เปรมที่ยืนอยู่บนท้ายกระบะพร้อมอยู่แล้ว เริ่มมีการขยับแข้งขาให้เข้าที่ ด้านหลังเขาคือตู้ตรวจเชื้อกระจกใส แต่ด้านหน้าคือฝูงชนมากมายที่ทยอยกันเข้ามาแออัดเนืองแน่น ส่วนหนึ่งต้องชมเจ้าหน้าที่ด้วยที่ทำงานได้อย่างขมีขมัน พวกเขากวาดต้อนผู้คนได้ครบจนเกือบหมด ไม่เช่นนั้นภาพที่ออกมาคงไม่คลาคล่ำขนาดนี้
.
หัวหน้าหน่วยเป่าปากพรูส่วนมือก็เริ่มมีการขยับ เปรมเริ่มหมุนจุกก๊อกตรงกลางฝ่ามือออกทั้งสองข้าง พลันทิ้งฝาปิดลงกับพื้นแล้วทันใดนั้นเอง กลุ่มก๊าซสีแดงฉานก็ลอยเอ่อออกมาจากรู บุ๋ง.. บุ๋ง.. บุ๋ง.. บุ๋ง..~!
.
“พร้อมแล้วทีนี้ก็เข้ามาเลย! พ่อจะพ่นให้ร่วงเป็นยุงหน้าฝนเลยคอยดู ไอ้ไวรัสสารเลว ฮึ่ย~!"
.
คิดได้ดังนั้นการลงมือก็บังเกิด สายละอองก๊าซลอยคละคลุ้งเป็นมุมเสยขึ้นไปบนฟากฟ้า อาศัยว่ายืนอยู่บนจุดที่สูงกว่ามวลก๊าซก็เลยโค้งปกคลุมลงมาโดนศีรษะของผู้ติดเชื้อแบบครบทุกคน แดงฉานบานสะพรั่ง ใครใส่เสื้อสีขาวมาเจอละอองแห่งการรักษานี้เข้าไปมีสิทธิ์กลายเป็นหนึ่งในแกนนำนปช.ได้ในทันที
.
แม้กระบวนการจะดูนอกคอกไปนิด แต่ก็ได้ผลดีเหมือนเช่นทุกหน ไม่มีประชาชนคนไหนคิดจะหลบหนีเลย พวกเขาต่างรู้ดีว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่ทำคืออะไร ในเมื่อกระบวนการนี้คือหนทางเดียวที่จะรักษาโรคร้ายที่เป็นอยู่ได้ พวกเขาจึงมีแต่จะจะเบียดเสียดยื้อยุดกันเพื่อเข้ามาใกล้ ๆ
.
“ขอให้ลูกฉันหน่อย ลูกฉันยังไม่ได้เลยเจ้าค่ะ!”
.
“พ่อผมด้วยครับ แกติดเชื้อแกแก่แล้ว เข้าไปใกล้กว่านี้ไม่ได้!”
.
“ทางนี้บ้างครับ! คนข้างหลังก๊าซมาไม่ถึงเลย!”
.
สารพัดคำสบถอีกมากมายที่เปรมกับเหล่าเจ้าหน้าที่ได้ยิน แม้ทั่วบริเวณจะเต็มไปด้วยละอองก๊าซสีเลือด แต่ก็มิวายโดนกระแสความต้องการของประชาชนถาโถมใส่ หมอกโลหิตทำให้ทุกคนกระชุ่มกระชวยอย่างน่าอัศจรรรย์ ผู้ป่วยรายใดที่ติดเชื้อจู่ ๆ ก็หายเป็นปลิดทิ้ง พวกเขาหยุดไอ หยุดมีน้ำมูก อาการต่าง ๆ เกี่ยวกับ covid-19 หายเกลี้ยง
.
คลื่นประชาชนจึงทยอยออกจากเคหะสถานมาสมทบ ปากต่อปากส่งต่อกันทำให้เจ้าหน้าที่ไม่จำเป็นต้องกวาดต้อนผู้คนอีกต่อไป
.
