Share

บทที่ 38 : เสือก story

Author: L.sunanta
last update Last Updated: 2025-07-19 20:47:43

“มึงมันเป็นพ่อที่ไม่เอาไหน โทรศัพท์ขึ้น miss call 20 กว่าสายยังปาทิ้งได้ไม่ใยดี นั่นเมียมึงโทรมานะ ถ้ารู้ว่าพีน้อยอ๊วกเป็นเลือดกูจะไม่มีวันเลือกงานก่อนครอบครัวเลย  22.00 น. หยุดการสังเกตผลแล็บ เก็บของทุกอย่างรีบไปโรงบาล และขอให้รถไม่ติดมาก แต่แม่งก็ติดชิบหายอยู่ดี เมืองหลวงเป็นเหี้ยอะไรวะ ลูกกูจะตายอยู่แล้ว ชีวิตดีที่ลงตัวพ่องมึงสิ ไอ้ส้นตีน!  เบื่อว่ะ.. เซ็งโคตร! "   

.

ช่างเป็นการเขียนไดอารี่ที่ฮาร์ดคอร์สะใจมาก ลายมือตวัดรุนแรงราวกับรีบร้อน แพรวผู้ถูกขังยังคงตั้งหน้าตั้งตาอ่านแม้เธอจะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าพีน้อยจะไม่เป็นอะไร และเติบโตขึ้นมาเป็นสาวประเภทสอง แต่ก็ยังอยากรู้เรื่องราวในตอนนั้นอยู่ดี

.

“ ดึ๋ง ๆ , ดั๋ง ๆ , ดึ๋ง ๆ ”

ขย่มเตียงดีดเด้งขยับก้นนั่งให้ถนัด ๆ พลันหลุบสายตาลงไปยังหน้ากระดาษต่อ

.

“พรึบ!”

.

“ตอนนั้นกูเครียดมากจริง ๆ พยายามโทรหานุชแล้วแต่เธอคงไม่ว่างรับสาย ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง รถโรงบาลที่บอกว่าเรียกมาแม่งจะฝ่ารถติดหนักกับศุกร์คืนฝนพรำแบบนี้ได้เหรอ ไม่มีทางหรอก! กลัวว่ะ! กลัวว่าลูกจะเป็นอะไรไปบนรถ! กังวลมากด้วย! เลยหักพวงมาลัยปาดคร่อมเลน แล้วเอารถกระบะบริษัทจอดยัดไว้ในจุดจอดแท็กซี่อัจฉริยะแม่ง”

“ตอนนั้นคือไม่แคร์ไรแล้ว รู้แค่ว่าวิ่งไปเร็วกว่า ยังไงก็ต้องไปถึงโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด นัดนุชไว้แบบนั้นส่วนเธอกับพีน้อยจะมาถึงรึยังค่อยว่ากันหน้างานอีกที ไอ้สัด! งานอีกละ! กูเกลียดคำนี้จัง ถ้าลูกกูตายกูจะลาออกแม่ม บริษัทหัวควยใช้งานเยี่ยงทาส แล้วกูก็เสือกเต็มใจเป็นทาสให้มันด้วยนะ ไอ้เหี้ย AP สวัสดิการที่มึงให้หวังว่าจะใช้รักษาลูกกูได้นะ..”

“จบบันทึกประจำวัน..  PS. โกรธเป็นฟืนไฟ!  เขียนใหม่พรุ่งนี้ใจเย็น ๆ”

.

“พรึบ!”

ประกบไดอารี่กลับคืนหน้าปก แพรวใช้สันนิ้วเรียวสวยขั้นหน้าเอาไว้ ก่อนจะครุ่นคิด

.

“เอ~ถ้าเป็นเราจะทำแบบพ่อรึเปล่านะ? ต้องทำสิ! ก็ลูกป่วยหนักนี่นา เป็นใครก็ต้องรีบไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด สมัยนั้นการติดต่อสื่อสารก็ไม่ได้สะดวกแบบปัจจุบัน”

“อืม.. เป็นเรา ๆ ก็ทำ อ่านต่อ ๆ”

.

