ความรักในช่วงมัธยมปลาย ในช่วงวัยไร้เดียงสา ผมไม่รู้ว่าเราจะเลิกกันทำไมในเมื่อทุกอย่างก็ไปได้ดี ถ้าไม่ใช่เพราะความงี่เง่าของผมเอง และในวันนี้ผมได้เจอเธออีกครั้ง ผมจะทำให้เรากลับมาคบกันอีก
ดูเพิ่มเติมวันตรวจสุขภาพประจำปี ของมหาวิทยาลัย JR
"สวัสดีค่ะ พี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ นักศึกษาทุกคน เราชื่อเจ้าถิ่นนะคะเรียนแพทย์ศาสตร์ปีสาม วันนี้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้ากลุ่มนักศึกษาแพทย์ที่มาทำการตรวจร่างกายประจำปีให้แก่คณะวิศวกรรมศาสตร์ค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำทีมงานก่อนนะคะ" เสียงยัยเจ้าถิ่นเพื่อนสาวหน้าสวยขาวหมวยและรวยมากของฉันกล่าวเปิดงานพร้อมแนะนำตัว
เสียงปรบมือ โห่ร้อง เสียงโฮแซว จากหนุ่ม ๆ วิศวะ ฮือฮาซ้ำไปซ้ำมาเมื่อสาว ๆ คณะแพทย์ออกมาแนะนำตัวคนแล้วคนเล่า
"หวัดดี เราชื่อเรดาห์นะคะเรียนแพทย์ปีสาม" เรดาห์เพื่อนสาวสุดสวยหุ่นเอ็กซ์ดีกรีดาวคณะ และพ่วงด้วยตำแหน่งนางแบบที่โด่งดังตอนนี้แนะนำตัว การปรากฏตัวของเธอเรียกเสียงฮือฮา เสียงโฮแซวกึกก้องหอประชุม
"และคนสุดท้ายของทีมเราค่ะ..." ถึงคิวฉันแล้วสินะ....
"สวัสดีค่ะ เราชื่อน้ำแข็งเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสาม" ฉันแนะนำตัวก่อนจะโปรยยิ้มทักทายทุกคนที่ยืนปรบมือให้พวกเราอยู่ก่อนจะแยกย้ายกันไปปฏิบัติหน้าที่
การตรวจสุขภาพประจำปีครั้งแรกของชั้นปีที่พวกเราเรียนอยู่ มีรุ่นพี่ตั้งแต่ปีสี่ ปีห้าและรุ่นพี่ปีหกคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด และคอยทำหน้าที่บางอย่างที่นักศึกษาแพทย์ชั้นปีพวกเราไม่สามารถทำได้ ทำให้ทุกอย่างในวันนี้ไม่มีอุปสรรค์อะไร แต่เป็นประสบการณ์ที่ดีและเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นของพวกเรา
"เฮ้อ! เสร็จสักที เก็บของกันเถอะพวกเรา"
เสียงยัยเจ้าถิ่นที่เอ่ยบอกเพื่อน ๆ ในทีมหลังจากช่วยกันทำหน้าที่ตรวจสุขภาพให้เพื่อน ๆ ต่างคณะเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่นางจะเดินไปช่วยเพื่อน ๆ คนอื่นเก็บอุปกรณ์
" น้ำแข็ง วันนี้หลังเอาผลตรวจสุขภาพออกจากแลปส่งอาจารย์เสร็จ อาจารย์ให้พวกเราพักผ่อนได้ ไม่ต้องเข้าเรียน พวกเราไปกินหมูกะทะกันมั้ยแก ฉันชวนยัยเรดาห์แล้วนางโอเค" ยัยเจ้าถิ่นหันมาถามฉันขณะที่ยกกล่องอุปกรณ์มาตั้งข้าง ๆ ฉัน
