Chapter 6
“ขอบคุณเหนือมากนะคะ ที่พานานะมาหาหมอ” นานะอดรู้สึกผิดไม่ได้ที่อยู่ๆก็โวยวายคิดว่าตัวเองท้องโดยที่ไม่ได้ตรวจให้แน่ใจ เป็นเขาที่ใจเย็นและมีความเป็นผู้ใหญ่ เขาค่อยๆปลอบขวัญให้เธออารมณ์เย็นลงทั้งยังพาเธอไปหาหมอเพื่อความสบายใจอีกด้วย
“เหนือก็มีส่วนรับผิดชอบเรื่องนี้เหมือนกัน นานะไม่ต้องเกรงใจนะครับ” อดีตเดือนวิศวะกดยิ้มมุมปาก ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเริ่มมีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจของนานะ หัวใจของหญิงสาวเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เธอจึงแสร้งมองออกไปข้างนอกกระจกเพื่อกลบเกลื่อนความขัดเขิน
“เหนือช่วยไปส่งนานะที่คอนโดของเพื่อนนานะได้ไหมคะ” นานะเห็นว่าตอนนี้เริ่มมืดแล้ว ที่สำคัญแม่ของเธอส่งข้อความมาบอกว่าจะไปเที่ยวญี่ปุ่นกับพี่น้ำใสหลายวัน เธอไม่อยากที่จะอยู่บ้านคนเดียวในวันหยุดจึงเลือกที่จะไปค้างที่คอนโดของเจด้า
“ครับ งั้นเราไปหาอะไรกินก่อนไหม นานะจะได้กินอาหารตรงเวลาและกินยาด้วย” เหนือเสนอ เพราะตอนนี้เป็นเวลาเกือบหกโมงเศษๆแล้ว ก่อนหน้านี้หญิงสาวอาเจียนอาหารกลางวันออกมาด้วย เธอน่าจะเริ่มหิวแล้ว
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวนานะไปกินกับเพื่อน” ทว่าพอจะปฏิเสธท้องไม่รักดีก็ดันร้องออกมาเสียงดัง นานะอายเสียจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“เดี๋ยวเหนือแวะร้านอาหารญี่ปุ่นข้างหน้าละกัน” รถหรูจอดที่หน้าร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ดัง ร่างสูงในชุดนักศึกษาชายเดินนำหญิงสาวเข้าไปในร้าน เหนือเลือกที่นั่งริมหน้าต่างมองเห็นวิวหน้าร้านที่ประดับไฟวิบวับเข้ากับเทศกาลพิเศษที่กำลังจะมาถึง พนักงานเดินมารับออเดอร์แต่นานะก็ไม่รู้ว่าจะกินอะไรดี เธอไม่ค่อยได้ออกมาทานอาหารนอกบ้านเพราะส่วนใหญ่เธอจะฝากท้องไว้กับป้าสายใจ ทานอาหารเพื่อสุขภาพตามที่แม่พร่ำบอกมาตลอด
“เอาเซทเนื้อวากิวเอไฟว์ย่างแล้วก็เอาซาชิมิหนึ่งเซ็ท ข้าวหน้าเนื้อ ซุปมิโซะแล้วก็ซูชิหน้าปลาโอโทโร ปลาไหล แซลมอนเบิร์นครับ”
“เหนือกินคนเดียวหมดเหรอ?”
“จริงๆกินเยอะกว่านี้อีกนะ” เหนือยิ้มขำเมื่อเห็นนานะทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะกินอาหารทั้งทั้งหมดนี่เพียงคนเดียว
“นานะเอาสลัดมันฝรั่งค่ะ”
“แค่นี้เหรอครับ? แล้วเมนคอร์สล่ะ”
“มื้อเย็นแค่สลัดก็พอแล้วค่ะ” ทว่าพออาหารเซ็ทใหญ่ที่เหนือสั่งมาเสิร์ฟ เหนือก็คอยย่างเนื้อวากิวใส่จานของนานะ รวมถึงอาหารจานอื่นๆที่เขาสั่งมาด้วย
“เนื้อย่างนุ่มมากละลายในปากเลยค่ะ” นานะห่อเนื้อกับผักจิ้มโชยุเล็กน้อย หยิบใส่ปากแล้วเคี้ยว ความนุ่มความอร่อยของมันทำให้เธอติดใจและขอเขาย่างเนื้อวากิวด้วยตัวเอง และสลัดมันฝรั่งที่เธอสั่งมาก็แทบไม่มีใครแตะเลย พอทานมื้อเย็นจนอิ่ม เหนือก็เอายาบำรุงที่อาหมอของเขาให้มาให้นานะกินความใส่ใจของเขาทำให้นานะเริ่มรู้สึกดีกับเขามากขึ้น จากนั้นจึงพาเธอไปส่งที่คอนโดของเพื่อน
“เจด้ามารับหน่อย อยู่ใต้คอนโด”
[ ไม่อ่านไลน์กลุ่มเหรอ? ฉันกับออมม่ากลับบ้าน วันหยุดยาวม่าม้ากับป๊าชวนไปทำบุญ ออมม่าก็มีนัดกับย่าไปทำบุญที่วัด ]
“อ้าวเหรอ? งั้นนานะกลับบ้านก็ได้” นานะวางสายพลางถอนหายใจ กลับไปบ้านก็ไม่มีใครอยู่ ความเหงาจู่โจมเข้ามาในหัวใจ จึงได้แต่บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร ชินแล้ว..
