เสร็จสิ้นจากด่านกักกันโรคดังกล่าว กระบะบุโรทั่งของพ่อก็ได้รับสติกเกอร์พิเศษมาแปะหน้ารถ เพื่อใช้ระบุว่าได้รับการยกเว้นให้ผ่านด่านเคอร์ฟิวไปได้เป็นกรณีพิเศษ แม้สีสันสะท้อนแสงของมันจะย้อนแย้งกับสภาพรถโดยรวมมากก็ตามที แต่ก็ถือว่าได้เจ้านี่แหละที่อำนวยความสะดวกให้แก่ 4 ชีวิตในห้องผู้โดยสาร
.
"แยกข้างหน้าเลี้ยวขวาค่ะพ่อ จอดที่รั้วข้างนอกได้เลยคอนโดมิวท์อยู่ที่นั่น"
มิวท์ชี้บอก ติดกันคือแพรวกับพีที่นั่งเบียดเสียดกันแนบแน่น แปลกแต่จริงที่ไม่มีใครกล้านั่งเบาะด้านข้างคนขับเลย
.
ซึ่งทันทีที่รถกดห้ามล้อหยุดนิ่ง สาวเจ้าของเสียงก็เปิดประตูวิ่งพรวดออกไปเลย เธอหันมายกมือไหว้ขอบคุณผู้ใหญ่ครู่หนึ่ง ตรงข้ามกับแพรวและพีที่ได้รับรอยยิ้มอันแห้งเหือดไว้เป็นที่ระลึก ประหนึ่งว่ามิวท์นั้นมีอะไรที่ปิดบังเอาไว้อยู่
.
"ชู่วววว..จะให้เพื่อนเห็นรถของพี่เปรมไม่ได้ จอดไม่ระวังแบบนี้เราสิจะเดือดร้อน!"
มิวท์คิดในใจ
.
ขณะคิดอยู่ใบหูก็ได้ยินเสียงแพรวตะโกนขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ทำให้ค่ำคืนนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
.
"บ๊ายบายมิวท์ ขอบคุณมากนะ ไม่มีเพื่อนดี ๆ อย่างเธอฉันคงแย่!"
.
"จ้า.. , ไม่เป็นไรหรอกแล้วเจอกันนะแพรว.. รักษาตัวด้วย^^"
.
เธอตอบกลับไปด้วยความเกรงใจสูงสุด พลันยืนจด ๆ จ้อง ๆ รอให้กระบะบุโรทั่งบึ่งออกไปจากหน้าคอนโดจนลับสายตา ก่อนจะหันมาหลอกตัวเองแบบงู ๆ ปลา ๆ ว่ารถสีดำที่จอดอยู่เบื้องหน้า อาจจะไม่ใช่รถของพี่เปรมก็ได้ มันอาจจะแค่คล้าย รถสีนี้ยี่ห้อนี้มีวิ่งกันถมเถ
.
"ฮัลโหล!"
"แต่ใครกันล่ะที่โทรหาเรา?"
"บ้า! พี่เขาอาจจะแค่อำเราเล่นขำ ๆ ก็ได้ คงไม่ใช่เรื่องจริงหรอก ใครจะกล้าแหกด่านเคอร์ฟิวกัน"
.
ใจเต้นเป็นกลอง ขาสั่นเป็นระฆังวัด เด็กสาวตื่นเต้นมากสองมือของเธอกอดกระเป๋าโดเรม่อนขึ้นบันไดมาด้วยความหวาดหวั่น เธอไม่อยากให้สิ่งที่คิดเป็นจริงเลย เกิดแพรวรู้ว่าเปรมอยู่ที่นี่มีหวังคงมองหน้ากันไม่ติด มิวท์คิดไม่ออกเลยว่าจะตอบเพื่อนด้วยวิธีไหน
.
ห้องหับต่าง ๆ ไล่มาตั้งแต่ชั้นแรกจนถึงชั้นสาม ปิดสนิทเงียบกริบตามมาตรการของรัฐ ยกเว้นห้องของเธอที่อยู่ตรงสุดทางเดิน จากระยะสิบเมตรนัยต์ตาเฉี่ยวมองเห็นปลายแดง ๆ วาบ ๆ จากควันบุหรี่โพยพุ่ง มีร่างเงาสูงทะมึนไหล่กว้างยืนเท้าแขนลงกับราวระเบียง ชายคนดังกล่าวอัดบุหรี่มวนต่อมวนยืนงุ่นง่านกระวนกระวายอยู่หน้าห้อง สลับกับการก้มดูนาฬิกาข้อมือเป็นระยะ
.