"อาทิตย์นี้แกกินไปเยอะแล้วนะถิ่น ที่สำคัญอาหารประเภทปิ้งย่าง รมควัน ผ่านความร้อนที่ไม่สมบูรณ์จะก่อให้เกิดสารพีเอเอช ลอยขึ้นมาพร้อมเขม่าควัน เกาะตามบริเวณผิวของอาหารโดยเฉพาะเวลาที่แกย่างจนไหม้เกรียม พอกินบ่อย ๆ แกจะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งตับ ไหนจะน้ำจิ้มที่ทำไว้ทีละเยอะ ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าค้างคืนไว้กี่วันก็จะทำให้แกเสี่ยงเป็นโรคท้องร่วงได้นะ" ฉันหันไปขมวดคิ้วใส่นางก่อนจะเทศนายาวเหยียด จนคนได้ฟังต้องกรอกตามองบนด้วยความเบื่อหน่าย ซึ่งฉันเห็นจนชินแล้วล่ะ
"ถิ่น ฉันว่าเรายังตรวจไม่ครบอะแก ในใบรายชื่อยังมีอีกหลายคนเลยนะที่ยังไม่มาตรวจ ฉันว่าเรารอพวกเขาก่อนดีมั้ย?" ยัยเรดาห์ที่ทำหน้าที่ลงทะเบียนตรวจสุขภาพหันมาพูดกับคนตรงหน้าฉัน ทำให้พวกเราหลายคนที่กำลังเก็บอุปกรณ์ต้องชะงักมือเอาไว้และตั้งโต๊ะใหม่อีกรอบ
ตึก ตึก ตึก
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก
"พวกเรามาทันใช่มั้ย แฮ่ก ๆ" เสียงเหนื่อยหอบของใครบางคนที่วิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้ายัยเรดาห์เอ่ยถาม ก่อนจะลุกลี้ลุกลนค้นหาปากกาในกระเป๋ามาลงชื่อหน้าเคาเตอร์เพื่อตรวจสุขภาพ
"ทันค่ะ มีคนอื่นอีกมั้ยคะนอกจากคุณ" เสียงยัยเรดาห์ถาม แต่ฉันไม่มีเวลามากพอที่จะสนใจใครเพราะมัวแต่รื้ออุปกรณ์ที่เก็บลงกล่องไปแล้วช่วยรุ่นพี่ออกมาตั้งโต๊ะอีกครั้ง
"เหี้ย! โคตรเหนื่อยเลย มึงจะพาพวกกูวิ่งเอาโล่รึไงไอ้เทอร์โบ" เหมือนจะมีใครบางคนวิ่งมาสมทบคนมาใหม่ที่กำลังลงทะเบียนอยู่
"มึงจะบ่นทำเชี้ยไรวะเหมันต์ ถ้ามึงวิ่งมาไม่ทันรอบนี้ มึงก็ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลเลยนะโว้ยเสียเวลา" ผู้ชายที่ชื่อเทอร์โบหันไปด่าเพื่อนตัวเองที่เพิ่งวิ่งตามมาก่อนจะหันไปลงชื่อต่อ
"กูเป็นลกชายเจ้าของโรงพยาบาลนะ กูต้องไปโรงบาลทุกวันอยู่แล้วมั้ยไอ้ห่าจะเสียเวลาอะไร"
"แล้วมึงจะตรวจที่นี่มั้ย ถ้าไม่ก็หลบไปดิ๊เกะกะ"
"เออตรวจ ๆ"
"ผมชื่ออัคคีครับ วิศวะปีสี่ รหัสxxxxxxxxxx"
"ส่วนผมชื่อพายุครับ วิศวะปีสี่ รหัสxxxxxxxxxx" เหมือนจะเริ่มมีคนมาเพิ่มเรื่อย ๆ ทำให้พวกเราที่นั่งอยู่ด้านหลังต้องเร่งมือตั้งโต๊ะใหม่ ใครหลายคนเริ่มวิ่งเข้ามาในหอประชุมราวกับกลัวว่าจะไม่ทัน อาจเป็นเพราะคงไม่มีใครอยากไปตรวจที่โรงพยาบาลเอง
"เดี๋ยวพวกคุณลงทะเบียนเสร็จแล้วเข้าตรวจร่างกายให้ครบทุกจุดได้เลยนะคะ ตามจุดต่าง ๆ จะมีบอกค่ะว่าตรวจอะไรบ้าง แต่พวกคุณอย่าเพิ่งวัดความดันกับตรวจเลือดนะคะ เพราะยังเหนื่อยกันอยู่ สองอย่างที่ว่ามาให้ตรวจเป็นอย่างสุดท้ายเลยค่ะ" เสียงยัยเรดาห์และเพื่อน ๆ ที่ทำหน้าที่ลงทะเบียนอธิบายรายละเอียดให้คนที่เพิ่งมาถึงหลาย ๆ คนก่อนจะจัดคิวให้แต่ละคนไปตามจุดต่าง ๆ ที่ตั้งรอ
อัคคี...
