หลังจากกลับมาถึงคอนโด ร่างบางก็จัดการอาบน้ำอาบท่าให้สดชื่น ใบหน้าหล่อเหลายังลอยวนเวียนอยู่ในหัวเมื่อนึกถึงคนตัวโตที่ช่างพูดช่างถามของเขา หลังจากอาบน้ำแล้วเธอก็มานอนเล่นบนเตียงหยิบโทรศัพท์มาเลื่อนอ่านข่าวต่างๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหาคุณป้าสักหน่อย
"ฮัลโหล สวัสดีค่ะคุณป้า" 'ฮัลโหลช่อหลานป้า เห็นพี่แซมบอกป้าว่าส่งหนูไปดูงานแฟร์เหรอลูก เป็นยังไงบ้าง' เสียงจากปลายสายถามไถ่มาด้วยความคิดถึง 'ดารินทร์' หญิงวัยกลางคนมีฐานะเป็นพี่สาวของมารดาเธอแต่หลังจากเธอสูญเสียพ่อกับแม่ไปตอนอายุเพียงสามขวบ ดารินทร์ก็รับเลี้ยงตั้งแต่นั้นมา "สนุกมากเลยค่ะ มีอะไรให้เรียนรู้หลายอย่างเลยคุณป้าสบายดีไหมคะ แม่นมกับทัมทิมล่ะ" เธอเอ่ยถามหาแม่นมกับหลานที่สนิทกับเธอ 'สองคนนั้นสบายดี ว่าแต่ถ้าว่างต้องมานอนค้างที่บ้านบ้างนะหลานรัก หายไปนานป้าคิดถึง' เสียงอบอุ่นที่ส่งมาจากปลายสายทำให้เธอคลี่ยิ้มออกม่อย่างมีความสุข "ค่ะ งั้นไม่รบกวนแล้ว เจอกันนะคะ บ๊ายบ่ายค่ะ" เอ่ยจบก็กดวางสายก่อนจะปิดเปลือกตา วันนี้เธอเข้านอนเร็วเพราะพรุ่งนี้มีงานที่เธอต้องเป็นตัวแทนของพี่ชายไปประชุมข้างนอก ณ เพ้นเฮ้าส์หรูย่านใจกลางเมืองมิลาน ร่างกำยำเปลือยเปล่าขยับโยกสาวแก่นกายตอกอัดร่างบางของนางแบบสาวชื่อดัง 'นาตาลี' เหงื่อกามผุดพรายเกาะตามแผงกล้ามท้อง ตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! เสียงเนื้อหน้าขากำยำกระทบต้นขาขาวดังลั่น ร่างบางที่อยู่ในท่าคลานเข่าหัวโยกคลอนเพราะแรงตอกกระแทกจากชายหนุ่ม "ซี้ด..เสียวมากลี..ขมิบอีก!" เสียงห้าวทุ้มครางสั่นเมื่อแก่นกายใหญ่สวมครอบทับด้วยถุงยางชนิดบางเฉียบที่สั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษผลุบเข้าออกรัวเร็ว "ซี้ด..อ๊า..อร๊าย..คริส.เสียวมากค่ะ" เสียงหวีดร้องลั่นห้องเมื่อยามถูกตัวตนของชายหนุ่มสุดฮอตของหญิงสาวค่อนโลกกำลังตอกตำอย่างถึงใจ มือใหญ่ขยำบีบก้อนเนื้อสองลูกที่ผ่านมีดหมอมาหลายครั้งเพื่อระบายอารมณ์พลุ่งพล่าน ในหัวพลางนึกถึงหญิงสาวที่เขาเพิ่งเจอเมื่อตอนกลางวันหากเป็นหล่อนคนนั้นเขาคงจะสะใจมากกว่านี้ "โอ้ว...เสียวค..ยกก้นขึ้นลี" เขาเอ่ยสั่งก่อนจะเร่งตอกอัดรัวเร็วไม่นานก็แตกระส่ำออกมาอย่างรุนแรง น้ำกามขาวขุ่นพุ่งไปรวมกันที่ปลายถุง แฮ่ก..แฮ่ก..