Share

03 ไม่มีเหตุผล

last update Last Updated: 2025-09-15 23:34:39

"ฉันไม่ลงได้ไหม?" รุ่นพี่คนสนิทอย่างมิกิที่ขับพาร่างบางกลับมาตามคำสั่งของผู้เป็นแม่ โดยที่มิกิเองก็แสดงสีหน้าหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดจนร่างบางของเกรซแทบจะกลั้นขำไม่ไหว

"อีเจ๊...ฮ่าๆ เห็นพ่อกับแม่ฉันเป็นยักษ์หรือไง" ร่างเล็กก็หัวเราะชอบใจผิดกับรุ่นพี่คนสนิทที่ยังคงนิ่งด้วยสีหน้าหวาดกลัวเช่นเดิม

"นี่!...หยุดหัวเราะฉันเลยนะ ไม่รู้ตัวเหรอว่ากำลังจะโดนเชือด" ประโยคของมิกิทำให้ร่างเล็กที่กำลังหัวเราะร่าอยู่นั้นค่อยๆ สงบลง

"คนอย่างเกวลินไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว" ริมฝีปากบางตอบรุ่นพี่ด้วยท่าทีที่มั่นอกมั่นใจในตัวเองเป็นที่สุดก่อนที่ใบหน้าเรียวจะชะงักเมื่อคำตอบของรุ่นพี่ขัดขึ้นเสียก่อน

"พ่อหล่อนล่ะ..."

"เว้นไว้คนนึง...แฮร่" ร่างบางยิ้มแห้งตอบมิกิไปก่อนที่เจ้าตัวจะเกาหัวแก้เขิน แน่นอนว่าคนเดียวที่จะสามารถหยุดเธอได้นั้นก็คือกรพ่อของเธอนั้นเอง

"ไม่ต้องมาตลก ไปได้แล้ว"

"เจ๊...ไม่ลงด้วยกันจริงดิ" ร่างเล็กเอ่ยถามพร้อมกับกระพริบตาปริบๆ ขอร้องอ้อนวอนอีกคนเพราะรู้ว่าถ้ามีมิกิอยู่ด้วยน่าจะรู้สึกปลอดภัยกว่าที่เธอต้องลงไปเผชิญตัวคนเดียว

"เผื่อพ่อกับแม่แกอยากคุยธุระส่วนตัว ฉันรอที่รถนี่แหละ" มิกิเอ่ยตอบรุ่นน้องสาว ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะช่วยเธอแต่ถ้าหากทางครอบครัวเธอโทรมาตามขนาดนี้แล้วแน่นอนว่ามันต้องเป็นเรื่องใหญ่และส่วนตัวซึ่งเธอเองก็ไม่อยากที่จะก้าวก่ายแม้จะร่างบางข้างๆ จะขอร้องแค่ไหนก็ตาม

"เจ๊มิกิคนสวย..." ร่างเล็กพยายามออดอ้อน

"ไม่ต้องมาอ้อน ลงไปเลย"

"ชิ...ไปก็ได้ รอรับกลับด้วย" สุดท้ายเธอก็ต้องยอมแพ้ไปก่อนที่จะหันกลับมาเอ่ยสั่งกับรุ่นพี่อีกครั้ง

"รู้แล้วหนา ไปได้แล้ว"

"หึ้ยย อีเจ๊นะแค่นี้ก็ไม่ยอมช่วย ไม่รู้ว่าวันนี้จะโดนอะไรอีก" ร่างบางของเกรซที่เดินมุ่งหน้าเข้ามายังบ้านหลังใหญ่เอ่ยบ่นพึมพำกับตัวเอง รู้สึกขนลุกชันเมื่อนึกถึงสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป การที่แม่เธอเรียกตัวมาแบบนี้มันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ คิดได้แบบนั้นจากเท้าเรียวที่สับเท้าเร็วในตอนแรกก็ค่อยๆ ลดความเร็วลงจนเดินมาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ของเธอแล้วใบหน้าสวยก็ต้องหยุดชะงักไปเมื่อ...

