“ฝ่าเท้าเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงขนาด องศาจากการพิมพ์ฟุตปริ้นท์บันทึกการเฉียงได้ที่มุม 37 องศางุ้มปลายส่วนหน้าหันเข้าด้านใน เป็นสัญญาณที่ดีที่บ่งชี้ว่าสรีระของพีมีการเปลี่ยนแปลง วันนี้ผมจะพอเท่านี้ก่อนผมจะส่งลูกเข้านอนในแบบที่คุณทำกับเขาทุกวัน อีกไม่นานนุช.. พีเริ่มจะคล้ายคุณขึ้นบ้างแล้ว”
.
“วันที่ 15 มี.ค. ค.ศ. 2000 / กลางวัน / แล็บใต้ดินที่บ้าน”
“การลาออกจากบริษัทถือเป็นการตัดสินใจที่ไม่เลวทีเดียว ผมเอางานที่คุณทำค้างไว้กลับมาสานต่อด้วยนะ แล้วก็ให้ช่างมาทำห้องแล็บลับไว้ที่ใต้ดินด้วย ผมย้ายสิ่งที่ทำบนดินลงมาไว้ที่นี่แล้ว เสียใจจริงที่คุณไม่ได้อยู่ดู พีไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่หรอกเขาบอกว่ามันน่ากลัว ไม่เหมือนปราสาทบนดินที่มีเจ้าหญิง เขียดเส้นใต้คำว่า “เจ้าหญิง” ทีนุช แล้วบอกผมทีว่าหูผมไม่ได้ฝาด ค่ำ ๆ ผมจะลองเช็คคลื่นสมองเขาอีกที ผมว่าตอนนี้จิตใต้สำนึกเขาเริ่มจะกลายเป็นเด็กผู้หญิงแล้ว”
.
หยุดเดินลงตรงมุมโต๊ะเครื่องแป้ง แพรวถึงกับชะงัก ร่างบางของเธอชาไปครึ่งซีกพลันกระชับไดอารี่ไว้จนแน่น
.
“เดี๋ยวนะ! นี่คืออะไรกัน?! ทำไมอ่านแล้วให้อารมณ์เหมือนพ่อกำลังเปลี่ยนพีให้เป็นผู้หญิงเลยอ่ะ ดูจากตัวเลขปีที่บันทึกบนสมุดตอนนั้นพีน่าจะอายุยังไม่ถึง 5 ขวบเลยมั้ง”
“ทำได้หรอ?! เปลี่ยนจิตใจคนจากเด็กชายให้กลายเป็นเด็กหญิงด้วยวิทยาศาสตร์”
“บ้าน่ะ! ไม่น่าเป็นไปได้!? แต่พ่อก็เป็นถึงนักวิจัยจากบริษัท AP เชียวนะ ไหนจะห้องแล็บใต้ดินเบ่อเริ่มเทิ่มตรงนี้อีก แล้วก็ห้อง ๆ นี้ที่ขังเราเอาไว้ก็ด้วย ทุกอย่างเหมือนเป็นนวัตกรรมของโลกปัจจุบันซะที่ไหน?!”
.
นิสิตสาวพรั่นพรึงกับตัวเองในใจ เธอเริ่มกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วก็เหงื่อตก
.
“ขอให้เราคิดเพ้อเจ้อไปเองทีเถอะ เพราะถ้าเป็นงั้นจริงอีพีจะเป็นคนที่น่าสงสารสุด ๆ ไปเลย”
.
.