แฮ่ก.. เสียงหอบเหนื่อยของคนทั้งคู่ บ๊วบ! เขาดึงแก่นกายใหญ่ออกก่อนจะรูดถุงยางโยนลงข้างเตียงแล้วลุกเดินออกไปสูบบุหรี่ที่ริมระเบียงพ่นควันยาวออกมา ดวงตาคมกริบเหลือบมองร่างนางแบบที่นอนหมดสภาพอยู่บนเตียงหลังจากเขาจัดชุดใหญ่ให้หล่อนไปหลายยก สายลมยามค่ำคืนพัดมากระทบใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังทอดมองวิวด้านนอกที่เป็นประกายจากแสงไฟระยิบยามค่ำคืน 'ช่อพิกุล' เขาทวนชื่อนี้ในหัว ก่อนจะแสยะยิ้มออกมามือใหญ่กดขยี้ก้นบุหรี่ลงชามแก้วก่อนจะล้วงโทรศัพท์ออกมากดโทรหาลูกน้องมือขวา "เช็คตารางงานของหล่อน" เสียงห้าวทุ้มเอ่ยสั่งก่อนจะกดตัดสายแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องคว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำชำระกาย เช้าวันต่อมา ช่อพิกุลมาถึงที่ทำงานแต่เช้าตรู่ก่อนจะแวะทักทายพนักงานหน้าห้องด้วยความเคยชิน "สวัสดีค่ะคุณช่อ" เมษาทักทายเธอเข่นทุกครั้ง "หวัดดีจ่ะ" "อ้อคุณช่อคะ มีกล่องฝากส่งถึงคุณช่อค่ะ" เมษานำกล่องสีหวานผูกโบหน้าตาดูหรูหรายื่นให้เจ้านายสาว "อะไรเหรอเม" คิ้วเรียวเลิ่กขึ้นด้วยความแปลกใจมองกล่องตรงหน้าพร้อมกับลังเลที่จะรับ "มีคนนำมาฝากไว้ให้ บอกว่ามาจากคุณคริสโตเฟอร์ค่ะ" เมษาเอ่ยบอกเจ้านายสาวตามที่รับสารมา เมื่อได้ยินชื่อเจ้าของกล่องใบหน้าหวานก็แดงก่ำขึ้นเล็กน้อยก่อนจะคลี่ยิ้มน้อยๆ พร้อมกับรับกล่องมา "ขอบใจจ้ะ" ช่อพิกุลวางกล่องลงบนโต๊ะทำงานนั่งมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปแล้วส่งไปให้ชายหนุ่มที่ส่งมาให้เธอ ไม่นานนักปลายทางก็โทรกลับมา "ค่ะคุณคริส" เสียงหวานเอ่ยกรอกลงไปตามสาย 'ลองแกะดูหรือยังครับ' เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยถาม "ยังเลยค่ะ" 'ลองแกะดูสิครับ ตอนนี้เลยผมรอสายนะ' เขาเอ่ยบอกทำเอาคนตัวเล็กปลายสายถึงกับหน้าแดงก่ำเป็นลูกเชอร์รี่เมื่อเจอเขาเอ่ยถ้อยคำหว่านเสน่ห์ใส่อย่างจัง "ค่ะ" เสียงหวานเอ่ยออกไปตามสายก่อนจะเปิดลำโพงวางโทรศัพท์บนโต๊ะแล้วเริ่มลงมือแกะกล่องอย่างระมัดระวัง อีกทางด้านหนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลาแสยะยิ้มเมื่อน้ำเสียงปลายสายฟังดูเหมือนดีใจปลื้มปริ่มมาก ร่างสูงใหญ่นั่งในห้องทำงานกว้างขวางของตัวเองพลางหมุนเก้าอี้ออกไปมองวิวทิวทัศน์ด้านนอกตึก ขายาวไขว่ห้างด้วยท่าทีผ่อนคลายเมื่อปลายสายตอบกลับ "น่ารักใช่ไหมล่ะ ผมดีใจนะที่คุณชอบ" เขาเอ่ยกรอกลงไปทั้งที่ไม่เคยเห็นสร้อยข้อมือเส้นนั้นจริงเลยสักครั้ง เห็นผ่านๆแค่ในรูปที่เดวิดส่งมาให้ดู ส่วนเขาแค่สั่งให้ลูกน้องจัดส่งไปให้หล่อนก็เท่านั้น "วันหยุดนี้คุณมีธุระที่ไหนหรือเปล่า ผมอยากชวนคุณไปที่นึง" เขาเอยถามหยั่งเชิงท่าทีของอีกฝ่ายเมื่อคำตอบที่ได้รับกลับมาจากปลายสายทำให้เขาเหยียดยิ้มออกมาอย่างพอใจ "ครับ ผมจะไปรับนะ" ก่อนจะกดวางสายใบหน้าหล่อเหลาก็กลับมาเรียบเฉยเช่นเดิมดวงตาคมกริบมองเอกสารตรงหน้าที่คนของเขาส่งมาให้เมื่อไม่นานมานี้"ช่อ..