LOGINโพรเดียมเขยื้อนราวกับถูกโถมด้วยคลื่นสึนามิ หน้าอกของมิวท์แบนอัดกับแท่นด้านบนจนช้ำขึ้นเป็นปื้นและเปลี่ยนสีเป็นแดงระเรื่อ หัวถันสีชมพูอ่อนบดคาอยู่กับแท่นไม้ แต่ครานั้นมิวท์ก็มิปริปากด่าเปรมสักคำ กลับกลายเป็นเธอซะอีกที่ยังคงใช้ฝ่ามือเกาะขอบโพรเดียมเอาไว้แน่น พลันกระแอมบอกเขาไปว่าให้เอาอีกและเอาอีก
.
“ซีดดด~!”
“ขอแรง ๆ เลยค่ะพี่เปรม , เอาแรง ๆ , เอาแรง ๆ กว่านี้อีกค่ะ!"
"อ่าาา~! , อ่าาา~! , อ่ะ! , อ่าาา~!”
.
“ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ!”
.
ทำทรงขอไปงั้น ๆ ทั้งที่ในหูได้ยินแต่เสียงของเปรมที่ครางเรียกชื่อผู้หญิงอีกคนอยู่ตลอดเวลา
.
“แพรว , แพรวจ๋า , โอ๊ยยยแพรว! , แพรวว! , ซีดดดด! , แพรววว!!!”
.
ตอกย้ำว่าเปรมคงยังลืมแพรวไม่ได้ และบางทีทั้งเขาและเธอก็อาจจะยังไม่เคยได้กันเลยสักครั้ง เพราะหลังจากที่มิวท์เอ่ยคำอนุญาตไปแต่ละดอกที่เปรมจัดให็ก็มีแต่ลูกหนัก ๆ แทบทั้งสิ้น แกนแข็งของเขากัดกินกลีบผกาเธอจนสะดุ้งหวิวไปถึงหน้าท้อง การเสียบเข้าเสียบออกกัดเซาะซอกร่อง ช่องคลอดเสียดสีเกร็งจนมิวท์ต้องจิกปลายเท้าเขย่งช่วย
.
“ซีดดด! , เสียวววอ่ะพี่~”
“อร๊อยยย! รู้งี้ให้ครางชื่อแพรวไปนานแล้ว.. ว.. ว..”
“มิวท์เสียววว!~~~”
.
เธอสลับเท้าซ้ายขวา -ซ้ายขวากระทืบซอยยิก บั้นเอวดีดเด้งเบี่ยงไปซ้ายทีขวาที ในทุกทีที่เปรมแยงดุ้นกระหน่ำเสียบ
.
“อื้อ! อืมมม! เพราะมิวท์นมเล็กกว่าแพรวใช่ไหมล่ะ~”
“มิวท์รู้หรอกนะว่าพี่ชอบคนนมใหญ่ ๆ ไอ่.. ไอ่.. ไอ่.. อ่ะ.. อ่า.. อ่า.. อ่า..”
"อ่ะ , อ่ะ , อ่า , อ่า ทำไงได้..! ซีดดด~! ยังไงซะมิวท์ก็ชอบให้พี่เอาอยู่ดี~"
.
หัวสักหัวคลอนโดนเอาก้น สาบานได้ว่านี่คือคำพูดของลูกคุณหนูลุคสดใสจริง ๆ ก๊าซรักษาเชื้อโควิดจากฝ่ามือเปรมจางหายไปหมดแล้ว นี่จึงเป็นจิตใต้สำนึกของเธอโดยแท้ มิวท์กำลังแรด เธอกำลังร่าน แล้วเธอก็มักจะพูดมากเกินปกติตอนที่มีเพศสัมพันธ์ ขนาดเสียวจนร้องเสียงสั่นฟังแทบไม่เป็นคำ ก็ยังอุตส่าห์แฉลบสายตาชำเลืองกลับมาคุย
.