ใช่แล้ว! เขาคือ "เปรม" โดยไม่ต้องสืบ นักศึกษาหนุ่มเดือนคณะเภสัชฯ ควบตำแหน่งประธานหอพักของมหาลัย ที่วันนี้มาโผล่อยู่ที่นี่ด้วยการบึ่งรถเร็วจี๋แข่งกับมาตรการเคอร์ฟิวตอน 4 ทุ่ม
.
มิวท์ไม่ค่อยแน่ใจเธอจึงตัดสินใจค่อย ๆ ย่องเข้าไปใกล้ ๆ ให้แสงสว่างของหลอดไฟฉาบฉายลงมาชัด ๆ
.
"พี่เปรม..! ใช่พี่เปรมไหมคะ..?"
.
"มิวท์!"
ดวงหน้าคมสะบัดหันฉับพลัน แสงนีออนย้อมแสงจันทร์ทำให้เขาโคตรจะหล่อ
.
เกิดเป็นการสตั๊นท์ระหว่างกันและกันราว 4 - 5 วิ แต่ทว่าเสี้ยววินาทีต่อมาร่างบางของมิวท์ก็โดนบุกประกบ สองกายแนบชิดติดกันเยี่ยงตำรวจถือโล่กับกลุ่มผู้ชุมนุมแห่งแยกราชประสงค์ ดูทรงแล้วเหมือนเปรมจะอยากพ้นน้ำผสมแก็สน้ำตาเข้าซอกขามิวท์เต็มทน พละกำลังอันเกินกว่าคน เลยผลักดันร่างของหญิงสาวไปชนเข้ากับผนังด้วยความรุนแรง
.
"ตุบ!"
.
"โอ๊ย! พี่ค่ะ!"
.
อารยะขัดขืนหรือจะสู้พลังความหื่นที่ไม่ต้องง้อพรก. เปรมเริ่มรุกไล่ด้วยความฉุกเฉิน ผ่านการใช้ปากไซร้ลงที่ลำคอ
.
"จุ๊บบบบบ!"
"ซูดดดดด...ด...ด...ด"
.
"พี่เปรมอย่าค่ะ.."
.
"ทำไมล่ะก็พี่คิดถึงมิวท์นี่นา.. พี่รอมิวท์นานมากเลยนะรู้ไหม?"
.
"จุ๊บบบบบ!"
.
ร่างบางดิ้นจนทำกระเป๋าถือร่วงหลุดลงพื้น สเปร์ย์ฆ่าเชื้อหน้ากากอนามัยกระเด็นกระดอนออกมา เธอไม่อยู่ในสถานะที่จะต่อสู้ขัดขืน ลำตัวอ่อนละทวย ท้ายทอยร้อนผ่าวไปจนถึงหลังหู ก่อนที่มือหนาของเปรมจะเริ่มซุกซนลงบนเนินอก เขาชอนไชปลายนิ้วเข้าไปในร่องกระดุม ดุนแหย่เข้าไปถึงตะเข็บยกทรงเวียนวนยอดถัน พอสาสมใจแล้วจึงได้วาดไล้ออกมาลูบคลึงเข้าที่เอวอันคอดกิ่วเสียวสะท้าน
.
"พะ....พี่....เปรมม..ม...ม...อืม..ม...ม...ม"
"ซีดดดด..ด...ด"
.
ซุ่มเสียงชักสั่นเครือพูดไปเป็นคำ ทั้งตัวสั่นโยนโดยเฉพาะบริเวณต้นขาเบื้องล่าง วินาทีนี้มิวท์สัมผัสได้ถึงความชุ่มฉ่ำจากถ้ำรักที่เธอหวงแหน นั่นเหมือนเป็นคำตอบกลาย ๆ ว่าร่างกายเธอก็โหยหาสิ่งเหล่านี้มาตลอด แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่านี่คือแฟนเก่าของเพื่อนก็ตามที
.
"หอมจัง.."
"หอมมิวท์มากเลยครับ.."
.
นี่สิถึงจะเรียกว่าถ้อยคำที่เป็นการคุกคามทางเพศโดยแท้ เปรมมิได้มีเจตนาเปรียบเปรยสองแง่สองง่ามแต่อย่างใด หากแต่เป็นหว่างขาแท้ ๆ แม่ให้มาของมิวท์นี่แหละที่เขาหวังจะพิชิตมันให้สำเร็จ เจ้าตัวเลยสานต่อด้วยการฉวยโอกาสประกบปากเข้าไปจุมพิต เขางับกลีบปากบางด้วยจังหวะอันอ่อนนุ่ม รสสัมผัสผสานรวมเข้าเป็นหนึ่ง จนลิ้นรับรู้ได้ถึงรสแอลกอฮอล์ที่ฝ่ายหญิงเพิ่งดื่มกินมา
.
