เวลาผ่านไปเกือบสัปดาห์ ช่อพิกุลลุกขึ้นเตรียมตัวแต่เช้าเพื่อไปงานมิลานดีไซน์แฟร์ ร่างแบบบางเดินชมตามบูธต่างๆ ที่นำเฟอร์นิเจอร์มาจัดแสดงโชว์ งานนี้เป็นงานใหญ่ระดับโลกมีผู้คนให้ความสนใจมากมายรวมทั้งบรรดานักออกแบบสถาปนิกต่างๆ เข้าชมงานมากมาย
ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นชุดโต๊ะนั่งชุดหนึ่งที่ดูแปลกตาก่อนหยุดยืนมองด้วยความสนใจ ในฐานะที่เติบโตมากับธุรกิจไม้เธอมองปราดเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นไม้หายาก มือบางยื่นไปลูบสัมผัสอย่างชื่นชมก่อนที่เสียงหนึ่งจะดังขึ้น "สวัสดีครับ" เสียงห้าวทุ้มเอ่ยทักทายขึ้นด้านหลัง ช่อพิกุลหลุดออกจากภวังค์ก่อนละสายตาหันไปมองเจ้าของเสียงที่เอ่ยทักขึ้น ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลารูปร่างสูงใหญ่ดวงตาสีน้ำตาลเธอจำได้แม่น เขาคือคนที่ช่วยเธอจากคนเมาในบาร์เมื่อสัปดาห์ก่อน "คุณ...สวัสดีค่ะ" เสียงหวานเอ่ยทักทายกลับอย่างสุภาพ ดวงตากลมโตจ้องมองชายหนุ่มแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าจะได้เจอกับคนใจดีคนนั้นอีกครั้ง "คริสโตเฟอร์ครับ คุณคือ.." น้ำเสียงนุ่มทุ้มทักทายเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงชัดเจนเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคงไม่ใช่คนอิตาเลี่ยนเหมือนเขา "ช่อพิกุลค่ะ เรียกช่อเฉยๆ ก็ได้" ช่อพิกุลแนะนำตัวเองสั้นๆอย่างเป็นกันเองพลางส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรไปให้ "อ่าคุณช่อ..ไม่คิดว่าจะมาเจอคุณที่นี่เลยนะบังเอิญจังเลย มาเที่ยวเหรอครับ" ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นก่อนจะหลุบมองโต๊ะชุดที่เธอสนใจเมื่อสักครู่ "ช่อมาศึกษาดูงานค่ะ พอดีมันเกี่ยวกับเนื้องานด้วย" เธอเอ่ยตอบเขา "งั้นเหรอครับ ผมรบกวนหรือเปล่า" เขาเอ่ยขึ้นพลางทำหน้าครุ่นคิด "ไม่เลยค่ะ ช่อดีใจซะอีกที่ได้เจออีกครั้งนะคะ วันนั้นช่อไม่ทันได้ขอบคุณเลย" เสียงหวานเอ่ยตอบ "อ่า..งั้นเหรอครับแต่เรื่องนั้นช่างมัน วันนี้ผมอยากดูเฟอร์นิเจอร์สักชิ้นไปไว้ที่ห้องทำงานถ้าไม่รบกวนมาช่วยกันเลือกดีไหม" เขาเอ่ยบอกก่อนจะลอบมองสำรวจหญิงสาวตรงหน้า แม้จะรูปร่างเพรียวบางแต่กลับมีสะโพกอวบผายหน้าอกอวบใหญ่ถึงจะอำพลางด้วยเสื้อเชิ้ตแต่จากประสบการณ์เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเธอคนนี้ซ่อนรูปเอาไว้อย่างแน่นอน อีกทั้งใบหน้าหวานแต่งแต้มเครื่องสำอางค์บางเบาดวงตากลมโตใสแจ๋วใบหน้ารูปไข่ดูแล้วเธอคงมีเชื้อสายเอเชีย "ยินดีค่ะ แต่ก็ขอบคุณที่ช่วยช่อวันนั้นนะคะ ถ้าคุณไม่ผ่านมาป่านนี้หมอนั่นคงลากช่อไปขึ้นรถมันแล้ว" ช่อพิกุลเอ่ยขอบคุณเขาอีกครั้งพลางคิดไปถึงเรื่องเมื่อวันนั้นยังตามหลอกหลอนเธอไม่หาย "ครับ.. ว่าแต่คุณช่อสนใจตัวนี้เหรอมันสวยดีนะ" เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเบนความสนใจไปที่โต๊ะไม้ชุดตรงหน้า "ค่ะ มันสวยแปลกตาดีดูแล้วมันคงทำมาจากไม้ซาเปเล" ช่อพิกุลเอ่ยบอกพร้อมกับมองดูโต๊ะชุดหรูหราลวดลายสวยงามก่อนจะละสายตามามองชายหนุ่มที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาคลี่ยิ้มอย่างมีเสน่ห์ที่น้อยคนนักจะได้เห็นทำเอาใบหน้าหวานแดงก่ำเล็กน้อยก่อนจะรีบหลบสายตาคมกริบนั้นทันที "แค่มองก็รู้แล้วเหรอว่าทำมาจากไม้อะไร" เขาเอ่ยถามอย่างแปลกใจ "ค่ะ ไม้แผ่นใหญ่พวกนี้ส่วนมากเป็นไม้ที่นำเข้าจากแอฟริกาหรือไม่ก็อเมริกาใต้แทบทั้งนั้น แต่ละชนิดจะมีเอกลักษณ์ลวดลายของมัน คนที่คลุกคลีมานานก็จะรู้ว่าทำมาจากไม้อะไร" เสียงหวานเอ่ยบอกพลางกวาดสายตามองไปทั่วร้านที่นำมาตั้งโชว์ละลานตา "งั้นช่วยผมเลือกไม้แบบนี้สักชุดนะครับ" เขาถามหญิงสาวที่กำลังเดินชม "ได้สิคะ" เธอขานรับอย่างเต็มใจก่อนจะลอบมองชายหนุ่มในชุดสูทหรูหราราคาแพงตั้งแต่หัวจรดเท้า นาฬิกาเรือนหรูกะคร่าวๆ ด้วยสายตาน่าจะหลายสิบล้านเหรียญ ทั้งคู่เดินชมสินค้าจนทั่วงานอย่างเพลิดเพลินโดยเธอเลือกโต๊ะตัวหนึ่งให้เขา ก่อนจะพากันดูอีกหลายร้านจนกระทั่งกินเวลาไปถึงบ่ายกว่า "โอ้..นี่บ่ายกว่าแล้วเหรอคะช่อรบกวนเวลาคุณเกินไปแล้ว" ช่อพิกุลยกนาฬิกาขึ้นดูหลังจากที่ทั้งคู่เดินมานั่งพักที่ร้านกาแฟในโซนล็อบบี้ "ไม่เป็นไรครับวันนี้ผมว่าง แล้วคุณช่อรีบไปไหนหรือเปล่าครับ ถ้าคุณช่อไม่รีบผมขอเลี้ยงมื้อกลางวัน" คริสโตเฟอร์เอ่ยบอกพลางสังเกตท่าทีของหล่อนที่ดูลังเลเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าตกลง รถสปอร์ตคันหรูแล่นมาจอดที่หน้าภัตราคารชื่อดังแห่งหนึ่ง ร่างสูงก้าวลงจากรถก่อนจะเดินอ้อมมาเปิดประตูให้เธอ "เป็นอาหารสวิส คุณช่อทานได้หรือเปล่า" เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยถาม ใบหน้าหล่อเหลาก้มมองคนตัวเล็กที่เดินเคียงคู่กันมา "ช่อทานได้ทุกอย่างค่ะ ถามว่าอะไรที่ไม่ทานดีกว่า..