"ถึงขนาดต้องมายืนต้อนรับลูกสาวคนสวยเลยเหรอคะคุณหญิงขา..." กรรณิการ์หรือผู้เป็นแม่ของเธอนั้นกำลังยืนรอเธออยู่แล้ว ริมฝีปากบางไม่พูดเปล่าสองเท้าเรียวก็สับเท้าเข้าไปกอดออดอ้อนเธอทันที

"ก็ลูกสาวคนสวยไม่ค่อยจะกลับบ้านไงคะ" กรรณิการ์ตอบกลับลูกสาวของเธอด้วยน้ำเสียงประชดประชันฝ่ามือเรียวก็ยกขึ้นมาลูบหัวเธอด้วยความเอ็นดูปนคิดถึงอยู่ไม่น้อย

"ช่วงนี้งานหนูเยอะม๊ากเลยค่ะ" ร่างเล็กผละออกจากอ้อมกอดอุ่นก่อนที่จะเอ่ยอธิบายด้วยความขี้เล่นตามประสาเธอ

"มากถึงขนาดแวบกลับมาบ้านเลยไม่ได้เหรอคะ"

"ก็ลูกสาวแม่สวยนี่ค่ะ ใครๆ เขาก็อยากจะจ้างทั้งนั้นแหละ" เธอตอบพร้อมกับรอยยิ้มให้ผู้เป็นแม่

"ค่าา ลูกแม่สวยที่สุดเลย ไปค่ะ เข้าข้างในกันลูก พ่อกำลังรอหนูอยู่เลย" กรรณิการ์พูดพร้อมกับจับแขนเรียวของลูกสาวหมายจะเดินเข้าไป

"เดี๋ยวค่ะแม่! เอ่อ...พ่อมีเรื่องอะไรจะคุยกับหนูเหรอคะ" ร่างเล็กถามด้วยท่าทีไม่สู้ดี เขาคือคนเดียวที่ทำให้คนตัวเล็กสามารถกลัวถึงขนาดนี้ได้

"แม่ก็ไม่รู้ พ่อแค่บอกว่าให้โทรตามหนู อาจจะแค่คิดถึงอยากเจอก็ได้มั้ง" กรรณิการ์ตอบไปตามความจริง

"แม่!...หนูกลัว" ร่างเล็กตอบด้วยท่าทีงอแงตามประสาเธอ

"ฮ่าๆ หนูก็บอกกลัวทุกรอบนั่นแหละ แต่พอพ่อว่าอะไรหนูก็เถียงพ่อทุกคำไม่ใช่หรือไง" กรรณิการ์เอ่ยแซวลูกสาวของตัวเองที่ความดื้อรั้นของเธอไม่มีใครที่จะสามารถปราบพยศได้เลย

"ก็จริง...งั้นเราเข้าไปกันดีกว่า" เธอที่ได้ยินดังนั้นก็ค่อยผ่อนปรนลดใบหน้าเกรงกลัวก่อนที่จะเดินควงแขนผู้เป็นแม่ด้วยท่าทีที่สบายใจขึ้น แต่ภายในก็ยังคงมีความหวาดหวั่นกังวลอยู่บ้าง

"คุณพ่อขา...คิดถึงจังเลยค่ะ" ร่างบางหุ่นดีรีบเข้าไปออดอ้อนชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่บนโซฟากว้างตรงกลางบ้านทันทีที่เดินเข้ามาถึง

"คิดถึงแล้วทำไมไม่กลับมาหาพ่อบ้างล่ะหื้ม..." เสียงทุ้มของกรหรือพ่อของเธอนั้นตอบพร้อมกับลูบหัวลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา

"ช่วงนี้อีเว้นท์เต็มหมดเลยค่ะ แต่หนูตั้งใจว่าวันสองสามวันนี้จะกลับมาหาพ่อกับแม่อยู่แล้วค่ะ"

"พ่อบอกแล้วว่าอย่าไปทำงานแบบนั้นมันเหนื่อย ลูกสาวพ่อผอมหมดแล้ว"

"ไม่เหนื่อยเลยค่ะ หนูตั้งใจจะลดตั้งหาก น้ำหนักหนูขึ้นมาตั้งสามโล"

"ลดเลิดอะไร แค่นี้ก็แทบจะเหลือแต่กระดูกแล้ว"

"พ่อก็เวอร์ไปแล้ว ดูสิคะ เนื้อหนูแน่นไปหมด ยิ่งสัปดาห์หน้ามีถ่ายโปรโมทของลูกค้ารายใหญ่อีก ถ้าลูกค้าติต้องโดนเจ๊มิกิดุแน่ๆ"