เปรมมองหน้ามิวท์ส่วนมิวท์นั้นเขินจนต้องหลับตา ฝ่ายชายเลยรุกต่อด้วยการใช้ลิ้น แปลกแต่จริง! ที่มิวท์เองก็ดันสอดลิ้นกลับคืนมาด้วย
.
"ชอบแล้วใช่ไหม?"
.
"ค่ะ.."
.
"จ๊วบบบ , จุ๊บบบ , จุ๊บบบบ , จุ๊บบบบ"
.
ทั้งสองยืนนัวกันอยู่หน้าประตูห้อง แสงสลัวจากระเบียงที่ไม่มีคนช่างเป็นอะไรที่โคตรได้บรรยากาศ จนกระทั่งถึงเสี้ยวอึดใจหนึ่งเปรมก็หยุดทำ จู่ ๆ เขาก็โน้มตัวลงไปเก็บกระเป๋าถือให้มิวท์พลันจัดเก็บอุปกรณ์ฆ่าเชื้อต่าง ๆ ให้กลับเข้าที่ แต่ทว่าหางตาเจ้ากรรมดันเหลือบไปเห็นสิ่งที่ทำให้น่าตกใจเข้า
.
นั่นก็คือ..
.
"เอิ่ม..มิวท์นี่มัน?"
"นอกจากเสปรย์ฆ่าเชื้อ หน้ากากอนามัย เธอยังพก "ถุงยางอนามัย" ไว้ด้วยเหรอ?"
"พกเป็นกล่องเลยด้วย?"
.
"พี่.. เปร๊มมม!?"
.
พูดไม่พูดเปล่ายังอุตส่าห์ควักออกมาโชว์ ดูทรงฝ่ายหญิงน่าจะอับอายเป็นอย่างมาก แต่ไม่เลย! มิวท์รีบผละตัวออกจากวงแขนกำยำนั้นทันที เธอตวัดมือหยิบเอากล่องถุงยางยัดใส่กระเป๋าโดเรม่อนคืนตามเดิม พลันล้วงเอาคีย์การ์ดออกมาแตะลงที่ตัวล็อคประตูจนเกิดเสียงดัง "ติ๊ดดด!"
.
"คนบ้า..!"
ทำหน้างอนพอน่ารัก กลัดกระดุมกลับแลบลิ้นสวนไปหนึ่งที
.
โดยหารู้ไม่ว่าชั่วอึดใจที่ชายหนุ่มเผลอนั่นเอง ฝ่ามือเรียวก็ได้คว้าหมับเข้าที่ข้อมือของเปรม เธอเหวี่ยงเขาเต็มแรงจนร่างแกร่งกระแทกบานประตูพับเข้ามาในห้อง
.
"โครมมมมม!"
.
"โอ๊ยยยย! เบาหน่อยสิมิวท์!"
.
ต่อเนื่องด้วยการใช้แผ่นหลังพิงบานประตูลงกลอนสลัก เกิดเป็นห้องปิดตายที่มีหนึ่งหญิงหนึ่งชายมุ่งจะปฏิสนธิกัน มิวท์สูดลมหายใจเข้าลึกสุดปอด เบื้องหน้าห่างไปเพียงวามีนักศึกษารุ่นพี่สุดหล่อยืนแอ่นลำเตรียมขึ้นสวรรค์อยู่ เป้ากางเกงของเขาโก่งนูนชัดเจนโดยไม่ต้องมองก็สังเกตเห็น คิดได้ดังนั้นเลยตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะปลดโบว์ผูกผมของตัวเองออก
.
"พี่เปรมคะ.."
"มิวท์มีอะไรจะสารภาพ.."
"มิวท์เองก็รอเวลานี้มาตลอดเช่นกันค่ะพี่.. การรอคอยของพี่มันสู้มิวท์ไม่ได้สักนิด"
.
สะบัดผมปลิวไสว พูดไปพลางสางผมไปด้วย
.
"เพราะงั้น.. เรื่องระหว่างเราในคืนนี้ ไม่ใช่พี่ที่เอามิวท์นะคะ แต่เป็นมิวท์ต่างหากที่ได้พี่!"