คิก" หญิงสาวเอ่ยบอกพลางยิ้มขันตัวเองทำเอาคนตัวใหญ่ยิ้มตามไปด้วย พนักงานรีบกุลีกุจอเข้ามาต้อนรับเมื่อเห็นว่าเป็นใครเดินเข้ามา "เชิญค่ะท่าน" ทั้งสองเดินตามพนักงานเข้าไปในโต๊ะด้านในสุด บรรยากาศสามารถมองเห็นรถราที่วิ่งผ่านไปมาได้ ในร้านตกแต่งสไตล์วินเทจย้อนยุคผสานกลิ่นอายความเป็นสวิสดั้งเดิมเข้าไปอย่างลงตัว ดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆ ร้านด้วยความสนใจก่อนจะกลับมามองชายหนุ่มตรงหน้าที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว "คุณช่อทำงานที่ไหนครับ" คริสโตเฟอร์เอ่ยถามพลางตักอาหารใส่จานให้เธอ "ช่อทำที่บริษัทของพี่ชายค่ะ เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ส่งออก เป็นธุรกิจเล็กๆ ของครอบครัวค่ะ" ช่อพิกุลเอ่ยเล่าให้เขาฟังคร่าวๆ "งั้นเหรอครับ คุณช่อคงทำงานเก่งมากเลยสินะครับ" "ช่อก็อยากเป็นแบบนั้นค่ะแต่ช่อเพิ่งเข้ามาช่วยงานได้ยังไม่ถึงเดือนเลย พี่แซมเป็นคนดูแลทั้งหมดเลยค่ะ" เสียงหวานเอ่ยถึงพี่ชายด้วยความชื่นชมในขณะที่ดวงตาคมกริบประกายวาวโรจน์ขึ้นมาก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็วจนอีกคนไม่ทันสังเกตเห็น ใบหน้าหล่อเหลาคลี่ยิ้มให้เธอก่อนจะตักอาหารที่เพิ่งมาเสิร์ฟใส่จานเธอ "งั้นพี่ชายคุณช่อก็เก่งมากเลยสินะครับดูแลธุรกิจมาจนใหญ่โตขนาดนี้" เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ว่าแต่คุณคริสรู้จักบริษัทของครอบครัวเราด้วยเหรอคะ" "รู้จักสิครับ เฟอร์นิเจอร์ในบ้านผมก็สั่งซื้อจากอิตาเลี่ยนวู้ดส์หลายชิ้นทีเดียว" เขาเอ่ยบอกพร้อมกับเอื้อมไปหยิบทิชชู่เช็ดมุมปากอวบอิ่มที่เลอะน้ำสลัด ช่อพิกุลชะงักเล็กน้อยแต่ก็หยุดอยู่นิ่งๆให้เขาช่วยก่อนจะยิ้มให้เขาเป็นการขอบคุณ หลังจากทานอาหารกลางวันเรียบร้อย คริสโตเฟอร์ขับรถมาส่งเธอด้านหลังสถานที่จัดงาน "ไว้คราวหน้าถ้ามีโอกาสเจอกันอีก ผมจะพาไปทานร้านแถวเมืองเวนิสนะครับ ที่นั่นมีร้านอร่อยๆเยอะเลย" เขาเอ่ยบอกคนตัวเล็กในขณะที่ส่งจนถึงรถของหล่อน "ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ" เสียงหวานเอ่ยก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนรถออกไป ร่างสูงใหญ่ยืนมองออดี้คันงามเคลื่อนออกไปจนลับสายตาก่อนจะกลับมาที่รถของตัวเอง สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดสั่นครืดคราดมานานหลายนาที มือใหญ่เอื้อมมากดรับสาย "ฮัลโหล ครับลี" เสียงห้าวทุ้มเอ่ยกรอกไปตามสายก่อนพร้อมกับกดเลื่อนกระจกขึ้นปิดมุ่งสู่ท้องถนน 'นึกว่าคริสจะไม่รีบสายลีซะแล้ว เรามีนัดกันนะคะ' เสียงหวานกระเง้ากระงอดเอ่ยมาจากปลายสาย "ไม่ลืมสิครับ ผมเพิ่งเสร็จธุระน่ะ ไว้เจอกันนะ" จากนั้นกดวางสายโยนลงเบาะข้างคนขับแล้วหยิบแว่นตาแบรนด์ดังมาสวมใส่ก่อนจะเหยียบคันเร่งมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทาง..."ช่อ..