“พรึบ!”

.

“วันที่ 14 ม.ค. 1999  / กลางคืน /  เรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิต!”

“ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว ผิดคาดเล็กน้อยเพราะนุชกับพีน้อยยังมาไม่ถึง เช็คกับหน่วยเวรเตียงที่ห้องฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่บอกว่ามีบันทึกรายงานการออกปฏิบัติงานของรถฉุกเฉินชัดเจน แล้วที่ ๆ รถวิ่งไปก็คือบ้านของฉันเอง ทุกอย่างมันควรจะออกมาดี แต่ก็ไม่! เพราะหลังจากเวลาผ่านไปพักใหญ่เจ้าหน้าที่คนเดิมก็รีบวิ่งปรี่เข้ามาหาฉัน ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก”

“เขาบอกให้ฉันตั้งสติ.. ใจเย็น ๆ แล้วแจ้งว่ารถพยาบาลคันดังกล่าว  "ประสบอุบัติเหตุ!”  มีผู้เสียชีวิตหลายรายและตอนนี้ทีมกู้ภัยกำลังกู้ซากอยู่ จำได้ว่า ณ โมเมนท์นั้นฉันถึงกับวูบไปเลย! หน้ามันมืดไปหมด! แล้วก็เวียนหัวจนล้มโครมลงไปทั้งยืน! เหมือนทีวีปลั๊กหลุดที่ภาพตัดไปเฉย ๆ  หน้าจอดับฟับ! พร้อมกับความเจ็บปวดที่ยังคงค้างคา”

.

“บะ.. บ้าน่า!?”

“อะไรกันเนี่ยะ.. เรื่องแบบนี้มัน..? ทำไมแกไม่เคยเล่าให้ฉันฟังเลยอีพี?”

แพรวถึงกับอุทานเสียงหลง

.

และคราวนี้ไม่ได้พับหน้าสมุดกลับคืนแล้ว แต่อ่านต่อไปเลย

.

“วันที่ 14  ม.ค. 1999 / กลางดึก / เขียนจากบนเตียง ”

“ฉันตื่นขึ้นมาในห้องรวมที่มีคนไข้รายอื่นเต็มไปหมด จะดีกว่านี้มากถ้าหนึ่งในนั้นเป็นเตียงของลูกแล้วก็เมีย แต่เสียดายที่ไม่แม้แต่จะใกล้เคียง ฉันรีบลุกจากเตียงวิ่งโทง ๆ คาสายน้ำเกลือย้อนกลับไปยังแผนกฉุกเฉิน กวาดสายตามองหาเจ้าหน้าที่คนเก่า ตรงเข้าไปหาเขาและถามว่ารถพยาบาลคันที่เกิดอุบัติเหตุเป็นยังไงบ้าง? คนเจ็บอยู่ไหนกันหมด? และฉันคือญาติผู้ป่วย.."

ตาย 4 ผู้ใหญ่ 3 บุรุษพยาบาล 1 คือคำตอบที่ฉันได้รับกลับมา น้ำตาไหลในบัดดล! โลกหมุนเคว้งจับต้นชนปลายไม่ถูก! เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก! ทั้งรถมีแค่พีน้อยที่รอดชีวิต เขาบาดเจ็บสาหัสแต่ที่รอดมาได้ก็เพราะถูกนุชโอบกอดเอาไว้ไม่ให้ได้รับการกระทบกระเทือน ในฐานะแม่เธอคือผู้หญิงที่ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฉันจะมีชีวิตต่อไปยังไง? ทำไมคนที่ตายถึงไม่ใช่พ่อห่วย ๆ ที่เอาแต่บ้างานอย่างฉัน ถ้าฉันอยู่บ้านแล้วเป็นคนขับรถมาเองล่ะก็? ถ้าฉันอยู่บนรถร่วมกับเมียและลูกล่ะก็? ควรจะเป็นฉันสิที่ตายแทนเธอ..นุช? โถ่เอ๊ย!  นุช!  ทำไม ๆ ๆ ๆ! ”

.

