LOGINหลายวันต่อมา….กริ๊งๆ!!เสียงออดหน้าห้องดังไอญดาจึงลุกขึ้นไปเปิดประตูด้วยรอยยิ้ม เธอมีนัดดูหนังกับไนท์เย็นนี้ แต่ไม่ได้เป็นการไปดูหนังที่โรงหนัง แค่นั่งดูกันที่ห้องแล้วก็สั่งข้าวเย็นมากินด้วยกันอยู่ๆ กิจกรรมนี้ก็กลายเป็นกิจกรรมวัตรประจำวันของเธอกับเขา นอกเหนือจากนี้ก็มีไปทานข้าวข้างนอกกันบ้าง หาร้านกาแฟใหม่ๆ ชิมบ้าง แล้ววันศุกร์หรือเสาร์ไนท์ก็จะออกเที่ยว ถ้าไม่เที่ยวก็มาคลุกตัวอยู่กับแฟนสาวแกร๊ก!!พอเปิดประตูออกมารอยยิ้มหวานค้างตึงก่อนจะหุบยิ้มฉับเมื่อคนที่มากดกริ่งไม่ใช่ไนท์แต่เป็นคนที่เธอไม่คาดคิดว่าจะเจอที่หน้าห้องตัวเองอีกพึ่บ!“พี่เดย์!” ไอญดาเรียกชื่อเดย์ด้วยความตกใจเมื่อเปิดประตูออกป๊บเดย์ก็โผล่เข้ากอดเธอปั๊บ แถมยังกอดรัดเธอจนเธอแทบจะขยับตัวไม่ได้“พี่คิดถึงไอ” เดย์พึมพำบอกเสียงเบา ก่อนจะกระชับอ้อมกอดแน่กว่าเดิม เมื่อคนในอ้อมกอดดิ้นคลุกคลักและพยายามดันตัวเขาออก“พี่เดย์ไม่มีสิทธิ์มากอดไอแบบนี้นะ ปล่อยไอเดี๋ยวนี้เลย”เดย์ส่ายหัวปฏิเสธอย่างดื้อรั้น ก่อนพร่ำคำขอร้องอ้อนวอน “กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหมไอ กลับมารักพี่เหมือนเมื่อก่อนได้ไหม ให้โอกาสพี่ได้แก้ตัวอีกครั้งนะไ
“หอบหน้าเซ็งมาอีกละ” ชินบ่นกับเรนจิเมื่อมาถึงห้องเรียนแล้วเห็นเดย์นั่งซึมรออยู่ก่อนแล้ว“อืม วันนี้แย่กว่าคืนนั้นนะ” แย่ลงทุกวัน“สภาพ! ไม่ตายก็ใกล้ตาย” ตรอมใจตาย“แล้วมันไม่ปรึกษามึงอ่ะ”“เหอะ ถามเหี้ยอะไรก็ไม่ตอบ” อยู่ๆ เดย์ก็กลายเป็นคนพูดน้อยเหมือนไนท์ ถามอะไรก็ไม่ค่อยจะตอบ เริ่มเก็บตัว ไม่รู้เลยว่าเพื่อนเป็นห่วง ถึงจะแอบบ่นแอบด่า แต่จริงๆ แล้วเป็นห่วง คอยสังเกตอาการเพื่อนตลอด “ไม่รู้วันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมามันไปทำอะไร ทำไมมันดูซึมยิ่งกว่าเดิมอีกวะ”“....” เรนจิส่ายหัวตอบเพราะเขาเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาเขายุ่งๆ กับที่บ้าน“พวกมึงมาซุบซิบอะไรกันตรงนี้ มาถึงแล้วเข้าห้องอ่ะ” สองคนที่กำลังสุมหัวกันอยู่ผละออกจากกันเมื่อได้ยินเสียงผู้มาใหม่ทักใกล้ๆ“ไอสัดมาเงียบๆ กูตกใจหมด” ชินลูบที่หน้าอกตัวเองอย่างคนขวัญอ่อน“แล้วกูต้องแหกปากมารึไง”“ทำไมพึ่งมา” เรนจิขัดขึ้นมาเพื่อห้ามศึกน้ำลาย และก็แปลกใจที่ไนท์มาทีหลังพวกเขาตั้งนานเพราะปกติไนท์จะมาก่อนเสมอ“ก็แวะซื้อกาแฟให้พวก มึง มึง มึง แดกไงครับ”“ใจดีแปลกๆ” ชินรับแก้วกาแฟเย็นไปถือหรี่ตาลงต่ำอย่างจับผิดไนท์ วันนี้พวกเขาไม่ได้ขอนะ แต่เพื่อนซื้อมาให้