.
คดีพลิกเมื่อฝ่ายชายดันกลายเป็นคนโดนปล้ำ มิวท์พูดจริงไม่ได้โกหก เธอเฝ้ารอวันที่แพรวจะเลิกกับเปรมมานานแล้ว แล้วก็เป็นความจริงอีกข้อที่ว่า "เธอไม่เคยผ่านมือชายคนใดมาก่อนเลย" ความแคล่วคล่องของการเล้าโลมล้วนมาจากประสบการณ์จากการดูคลิปโป๊ล้วน ๆ มิวท์มักจะมโนไปเองเสมอว่าตัวเองเป็นนางเอกหนังโป๊ที่โดนเปรมร่วมรัก
.
"จุ๊บ , จุ๊บ , แผล็บ , แผล็บ , จุ๊บ , จุ๊บ"
.
"มิวท์แอบรักพี่มานานแล้วค่ะพี่เปรม.. อ่าาาา.. อ่ะ.. อ่าาาา.. ดูปากมิวท์นะคะ.."
"มิวท์~ รัก~ พี่~"
.
"ด๊วบบบ , ดุ๊บบบ , จุ๊บ , จุ๊บ , จุ๊บ"
.
รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้า ที่หน้าประตูทางเข้าได้ยินก็แต่เสียงริมฝีปากเธอเลียแทะโลมเหล่าอวัยวะ พร้อมกับคำหวานต่าง ๆ นา ๆ ที่ถาโถมเข้ามาใส่ ทำให้เปรมยิ่งเกิดการตื่นตัว เขาแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยแค่ยืนเกร็งเป็น "ตชด." (เตรียมใช้ดอ) ที่ไม่ได้ย่อมาจาก "ตำรวจตระเวนชายแดน" ก็เพียงพอแล้ว
.
"จ๊วบบบบ!"
.
"แฮ็ก ๆ , แฮ็ก ๆ"
"พี่รู้อะไรไหม? มิวท์อ่ะ! รู้แม้กระทั่งขนาดของจู๋พี่ว่าใส่ถุงยางเบอร์อะไร? เชื่อป่ะ?"
.
หล่อนเปลี่ยนท่าเป็นนั่งคุกเข่า ทำให้ตอนนี้ใบหน้าสวย ๆ สไตล์ลูกคุณหนูได้จ่ออยู่ที่เป้ากางเกงของเปรมแล้วเป็นที่เรียบร้อย ฮอร์โมนกำลังคลั่ง เปรียบเปรยไปคงไม่ต่างจากแฟล็ชม็อบนักศึกษาที่กำลังระดมพลจากที่ต่าง ๆ ซึ่งคิดว่าอีกไม่นานเราคงได้เห็นอะไรที่ "บึ้ม! , บึ้ม!" จากคนคู่นี้เป็นแน่
.
"ไม่จริงน่า.. ล้อเล่นเหอะ? รู้ได้ไง?"
.
"ก็ไม่ยังไงหรอกค่ะ มิวท์ก็แค่แอบดูพี่ตอนที่อยู่กับแพรวตลอด ๆ ตอนที่พี่มีอะไรกับเพื่อนหนู เสื้อผ้าที่พี่ถอดกองไว้ ไซต์เสื้อเชิร์ต เบอร์รองเท้า หนูก็จำไว้หมดแหละ"
.
มือเรียวเริ่มดึงชั้นในชายตรารอซโซ่สีกรมท่าที่อูมอยู่ตรงหน้าตัวเองลง ขนาดของมันผงกแต่ละทีนี่เรียกได้ว่าสร้างความตกใจให้แก่มิวท์อยู่ไม่น้อย แต่ก็ยังดีที่ต้ังสติได้ เธอจึงเอื้อมไปหยิบกล่องถุงยางมาแกะ ฉีกซองแล้วก็บรรจงสวมใส่ให้กับเปรมมันทั้ง ๆ อย่างงั้น
.
"ซึบบบบ!!"
(พอดีเป๊ะ! )
.
"เห็นไหมคะพี่..พอดีเด๊ะเลย! พี่ได้เพื่อนหนูแล้ว.. เอาหนูด้วยอีกคนจะเป็นไรไป หนูอนุญาตให้พี่ทำทุกอย่าง..ง..ง..."
.
"อุ๊ย!"
.
ว๊ายยยย!"
"กรี๊ดดดดด!!"
.
"อีพี่เปรม!"