“แหมะ.. แหมะ.. แหมะ..”

หยดน้ำตาร่วงหล่นลงใส่หน้ากระดาษ

.

เปล่าหรอกนั่นไม่ใช่น้ำตาของแพรวเลย ถึงเธอจะรู้สึกเศร้ามากแต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับร่องรอยบนเนื้อกระดาษ ที่เปื่อยยุ่ยและเปื้อนเปรอะเป็นวงหมึกจากคนเป็นสามี ระหว่างเขียนพ่อคงร้องไห้ออกมาเป็นล้าน ๆ รอบ หมึกปากกาถึงได้แห้งเกรอะกรังติดแน่นเป็นหลักฐานอยู่ตรงนั้น และแพรวเองก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่คุณพ่อแบกรับอยู่

.

น้ำในตาเจิ่งนองคลองจักษุ ไร้ซึ่งคำพูดอื่นใดสาวเจ้าทำได้เพียงวางมือลงบนรอยเปื้อนดังกล่าว พลางลูบมันเบา ๆ อย่างเข้าอกเข้าใจ ก่อนจะเริ่มอ่านสมุดบันทึกต่อ

.

“วันที่ 27 ม.ค. 1999  / กลางวัน  /  ที่สุสาน”

“ฉันอุ้มพีน้อยขึ้นจากรถเข็น เนื้อตัวเขาเต็มไปด้วยผ้าพันแผล ที่แขนซ้ายมีเฝือกอ่อนที่ออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ โชคดีมากที่แขนขวาเขาไม่เป็นไร ฉันเลยอุ้มเขาเดินไปที่ปากหลุมมีหีบศพของนุชนอนอยู่ตรงก้น แขกผู้มีเกียรติทยอยโปรยดินลงบนหีบเพื่อเป็นการไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย บาทหลวงกล่าวคำสรรเสริญและบทสวดตามพระคัมภีร์ และแน่นอนว่าคนสุดท้ายที่โปรยดินลงไปก็คือพี มือฉันสั่นไปหมด.. ฉันแทบจะหมดแรง.. และพยายามฝืนสุด ๆ ที่จะไม่ร้องไห้ให้ลูกเห็น” 

“ฉันไม่อาจโกหกได้ว่าตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในท่าทางที่นุชทำกับลูกก่อนที่เธอจะตาย! ไออุ่นแบบนี้ , น้ำหนักตัวแบบนี้ , อ้อมกอดแบบนี้ คือโล่กำบังที่เธอใช้ปกป้องลูกเอาไว้ในฐานะของคนเป็นแม่ ฉันจะทำได้ไหมนะ? ฉันจะทำได้ดีเท่าสักครึ่งหนึงของเธอรึเปล่าที่รัก?  คิดถึงจัง.. คิดถึงหมดหัวใจ.. รักคุณมากนะภรรรยาสุดที่รักของฉัน.. เราจะอยู่ด้วยกันพ่อแม่ลูกแบบนี้ตลอดไป และถ้าเป็นไปได้ฉันก็จะทำทุกวิถีทางให้เธอกลับมา”  

.

“เฮ้อ~ถึงว่าล่ะ! ทำไมพ่อของพีถึงเห็นเราเป็นคุณนุช”

“เราเข้าใจทุกอย่างแล้ว ไดอารี่เล่มนี้เหมือนกำลังเฉลยทุกสิ่งทุกอย่าง”

นิสิตสาวเริ่มขยับขยายเปลี่ยนอิริยาบถ ถึงตรงนี้เหมือนเธอจะปล่อยตัวปล่อยใจล่องลอยลงไปในโลกของครอบครัวพีแบบถอนตัวไม่ขึ้น 

.