ซึ่งเปรมก็ใจดีที่จะตอบ เขาดึงร่างบางของเธอขึ้นมาจากโพรเดียม มิวท์ยืนหันหน้าส่วนเขาขนาบอยู่ด้านหลัง ดุ้นแข็งยังคงเสียบคาอยู่ตรงนั้น แต่เป็นฝ่ามือเจ้ากรรมที่กระชับหมับ! บีบลงที่เนินนมคู่เล็ก! เปรมซุกหน้าจูบลงที่หลังคอเธอ เขาลงลิ้นตวัดเลียไล่ขึ้นไปเรื่อย ๆ จนขบลงที่ใบหู พลันกระซิบตอบเธอออกมาว่า
.
“ไม่เกี่ยวหรอกครับ.. พี่ไม่เคยรักแพรวเลย พี่รักแค่มิวท์คนเดียว”
.
ตอกย้ำคำพูดดังกล่าวด้วยการออกแรงนวดนมไซต์เล็กซะจนแบนอัดคามือ
.
“ซีดดด~!”
หญิงชู้เผลอร้องครางเสียงหลง เธอเม้มปากแน่นพลางส่ายหน้าแบบถี่เร็ว
.
“ไม่ค่ะ!”
“งั้นพี่จะเรียกชื่อเพื่อนหนูทำไมมิทราบ~ คนถูกเอาก็น้อยใจเป็นเหมือนกันนะ.. หึ~!”
.
“โถ่.. ก็จะได้เอามันส์ขึ้นไง! เหมือนเย็ดพร้อมกันสองคนหรือมิวท์ไม่ชอบ ไม่รู้สึกเหรอว่าพี่กระเด้าแรงกว่าเดิม อย่าลืมสิว่านี่คือกรรมวิธีในการขจัดเชื้อไวรัสนะ รอดตายด้วยแถมยังได้เสียวอีกต่างหากไม่ดีเหรอ?”
.
เอวบางผงกถูขึ้นลงสะโพกกลมค่อย ๆ บดใส่หัวหน่าวเปรมแบบมีนัยยะ มันเร็วขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็เป็นมิวท์เองที่กระเถิบกลีบเสียวเข้าแยงใส่ดุ้นแข็งด้วยความสุขใจ นี่คือปฏิกิริยาโต้ตอบจากเธอ เธอหายงอนแล้วและอยากจะนอนต่อกับเขาใจจะขาด เธอใช้มือตัวเองวางทับลงบนหลังมือของเปรมให้บี้ใส่นมเล็ก ๆ แรงขึ้น หล่อนขยับฝ่ามือส่ายเป็นวงเสริมให้เปรมเค้นมันแรง ๆ พร้อมกับเอวที่แอ่นให้เขากระแทกได้ถนัดถนี่
.
“อ่าาา~~”
“จัดไปเลยค่ะพี่ เรียกชื่อเพื่อนของเราทั้งคลาสเลยก็ได้ใครที่พี่ชอบเอามาให้หมด มิวท์จะเป็นถังแห่งความเสี้ยนให้พี่ปลดปล่อยเอง~”
“มิวท์ชอบมากค่ะ~! เอามิวท์เลย~ เอามิวท์แรง ๆ !”
“มิวท์มันแรด! , มิวท์มันร่าน! , มิวท์มันลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่! ”
.
“ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ!”
“ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ!”
.
.
ณ ทางเท้าคอนกรีตที่ห่างจากตึกสำนักงานใหญ่ของบริษัท AP ไปราว 300 เมตร
.
ในทิศตะวันตกเฉียงใต้แพรวยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่เหลือแต่กิ่ง และแน่นิ่งประหนึ่งตกใจกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นกับตัวเองไปเมื่อครู่
.
“ฮัดเช๊ย!”
.
หยาดน้ำลายกระเซ็นเปรอะเต็มหน้ากาก ซวยมากไปกว่านั้นเมื่อการกระชากของมวลอากาศภายในเมื่อครู่ ได้ทำให้ก๊าซบริสุทธิ์ที่เก็บกักไว้ลดลงแบบฮวบฮาบ ประกอบกับหน้ากากที่แพรวใส่อยู่ก็เป็นหน้ากากกันแก๊ซเวอร์ชั่นประดิษฐ์เองของพ่อพี มันไม่ได้มีมาตรฐานหรือ มอก. อะไรเลย คุณภาพจึงห่วยกว่าของที่บริษัท AP ผลิตออกมาจำหน่ายมาก
.