"ก็ไม่ต้องทำ งานของพ่อง่ายกว่าที่หนูต้องมานั่งลดน้ำหนัก ถ่ายแบบอะไรนั่นอีก"

"ไม่เอาหรอกค่ะ งานบริหารน่าปวดหัวจะตาย แค่ตอนเรียนหนูก็แทบจะอ้วกอยู่แล้ว" ร่างบางตอบพร้อมแสดงสีหน้าไม่สู้ดีแล้ว แม้ว่าเธอจะเรียนจบในด้านนี้และเก่งเรื่องบริหารแค่ไหนแต่อาชีพนางแบบก็เป็นสิ่งที่เธอรักและอยากทำมากที่สุด ซึ่งกรเองก็ไม่ค่อยที่จะเห็นด้วยเท่าไหร่เพราะอยากที่จะให้ลูกสาวนั้นกลับมาบริหารสานต่อธุรกิจของเขามากกว่า แต่แล้วความดื้อรั้นของเธอก็ทำให้ผู้เป็นพ่อนั้นไม่สามารถบังคับอะไรเธอได้

"แต่พ่อมีลูกคนเดียวนะ ถ้าหนูไม่ทำแล้วใครจะทำ" กรเริ่มพูดด้วยท่าทีที่จริงจังขึ้น ผิดกับร่างบางที่ค่อยๆ เม้มปากแล้วคิดตามในสิ่งที่ผู้เป็นพ่อกำลังจะสื่อ

"เรื่องที่ฉันเครียดกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว..."

"แต่หนูไม่ชอบ หนูไม่อยากทำ" เสียงเล็กของลูกสาวเริ่มงอแงขึ้นโดยที่มีกรรณิการ์คอยจับมือไม่ห่างต้องการที่จะให้เธอใจเย็นและมีเหตุผลมากที่สุด

"ถ้าหนูไม่ทำพ่อก็จะให้คนอื่นทำ"

"ได้ค่ะ หนูไม่เคยติดอะไรกับธุรกิจของพ่ออยู่แล้ว" ร่างบางตอบกลับผู้เป็นพ่อทันที

"พ่อจะให้ตาไลอ้อนมาดูแลแทน แล้วหนูก็ต้องแต่งงานกับพี่เขาให้เร็วที่สุด" เสียงทุ้มของกรตอบกลับด้วยท่าทีที่เป็นปกติ

"หนูเคยบอกพ่อแล้วไงคะ ว่าหนูไม่แต่ง แค่หมั้นรอบที่แล้วมันก็เกินพอสำหรับหนูแล้ว" ซึ่งแน่นอนว่าเธอคงไม่ยอมให้เกิดการแต่งงานขึ้นอีกแน่ คราวที่แล้วเธออาจจะพลาดที่โดนผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมัดมือชกโดยที่เธอไม่ทันที่จะได้ตั้งตัว แต่มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นกับการแต่งงานครั้งนี้แน่นอน

"แต่ฉันบอกให้แต่ง ยังไงแกก็ขัดคำสั่งฉันไม่ได้" กรเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น

"พ่อ! ทำไมพ่อต้องบังคับหนูด้วย ทำไมพ่อต้องบงการชีวิตหนูทุกอย่าง แค่คู่ชีวิตคู่หนูยังเลือกเองไม่ได้เลยเหรอคะ" ร่างเล็กเริ่มขึ้นเสียงตามก่อนที่จะมองหน้าผู้เป็นพ่ออย่างไม่ยอม

"เกรซลูก...ใจเย็นๆ ก่อน" กรรณิการ์เอ่ย

"ไม่ค่ะแม่...หนูจะไม่ยอมให้พ่อมาบังคับหนู ชีวิตของหนู หนูจะเป็นคนเลือกเอง"

"ฉันกำลังเลือกสิ่งที่ดีสำหรับแกอยู่นะ"

"ดีเหรอคะ ดีสำหรับหนูหรือว่าดีสำหรับพ่อกันแน่ พ่ออยากขยายธุรกิจของพ่อเลยต้องไปพึ่งคนบ้านนู้น แล้วพ่อก็กำลังใช้หนูเป็นสะพานเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง"

"เกรซ!" เสียงทุ้มตวาดลั่นด้วยความไม่พอใจจ้องหน้าเธอนิ่ง ก่อนที่กรรณิการ์จะเป็นฝ่ายที่เดินมายืนตรงกลางห้ามศึกของทั้งสองคน