"พี่เปร๊มมมม..ม..ม..ม"
"อีพี่เปรมบ้า! วางมิวท์ลงก่อน! ไม่ใช่ตรงนี้ ตรงนี้ไม่ได้นะคะ! อร๊ายยยย! มันน่าอายจะตาย!!!"
.
บทสนทนายั่วสวาทจบลงแค่นั้น ซีนต่อมากลายเป็นฉากร่วมรักระดับมาราธอน sub4 ที่เสร็จกันไปถึงสี่น้ำและลากยาวไปถึงตีสี่ก็ยังไม่มีฝ่ายไหนยอมแพ้ รสชาติของหนุ่มสาวที่เพิ่งได้กันทำให้สวรรค์เกิดขึ้นบนเตียง หลังจากที่เปรมอุ้มมิวท์ไปที่นั่น อาวุุธประจำกายของเขาที่ใส่นวมเซฟไว้เป็นอย่างดีก็ได้ทำการเข้าตีเมืองจันทน์จนทำนบน้ำแตกซ่าน
.
เปรมเปลี่ยนเตียงหรูจากอีเกียร์ (IKEA) เป็นโต๊ะเชือดในโรงฆ่าสัตว์ เสียงกรีดร้องครางแบบสะใจของมิวท์คือหลักฐานข้อหนึ่งที่มิอาจปฏิเสธได้ หลักฐานข้อต่อมาคือขาเตียงที่มีแต่การกระแทก , กระทบ , กระทั่ง , มันกระเถิบขึ้นหน้าไปในทุก ๆ ครั้งที่เจ้านายมันกระเด้าเย็ด
.
มิวท์ครางหนึ่งทีเตียงเอี๊ยดหนึ่งครั้ง เตียงเอี๊ยดสิบครั้งมิวท์นี่แทบจะร้องไม่ไหว แล้วคนที่มันส์กว่าใครก็คงจะหนีไม่พ้นเปรม หยาดเหงื่อของเขาซาดซึมลงที่ผ้าปู ชายผ้ากระจุยกระจายหลุดจากขอบเตียงด้วยแรงปฏิกิริยาที่เขาย่ำยีใส่ฝ่ายหญิง มันทั้งเปียกแล้วก็ชุ่ม แม้ผิวสัมผัสมันจะนุ่มแต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับหนังเนื้ออุ่น ๆ ของมิวท์ที่เขานอนกอดฟัดอยู่
.
พวกเขาคือคู่ผัวเมียที่ไม่ต้องมีทะเบียนสมรส สรรพนามแทนกันและกันเปลี่ยนเป็น "ผัวจ๋า" "เมียจ๋า" ตามอารมณ์แห่งความเงี่ยนโดยไม่ต้องง้อนายทะเบียนจากสำนักงานเขตไหน ๆ มิวท์เป็นของเปรมแล้วทั้งกายและใจ เธอยอมมอบความซิงให้แก่เขาและใช้ทุกสรรพวิชาที่เรียนรู้จากหนัง AV มาประเคนให้ด้วยความยินดียิ่ง ในขณะเดียวกันเปรมเองก็ด้วย เขานอนกับผู้หญิงมามากซึ่งนอกจากแพรวแล้วก็มีมิวท์นี่แหละ ที่ทำให้เขาไม่ได้หลับได้นอนเลย
.
.
หลายชั่วโมงผ่านไป
.
นาฬิกาหัวเตียงบอกเวลาว่าตี 5 ผ่านช่วงเวลาเคอร์ฟิวมาแล้วและเปรมเองก็คงต้องกลับ เขาเหลือบสายตามองลงข้างเตียงแทบแยกไม่ออกว่าเสื้อผ้าตัวเองกองอยู่มุมไหน การร่วมรักเมื่อคืนไม่ต่างจากสงคราม ที่แม้แต่น้ำกามยังถูกลูกคุณหนูกลืนกินลงคอไปหมดสิ้น
.
"กางเกงอยู่ไหนวะ?"
เปรมคิด ก่อนจะตวัดพลิกร่างเปลือยตัวเองกลับมาด้านที่มีมิวท์นอนหลับอยู่ มุมปากเธอยังคงเลอะคราบน้ำ ผมเผ้ายุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิง หายใจเร็วจนบัวตูมคู่นูนกระเพื่อม
.
"ไม่ไหวแล้วมิวท์.. พี่เอาเธอจนถุงยางหมดกล่องแล้ว ร้อนแรงกว่าน้องก็เตาแก๊สแล้วล่ะ เธอมันสาวฮ็อทของจริง"
.
"จุ๊บบบ!"