“เฮ้.. มีใครกำลังนินทาเราอยู่รึเปล่าเนี่ยะ?”
แพรวคิดในใจ เธอหยุดเดินลงสักพักสลับกับการเช็ดรอยเปื้อนบนหน้ากาก
.
“ไม่ใช่ว่าติดเชื้อไปแล้วหรอกนะ ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเห็นเราจามสักที”
“แต่ก็ช่างเถอะนั่นไม่ใช่ประเด็น สิ่งที่เราแคร์คืออีพีต่างหากดูจาก GPS บนโทรศัพท์แล้ว หมอนั่นคงอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ เราต้องคุยเรื่องนี้กับมัน มิวท์กับพี่เปรมหักหลังเราเต็ม ๆ เราเห็นกับตาตัวเองว่าสองคนนั้นคบกันแบบออกหน้าออกตา บางทีเราอาจจะต้องแสดงออกอะไรสักอย่าง เราอยากจะทำให้พวกเขารู้ว่าเราไม่พอใจ และอยากจะเอาคืนให้สาสม!”
.
“แล้วหน้ากากนี่ก็คงจะหมดวาระของมันแล้ว ใช้ได้อีกแค่ 5 นาทีเอง อย่างน้อยตอนนี้ก็ต้องรีบหาตัวอีพีให้เจอก่อน จะได้ขอเปลี่ยนหน้ากากกับมัน อย่าเพิ่งแว๊นหนีฉันไปไกลนักนะเพื่อน”
.
แพรวเขย่งปลายเท้าชะเง้อคอกะจะมองหาเพื่อนจากมุมสูง รถลาไม่มีสักคัน เกาะกลางแตกระแหง ต้นไม้ใบหญ้าที่เคยมีไว้ประดับประดาก็แห้งกรอบด้วยพิษสงของไวรัส ทว่าเดชะบุญที่จุดที่แพรวยืนอยู่เป็นชัยภูมิที่เหมาะสมเหลือเชื่อ มันมีลักษณะเป็นเนินฟุตบาทที่โก่งตัวขึ้นมาซึ่งทำให้เธอเพ่งมองออกไปได้ไกล จนสังเกตเห็นเงาตะคุ่มของกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่ไม่น่าจะใช่พวกหมอ ๆ
.
“อะไรกันวะน่ะ?!”
ถึงกับอุทานเสียงหลง
.
“ในสภาพบ้านเมืองแบบนี้ ออกมาออกันแบบนั้นเดี๋ยวก็ติดเชื้อกันหมดหรอก หรือจะเป็นจุดแจกของบริจาค? ก็เป็นไปได้อยู่นะ?”
จบประโยคดังกล่าวสาวเจ้าก็ได้ละสายตาลงมามองดูพิกัดบนโทรศัพท์อีกครั้ง ปรากฏว่ากระเทยพีเพื่อนรักก็ดันอยู่ในจุดต้องสงสัยดังกล่าวด้วย
.
เธอก็เลยเร่งฝีเท้าเข้าไปหาโดยด่วน โดยไม่คิดว่าจะเป็นกับดักอะไร เพราะทีมแพทย์ส่วนใหญ่ก็น่าจะเฝ้าที่ร้านขายยาเป็นหลัก แล้วตอนนี้เธอก็ได้เดินออกห่างจากจุดเสี่ยงดังกล่าวมาไกลแล้ว
.
“ตุบ , ตุบ , ตุบ , ตุบ , ตุบ”
เสียงฝ่าเท้ากระทบพื้นถี่รัว แพรวเร่งเดินตามฟุตบาทใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้วภาพตรงหน้าก็ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น
.
