LOGINชีวิตใหม่ของฉันกับลูกเริ่มต้นขึ้นแล้ว ลูกชายชอบที่นี่มาก บ้านพักของเราอยู่ติดธรรมชาติ น้องปัทม์ดูมีความสุขดีและไม่ค่อยถามถึงพ่อ อาจจะเพราะมีสิ่งใหม่ ๆ ให้สนใจจึงยังไม่ได้นึกถึงคนเป็นพ่อ“ขอบคุณคุณบัวสิไอ้ลูกไม่รักดี” ป้าบุ้งกำลังต่อว่าลูกชายวัย 18 ปีป้าบุ้งแกเป็นคนทำความสะอาดของโฮมสเตย์ ผัวแกตายตั้งแต่ลูกชายยังอายุไม่ถึงขวบ แกเลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอด นี่ก็ผ่านมา 18 ปีลูกชายเข้าช่วงวัยรุ่น ป้าแกก็ชาวบ้านธรรมดา ไม่รู้ว่าควรทำยังไง ดุก็แล้ว ตีก็แล้วลูกก็ไม่ฟังสุดท้ายก็เลยได้มาประกันตัวที่โรงพัก“พูดแล้วยังเฉย ฉันบอกให้ขอบคุณคุณบัวไง” ฟาดไหล่ลูกชายไปหนึ่งป้าบเข้าให้“อย่าตีน้องค่ะป้า เรากลับบ้านกันนะ” ส่งยิ้มให้ลูกชายป้าที่ยืนหน้านิ่ง ช่วงวัยรุ่นฉันไม่เคยดื้อด้วยสิ แต่ก็ใช่ว่าไม่เคยเห็นคนดื้อ“คุณบัวพูดด้วยยังเงียบอีก นี่ถ้าไม่ได้คุณบัวแกน่ะนอนคุกไปแล้ว หยาบเหนียวแบบนี้ฉันปล่อยให้แกติดคุกดีไหมนะ ดึกดื่นแบบนี้ต้องรบกวนคุณบัวให้มาประกันตัวแก ต่อไปแกเลิกไปเที่ยวกับเพื่อนแกได้แล้วนะ พากันทำแต่เรื่องเลว ๆ พอเดือดร้อนขึ้นมาไม่เห็นไอ้หมาตัวไหนมันช่วยแกได้ เทิดทูนอยู่นั่น เจ็บป่วยมันเคยหาข้าวหาน้
ถึงเวลานัดฉันเดินทางมาที่ร้านอาหารที่คุณธีร์ส่งโลเคชั่นมาให้ การนัดเจอกันของเราแบบนี้เป็นความลับ ร้านที่นัดมาก็ลึกลับห้องอาหารเป็นห้องวีไอพี เป็นการนัดเจอเหมือนเจอชู้เลยแต่จะว่าไปแล้วตอนที่อยู่ด้วยกันก็แทบจะออกไปข้างนอกด้วยกันน้อยมาก ทุกกิจกรรมของลูกที่เขาอยู่ด้วยก็แทบจะเป็นกิจกรรมในบ้าน“ข้าวก็กินเสร็จแล้ว พี่ธีร์มีเรื่องอะไรจะพูดก็พูดมาได้เลยค่ะ อีกเดี๋ยวบัวต้องไปรับน้องปัทม์”ฉันเปิดประเด็นเพราะเขาเอาแต่มองไม่ยอมพูดอะไร ทั้งที่เป็นคนบอกเองว่ามีเรื่องจะพูดด้วย“น้องปัทม์งอแงไหม”“ไม่เท่าไหร่ค่ะ” ให้บอกเหรอว่าบ่นหาพ่อทุกวัน เหอะ พูดไปก็เหมือนฉันเอาลูกมาเรียกร้องความสนใจ ในเมื่อเขาไม่สนใจลูก ฉันเรียกร้องไปมันจะได้อะไร“พี่แต่งงานแล้วนะบัว”ก็ตรงดี ตรงจนฉันตั้งตัวไม่ทัน ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเขาแต่งงานแล้ว แต่พอได้ฟังจากปากเขาฉันก็เสียใจ“ถูกบังคับเหรอคะ”“เปล่า”“...”“บัวคงจำได้ว่าพี่เคยบอกว่าพี่มีผู้หญิงที่พี่รัก พี่แต่งงานกับเธอ”“อ่อ ค่ะ”“ไม่ต้องห่วงนะว่าพี่จะทิ้งบัว แต่งงานก็ส่วนแต่งงาน ลูกกับบัวก็ส่วนนึง พี่จะดูแลบัวกับลูกเป็นอย่างดี แต่ว่าพี่คงไม่ได้ไปหาสักระยะ”“ตอนแรกเราตกลง