“เหนือช่วยไปส่งที่บ้านได้ไหมคะ เอ่อ..นานะคงรบกวนมากไป นานะนั่งแท็กซี่กลับดีกว่า” คอนโดของเจด้ากับบ้านของนานะอยู่คนละทาง ตอนนี้รถติดมากน่าจะใช้เวลาบนท้องถนนหลายชั่วโมงเลยทีเดียว หญิงสาวรู้สึกเกรงใจชายหนุ่ม เพราะเขาพาเธอไปหาหมอพาไปทานข้าวแถมยังมาส่งที่คอนโดของเจด้าก็นานหลายชั่วโมงแล้ว เขาจะอาจจะมีธุระหรืออยากกลับบ้านไปพักผ่อนในวันหยุดยาวเหมือนหลายๆคน
“มันดึกแล้ว บ้านของนานะอยู่ห่างจากที่นี่ตั้งไกล ให้เหนือไปส่งเถอะนะ”
“กว่าจะถึงบ้านนานะ รถติดมากเลยนะ” นานะคำนวณเวลาที่จะถึงบ้าน ใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมงเศษๆ แถมไปถึงป้าสายใจผู้ที่นอนหลับตั้งแต่หัวค่ำคงนอนหลับเพลินจนไม่ยอมมาเปิดประตูแน่ๆ
“งั้นนานะ นอนโรงแรมข้างหน้าก็ได้ค่ะ” หญิงสาวตัดสินใจในทันที พอเช้าค่อยนั่งแท็กซี่กลับบ้านแล้วกัน จะได้ไม่เป็นการรบกวนป้าสายใจและคนที่ต้องขับรถไปส่งอย่างเหนือ
“ใกล้ๆโรงแรมนั้น เป็นคอนโดของเหนือ ถ้านานะไม่รังเกียจ ไปพักคอนโดของเหนือก็ได้ เหนือสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรนานะ” ถ้านานะไม่ยินยอม..เขาต่อประโยคนี้เองในใจ หญิงสาวนิ่งไปสักพักก่อนจะพยักหน้ารับ เหนือจอดรถที่ลานจอดรถของคอนโดเขาแตะคีย์การ์ดเพื่อไปยังห้องพักสุดหรูชั้นสูงสุด นานะรู้สึกประหม่านี่เป็นครั้งที่สองที่เธอมาที่ห้องของเขาแถมยังต้องอยู่กันเพียงลำพัง ไม่มีเพื่อนๆของเขาอยู่ด้วยเหมือนในครั้งแรก หญิงสาวไม่รู้ว่าเอาความกล้านี้มาจากไหน จริงอยู่ที่เหนือสัญญาว่าจะไม่แตะต้องตัวเธอ แต่หากเขาจะทำจริงๆเธอก็คงจะขัดขืนเขาไม่ได้แน่ๆ
“นานะเข้าไปอาบน้ำในห้องนอนใหญ่ นี่ผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าที่น่าจะพอใส่ได้” เหนือส่งถุงเสื้อผ้าที่ด้านในมีเสื้อยืดกางเกงผ้าขาสั้นรวมถึง..เอ่อ..ชุดชั้นใน
“เสื้อผ้าของพี่สาวเหนือเอง บางครั้งพี่นิ้วนางก็ชอบมาค้างที่นี่ เหนือให้แม่บ้านซักแล้วเก็บไว้ นานะพอจะใส่ได้ไหม ไม่งั้นเหนือจะให้ที่บ้านไปซื้อมาให้ใหม่”
“ดะ..ได้สิ งั้นนานะขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ” นานะรับถุงเสื้อผ้าจากมือของเหนือแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนใหญ่ หญิงสาวอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอน นั่นก็คือเสื้อยืดกับกางเกงผ้าขาสั้น เธอเดินออกมาข้างนอกห้องเพื่อจะบอกเจ้าของห้องว่าเธอจะเข้านอนแล้ว กลิ่นหอมของอาหารที่อยู่บนเตาไฟฟ้าทำให้หญิงสาวอดมองไปทางห้องครัวไม่ได้ ขนาดว่าทานมื้อเย็นจนอิ่มมากแล้ว ทว่ากลิ่นของมันหอมจนเธออยากจะกินอีก
