ย้อนมาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย
“เมื่อคืนเราต่างเมาด้วยกันทั้งคู่ ขวัญอยากให้มันจบตรงนี้” ร่างบางที่มีแค่ผ้าห่มปกปิดร่างกายเอ่ยบอกชายหนุ่มที่กำลังคีบบุหรี่พ้นควันออกมาอยู่ที่ระเบียงห้อง เมื่อคืนเพื่อนกลุ่มเธอและเขาชวนกันออกมาดื่มสังสรรค์ด้วยความเมามากเธอเลยไม่รู้ว่าตัวเองพลาดมานอนกับเขาได้เธอไม่แต่จะจำได้ว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
“ฉันไม่ได้เมา” ร่างหนาทิ้งบุหรี่ในมือแล้วเดินเข้ามายังห้องตอบเธอหน้านิ่ง
“พี่ทำแบบนี้ได้ไงว่ะ พี่ก็รู้ว่าขวัญมีแฟนแล้ว” ร่างบางโวยวายออกมาเมื่อรู้ว่าเขามีสติครบทุกอย่างแต่ยังทำแบบนี้ทั้งที่เธอมีแฟนอยู่แล้ว
“นั้นมันปัญหาของเธอ”
“เหอะ พี่แม่งเห็นแก่ตัวว่ะ” ร่างบางขำในลำคอแล้วมองหน้าเขานิ่ง
“อย่ามาทำหน้าแบบนี้ใส่ฉัน” เขาเดินมาบีบปากเธอแววตาแข็งกร้าว ไม่เคยมีใครเคยขัดใจหรือปฏิเสธมาเฟียอย่างเขาได้ยกเว้นเธอที่กำลังทำท่าอวดดีใส่เขา
“เอ็บอะ!!! (เจ็บนะ)” เธอพยายามปัดมือหนาออกน้ำใสๆ เริ่มไหลออกมาจากแววตาคู่สวยเพราะความเจ็บที่เกิดจากแรงบีบของมือใหญ่
“หึ สำออย” เขาปล่อยแก้มนวลให้เป็นอิสระ ร่างบางเอามือมาลูบแก้มของตัวเองบรรเทาความเจ็บ
“ไปเลิกกับมันสะ!” ร่างหนาออกคำสั่งเสียงแข็งแก่เธอ
“เลิกกับใคร พี่หมายถึงอะไร” เธอเงยหน้ามามองเขาแล้วถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ
“ฉันไม่ชอบพูดซ้ำ”
“เรื่องของพี่ ขวัญไม่เข้าใจ ขวัญไม่ทำ!” เธอเอ่ยตอบกลับเขาด้วยเสียงแข็งเหมือนกันพลางลุกเดินลงมาจากเตียงด้วยความทุลักทุเล เก็บเสื้อผ้าที่กระจายเกลื่อนอยู่เต็มพื้นด้วยขาสั่นไหวเพราะเมื่อคืนนับว่าเป็นครั้งแรกของเธอ ตั้งแต่ที่คบกับแฟนมามากสุดเธอแค่จูบกันเท่านั้นไม่เคยมีอะไรกันด้วยเพราะไม่มั่นใจในความสัมพันธ์แต่กลับต้องมาเสียให้ผู้ชายอย่างเขาเพราะความเสียสติจากแอลกอฮอล์
“ไม่มีใครเคยปฏิเสธฉัน” ร่างหนาเดินกอดอกยืนขวางเธอไม่ให้เดินเข้าห้องน้ำ
“ทำไมขวัญต้องเลิก ขวัญ แค่ พลาด ถอยออกไปค่ะ” เธอเน้นย้ำทีละคำให้เขาแล้วเดินเลี่ยงไปอีกทาง
“ฉันไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร” แววตาเริ่มแข็งกร้าวเริ่มก่อขึ้นอีกครั้ง
“มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นรอบที่สองแน่”
“ถ้าฉันไม่เบื่อเธอก็ปฏิเสธฉันไม่ได้”
“...”