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ! ว่าเธอคงจะลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังถูกขังอยู่ วงกบหน้าประตูยังส่องแสงวูบวาบ หน้าจอทัชกรีนก็ยังไม่มีรหัสไปใส่สักตัว เรียกได้ว่ายังไม่ใกล้เคียงความเป็นไปได้ในโลกแห่งความเป็นจริงเลยสักนิด มิหนำซ้ำแพรวยังเพลิดเพลินไปกับเสื้อผ้าและของใช้มากมายเกี่ยวกับคุณนุช ที่กระจายอยู่เต็มห้องแห่งนี้ราวกับศูนย์จัดแสดงสินค้าอีกต่างหาก

.

“เพราะความรักมากมายที่พ่อมีต่อภรรยาสินะคะ ถึงได้เก็บรักษาสิ่งของทุกอย่างไว้เป็นอย่างดี”

“การกระทำเป็นเหตุเป็นผลกัน มีตรรกะที่ยอมรับได้ ติดแค่นิดเดียวตรงประโยคสุดท้ายที่บอกว่าจะเอาคุณนุชกลับมานี่แหละ ที่หนูยังไม่เข้าใจ?”

แพรวลุกขึ้นเดินวนไปวนมาอยู่ในห้อง ปาดมือรากับเสื้อผ้าที่แขวนไว้พยายามใช้ความคิด ทว่าก็ยังคิดไม่ออกอยู่ดี

.

“ช่างเถอะ! อ่านต่อดีกว่ายังมีอีกหลายหน้าให้ต่อมอยากรู้อยากเห็นของเราได้ออกกำลัง”

.

“พรึบ!”

.

“วันที่ 13 มี.ค. 2000  /  เวลา 02.32 น. / โปรเจคนงนุชมีการตอบสนอง”

“นี่ไม่ใช่ก้าวเล็ก ๆ ของเด็กเพียงคนเดียว แต่มันคือก้าวกระโดดของมวลมนุษยชาติ ฉันไม่เสียใจเลยที่จะต้องทำสิ่งนี้ ต่อให้เขาจะเป็นลูกแท้ ๆ ของเราก็ตาม คนอย่างฉันลองปักใจคิดจะทำอะไรแล้วก็ต้องทำให้ได้ ฉันเป็นคนรักษาสัญญาเสมอนุช เธอก็รู้ดีนี่.. รอสักแป๊บนะ แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เริ่มโผล่มาให้เห็นแล้วที่รัก..”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 79 : กลายร่าง

    “หายใจดิพี่.. ลองหายใจดู!”เสียงโบ๊ทตะคอกอัดหน้า เขาสะบัดมือพึบพับโบกอากาศอัดใส่หน้าตัวเองให้แพรวดู.สาวหัวหน้าแคลนถูกช่วยเป็นรายสุดท้าย ร่างบางของเธอถูกวางลงบนพื้นอย่างละมุนละม่อน โดยโดรนอารักขาที่ใช้งานได้ในหลายรูปแบบ ตลิ่งดินกลายเป็นที่แลนด์ดิ้งที่ปลอดภัย เจนิสกับเพื่อน ๆ ปลดหน้ากากครอบแก้วออกหมดแล้วเมื่อก่อนหน้านี้ โบ็ทเองก็เช่นกัน จะมีก็แต่แพรวที่ยังคงใส่หน้ากากกันแก๊สเวอร์ชั่นเก่าแก่ที่ได้มาจากบ้านของพีอยู่.“หายใจได้แล้วพี่แพรว! ที่นี่มีอากาศบริสุทธิ์ สุดยอดไปเลยพี่ ๆ ต้องลองดูด้วยตัวเองนะ”โบ๊ทย้ำเจตนารมณ์เดิม เขาผละตัวออกจากแพรวพลันชูแขนกระโดดโลดเต้น วิ่งไปรวมกลุ่มกับพวกเจนิสราวกับเด็ก ๆ ที่เห่อของเล่นใหม่ ทิ้งแพรวให้อยู่กับโดรนเพียงลำพัง ในสภาพที่มอมแมมเต็มขั้นเนื้อตัวเต็มไปด้วยดินโคลน.ลมโชยโบยแก้มกลิ่นธรรมชาติพัดแสงแรกแย้ม ชโลมผิวหนังเบิกดวงตาพราวสดใส ความเขียวขจีของทุ่งหญ้าช่อผกาโบกไสวปลิวสลวย นานแค่ไหนแล้วที่แพรวไม่ได้เห็นของแบบนี้เลยในมหานคร บ้านเรือนไทยทรงวินเทจตั้งเรียงรายอยู่บนริมท่า ชวนให้นึกถึงขุนช้างขุนแผนกับเหล่านางสีดาในวรรณคดี .“กึก!”สุดท้ายก็ต้องลอง หน้