“เหนือทำอะไรคะ” ร่างบางยืนอยู่ด้านหลังของเหนือ พ่อครัวหนุ่มหันมายิ้ม
“ซุปเห็ดครับ เผื่อนานะอยากจะทานอะไรร้อนๆก่อนนอน เหนือสั่งครัวซองก์จิ๋วมาด้วยนะ อุ่นร้อนๆเลย” มือหนาชี้มาที่โต๊ะอาหารพลางบอกให้เธอนั่งรอ สักพักเขาก็ตักซุปครีมเห็ดใส่ถ้วยวางมันลงตรงหน้านานะ
“เหนือทำเองเหรอ เก่งจัง”
“เหนือซื้อมาเองกับมือเลยครับ มีแบบแช่แข็งเราก็เอามาอุ่นตอนที่อยากกิน แบรนด์นี้อร่อยกลมกล่อมนะ นานะลองชิมสิ” เหนือตักใส่ช้อนเป่าให้เย็นและยื่นมาตรงหน้านานะ ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวด้วยความขัดเขิน ใครจะไม่เขินบ้างล่ะ ผู้ชายหน้าตาดีมากๆกำลังป้อนซุปโดยการเป่าให้เย็น ความใส่ใจและอ่อนโยนแบบนี้ใครบ้างจะไม่หวั่นไหว แม้แต่นานะก็ไม่เป็นข้อยกเว้น เธออ้าปากให้คนตรงหน้าป้อนซุปแต่โดยดี เป็นการกินซุปที่เป็นอันตรายต่ออัตราการเต้นของหัวใจของเธอ มันเต้นแรงจนเจ้าตัวแทบควบคุมไม่อยู่ ยิ่งยามที่ดวงตาคู่คมประสานสายตากับเธอ หญิงสาวกลั้นหายใจแล้วเบือนหน้าไปมองทางอื่น
“หน้าของนานะใสจังเลยนะครับ ไม่มีสิวขึ้นเลย หน้าของเหนือก็ไม่มีสิวขึ้นเหมือนกัน ไม่ใช่ผิวดีนะ หน้าหนาจนสิวไม่กล้าขึ้น” คนเล่นมุกหัวเราะร่วน จนหญิงสาวอดยิ้มตามไม่ได้
“นานะบำรุงผิวตั้งแต่เป็นวัยรุ่น คุณแม่พาไปคลินิกเสริมความงามทุกอาทิตย์เลยค่ะ” จะว่าพาไปก็ไม่ถูกนัก เรียกว่าติดสอยห้อยตามแม่กับพี่สาวมากกว่า และคุณหมอที่คลินิกประจำเห็นว่าเธอหน้าใสผิวสวยจึงให้เป็นพรีเซนเตอร์เลยได้อานิสงส์ทำหน้าฟรีไปโดยปริยาย
“มิน่าล่ะ ผิวของนานะก็เลยใสมาก” มือหนาไล้ไปตามกรอบหน้าของหญิงสาว ดวงตากลมโตของเธอเผลอมองดวงตาของเขาราวกับต้องมนต์ เหนือเลื่อนใบหน้าตัวเองเข้ามาใกล้ๆใบหน้าของนานะ
“มองใกล้ๆผิวยิ่งใส” ริมฝีปากของเขาจรดที่แก้มของหญิงสาว ส่วนมือของเขาก็คว้าท้ายทอยของเธอไว้
“นะ..เหนือ ทำอะไรคะ ไหนบอกว่าจะไม่ทำอะไรนานะ”
“เหนือขอโทษครับ แต่อยู่ใกล้นานะ เหนืออดใจไม่ไหวจริงๆ ก็นานะน่ารักขนาดนี้” คนกระทำผิดไม่ได้สำนึกสักนิด เขายังฝังรอยจูบที่หน้าผากของเธออย่างตั้งใจ ทั้งยังลอยหน้าลอยยิ้มมุมปากแบบกวนๆอีกด้วย