ยั่วกันใช่ไหม" น้ำเสียงสั่นพร่าเอ่ยขึ้นพร้อมกับโน้มตัวลงทาบทับฝังริมฝีปากลงตามซอกคอขาวหอมกรุ่น มือใหญ่ลูบไล้เนื้อเนียนนุ่มไปทั่วทุกอณูผิวสร้างความเสียวสะท้านให้แก่คนใต้ร่างมากมาย"อื้อ..ซี้ด..คุณคริส" เสียงหวานครางออกมา"นอนหงายสิที่รัก.." เขาเอ่ยบอกพร้อมกับไต่มือลงไปบีบก้นงอนงามที่มีกางเกงชั้นในปิดหุ้มอยู่"ที่รัก...ช่อ" เขาเอ่ยเรียกอีกครั้งก่อนจะก้มหน้าลงไปมองใบหน้าหวานที่เอาแต่ซุกอยู่กับหมอนด้วยความอาย ในเมื่อหล่อนเล่นบทสาวอินโนเซ้นท์เขาก็จะรับมุกด้วยการเป็นผู้ชายสุภาพบุรุษให้หล่อนได้ฝันต่อไป"เราทำแบบนี้กันได้เหรอคะ..เราเพิ่งรู้จักกันไม่นานนะคะ" เธอเอ่ยด้วยความกังวล"มันไม่เป็นอะไรที่รัก..เชื่อผมสิ..คนอื่นเขาทำกันทั้งนั้น..เว้นแต่ว่า..คุณรังเกียจผม" เขาเอ่ยเสียงแผ่วพร้อมกับใบหน้าที่หมองลงทำเอาหล่อนหน้าตื่นดวงตากลมโตเบิกขึ้น"ไม่ค่ะ ช่อไม่ได้รังเกียจคุณเลย ไม่เลยสักนิด!" ช่อพิกุลรีบเอ่ยแก้ทันทีก่อนจะตัดสินใจพลิกตัวนอนหงายมองคนตัวโตที่หรี่ตามองแล้วยิ้มอย่างพึงพอใจ"หึ..น่ารักมาก" เขาเอ่ยพร้อมกับกดจูบเนิ่นนานก่อนจะถอดชุดชั้นในตัวบางปราการสุด
เช้าวันเสาร์ รถสปอร์ตคันหรูแล่นมาจอดที่หน้าคอนโดหรูโดยช่อพิกุลลงมารอก่อนเวลานัดประมาณห้านาที "รอนานไหมครับ" เสียงห้าวทุ้มเอ่ยถามหลังจากเคลื่อนรถเข้าสู่ถนนสายหลัก "นานค่ะ" เธอแกล้งเอ่ยบอกอย่างอารมณ์ดี"หึ..ร้ายจริง" เขากลั้วหัวเราะในลำคอก่อนจะเอื้อมไปเกลี่ยแก้มนุ่มเล่นทำเอาคนตัวเล็กหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอายคริสโตเฟอร์ขับรถมาถึงสนามบินส่วนตัวของตระกูลเฮมเวิร์ท ร่างสูงก้าวลงจากรถพร้อมกับร่างแบบบาง ช่อพิกุลมองชายชุดดำนับสิบที่ยืนรอประจำอยู่ที่เฮลิคอปเตอร์พร้อมนักบินนั่งประจำที่ซึ่งน่าจะเป็น ฮ.ส่วนตัวของเขาก่อนจะลอบมองคนตัวโตเพราะในหัวเต็มไปด้วยคำถามว่าเขาร่ำรวยขนาดไหนกันเชียวถึงมีทุกอย่างได้ขนาดนี้ เขาเดินจูงมือเธอขึ้นบนเครื่องเป็นอันเสร็จสรรพ ร่างบางเกร็งทำตัวไม่ถูกจนเขาจับเธอนั่งลงตรงที่นั่งข้างเขา"นั่งตรงนี้ครับ" เขาเอ่ยบอกพลางกดไหล่บางนั่งลงที่นั่งข้างกันพร้อมกับหย่อนกายนั่งก่อนจะช่วยรัดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ มือใหญ่กุมมือเล็กเอาไว้ตลอดเวลา เมื่อเครื่องบินผ่านจุดต่างๆ เขาคอยชี้ให้เธอดูพร้อมกับอธิบายพิกัดท่องเที่ยวให้ฟังตลอดเส้นทาง ใบหน้าหล่อเหลาห่างจากหล่อนเพียงแค่ไม่กี่เซ็น