หลายวันต่อไป….เสาร์-อาทิตย์นี้ไอญดาไม่ได้กลับบ้านเนื่องจากพ่อต้องไปประชุมที่สิงคโปรแม่เธอเลยตามไปดูแลด้วย ส่วนไนท์กลับไปทำธุระที่บ้านเดี๋ยวตอนเย็นกลับมา ตอนเที่ยงเธอเลยออกมาหาทานเอง พอทานเสร็จก็ขับรถตรงมาซอยหลังมหาลัย เพื่อแวะมาซื้อน้ำหวานกับขนมเค้กเอากลับไปทานที่ห้องร้านกาแฟแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่มาก คนไม่เยอะเท่าหน้ามหาลัย แถวนี้ไม่ใช่ทำเลทอง ทว่ายังมีคนเวียนเข้าออกร้านอยู่ตลอด ส่วนใหญ่น่าจะลูกค้าประจำ ใครลองขนมที่นี่แล้วต้องติดใจ เพราะเจ้าของร้านใส่ใจคุณภาพและรสชาติมาก เธอเองก็ติดใจเค้กที่นี่จนต้องกลับมาซื้อนับครั้งไม่ได้ มีแต่ช่วงหลังที่หายไปเพราะที่นี่เคยเป็นร้านประจำของเธอกับเดย์หลังเลิกกันใหม่ๆ เธอไม่กล้ามาที่นี่เลย กลัวมันไปสะกิดแผลที่ใจ แต่ตอนนี้ไม่ได้รู้แบบนั้นแล้ว คิดว่าเธอคงก้าวผ่านจุดนั้นมาแล้ว เลยไม่รู้สึกอะไรที่จะมาเห็นบรรยากาศเก่าๆ ความทรงจำเดิมที่เคยมีร่วมอดีตแฟนหนุ่มเพราะมันก็แค่อดีต“น้องครับแฟนน้องทำกระเป๋าตังหล่นเอาไว้ที่นี่เมื่อก่อนเที่ยงน่ะ พี่ลองพิมพ์ไปหาเขาผ่านโซเซียลแล้วแต่เขาไม่ตอบ โชคดีจังที่น้องมาพอดีเลย”“อ่อ ขอบคุณนะคะ” ไอญดารับกระเป๋าสตางค์หนังสีดำมาถือไว้
“ไม่เป็นไรครับ พี่เข้าใจว่าเรามีความทรงจำไม่ดีกับมัน แต่อย่าเอาพี่ไปเปรียบกับเดย์ มองพี่ที่เป็นพี่ เพราะพี่ไม่ได้เป็นตัวแทนใคร”ตกเย็น….พายุก็เริ่มซาเหลือเพียงฝนที่ตกอยู่ประปราย เสื้อผ้าที่ซักที่โยนใส่เตาอบแห้งก็แห้งแล้ว ไอญดาจึงขอไนท์ไปส่งที่คอนโด เพราะพรุ่งนี้เธอจะกลับบ้านแต่เช้า ไนท์ก็ไม่ได้รั้งไอญดาไว้ ไม่อยากให้เธอต้องอึดอัดใจ แม้ว่าสถานะตอนนี้พวกเขาจะค้างคืนด้วยกันก็ไม่แปลก แต่ไนท์คิดว่าไอญดายังไม่พร้อมกับความสัมพันธ์ที่เร็วเกินไป ซึ่งเขาเข้าใจและรอเธอได้เสมอ@EDM PUB “ไงไอ้คนโสด หน้างอเป็นส้นตีนมาเป็นอาทิตย์แล้วนะ” จริงๆ คือซึมมากกว่าแต่ไม่อยากทักกว่าจะไปสะกิดแผลใจเพื่อนเอา“แล้วคนถามอยากกินส้นตีนไหม” เดย์ตวัดตาถามชินกลับ“เอ้า! ไอสัด หยอกไม่ได้ด้วย”“สงสัยมันไปแดกรังแตนมา” เรนจิบอกชินก่อนยกแก้วเหล้าขึ้นมาจิบ สายตาจดจ้องอยู่ที่เดย์อย่างสำรวจอาการ ซึม ซึมของจริง หงอยยิ่งกว่าหมา แต่ไม่ยอมรับเลยพาลคนอื่นไปทั่วเหมือนหมาบ้า“มึงว่าอาการมันเป็นยังไง” ชินหย่อนตูดนั่งลงข้างๆ เรนจิแล้วกระซิบถาม“ใกล้ล่ะ” เรนจิตอบเพียงสั้นๆ“ใกล้อะไรวะ?”“ใกล้หามเข้าห้องไอซียู” ไม่เจ็บป่วยท