Special 5ฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เหนือแขวนชุดที่จะให้ใส่วันนี้ไว้ในตู้ มันเป็นเดรสสีขาวแขนยาวแบบเรียบๆ แต่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งมีเซ็ทเครื่องเพชรเล็กๆอยู่ในนั้น ซึ่งเป็นใครก็พอจะเดาเหตุการณ์ออกว่ามันต้องมีความพิเศษอยู่ในนั้น ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวและแต่งหน้าอย่างพิถีพิถันกว่าทุกวัน เพราะกลัวออกกล้องแล้วจะไม่สวย พอเปิดประตูห้องออกไปเท่านั้นแหละ ว่าที่เจ้าบ่าวของฉันก็อยู่ในชุดเข้าคู่กัน หน้าห้องพักที่มีระเบียงยื่นออกไป จัดเป็นโต๊ะอาหารยาว มีซุ้มบุฟเฟ่ต์อาหาร ประดับประดาด้วยดอกไม้สดและดอกไม้แห้งทุกจุด เพื่อนสนิทอย่างออมบุญกับเจด้าที่เก็บความลับเรื่องการแต่งงานได้ดีแบบไม่ให้ฉันระแคะระคายแม้แต่นิดเดียว ภาคินกำลังจัดทรงผมให้เพื่อนรัก ว่าที่เจ้าบ่าวของฉันอย่างตั้งใจ แต่นั่นไม่ได้เรียกน้ำตาของฉันเท่ากับ ครอบของทั้งเหนือกับฉัน แม้ว่าจะไม่มีแม่ แต่พ่อกับพี่น้ำใสก็ยืนส่งยิ้มให้ พ่อเลี้ยงสิทธา แม่เลี้ยงพิงค์ลานนาและพี่นิ้วนางกำลังยืนถ่ายรูปครอบครัวพร้อมกับเรียกฉันกับเหนือเข้าไปถ่ายกับท่าน เพียงเท่านั้นฉันก็ร้องไห้ราวกับท่อประปาแตก“นานะ ไม่ร้องไห้นะแก เช็ดก่อนๆ” เจด้าหยิบทิชชูซับน้ำตาให้ฉัน ออมบุญก็แตะ
Special 4@สำนักพิมพ์จันทร์เจ้าขา“เล่าให้ฟังหน่อย ว่าหลัวแกขอแต่งงานยังไง” ออมบุญเปิดประเด็นในขณะที่พวกเรากำลังทานมื้อเช้าที่สายจนเกือบเที่ยงด้วยกันในสวนหน้าสำนักพิมพ์ ฉันชูแหวนเพชรที่นิ้วนางข้างซ้ายที่ใส่เป็นประจำเกือบปีให้เพื่อนๆดู“แกใส่แหวนตั้งแต่วันเกิดปีที่แล้วนี่นา แล้วมันพิเศษตรงไหน” เจด้าถามบ้าง แหวนวงนี้เหนือให้เป็นของขวัญวันเกิดบอกว่าขอจองไว้ก่อน ไว้บ้านเสร็จเราก็จะแต่งงานกัน“ก็บ้านเสร็จแล้วก็เลยจะแต่งค่ะ”“ไม่ได้มีเซอร์ไพรซ์ขอแต่งงานอะไรแบบนี้เหรอ?”“อ่านนิยายมากไปไหมคะ เหนือไม่ได้โรแมนติกอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ เค้ายุ่งจะตายดูแลกิจการโน่นนี่” ฉันยิ้มขำ ความจริงผู้หญิงอย่างเราๆจะแต่งงานทั้งที ใครๆก็อยากมีงานเซอร์ไพรซ์ขอแต่งงานที่ว่าทุกคนแหละ แต่สำหรับฉันตั้งแต่มีเหนือเข้ามาในชีวิต เติมเต็มความรักความอบอุ่นที่ฉันขาดหายไป สร้างความสุขรอยยิ้มเสียงหัวเราะตลอดเวลาสี่ปีที่อยู่ด้วยกัน มันมีค่ามากกว่ามากกว่านั้นหลายเท่า แค่มีเหนือชีวิตฉันก็ไม่ได้ต้องการอะไรแล้วล่ะ“ก็นึกว่าจะโรแมนติกสักหน่อย แหมดีที่หล่อรวยสายเปย์นะ”“อุ้ย แค่สายเปย์เจด้าก็รักหมดใจแล้วล่ะ”“เหรอ? มิน่ายังไม่มี หาพ่อ