มันเป็นภาพของรถจักรยานยนต์ของพีที่จอดค้ำขาตั้งอยู่ชิดขอบทาง มีร่างใหญ่ของเขานั่งคร่อมอยู่ด้านบน เขาหันหลังให้ถนนพลางใช้สองมือกุมลงที่หมวกครอบแก้วที่ซื้อมาจากตู้อัตโนมัติของบริษัท AP กระเทยหนุ่มมีท่าทางที่แปลกประหลาด เหมือนเจ้าตัวจะพยายามดิ้นและกระเสือกกระสนหาทางถอดหมวกครอบแก้วอันนี้ออกไปให้ได้ โดยบรรดาชาวเมืองที่พากันมุงก็ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายแต่อย่างใด พวกเขามีประสงค์จะเข้าไปช่วยซะมากกว่า
.
หนึ่ง , สอง , สาม , สี่ , ห้า รวมพีด้วยเป็นหกคน เสี่ยงมากกับการติดเชื้อโดยไม่เว้นระยะห่าง แต่คงเป็นเพราะเสียงร้องขอความช่วยเหลือนั่นแหละ ภาพจึงออกมาเป็นการมะรุมมะตุ้มช่วยกันอย่างที่เห็น ชายคนหนึ่งถึงกับไปยกกระถางดอกไม้แถวนั้นมาทุ่มใส่หัวพี! เสียงดังโครม! แต่ก็ไม่ได้ผลกระถางแตกเป็นเสี่ยง มวลดินร่วงกราวลงกับพื้นเปรอะเปื้อน
.
หลังจากนั้นก็มีทั้งไม้แล้วก็แผงกั้นเหล็ก สารพัดอุปกรณ์ที่ฟาดใส่หมวกครอบแก้วเพื่อเอาคนที่สวมอยู่ข้างในออกมา หนักสุดก็เห็นจะเป็นตัวของพีเอง ที่ถึงกับโขกหัวตัวเองเข้ากับแฮนด์มอเตอร์ไซต์ เขายืนขึ้นแล้วก็กระโดดเอาหัวเหวี่ยงลงไปฟาด!
.
“เปรี๊ยง! , เปรี๊ยง! , เปรี๊ยง! , เปรี๊ยง!”
.
รถขย่มโครม ๆ แต่ก็เหมือนเดิมคือไม่ได้ผลเลย กระทั่งเริ่มได้ยินเสียงชาวเมืองคนหนึ่งที่ผายมือออกกว้าง พลางบอกให้ทุกคนถอยออกห่าง ๆ แล้วรีบไปตามหมอ ซึ่งแน่นอนว่ากระเทยอย่างพีห้ามสุดชีวิต!
.
“ไม่ได้ครับ! เรียกหมอไม่ได้เป็นอันขาด!”
.
“คุณจะบ้าเหรอ! แต่คุณจะตายคาหน้ากากออกซิเจนนั่นเอานะ พวกเราช่วยคุณไม่ไหวหรอก!”
เสียงลุงพลเมืองดีตะโกนกลับไป
.
แพรวได้ยินทุกอย่างชัดเจน เธอไม่มีเวลาพอที่จะช็อคหรือตกใจอีกต่อไปแล้ว รู้ตัวอีกทีหญิงสาวเพียงคนเดียวก็ปรี่ฝ่าวงล้อมไทยมุงทั้งหลาย เข้ามาประชิดตัว LGBT เพื่อนสนิทได้สำเร็จ!