ยั่วกันใช่ไหม" น้ำเสียงสั่นพร่าเอ่ยขึ้นพร้อมกับโน้มตัวลงทาบทับฝังริมฝีปากลงตามซอกคอขาวหอมกรุ่น มือใหญ่ลูบไล้เนื้อเนียนนุ่มไปทั่วทุกอณูผิวสร้างความเสียวสะท้านให้แก่คนใต้ร่างมากมาย"อื้อ..ซี้ด..คุณคริส" เสียงหวานครางออกมา"นอนหงายสิที่รัก.." เขาเอ่ยบอกพร้อมกับไต่มือลงไปบีบก้นงอนงามที่มีกางเกงชั้นในปิดหุ้มอยู่"ที่รัก...ช่อ" เขาเอ่ยเรียกอีกครั้งก่อนจะก้มหน้าลงไปมองใบหน้าหวานที่เอาแต่ซุกอยู่กับหมอนด้วยความอาย ในเมื่อหล่อนเล่นบทสาวอินโนเซ้นท์เขาก็จะรับมุกด้วยการเป็นผู้ชายสุภาพบุรุษให้หล่อนได้ฝันต่อไป"เราทำแบบนี้กันได้เหรอคะ..เราเพิ่งรู้จักกันไม่นานนะคะ" เธอเอ่ยด้วยความกังวล"มันไม่เป็นอะไรที่รัก..เชื่อผมสิ..คนอื่นเขาทำกันทั้งนั้น..เว้นแต่ว่า..คุณรังเกียจผม" เขาเอ่ยเสียงแผ่วพร้อมกับใบหน้าที่หมองลงทำเอาหล่อนหน้าตื่นดวงตากลมโตเบิกขึ้น"ไม่ค่ะ ช่อไม่ได้รังเกียจคุณเลย ไม่เลยสักนิด!" ช่อพิกุลรีบเอ่ยแก้ทันทีก่อนจะตัดสินใจพลิกตัวนอนหงายมองคนตัวโตที่หรี่ตามองแล้วยิ้มอย่างพึงพอใจ"หึ..น่ารักมาก" เขาเอ่ยพร้อมกับกดจูบเนิ่นนานก่อนจะถอดชุดชั้นในตัวบางปราการสุด
เช้าวันเสาร์ รถสปอร์ตคันหรูแล่นมาจอดที่หน้าคอนโดหรูโดยช่อพิกุลลงมารอก่อนเวลานัดประมาณห้านาที "รอนานไหมครับ" เสียงห้าวทุ้มเอ่ยถามหลังจากเคลื่อนรถเข้าสู่ถนนสายหลัก "นานค่ะ" เธอแกล้งเอ่ยบอกอย่างอารมณ์ดี"หึ..ร้ายจริง" เขากลั้วหัวเราะในลำคอก่อนจะเอื้อมไปเกลี่ยแก้มนุ่มเล่นทำเอาคนตัวเล็กหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอายคริสโตเฟอร์ขับรถมาถึงสนามบินส่วนตัวของตระกูลเฮมเวิร์ท ร่างสูงก้าวลงจากรถพร้อมกับร่างแบบบาง ช่อพิกุลมองชายชุดดำนับสิบที่ยืนรอประจำอยู่ที่เฮลิคอปเตอร์พร้อมนักบินนั่งประจำที่ซึ่งน่าจะเป็น ฮ.ส่วนตัวของเขาก่อนจะลอบมองคนตัวโตเพราะในหัวเต็มไปด้วยคำถามว่าเขาร่ำรวยขนาดไหนกันเชียวถึงมีทุกอย่างได้ขนาดนี้ เขาเดินจูงมือเธอขึ้นบนเครื่องเป็นอันเสร็จสรรพ ร่างบางเกร็งทำตัวไม่ถูกจนเขาจับเธอนั่งลงตรงที่นั่งข้างเขา"นั่งตรงนี้ครับ" เขาเอ่ยบอกพลางกดไหล่บางนั่งลงที่นั่งข้างกันพร้อมกับหย่อนกายนั่งก่อนจะช่วยรัดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ มือใหญ่กุมมือเล็กเอาไว้ตลอดเวลา เมื่อเครื่องบินผ่านจุดต่างๆ เขาคอยชี้ให้เธอดูพร้อมกับอธิบายพิกัดท่องเที่ยวให้ฟังตลอดเส้นทาง ใบหน้าหล่อเหลาห่างจากหล่อนเพียงแค่ไม่กี่เซ็น