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 78 : ทะเลแหวก

    “ผมทุบกระป๋องก๊าซได้รึยังพี่แพรว!”หนูน้อยป้องปากตะโกนถาม ภายใต้กระแสลมต้านที่พุ่งอัดเข้ามาอย่างรุนแรง .ณ ตอนนี้หัวเรือกำลังเชิดทำมุมราว 30 องศา มันแล่นแหวกอากาศและโดนน้ำทะเลน้อยมาก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ได้รับผลกระทบอะไร เพราะทุกครั้งที่แรงพุ่งจากก๊าซด้านหลังเริ่มซาลง ส่วนหน้าที่โบ๊ทรับผิดชอบอยู่ก็จะเป็นที่แรกที่โดน Covid-19 เล่นงานก่อนส่วนอื่น แพรวจึงรีบตะโกนตอบน้องกลับไปในเสี้ยวอึดใจ.“รอจังหวะให้เรือช้ากว่านี้อีกนิดแล้วจัดการเลยโบ๊ท! เราต้องทำงานให้สัมพันธ์กันนะ งั้นจะใช้ประโยชน์จากก๊าซได้ไม่เต็มที่!”“เราอาจจะหนีไปไม่พ้นเมืองหลวงก็ได้ ถ้าก๊าซในสต็อกเราหมดก่อน!”.“ครับพี่.. ผมเข้าใจแล้ว!”.ร่างเล็กของเด็กประถมก้มต่ำลงจนลำตัวแทบจะครูดกับพื้นเรือ โบ๊ทเจตนาจะทำให้ตัวเองสัมผัสโดนลมให้น้อยที่สุด พลันกระเถิบตัวขึ้นหน้ากระดืบ ๆ ไปราวกับตัวหนอน กระทั่งมาถึงจุดที่เป็นมุมสามเหลี่ยมตรงหัวเรือได้สำเร็จ ที่นี่เขาก้มลงไปมองผืนน้ำด้านล่างได้อย่างสบาย อ่านค่าความเร็วจากการกะด้วยสายตา แล้วทันทีที่เห็นว่าเรือเริ่มช้า เขาก็ได้ทุบก๊าซกระป๋องหนึ่งแล้วก็ปามันลงไป.“ตูมมมมม!!!!”.“ฟู่~~~!!!!!!!