.
จนกระทั่งผ่านไปราว 15 นาทีสถานการณ์ก็เริ่มจะเอาไม่อยู่ ในพาร์ทของฝูงชนนั้นไม่มีปัญหา หากแต่เป็นตัวเอกของเรื่องอย่างเปรมต่างหากที่ชักจะร่อแร่ ฝ่าเท้าที่ใช้ลงน้ำหนักยืนเริ่มสั่นเทาด้วยความอ่อนล้า เปรมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการปล่อยก๊าซเป็นเวลานาน จะผลาญความแข็งแรงของร่างกายเขาถึงเพียงนี้ เนื้อตัวร้าวไปหมด เจ็บปวดสะสมจนแทบจะทรงตัวไม่ไหว หนักสุดก็เห็นจะเป็นฝ่ามือที่พอพลิกขึ้นมาดูก็เห็นแต่รอยแตกร้าวและเสียงกะเทาะ
.
“แกร๊ก..ก..ก..ก..ก..ก!”
.
“เฮ๊ย! อะไรวะเนี่ยะมือเราทำไมถึง?!”
.
ลำกระแสก๊าซเปลี่ยนทิศทางไปในบัดดล ปริมาณการพ่นเริ่มไม่สม่ำเสมอติด ๆ ขัด ๆ ประหนึ่งว่าเปรมนั้นจะควบคุมมวลละอองในฝ่ามือไม่ได้อีกต่อไป กระจัดกระจายมั่วซั่ว ฝอยละอองฟุ้งซ่านราวกับอสรพิษสะบัดหาง
.
รอยร้าวเริ่มลามไปทั่วฝ่ามือ ผิวหนังเทียมค่อย ๆ กระเทาะออกเป็นแผ่น เผยให้เห็นแผงวงจรที่แฝงรวมอยู่กับหนังเนื้ออวัยวะ เปรมจะทำยังไงดีไม่มีใครช่วยเขาได้สักคน ประชาชนด้านล่างก็ยังยืนรออยู่เต็มไปหมด ตอนนี้จึงมีเพียงม่านละอองก๊าซสีจาง ๆ ที่แยกเขาออกจากการมองเห็นของผู้คนนับพัน งานนี้จบไม่สวยแน่ถ้าทุกคนรู้ว่าเขากำลังมีปัญหา
.
แม้แต่มือทั้งสองข้างก็สีเปลี่ยน หัตถ์พระเจ้าของเปรมซีดเผือดลงจนเกือบจะกลายเป็นสีขาวของกระดาษ A4 ไม่มีน้ำไม่มีนวล กรอบแห้งบอบบางราวกับข้าวเกรียบแผ่นในซองขนม ตามติดมาด้วยอาการเลือดกำเดาไหลโดยไม่ทราบสาเหตุ จากจมูกไหลซึมลงมาตามคางพลันหยดย้อยลงใส่ชายเสื้อ โดยไม่เหลือแม้แต่แรงที่จะสูดกลับ
.
ยุติการยกแขนไม่ไหวแล้วพอกันที เหงื่อทุกเม็ดที่ซึมออกมากลายเป็นเลือด ทวารประตูทุกช่องทางน่าจะแตกละเอียด มีเลือดไหลออกมาตามตัวเปรมแทบจะทุกส่วน ไม่เว้นแม้กระทั่งดวงตา ใครไม่เคยเห็นคนน้ำตาไหลเป็นสายเลือดก็ได้เห็นกันในวันนี้
.
“คุณพยาบาลครับช่วยผมด้วย.. ผม..ผมมองไม่เห็น..น..น~!"
.
ทรุดตัวลงทุรนทุรายพลันเอาแผ่นหลังดันกับประตูห้องกระจกเอาไว้ ก่อนจะสไลด์ตัวลงนั่งหลับตาตั้งสติ
.