"เกรซ...หนูพูดแรงไปแล้วนะ ขอโทษพ่อเขาเดี๋ยวนี้" กรรณิการ์เอ่ยบอกเสียงนิ่ง

"ไม่ค่ะ! จนกว่าพ่อจะล้มเลิกให้หนูแต่งงานกับเขา"

"ชักจะมากเกินไปแล้วนะเกวลิน!" เสียงทุ้มของกรดังขึ้นอีกครั้ง

"เกวลิน! ขอโทษพ่อเดี๋ยวนี้" กรรณิการ์เอ่ย

"..." ร่างบางก็นิ่งเงียบไม่ยอมทำตาม

"ได้! ถ้าแกอยากจะท้าทายฉันก็เตรียมโดนถอดจากโฆษณาของแกทุกตัวได้เลย"

"พ่อคิดจะทำอะไร อย่ามายุ่งกับงานของหนูนะ"

"แกก็รู้ว่าฉันสามารถทำได้อย่างที่พูด" ใช่...พ่อของเธอทำตามที่พูดแน่หากว่าร่างบางไม่ยอมทำตามคำสั่งของเขา

"..." ร่างบางก็นิ่งเงียบอีกครั้ง

"คุณคะ..." กรรณิการ์ที่พยายามจะเอ่ยห้ามปรามผู้เป็นสามีแต่ก็ต้องชะงักลง...

"ไม่ต้องห้าม คราวนี้ผมจะไม่ยอมให้ลูกทำตามใจตัวเองอีกแล้ว" กรเอ่ยตอบพร้อมกับจ้องหน้าลูกสาวก่อนที่จะเดินหันหลังกลับเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง

"เกรซลูก...หนูใจเย็นๆ ก่อนนะ พ่อคงมีเหตุผลของเขา" กรรณิการ์จึงหันมาปลอบใจลูกสาวแทน

"เหตุผลอะไรคะแม่...ฮึก...พ่อไม่มีเหตุผลเลยสักนิด" ร่างบางที่พยายามสะกดกลั้นน้ำตาตัวเองในตอนแรกกลับถูกปลดปล่อยโฮโดยอัตโนมัติเมื่อถูกสัมผัสและปลอบใจจากผู้เป็นแม่

"ไว้พ่ออารมณ์เย็นกว่านี้ แม่จะเข้าไปพูดให้ ไม่ร้องแล้วนะคนสวย"

"ฮึก...หนูไม่ยอมแพ้หรอก ยังไงหนูก็จะไม่แต่งกับคนแบบนั้นเด็ดขาด" ร่างบางตอบพลางเช็ดคราบน้ำตาที่เลอะเปอะเปื้อนบนใบหน้าก่อนที่จะค่อยๆ ผละออกจากผู้เป็นแม่

"หนูไม่ลองเปิดใจให้พี่เขาหน่อยล่ะลูก บางทีพี่เขาอาจจะดีก็ได้"

"ไม่ค่ะแม่ คนเจ้าชู้แบบนั้นไม่มีทางดีได้หรอก"

"เอาเถอะๆ หนูกลับไปพักผ่อนก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน พี่มิกิรออยู่ไม่ใช่เหรอ"

"ค่ะแม่ งั้นหนูไปก่อน หนูรักแม่นะคะ"

"แม่ก็รักหนู พักผ่อนเยอะๆ นะคะคนสวย"

"ค่ะแม่" ร่างเล็กตอบพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าก่อนที่จะหันหลังเดินออกจากบ้านไปด้วยใจที่ไม่ค่อยดี รู้สึกหวั่นกลัวไปกับคำขู่ของผู้เป็นพ่อที่เธอก็รับรู้ได้ว่าพ่อของเธอนั้นทำมันจริงๆ

"ยังไงหนูก็ไม่แต่งหรอก หนูจะไม่ยอมแพ้..."