.
"อืมมม.. พี่เปรม..ม..ม~!"
.
คล้ายจะตื่นแต่เหมือนแค่สะลึมสะลือ เด็กสาวที่ใช้ผัวร่วมกับเพื่อนจึงได้ขยับตัวขึ้นมาหนุนบนไหล่ เธอพาดแขนโอบกอดเปรมไว้ ในขณะที่เปรมเองก็ดึงเธอเข้ามากอดไว้เช่นกัน แล้วก็หลับกันไปทั้งคู่ทั้งโป๊ ๆ แบบนั้นจนถึงช่วงสายของวันรุ่งขึ้น
“โครมมม!”.“หึ! ทำไมประตูบานนี้พังเข้ามาง่ายจัง เหมือนแค่วางพิงไว้เฉย ๆ เลย?”เจ้าหน้าที่ผู้ถือวิทยุหันมาคุยกับเพื่อน พวกเขาทำแบบนี้กับทุกห้องและล่าตัวบุคคลกลุ่มเสี่ยงสูงที่เป็นชาวสีม่วงผิดเพศ ลงไปกักขังไว้ด้านล่างได้หลายรายแล้ว.“ระวังตัวด้วยล่ะ อาจจะเป็นกับดักก็ได้ คนข้างในอาจจะมีอาวุธ”เสียงทีมที่มาด้วยกันร้องเตือน.“อืม..จริง ทุกคนระวังตัวด้วยนะ!”เขาตะโกนบอกทุกคนพลางกระชับวิทยุไว้จนมือเปียก โดยทุกคนที่พูดถึงนั้นก็มีทั้งกระสอบป่าน , ปืนช็อตไฟฟ้า , แล้วก็ลูกดอกอาบยาสลบ.ประหนึ่งรู้มาก่อนกาล ว่าที่นี่คือห้องของพีกระเทยควายรูปร่างสูงโปร่งแห่งทุ่งบางกะปิ ผู้ซึ่งบัดนี้กำลังหมดแรงอ่อนล้าหลังเพิ่งผ่านการถ่างขาสังวาชกับเพื่อนสาวมาหยก ๆ.“สองคนทิศ 12 นาฬิกา อีกคนมากับฉัน! ชิดกำแพงไว้! เราจะโอบจากด้านข้าง!”.“ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! , ตรึม! ”.ฝ่าเท้าโหมกระหน่ำโรมรันไม่มีการย่องเบาแบบภารกิจสายลับใด ๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างเต็มไปด้วยความอึกทึกครึกโครม ส่วนหนึ่งก็เพราะอุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งอยู่บนแขน ที่มีการแจ้งเตือนอย่างแน่ชัดว่าในห้องแห่งนี้มีชาวรักร่วมเพศอาศัยอยู่ เลือดของพวกเขากำลังเป
จ้วงขาออกไปพร้อมกับการเชิดหน้า บานประตูกลายเป็นที่รองตีนให้เหยียบย่ำ ประดังความแค้นสุมทรวงทำให้แพรวแสดงออกเช่นนี้ เธอหยุดเจรจาพาทีมุ่งหน้าออกไปจากอพาร์ทเมนต์แห่งนี้โดยเร็ว และถึงแม้ว่าพีจะพยายามตะโกนไล่หลังพลันวิ่งเปลือยท่อนบนออกมาตาม แพรวก็ไม่สนอีกแล้ว.“อีแพรวเดี๋ยว! ชุดมึงมันไม่เรียบร้อย มึงจะโนบลาออกไปเดินโทง ๆ ไม่ได้!”.เห็นแต่แผ่นหลังเดินลงบันไดไปไกลลิบ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงตามสไตล์ของคนที่เพิ่งเสียตัว พีหยุดแล้วแต่แพรวไม่ยอมหยุด เขาไม่ใช่พระพุทธเจ้าแล้วแพรวก็ไม่ใช่องคุลีมาล ไม่มีทางที่จะตรัสรู้ชอบได้ด้วยตนเอง กระเทยหนุ่มเลยต้องปล่อยเลยตามเลยเดินวกกลับเข้าไปในห้อง พร้อมกับยกบานประตูทั้งบานเอาไปประกบไว้คืนที่เดิม.