EP10
“มีอะไร?” เสี่ยชักหน้ากลับแล้วมองมิเกลด้วยแววตาสงสัยแต่คนตัวเล็กกลับขยับหนีแล้วคิดหาวิธียื้อเวลาเอาไว้ “เอ่อ… หนูพึ่งนึกได้ว่ายังไม่ล้างก่อนมา ขอตัวไปเข้าห้องนํ้าก่อนได้มั้ยคะ” “ได้สิ ฉันจะรอ” “…” มิเกลไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเธอลุกขึ้นจากเตียงแล้วมองหาห้องนํ้าก่อนจะรีบลุกแล้วเดินหายเข้าไปข้างใน พอเข้ามาข้างในก็รีบล็อกประตูเอาไว้แล้วกอดอกก้มหน้าตัวสั่นเทาการทำเรื่องแบบนี้ทำไมมันยากเย็นสำหรับเธอนัก มิเกลหวาดกลัวจนเสียการควบคุมตนเองขอบตาเริ่มร้อนผ่าวและร้องไห้ออกมาจนในที่สุดทำใจไม่ได้ที่ต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ มีอะไรกับคนที่ไม่รู้จักและเขาคนนั้นจะน่ากลัวมากขนาดไหน นับต่อจากนี้ต้องเจออะไรทุกอย่างมันตีเข้ามาในหัวไปหมด… ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! และในตอนที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่นั้นเสียงเคาะประตูห้องนํ้าก็ดังขึ้นอย่างแรงจนร่างเล็กตกใจสะดุ้งเหงื่อเริ่มผุดตามกรอบหน้า อีกอย่างที่กลัวกลัวทำไปแล้วจะไม่ได้เงิน “เสร็จรึยังจ้ะหนู” คำพูดนั้นตามมามันดูเป็นคำธรรมดาแต่กลับทำให้มิเกลรู้สึกขนลุกแปลกๆ จนต้องใช้มือลูบแขนตนเองไปมา “อีกแป๊บนึงค่ะ” “ฉันรออยู่นะ” พูดจบแค่นั้นแล้วเสียงก็เงียบไปมิเกลแอบฟังเสียงฝีเท้าของเขาที่ถอยห่างออกไป เธอเดินมาส่องดูตนเองผ่านกระจกก่อนจะยกมือขึ้นปาดคราบนํ้าตาบนใบหน้าออก พอรู้สึกทำใจได้บ้างเลยเปิดประตูออกไปสายตาจ้องมองร่างของเสี่ยที่ยืนหันหลังให้แต่เขาเหมือนกำลังทำอะไรบางอย่างกับตู้ “เสร็จแล้วค่ะ” “ไปนอนรอที่เตียงแล้วถอด” มิเกลไม่ได้ถามอะไรกลับไปเธอเดินไปที่เตียงและค่อยๆ ขึ้นไปนอนเหยียดกายแต่หูก็ดันได้ยินเสียงผิวปากของเสี่ยก่อนที่ร่างนั้นจะหันหน้ากลับมาพร้อมเข็มฉีดยาขนาดใหญ่ “จะทำอะไร?” มิเกลเด้งตัวลุกขึ้นนั่งแล้วขยับลงมาจากเตียงด้วยความตกใจ “มันแค่เป็นยากระตุ้นประสาทที่จะช่วยให้วันนี้ของเรามีความสุขมากกว่าเดิมเท่านั้นเอง” “ไม่… ฉันไม่ฉีด” มิเกลไม่รู้ว่ามันเป็นยาอะไรที่อยู่ในนั้นกันแน่และผู้ชายตรงหน้าเธอก็ดูอันตรายมากไม่น้อยเพราะงั้นเธอจะไม่ยอมฉีดยาบ้าบออะไรนี้เด็ดขาด “แต่หนูตกลงกับฉันไปแล้วนะว่าจะยอมทุกอย่าง” “ฉันไม่เอาแล้วเงินของคุณ พอแค่นี้ค่ะ” พูดจบร่างเล็กก็รีบวิ่งมาที่ประตูแต่กลับถูกมือกระชากร่างเอาไว้เสียก่อนและเข็มฉีดยาก็ฉีดเข้าร่างเธออย่างแรง “ในเมื่อไม่ยอมฟังกันดีๆ ก็ต้องโดนแบบนี้” มิเกลพยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายที่เหลืออยู่ใช้ศอกแทงเข้าที่เป้านั้นเต็มแรงจนร่างของเสี่ยเสียหลักถอยออกไปแล้วล้มลงบนพื้นมือกุมจุดนั้นของตนเองเอาไว้ “อีนี่!” มือชี้หน้ามิเกลด้วยความโกรธแค้นก่อนที่เธอจะตะเกียกตะกายไปที่ประตูแล้วเปิดมันออกร่างเล็กเดินตามโถงทางเดินด้วยร่างกายที่เริ่มไม่ไหว สมองมันเริ่มมึนภาพตรงหน้าเริ่มเบลอร่างเล็กเซไปมาทรงตัวไม่อยู่ สายตาหันกลับไปมองข้างหลังเพราะกลัวเสี่ยคนนั้นตามมาแต่แล้วมันก็เป็นอย่างที่คิดเสี่ยคนนั้นตามมา มิเกลเลยต้องพยายามมากกว่าเดิมเพื่อไปที่ลิฟต์และโชคดีที่ลิฟต์ปิดก่อนผู้ชายคนนั้นจะวิ่งเข้ามา เมื่อรู้ว่าตนเองปลอดภัยแล้วก็ร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจตอนนี้ร่างกายของเธอเริ่มร้อนรุ่มและมีความต้องการมากกว่าปกติจนหญิงสาวเริ่มรู้ตัวแล้วว่าตนเองโดนยาอะไร สมองเริ่มเบลอคิดอะไรไม่ถูกพอลิฟต์เปิดก็รีบเดินออกมาจากล็อบบี้ของคอนโด ร่างเล็กที่เซไปมาเดินตามริมฟุตบาทสภาพของเธอเริ่มไม่ไหวแล้วแต่พอเงยหน้ามองบริเวณรอบก็เห็นคอนโดคุ้นตาตั้งอยู่ตรงหน้าและมันก็คือคอนโดของฟีฟ่า… ไม่รู้ว่าตอนนั้นในสมองคิดอะไรถึงต้องเลือกที่จะเดินเข้าไปและกดไปที่ชั้นสามสิบเก้าตอนนี้มิเกลควบคุมตนเองไม่อยู่แล้วเธอเดินมาหยุดที่หน้าห้องของฟีฟ่าโดยที่ไม่รู้ตัว คนตัวเล็กยืนอยู่สักพักว่าเธอควรจะเลือกวิธีสุดท้ายดีไหมกับร่างกายตอนนี้ที่ไม่ไหวแล้ว แต่พอยืนคิดอยู่นั้นประตูห้องฟีฟ่าก็เปิดออกเป็นผู้หญิงร่างสวยที่เดินออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ เธอมองร่างมิเกลตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วก็ยิ่งหงุดหงิดมากกว่าเดิมเพราะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงคนใหม่ของฟีฟ่า “หลีก!” ปึก… และร่างของผู้หญิงคนนั้นก็ชนเข้ากับมิเกลเต็มแรงก่อนจะเดินฟึดฟัดออกไป มิเกลไม่ได้สนใจกับผู้หญิงคนนั้นเธอเปิดประตูเข้าไปในห้องของฟีฟ่าอย่างถือวิสาสะ “ฉันไล่เธอกลับไปแล้วไม่ใช่หรอ…” พอรู้ว่ามีการกลับมาในห้องของตนเองฟีฟ่าก็พูดออกมาโดยไม่ได้หันกลับมามองแต่พอหันกลับมาเจอว่าเป็นใครก็ชักสีหน้าสงสัยกลับไป “เธอ…?” “พี่…” เสียงนั้นเรียกคนตรงหน้าอย่างคนไร้เรี่ยวแรงร่างหนาที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างเลยเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าเธอที่นอนหมดสภาพอยู่พื้นห้อง “อะไร” “อยากได้ฉันใช่ไหม” “…หรือว่าตกลงแล้วแบบนั้นหรอ” พูดแล้วก็ย่อตัวนั่งลงแล้วยื่นมือไปเชยคางมนขึ้นให้สบตา ฟีฟ่ามองสำรวจใบหน้าสวยหวานตรงหน้าไร้ที่ติแล้วคลี่ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ เขาไม่เคยเห็นมิเกลแต่งตัวแบบนี้มาก่อนมันถูกใจเขาเป็นอย่างมากถูกใจซะจนไม่อยากละสายตาหนี ไหนจะเรือนร่างสวยตรงหน้าอีกพอใส่เสื้อผ้าปกติแล้วซ่อนรูปแต่พอใส่แบบนี้แล้วทำให้หุ่นเธอสวยมากจนแทบจะอดใจไม่ไหว “ฉันยอมแล้ว… พี่อยากจะทำอะไรก็ทำ” มิเกลไร้ซึ่งหนทางออกแล้วเธอไม่สามารถขายตัวกับคนที่ไม่ได้รักได้จริงๆ และการติดต่อกับคนใหญ่โตแบบพ่อของเขาคงไม่มีทางเป็นไปได้เพราะเธอเป็นแค่นักศึกษาธรรมดาไม่มีหัวนอนปลายเท้าด้วยซํ้า “โดนยามา?” พอฟีฟ่ามองสังเกตเห็นอาการของคนตรงหน้าเขาก็ขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยแต่ไม่ต้องรอให้มิเกลต้องตอบเขาก็พอจะรู้คำตอบแล้ว “อื้อ” เหงื่อเริ่มผุดตามใบหน้าสวยบ่งบอกว่าอาการของเธอเริ่มไม่ไหวแล้ว มิเกลมาหาเขาในวันที่โดนยาแล้วเซ็กส์ครั้งนี้ชายหนุ่มคงชอบมันไม่น้อยเพราะต่างฝ่ายคงต่างมีอารมณ์ร่วมกันทั้งคู่ “ทำไม ไหนตอนแรกไม่เห็นมีท่าทีว่าจะยอม” ริมฝีปากหยักเอ่ยถามแล้วหยัดกายลุกยืนเต็มความสูงก่อนที่ร่างหนาจะเดินไปที่เตียงแล้วหยิบบุหรี่ที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาจุดสูบอย่างสบายใจในขณะที่ร่างของมิเกลเองยังคงนอนอยู่บนพื้นเช่นเดิม แต่เธอก็พยายามพาตัวเองลุกขึ้นแล้วนั่งเอนหลังกับผนังห้อง “ฉันหมดทางเลือกแล้ว” “มั่นใจใช่ไหม” “…” “ฉันต้องการแค่เซ็กส์ความสัมพันธ์แบบไหนเธอก็รู้ดีที่ฉันต้องการ” “ฉันรู้…” ทำไมเธอจะไม่รู้ในเมื่อฟีฟ่าบอกออกมาอย่างชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วเขาก็มีผู้หญิงของเขาอีกมากมายอย่างคนเมื้อกี้ก็คงเป็นผู้หญิงที่เขาได้แล้วเขี่ยทิ้ง เธอเองก็คงมีจุดจบแบบนั้นเหมือนกันอยู่ในสถานะเพื่อนนอนจนเขาเบื่อทุกอย่างถึงจะจบลง มิเกลไม่ได้อยากกลับมาวนเวียนกับเขาเลยสักนิดเพราะครั้งนึงเธอเคยพลาดมาแล้วกับผู้ชายคนนี้ “คลานมานี้สิ” “ทำไม…” “ทำหน้าที่ของเธอไง ตอนนี้ข้อตกลงของเราเรียบร้อยแล้ว” “จัดการเรื่องค่าเทอมให้ฉันด้วย” มิเกลจำใจตอบออกไปแบบนั้นพร้อมหัวใจที่เจ็บแปลบ เธอกำลังโดนเขายํ้ายีอีกรอบแล้วสินะ พอคิดแบบนั้นก็พาร่างกายตนเองเดินไปที่เตียงอย่างคนไร้หนทางเลือก “ฉันพูดคำไหนคำนั้น” พูดจบร่างเล็กก็ถูกกระชากให้ขึ้นมานอนบนเตียงฟีฟ่าทิ้งมวลบุหรี่ลงบนถาดเขี่ยบนโต๊ะแล้วใช้ปลายนิ้วปลดผ้าเช็ดตัวที่พันอยู่เอวสอบไว้อย่างหมิ่นเหม่ออกจนร่างกายของเขาเปลือยเปล่าสู่สายตาคนที่นอนบนเตียง มิเกลพยายามปรือตามองภาพตรงหน้าพลันใบหน้าก็เห่อร้อนขึ้นมาร่างกายของเขายังเป็นร่างกายที่เพอร์เฟคเหมือนเดิม… “พี่…” “อะไร” “ฉันถามอะไรหน่อยได้มั้ย” “ถามมาสิ” “พี่เคยรักฉันบ้างไหม” คำถามนั้นทำให้ฟีฟ่ามองใบหน้าเธออย่างไม่เข้าใจก่อนที่เขาจะขึ้นไปบนเตียงแล้วก้มหน้าประกบจูบปากเล็กอย่างทนไม่ไหว พอจูบจนพอใจก็ผละออกแล้วมองใบหน้าคนใต้ร่าง “รักสิ… ฉันรักเซ็กส์ของเธอ” และคำตอบมันก็เป็นแบบเดิมผู้ชายคนนี้ก็ยังคงต้องการแค่เรื่องแบบนั้นกับเธอไม่เคยมีความรักเข้ามาเกี่ยวข้องเลยสักครั้งพอยิ่งฟังก็ยิ่งเจ็บ… ____________________ อย่าให้รู้ว่ารักน้องขึ้นมานะฟีฟ่า! ความสัมพันธ์ของพระเอกกับนางเอกตอนนี้คือความสัมพันธ์แบบ FWB นะคะ รู้จักกันแค่บนเตียงข้างนอกก็เหมือนคนรู้จักกันปกติ ส่วนใครจะเป็นโบ้ก่อนนั้นต้องมารอลุ้นนนนนน🤭 แต่เผื่อมีคนอ่านแล้วงงๆ ทั้งสองเคยเป็นแฟนเก่ากันนะคะ แฟนเก่าที่ยังอยากมีเรื่องแบบนั้นอยู่พอรู้ว่าน้องเรียนที่เดียวกันเลยทำทุกอย่างเพื่อให้น้องยอมตกลงอยู่ในความสัมพันธ์แบบนั้น ไรท์อธิบายเข้าใจไหมง่ะTTEP60 3 ปีต่อมาสามปีผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับโกหก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาฟีฟ่าและมิเกลคบกันอย่างมีความสุขไม่ได้มีอุปสรรคหรือเรื่องราวอะไรมาขัดขวางความรักของพวกเขาทั้งสอง ฟีฟ่าเป็นคนที่ดีขึ้นมากและไม่มีเรื่องเจ้าชู้เลย ซึ่งมันเป็นเรื่องดีมากๆ สำหรับมิเกล วันนี้เป็นวันสำคัญของเธอที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ถึงแม้จะผ่านมายากลำบากแต่ก็ผ่านมาได้ ส่วนฟีฟ่านั้นเขาก็ได้ทำงานที่สายการบินของป๊าตนเอง “congratulations นะมิเกล เรียนจบไปพร้อมกันแล้ว” เสียงของมุกดาเอ่ยบอกเพื่อนสนิทของตนเอง ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังยืนถ่ายรูปด้วยกันหลังจากที่เพื่อนๆ คนอื่นและสายรหัสก็ต่างทยอยมาถ่ายด้วยแล้ว “congratulations เช่นกันนะ” มิเกลบอกคนข้างกายแล้วส่งยิ้มให้ วันนี้เธอสำเร็จการศึกษาซึ่งเป็นอีกหนึ่งวันที่มิเกลดีใจมากๆและมีความสุขมากที่สุด ถึงสามปีที่ผ่านมาจะไม่ได้ใช้ตังค์ตนเองก็เถอะ เพราะฟีฟ่าเป็นคนส่งเธอเรียน “เกลไปถ่ายรูปกับครอบครัวเราสิ ทุกคนเอาของขวัญมาเผื่อเกลด้วยนะ^^” มุกดาที่รู้ว่ามิเกลไม่ได้มีครอบครัวมาแสดงความยินดีเหมือนกับคนอื่นเอ่ยชวน มิเกลเลยละสายตาจากการมองหาใครบางคนมาที่มุกดา “อื้ม…ไปสิ” หญิงสาวข
EP59 เคลียร์“โอเคไหมคะ” ฟีฟ่าเอ่ยถามคนข้างกายแล้วยื่นมือไปลูบหัวปลอบใจคนตัวเล็กเบาๆ ในขณะที่เขาพาเธอมานั่งอยู่บนรถแล้วเพื่อจะเตรียมตัวกลับคอนโด “โอเคแล้วค่ะ” “พี่รู้ตัวคนที่ทำเรื่องนี้แล้วนะ” เขาบอกแล้วก็เริ่มสตาร์ทรถพร้อมกับเคลื่อนออกมาจากตัวคณะ ส่วนเรื่องข่าวพวกนั้นเขาก็บอกไทเกอร์หมดแล้วอีกไม่นานก็คงจะถูกลบออกหมด “ใครทำหรอคะ” “มิวนิค” “เธอคงชอบพี่อยู่” “ก็คงจะอย่างนั้น แต่หนูไม่ต้องกังวลนะ พี่รักหนูแค่คนเดียว” “ค่ะ” มิเกลพยักหน้าตอบแล้วฟีฟ่าก็หยิบมือถือขึ้นมาเปิดอ่านข้อความเพราะไลน์เขามีแจ้งเตือนข้อความใหม่เข้ามาจากไวท์ ‘ไอ้ธามอยากคุยด้วย มาเจอกันที่ร้านนุ๊ก xxx’ “พี่จะไปส่งหนูที่คอนโดก่อน แล้วพี่จะไปทำธุระต่อ หนูโอเคใช่มั้ย” ฟีฟ่าไม่ได้ตอบกลับไปเขาอ่านมันแล้วกดปิดหน้าจอมือถือเอาไว้ก่อนจะหันไปบอกแฟนสาว “โอเคค่ะ” “แล้วเดี๋ยวพี่จะรีบกลับมานะ” “….” มิเกลเพียงพยักหน้าตอบแล้วบทสนทนาบนรถก็เงียบ เธอเองก็เริ่มผล็อยหลับจากการเหนื่อยล้ากับเรื่องที่เจอไหนจะเรียนทั้งวันอีก ฟีฟ่าใช้เวลาขับรถไม่นานก็มาถึงคอนโดของตนเอง ชายหนุ่มอุ้มคนตัวเล็กออกมาจากรถและพาขึ้นไปส่งบนห้องให้มิเกลนอนบนเ
EP58 อีกด้าน…“ว่าแล้วทำไมทำตัวสนิทกับพี่ฟีฟ่า เพราะแบบนี้นี่เอง” “นั้นหน่ะสิ รอเสียบต่อจากมิว” “ไม่เจียมตัวเอาซะเลย” “เห็นในข่าวเขียนบอกเป็นเด็กกำพร้าด้วยนิ ไม่สมกับพี่ฟีฟ่าเลย” “จริงไม่มีหัวนอนปลายเท้า” มิเกลนั่งทนฟังบทสนทนาของเหล่านักศึกษาภายในเซคเดียวกันที่กำลังนินทาซุบซิบกันเรื่องของเธอทั้งวัน ว่างเป็นพูด ว่างเป็นเข้าดู ถึงแม้ว่ามิเกลไม่อยากจะได้ยินแต่บทสนทนาพวกนั้นก็เหมือนกับว่าคนพูดตั้งใจพูดให้เธอได้ยิน “เกล ถ้าไม่โอเครเราว่ากลับก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวเราส่งสรุปคลาสนี้ไปให้” มุกดาที่นั่งอยู่ข้างกายมิเกลเอ่ยบอก เธอเองก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันที่เพื่อนสนิทตนเองโดนว่าแบบนั้นทั้งที่ความจริงแล้วมุกดาไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนั้น และเรื่องราวของชีวิตเธอมันก็ไม่ได้น่าดูถูก แต่คนพวกนี้ไม่ชอบที่มิเกลยุ่งกับฟีฟ่ามากกว่า และคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขามันมากกว่าพี่น้อง “ไม่เป็นไร อยากพูดอะไรไปก็พูดไปเถอะ” “คนพวกนี้ทำไมถึงได้ดูถูกคนอื่นขนาดนี้กันนะ ไหนจะเรื่องเกลกับพี่ฟีฟ่า ความจริงเป็นแบบไหนพวกนั้นยังไม่รู้แถมยังมาพูดจาเสียๆ หายๆ” “เดี๋ยวพอรู้ตัวคนทำทุกอย่างก็คงจะจบแล้ว” “เกลบอกเรื่อ
EP57 “ตอนนี้ฉันเชื่ออะไรไม่ได้หรอกว่าใครเป็นคนทำ แต่ฉันจะลากคอมันมาเอง” พูดจบเพียงเท่านั้นมิเกลก็หันหลังเดินออกมาจากห้อง ในเมื่อไม่มีใครยอมรับสารภาพ ทั้งธามและมิวนิคเป็นคนที่น่าสงสัยเธอก็จะจัดการเรื่องนี้เอง มิเกลเดินออกมาจากห้องก็สวนกับไวท์ที่ยืนอยู่ไม่ไกล ไวท์เห็นเธอเดินออกมาแล้วเลยกลับเข้าไปหาธาม “น้องมาคุยเรื่องไรวะ” เขาถามแล้วหย่อนตัวนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม“มีคนปล่อยข่าวใส่ร้ายมิเกล” “ข่าว ข่าวอะไรวะ” “เรื่องการคบกัน” “แล้วทำไมน้องต้องมาหามึง” “มิเกลสงสัยว่ากูเป็นคนทำ” ธามพูดจบก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดเข้าไปอ่านตามข่าว ด้วยความที่เรื่องนี้กำลังดังในหมู่ของนักศึกษาของแอสตันอยู่แล้วเลยไม่ยากที่จะกดเข้าไปส่อง “ไหนวะ กูไม่เห็นรู้เรื่อง” ไวท์ถามธามจึงยื่นโทรศัพท์ให้ดู “แล้วแม่งใครเป็นคนทำ ไปรื้ออดีตเขามาพูดทำไม ใครจะคบกันมันก็เป็นเรื่องของคนสองคนไหมวะ ไหนจะเรื่องมือที่สามอีกเป็นความจริงรึเปล่าก็ไม่รู้” ไวท์อ่านแล้วก็ขมวดคิ้วยุ่ง “กูไม่รู้หรอกว่าเรื่องนั้นจะเป็นความจริงรึเปล่า แต่ที่รู้ตอนนี้กูรู้แล้วว่าใครเป็นคนทำ” ธามนั่งครุ่นคิดไม่นานเขาก็พอจะเดาออกแล้วว่าใครเป็นคน