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • FORCED LOVE สยบ(รัก)สิงห์   10 ฝันร้าย

    "ไม่อยากอยู่กับฉันขนาดนั้นเลยเหรอ" ไทเกอร์น้องชายของมาเฟียหนุ่มเอ่ยถามระหว่างทางที่ทั้งสองกำลังนั่งรถเพื่อมุ่งตรงไปยังสตูดิโอที่ทำงานของเธอ"คงงั้นมั้ง" ร่างบางก็ตอบไปตามความจริงอย่างไม่คิดจะปิดบังด้วยสีหน้าท่าทางของเธอตอนนี้ก็บ่งบอกได้เลยว่าเธอไม่เอาชอบและเบื่อเอามากๆ ถ้าจะตอบปฏิเสธไป...เขาก็ไม่เชื่ออยู่ดี"ฮ่าๆ รักษาน้ำใจกันหน่อยก็ได้มั้ง อุตส่าห์มาส่ง" ซึ่งไทเกอร์เองก็หัวเราะร่าไม่ได้โกรธอะไรเพราะเคยชินกับนิสัยแบบนี้ของเธอไปแล้ว"นายอยากมาส่งฉันเอง" ปากเล็กขยับตอบทั้งที่สายตายังคงมองวิวข้างทาง"แล้วทำไมถึงได้ตกลงแต่งกับเฮียฉันได้ เธอชอบเฮียเหรอ?""หึ!...ฉันเนี่ยนะจะชอบเฮียของนาย ไม่มีทาง""เหรอ? ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ""อย่าให้ฉันต้องพูดเลย เดี๋ยวนายจะบีบคอฉันเอา""ฮ่าๆ ขนาดนั้นเลยเหรอ""หึ..." ร่างเล็กหุ่นดีก็เปล่งขำในคอ เธอแค่ไม่ชอบคนด้านข้างแต่ก็ไม่ได้ถึงกับโกรธเกลียดอะไร ความกวนประสาทของเขาทำให้เธอพาลหัวเสียทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน"..." "บางทีเธออาจจะเคยชอบ""อะไร...นายหมายถึงอะไร" ร่างเล็กที่ได้ยินประโยคลอยๆ ก็หันมาถามทางเจ้าของประโยคด้วยสีหน้างุนงงไม่เข้าใจ"เปล่า ไม่มีอะไร" ไท

  • FORCED LOVE สยบ(รัก)สิงห์   09 ไม่ได้เรื่อง

    "หนูเกรซ...มาแล้วเหรอลูก" ทันทีที่เท้าเรียวเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ ลินินที่ยืนรอเธออยู่ก่อนแล้วก็รีบร้อนเดินเข้ามาหาว่าที่ลูกสะใภ้ใหญ่คนโปรดทันที"คุณน้าสวัสดีค่ะ" ร่างบางหุ่นดีรีบยกมือไว้ผู้ใหญ่ที่เธอเคารพด้วยท่าทางนอบน้อมและสนิทสนม เพราะลินินมักจะมาบ้านเธอหรือไม่ก็เธอที่เป็นฝ่ายมาบ้านหลังใหญ่ของลินินอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่เธอก็พบเจอกับครอบครัวเพื่อนสนิทของแม่อยู่บ่อยๆ แต่มันกลับแปลกตรงที่เธอกลับไม่มีความทรงจำที่เกี่ยวกับชายหนุ่มข้างๆ เลยสักนิดรวมไปถึง..."ไง!...พี่สะใภ้ใหญ่" น้องชายของมาเฟียหนุ่มที่เธอจำได้แค่ตอนโตแล้ว และดันบังเอิญมาเป็นเพื่อนสนิทของเพื่อนสนิทเธออีกทีด้วยนิสัยชอบกวนของผู้ชายบ้านนี้ทำให้เธอไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่ ติดไปทางรำคาญสะด้วยซ้ำ"!!" ร่างบางมองค้อนไปที่ไทเกอร์ทันทีที่ถูกเรียกด้วยสรรพนามแบบนั้น ถ้าตรงนี้ไม่มีลินินยืนอยู่ด้วยป่านนี้เธอคงหันไปแวดใส่แล้วเดินหนีไปเสียแล้ว"น้าอะไรอีกล่ะลูก ต้องเรียกแม่แล้วสิ" ลินินตอบกลับลูกสาวเพื่อนสนิทด้วยท่าทียิ้มแย้มและชอบใจทำให้ร่างบางที่กำลังมองค้อนอีกคนต้องชะงักแล้วหันมามองเจ้าของประโยค"เอ่อ...หนูรู้สึกไม่ชินเลยค่ะ เรียกคุณ