"ขอโทษนะครับ ตรวจเลือดตรงนี้ใช่มั้ยครับ" ผมเอ่ยถามนักศึกษาแพทย์คนหนึ่ง ตอนนี้เธอกำลังก้มหน้าก้มตาจดอะไรสักอย่าง เหลือผมสุดท้ายแล้วที่ยังไม่ได้ตรวจเลือด
"ใช่... ค่ะ"
"..."
ตึก ตัก ตึก ตัก
เหมือนกับว่าโลกทั้งใบได้หยุดหมุน เข็มนาฬิกาได้หยุดเดิน คนตรงหน้าที่ผมยืนมองตาไม่กระพริบอยู่ในเวลานี้ เป็นคนคนเดียวที่ทำให้ผม...
"ไอ้อัค! ไอ้อัคคี! ไอ้เชี้ยอัคคี!!!!!!!!!!" เสียงตะโกนของไอ้พวกเพื่อนซี้ทั้งสามคนทำให้ผมและคนตรงหน้าต้องละสายตาออกจากกัน
"พวกมึงสามคนจะตะโกนทำเชี้ยไรวะ!" ผมตะคอกพวกมันกลับก่อนจะเลื่อนเก้าอี้นั่งลงฝั่งตรงข้ามเธอที่เบือนหน้าไปมองทิศทางอื่น ทำราวกับว่าไม่อยากมองหน้าผมอย่างไรอย่างนั้น
"ถ้าพวกกูไม่ตะโกนเรียก มึงก็คงยืนเป็นอนุสาวรีย์ที่นี่แล้วล่ะ เรียกตั้งนานไม่หัน ไม่หือไม่อือ" เสียงไอ้เทอร์โบที่ยืนอยู่ข้างผมพูดขึ้นก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างผม
"ต้องขอโทษว่าที่คุณหมอคนสวยด้วยนะครับ พอดีเพื่อนผมมันกลัวเข็มฉีดยาน่ะ เลยยืนทำใจนานไปหน่อย" ไอ้พายุพูดกับคนตรงหน้าติดตลกพลางเขย่าไหล่ผมไปมา ขณะที่มันเองก็หย่อนก้นนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่างอยู่
"มึงรีบยื่นแขนให้น้องเขาสิวะ" ไอ้เหมันต์หัมาบอกผมก่อนจะหันไปพูดกับคนตรงหน้าต่อ ก่อนจะเดินไปหยิบเก้าอี้พลาสติกสีน้ำเงินไปนั่งข้างคนตรงหน้าผม
"น้ำแข็งรีบ ๆ เจาะเลือดชั่วของมันออกที พวกพี่จะได้รีบไป" หืม? สองคนนี้รู้จักกันได้ยังไงวะ...
"มึงรู้จักเขาได้ไงวะเห อย่าบอกนะว่ามึงกับเขา..." ไอ้พายุจอมจุ้นกับไอ้เทอร์โบจอมเสือกถามไอ้เหขึ้นพร้อมกัน พลางทำสายตาเจ้าเล่ห์มองน้ำแข็งกับไอ้เหมันต์สลับกันไปมา ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะ แต่ทำได้แค่นิ่งไว้ไม่กล้าถาม
"เดี๋ยวกูเล่าให้ฟังหลังจากที่เอาเลือดชั่วไอ้อัคออกแล้ว" ไอ้เหมันต์ไม่พูดเปล่าแต่เอื้อมมือมาจับแขนผมไปวางไว้บนขาตั้งเพื่อให้คนตรงหน้าได้เจาะเลือด โดยไม่ปล่อยให้ผมได้มีโอกาสทำใจ
"ไม่ต้องกลัวนะมึง พวกกูอยู่ตรงนี้คิก คิก" ไอ้เทอร์โบพูดเสียงกวน ๆ พร้อมกับหันไปหัวเราะคิกคักกับไอ้พายุ ขณะที่พวกมันสองคนเอื้อมแขนมาโอบไหล่ผมเอาไว้คนละข้าง ไอ้พวกบ้านี่...