“เลือกเอาว่าจะไปเลิกกับมันดีๆ หรือจะให้ฉันฆ่ามัน” เขาดึงมือเธอจนร่างบางขยับไปตามแรงแนบชิดกับตัวเขาแล้วสื่อแววตาที่ไม่ได้บ่งบอกว่าแค่ขู่แต่เขาสามารถทำได้ทุกอย่างตามที่เขาต้องการซึ่งไม่มีใครเคยปฏิเสธเขาได้แม้กระทั่งเธอ
“พี่มันเลว” เธอพ้นคำว่าเลวใส่หน้าเขาไม่เคยคิดว่าชายหนุ่มหน้าหวานจะใจคอโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้
“หึ ฉันเลวมากกว่าที่เธอคิดอีก ไปเลิกกับมันสะ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” ร่างหนาพูดจบแล้วสะบัดมือเธอเดินเปิดประตูออกจากห้องของเขาไป
“ฮึก ฮืออ” เธอปล่อยโฮนั่งทรุดลงกับเตียงใหญ่ราวกับคนหมดแรง
ร่างบางร้องไห้สักพักแล้วรีบเช็ดน้ำตาพาตัวเองไปอาบน้ำ แล้วมานั่งดูสภาพตัวเองอยู่หน้ากระจกที่มีรอยแดงเป็นจ้ำๆ เต็มลำคอยิ่งชุดของเธอเป็นชุดเกาะอกผิวขาวนวลมันทำให้เห็นรอยชัดเจนมากขึ้น เธอเปิดกระเป๋าตัวเองแล้วรีบหาเครื่องสำอางมาปกปิดรอยให้หมดแต่มันทำได้แค่ให้เลือนลางแค่นั้น ร่างบางเปิดตู้ในห้องของเขาควานหาเสื้อแขนยาวของชายหนุ่มมาใส่เพราะรับสภาพของตัวเองไม่ได้
เธอเปิดประตูออกจากคอนโดหรูขั้นสูงสุดเห็นผู้ชายสวมชุดดำยืนอยู่หน้าห้องของเธอ
“เชิญทางนี้ครับ” ชายชุดดำผายมือให้เธอแล้วเดินไปกดลิฟต์ให้ร่างบาง
“นายให้ผมไปส่งครับ” เขาเปิดประตูรถให้แล้วเอ่ยพูดกับเธอเมื่อลงมาอยู่ชั้นล่างเรียบร้อย
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกลับเองได้” เธอเดินหนีชายชุดดำไปอีกทางแต่กลับโดนเขาดักหน้าเสียก่อน
“เชิญครับ” เขามองเธอนิ่งแล้วผายมือไปทางประตูรถอีกครั้ง ร่างบางถอนหายใจพรืดใหญ่แล้วเข้าไปนั่งในรถอย่างหลีกหนีไปไหนไม่ได้
รถหรูสีดำขับมาจอดหน้าคอนโดของเธอ ร่างบางเปิดประตูแล้วรีบลงไปทันที
“อืม ว่า” เธอตัดสินใจกดรับสายจากแฟนของเธอเมื่อเห็นว่าเขาโทรไม่รู้กี่สายแต่เธอยังไม่อยากรับเพราะรู้สึกผิดต่อชายหนุ่ม
“ทำไมรับสายช้าจัง เป็นอะไรหรือเปล่า” ปลายสายตอบเสียงหวานยิ่งเพิ่มความรู้สึกผิดให้คนฟังอย่างเธอ
“เปล่า ขวัญพึ่งอาบน้ำเสร็จ พัดมีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าหรอก วันนี้ไม่มีเรียนใช่มั้ย ไปดูหนังมั้ยเดี่ยวพัดไปรับ”
“ค่อยวันอื่นได้มั้ยพัด ขวัญรู้สึกไม่ค่อยสบายหน่ะ”
“อ้าวเหรอ เป็นอะไรมากมั้ยเดี่ยวพัดไปหานะ”