  • FORCED LOVE สยบ(รัก)สิงห์   08 แสบ

    ติ๊งงง!เสียงกดอออดของคอนโดหรูดังขึ้นด้วยฝีมือของมาเฟียหนุ่มที่ยืนล้วงกระเป๋ารอเจ้าของห้องด้วยสีหน้าเรียบนิ่งและไม่สบอารมณ์ติ๊งง!จนเวลาผ่านไปไม่นานเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้งเมื่อการกดเรียกในครั้งแรกกลับไร้ซึ่งการตอบรับจากคนข้างใน โดยมาเฟียหนุ่มที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงในตอนแรกยิ่งเพิ่มแรงอารมณ์ขึ้นเมื่อยืนรอเป็นเวลานานทั้งที่เขาไม่เคยที่จะต้องมานั่งใช้ความอดทนขนาดนี้มาก่อน แต่แล้วตอนนี้เขากลับเลือกไม่ได้เพราะ…"ไปรับหนูเกรซไปตัดชุดแต่งงานด้วยกัน นี่คือคำสั่งจากฉัน" "วันนี้ผมต้องทำงาน""ไม่ต้องทำ ใครมีปัญหาอะไรให้มาเคลียร์กับฉัน""...""แล้วแกอย่าคิดอะไรเจ้าเล่ห์ แกรู้ดีว่าฉันรู้ความเคลื่อนไหวของแกทุกอย่าง""...""ไปอาบน้ำแต่งตัว เดี๋ยวน้องรอ""ครับคุณนาย!..."คำพูดหนักแน่นของลินินยังคงวนเวียนอยู่แต่ในหัวสมองของเขาทั้งที่เขาไม่อยากที่จะทำมันสักนิด สุดท้ายความอดทนของเขาก็ขาดผึ่งโดยมาเฟียหนุ่มที่ยืนรอว่าที่เจ้าสาวไม่ไหวก็เตรียมหันหลังหมายจะเดินออกไป ในเมื่อเธอไม่ยอมออกมาเองมันก็ไม่ใช่ความผิดของเขา…เพราะตอนนี้เขาถือว่าได้ทำตามคำสั่งของผู้เป็นแม่แล้วผลั่ก!และแล้วบานประตูหนาของคอนโดหรูก็

  • FORCED LOVE สยบ(รัก)สิงห์   07 ไม่ต้องการ

    หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป"เอายังไงดี สัปดาห์นี้เราไม่มีสักงานเลย" มิกิผู้จัดการส่วนตัวบอกกับร่างเล็กด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดี ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยต้องวิ่งงานเองก็มีแต่คนแก่งแย่งชิงจ้างงานรุ่นน้องสาวมาตลอดไม่ขาดสายแต่ตอนนี้มันกลับไม่ใช่แบบนั้น ลูกค้ารายเก่าที่เคยชื่นชอบในฝีมือและผลงานของเธอกลับหายไปเงียบไปเสียทุกคนนั้นมันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเอะใจเลยสักนิดเพราะเธอรู้ดีว่าทั้งหมดนั้นคือฝีมือของพ่อรุ่นน้องสาวทั้งหมด"..." มีแต่ความเงียบจากหญิงสาวที่ปกคลุมไปทั่วห้องของคอนโดหรูพรึ่บ!"ฉันไปเป็นเพื่อน" ว่าแล้วรุ่นพี่ผู้จัดการเมื่อเห็นว่าเธอลุกขึ้นยืนพรวดเตรียมจะออกไปข้างนอกก็เอ่ยบอกอย่างรู้ทันว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไร"อืม" ร่างเล็กตอบเธอเสียงเรียบก่อนที่หยิบกระเป๋าแล้วออกจากห้องไป"ว่าไงคะคนสวย ทำไมถึงกลับมาได้ล่ะหื้ม..." กรรณิการ์เมื่อเห็นลูกสาวเพียงคนเดียวเดินเข้ามาก็เดินมาหาเธอด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ผิดกับร่างเล็กอีกคนที่ยืนนิ่งด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด"น้ากานต์สวัสดีค่ะ" มิกิเอ่ย"หนูมิกิสบายดีนะลูก...""สบายดีค่ะ""วันนี้หนูสองคนว่างกันเหรอถึงกลับมาพร้อมกันได้""ค่ะแม่ ว่าง!...ว