หลังจากกลับมาถึงคอนโด ร่างบางก็จัดการอาบน้ำอาบท่าให้สดชื่น ใบหน้าหล่อเหลายังลอยวนเวียนอยู่ในหัวเมื่อนึกถึงคนตัวโตที่ช่างพูดช่างถามของเขา หลังจากอาบน้ำแล้วเธอก็มานอนเล่นบนเตียงหยิบโทรศัพท์มาเลื่อนอ่านข่าวต่างๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหาคุณป้าสักหน่อย"ฮัลโหล สวัสดีค่ะคุณป้า" 'ฮัลโหลช่อหลานป้า เห็นพี่แซมบอกป้าว่าส่งหนูไปดูงานแฟร์เหรอลูก เป็นยังไงบ้าง' เสียงจากปลายสายถามไถ่มาด้วยความคิดถึง 'ดารินทร์' หญิงวัยกลางคนมีฐานะเป็นพี่สาวของมารดาเธอแต่หลังจากเธอสูญเสียพ่อกับแม่ไปตอนอายุเพียงสามขวบ ดารินทร์ก็รับเลี้ยงตั้งแต่นั้นมา"สนุกมากเลยค่ะ มีอะไรให้เรียนรู้หลายอย่างเลยคุณป้าสบายดีไหมคะ แม่นมกับทัมทิมล่ะ" เธอเอ่ยถามหาแม่นมกับหลานที่สนิทกับเธอ'สองคนนั้นสบายดี ว่าแต่ถ้าว่างต้องมานอนค้างที่บ้านบ้างนะหลานรัก หายไปนานป้าคิดถึง' เสียงอบอุ่นที่ส่งมาจากปลายสายทำให้เธอคลี่ยิ้มออกม่อย่างมีความสุข"ค่ะ งั้นไม่รบกวนแล้ว เจอกันนะคะ บ๊ายบ่ายค่ะ" เอ่ยจบก็กดวางสายก่อนจะปิดเปลือกตา วันนี้เธอเข้านอนเร็วเพราะพรุ่งนี้มีงานที่เธอต้องเป็นตัวแทนของพี่ชายไปประชุมข้างนอกณ เพ้นเฮ้าส์หรูย่านใจกลางเมืองมิลาน
เวลาผ่านไปเกือบสัปดาห์ ช่อพิกุลลุกขึ้นเตรียมตัวแต่เช้าเพื่อไปงานมิลานดีไซน์แฟร์ ร่างแบบบางเดินชมตามบูธต่างๆ ที่นำเฟอร์นิเจอร์มาจัดแสดงโชว์ งานนี้เป็นงานใหญ่ระดับโลกมีผู้คนให้ความสนใจมากมายรวมทั้งบรรดานักออกแบบสถาปนิกต่างๆ เข้าชมงานมากมาย ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นชุดโต๊ะนั่งชุดหนึ่งที่ดูแปลกตาก่อนหยุดยืนมองด้วยความสนใจ ในฐานะที่เติบโตมากับธุรกิจไม้เธอมองปราดเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นไม้หายาก มือบางยื่นไปลูบสัมผัสอย่างชื่นชมก่อนที่เสียงหนึ่งจะดังขึ้น"สวัสดีครับ" เสียงห้าวทุ้มเอ่ยทักทายขึ้นด้านหลัง ช่อพิกุลหลุดออกจากภวังค์ก่อนละสายตาหันไปมองเจ้าของเสียงที่เอ่ยทักขึ้นชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลารูปร่างสูงใหญ่ดวงตาสีน้ำตาลเธอจำได้แม่น เขาคือคนที่ช่วยเธอจากคนเมาในบาร์เมื่อสัปดาห์ก่อน"คุณ...สวัสดีค่ะ" เสียงหวานเอ่ยทักทายกลับอย่างสุภาพ ดวงตากลมโตจ้องมองชายหนุ่มแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าจะได้เจอกับคนใจดีคนนั้นอีกครั้ง"คริสโตเฟอร์ครับ คุณคือ.." น้ำเสียงนุ่มทุ้มทักทายเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงชัดเจนเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคงไม่ใช่คนอิตาเลี่ยนเหมือนเขา "ช่อพิกุลค่ะ เรียกช่อเฉยๆ ก็ได้" ช่อพิกุลแนะนำตัวเองส