Special 3 นานะนั่งมองนาฬิกาเป็นรอบที่ร้อยของวัน วันนี้เหนือจะกลับมาจากการเดินทางไปดูงานที่เยอรมัน เขาไปอยู่ต่างประเทศเกือบสองเดือน อาจเป็นครั้งแรกตั้งแต่เรียนจบที่เขากับเธออยู่ไกลกัน ถึงจะไม่ได้เจอกันหลายเดือน แต่กิจวัตรประจำวันของทั้งสองก็คือการวิดิโอคอลหากัน ไถ่ถามสารทุกสุกดิบสิ่งที่พบเจอในแต่วัน แม้ว่ากายจะห่างกันแต่นานะรู้สึกคล้ายกับว่าเหนือยังอยู่ใกล้ๆเธอตลอดเวลา“โอ้ย ตื่นเต้นอะไรนักหนาแค่หลัวกลับมาในรอบสองเดือน ลำไย” ออมบุญเอ่ยแซวด้วยความหมั่นไส้ในความตื่นเต้นของเพื่อนสาว ทำยังกะเด็กมัธยมกำลังจีบกันไปได้ นี่ก็คบกันมาจนจะสองปีแล้ว“ก็แหม นานะไม่เคยอยู่ห่างจากเหนือเลยนะคะ” คิดถึงอยากกอด อยากได้กลิ่นกายที่เจือน้ำหอมผู้ชายจางๆของเขา เธอคิดถึงทุกอย่างในตัวของเขา“โอ้ย เจได รำคาญคนอินเลิฟว่ะ” เพื่อนหนุ่มหัวใจสาวหันไปหาเพื่อนสาวอีกคนที่กำลังตรวจต้นฉบับนวนิยายของนักเขียนในสังกัด“ไม่มีเหมือนเขาก็เลยอิจฉาว่างั้น ปล่อยให้มันไปเพ้อไปเหอะ ฟังมาตั้งแต่วันที่เหนือขึ้นเครื่องวันแรกจนวันนี้ยังไม่ชินเหรอออมม่า” เจด้ายิ้มขำ“ใครว่าไม่มีมิทราบ มีคนคุยแล้วนะ” ออมบุญจีบปากจีบคอพูดพร้อมกับเชิดหน้าข
Special 2 ฉันกับเหนือกำลังจะจบปีสี่พร้อมๆกัน ช่วงนี้เขามักจะไปทำโปรเจ็กจบที่แลบกับเพื่อนสนิทของเขานั่นก็คือภาคิน เพื่อนรักที่ชอบบ่นว่ารำคาญแฟนของฉันแต่ก็เลิกคบกันไม่ได้เสียที เหนือสวมเสื้อชอปเดินเข้ามาในห้องที่เราอยู่กันมาเกือบปีกว่า จะว่าไปฉันกับเขาก็คบกันมาเท่าๆเวลาที่อยู่คอนโดหน้ามหา’ลัย ใครเลยจะคิดว่าคนอย่างเหนือจะคบใครได้นานเป็นปีๆ จากวันไนต์เลื่อนเป็นเฟรนด์วิธจึงคบหากันเป็นแฟน ไม่มีวันไหนที่ฉันจะไม่รักเขา ยิ่งรักมากขึ้นทุกวันด้วยซ้ำ“เหนื่อยจังเลยวันนี้ ขอชาร์ตพลังหน่อยครับ” ร่างสูงเดินเข้ามากอดฉันพร้อมกับเกยคางที่อกของฉันแล้วถูไปมาอย่างออดอ้อน“มัวแต่หมกมุ่นทำโปรเจ็ก โกนหนวดได้แล้วนะ” ฉันท้วงเพราะไรหนวดถูผิวกายเหนือเนินอกจนเจ็บนิดๆ“โกนให้หน่อยครับ เหนือไม่มีเวลาเลย”“ล่อลวงนานะไปทำอะไรมิดีมิร้ายในห้องน้ำหรือเปล่าเนี่ย” ฉันยิ้มขำ พออาบน้ำด้วยกันทีไรมันก็ไม่จบแค่นั้นหรอก“ไม่ได้เรียกว่าล่อลวงนะครับ เรียกว่าสมยอมเพราะนานะก็ดูจะชอบไม่ใช่เหรอ เหนือรู้นะ”“เกลียดนักคนรู้ทัน” ฉันใช้จมูกหอมที่แก้มแฟนหนุ่มแรงๆ“กินอะไรหรือยังครับ ไปกินข้างนอกนะ วันนี้เหนือเหนื่อยมาก คงไม่ทำอาหารแล้ว”