“วันที่ 20 เม.ย. ค.ศ. 2000 / กลางวัน / สนามหญ้าหน้าบ้าน”
“พฤติกรรมพีมีความเปลี่ยนแปลงชัดเจนอย่างมีนัยยะ มีความกระตุ้งกระติ้งมากขึ้น น้ำเสียงเปลี่ยนและเริ่มมีการใช้สรรพนามแทนตัวที่เปลี่ยนไป เขาแทนตัวเองว่า “หนู” ให้ได้ยินเป็นครั้งแรก ผลจากการทดลองต่อสภาวะต้านทานแสงแดดจากภายนอกพบว่า พีจะวิ่งเข้าร่มในทุก ๆ 5 นาที ความรักสวยรักงามแบบผู้หญิงเริ่มมีปรากฏให้เห็น factor ต่าง ๆ เป็นไปได้ด้วยดี โครงสร้างยีนคงกำลงแปรสภาพเหลือแค่เติม DNA ของคุณลงไปเท่านั้นนุช! ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย!”
.
“ผมขนข้าวของเครื่องใช้และเสื้อผ้าของคุณลงมาไว้ที่แล็บใต้ดินหมดแล้ว ที่นี่จะง่ายสำหรับการควบคุมอุณหภูมิไม่ให้ชิ้นส่วนตัวอย่างเกิดค่า Error ผมเอาจริงนุช ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะต้องเปลี่ยนพีให้กลายเป็นคุณให้ได้ จะพาชีวิตและจิตวิญญาณของคุณกลับมาในร่างของลูกเรา พวกคุณเป็นแม่ลูกกัน สายสัมพันธ์ที่แนบแน่นนี่แหละคือกุญแจแห่งความสำเร็จ เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะที่รัก”
.
อ่านถึงตรงนี้แพรวก็รีบถอยกรูออกมาจากโต๊ะเครื่องแป้งเป็นการด่วน เธอเซถลาผ่านราวแขวนเสื้อมากมาย จนกระทั่งด้านข้างลำตัวไปชนเข้ากับตู้เสื้อผ้าที่ตั้งอยู่ข้างเคียง
.
“โครมมม!”
.
“โอ๊ย! เจ็บ ๆ ๆ!”
“แต่คงไม่เท่าอีพีอยู่ดีเล่าให้ใครฟังคงไม่มีใครเชื่อ เพราะตอนนี้เรารู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร เหตุผลที่ทำไมห้องของคุณนุชตรงนี้ถึงเต็มไปด้วยของใช้ส่วนตัวที่ยังคงใหม่และสะอาด รวมไปถึงที่มาที่ไปของการเป็น LGBTQ+ ของอีพีด้วย”
“ไม่เกี่ยวกับกรรมพันธุ์อะไรเลย ไม่ใช่สันดานร่านผู้ชายตามธรรมชาติด้วย แต่เป็นเพราะฝีมือคุณพ่อต่างหาก ตาแก่ขี้เมาที่เห็นลูกตัวเองเป็นดั่งมนุษย์ดัดแปลง!”
.
แพรวเอี้ยวตัวเดินสวนดงราวแขวนเสื้อย้อนกลับมาที่หน้าประตูอีกครั้ง ระหว่างทางก็ได้ลองสังเกตดูเนื้อผ้าต่าง ๆ ใหม่อีกที ก่อนจะพบว่ามีร่องรอยของการขูดหรือข่วนตามจุดที่เป็นข้อพับต่าง ๆ อยู่ ทุกตัวโดนหมดในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกัน ก็เลยสันนิษฐานเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลยว่านี่จะต้องเป็นการ “swab” เอาสารพันธุกรรมออกไปทำระยำของคุณพ่อเป็นแน่
.
“เฮ้อ!”
“ไหนขออ่านต่อหน่อยซิ หนูอยู่หน้าประตูแล้วเนี่ยะ ถ้าทนเรื่องเฮงซวยหลังจากนี้ไม่ไหวหนูก็จะใช้กำลังพังมันออกไปเอง!”
พูดคนเดียวนี่แสนจะเก่ง บางทีแพรวอาจะดิ่งกับเรื่องมากจนเกินไป จนจำไม่ได้แล้วว่าต่อให้กระทุ้งจนไหล่พังประตูก็ไม่มีทีท่าว่าจะคลายล็อคออก
.