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 77 : ออกทะเลแกรนด์ไลน์

    “ซ่าาาา~!”เสียงโครงเรือยอร์ชที่ยังต่อไม่เสร็จกระทบผิวน้ำกระซ่านเซ็น พอดีกันกับโดรนอารักขาที่ใช้งานได้โคตรจะคุ้ม มันตัดสายเคเบิลที่ยึดโยงออกไปหมดสิ้น พลันลอยขึ้นไปบนฟ้าเพื่อทำหน้าที่ฉายไฟส่องสว่างลงมา ราวกับสปอร์ตไลท์ตามสนามกีฬากลางแจ้ง.“แชะ! , แชะ!”.ราตรีกาลเข้าครอบครองท้องฟ้า ส่วนท้องธาราก็เป็นไปตามการคำนวณ ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจริงเฉกเช่นที่แพรวฟันธงเอาไว้ ต่างคนต่างรีบกระโจนลงเรือ และแม้ตัวบอดี้จะโคลงเคลงหนักมาก แต่ก็นับว่าดีอย่างที่ยังพอจะแบกรับน้ำหนักของทุกคนไหว ในส่วนนี้ต้องยกเครดิตให้กับทักษะของช่างต่อเรือ หรือไม่ก็เศรษฐีเจ้าของทุนทรัพย์ เพราะลำพังก้าวแรกที่ย่ำลงมา แพรวก็เห็นแล้วว่าทุกส่วนของโครงสร้างล้วนทำขึ้นจากวัสดุชั้นเยี่ยมเกรดพรีเมี่ยมทั้งสิ้น .เธอสั่งให้สองเด็กสาวเพื่อนเจนิสเอาเศษไม้แผ่นแบน ที่วางกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปมาทำเป็นที่คัดท้าย มีความโชคดีอย่างที่ของเหล่านี้ไม่ใช่ของหายากอะไรนัก ถ้าอยู่บนเรือที่ยังต่อไม่เสร็จ หลังจากนั้นก็สั่งให้พวกเธอ Stand by รอคัดท้ายตามคำสั่งอีกที ก็เลยเหลือแต่เจนิสกับโบ๊ทที่ยังว่างงานและยังไม่ได้รับมอบหมายให้ทำอะไร.เรือค่อย ๆ แล่นออ

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 76 : เรือยอร์ชที่เคยหรู

    นั่นจึงเท่ากับว่าน้ำในทะเลอาจจะไม่ปลอดภัย บางทีแม่น้ำสาขาทุกสายก็อาจจะปนเปื้อนไปด้วยเชื้อแล้วก็ได้ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงโบ๊ทจึงได้ขยับนิ้วมือกับแหวนทั้ง 5 ของเขาอีกที .“ฟิ้ว~!”โดรนอารักขาลำเก่งโฉบปักหัวลงมาจากเบื้องบน ราวกับพญาอินทรีย์พร้อมเข้าประจำที่.มันยื่นท่อนเหล็กสีเงินลักษณะคล้ายก้านปรอทวัดไข้ออกมาจากลำตัวส่วนล่าง ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่กระสุน .35 มม. จำนวนมหาศาลร่วงกราวลงมาเมื่อตอนก่อน ความยาวของอุปกรณ์ชนิดนี้น่าจะราว 2 ไม้บรรทัดเห็นจะได้ และโบ๊ทเรียกมันว่า “โคโรน่ามิเตอร์” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีไว้สำหรับตรวจหาเชื้อโควิดโดยเฉพาะ.เขาสั่งการให้โดรนอารักขาหย่อนมันลงไปในน้ำทะเล แกว่งส่ายวนคนไปมาราว 20 - 30 ทีโดรนก็ยกตัวเองขึ้นจากน้ำ ปรากฏว่าไฟสถานะบนลำโดรนถึงกับแดงโล่! การลิงค์สัญญาณเกิดขึ้นทันที ก่อนจะฉายค่าสถานะและชุดข้อมูลพร้อมกับผลแล็บไปยังกระจกครอบแก้วที่โบ๊ทสวมใส่อยู่ พลันเปลี่ยนใบหน้าบ่องแบ้วของเขาให้กลายเป็นจอแสดงผลไปในบัดดล.“มันก็เหมือนการ “swab”(สว็อป) ตอนเราไปให้หมอแหย่จมูกนั่นแหละครับพี่ ๆ แค่เปลี่ยนจากรูจมูกคนเป็นน้ำทะเล ว่าแต่ผลเป็นไงบ้างครับ? ”โบ๊