"พวกมึงเงียบ ๆ ดิ๊ เขาต้องใช้สมาธินะ" เสียงไอ้เหดุไอ้สองตัวที่นั่งข้างผมจนพวกมันต้องเงียบลง จะว่าไปแล้วนี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเลยนะที่ผมได้มองหน้าเธอใกล้ ๆ แบบนี้ เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะเนี่ย... สวยขึ้นแล้วก็น่ารักขึ้นมากด้วย...
"เจ็บนิดเดียวนะคะ" เสียงหวานเอ่ยกับผมพลางเงยหน้ามาสบตาและส่งยิ้มบาง ๆ มาให้ ก่อนจะก้มหน้ารัดสายยางกับแขนของผม มือนุ่ม ๆ เอื้อมมาสัมผัสแขนผมเบา ๆ พลอยทำให้คิดถึงวันเก่า ๆ ที่เคยเดินจับมือกัน...
"เจ็บกว่านี้ก็โดนมาแล้วครับ แค่นี้ไม่ตายหรอกว่าที่คุณหมอ" ผมกระตุกยิ้มมุมปากให้คนตรงหน้าก่อนจะส่งสายตายียวนให้เธอ แต่แล้วบางอย่างที่ทิ่มลงมาบนแขนของผมก็ทำให้สะดุ้งโหยง น้ำตาเล็ด...
จึก!
เจ็บ!
ฉิบ!
หาย!!!!!!
"เวรแล้ว! ไอ้อัค! / ไอ้อัคคีอย่าตายนะมึง!"
น้ำแข็ง...ฉันกับยัยแฟนแยกกันตรงหน้าตึกผู้ป่วยในเพราะยัยแฟนทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพยาบาล ส่วนฉันช่วยดูแลคนไข้ที่มาทำแผลอยู่อีกด้าน คอยหยิบจับนู่นนี่นั่นส่งให้คุณหมอแล้วก็ช่วยทำแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้คนไข้"อ้าวน้ำแข็งมาทำงานเหรอ" พี่เหมันต์ที่เดินสวนฉันถามขึ้น ช่วงนี้พี่เหมันต์เข้ามาที่นี่บ่อยเพราะจะรับช่วงต่อจากคุณลุงหลังจากที่เรียนจบ ซึ่งก็หมายความว่าอีกแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น"ใช่ค่ะ พี่เหมันต์จะกลับแล้วเหรอคะ""ยังหรอกวันนี้พี่มาดูตึกผู้ป่วยที่กำลังสร้างใหม่แทนพ่อน่ะ ช่วงนี้ท่านไม่ค่อยว่างพี่เลยมาดูแทน" อ่อ ตึกผู้ป่วยที่สร้างใหม่ท้ายสวนหย่อมสินะ"ไอ้เหมันต์เมื่อไหร่มึงจะพากูไปกินข้าวเนี่ย ลากกูมาเป็นเพื่อนตั้งแต่เช้ายันเที่ยงให้กูกินแค่แซนวิชอันเดียวเองนะมึง" ขณะที่ฉันกำลังยืนคุยกับพี่เหมันต์อยู่ เสียงของใครบางคนที่เดินบ่นตามพี่เหมันต์มาก็ดังขึ้นพอหันไปมองถึงได้รู้ว่าเป็นเขา... นายอัคคี!"เออ ๆ บ่นเป็นคนแก่ไปได้ไอ้ห่า ปะน้ำแข็งไปกินข้าวเป็นเพื่อนพวกพี่หน่อยพี่ไม่ค่อยได้ไปโรงอาหารน่ะ พาไปที" ฉันพยักหน้าพลางส่งยิ้มให้พี่เหมันต์ที่ชวนฉันไปกินข้าวด้วย ก่อนจะเดินนำหน้าผู้ชายสองคนไปยังโรงอาหา