“ไม่ต้องหรอกพัด ขวัญทานยาแล้ว เดี่ยวก็หายแหละ”
“โอเคงั้นนอนพักนะ”
เธอกดวางสายแล้วน้ำตาคลอเบ้าพลางคิดว่าเธอต้องทำยังไงกับสถานการณ์กดดันแบบนี้ แฟนของเธอไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิดเธอไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปบอกเลิกเขาและที่สำคัญเธอก็รักเขาไม่น้อยไปกว่าที่เขารักเธอเลย แต่ถ้าหากเธอไม่ทำตามแฟนของเธอก็อาจจะโดนเขาฆ่าตายจริงๆ
‘ขวัญขอโทษนะพัด’ เธอมองดูรูปคู่ในโทรศัพท์แล้วเอ่ยออกไปถ้าจะมีใครผิดที่สุดคงจะเป็นเธอที่พลาดไปมีอะไรกับใครที่ไม่ใช่แฟนของตัวเอง
“ขวัญมึงเป็นไรวะ เหม่อทั้งวันเลย” พะพายเอ่ยทักเธอเมื่อเรียนวิชาในช่วงเช้าเสร็จอาจารย์พึ่งจะเดินออกไปไม่นาน
“เปล่า กูนอนน้อย” เธอเอ่ยปฏิเสธเพื่อนแล้วลุกเดินหนีออกไป
“มึงไม่ได้ทะเลาะกับไอพัดใช่ปะ” เกรซเดินมาดักหน้าเธอแล้วถามแบบจับผิด
“เปล่า ไปได้แล้ว กูหิวข้าว” กลุ่มของเธอเดินเข้าไปที่โรงอาหารของคณะแล้วนั่งจับมองโต๊ะกันที่มุมเดิม
“นั่งด้วยดิ” เสียงหวานของชายหนุ่มพูดขึ้นแล้วเดินมานั่งเบียดร่างบางจนเธอหันไปมองคนที่มาใหม่
“เรียนเสร็จแล้วเหรอ” ร่างบางถามแฟนของเธอที่เรียนอยู่คณะใกล้ๆ
“อืม เสร็จแล้ว ทำไมพัดไลน์ไปไม่ตอบอะ”
“ขอโทษ ขวัญเรียนพึ่งเสร็จอะ” เธอเปิดดูโทรศัพท์บ่งบอกว่าชายหนุ่มส่งข้อความมาหาเธอหลายข้อความแต่ไร้ซึ่งการเปิดดู
“ไม่เป็นไร ทานข้าวต่อเถอะ” ชายหนุ่มยิ้มหวานให้เธอแล้วนั่งทานข้าวต่อ ร่างบางได้แต่มองหน้าเขาด้วยความรู้สึกผิดและกล่าวขอโทษในใจ
"แม่ขาาา..." เสียงเล็กของวารินเอ่ยเรียกฉันระหว่างที่กำลังเข้าครัวทำอาหารเย็นเพื่อรอทุกคนกลับมายังบ้าน"ว่าไงคะตัวเล็ก..." ฉันถามคนที่มาใหม่ที่หน้าตาเป็นสดชื่นที่สุดเมื่อวันนี้เป็นวันเสาร์และลูกสาวฉันก็ไม่ต้องออกไปไหน"หนูช่วยค่ะ" วารินลูกสาวเพียงคนเดียวของฉันที่หน้าตาน่ารัก สดใส และมีนิสัยที่คล้ายกับฉันมากนั่นรวมไปถึงการชอบเข้าครัวด้วย ไม่แปลกใจที่ผู้ชายบ้านนี้ถึงหวงกันนักหนา เพราะความน่ารักมองโลกในแง่ดีของเธอทำให้พี่ชายอย่างเวกัสถึงตามห่วงตามหวงไปสะทุกที่ นอกจากที่เวลาจะไปไหนต้องคอยขออนุญาตผู้เป็นพ่อแล้ว เวกัสนี่แหละที่เป็นด่านยากกว่าพี่ธาวินเสียอีก"เอาสิคะ หนูมาช่วยแม่ทำตรงนี้" ฉันก็ผลัดกับลูกสาวก่อนที่ตัวเองจะหยิบจับอย่างอื่นมาทำต่อ"ค่ะแม่" ว่าแล้วร่างเล็กของลูกสาวมอปลายก็ยิ้มร่าแล้วมาช่วยฉันทำโดยที่มีแม่บ้านคนอื่นๆ คอยช่วยเราสองคนไปด้วย"เดี๋ยวหนูไปตามเฮียเวย์นะคะ" หลังจากที่จัดแจงอาหารลงจัดวางบนโต๊ะเรียบร้อย เสียงใสของวารินบอกก่อนที่ฉันจะพยักหน้าให้ลูกสาว"เหนื่อยไหมคะวันนี้" ฉันเอื้อนเอ่ยกับผู้เป็นสามีที่เดินเข้ามาด้วยท่าทีเรียบนิ่งตามปกติของเขา เมื่อได้ยินเสียงฉันที่เดินตรงมา
"พี่จะกลับพร้อมหนูเลยเหรอคะ" เสียงเล็กของเมียเด็กเอ่ยถามขณะที่เราสามคนพ่อแม่ลูกพึ่งจะผ่านการทานข้าวฝีมือของเธอพร้อมกันเสร็จเป็นที่เรียบร้อย"ครับ วันนี้ไม่ได้มีอะไรสำคัญ อยากกลับไปกอดเมียมากกว่า" ผมตอบพร้อมกับกอดออดอ้อนเธอด้วยความอยากจะทำ ที่แต่ก่อนผมติดเธอมากอยู่แล้วแต่พอตัวแสบในท้องมาผมก็ยิ่งติดเธอไปมากกว่าเดิมเสียอีก"พี่ธาวิน! ลูกนั่งอยู่นะคะ" ร่างเล็กตอบพร้อมกับเบือนหน้าไปมองเจ้าแสบที่นั่งดูเราสองคนคุยกันตาแป๋ว"แค่นอนกอดไม่เห็นเป็นไรเลย เนอะ!...แสบ" ผมก็หันไปบอกกับลูกชายที่กำลังนั่งฟัง ก่อนที่ร่างเล็กของลูกชายจะพยักหน้าเห็นด้วยอย่างไม่เข้าใจ"สองคนเข้ากันดีจังเลยนะคะ""แน่นอนครับ พี่สอนมากับมือ""เฮ้อ...กลับกันเถอะค่ะ" เธอถอนหายใจยาวแล้วส่ายหัวให้ผมก่อนที่ตัวเองจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงจับมือเจ้าแสบหมายจะเดินออกจากห้องไปผมที่เห็นแบบนั้นก็เตรียมเดินตามเธอออกไป ก่อนที่จะชะงักหยุดยืนอยู่หน้าห้องแล้วมองไปที่โต๊ะเลขาของผม"ทำไมยังไม่ไป หรือว่าผมพูดไม่เคลียร์" ผมมองไปที่เลขาสาวที่ตอนนี้กลายเป็นอดีตเลขาไปเสียแล้วเพราะผมพึ่งจะไล่เธอออกหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ที่เข้าใจผิดเมื่อครู่ ผมรู้ว่า
"เย้ๆ…โก้ๆๆๆ" เสียงเล็กของลูกชายฉันตะโกนดังลั่นไปทั่วบ้านระหว่างที่เราสองคนกำลังทำหน้าที่เป็นภรรยาและลูกที่แสนดีมุ่งตรงไปที่บริษัทของพี่ธาวินตามใจเจ้าแสบที่มักจะขอฉันให้พาไปหาผู้เป็นพ่ออยู่บ่อยครั้ง รวมไปถึงพี่ธาวินด้วยท่ี่ช่วงนี้เขาจะติดฉันเป็นพิเศษจากที่แต่ก่อนก็แทบจะไม่ห่างกันอยู่แล้วแต่ช่วงนี้เขาก็คะยั้นคะยอให้ฉันไปบริษัทเขาทุกวัน ซึ่งวันนี้ฉันก็ตบรับรับคำขอของลูกชายตามใจเขาสักวันถือโอกาสเซอร์ไพรส์คุณสามีที่รักเลยพากับข้าวฝีมือตัวเองไปให้สามีสุดที่รักตามกฎหมายที่เราพึ่งจะผ่านการแต่งงานมาเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา งานแต่งงานหรูหรา เวอร์วังสมฐานะของพี่ธาวินที่ทุ่มสุดตัวเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ซึ่งฉันก็พอใจมากๆ พอใจในความทุ่มเทและความรักของสามีสุดๆ เลยแหละ และตอนนี้ฉันก็ตั้งท้องตามคำขอของผู้ชายที่รักทั้งสองคนเรียบร้อยแล้วได้ลูกชายตามที่คุณชายทั้งสองต้องการนั่นแหละ "ไปกันครับ" ฉันกับเจ้าแสบคนพี่วัยสามขวบครึ่งเดินมุ่งตรงไปนั่งรถที่มีพี่นพเป็นคนขับพาเราสองคนไปบริษัทของพี่ธาวินตามคำสั่งฉันเอี๊ยด!แล้วเสียงล้อของรถสปอร์ตหรูก็ดังขึ้นที่หน้าบริษัทขนาดใหญ่ของพี่ธาวินก่อนที่เราสองคนจะเดินพากันจั
"พี่ธาวิน!...นี่อะไรคะ" เสียงเล็กของตะโกนเรียกร่างสูงพร้อมกับกล่องเล็กในมือที่ได้มาจากชุดสูทของคนตัวโตแล้วรีบตรงไปหาพ่อของลูกที่กำลังนอนเล่นกับลูกด้วยท่าทีสบายใจ"ครับ?" ธาวินก็ทำหน้างุนงงมองเธอที่เข้ามาใหม่"เดินตามมานี่เลยค่ะ" เธอพูดจบก็หมุนตัวเดินออกจากห้องของลูกแล้วตรงไปที่ห้องของตัวเอง โดยที่ธาวินก็ยังคงงงแล้วมองหน้าลูก ก่อนที่เจ้าตัวจะขยี้หัวลูกแล้วเดินตามร่างบางไป"โมโหอะไรครับ?" ธาวินเดินเข้ามาสวมกอดร่างเล็กจากด้านหลังแล้วถามเธอ"นี่อะไร!?" เธอชูกล่องสีดำเมี่ยมที่อยู่ในมือตอนแรกให้ชายหนุ่มดู"หนูเอามาจากไหน" ธาวินชะงักไปสักพักก่อนที่จะปรับตัวเป็นปกติแล้วถามอย่างคนที่ไม่ได้ทำผิดอะไร"พี่แอบสูบมันอีกแล้วใช่ไหม หนูเจอในสูทตัวนี้" ใช่...ในมือเธอคือกล่องบุหรี่ราคาแพงที่ได้มากจากการที่จะช่วยเขาแขวนเสื้อให้แต่มือเล็กก็ต้องชะงักไปเมื่อเจอกล่องนี้ขึ้นเสียก่อน"พี่เลิกนานแล้ว" ปากหนาตอบไปตามความจริง เพราะเขาไม่ได้สูบมันนานแล้ว ตั้งแต่ครั้งนั้นที่เธอห้าม เขาก็ไม่ทำอีกเลยพรึ่บ"แล้วมันมาได้ยังไงคะ ทำไมถึงอยู่ในเสื้อพี่ได้" ร่างเล็กผละออกจากกอดแล้วหมุนตัวหันมาเผชิญหน้ากับเขาด้วยสีหน้าเรีย
"ซี๊ดดด หนูยะ...