“อีห่า! ค่าส่วนกลางกูก็ต้องจ่ายอีก! ขอให้มึงไม่ท้องอย่าให้กูต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นการแต่งมึงเป็นเมียเลยอีแพรว!”..ตัดภาพมาที่หญิงสาวเพื่อนสนิท เธอยังคงมุ่ยหน้าเดินเหวี่ยงลงบันไดมาด้วยความหงุดหงิด ห้องของพีอยู่ชั้นบนสุดคือชั้น 5 ซึ่งไม่สูงพอที่จะทำให้อพาร์ทเมนต์แห่งนี้มีลิฟท์ไว้อำนวยความสะดวก สาวเจ้าจึงได้แต่เดินแล้วก็เดิน เดินไปคิดไปว่ายังไงซะสถานที่ ๆ จะไปก็คงไม่พ้
“วางถุงกาวแล้วตั้งสติ” ถ้าเป็นวลีฮิตสมัยก่อนต้องใช้คำนี้ แต่ถ้าเป็นตอนนี้ต้องบอกเลยว่าพลาดที่ไม่ได้ใส่ถุง แพรวลุกขึ้นพรวดจากโซฟาเธอเดินไปเก็บเสื้อผ้า ค่อย ๆ ทยอยสวมใส่ทีละชิ้นด้วยความใจเย็น แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าใส่ไปก็มีแต่รอยขาดจากการถูกกระชากก็ตามที.“……”เงียบเป็นเป่าสาก สาวเจ้าสวมเสื้อนอกตัวบางเป็นลำดับสุดท้าย ก่อนจะขยับตัวไปยืนอยู่หน้าประตู.“มึงจะไปไหน?” พีถาม เขาถูฝ่ามือขยี้หน้าตัวเอง .กระเทยควายอยู่ในอาการจิตตกขั้นสุด บางทีเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจที่จะปล่อยให้เซลล์อสุจิงอกอยู่ในช่องคลอดเพื่อน แพรวจึงโพล่งคำขึ้น.“ก็ไปหาทางแก้ปัญหาไง! กูขอถอนคำพูดที่ว่าไม่เป็นไรนะพี!”“ไอ้พวกผู้ชายสารเลว หน้าไหนก็ไม่ต่างจากหมา ตอนเอาก็ทำรุนแรงพอเลยเถิดทำเรื่องแดง แม่งเห็นมีแต่ผู้หญิงอย่างกูนี่แหละที่เดือดร้อน!”“เหี้ยเอ๊ย! ทำไมมึงปล่อยในวะ อีสัด..ด..ด..ด!”กำหมัดแน่นแถมยังกัดกรามเค้นเสียงสั่นในลำคอ ดูทรงแล้วแพรวคงจะโกรธมากจริง ๆ.แข้งขาเธออ่อนยวบยาบไปหมด แค่นึกถึงกลีบผกาก็สั่นไหว ไม่รู้เหมือนกันว่าเกี่ยวกันไหมแต่เหมือนแพรวจะรู้สึกว่าจุดซ่อนเร้นข้างในนั้นช่างชุ่มแฉะ โกรธจนหยาดน้ำเสียวเล็ดซึมอ
ภายใต้ผนังห้องที่ทึบตันอับทึบแสง แดดจะแยงยังยากลำบาก มิหนำซ้ำยังถูกพอกทับด้วยกระดาษกาวนานาชนิดที่ปิดผนึกทุกอย่างเอาไว้กันเชื้อโรค ให้ตายเถอะถ้าไม่ขาดใจตายก็มีแต่จะร้อนตายกันเท่านั้น เพื่อนซี้ที่เพิ่งได้กันเลยค่อย ๆ เผยอเปลือกตาสะลึมสะลือขึ้น.แพรวลุกขึ้นได้ก่อนเธอเห็นทุกอย่างขาวพร่าดวงตายังไม่โฟกัส แต่สติยังอยู่ดีไม่ได้ความจำเสื่อม กลีบผกายังคงแสบเสียวสะท้อนให้เห็นว่ากระเจี๊ยวที่แยงแหย่นั้นเร่าร้อนขนาดไหน.“ซีดดด.. มึนหัวจัง”พูดพลันเอื้อมมือไปคว้าเอาเสื้อยืดตัวบางมาสวมใส่แบบโนบลา ก่อนจะนั่งลงห้อยขาโน้มตัวมาด้านหน้าทำสีหน้าเศร้า.“มึงเป็นไงบ้างพี..?”.