆ ทุเลาลง แล้วก็ดูเหมือนว่าเรี่ยวแรงที่ใช้ห้ามหั่นจะเอาชีวิตของมิวท์ก็เริ่มอ่อนแรงลงเช่นกัน เธอค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาวะของคนปกติ จุกหัวถันชูชันเกร็งเสียว และแม้แต่กงเล็บที่ยื่นยาวออกมาก็เริ่มหดสั้นกลับลงไป."พี่มิวท์คะ.."เจนิสกระแอมถามทั้งที่ใบหน้ายังคงบี้อยู่กับร่องนมของมิวท์ เธอผินหน้าเอียงเปลี่ยนมุมไปมาพอให้มิวท์ตื่นตัว สลับกับการแลบลิ้นเลียที่ฐานเต้าด้านล่างพลันลากวนโค้งไปตามความอวบอูมของบัวตูมคู่."แผล็บ.. บ.. บ.. บ!"."อ่าาา..า..า..า..า.."รุ่นใหญ่เผลอหลุดครางออกมาแผ่วเบา ลมหายใจร้อนผ่าวพ่นพรูออกมาทดแทนไอแห่งความเหม็นสาปจากเชื้อโควิด ตามติดมาด้วยผิวพรรณที่กลับมามีน้ำมีนวลเป็นสีชมพูบานสะพรั่งอีกครั้ง นี่คือผิวแบบลูกคุณหนูขนานแท้ มันคงผ่านการทำสปาร์มาจากหลายสถาบัน จึงไร้ซึ่งรอยด่างรอยดำ กระจ่างใสราวกับหลุดออกมาจากกระปุกครีม ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอะไรที่โคตรจะน่าฟัด!.ทว่าพอต้องมานอนคร่อมร่างของเด็กมัธยมอยู่แบบนี้ จิตใต้สำนึกของมิวท์ก็ต้องทำหน้าที่ของมันผ่านการปกป้องตัวเอง ทำให้สาวเจ้าต้องตัวกระตุกอีกหน พลั
จากด้านหนึ่งสู่อีกด้านหนึ่ง สาวน้อยวัยมัธยมเร่งฝ่ามือกระโจนโผทะยานไปสู่ตำแหน่งที่คิดว่าได้ยินเสียง พลางผงะเข้ากับรอยโหว่บนตัวเครื่องที่เกิดจากบานประตูที่กระเด็นออกไป แสงสว่างจากหลอดไฟภายในส่องลอดออกมาเป็นลำ นาทีนั้นแม้แต่แท่งไฟในมือเธอก็คงจะไม่จำเป็นซะแล้ว."มีการต่อสู้กันงั้นเหรอ?"เจนิสกระซิบ.พูดกับใครก็ไม่รู้ในเมื่อก็อยู่ตัวคนเดียว เหมือนเธอกำลังประเมินสถานการณ์ ข้างหน้ามีศพ ข้างหลังประตูพัง แล้วเมื่อกี้ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกรี๊ด! นั่นอาจจะเป็นเสียงของมิวท์ก็ได้ บางทีเธออาจจะอยู่ในสภาวะวิกฤต."หรือมีผู้ติดเชื้อบุกเข้ามาทำร้ายพี่มิวท์?!".คราวนี้ไม่คิดแล้วแต่เหวี่ยงร่างกายเข้ามาในเครื่องเลย! โดยไม่สนหน้าอินท์หน้าพรหม เจนิสใช้แรงเหวี่ยงจากกระเป๋าเป้ตวัดทีเดียวร่างบางของเธอก็ม้วนหน้าเข้ามาด้านในราวกับนักยิมนาสติก เสี่ยงตายไม่ว่ามารยาทไม่ต้องทุกสิ่งที่ทำล้วนมาจากความต้องการจากหัวใจ ทว่าสิ่งที่เธอเห็นก็คือ...มิวท์ในเวอร์ชั่นผู้ติดเชื้อ.. ที่ยืนจังก้าเล็บยาวเฟื้อยลากมากับพื้น.!.หากย้อนกลับไปอ่านสักหน่อย จะเห็นเลยว่าบุคลิกของมิว์นั้นใกล้เคียงกับเปรมตอนที่รอเย่อร์เธอในห้องกระจกมาก
ปลายนิ้วแห้งผากราวกับกระดาษทราย กว่าจะสัมผัสได้ถึงหยดน้ำหยาดแรกกลีบผกาก็ช้ำมากจนออกสีแดงแกมระเรื่อ มิวท์เสียวแค่ในใจแต่ร่างกายกลับไม่เป็นดังที่หวัง เธอเอาแผ่นหลังพิงกับกำแพงห้องโดยสารพลางหลุบสายตามองเรียวขาของตัวเองทั้งสองข้างที่ตั้งชันขึ้นและกำลังสั่นระริก เธอเร่งเกินไปเธอฝืนทั้งที่ไม่ได้เงี่ยนจริง.ตอกย้ำการโกหกตัวเองด้วยการดีดกางเกงผ้ายืดที่พันอยู่กับข้อเท้าออก เธออยากเห็นความงุ้มเกร็งของปลายตีน เผื่อจะทำให้มีอารมณ์กระสันขึ้นมาต้านทานการกลายร่างได้บ้าง."ซีดดดด...จิ๋มแห้งจัดเลยอ่ะโถ่เอ๊ย!".แท่งน้ิวเปลี่ยนจากสองเป็นสาม ชี้ , กลาง , นาง เรียงตัวเป็นขยุมพลันยัดเข้าไปแบบสุดเหยียดก็แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลหล่อนจึงได้รับแต่ความเจ็บปวดกลับมา แรงเสียดสีที่ขาดน้ำหล่อลื่นเป็นอะไรที่ทำร้ายช่องคลอดมาก มิวท์เหมือนกำลังทำทารุณกรรมกับตัวเอง และที่สำคัญที่สุดก็คือ ณ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ มุมมองสายตาของเธอก็เริ่มเห็นเป็นฉากสีแดงและเส้นเลือดยึกยือถักทอขึ้นมาแล้ว!."เรากำลังจะกลายร่าง.. อ่ะ.. อ๊ากกก..ก..ก..ก , อั๊ก..ก..ก!""เด็กผู้หญิงคนนั้นกับแท่งไฟส่องสว่างในมือ ทำให้เชื้อโควิดในตัวเรากำลังจะออกมา..