ตั้งแต่วันที่รู้เรื่องฉันยังคงรอคุณธีร์กลับมาหาที่บ้าน แต่เขาก็ไม่มาให้เจอ เขาส่งข้อความเสียงมาให้ลูกฟัง ถ่ายวีดีโอมาให้ลูกดู พร้อมกับบอกลูกว่าเขางานยุ่งมาก ๆ ช่วงนี้กลับมาหาไม่ได้แม้ว่าเขาจะไม่ได้มา แต่เรื่องเงินเดือนที่เขาให้ฉันและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่เคยขาด ทั้งยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆนี่ก็ผ่านไปอีกหนึ่งเดือนแล้ว งานแต่งที่เพื่อนฉันบอกมาก็ถูกจัดไปเรียบร้อย ไอยาส่งรูปมาให้ดู บอกว่าพี่เอสแอบถ่ายมาให้เธอดูภาพที่ฉันเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวเหมาะสมกันมาก คุณธีร์ยิ้มอย่างมีความสุขคนที่ได้อยู่กับคนที่รักเป็นแบบนี้เองสินะ“แม่อย่าร้อง ไม่ร้องนะคับ” เสียงสั่นเครือของลูกชายทำให้ฉันรีบเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า ไม่คิดว่าลูกที่หลับไปแล้วจะตื่นขึ้นมากลางดึกหรือว่าฉันสะอื้นดังเกินไป“น้องปัทม์ทำไมตื่นลูก”“ปัทม์ตื่นมาไม่เห็นแม่ ปัทม์เสียใจ แม่อย่าทิ้งปัทม์นะ”“ปัทม์เป็นลูกแม่ แม่ไม่ทิ้งลูกค่ะ”“แต่พ่อทิ้งเรา พ่อทิ้งเราไปแล้ว”“ไม่ใช่แบบนั้นนะลูก พ่อเขางานยุ่ง”“พ่อไม่ต้องการเรา ฮือ ฮือ…”“ไม่เอาไม่ร้องนะปัทม์ เดี๋ยวพ่อว่างพ่อก็มาค่ะ เดี๋ยวพ่อก็มาหาปัทม์นะ”“ปัทม์คิดถึงพ่อ แม่คับปัทม์คิดถึงพ่อ”“แม่ขอโทษ แม่
ว่ากันว่าอะไรที่ได้มาง่าย ๆ มักจะกลายเป็นของไร้ค่าง่ายเสมอ โดยเฉพาะกับคนรวยที่แค่เห่อช่วงแรก ๆ เท่านั้นคำว่าจะดูแลอย่างดีก็ไม่ได้ผิดคำพูดอะไร เพียงแต่เป็นฉันเองที่ตีความหมายผิดไป คิดเข้าข้างตัวเองอีกตามเคย และก็ยังโง่ซ้ำซาก หลงรักคนคนเดียวซ้ำแล้วซ้ำเล่ายอมเป็นเมียเก็บ อยู่ในที่ลับตาคน อยู่ในสังคมอันน้อยนิดที่เขาสร้างขึ้นโลกอีกใบของเขาไม่มีใครรู้จักฉันและลูกชายเลยสักคนจากเด็กเลี้ยงในวันวานเปลี่ยนมาเป็นแม่ของลูกที่พ่วงด้วยตำแหน่งเมียเก็บเพราะหลงคารมและความดีที่เขามีให้ฉันก็เลยตกอยู่ในสถานะเมียเก็บ“แม่คับวันนี้พ่อธีร์จะมาหาปัทม์ไหมคับ” ลูกชายวัยสามขวบเอ่ยถามด้วยวาจาฉะฉาน“พ่องานยุ่งค่ะ ช่วงนี้น่าจะไม่ได้มาหาเรานะคะ”“โทรหาพ่อได้เปล่าคับ”“เวลาพ่อทำงานเราต้องห้ามโทรกวนนะคะ”“แต่ว่าพ่อหายไปนานแล้วนะ ปัทม์คิดถึงพ่อจังเลย แม่คิดถึงพ่อหรือเปล่าคับ”“คิดถึงค่ะ” ฉันลูบหลังลูกชายที่กำลังจะเคลิ้มหลับ “นอนนะคะ พรุ่งนี้แม่พาไปโรงเรียน”“คับแม่”นับตั้งแต่ฉันคลอดลูกนี่ก็ผ่านมาสามปีได้แล้ว หลังจากคลอดลูกในครั้งนั้น ในวันที่ออกจากโรงพยาบาลคุณธีร์ก็พาฉันมาอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง บ้านหลังนี้ถูกซื้อโด
เป็นช่วงเวลาเกือบสามเดือนก่อนคลอดที่ฉันแทบไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากกินนอนออกกำลังกายบ้างเล็กน้อย งานบ้านคุณธีร์ก็ไม่ให้ฉันทำ เขาบอกว่าอันตราย ท้องโตแล้วควรเห็นความปลอดภัยของลูกเป็นหลักฉันหงุดหงิดมากที่ต้องอยู่แบบไม่ต้องทำอะไรกับเพื่อนก็ได้คุยกันน้อยมาก กับไอยาก็แทบไม่ได้คุยเลย ได้แค่ดูเพื่อนผ่านหน้าไลฟ์ แต่เท่าที่รู้ดูเหมือนผู้ชายที่เคยเป็นพ่อของเด็กในท้องไอยาจะเป็นพี่เอสพี่ชายของเอลลี่ก่อนหน้านี้ฉันเคยแอบคิดว่าเป็นพี่บีมคู่หมั้นของเอลลี่ เพราะวันนั้นวันเกิดพี่เอสไอยาดูเสียใจเมื่อลองทบทวนดูอีกครั้งตอนนั้นที่ไอยาเสียใจอาจจะเป็นเพราะเพิ่งรู้ว่าพี่เอสคือพี่ชายของเพื่อนสนิทฉันก็นะ ในหัวตอนนั้นเข้าใจว่าไอยาเพิ่งรู้ว่าคนที่เคยมีสัมพันธ์กลายเป็นคู่หมั้นของเพื่อน ไอยาวันนั้นถึงได้เสียใจมากแต่ตอนนี้จะเป็นคนไหน เป็นใคร ก็เหมือนกลับเข้ามาเพื่อตอกย้ำความเจ็บปวดของไอยา ตอกย้ำเรื่องที่เธอเคยตัดสินใจผิดพลาดสงสารเพื่อน อยากไปหาเพื่อน อยากไปอยู่ข้าง ๆ อยากปกป้องเพื่อนติดก็ตรงที่ ‘ท้องโตขนาดนี้จะออกไปข้างนอกทำไมบ่อย ๆ อันตราย รอคลอดแล้วอยากไปไหนก็ไป’พ่อของลูกอารมณ์สวิงกว่าฉันที่เป็นคนท้องอีก“ไม
เกือบเที่ยงคืนเราเดินทางมาถึงคอนโด คอนโดเดิมที่ฉันเคยอยู่ ฉันกลับมาที่นี่อีกครั้งหลังจากที่เดินออกไปจากที่นี่เป็นเวลาหลายเดือน อายุครรภ์ตอนนี้หกเดือนกว่าใกล้เจ็ดเดือน เรียกว่ากำลังย่างเข้าสัปดาห์ที่ 28“ไม่มีคนอยู่ที่นี่เหรอคะ”“พี่ไง พี่คนนะ”“อ้อ ค่ะ” ฉันหมายถึงผู้หญิงที่เขาเลี้ยงไว้ต่างหากแต่เขาบอกเองว่าอย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา ฉะนั้นก็ไม่ควรถามต่อ“หิวไหมครับ”“ไม่ค่ะ”“ลูกของพี่หิวหรือเปล่า”“ดึกแล้ว ไม่กินแล้วค่ะ”“ดื่มนมหน่อยไหม” นมที่พูดถึงคือนมสำหรับคนท้อง เขาแวะร้านสะดวกซื้อก่อนเข้าคอนโด“ไม่ค่ะ”“...” คุณธีร์มองหน้าฉันด้วยสายตาไม่พอใจ“ขอยืมโทรศัพท์ได้ไหมคะ”“ไม่ได้”“บัวต้องบอกเพื่อน เพื่อนจะได้ไม่เป็นห่วง”“พี่ให้เพื่อนพี่บอกแล้ว เราไม่ต้องห่วงอะไร ดื่มนมแล้วเข้าห้องนอนได้เลย”“พี่เอสเป็นเพื่อนคุณธีร์เหรอคะ”“ใช่ ทำไม”“เปล่าค่ะ”“พี่กับเซรีนเป็นเพื่อนกัน”“...”“เผื่อเธอเข้าใจผิด”“บัวจะเข้าใจผิดหรือเปล่าคุณธีร์ไม่จำเป็นต้องใส่ใจนี่คะ ความรู้สึกของบัวบัวรับผิดชอบเอง”“เมื่อก่อนอาจจะใช่ แต่ว่าตอนนี้เธอท้องลูกของพี่ ความรู้สึกของเธอตอนตั้งท้องพี่ต้องรับผิดชอบ พี่ไม่อยา