“ฉันก็ช่วยคุณอยู่นี่ไงคะ ไม่รู้ตัวเลยหรอว่าพิงฉันอยู่ ไม่มีฉันประคองไว้คุณล้มทั้งยืนไปแล้วนะคุณเปรม”
พยาบาลสาวตอบกลับ
.
ซึ่งก็จริงเพราะเธอปรี่ออกจากตู้มาดูเปรมตั้งแต่เมื่อช่วง 5 นาทีก่อนหน้านี้แล้ว ทว่าเป็นเขาเองต่างหากที่เพ้อจนขาดสติ
.
“……..”
เปรมไม่พูดอะไรอีกเลย หมดสติแล้วร้อยเปอร์เซ็นต์
.
จับไปตรงไหนก็มีแต่เลือด เสื้อผ้าชุ่มโชกไปด้วยมวลโลหิตกลิ่นเหม็นคลุ้ง โดยไม่ต้องสืบประสบการณ์บอกกับคุณพยาบาลทันทีว่าเปรมในอ้อมแขนกำลังตกอยู่ในสภาวะ “ขาดเลือด" อย่างรุนแรง เขาจำเป็นจะต้องนอนพักเพื่อให้ร่างกายผลิตฮีโมโกลบิน หรือไม่ก็ต้องหาเลือดใหม่มาเติมชดเชยให้เขา
.
“ฉันไม่แปลกใจหรอกค่ะ ก็คุณเล่นพ่นเลือดออกจากร่างกายมากมายขนาดนั้น”
ส่ายหน้าปลดปลง สาวเจ้าส่ายหัวพลันป้องปากตะโกนเรียกให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนกลับขึ้นรถเป็นการด่วน
.
ภารกิจในวันนี้เป็นอันยกเลิก โครงการจะดำเนินต่อไปไม่ได้ถ้าไม่มีเปรม
.
“ทุกคนกลับกันก่อนค่ะ คุณเปรมจะตายอยู่แล้ว เราจะให้เขาตายไม่ได้นะคะ!"
“เราต้องหาเลือดให้เขาด่วนเลย เขาต้องการเลือด! , เลือด! , เลือด!”
.
เลือดนั้นหาไม่ยากหรอกแต่ปัญหาอยู่ที่เปรมต้องใช้เลือดของ “กระเทย” เท่านั้นนี่สิ แล้วพวกเขาจะไปหามาจากไหน?
“ซ่าาาา~!”เสียงโครงเรือยอร์ชที่ยังต่อไม่เสร็จกระทบผิวน้ำกระซ่านเซ็น พอดีกันกับโดรนอารักขาที่ใช้งานได้โคตรจะคุ้ม มันตัดสายเคเบิลที่ยึดโยงออกไปหมดสิ้น พลันลอยขึ้นไปบนฟ้าเพื่อทำหน้าที่ฉายไฟส่องสว่างลงมา ราวกับสปอร์ตไลท์ตามสนามกีฬากลางแจ้ง.“แชะ! , แชะ!”.ราตรีกาลเข้าครอบครองท้องฟ้า ส่วนท้องธาราก็เป็นไปตามการคำนวณ ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจริงเฉกเช่นที่แพรวฟันธงเอาไว้ ต่างคนต่างรีบกระโจนลงเรือ และแม้ตัวบอดี้จะโคลงเคลงหนักมาก แต่ก็นับว่าดีอย่างที่ยังพอจะแบกรับน้ำหนักของทุกคนไหว ในส่วนนี้ต้องยกเครดิตให้กับทักษะของช่างต่อเรือ หรือไม่ก็เศรษฐีเจ้าของทุนทรัพย์ เพราะลำพังก้าวแรกที่ย่ำลงมา แพรวก็เห็นแล้วว่าทุกส่วนของโครงสร้างล้วนทำขึ้นจากวัสดุชั้นเยี่ยมเกรดพรีเมี่ยมทั้งสิ้น .เธอสั่งให้สองเด็กสาวเพื่อนเจนิสเอาเศษไม้แผ่นแบน ที่วางกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปมาทำเป็นที่คัดท้าย มีความโชคดีอย่างที่ของเหล่านี้ไม่ใช่ของหายากอะไรนัก ถ้าอยู่บนเรือที่ยังต่อไม่เสร็จ หลังจากนั้นก็สั่งให้พวกเธอ Stand by รอคัดท้ายตามคำสั่งอีกที ก็เลยเหลือแต่เจนิสกับโบ๊ทที่ยังว่างงานและยังไม่ได้รับมอบหมายให้ทำอะไร.เรือค่อย ๆ แล่นออ