ภาพในฝันประเดประดังเข้ามาในหัว ภาพของการสังวาชกันในน้ำ ภาพของมิวท์สาวสวยหุ่นงามที่ถูหน้าอกบี้บดกับแผ่นหลังของเธอ สิ่งเหล่านี้ทำเอาเจนิสถึงกับมือไม้สั่น แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นโลโก้ของบริษัท AP ตรงท้ายเครื่องบิน และจากจุดที่ยืนอยู่ก็สูงและมืดเกินกว่าจะพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณที่ติดตัวมายังไงเธอก็ว่าใช่ นี่ต้องเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ตั้งใจออกมาตามหาแน่นอน."เอาไว้ก่อนเรื่องช่วยเหลือผู้คน เสียใจด้วยนะคะน้า แต่ก็ต้องขอบคุณด้วยเหมือนกันนี่ถ้าไม่ใช่ลูกผัวน้าหนูคงไม่ได้เจอกับเครื่องบิน"."ปั๊ก! , ฟู่..!!!"จากอุปกรณ์จุดไฟในมือกลายเป็นแท่งไฟส่องสว่าง มันถูกกระทุ้งด้วยหัวเข่าและเปล่งแสงสว่างโพลงออกมาทำให้ทั้งสองฟากของซอกเขากลายเป็นสีแดง."รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง" ถ้าจะต้องมีซาวด์ดนตรีประกอบเพลง "เล่นของสูง" ของวงบิ๊กแอสถือว่าเหมาะมาก เพราะเจนิสรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเสี่ยงแค่ไหน แท่งความร้อนเรืองแสงที่ถืออยู่จะกลายเป็นตัวล่อชั้นดีให้บรรดาผู้ติดเชื้อพุ่งเป้ามาที่เธอ แต่ก็นะ! จะให้ทำไงได้ล่ะในเมื่อหัวใจเรียกร้อง.เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดหาเหตุผลให้กับความรัก เมื่อนั้นก็แปลว่
"ไป! ,ไป! ,ไป!, เดินหน้าเร่งฝีเท้าหน่อยทุกคน! ใกล้จะค่ำแล้วอย่าแตกแถวดูแลกันและกันด้วย!"เสียงหัวหน้าหน่วยหันมากำชับ."อีกราว 500 เมตรก็จะถึงประตูหน้าวิลเลจแล้ว ในนั้นทุกคนจะปลอดภัยสบายใจได้"แกผินหน้ากลับมามองตรงพลางกระชับปืนคู่ใจแนบวงแขน แบกเป้ประทับบ่าเดินจ้ำอ้าวรวดเร็วปานจรวด.ที่ด้านหลังมีสมาชิกกลุ่มเพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 20 ชีวิต มีทั้งเด็กและผู้หญิงแล้วก็คนแก่ ทุกคนต่างอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าอิดโรย โดยมีสมาชิกหน่วยลาดตระเวนกระจายตัวล้อมรอบพวกเขาไว้อีกชั้นหนึ่ง พวกเขาต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันแล้วก็โชคดีมากที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากการปะทะกันเมื่อตอนบ่ายเลย.แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำแบบนี้ก็ไม่แน่ ไม่มีใครอยากเสี่ยงกับกลุ่มผู้ติดเชื้อเวอร์ชั่นกลางคืนหรอก หัวหน้าหน่วยก็เลยพยายามย้ำนักย้ำหนาว่าให้ทุกคนเร่งฝีเท้าต้องไปให้ถึงวิลเลจก่อนตะวันตกดินให้ได้ ภาษากายดูจริงจังน่าเกรงขาม แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในใจลึก ๆ นั้นหัวหน้าเป็นห่วงเจนิสมากขนาดไหน."โถ่.. เจนิสเอ๊ย! อุตส่าห์บอกแล้วว่าให้รักษาแนวด้านหลังเอาไว้ ทำไมถึงทำอะไรโดยพลการนะ""นี่เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองเก่งพอจะอาสาไปช่วยเหล