เป็นเวลากว่าเที่ยงคืน นักท่องเที่ยวยังคงคับคั่งหนาตา ยิ่งดึกผู้คนก็ยิ่งทยอยกันมามากขึ้นเรื่อยๆ "เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำแปบนึงนะ" ช่อพิกุลเอ่ยบอกเพื่อนๆ ก่อนจะเดินแทรกเบียดกับนักเที่ยวที่กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกวาดลวดลายอยู่เป็นหย่อมๆ ร่างแบบบางเดินเลาะชิดผนังมาจนถึงห้องน้ำได้ในที่สุด ซ่า~~~มือบางวักน้ำล้างหน้าให้สดชื่นขึ้นแม้จะดื่มไปไม่มากนักแต่ด้วยความที่เป็นคนคออ่อนก็ทำเอาเธอเดินเซเกือบทรงตัวไม่อยู่ หลังจากล้างหน้าล้างตาจนสดชื่น จึงเดินกลับออกมาหมับ! มือใหญ่ใครบางคนคว้าเข้าข้อมือเล็กเอาไว้ ใบหน้าหวานหันขวับมามองด้วยความตกใจ"มาคนเดียวเหรอครับ" เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยทักขึ้นด้านหลังขณะเพิ่งเดินออกจากห้องน้ำ ช่อพิกุลหันขวับมามองพบว่าเป็นหนุ่มผมบลอนด์ดวงตาสีฟ้าดูท่าทางเมาจนตาปรือ"ฉันมากับเพื่อนกรุณาปล่อยมือด้วยค่ะ!" น้ำเสียงหวานเอ่ยบอกแฝงไปด้วยความไม่พอใจพร้อมกับพยายามดึงมือที่ถูกจับกุมออก "ไปต่อกันไหม ผมรวยนะ" ชายหนุ่มยังคงเซ้าซี้ยิ่งเธอพยายามดึงออกมือใหญ่กลับยิ่งจับแน่นอีกทั้งยังพยายามจะเข้ามายื้อเธอเข้าไปกอด ร่างบางขืนตัวออกด้วยความรังเกียจ"ปล่อยนะ! ไม่ไปค่ะ!" ช่อพิกุลร้องเสียง
หวี๋~~~ เสียงไซเรนรถพยาบาลดังขึ้นในช่วงเช้าตรู่แทรกเคล้ากับเสียงโหวกเหวกของเจ้าหน้าที่พยาบาลวิ่งกันขวักไขว่ภายในคอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านกลางเมืองมิลานแหล่งเศรษฐกิจของประเทศอิตาลี ด้านล่างคอนโดหรูมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเชือกมาล้อมกั้นพื้นที่กันไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาภายในบริเวณ"ชาล็อตต์! ชาล็อตต์ลูกแม่!" หญิงวัยกลางคนวิ่งตามรถเข็นพยาบาลในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งมือเคลื่อนย้ายหญิงสาวที่นอนหมดสติขึ้นรถส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หน้าห้องฉุกเฉิน ไม่นานนักประตูห้องก็เปิดออก"หมอเสียใจด้วยนะครับ เราพยายามเต็มที่แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตเธอเอาไว้ได้ เธอกินยานอนหลับเกินขนาดจนหัวใจวายเฉียบพลัน" นายแพทย์ใหญ่ประจำโรงพยาบาลเอกชนบอกกล่าวกับบรรดาญาติคนไข้ที่ยืนรอด้วยความหวัง เมื่อจบประโยคของนายแพทย์ 'แองเจลิน่า' ผู้เป็นมารดาถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างหนักจนทรุดลงบนพื้น ท่ามกลางฝนพรำตลอดทั้งวันในช่วงหน้าฝนทำให้ท้องฟ้ามืดครึ้มยิ่งทำให้บรรยากาศเศร้าหมองลง ผู้คนต่างทยอยกลับหลังจากพิธีฝังศพของชาล็อตต์ผ่านไป"เกิดอะไรขึ้นนะชาล็อตต์" เสียงห้าวทุ้มเอ่ยพึมพำคนเดียว ดวงตาคมกริบแดงก่ำเหม่อมองหลุมขนาดใหญ่ที