นั่นจึงเท่ากับว่าน้ำในทะเลอาจจะไม่ปลอดภัย บางทีแม่น้ำสาขาทุกสายก็อาจจะปนเปื้อนไปด้วยเชื้อแล้วก็ได้ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงโบ๊ทจึงได้ขยับนิ้วมือกับแหวนทั้ง 5 ของเขาอีกที .“ฟิ้ว~!”โดรนอารักขาลำเก่งโฉบปักหัวลงมาจากเบื้องบน ราวกับพญาอินทรีย์พร้อมเข้าประจำที่.มันยื่นท่อนเหล็กสีเงินลักษณะคล้ายก้านปรอทวัดไข้ออกมาจากลำตัวส่วนล่าง ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่กระสุน .35 มม. จำนวนมหาศาลร่วงกราวลงมาเมื่อตอนก่อน ความยาวของอุปกรณ์ชนิดนี้น่าจะราว 2 ไม้บรรทัดเห็นจะได้ และโบ๊ทเรียกมันว่า “โคโรน่ามิเตอร์” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีไว้สำหรับตรวจหาเชื้อโควิดโดยเฉพาะ.เขาสั่งการให้โดรนอารักขาหย่อนมันลงไปในน้ำทะเล แกว่งส่ายวนคนไปมาราว 20 - 30 ทีโดรนก็ยกตัวเองขึ้นจากน้ำ ปรากฏว่าไฟสถานะบนลำโดรนถึงกับแดงโล่! การลิงค์สัญญาณเกิดขึ้นทันที ก่อนจะฉายค่าสถานะและชุดข้อมูลพร้อมกับผลแล็บไปยังกระจกครอบแก้วที่โบ๊ทสวมใส่อยู่ พลันเปลี่ยนใบหน้าบ่องแบ้วของเขาให้กลายเป็นจอแสดงผลไปในบัดดล.“มันก็เหมือนการ “swab”(สว็อป) ตอนเราไปให้หมอแหย่จมูกนั่นแหละครับพี่ ๆ แค่เปลี่ยนจากรูจมูกคนเป็นน้ำทะเล ว่าแต่ผลเป็นไงบ้างครับ? ”โบ๊
ห้าชีวิตกับอีกหนึ่งลำโดรนย่างกรายเข้ามายังโซนลับแลแห่งนี้ด้วยความมุ่งมั่น ย้อนกลับไปไม่ได้คือเหตุผลข้อที่หนึ่ง ส่วนการไปต่อไม่ได้เพราะข้างหน้ามีแต่ทะเลคือเหตุผลข้อที่สอง แพรวก็เลยเดินนำหน้าแบกกระเป๋าเป้อาด ๆ พลางควัก Glock 18 อาวุธประจำกายขึ้นมาประทับเล็งเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เรียนตามตรงว่าท่าเรือเป็นแอเรียที่เธอมีข้อมูลน้อยมากเมื่อเทียบกับที่อื่น ที่นี่แทบจะไม่ได้ถูกเขียนรายละเอียดใด ๆ ไว้ในแผนที่เลย ฉะนั้นหน้าที่ของมันจึงจบลงเพียงเท่านี้.“พรึบ!”