.
“วันที่ 2 พ.ค ค.ศ. 2000 , กลางคืน , ห้องแล็บใต้ดิน”
“ก่อนจะเขียนบันทึกหน้านี้ผมคงต้องบอกกับคุณว่าผมรู้สึกผิดหวังสุด ๆ ผลการทดลองไม่เป็นไปตามที่คิดเลยนุช DNA ของคุณกับพีเข้ากันได้ แต่ผมไม่สามารถทำให้มันฟักตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีตัวแปรบางอย่างที่ไม่เข้าพวก จากผลลัพธ์ที่คาดหวังว่าจะได้เห็นร่างกายของคุณ งอกเงยขึ้นมาประกบทาบกับร่างของพี สิ่งที่ได้กลับมาดันกลายเป็น เด็กผู้ชายที่มีความคิดความอ่านเป็นผู้หญิง , กระตุ้งกระติ้ง , กลัวแดด , แล้วก็มีอารมณ์ทางเพศต่อผู้ชายทุก 2 นาที”
.
“พีไม่โตขึ้นมาเป็นคุณแต่เขากลายเป็น “กระเทย” ไปแล้วที่รัก! ผมเสียใจอย่างสุดซึ้ง! ผมขอโทษกับความอุบาทว์นี้ที่ทำลงไป ผมพลาดอีกแล้ว ผิดซ้ำผิดซากพลาดแล้วพลาดอีก แม้จะพยายามแก้ปัญหาด้วยการดึง DNA ของคุณออก แต่ก็เหมือนจะสายเกินไป ยีนได้วิวัฒนาการเข้าไปผสานกันในระดับเซลล์แล้ว"
.
“แล้ว.. ว.. ว.. ว ก็ ต้องบอกคุณอีกเรื่องนะที่รัก ว่าก่อนหน้านี้ผมพยายามจะทำลายพีทิ้งแล้วแต่ก็ทำไม่ลง ผมได้พัฒนาไวรัสขึ้นมาสูตรหนึ่ง ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงออกฤทธิ์เร็วไร้สีไร้กลิ่น หากฉีดเข้าเส้นเลือดก็ไม่ต่างจากยาพิษที่ตายได้โดยที่ตำรวจไม่มีทางหาหลักฐานการฆาตกรรมเจอ แต่เพราะเขาเป็นลูกของเรา ผมจะฆ่าเขาประหนึ่งหนูทดลองในห้องแล็บวิทยาศาสตร์ได้ยังไง ดังนั้นเลยต้องทน.. ผมไม่ชอบตุ๊ด! คุณก็รู้!”
.
“ผมน่ะ..”
.
“พรึบ!”
ปิดหน้าไดอารี่ลงโดยไม่อ่านต่ออีกแล้ว
.
ทุกอย่างเฉลยออกมาหมดว่าต้นตอของเรื่องล้วนมาจากความเห็นแก่ตัวของพ่อ นักวิทยาศาสตร์หนุ่มผู้เสียภรรยาไปจากอุบัติเหตุและต้องการจะชุบชีวิตคนรักให้กลับมาอีกครั้ง ผ่านทางร่างกายของลูกชายตัวเองแต่ดันพลาด! ผลจากความ Error ดังกล่าวทำให้เด็กชายที่เคยสนุกกับการต่อยมวยชกกระสอบทราย กลายสภาพเป็นสาวประเภทสองกระตุ้งกระติ้ง โดยไม่ได้ตั้งใจจะเป็นแม้แต่นิดเดียว
.
นี่คือเรื่องจริงที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน เดาว่าแม้แต่พีเองก็ไม่รู้ แล้วแพรวเป็นใครมาจากไหน เธอฟลุ๊คหรือเทพเจ้าดลใจเหตุใดความลับนี้จึงถูกส่งตรงมาถึงมือเธอ
.
“ฮู่วว.. ฉันว่าเรื่องนี้เรื่องใหญ่!”