น้ำแข็ง..."พี่เอิร์ธมาได้ยังไงคะ แล้วรู้ได้ไงว่าน้ำแข็งอยู่ที่นี่" ฉันหันไปถามคนข้าง ๆ ที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่"เพื่อนเราโทรมาบอกพี่น่ะ เห็นบอกว่าคืนนี้น่าจะยังไม่กลับง่าย ๆ เลยให้พี่ไปรับเราที่ร้านหมูกะทะ" คนถูกถามหันมาตอบก่อนจะหันไปสนใจถนนตรงหน้าแล้วถามต่อ"ว่าแต่เราจะกลับเลยหรือไปไหนต่อหรือเปล่า""งั้นกลับบ้านเลยก็ได้ค่ะ ทีแรกน้ำแข็งว่าจะไปค้างกับแฟนน่ะ""แล้วคนเมื่อกี้... ใช่เจ้าของเกียร์ที่ห้อยคอเราอยู่หรือเปล่า" พี่เอิร์ธถามต่อทั้ง ๆ ที่สายตาของพี่เขายังจับจ้องไปที่ถนน คงไม่ผิดถ้าพี่เขาจะถามเพราะฉันเรียนคณะแพทย์แต่มีเกียร์สวมที่คอมาตลอดหลายปี เกียร์นี้เป็นสัญลักษณ์ของคณะวิศวกรรมศาตร์ คนคนนึงให้ฉันเก็บรักษามันเอาไว้หลังจากที่เขาได้รับมัน และฉันก็ดูแลมันเป็นอย่างดีแม้ว่าตอนนี้เจ้าของมันจะทิ้งมันไปแล้วก็ตาม"ค่ะ" ฉันตอบแบบไม่หันไปสบตากับพี่เขา ก่อนจะหลุบตาลงมองมือทั้งสองข้างที่กุมกันอยู่บนตักด้วยความรู้วสึกหน่วงใจอย่างบอกไม่ถูก จากที่คิดว่าลืมเรื่องนี้ไปแล้วแต่อยู่ ๆ ก็กลับมานึกถึงมันอีก"พี่เอิร์ธจะไม่ดุน้ำแข็งหน่อยเหรอคะ" ฉันหันไปถามคนข้าง ๆ ที่ตอนนี้วางมือข้างหนึ่งลงบนศีรษะฉันแล้
อัคคี...วันนี้หลังจากเลิกเรียนแทนที่ผมจะได้กลับไปนอนเปื่อยที่คอนโดแต่ไอ้พวกเพื่อนตัวดีกลับลากผมมากินหมูกระทะซะงั้น พอจะปฏิเสธมันก็บอกว่าวันนี้จะแนะนำรุ่นน้องให้รู้จักผมก็เลยต้องมาร้านที่พวกเรามานั่งกันเป็นร้านหมูกะทะเจ้าประจำที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยนัก ดีหน่อยที่มาตอนร้านเพิ่งเปิดคนก็เลยไม่เยอะเท่าไหร่"ทางนี้ ๆ" เสียงไอ้เหมันต์ตะโกนเรียกใครสักคนพลางโบกไม้โบกมือให้กัน ผมหันไปมองกลุ่มคนมาใหม่สามคนด้วยใบหน้าเรียบเฉยพลางเหลือบตาไปมองผู้หญิงคนนึงที่ตอนนี้เดินมานั่งลงฝั่งตรงข้ามกับผม"นั่งเลย ๆ เอาอะไรเพิ่มมั้ยพี่จะได้สั่ง" ไอ้เหมันต์ลุกขึ้นจัดที่ทางให้สามคนที่มาใหม่ พลางส่งเมนูให้ก่อนจะกวักมือเรียกพนักงานให้มาเพิ่มแก้วเครื่องดื่มให้"นี่รุ่นน้องกูนะพวกมึง" หลังจากที่มันคุยกับพนักงานเสร็จมันก็พูดต่อพร้อมกับบุ้ยปากไปยังผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งยิ้มอยู่"คนเปรี้ยว ๆ แซ่บ ๆ นี่ชื่อน้องเรดาห์พวกมึงคงรู้จักใช่มั้ย" ไอ้เหมันต์แนะนำรุ่นน้องผู้หญิงหน้าสวยคนหนึ่งซึ่งผมจำได้ว่าเธอเป็นนางแบบชุดว่ายน้ำที่กำลังดังในตอนนี้ แต่แปลกแฮะทำไมมาเรียนหมอ"ส่วนคนนี้ที่น่ารัก ๆ ตัวเล็ก ๆ หน่อย ชื่อน้องเจ้าถิ่นแล