อย่าทำแบบนั้น" ใบหน้าคมของธาวินเผยสีหน้าเหย่เกเมื่อคนตัวเล็กถูไปมาไม่ยอมทำเสียที"พี่ไม่ชอบเหรอ…" เสียงเล็กตอบอย่างนึกแกล้ง"หนู…อย่าซ่า…" เจ้าของใบหน้าหล่อตอบเธอ จนอีกฝ่ายก็ยิ้มพึงพอใจเพราะรู้ว่ายังไงแล้วเขาก็ทำอะไรเธอไม่ได้ ด้วยสภาพร่างกายของชายหนุ่มไม่ได้แข็งแรงมากพอที่จะทำอะไรเธอได้ในตอนนี้"ทำไมคะ…พี่จะทำอะไรหนู" มือเล็กก็วนลูบไล้ไปทั่วร่างเปลือยท่อนบนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของชายหนุ่มแล้วกัดปากเพื่อยั่วยวนอีกฝ่ายสุดฤทธิ์"อ๊าส์~ หนู…อย่าแกล้ง…" ธาวินที่เห็นแบบนั้นก็ร้องครวญครางไม่เป็นภาษามองคนตัวเล็กสายตาเว้าวอนปนขอร้อง"หื้ม…แน่นจัง" เธอก็ทำเป็นไม่ได้ยินยังคงลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของชายหนุ่ม ปากเล็กก็อดที่จะเอ่ยชมไม่ได้ไปกับความแน่นของหน้าท้องคนตรงหน้าที่ผ่านการออกกำลังกายมาอย่างดี"เพียงขวัญ…" ชายหนุ่มยังคงเรียกเธอด้วยท่าทีที่ทรมาน"คะ?…" เธอก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังคงกัดปากยั่วยวนคนตรงหน้าให้ทรมานมากที่สุด เพื่อต้องการที่จะกลั่นแกล้งเขา เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นไม่สามารถตอบโต้กลับได้"เสียบสักที…" ใบหน้าหล่อบอกกับเธอ ก่อนที่หญิงสาวจะแสยะยิ้มแล้วทำตามที่เขาบอก
"กะจะไม่ให้ไปไหนเลยใช่ไหมคะ" ฉันเอ่ยถามคนตัวสูงที่นอนกอดฉันรัดแน่นไม่ยอมให้ฉันลุกเดินไปไหนตั้งแต่ที่กลับมาถึงบ้าน"ครับ" มือหนาก็กระชับกอดฉันแน่นขึ้น ยังคงนอนหลับตาสบายใจทั้งวัน ฉันก็ยอมทำตามเขาอย่างว่าง่ายเพราะนานๆ จะเห็นเขาได้พักสักที แต่จะดีกว่านี้ถ้าเขาจะได้พักแบบไม่ได้เจ็บตัว"พี่ธาวิน..." ฉันจึงตัดสินใจเรียกคนตัวโต"หื้ม..." เขาช้อนคางที่ไหลมลของฉันแล้วขานตอบในลำคอ"พี่จะเจ็บแบบนี้อีกไหมคะ?" ฉันไม่อยากให้เขาต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้อีกแล้วฉันเป็นห่วงเขา จนคนตัวสูงที่ได้ฟังคำถามก็ลืมตาขึ้นมามองฉัน"หนูกลัว...กลัวจะไม่โชคดีแบบนี้อีก" ฉันหันไปบอกกับเขาด้วยท่าทีจริงจัง"พี่ไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอกครับ เดี๋ยวเมียเด็กของพี่จะร้องไห้ฟูมฟายอีก" เขาพูดพร้อมกับยิ้มบางๆ ให้ฉัน"หนูไม่เล่นกับพี่นะ หนูเป็นห่วงพี่จริงๆ" ฉันไม่ได้ยิ้มตามกับประโยคของเขาเลย"ครับ พี่รู้ว่าหนูเป็นห่วง พี่จะพยายามไม่เป็นอะไร โอเคไหมครับ" ใบหน้าคมเอ่ยตอบกับฉัน"ค่ะ ห้ามเป็นอะไรนะ""ฮ่าๆ ครับ""เพียงขวัญ...""คะ?""หนูรู้ใช่ไหมว่าหลังจากที่พิธีแต่งงานถูกจัดขึ้นแล้วหนูจะไม่ปลอดภัยเหมือนก่อนแล้ว" เขาก็พูดด้วยท่าทีที่ดูเครีย