แพรวพับแผนที่เก็บเข้าไปในกระเป๋า สื่อให้ทุกคนเห็นว่าแต่นี้ต่อไปคือการด้นสดล้วน ๆ พลาดก็คือตายและถ้าไม่อยากตายก็จงอย่าพลาด.“ระวังตัวด้วยทุกคน เราจะเข้าไปในโกดังนั่นดู คิดว่าน่าจะเป็นคลังเก็บสินค้าและบันไดลงสู่ท่าเรือก็น่าจะอยู่ในนั้น”แพรวกระซิบบอก.เช่นกันกับเจนิสกับเพื่อน ๆ ที่ต่างก็ระวังหน้าระวังหลังให้กันเป็นอย่างดี เธอจับมือโบ๊ทเอาไว้แทบจะตลอดเวลา โดยหารู้ไม่ว่าโดรนอารักขาที่ลอยอยู่บนฟ้า นั้นมีขีดความสามารถที่สูงกว่าคนจริง ๆ อย่างพวกเธอสามคนรวมกันซะอีก.“ไม่เป็นไรครับพี่เจนิสไม่ต้องดูแลผมดีนักหรอก ทางที่ดีผมว่าพ
พรรคพวกของโบ๊ทมีกันอยู่หลายคน แล้วก็ดำรงชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ จากการตามล่าของพวก AP เหมือนกับแคลนอื่น ๆ พวกเขามี LGBT รวมอยู่ในกลุ่มเยอะ ก่อนที่ความผิดพลาดจะมาเกิดขึ้นที่ท้องฟ้าจำลอง เมื่อหน่วยแพทย์ของ AP ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมเกิดย้อนกลับมาเช็คทรัพย์สิน มีการปะทะกันเกิดขึ้น! แคลนของโบ๊ทแตกเป็นเสี่ยงเนื่องจากไปถือวิสาสะยึดเอาแลนด์มาร์คตรงนี้เป็นจุดพักแรม ผู้คนก็เลยถูกกวาดต้อนไปเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงพ่อแม่ของเขาด้วย .ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมโบ๊ทถึงรอดมาได้นั้น ก็อยู่ที่แหวนทั้ง 5 วงบนนิ้วมือของเขานั่นเอง อุปกรณ์ชิ้นนี้มีไว้ใช้บังคับโดรนมากกว่า 150 ลำ บางลำเป็น Riot โดรนติดอาวุธหนัก บางลำเป็นโดรนอารักขา ส่วนบางลำก็เป็นโดรนข่าวสาร โบ๊ทใช้พวกมันอย่างคล่องแคล่วในการต่อสู้กับพวก AP และขับไล่พวกทรราชเหล่านี้ออกไปจากอาคารท้องฟ้าจำลองได้เป็นผลสำเร็จ ทว่าก็ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นการอยู่คนเดียวในอาคารหลังโตแบบโดดเดี่ยว พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว เพื่อนฝูงพี่น้องก็โดนหางเลขไปด้วยหมด.ย้อนกลับไปหลายตอนก่อนหน้านี้ เราจึงได้เห็นโบ๊ทใช้กล้องโทรทัศน์ส่องหาแคลนที่ยังมีผู้รอดชีวิตไปทั่วเมือง จนกระทั่งมาพบกับกลุ่
เสมือนหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่กระเสือกกระสนหาทางรอด ตัวเป็นจักรกลทว่าข้างในคงมีจิตวิญญาณของปลาช่อนที่กำลังจะโดนทุบหัวบรรจุอยู่ Riot โดรนถึงได้แสดงพฤติกรรมเกรี้ยวกราดดังที่เห็น เปลวไฟพ่นออกมารอบทิศราวกับลูกข้างที่รวมร่างกับกระบองไฟ มันพ่นขู่คำรามแล้วก็ได้ผล เมื่อกลุ่มเรดี้ทั้ง 4 นางต่างก็ถอยกรูออกห่างไปทุกที พอเจนิสลองสืบเท้าเข้าไปใกล้มันก็พ่นไฟออกมาใส่อีก.“อ๊ายยย! ไม่ได้เลยพี่แพรวไฟร้อนมากค่ะ!”เธอรีบผินหน้ากลับมาบอก.สวนทางกับแพรวที่มีประสบการณ์มากกว่า หลังจับสัญญาณได้จากไฟสถานะบนตัวโดรนที่มีการกระพริบเปลี่ยนจังหวะไป พลางบอกให้น้อง ๆ ตระเตรียมอาวุธขึ้นมือเอาไว้.“ไม่เป็นไรเจนิส.. ไม่ต้องเข้าไปหรอก.. เราแค่ต้องตามเจ้านี่ไปก็พอ”.“ไปไหนอ่ะพี่?”.“เดี๋ยวก็รู้! เจ้าโดรนนี่ไม่มีทางทำแบบนี้ได้ถ้าไม่มีใครบังคับ.. เชื่อฉัน!”.แล้วก็จริงอย่างที่แพรวสันนิษฐาน ผ่านไปราว 3 นาทีกับอีกนิดหน่อยแก๊สในตัวก็หมดลง จากไฟพุ่ง ๆ ตอนนี้แค่ถ่มถุยออกมายังยากลำบาก ไหนจะท่วงท่าการบินที่กระท่อนกระแท่นเต็มทีนั่นอีก เพดานบินเริ่มลดระดับต่ำลง Riot โดรน เริ่มเบี่ยงเส้นทางบินหนีออกไปอีกฝั่งผ่านการร่อนที่เอียงกระเ
เหลือเชื่อว่าจะได้ยินเสียงจิ้งหรีดแทนที่กระสุนปืน เจนิสส่งทุกคนเข้านอนและตอบแทนความไว้ใจจากแพรวด้วยการห่มผ้าให้กับพี่สาว แม้จะรู้ดีว่าในสถานการณ์เช่นนี้คงยากที่จะข่มตาหลับ แต่ชีวิตนั้นก็ต้องก้าวต่อไป แพรวอุตส่าห์นำทุกคนให้รอดมาถึงพื้นที่ใต้ทางด่วนตรงนี้ได้ แล้วมีหรือที่สายแข็งนักนอนเช้าอย่างเจนิสจะไม่ตอบแทนกลับไปบ้าง.เธอค่อย ๆ ย่องห่างออกมาจากจุดพัก สอดส่ายสายตาผ่านทะลุไปตามซอกหลืบต่าง ๆ ที่คิดว่าน่าสงสัย พลันตั้งคำถามกับตัวเองในใจว่าเสียงจิ้งหรีดนั้นมาจากไหน ถ้าเป็นเสียงปืนหรือเสียงคนฆ่ากันตายยังจะเป็นไปได้มากกว่า.“นั่นน่ะสิ! แปลกมากเลย? โควิดมันกินได้แม้กระทั่งผนังปูน แล้วกับสิ่งมีชีวิตเปลือกหุ้มอย่างจิ้งหรีดกลางคืนเนี่ยะนะ ไม่ใช่ล่ะ! เป็นไปไม่ได้!”“ถ้าเราไม่หูแว่วไปเอง เราควรจะตรวจสอบทุกจุดที่น่าสงสัยให้ละเอียดที่สุด”.กระชับหน้ากากครอบแก้วให้ติดแน่น ตัวเลขสถานะก๊าซลดลงเล็กน้อยเพราะความตื่นเต้น ส่วนในมือที่ถืออยู่ก็คือพลองไม้ขนาดยาวที่เป็นเหมือนอาวุธประจำกายของเธอ มันทั้งง่อนแง่นแล้วก็ดูบอบบางจนจินตนาการไม่ออกว่าถ้าเอาไปฟาดหัวใครเข้า Damage จะเข้าสักเท่าไหร่ แต่ครานั้นเจนิสก็