EP56 “ค่ะ” “พี่ชอบเกลแบบที่พูดง่ายแบบนี้มากเลยรู้มั้ย เหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด” ฟีฟ่าตอบออกมาแต่สายตาของเขายังคงมองอยู่บนท้องถนนตรงหน้า“ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไม่เชื่อฟังแล้ว” “อืม…ดีแล้วค่ะ” แล้วบทสนทนาระหว่างทั้งสองคนก็เงียบมาตลอดระหว่างอยู่บนรถจนกระทั่งฟีฟ่าขับกลับมาถึงคอนโด ชายหนุ่มเดินจูงมือมิเกลเข้าไปใต้ล็อบบี้และตรงดิ่งเข้าไปในลิฟต์ก่อนจะกดไปที่ชั้นห้องพักของตนเอง ไม่นานลิฟต์ก็เปิดออก ทั้งสองเลยเดินเข้ามาในห้อง “หนูรอพี่แป๊บนึงนะ เดี๋ยวพี่มา” พอเดินเข้ามาในห้องฟีฟ่าก็เดินหายเข้าไปในห้องนอน ส่วนมิเกลก็ยืนรออยู่ห้องนั่งเล่นพร้อมกับหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินหายเข้าไป ต่อจากนั้นไม่นานฟีฟ่าก็เดินออกมาพร้อมซองกระดาษในมือ“อะไรหรอคะ?” มิเกลมองกระดาษแผ่นนั้นและถามออกไปด้วยความสงสัย “สัญญาระหว่างเรา” ฟีฟ่าตอบแล้วก็หย่อนตัวนั่งลงข้างกายเธอพร้อมกับวางซองกระดาษสีขาวลง ข้อความบนกระดาษที่เป็นหัวข้อเขียนเอาไว้ว่า ‘สัญญาระหว่างหัวเมีย’ นี้มันเรื่องบ้าอะไร?“ทำไมต้องมีสัญญาด้วยละคะ” เธอมองมันและถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ คิดว่าฟีฟ่าพูดเล่นๆ แต่ที่ไหนได้เขาดัน
EP55ตกเย็นในวันเดียวกัน..“เป็นไงบ้างวะช่วงนี้กูเห็นซึมมาเป็นเดือน” ไวท์เอ่ยถามคนข้างกายคือธามในขณะที่เขากำลังเก็บของเข้ากระเป๋าเพื่อจะออกจากห้องหลังจากเรียนจบคลาสแล้ว “ดีขึ้นแล้ว” ธามตอบคำถามเพื่อนออกไปก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อจะเดินออกจากห้องไป“มึงจะกลับเลยหรอ” “อืม” “ธาม…กูไม่อยากให้มึงกับไอ้ฟีเป็นงี้เลยว่ะ” แต่พอได้ยินคำพูดของไวท์ร่างสูงก็หยุดยืนนิ่งแล้วหันกลับไปมอง “แบบนี้คือแบบไหน” “แบบที่พวกมึงสองคนไม่มองหน้ากัน ไม่คุยกัน ทั้งที่แต่ก่อนพวกมึงยังคุยกันอยู่บ้างแต่ตอนนี้ไม่เลยว่ะ” ไวท์พูดออกมาตามที่ตนเองรู้สึก วันไหนที่ฟีฟ่ามาเรียนก่อนธามที่เห็นนั่งอยู่ไวท์เขาก็แยกตัวออกมานั่งคนเดียวเงียบๆ ฟีฟ่าเองก็เช่นกันแต่จะต่างจากฟีฟ่าเพราะเขาค่อนข้างมีเพื่อนเยอะแต่วันไหนที่ธามมาก่อนและนั่งข้างไวท์ฟีฟ่าก็จะปลีกตัวออกมาเหมือนกัน “ปกติกูก็ไม่ชวนใครคุยอยู่แล้ว” “พวกมึงเก็บแบบนี้ก็แม่งโครตอึดอัด” “ทำตัวปกติดิ ไม่มีอะไรหรอก กูไม่ได้เป็นอะไร” “มึงแน่ใจว่ามึงไม่ได้เป็นอะไร สีหน้ามึงมันฟ้องว่ะธาม ที่กูบอกเรื่องการคบกันของมันและมิเกลเพราะกูไม่ได้อยากให้มึงเกลียดมันมากกว่าเดิมนะ กู