Special 1 (เหนือ นานะ) love at first sight“เอ้าชน!!” เสียงของภาคินดังกว่าใครในโต๊ะ ตอนนี้เกือบสี่ทุ่มแล้วทุกคนในงานเลี้ยงพี่ปีสี่ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหา’ลัยชื่อดังมีดีกรีสูงกันทั้งนั้น จะมากจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับคำพูดและการทรงตัว ผมดื่มเป็นแก้วที่เท่าไหร่ไม่รู้ รู้แต่ตอนนี้อุณภูมิร่างกายเริ่มสูงขึ้นเกิดความต้องการเรื่องอย่างว่าขึ้นมา อาการมึนศีรษะก็เริ่มตามมา แสดงว่ามีใครสักคนตั้งใจใส่ยาปลุกเซ็กซ์ในเหล้าอย่างนั้นเหรอ?“เหนือ เมามากเหรอ? ไปนอนก่อนไหม ท่าจะไม่ไหวแล้วนะ นี่คีย์การ์ดพลอยจองห้องไว้นอน ขี้เกียจขับรถกลับ เหนือไปนอนเลยเดี๋ยวพลอยนอนห้องเดียวกับเพชรก็ได้” พริมพลอยเพื่อนสาวคนเดียวในกลุ่มเอียงหน้าเข้ามาพูดใกล้ๆ มือเรียวเล็กแตะลงที่ไหล่ของผมอย่างจงใจ ผมไม่ทันได้สนใจอะไรตอนนี้ขอแค่ได้ไปนอนในห้องดื่มน้ำเปล่าอึกใหญ่ๆแล้วข่มตานอนน่าจะช่วยได้ ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะไม่เคยโดนยานี้มาก่อน ถ้ายังอยู่ในงานกลัวจะลากใครสักคนเข้าห้องไปด้วย“ขอบใจนะ” ผมรับคีย์การ์ดจากพริมพลอยและรีบเดินไปขึ้นลิฟท์ทันที พอถึงชั้นแปดก็เดินไปยังห้องที่เพื่อนสาวเช่าไว้ ทว่าก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้อง รู้สึกเหมือ
Chapter 30“นานะไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น” เหนือเอ่ยขึ้นพร้อมกับยกยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย ผู้ชายที่โมโหจนชกหน้าเพื่อนสนิทคนนั้นอยู่ๆก็เปลี่ยนอารมณ์จนคนในห้องตามไม่ทัน“แล้วจะให้นานะอยู่ต่อทำไมในเมื่อเหนือไม่เชื่อใจนานะ เพราะเหนือตัดสินนานะกับคินว่าต้องเป็นเหมือนในคลิปไปแล้ว” นานะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าอย่างกลั้นไม่อยู่“ใช่ มึงยังเห็นกูเป็นเพื่อนอยู่ไหม ไม่ฟังอะไรกูเลย ดีแล้วนานะเลิกคบกับมันเลย ถ้ามันจะหูเบาตามืดบอดเชื่ออะไรง่ายๆขนาดนี้” ภาคินเสริมขึ้นด้วยความโมโห เขาใช้มือเช็ดเลือดที่มุมปากในใจผิดหวังในตัวเพื่อนรักที่คบกันมาตั้งแต่อนุบาลยันมหา’ลัย“อิงฟ้าแอบถ่ายแน่ๆเลยเหนือ แล้วทำไมคินกับนานะถึงได้นัดพบกันที่โรงแรม” พริมพลอยแสร้งตีหน้าครุ่นคิดเพื่อเพิ่มเชื้อไฟหึงหวงให้เหนือ “ไม่ต้องพูดอะไรแล้วพลอย เหนือรู้ความจริงหมดแล้ว” มือหนามองคลิปในมือถือของพริมพลอยอีกครั้ง ก่อนจะขว้างโทรศัพท์ของเพื่อนสาวกระทบผนังห้องอย่างแรง“เหนือ มึงขว้างโทรศัพท์พี่กูทำไมวะ” เพชรถามอย่างไม่พอใจ เขานิ่งเงียบมานาน เมื่อเห็นเพื่อนกำลังทำลายของสำคัญของพี่สาวก็นึกโมโหแทน“เพื่อให้คลิปนี้ไม่ถูกส่งต่อ” เหนือตอบสั้นๆแล้ว