หลังจากกลับมาถึงคอนโด ร่างบางก็จัดการอาบน้ำอาบท่าให้สดชื่น ใบหน้าหล่อเหลายังลอยวนเวียนอยู่ในหัวเมื่อนึกถึงคนตัวโตที่ช่างพูดช่างถามของเขา หลังจากอาบน้ำแล้วเธอก็มานอนเล่นบนเตียงหยิบโทรศัพท์มาเลื่อนอ่านข่าวต่างๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหาคุณป้าสักหน่อย"ฮัลโหล สวัสดีค่ะคุณป้า" 'ฮัลโหลช่อหลานป้า เห็นพี่แซมบอกป้าว่าส่งหนูไปดูงานแฟร์เหรอลูก เป็นยังไงบ้าง' เสียงจากปลายสายถามไถ่มาด้วยความคิดถึง 'ดารินทร์' หญิงวัยกลางคนมีฐานะเป็นพี่สาวของมารดาเธอแต่หลังจากเธอสูญเสียพ่อกับแม่ไปตอนอายุเพียงสามขวบ ดารินทร์ก็รับเลี้ยงตั้งแต่นั้นมา"สนุกมากเลยค่ะ มีอะไรให้เรียนรู้หลายอย่างเลยคุณป้าสบายดีไหมคะ แม่นมกับทัมทิมล่ะ" เธอเอ่ยถามหาแม่นมกับหลานที่สนิทกับเธอ'สองคนนั้นสบายดี ว่าแต่ถ้าว่างต้องมานอนค้างที่บ้านบ้างนะหลานรัก หายไปนานป้าคิดถึง' เสียงอบอุ่นที่ส่งมาจากปลายสายทำให้เธอคลี่ยิ้มออกม่อย่างมีความสุข"ค่ะ งั้นไม่รบกวนแล้ว เจอกันนะคะ บ๊ายบ่ายค่ะ" เอ่ยจบก็กดวางสายก่อนจะปิดเปลือกตา วันนี้เธอเข้านอนเร็วเพราะพรุ่งนี้มีงานที่เธอต้องเป็นตัวแทนของพี่ชายไปประชุมข้างนอกณ เพ้นเฮ้าส์หรูย่านใจกลางเมืองมิลาน
เวลาผ่านไปเกือบสัปดาห์ ช่อพิกุลลุกขึ้นเตรียมตัวแต่เช้าเพื่อไปงานมิลานดีไซน์แฟร์ ร่างแบบบางเดินชมตามบูธต่างๆ ที่นำเฟอร์นิเจอร์มาจัดแสดงโชว์ งานนี้เป็นงานใหญ่ระดับโลกมีผู้คนให้ความสนใจมากมายรวมทั้งบรรดานักออกแบบสถาปนิกต่างๆ เข้าชมงานมากมาย ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นชุดโต๊ะนั่งชุดหนึ่งที่ดูแปลกตาก่อนหยุดยืนมองด้วยความสนใจ ในฐานะที่เติบโตมากับธุรกิจไม้เธอมองปราดเดียวก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นไม้หายาก มือบางยื่นไปลูบสัมผัสอย่างชื่นชมก่อนที่เสียงหนึ่งจะดังขึ้น"สวัสดีครับ" เสียงห้าวทุ้มเอ่ยทักทายขึ้นด้านหลัง ช่อพิกุลหลุดออกจากภวังค์ก่อนละสายตาหันไปมองเจ้าของเสียงที่เอ่ยทักขึ้นชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลารูปร่างสูงใหญ่ดวงตาสีน้ำตาลเธอจำได้แม่น เขาคือคนที่ช่วยเธอจากคนเมาในบาร์เมื่อสัปดาห์ก่อน"คุณ...สวัสดีค่ะ" เสียงหวานเอ่ยทักทายกลับอย่างสุภาพ ดวงตากลมโตจ้องมองชายหนุ่มแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าจะได้เจอกับคนใจดีคนนั้นอีกครั้ง"คริสโตเฟอร์ครับ คุณคือ.." น้ำเสียงนุ่มทุ้มทักทายเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงชัดเจนเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคงไม่ใช่คนอิตาเลี่ยนเหมือนเขา "ช่อพิกุลค่ะ เรียกช่อเฉยๆ ก็ได้" ช่อพิกุลแนะนำตัวเองส