หน้าท้องแบนราบบดนาบเข้าหากัน มิวท์อยู่บนเจนิสอยู่ล่างการสั่นเทิ้มดังกล่าวค่อย ๆ ทุเลาลง แล้วก็ดูเหมือนว่าเรี่ยวแรงที่ใช้ห้ามหั่นจะเอาชีวิตของมิวท์ก็เริ่มอ่อนแรงลงเช่นกัน เธอค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาวะของคนปกติ จุกหัวถันชูชันเกร็งเสียว และแม้แต่กงเล็บที่ยื่นยาวออกมาก็เริ่มหดสั้นกลับลงไป."พี่มิวท์คะ.."เจนิสกระแอมถามทั้งที่ใบหน้ายังคงบี้อยู่กับร่องนมของมิวท์ เธอผินหน้าเอียงเปลี่ยนมุมไปมาพอให้มิวท์ตื่นตัว สลับกับการแลบลิ้นเลียที่ฐานเต้าด้านล่างพลันลากวนโค้งไปตามความอวบอูมของบัวตูมคู่."แผล็บ.. บ.. บ.. บ!"."อ่าาา..า..า..า..า.."รุ่นใหญ่เผลอหลุดครางออกมาแผ่วเบา ลมหายใจร้อนผ่าวพ่นพรูออกมาทดแทนไอแห่งความเหม็นสาปจากเชื้อโควิด ตามติดมาด้วยผิวพรรณที่กลับมามีน้ำมีนวลเป็นสีชมพูบานสะพรั่งอีกครั้ง นี่คือผิวแบบลูกคุณหนูขนานแท้ มันคงผ่านการทำสปาร์มาจากหลายสถาบัน จึงไร้ซึ่งรอยด่างรอยดำ กระจ่างใสราวกับหลุดออกมาจากกระปุกครีม ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอะไรที่โคตรจะน่าฟัด!.ทว่าพอต้องมานอนคร่อมร่างของเด็กมัธยมอยู่แบบนี้ จิตใต้สำนึกของมิวท์ก็ต้องทำหน้าที่ของมันผ่านการปกป้องตัวเอง ทำให้สาวเจ้าต้องตัวกระตุกอีกหน พลั
จากด้านหนึ่งสู่อีกด้านหนึ่ง สาวน้อยวัยมัธยมเร่งฝ่ามือกระโจนโผทะยานไปสู่ตำแหน่งที่คิดว่าได้ยินเสียง พลางผงะเข้ากับรอยโหว่บนตัวเครื่องที่เกิดจากบานประตูที่กระเด็นออกไป แสงสว่างจากหลอดไฟภายในส่องลอดออกมาเป็นลำ นาทีนั้นแม้แต่แท่งไฟในมือเธอก็คงจะไม่จำเป็นซะแล้ว."มีการต่อสู้กันงั้นเหรอ?"เจนิสกระซิบ.พูดกับใครก็ไม่รู้ในเมื่อก็อยู่ตัวคนเดียว เหมือนเธอกำลังประเมินสถานการณ์ ข้างหน้ามีศพ ข้างหลังประตูพัง แล้วเมื่อกี้ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกรี๊ด! นั่นอาจจะเป็นเสียงของมิวท์ก็ได้ บางทีเธออาจจะอยู่ในสภาวะวิกฤต."หรือมีผู้ติดเชื้อบุกเข้ามาทำร้ายพี่มิวท์?!".คราวนี้ไม่คิดแล้วแต่เหวี่ยงร่างกายเข้ามาในเครื่องเลย! โดยไม่สนหน้าอินท์หน้าพรหม เจนิสใช้แรงเหวี่ยงจากกระเป๋าเป้ตวัดทีเดียวร่างบางของเธอก็ม้วนหน้าเข้ามาด้านในราวกับนักยิมนาสติก เสี่ยงตายไม่ว่ามารยาทไม่ต้องทุกสิ่งที่ทำล้วนมาจากความต้องการจากหัวใจ ทว่าสิ่งที่เธอเห็นก็คือ...มิวท์ในเวอร์ชั่นผู้ติดเชื้อ.. ที่ยืนจังก้าเล็บยาวเฟื้อยลากมากับพื้น.!.หากย้อนกลับไปอ่านสักหน่อย จะเห็นเลยว่าบุคลิกของมิว์นั้นใกล้เคียงกับเปรมตอนที่รอเย่อร์เธอในห้องกระจกมาก