  • FORCED LOVE สยบ(รัก)สิงห์   06 วันซวย

    "นี่เหรอที่แกบอกตัดสินใจได้แล้ว..." ผู้จัดการสาวเอ่ยถามกับร่างบางที่นั่งฝั่งตรงข้ามพลางถอนหายใจพรืดใหญ่ด้วยความปลง"ใช่ดิเจ๊...ไม่เคยได้ยินเหรอว่าชาบูจะเยียวยาทุกสิ่งฮ่าๆ" ใช่แล้วหลังจากที่ร่างบางนั่งเครียดอยู่นานเธอก็นึกขึ้นได้ว่าการเครียดนั้นไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้นเลย ก่อนที่จะลากรุ่นพี่ผู้จัดการมายังห้างหรูแล้วมุ่งตรงไปที่ร้านชาบูเจ้าโปรดของเธอทันที"โอ้ยย...ยัยเด็กนี่!" ว่าแล้วมิกิก็มองหน้าคาดโทษเธอด้วยท่าทีที่ไม่จริงจัง ผิดกับเธอที่นั่งยิ้มพึงพอใจไปกับอาหารที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้า"ขอกินก่อน เดี๋ยวก็นึกออกเองแหละ" ปากเล็กขยับบอกก่อนที่จะตักอาหารมื้อโปรดอย่างไม่สนใจคำบ่นของรุ่นพี่ผู้จัดการ"อร่อยชะมัด" ท่าทางของเธอทำให้รุ่นพี่สาวนั้นมองดูด้วยความเอ็นดู.."อิ่มแล้วก็ต้องไปช็อปปิ้งต่อ" ว่าแล้วเสียงใสก็ลุกขึ้นพรวดเดินออกาจากร้านด้วยท่าทีสบายใจมากขึ้นโดยที่มีมิกิคอยส่ายหัวให้การกระทำของเธอ การแสดงออกถึงความสดใสร่าเริงของเธอ นั้นแหละคือการบดบังความเศร้าเอาไว้ ซึ่งมิกิก็รู้นิสัยข้อนี้ของเธอดี"อีเจ๊!...นั้นมันคอลเลคชั่นใหม่ ต้องโดน..." นิ้วมือเรียวชี้ไปทางร้านกระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดั

  • FORCED LOVE สยบ(รัก)สิงห์   05 บีบคั้น

    "เอ่อ...มีอะไรให้ช่วยไหมครับ" "อะ...อ้าวคุณพัฒน์ บังเอิญจังนะคะ" ว่าแล้วรุ่นพี่ผู้จัดการก็เอ่ยทักทายคนที่มาใหม่ด้วยรอยยิ้มหวานที่ปรากฏบนใบหน้าแล้วเอ่ยตอบด้วยท่าทีที่เป็นมิตร"ครับ ผมมาร้านนี้บ่อย" เสียงทุ้มของลูกค้าที่เคยว่าจ้างเธอเมื่อรอบที่แล้วเอ่ยด้วยท่าทีสุภาพนอบน้อมก่อนที่สายตาจะเบือนไปทางหญิงสาวร่างบางที่ยืนโอนเอนไม่ได้สติ"อะ...อ้อ ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ เดี๋ยวแฟนฉันคงมาแล้วไม่รบกวนคุณพัฒน์ดีกว่าค่ะ" มิกิตอบด้วยท่าทางเกรงใจก่อนที่จะยิ้มแห้งๆ ปฏิเสธเขาไป"ครายอะเจ๊...รู้จักกานเหรอ" แล้วคนเมาที่ยืนเงียบไร้สติอยู่นานก็พูดขึ้นก่อนที่จะพยุงร่างของตัวเองเข้าใกล้เจ้าของร่างสูงโปร่งหรี่ตามองจนใบหน้าเรียวนั้นชิดใกล้กับชายหนุ่มร่างสูงแค่ไม่กี่คืบ"ขะ...ขอโทษด้วยนะคะ พอดีเวลานางเมาแล้วพูดมากแบบนี้แหละค่ะ" มิกิที่ตกใจในการกระทำของร่างบางในตอนแรกรีบยื่นมือดึงอีกคนเข้าหาตัวทันทีไม่วายที่จะขอโทษขอโพยลูกค้ายกใหญ่"ไม่เป็นไรครับ" ชายหนุ่มตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ สำหรับเขาแล้วกลับรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าน่ารักมีเสน่ห์เสียมากกว่าครืดดดด"งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ" ก่อนที่โทรศัพท์ของผู้จัดการสาวจะดังขึ้นโดยที่ช

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status