เป็นเวลากว่าเที่ยงคืน นักท่องเที่ยวยังคงคับคั่งหนาตา ยิ่งดึกผู้คนก็ยิ่งทยอยกันมามากขึ้นเรื่อยๆ "เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำแปบนึงนะ" ช่อพิกุลเอ่ยบอกเพื่อนๆ ก่อนจะเดินแทรกเบียดกับนักเที่ยวที่กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกวาดลวดลายอยู่เป็นหย่อมๆ ร่างแบบบางเดินเลาะชิดผนังมาจนถึงห้องน้ำได้ในที่สุด ซ่า~~~มือบางวักน้ำล้างหน้าให้สดชื่นขึ้นแม้จะดื่มไปไม่มากนักแต่ด้วยความที่เป็นคนคออ่อนก็ทำเอาเธอเดินเซเกือบทรงตัวไม่อยู่ หลังจากล้างหน้าล้างตาจนสดชื่น จึงเดินกลับออกมาหมับ! มือใหญ่ใครบางคนคว้าเข้าข้อมือเล็กเอาไว้ ใบหน้าหวานหันขวับมามองด้วยความตกใจ"มาคนเดียวเหรอครับ" เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยทักขึ้นด้านหลังขณะเพิ่งเดินออกจากห้องน้ำ ช่อพิกุลหันขวับมามองพบว่าเป็นหนุ่มผมบลอนด์ดวงตาสีฟ้าดูท่าทางเมาจนตาปรือ"ฉันมากับเพื่อนกรุณาปล่อยมือด้วยค่ะ!" น้ำเสียงหวานเอ่ยบอกแฝงไปด้วยความไม่พอใจพร้อมกับพยายามดึงมือที่ถูกจับกุมออก "ไปต่อกันไหม ผมรวยนะ" ชายหนุ่มยังคงเซ้าซี้ยิ่งเธอพยายามดึงออกมือใหญ่กลับยิ่งจับแน่นอีกทั้งยังพยายามจะเข้ามายื้อเธอเข้าไปกอด ร่างบางขืนตัวออกด้วยความรังเกียจ"ปล่อยนะ! ไม่ไปค่ะ!" ช่อพิกุลร้องเสียง
หวี๋~~~ เสียงไซเรนรถพยาบาลดังขึ้นในช่วงเช้าตรู่แทรกเคล้ากับเสียงโหวกเหวกของเจ้าหน้าที่พยาบาลวิ่งกันขวักไขว่ภายในคอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านกลางเมืองมิลานแหล่งเศรษฐกิจของประเทศอิตาลี ด้านล่างคอนโดหรูมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเชือกมาล้อมกั้นพื้นที่กันไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาภายในบริเวณ"ชาล็อตต์! ชาล็อตต์ลูกแม่!" หญิงวัยกลางคนวิ่งตามรถเข็นพยาบาลในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งมือเคลื่อนย้ายหญิงสาวที่นอนหมดสติขึ้นรถส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หน้าห้องฉุกเฉิน ไม่นานนักประตูห้องก็เปิดออก"หมอเสียใจด้วยนะครับ เราพยายามเต็มที่แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตเธอเอาไว้ได้ เธอกินยานอนหลับเกินขนาดจนหัวใจวายเฉียบพลัน" นายแพทย์ใหญ่ประจำโรงพยาบาลเอกชนบอกกล่าวกับบรรดาญาติคนไข้ที่ยืนรอด้วยความหวัง เมื่อจบประโยคของนายแพทย์ 'แองเจลิน่า' ผู้เป็นมารดาถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างหนักจนทรุดลงบนพื้น ท่ามกลางฝนพรำตลอดทั้งวันในช่วงหน้าฝนทำให้ท้องฟ้ามืดครึ้มยิ่งทำให้บรรยากาศเศร้าหมองลง ผู้คนต่างทยอยกลับหลังจากพิธีฝังศพของชาล็อตต์ผ่านไป"เกิดอะไรขึ้นนะชาล็อตต์" เสียงห้าวทุ้มเอ่ยพึมพำคนเดียว ดวงตาคมกริบแดงก่ำเหม่อมองหลุมขนาดใหญ่ที