ร่างใหญ่ตวัดพลิกดีดตัวขึ้นนั่งขัดสมาธิ ในชุดนุ่งลมห่มฟ้าเนื้อตัวดำกร้านของเขากลืนไปกับบรรยากาศห้องที่มืดหม่น เขาลุกขึ้นมานั่งบนโซฟา เอามือผสานกันวางไว้ที่ตักแบบเดียวกับที่แพรวทำ.“ครือ..อ..อ..อ..อ~!”เสียงแอร์ดังกลบทุกสรรพสิ่ง ราวกับว่าต่างคนต่างรอให้อีกคนมีปฏิกิริยาก่อน .“เราได้กันแล้ว..”พีเปิดประเด็น.“กูขอโทษ~ กูไม่เมาหรอก~ กูไม่~ แบบ..บ..บ..บ”“เหี้ยเอ๊ย! แม่งทำอะไรลงไปวะ?”ตีอกชกตัวทำทุกอย่างที่มีความรุนแรง แต่ใบหน้าดำคล้ำ
ปลายลิ้นสากลากวนหัวถันยอดเกสรลุกชูชันเกินจะต่อต้าน แพรวเริ่มขยับหนีตามจริตจะกร้านด้วยเพราะรู้โดยสันดานว่าตัวเองก็สมยอม แต่ก็ต้องพยายามขัดเอาไว้หน่อยไม่ให้ฝ่ายนั้นคิดว่าง่ายเกินไป เธอกระเถิบตัวขึ้นไปพิงกับพนักวางแขนของโซฟา ครานั้นพีก็ยังตามขึ้นมาโดยการใช้คางพาดไว้บนเนินอก.“หนีทำไม?”เขาเค้นเสียงถาม ลมหายใจร้อนผ่าวจนผิวเต้าเกร็งลุก.“…….”แพรวไม่ตอบเธอเหลือบมองไปทางอื่น พลันใช้มือปิดบังหน้าอกตัวเองเอาไว้ ก่อนจะดันร่างอันบอบบางกระเถิบหนีขึ้นไปพิงกับพนักโซฟา.“กูไม่ให้มึงหนีหรอก มึงพลาดแล้วที่คิดจะยั่วกูอีแพรว!”.ร่างหนาโผขึ้นไปประกบ ชั่วเสี้ยวอึดใจสองกายก็กลมกลึงรวมเป็นหนึ่ง พีสอดแขนเข้าล็อคตัวแพรวเอาไว้ก่อนจะใช้เข่าดันลำตัวส่วนบนอันแน่
เทปกาวหลายขนานปิดทับช่องว่างใต้ประตู ขอบหน้าต่างอัดแน่นไปด้วยกาวยางซิลิโคน ชนิดที่แม้แต่แมลงวันสักตัวก็แทรกผ่านเข้ามาไม่ได้ แอร์ถูกปิด เปิดเพียงระบบฟอกอากาศพอให้ได้ใช้หายใจ และถ้าหากฆ่าแพรวที่มีส่วนร่วมในการแย่งหายใจทิ้งได้ พีก็คงทำไปแล้ว.“มึงเว่อร์อ่ะอีพี!”แพรวตะโกนบอก ขณะนั่งกดโทรศัพท์เล่นอยู่บนโซฟา.“ช่างมึงสิ! ก็นี่มันห้องกู ๆ จะทำอะไรก็ได้ มึงไม่เห็นสิ่งที่มิวท์ทำเหรอ? มึงเห็นกับตาแล้วมิใช่รึไงว่าข้างนอกนั้นเป็นยังไงบ้าง กันไว้ดีกว่าแก้นะมึง!”ร่างหนาดั่งหมีป่าแบกตู้กับข้าวโครม ๆ พีลากมันมากั้นประตูหน้าห้องเอาไว้ เขากลัวเชื้อไวรัสขึ้นสมองจนต้องรีบกลับมารีโนเวทห้องตัวเอง ให้เป็นดั่งห้องปิดตายอย่างที่เห็น.“เฮ๊อะ! ตื่นตูมชะมัด! ต่อให้มีโคนัน 10 คนก็ไขเข้ามาไม่ได้หรอกถ้ามึงทำขนาดนี้”แพรวประชด.“ไม่ช่วยก็อย่าพาลดิ กูรู้หรอกว่ามึงคิดอะไรอยู่ในหัว ทำเป็นกลบเกลื่อนความเสียใจใช่ไหมล่ะ? ตอนซ้อนมอไซต์กูกลับมามึงถึงไม่พูดไม่จาสักคำ”.เจอประโยคนี้เข้าไปเล่นเอาสาวเจ้าถึงกับจุก แพรวเสยผมหนึ่งทีถึงรู้ว่าใบหน้าที่เคยขาวเด้งบัดนี้มีแต่คราบน้ำตา พีแทบไม่อยากเชื่อว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเห