"ที่น้ำมันหวานไม่รู้ว่าเพราะร้านหรือคนซื้อกันนะครับ" ไลก้าฉีกยิ้มกว้างแล้วใช้มือดันตัวของน้ำขิงออกเพื่อให้ได้เห็นหน้าคนตัวเล็กชัดๆ ก่อนที่จะหยอดประโยคหวานหยดย้อยที่ทำเอานิชาถึงกับหน้าเหวอไปไม่เป็น
"เอ่อ…" นิชาอึกอักอย่างไม่รู้จะตอบอะไร ฉีกยิ้มแห้งๆ ให้ไลก้าเพื่อไม่เป็นการเสียมารยาทต่อหน้าเพื่อนของรุ่นพี่ที่สนิท
"ไอก้ามึงหุบปากเลยนะ" จึงเป็นน้ำขิงที่พูดช่วยชีวิตเธอไว้ ส่งสายตาขวางให้ไลก้าใช้ตัวบังคนตัวเล็กไว้
"หึ" ไลก้ากระตุกยิ้มเบาๆ เขาแค่อยากแกล้งเพื่อนตัวเล็กเท่านั้น ยิ่งได้เห็นน้ำขิงเดือดมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งชอบใจ ไม่ได้คิดจริงจังที่จะจีบนิชาเลยสักนิด
แต่กับเพื่อนคนอื่นก็ไม่แน่
"มึงไม่คิดจะแนะนำพวกกูให้น้องเลยหรือไง" เพิร์ธที่นั่งตรงข้ามคนตัวเล็กเอ่ยขึ้นต่อ สายตาของเขามองนิชาอยู่ตลอดเวลา และเป็นสายตาที่ไม่ได้มองแค่เป็นรุ่นน้องทั่วๆ ไปอย่างที่เธอมอง
"เฮ้อ…นินี่ไอเพิร์ธ ไอเวกัส ไลก้า เพื่อนสนิทที่คณะพี่" น้ำขิงกรอกตาพ้นลมหายใจยาวๆ ก่อนที่จะแนะนำเพื่อนๆ ของเขาให้น้องรู้จักอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
"สวัสดีค่ะ" นิชายกยิ้มแล้วไหว้แบบเกร็งๆ ทุกคนในกลุ่มจึงรับไหว้เว้นแต่เวกัสที่ไม่รับไหว้แถมยังเบือนหน้าไม่ยอมมอง
"ไอเวย์น้องไหว้มึงอะ" จึงเป็นเพิร์ธที่นั่งด้านข้างสะกิดแทน เมื่อเห็นว่านิชาเอาแต่จ้องเวกัสตลอดเวลา
"อืม" เวกัสเค้นเสียงตอบรับ พยักหน้านิ่งๆ บ่งบอกว่าตัวเองรับรู้แล้ว
"อย่าไปถือสามัน มันก็เป็นแบบนี้แหละ หยิ่งกับคนไม่สนิทด้วย"
"ไม่เป็นไรค่ะ นิแค่คุ้นๆ หน้าพี่เวกัสเหมือนจะเคยเห็นที่ไหนแต่นิจำไม่ได้" ร่างเล็กจึงเอ่ยในสิ่งที่ข้องใจ ที่เธอเอาแต่จ้องเพราะรู้สึกเหมือนเคยเห็นคนตรงหน้าที่ไหนสักแห่ง แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกจึงได้แต่มองหน้าเขาอย่างค้างคาใจมานานนับนาที
"แต่ช่างเถอะค่ะ นิอาจจะจำคนผิด" นิชาจึงเลิกคิดแล้วหันมาสนใจคนอื่นแทน
"แล้วแล็ปท็อปเราเป็นยังไงบ้าง ใช้ได้ตามปกติแล้วใช่ไหม" น้ำขิงเอ่ยถาม
"ปกติแล้วค่ะ ขอบคุณพี่ขิงกับพี่ไลก้าอีกรอบนะคะ ถ้าพวกพี่มาไม่ทันนิต้องแย่แน่ๆ เลย"
"ไม่เป็นไรหรอก มีอะไรก็ทักมาหาพี่ได้ตลอด สำหรับน้องสาวคนนี้ พี่ว่างให้ตลอดอยู่แล้ว" น้ำขิงลูบหัวเล็กอย่างเอ็นดู ถึงไม่ใช่น้องแท้ๆ แต่ก็รักไม่ต่างเลยสักนิด ทั้งสองสนิทกันมาก ถึงขั้นมีอะไรนิชาก็ปรึกษาน้ำขิงทุกอย่าง
"ขอบคุณค่ะพี่ขิง เอ่อ…พี่ขิงคะ นิต้องไปแล้ว ลืมไปเลยว่าวันนี้ทิกเกอร์อยู่คอนโดคนเดียว"
"อ้าวเหรอ…งั้นฝากบอกทิกเกอร์ด้วยนะว่าพี่คิดถึง เดี๋ยวว่างๆ เข้าไปหา"
"ได้ค่ะ งั้นนิไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะพี่ๆ" ว่าแล้วคนตัวเล็กก็รีบร้อนลุกขึ้นจากที่นั่ง ทิ้งรอยยิ้มหวานให้คนทั้งโต๊ะละลายแล้วรีบเดินออกไปทันที
"ไอขิงน้องมีแฟนแล้วเหรอ" ทันทีที่นิชาเดินพ้นไป เพิร์ธก็เอ่ยถามขึ้นอย่างสนใจ
"เออ ได้ยินทิกเกอร์คนที่น้องบอกไหมล่ะ นั้นแหละแฟนน้อง"
"สัสเสียดายชิบ" เพิร์ธจึงสบถด้วยใบหน้าที่เสียดายอยู่ไม่น้อย
"ไอเพิร์ธกูบอกแล้วไงว่าน้องกูห้าม มึงไม่ฟังกูเลยเหรอ คนนี้ไม่ใช่คนที่มึงจะเล่นๆ ด้วยนะ"
"ใครบอกว่ากูจะเล่นๆ ถ้าน้องโสดกูจะจีบมาเป็นแฟนจริงๆ คนนี้กูจริงจัง"
"ห้ะ!" ทั้งโต๊ะอุทานออกมาพร้อมกัน จ้องมองเพิร์ธที่บอกเป็นตาเดียว ไม่เว้นแม้แต่เวกัสที่มองเพิร์ธอย่างไม่เชื่อในคำพูดของเขา เพราะคนอย่างเพิร์ธไม่เคยจริงจังกับใคร พวกเพื่อนๆ จึงรู้สึกแปลกใจที่อยู่ๆ เขาก็เอ่ยออกมาเสียงมั่นใจเช่นนี้
"แต่ช่างเถอะ มีแฟนแล้วกูก็ไม่อยากยุ่ง"
"ไอเxี้ย…น้องนิไปทำยังไงถึงทำให้คนอย่างมึงเปลี่ยนใจได้วะ กูแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง"
"คนอย่างกูมันทำไม"
"คนเxี้ย" เป็นเวกัสที่รีบตอบอย่างไม่ต้องคิด
"ไอสัส" เพิร์ธจึงหันไปด่าเพื่อนทันทีทันใด
"ถ้าน้องโสดแปลว่ามึงก็จะจีบน้องกู?"
"เออ"
"คนอย่างมึงเลิกเxี้ยได้เหรอ?"
"คนเราถ้าเจอคนที่ใช่ อะไรที่ไม่ดีมันก็ยอมหยุดเองแหละ" เพิร์ธพูดอย่างลอยหน้าลอยตา แต่เขาไม่รู้เลยว่ากำลังทำให้เพื่อนที่นั่งด้านข้างแทบอยากจะอ้วกกับคำพูดที่ลั่นออกมา
"ไอเพิร์ธมึงทำกูทึ่งนะ"
"มึงก็บอกเองว่าน้องมีแฟนแล้ว งั้นกูก็เxี้ยต่อ ถือว่ากูยังไม่ใช่สำหรับน้อง"
"กูโคตรชอบมึงเลยวะ แม่งชัดเจนดี" ไลก้ายกนิ้วให้รัวๆ มีแต่ไลก้าเท่านั้นแหละที่ยังชื่นชมในตัวของเพื่อนเขา ทว่าอีกสองคนที่เหลือกลับส่ายหัวด้วยความเอือม
"เออแล้วมึงล่ะไอเวย์ น้องบอกคุ้นหน้ามึง มึงเคยเจอน้องมาแล้วเหรอ" ไลก้าพูดขึ้นทำให้ทุกคนพากันเบนสายตาไปมองยังเวกัสแทน ก่อนที่เจ้าของร่างเย็นชาจะตอบออกมาอย่างไม่ต้องคิด
"ไม่เคย"
"เหรอวะ อาจจะจำผิดคนเหมือนที่น้องบอกนั้นแหละ"
หนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากผ่านงานแต่งงานสุดเลิศหรูอลังการที่พี่เวกัสจัดให้สมฐานะของเขาแล้ว เราก็ได้มาฮันนีมูนกันตามสัญญา แน่นอนว่าสถานที่ที่เราไปก็ยังเป็นประเทศมัลดีฟส์ตามใจคุณสามีสุดที่รักเช่นเคย ฉันและพี่เวกัสนั่งเครื่องบินส่วนตัวลงมาถึงประเทศ ก่อนที่จะนั่งเรือต่อไปที่เกาะที่พี่เวกัสจัดการหาข้อมูลมาแล้ว ใช้เวลาไม่นานพวกเราสองคนก็มาถึงเรียบร้อย"สวยมาก" สายตาฉันเป็นประกายทันทีที่ได้เห็นน้ำทะเลสีฟ้าใสทั่วทุกทิศ เราพักกันเป็นรีสอร์ตกลางน้ำที่มีห้องเป็นกระจกใสทั้งสี่ทิศ มองเห็นทะเลได้ทุกเมื่อที่เราเปิดผ้าม่านสวยเหมือนภาพในความฝันที่ฉันอยากดูกับตา แล้วสุดท้ายฉันก็ได้ดูมันจริงๆ"ชอบไหมคะ?" ฉันพยักหน้าระรัวตอบพี่เวกัส ในขณะที่สายตามองทะเลตาเป็นประกาย ไม่อยากจะละสายตาออกแม้แต่วินาทีเดียวมันสวยมากจริงๆ"พี่เคยเห็นหนูบันทึกรูปทะเล ที่นี่เป็นที่เดียวกันกับรูปที่หนูบันทึกไว้" ฉันหันไปมองคนตัวสูงทันทีที่เขาพูดจบ ความเอาใจใส่เสมอต้นเสมอปลายของเขาแบบนี้มีมาตลอด ฉันไม่เคยพูดว่าอยากได้อยากไปแต่เขาก็เนรมิตทุกอย่างได้ถูกใจฉันตลอดเวลา เขาทำให้ความฝันฉันเป็นจริงทุกอย่างทั้งที่บางอย่างฉันก็ไม่ได้เรียกร้อง
"งานพี่ยังไม่เสร็จ" ฉันใช้มือบางดันแผงอกแกร่วไว้ ปรายตามองแฟ้มเอกสารบนโต๊ะที่เขาต้องรีบจัดการให้เสร็จ"ไว้ค่อยทำ" ร่างสูงไม่คิดจะสนใจมันเลยสักนิด เขาล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์เครื่องหรู ก่อนที่จะกดเบอร์โทรหาใครบางคนในขณะที่สายตาก็มองฉันราวกับอยากจะกลืนกินไปทั้งตัว"บอกเลขากูว่าเลื่อนเอกสารที่จะส่งให้ลูกค้าออกไปก่อน ถ้ารอไม่ได้ก็ยกเลิกสัญญาไป แล้วอย่าให้ใครมารบกวนห้องกู"ติ๊ด.ฉันยังไม่ทันได้ยินคำตอบจากปลายสายพี่เวกัสก็กดตัดสายไปเรียบร้อยแล้ว เขาหันมาสนใจฉันอีกครั้ง มือหนาก็ลูบไล้ขาอ่อนผ่านกระโปรงพลีทนักศึกษาที่ฉันสวมใส่"เซ็นเอกสารก่อนไหมคะ แค่สองแฟ้มเอง" ฉันพยายามห้ามเขาไว้ คิดจะเสียลูกค้าง่ายๆ แบบนี้ไปเลยเหรอ…เพียงเพราะอยากกินฉันเนี่ยนะ"พี่รอไม่ได้แล้วค่ะ" เสียงทุ้มเอ่ยแหบแห้งข้างหูจนขนกายลุกซู่กับความร้อนแรงที่กำลังจะเริ่มเกิดขึ้น ฉันมองเขาด้วยสายตาที่เป็นประกาย ยอมตัวอ่อนระทวยเป็นของเขาอย่างเช่นทุกครั้งไม่มีขัด เพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำที่เป่าหูฉันจนยอมพลีกายเป็นของเขาแต่โดยดี"รอไม่ได้ ก็ไม่ต้องรอแล้วค่ะ" ฉันยิ้มหวานๆ ตอบเขา มือบางก็โอบรอบคออย่างเชื้อเชิญ"เมียพี่น่ารักจริงๆ" ว่าจบคน
"นายประชุมอยู่ครับ อีกไม่เกินสิบนาทีจะเสร็จแล้วครับ" ฉันลงจากรถสปอร์ตหรูด้วยชุดนักศึกษา หลังจากที่เลิกเรียนก็ถูกบอดี้การ์ดของพี่เวกัสขับมาที่บริษัทของเขาตามคำสั่งของพี่เวกัส ฉันยิ้มรับเข้าใจในคำบอกของพี่การ์ด ก่อนที่เราสองคนจะเดินเข้าไปในบริษัทของพี่เวกัสตามปกติเช่นทุกวันฉันยิ้มแห้งๆ เมื่อผ่านไปทางไหนพนักงานก็จะคอยหยุดเดินแล้วก้มหัวให้ฉันด้วยความเคารพ เอาจริงๆ ยังไม่ค่อยชินกับอะไรแบบนี้เลย บางคนอายุเยอะกว่าฉันด้วยซ้ำแต่ฉันก็ต้องทำตัวชินเพราะพี่เวกัสสั่งไว้"พี่พายุวางของบนโต๊ะได้เลยนะคะ" ฉันบอกบอดี้การ์ดที่พี่เวกัสให้ตามติดตัวฉันไปทุกที่ พี่พายุพยักหน้าแล้ววางถุงขนมที่ถือพะรุงพะรังของฉันไว้บนโต๊ะกลางของห้องทำงานใหญ่โต ก่อนที่เขาจะก้มหัวให้ฉันเล็กน้อยแล้วเดินออกไปจากห้องนั่งรอไม่นานเสียงประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออก เจ้าของห้องทำงานเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเหนื่อยล้าจากการประชุม พอเห็นฉันก็รีบเดินเข้ามาล้มมานั่งด้านข้างฉันทันที"เหนื่อยเหรอคะ?" ฉันหันไปถามร่างสูง ช่วงนี้เขาทำงานหนักทั้งวันทั้งคืนแทบไม่ค่อยได้พักผ่อนเลย"นิดหน่อยครับ" เรียวปากหนายกยิ้มบางๆ มองฉัน ก่อนที่จะหลับตาลงพักแล้วโน้มม
"จะแข่งแล้วๆ" เจ๊ๆ รีบตะโกนโหวกเหวกด้วยความตื่นเต้น ก่อนที่ทุกคนจะตั้งหน้าตั้งตารอการแข่งขันแมตช์พิเศษที่กำลังจะเริ่มขึ้น รวมไปถึงฉันที่จดจ้องร่างสูงผ่านรถแข่งคันโฉบเฉี่ยวคนละสไตล์กัน ฉันกุมมือตัวเองแน่นเฝ้ารอการแข่งขันที่ถึงแม้จะเป็นแค่การทำเพื่อโปรโมทสนามแข่ง แต่ทั้งสองคนที่กำลังลงท้าชิงกลับมีอิทธิพลต่อใจทั้งคู่ ในใจได้แต่ภาวนาไม่ให้ทั้งสองคนเป็นอะไรไปจากแข่งในครั้งนี้ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีและได้ในสิ่งที่พี่เวกัสหวังและต้องการอยากให้สนามแข่งของเขาโด่งดังไปไกลกว่าเดิมปั๊ง!เสียงปืนยิงขึ้นฟ้าส่งสัญญาณการเริ่มออกตัวของนักแข่งซ้ายขวา ธงลายขาวดำโบกสะบัดพลิ้วไหวด้วยพริตตี้สาวสุดสวย ก่อนที่รถยนต์สองคันจะเหยียบคันเร่งพุ่งตัวออกจากจุดสตาร์ทพร้อมกัน แล่นบนถนนสำหรับการแข่งขันด้วยความเร็วที่ทำเอาฉันหวาดเสียวมองตามอย่างไม่ละสายตาเสียงกล้องของสื่อมวลชนกดถ่ายชัตเตอร์รัวๆ เฝ้ารอการแข่งขันสุดดุเดือดระหว่างนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ควบคู่ด้วยตำแหน่งเจ้าของสนามแข่งที่ใหญ่ติดอันดับกับนักแข่งรถมืออาชีพที่โด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศนั้นก็คือพี่ชายฉันเอง"โอ้ย…กินกันไม่ลงเลย" พี่อิงดาวจากที่นั่งในตอน