น้ำแข็ง...ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ที่ห้องพยาบาลของคณะวิศวกรรมศาสตร์ แปลกใจใช่ไหมล่ะว่าทำไม ก็มีคนเป็นลมเพราะฉันน่ะสิ เพื่อน ๆ เลยให้ฉันดูแลเขาจนกว่าจะพื้น ฉันก็เลยอดเข้าแลปไปด้วย นอกจากจะไม่ได้ช่วยเพื่อน ๆ ทำสรุปตรวจสุขภาพประจำปีแล้ว ฉันยังต้องมาเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์อีก เฮ้อ!"โตจนป่านนี้แล้วยังกลัวเข็มอีก ไหนบอกแค่นี้ไม่ถึงตายไง หึ เป็นลมซะงั้นพ่อคนเก่ง" ฉันหันไปพูดกับคนบนเตียงที่ยังคงนอนไม่ได้สติอยู่ด้วยอารมณ์หงุดหงิด เพราะเขาทำให้ฉันเสียเวลา"ฉันได้ยินนะ" แต่แล้วเสียงทุ้มของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็ดังขึ้น ทำให้ฉันที่นั่งเฝ้าอยู่ตกใจเล็กน้อย แต่ก็ดีแล้วแหละที่เขาฟื้นขึ้นมา"ฟื้นแล้วก็ดี ฉันไปล่ะ"หมับ!"ว๊ายย! ปล่อยนะ!" แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะหันหลังให้ คนที่นอนอยู่ก็คว้าข้อมือฉันเอาไว้ก่อนจะกระชากให้ล้มลงบนตัวเขาที่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าของฉันที่ตอนนี้นอนทับร่างเขาเอาไว้นั้นห่างจากเขาเพียงคืบ ลมหายใจร้อน ๆ ที่เป่ารดใบหน้าของฉันอยู่ทำให้ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวเขา กลิ่นที่ฉันคุ้นเคย...อัคคี...ผมมองคนตัวเล็กดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมาบนตัวผม กลิ่นหอม ๆ จากตัวเธอปะทะกับจมูกผมเต็ม ๆ มันเป็นกลิ่นหอมที่ผมต
วันตรวจสุขภาพประจำปี ของมหาวิทยาลัย JR"สวัสดีค่ะ พี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ นักศึกษาทุกคน เราชื่อเจ้าถิ่นนะคะเรียนแพทย์ศาสตร์ปีสาม วันนี้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้ากลุ่มนักศึกษาแพทย์ที่มาทำการตรวจร่างกายประจำปีให้แก่คณะวิศวกรรมศาสตร์ค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำทีมงานก่อนนะคะ" เสียงยัยเจ้าถิ่นเพื่อนสาวหน้าสวยขาวหมวยและรวยมากของฉันกล่าวเปิดงานพร้อมแนะนำตัวเสียงปรบมือ โห่ร้อง เสียงโฮแซว จากหนุ่ม ๆ วิศวะ ฮือฮาซ้ำไปซ้ำมาเมื่อสาว ๆ คณะแพทย์ออกมาแนะนำตัวคนแล้วคนเล่า"หวัดดี เราชื่อเรดาห์นะคะเรียนแพทย์ปีสาม" เรดาห์เพื่อนสาวสุดสวยหุ่นเอ็กซ์ดีกรีดาวคณะ และพ่วงด้วยตำแหน่งนางแบบที่โด่งดังตอนนี้แนะนำตัว การปรากฏตัวของเธอเรียกเสียงฮือฮา เสียงโฮแซวกึกก้องหอประชุม"และคนสุดท้ายของทีมเราค่ะ..." ถึงคิวฉันแล้วสินะ...."สวัสดีค่ะ เราชื่อน้ำแข็งเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสาม" ฉันแนะนำตัวก่อนจะโปรยยิ้มทักทายทุกคนที่ยืนปรบมือให้พวกเราอยู่ก่อนจะแยกย้ายกันไปปฏิบัติหน้าที่การตรวจสุขภาพประจำปีครั้งแรกของชั้นปีที่พวกเราเรียนอยู่ มีรุ่นพี่ตั้งแต่ปีสี่ ปีห้าและรุ่นพี่ปีหกคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด และคอยทำหน้าที่บางอย่างที่นักศึกษาแพทย์ชั้น
ความคิดเห็น