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 75 : Drink water

    ห้าชีวิตกับอีกหนึ่งลำโดรนย่างกรายเข้ามายังโซนลับแลแห่งนี้ด้วยความมุ่งมั่น ย้อนกลับไปไม่ได้คือเหตุผลข้อที่หนึ่ง ส่วนการไปต่อไม่ได้เพราะข้างหน้ามีแต่ทะเลคือเหตุผลข้อที่สอง แพรวก็เลยเดินนำหน้าแบกกระเป๋าเป้อาด ๆ พลางควัก Glock 18 อาวุธประจำกายขึ้นมาประทับเล็งเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง เรียนตามตรงว่าท่าเรือเป็นแอเรียที่เธอมีข้อมูลน้อยมากเมื่อเทียบกับที่อื่น ที่นี่แทบจะไม่ได้ถูกเขียนรายละเอียดใด ๆ ไว้ในแผนที่เลย ฉะนั้นหน้าที่ของมันจึงจบลงเพียงเท่านี้.“พรึบ!”แพรวพับแผนที่เก็บเข้าไปในกระเป๋า สื่อให้ทุกคนเห็นว่าแต่นี้ต่อไปคือการด้นสดล้วน ๆ พลาดก็คือตายและถ้าไม่อยากตายก็จงอย่าพลาด.“ระวังตัวด้วยทุกคน เราจะเข้าไปในโกดังนั่นดู คิดว่าน่าจะเป็นคลังเก็บสินค้าและบันไดลงสู่ท่าเรือก็น่าจะอยู่ในนั้น”แพรวกระซิบบอก.เช่นกันกับเจนิสกับเพื่อน ๆ ที่ต่างก็ระวังหน้าระวังหลังให้กันเป็นอย่างดี เธอจับมือโบ๊ทเอาไว้แทบจะตลอดเวลา โดยหารู้ไม่ว่าโดรนอารักขาที่ลอยอยู่บนฟ้า นั้นมีขีดความสามารถที่สูงกว่าคนจริง ๆ อย่างพวกเธอสามคนรวมกันซะอีก.“ไม่เป็นไรครับพี่เจนิสไม่ต้องดูแลผมดีนักหรอก ทางที่ดีผมว่าพ

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 74 : ไปไหนไปด้วยเราก็ช่วย 2 บาท

    พรรคพวกของโบ๊ทมีกันอยู่หลายคน แล้วก็ดำรงชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ จากการตามล่าของพวก AP เหมือนกับแคลนอื่น ๆ พวกเขามี LGBT รวมอยู่ในกลุ่มเยอะ ก่อนที่ความผิดพลาดจะมาเกิดขึ้นที่ท้องฟ้าจำลอง เมื่อหน่วยแพทย์ของ AP ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เดิมเกิดย้อนกลับมาเช็คทรัพย์สิน มีการปะทะกันเกิดขึ้น! แคลนของโบ๊ทแตกเป็นเสี่ยงเนื่องจากไปถือวิสาสะยึดเอาแลนด์มาร์คตรงนี้เป็นจุดพักแรม ผู้คนก็เลยถูกกวาดต้อนไปเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงพ่อแม่ของเขาด้วย .ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมโบ๊ทถึงรอดมาได้นั้น ก็อยู่ที่แหวนทั้ง 5 วงบนนิ้วมือของเขานั่นเอง อุปกรณ์ชิ้นนี้มีไว้ใช้บังคับโดรนมากกว่า 150 ลำ บางลำเป็น Riot โดรนติดอาวุธหนัก บางลำเป็นโดรนอารักขา ส่วนบางลำก็เป็นโดรนข่าวสาร โบ๊ทใช้พวกมันอย่างคล่องแคล่วในการต่อสู้กับพวก AP และขับไล่พวกทรราชเหล่านี้ออกไปจากอาคารท้องฟ้าจำลองได้เป็นผลสำเร็จ ทว่าก็ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นการอยู่คนเดียวในอาคารหลังโตแบบโดดเดี่ยว พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว เพื่อนฝูงพี่น้องก็โดนหางเลขไปด้วยหมด.ย้อนกลับไปหลายตอนก่อนหน้านี้ เราจึงได้เห็นโบ๊ทใช้กล้องโทรทัศน์ส่องหาแคลนที่ยังมีผู้รอดชีวิตไปทั่วเมือง จนกระทั่งมาพบกับกลุ่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status