เป่าปากพรูสีหน้าดูมีความกังวล
.
“ไม่รู้สิ! ถ้าพ่อได้สติแล้วฟื้นขี้นมาฉันว่าฉันโดนจัดการแน่! ห้องของคุณนุชตรงนี้คือห้องเก็บหลักฐานชิ้นสำคัญเลยก็ว่าได้ แล้วที่ข้างนอกนั่น! ตรงบริเวณที่เป็นโซนแล็บทดลองก็น่าจะมีหลักฐานชิ้นอื่น ๆ อีก ถึงว่าล่ะทำไมถึงต้องมาสร้างไว้ใต้ดิน ที่แท้ก็เอาไว้ทำเรื่องเลว ๆ แบบนี้นี่เอง บางทีการที่เราถูกขังอยู่ในนี้ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง เราอาจจะโดนพ่อฆ่าปิดปากเลยก็ได้ถ้าไม่รีบหนีออกไป”
.
“ตรึม!”
ทุบกำปั้นใส่ประตูสว่างวาบ แสงสีแดงตรงวงกบยังคงเจิดจ้าพุ่งออกมาเป็นกรอบสี่เหลี่ยม ในทุกครั้งที่สันมือตบกระทบ
.
“รหัสละ? รหัสอะไรนะ? ฉันอยากได้รหัส!?”
.
สาวเจ้ากลับมาคลี่สมุดไดอารี่ดูอีกครั้ง เธอเร่งประมวลความคิดด้วยความรวดเร็วพยายามเอาเลขทุกตัวที่เห็นในนี้มาเรียงต่อกันเพื่อหา “Simple spreach” บนหลักความน่าจะเป็น แพรวจะช้าไม่ได้อีกแล้วส่วนจะออกไปได้รึเปล่านั้นตอนต่อไปคงต้องรอดู
“จะไปยากอะไรในเมื่อไม่มีลิมิตว่าให้ใส่รหัสได้กี่ครั้ง เราก็ใส่สุ่ม ๆ เดา ๆ จนกว่าจะถูกไปเลยสิ”.ว่าแล้วมือเรียวก็จ่อนิ้วไปที่แป้นกดทัชสกรีน สีของหน้าจอยังคงแดงฉานประหนึ่งสัญญาณเตือนว่าจะไม่ยอมให้ใครออกไปจากห้องเก็บตัวอย่าง DNA นี้ได้ง่าย ๆ .“หนึ่ง , เก้า , เก้า , เก้า" "1999 เอ้า! เอาปี ค.ศ.แรกที่เขียนไว้ในสมุดไดอารี่นี่แหละ มี 4 ตัวพอดีลองดูซิว่าใช่รึเปล่า?”.“ติ๊ด! , ติ๊ด! , ติ๊ด! , ติ๊ด!”เกิดเสียงสัญญาณดังขึ้นในทุก ๆ ครั้งที่ลงน้ำหนักนิ้ว ฟังผ่าน ๆ เหมือนกับเสียงแป้นตัวเลขตามตู้ ATM หน้าธนาคาร.แต่ใครจะสนล่ะในเมื่อมันถูก! คุณพระช่วย! บอกแพรวทีว่าเธอฟลุ๊คหรือเธอฟลุ๊คกันแน่ เมื่อหน้าจอแดง ๆ ขนาดเกือบฟุตเปลี่ยนสีกลายเป็นสีเขียวพร้อมกับคำว่า “Open” ที่สว่างโพลงขึ้นมาแจ่มแจ้ง จากนั้นตัวล็อคสปริงข้างในก็ได้คลายตัวออก ทำให้ประตูเหล็กทั้งบานแง้มเปิดออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไม่มีควันฟุ้งแบบอลังการ มีแต่เศษขี้ฝุ่นของความปิดไว้นานที่กระจายพรมลงบนหัวแพรวพร้อมกับรอยยิ้ม.“อ่าฮ่ะให้มันได้อย่างงี้สิ! ทีเดียวผ่านเลยลำดับต่อไปก็แค่หาทางออกจากบังเกอร์นี้ให้ได้ก่อนที่พ่อจะตื่นขึ้นมา เป็น
“ฝ่าเท้าเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงขนาด องศาจากการพิมพ์ฟุตปริ้นท์บันทึกการเฉียงได้ที่มุม 37 องศางุ้มปลายส่วนหน้าหันเข้าด้านใน เป็นสัญญาณที่ดีที่บ่งชี้ว่าสรีระของพีมีการเปลี่ยนแปลง วันนี้ผมจะพอเท่านี้ก่อนผมจะส่งลูกเข้านอนในแบบที่คุณทำกับเขาทุกวัน อีกไม่นานนุช.. พีเริ่มจะคล้ายคุณขึ้นบ้างแล้ว”.“วันที่ 15 มี.ค. ค.ศ. 2000 / กลางวัน / แล็บใต้ดินที่บ้าน”“การลาออกจากบริษัทถือเป็นการตัดสินใจที่ไม่เลวทีเดียว ผมเอางานที่คุณทำค้างไว้กลับมาสานต่อด้วยนะ แล้วก็ให้ช่างมาทำห้องแล็บลับไว้ที่ใต้ดินด้วย ผมย้ายสิ่งที่ทำบนดินลงมาไว้ที่นี่แล้ว เสียใจจริงที่คุณไม่ได้อยู่ดู พีไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่หรอกเขาบอกว่ามันน่ากลัว ไม่เหมือนปราสาทบนดินที่มีเจ้าหญิง เขียดเส้นใต้คำว่า “เจ้าหญิง” ทีนุช แล้วบอกผมทีว่าหูผมไม่ได้ฝาด ค่ำ ๆ ผมจะลองเช็คคลื่นสมองเขาอีกที ผมว่าตอนนี้จิตใต้สำนึกเขาเริ่มจะกลายเป็นเด็กผู้หญิงแล้ว”.หยุดเดินลงตรงมุมโต๊ะเครื่องแป้ง แพรวถึงกับชะงัก ร่างบางของเธอชาไปครึ่งซีกพลันกระชับไดอารี่ไว้จนแน่น .“เดี๋ยวนะ! นี่คืออะไรกัน?! ทำไมอ่านแล้วให้อารมณ์เหมือนพ่อกำลังเปลี่ยนพีให้เป็นผู้หญิงเลยอ่ะ ดูจากตัวเลขปี
“มึงมันเป็นพ่อที่ไม่เอาไหน โทรศัพท์ขึ้น miss call 20 กว่าสายยังปาทิ้งได้ไม่ใยดี นั่นเมียมึงโทรมานะ ถ้ารู้ว่าพีน้อยอ๊วกเป็นเลือดกูจะไม่มีวันเลือกงานก่อนครอบครัวเลย 22.00 น. หยุดการสังเกตผลแล็บ เก็บของทุกอย่างรีบไปโรงบาล และขอให้รถไม่ติดมาก แต่แม่งก็ติดชิบหายอยู่ดี เมืองหลวงเป็นเหี้ยอะไรวะ ลูกกูจะตายอยู่แล้ว ชีวิตดีที่ลงตัวพ่องมึงสิ ไอ้ส้นตีน! เบื่อว่ะ.. เซ็งโคตร! " .ช่างเป็นการเขียนไดอารี่ที่ฮาร์ดคอร์สะใจมาก ลายมือตวัดรุนแรงราวกับรีบร้อน แพรวผู้ถูกขังยังคงตั้งหน้าตั้งตาอ่านแม้เธอจะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าพีน้อยจะไม่เป็นอะไร และเติบโตขึ้นมาเป็นสาวประเภทสอง แต่ก็ยังอยากรู้เรื่องราวในตอนนั้นอยู่ดี.“ ดึ๋ง ๆ , ดั๋ง ๆ , ดึ๋ง ๆ ”ขย่มเตียงดีดเด้งขยับก้นนั่งให้ถนัด ๆ พลันหลุบสายตาลงไปยังหน้ากระดาษต่อ.“พรึบ!”.“ตอนนั้นกูเครียดมากจริง ๆ พยายามโทรหานุชแล้วแต่เธอคงไม่ว่างรับสาย ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง รถโรงบาลที่บอกว่าเรียกมาแม่งจะฝ่ารถติดหนักกับศุกร์คืนฝนพรำแบบนี้ได้เหรอ ไม่มีทางหรอก! กลัวว่ะ! กลัวว่าลูกจะเป็นอะไรไปบนรถ! กังวลมากด้วย! เลยหักพวงมาลัยปาดคร่อมเลน แล้วเอารถกระบะบริษัทจอดยัดไว้ในจุ
จับไดอารี่ยัดใส่ใต้รักแร้ไปอีกที พลันผินหน้ากลับมาดูภาพต่าง ๆ ที่แขวนไว้เต็มสองฟากผนัง ดูจากหมุดหมายและตำแหน่งการแขวนคงเป็นฝีมือของพ่ออีพีเป็นแน่ เพราะอยู่สูงเท่ากับระดับสายตาของแกพอดี แล้วภาพส่วนใหญ่เกิน 90%ก็เป็นภาพของภรรยาที่ชื่อว่า “นุช”.“สวยจัง.. นี่ไล่มาตั้งแต่สมัยคุณแม่ยังสาวเลยนะเนี่ย.. โอ้โห!”แพรวขยี้ขอบตาเพราะอยากจะปรับโฟกัสให้แจ่มชัด แม้จะรู้สึกว่าเมาอยู่หน่อย ๆ.“ผมยาวเหมือนเราเลยด้วย ถึงว่าทำไมพ่อถึงคิดว่าเป็นเรา ว่าแต่แกหายไปไหนอ่ะ? ไปมีผัวใหม่เหรอ? พ่อถึงได้ฟูมฟายขยันเมาหัวราน้ำขนาดนั้น?”.ยิ่งคิดก็ยิ่งมึนสองเท้าก็ยิ่งเดินลึกเข้ามาเรื่อย ๆ จนเผลอทะลุข้ามโซนห้องทดลองไป ความสวยจากรูปถ่ายพาแพรวที่เมามายก้าวผ่านมาถึงโซนอยู่อาศัยที่เป็นดั่งสถานที่หลับนอนของคนในบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าเธอไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัวอะไรเลย แค่จำได้ลาง ๆ ว่าพ่อเคยเดินเข้ามาหยิบผ้าเช็ดตัวแถวนี้หนหนึ่ง แล้วก็กลับออกมาพร้อมกับไดอารี่และอัลบั้มรูปที่ไม่ใกล้เคียงกับคำว่าผ้าเช็ดตัวสักนิด จึงเป็นไปได้สูงว่าห้องของพีก็น่าจะอยู่แถวนี้ด้วย.“อ่า~! เพื่อความฟินและได้อารมณ์ของฉัน ฉันต้องหาห้องของแกให้เจออีตุ๊ดกอล
“กรี๊ดดด!”“พ่อคะ! พ่อจะกินเหล้าด้วยการฉีดเข้าเส้นไม่ได้!”แพรวแทบจะสำลักเอาแอลกอฮอล์ที่กระดกลงคอไปเมื่อครู่ออกมา ดวงตาเธอถลนถมึงทึง พลันกุลีกุจอลุกขึ้นพรวดพราดหวังจะปรี่เข้าไปห้าม เดชะบุญที่ถูกพ่อห้ามเอาไว้ แกหงายฝ่ามือขึ้นแล้วก็อมยิ้มแบบเมา ๆ ตามสไตล์.“ชู่ววว!”