"สวัสดีค่ะ" ฉันเดินเข้าไปในสำนักงานของพี่เวกัสที่มีบรรดาพี่น้องและแฟนพี่น้องของเขาอยู่กันครบคน ซึ่งทุกคนฉันก็สนิทกันหมดแล้วเพราะเจอกันอยู่บ่อยๆ นั้นก็รวมไปถึงแฟนของพี่ๆ เขาที่เป็นมิตรและเข้ากันได้ทุกคนเลย แก็งนี้เขามีสเปคไม่ต่างกันเลย สวย อ่อนโยน และใจดีเหมือนกันหมด แต่ก็จะมีบางคนที่มีความห้าวไปนิดหน่อยเช่นพี่น้ำขิงพี่สาวฉันแฟนพี่ไลก้า และพี่อิงดาวแฟนพี่คีริว พี่ลิลินที่เป็นพี่สาวของพี่ไลก้า สามคนนี้นิสัยคล้ายกันมาก ฉันเลยเข้ากับพวกเขาได้ง่ายสบายเลย"น้องนิชาสวยจังเลยค่ะ" พี่เอวาแฟนพี่คีรันทักฉันขึ้น ทำเอาฉันยิ้มเขินหน้าแดงกับหลายสายตาที่กำลังมองมาที่ฉันอยู่เหมือนกัน"ขอบคุณค่ะ พี่เอวาก็สวยมากเหมือนกันค่ะ" พี่เอวายิ้มตอบ ฉันก็ละสายตามองออกไปรอบๆ เพื่อหานักแข่งทั้งสองคนในวันนี้ จนเห็นผ่านหน้าจอว่ากำลังเดินคุยกับลูกน้องในการเช็คสภาพรถให้พร้อมแข่งขัน"ใกล้แข่งแล้ว รีบออกไปกันเถอะ" หนึ่งในทีมคนเชียร์ที่เป็นพี่น้องเขาพูดขึ้น"วันนี้ออกไปดูกันข้างนอกเหรอคะ?" ทำเอาฉันรีบถามทันที เพราะปกติพวกเขาจะชอบดูผ่านหน้าจอในสำนักงาน แต่วันนี้แปลกกลับไปดูติดขอบสนามเลย"ครับ วันนี้พิเศษหน่อย มันอยากให้พวก
มาถึงวันที่ฉันไม่ค่อยอยากให้มาถึงเท่าไหร่เลย วันที่พี่เวกัสและพี่นาวินต้องลงสนามแข่งจริงจังแมตช์กระชับมิตรที่จะโฆษณาสนามแข่งรถของพี่เวกัสให้ดังไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ชาวต่างชาติที่เริ่มมีบทบาทในการประชาสัมพันธ์ในครั้งนี้ด้วย"คุณพลอยและคุณน้ำขิงมาถึงแล้วครับ" เสียงทุ้มของบอดี้การ์ดพี่เวกัสที่รอประจำอยู่หน้าห้องพูดขึ้นมา เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของฉันที่ตามฉันไปทุกที่ตั้งแต่ที่พี่เวกัสขึ้นรับตำแหน่งแทนลุงธาวิน ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่ปล่อยให้ฉันไปไหนมาไหนคนเดียวอีกเพื่อความปลอดภัยของฉันที่ไม่รู้จะเกิดตอนไหนฉันไม่ได้ต่อต้านอะไรเพราะคิดว่าทุกอย่างคือความสบายใจของพี่เวกัส ปล่อยให้เขาทำในสิ่งที่เขาอุ่นใจจะดีกว่า"ให้เข้ามาเลยค่ะ" ฉันตอบพี่การ์ดเสร็จเขาก็ก้มหัวแล้วเดินออกไป ตามด้วยเสียงฝีเท้าของคนที่มาถึงรีบเดินเข้ามาหาฉัน"ทำไมถึงมากันเร็ว…น้องวาริน!" ฉันไม่ทันพูดจบก็รีบพูดดังเสียงตกใจเมื่อคนที่เดินเข้ามาดันไม่มีแค่พลอยและพี่น้ำขิง แต่กลับมีน้องสาวของพี่เวกัสที่เดินยิ้มเข้ามาเซอร์ไพรส์หลังจากที่เราไม่ได้เจอกันเกือบหลายเดือน เจอครั้งล่าสุดก็ตอนที่ฉันกับพี่เวกัสไปเยี่ยมน้องถึงที่"กลับมาวันไหนแล้วคะ