หลังจากเปลี่ยนถ่ายเสื้อผ้าเสร็จทั้งสองก็มานั่งดูหนังรอฝนซาที่โซฟาในห้องนั่งเล่น “รอยสักหมาป่านี่มีความหมายไหมคะ หรือแค่สักเพราะชอบเฉยๆ” ไอญดาผละหัวจากแขนข้างซ้ายของไนท์ที่เธอใช้พิงดูหนัง ก่อนจะถามเรื่องลวดลายบนแขนแกร่งด้วยความสงสัย “ไม่เชิงอ่ะ ที่เลือกหมาป่าเพราะหมาป่าเป็นสัตว์กลางคืน” “พี่ชอบออกล่ากลางคืน?” ไอญดาถามยิ้มๆ อย่างหยอกเล่น “พูดซะดูเหี้ยเลย ไม่ใช่ดิ ใครจะสักด้วยเหตุผลแบบนั้นกัน สัตว์กลางคืน กลางคืนภาษาอังกฤษก็คือไนท์” “นกฮูกก็สัตว์กลางคืนนะคะ” เธอบอกอย่างหน้าซื่อตาใส “กวนป่ะเนี้ย?” ไนท์หรี่ตามองใบหน้าใสเนียนกริบอย่างผิด “เปล่า ไอก็แค่สงสัยเฉยๆ แล้วสัตว์กลางคืนไม่ได้มีแค่หมาป่าหนิ” “นิสัยของหมาป่า คือ ปราดเปรียว เฉลียวฉลาด มีความกล้าหาญ อดทน อยากเป็นแบบนั้น บวกกับที่มันเกี่ยวเนื่องกับชื่อด้วย เลยเลือกสักหมาป่า” “ความหมายดีจัง แล้วรอยสักตรงคอล่ะคะ มีความหมายไหม” “อันนี้สักเอาเท่” “อ่าว?” ไอญดามองตาโต รอยสักอันเบ้อเล้อบอกสักเอาเท่ ได้เหรอ? “จริงๆ เห็นลายสวยเลยสัก” “ตรงไหนเจ็บสุดคะ” เธอไม่เคยสัก ไม่เคยรู้หรือสนใจเรื่องสักมาก่อนเลย จึงถามไปอย่างคนอยากรู
ทั้งสองถึงคอนโดไนท์ในสภาพที่เปียกชุ่มไปทั้งตัว เดินเข้าคอนโดด้วยสภาพที่แม่บ้านเห็นแล้วต้องหัวร้อน น้ำหยดติ่งๆ ตลอดทางจนถึงห้องพักพอเข้ามาในห้องไอญดาและไนท์ต่างก็ยืนมองสภาพที่เสื้อผ้าเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนของกันและกันก่อนปล่อยยิ้มขำออกมา“เราสองคนเหมือนหมาตกน้ำเลย”“ขอโทษนะ คราวหลังก่อนจะพาไปซิ่งจะเช็กสภาพอากาศให้ดีกว่านี้”“ไม่เป็นไรเลยค่ะ ไอสนุกมาก ได้นั่งมอเตอร์ไซครั้งแรกในชีวิต ได้ไปนั่งคาเฟ่สวยๆ กินเค้กอร่อยๆ และยังได้เล่นน้ำฝนปิดท้ายอีกด้วย”“อันหลังสุดไม่นับได้ไหม ไม่เห็นจะสนุกเลย ดูสิเราหนาวจนปากสั่นหมดแล้ว” ไนท์ว่าด้วยสีหน้าเป็นห่วง ยื่นมือไปสัมผัสริมฝีปากเล็กที่สั่นเทาเพราะความหนาวเย็น ก่อนเผลอใช้นิ้วโป้งลูบไล้อย่างลืมตัว‘เขาอยากจูบเธอจัง อยากจูบเธออีกครั้งเหมือนคืนนั้น’ไม่ใช่แค่คิดแต่ไนท์เฉยคางเล็กขึ้นแล้วยื่นหน้ากดจูบริมฝีปากนุ่มเย็นเฉียบ ก่อนจะบดจูบหนักหน่วงขึ้นพร้อมสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากเล็ก เมื่อเห็นไอญดาหลับตาพริ้มและเปิดปากต้อนรับสัมผัสที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไนท์จึงตวัดลิ้นเกี่ยวพันลิ้นเล็กอย่างเร้าอารมณ์ มือใหญ่ที่จับปลายคองเคลื่อนไปประคองที่ท้ายทอยของคนตัวเล็ก แ