“นั่งเถอะนุช ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้ ประเทศนี้แม้แต่สุราก็ตอบสนอง Demand ของฉันไม่ได้ เก็บภาษีมากมายแต่แอลกอฮอล์ก็ไม่เคยจะแรงขึ้นเลย โคตรกระจอก! โคตรไร้ค่า!”“โอ๊กกก.. ก.. ก.. ก.. ก , อึก.. ก.. ก ๆ”กระอึกกระอักในลำคอ คางแทบจะแนบคาอยู่บนโต๊ะ เหลือแต่ดวงตาที่ยังคงเผยอมองมาทางแพรวแบบไม่ลดราวาศอก.กลายเป็นรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านเล่นงานจนสาวเจ้าเริ่มจะทำอะไรงก ๆ เงิ่น ๆ เพราะเธอเองก็ไม่ได้สนิทกับพ่อของพีเท่าไหร่นัก ครั้นจะห้ามปรามออกไปก็โดนพ่อพูดดักทางเอาไว้หมด แล้วก็เป็นการพูดแบบมะนาวไม่มีน้ำ จับต้นชนปลายอะไรไม่ได้ เข้าขั้นถามอย่างตอบอย่างจนสุดท้ายแพรวก็เลือกที่จะเงียบ เธอกระดกแก้วเบียร์ยกขึ้นดื่มพลางฟังพ่อพล่ามเรื่องของพีไปเพลิน ๆ.กลับดีซะอีกเพราะเธอเองก็ไม่เคยรู้เรื่องส่วนตัวของเพื่อนสนิทคนนี้เลย เจอกันครั้งแรกก็ตอนโตเป็นหนุ่
“เอาล่ะ! ถึงแล้ว เลิกกลัวได้แล้ว”.กำปั้นหนาทุบเข้ากับฝาผนังด้านข้าง และเพียงชั่วเสี้ยวอึดใจทุกอย่างรอบตัวก็สว่างโพลงขึ้น กลายเป็นภาพของห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีอุปกรณ์อันทันสมัย สายไฟระโยงระยางหน้าจอสถานะต่าง ๆ กระพริบวูบวาบราวกับห้องแล็บของคณะวิทย์ มีการจัดสรรเป็นโซนเป็นล็อคอย่างดี มีห้องนั่งเล่น , ห้องน้ำ , ห้องทำงาน , ห้องครัว ทำให้แพรวถึงกับต้องยืนอึ้งอยู่พักใหญ่.เธอปล่อยมือออกจากพ่อแล้วลองมองกลับไปข้างหลังดู ทำให้พบว่าก็ยังคงมืดตึดตื๋ออยู่เหมือนเดิม มิหนำซ้ำพอลองก้าวเท้าตามเข้ามาโดยพลัน จู่ ๆ ประตูอัตโนมัติก็เลื่อนเข้ามาปิดให้เองราวกับเซเว่นอีเลฟเว่น ดีที่ไม่มีเสียงติ๊งหน่อง แต่แค่นี้ก็ถือว่ามากพอแล้วที่จะทำให้เธอสับสน เรียนตามตรงว่าบริเวณดังกล่าวเหมือนกับห้องใต้ดินที่มีระบบการถ่ายเทอากาศเป็นอย่างดี อย่าว่าแต่โควิดเลยลึกขนาดนี้แม้แต่ขีปนาวุธก็ทำอะไรบังเกอร์นี้ไม่ได้.“ใช่! บังเกอร์! ที่นี่เหมือนบังเกอร์หรือหลุมหลบภัยอะไรแนวนั้นไม่มีผิด! นี่พ่อแอบสร้างไว้เหรอคะ?!”หญิงสาวเปล่งวาจาขึ้นถาม.ในขณะที่ลุงกลับเดินตรงเข้าไปยังส่วนที่กั้นไว้เป็นห้องนั่งเล่น พร้อมกับกวักมือเรียก.“ทำเป