ปลายนิ้วแห้งผากราวกับกระดาษทราย กว่าจะสัมผัสได้ถึงหยดน้ำหยาดแรกกลีบผกาก็ช้ำมากจนออกสีแดงแกมระเรื่อ มิวท์เสียวแค่ในใจแต่ร่างกายกลับไม่เป็นดังที่หวัง เธอเอาแผ่นหลังพิงกับกำแพงห้องโดยสารพลางหลุบสายตามองเรียวขาของตัวเองทั้งสองข้างที่ตั้งชันขึ้นและกำลังสั่นระริก เธอเร่งเกินไปเธอฝืนทั้งที่ไม่ได้เงี่ยนจริง.ตอกย้ำการโกหกตัวเองด้วยการดีดกางเกงผ้ายืดที่พันอยู่กับข้อเท้าออก เธออยากเห็นความงุ้มเกร็งของปลายตีน เผื่อจะทำให้มีอารมณ์กระสันขึ้นมาต้านทานการกลายร่างได้บ้าง."ซีดดดด...จิ๋มแห้งจัดเลยอ่ะโถ่เอ๊ย!".แท่งน้ิวเปลี่ยนจากสองเป็นสาม ชี้ , กลาง , นาง เรียงตัวเป็นขยุมพลันยัดเข้าไปแบบสุดเหยียดก็แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลหล่อนจึงได้รับแต่ความเจ็บปวดกลับมา แรงเสียดสีที่ขาดน้ำหล่อลื่นเป็นอะไรที่ทำร้ายช่องคลอดมาก มิวท์เหมือนกำลังทำทารุณกรรมกับตัวเอง และที่สำคัญที่สุดก็คือ ณ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ มุมมองสายตาของเธอก็เริ่มเห็นเป็นฉากสีแดงและเส้นเลือดยึกยือถักทอขึ้นมาแล้ว!."เรากำลังจะกลายร่าง.. อ่ะ.. อ๊ากกก..ก..ก..ก , อั๊ก..ก..ก!""เด็กผู้หญิงคนนั้นกับแท่งไฟส่องสว่างในมือ ทำให้เชื้อโควิดในตัวเรากำลังจะออกมา..
ภาพในฝันประเดประดังเข้ามาในหัว ภาพของการสังวาชกันในน้ำ ภาพของมิวท์สาวสวยหุ่นงามที่ถูหน้าอกบี้บดกับแผ่นหลังของเธอ สิ่งเหล่านี้ทำเอาเจนิสถึงกับมือไม้สั่น แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นโลโก้ของบริษัท AP ตรงท้ายเครื่องบิน และจากจุดที่ยืนอยู่ก็สูงและมืดเกินกว่าจะพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณที่ติดตัวมายังไงเธอก็ว่าใช่ นี่ต้องเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ตั้งใจออกมาตามหาแน่นอน."เอาไว้ก่อนเรื่องช่วยเหลือผู้คน เสียใจด้วยนะคะน้า แต่ก็ต้องขอบคุณด้วยเหมือนกันนี่ถ้าไม่ใช่ลูกผัวน้าหนูคงไม่ได้เจอกับเครื่องบิน"."ปั๊ก! , ฟู่..!!!"จากอุปกรณ์จุดไฟในมือกลายเป็นแท่งไฟส่องสว่าง มันถูกกระทุ้งด้วยหัวเข่าและเปล่งแสงสว่างโพลงออกมาทำให้ทั้งสองฟากของซอกเขากลายเป็นสีแดง."รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง" ถ้าจะต้องมีซาวด์ดนตรีประกอบเพลง "เล่นของสูง" ของวงบิ๊กแอสถือว่าเหมาะมาก เพราะเจนิสรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเสี่ยงแค่ไหน แท่งความร้อนเรืองแสงที่ถืออยู่จะกลายเป็นตัวล่อชั้นดีให้บรรดาผู้ติดเชื้อพุ่งเป้ามาที่เธอ แต่ก็นะ! จะให้ทำไงได้ล่ะในเมื่อหัวใจเรียกร้อง.เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดหาเหตุผลให้กับความรัก เมื่อนั้นก็แปลว่
"ไป! ,ไป! ,ไป!, เดินหน้าเร่งฝีเท้าหน่อยทุกคน! ใกล้จะค่ำแล้วอย่าแตกแถวดูแลกันและกันด้วย!"เสียงหัวหน้าหน่วยหันมากำชับ."อีกราว 500 เมตรก็จะถึงประตูหน้าวิลเลจแล้ว ในนั้นทุกคนจะปลอดภัยสบายใจได้"แกผินหน้ากลับมามองตรงพลางกระชับปืนคู่ใจแนบวงแขน แบกเป้ประทับบ่าเดินจ้ำอ้าวรวดเร็วปานจรวด.ที่ด้านหลังมีสมาชิกกลุ่มเพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 20 ชีวิต มีทั้งเด็กและผู้หญิงแล้วก็คนแก่ ทุกคนต่างอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าอิดโรย โดยมีสมาชิกหน่วยลาดตระเวนกระจายตัวล้อมรอบพวกเขาไว้อีกชั้นหนึ่ง พวกเขาต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันแล้วก็โชคดีมากที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากการปะทะกันเมื่อตอนบ่ายเลย.แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำแบบนี้ก็ไม่แน่ ไม่มีใครอยากเสี่ยงกับกลุ่มผู้ติดเชื้อเวอร์ชั่นกลางคืนหรอก หัวหน้าหน่วยก็เลยพยายามย้ำนักย้ำหนาว่าให้ทุกคนเร่งฝีเท้าต้องไปให้ถึงวิลเลจก่อนตะวันตกดินให้ได้ ภาษากายดูจริงจังน่าเกรงขาม แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในใจลึก ๆ นั้นหัวหน้าเป็นห่วงเจนิสมากขนาดไหน."โถ่.. เจนิสเอ๊ย! อุตส่าห์บอกแล้วว่าให้รักษาแนวด้านหลังเอาไว้ ทำไมถึงทำอะไรโดยพลการนะ""นี่เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองเก่งพอจะอาสาไปช่วยเหล
ทิ้งกระเป๋าเป้ปลดสัมภาระที่คิดว่าจะเป็นภาระในภายภาคหน้าไว้ที่พื้น เจนิสทำตามอย่างว่าง่าย เธอไม่มีแม้แต่อารมณ์ขี้งอนหรืองี่เง่าใด ๆ ด้วยเพราะรู้สถานการณ์ดี สิ่งที่ติดตัวมาจึงมีแค่ปืนหน้าไม้กับซองใส่ลูกดอก ในทิศหกนาฬิกาด้านตรงกันข้าม ร่างบางเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการคลานศอก เธอกดตัวให้ต่ำกระดืบ ๆ คืบคลานไปอยู่ในแนวด้านหลังสุดตามที่รุ่นพี่ออกคำสั่ง."เข้าใจแล้วค่ะ.. ไว้ใจหนูได้เลยหนูจะระวังหลังให้เอง ถ้าเจอผู้รอดชีวิตบอกให้ตามมาทางนี้ได้เลยนะคะ!"แม้แต่ซุ่มเสียงก็ดุดันจริงจังขึ้น ตอกย้ำว่าเธอไม่ได้มาเล่น ๆ.ด้วยความสัตย์จริงว่าการบู้นั้นไม่ใช่สไตล์ของเจนิสมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เธอเป็นนักรบสายซับพอร์ตไม่ใช่ตัวแทงค์ และถ้านับสถิติการฆ่าผู้ติดเชื้อแล้วล่ะก็ในแคลนก็คงจะเป็นเธอนี่แหละที่ตัวเลขอยู่ในลำดับต่ำสุด กลับกันแต่ถ้าหากเป็นการหนีเพื่อเอาตัวรอดแล้วล่ะก็ เจนิสก็จะพลิกสถิติกลับขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งวงการได้เลย.จากคลานเริ่มค่อย ๆ ลุกขึ้นกระหยิ่มย่อง มือเรียวเกี่ยวตะขอขึ้นสายหน้าไม้เตรียมไว้ พลันกระโดดยิงหนึ่งดอกออกไปเมื่อเห็นเป้าหมายชัดเจน."ฟิ้ววว!"."ปั๊ก!"."หัว" เหมือนกันแต่เป็น "หัวเ