Share

บทที่ 4-3

Penulis: SUNISAYOK
last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-23 15:12:47

และที่ฉันกลัวไม่ใช่อะไร นอกจากด่านตรวจคนเข้าเมืองที่จะต้องพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษอย่างไรเล่า! ที่ฉันฝึกมามันสูญเปล่ามาก เพราะว่า ฉัน-จำ-อะไร-ไม่-ได้-เลย! ความกลัวนำพาสมองฉันว่างเปล่ามากตอนนี้

“เลิกพูดสักที ฉันก็เริ่มจะกลัวพอ ๆ กับแกแล้วนะโว้ย!” ฉันหันหลังไปด่ามันเบา ๆ ไม่งั้นคนอื่นได้มองฉันกับมันอย่างน่าสมเพชแน่นอนที่ดันโง่ภาษา

“ก็ฉันกลัวนี่แก” ยัง มันยังไม่หยุดอีก

“งั้นแกไปก่อนเลยพูดมากนัก!” ฉันรีบเดินสลับที่กับมัน ซึ่งเป็นจังหวะประจวบเหมาะพอดีที่คิวต่อไปจะเป็นคิวของฉันพอดี และแน่นอนว่ามันก็ช่วยไม่ได้เพราะยัยพิ้งถูกเรียกเข้าไปถามคำถามแล้ว มันมองฉันด้วยสายตาอาฆาตแค้นมาก แต่ฉันไม่สนใจหรอกย่ะ ฮิฮิ

เยาะเย้ยมันได้ไม่นานหรอก มันก็แลบลิ้นส่งมาให้ฉันเมื่อแฟนของมันที่เรียนคณะวิทย์รีบวิ่งเข้ามาตอบคำถามแทนมัน และช่วยมันพูดคุยกับพี่เจ้าหน้าที่ จนในที่สุดมันก็เดินผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองไป

“ซวยแน่ฉัน ไม่น่าไปแกล้งมันเลย!” ฉันบ่นกับตัวเองแล้วก็พยายามก้าวขาช้า ๆ ไปหาพี่เจ้าหน้าที่ ถ้าฉันไม่แกล้งมันป่านนี้มันคงให้แฟนมันมาช่วยฉันแล้ว

“Hello” ฉันพ่นคำทักทายอย่างสุภาพที่ฉันพอจะรู้ออกไป พร้อมกับยื่นเอกสารที่ฉันแอบเห็นว่ายัยพิ้งมันส่งอะไรให้เจ้าหน้าที่ไปบ้าง

ส่วนเจ้าหน้าที่ไม่ตอบอะไร แต่ก้มหน้าดูเอกสารและรูปในพาสปอร์ตสลับกับหน้าของฉันแทน พร้อมกับเอ่ยอะไรบางอย่างออกมา และใช่ค่ะ ฉันแปลไม่ออก

“What’s the purpose of your visit?” อะไร มันแปลว่าอารายยยย!!! ไม่พอนะเจ้าหน้าที่ก็ดันมองฉันอย่างกดดันอีก ตาย ๆ ทำไงดีละเนี่ย

“Study” ไม่ใช่เสียงของฉันที่ตอบแต่เป็นเสียงของคนด้านข้างฉันแทน พอหันไปดูก็เห็นเป็นพี่โลคานั่นเอง แต่พี่เขาไม่ได้หันมามองฉันสักนิดเลยนะ และดูเหมือนพี่เขาก็กำลังจะตอบคำถามอยู่เหมือนกัน

ใช่สิ ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ก็ถามคำถามที่คล้ายกันนี่นา งั้นฉันก็ตอบตามที่พี่โลคาพูดได้นะสิ ดีนะที่พี่เขาพูดเสียงดังพอให้ฉันแอบได้ยินด้วย

“I say what’s the purpose of your visit?” เจ้าหน้าที่ถามฉันอีกรอบเมื่อเห็นว่าฉันเงียบและไม่ตอบอะไร ถ้าฉันเดาไม่ผิดเขาจะต้องถามคำถามเดิมแน่ ๆ เพราะเขาพูดซ้ำคำเดิมกับที่พูดก่อนหน้านี้ ฉันเลยต้องรีบตอบกลับเจ้าหน้าที่ไปเพราะเขาเริ่มมองฉันไม่ดีแล้ว

“Study” ฉันตอบออกไปพร้อมกับยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้

“Is this your first time here?” ยังไม่จบอีกเหรอ แล้วมันแปลว่าไรอีกเนี่ย รู้งี้น่าจะตั้งใจเรียนภาษาดีกว่า

“Yes, this is my first time” เป็นเสียงพี่โลคา (อีกแล้ว) ที่พูดเสียงดัง ฉันว่าพี่เขาควรจะต้องไปเช็กหูนะเพราะพี่เขาพูดเสียงดังมากเลย แต่ก็ดีหน่อยเพราะฉันจะได้ลอกคำตอบจากพี่เขาไปเลย

“Yes” ฉันจำได้แค่คำว่า ‘Yes’ นอกนั้นฉันจำไม่ได้ เพราะงั้นก็ตอบแค่นี้น่าจะได้อยู่มั้ง

เย้! และแล้วฉันก็ผ่านด่านตรวจได้อย่างเฉียดฉิว แม้จะมีหลายคำถามมากมายก็เถอะ แต่ดีนะที่คำถามมันดันตรงกับของพี่เขาพอดี ฉันเลยลอกคำพูดพี่เขามาตอบจนผ่าน และมายืนสบายใจได้อยู่แบบนี้เนี่ย

สงสัยต้องไปขอบคุณพี่โลคาสักหน่อยแล้ว อืม...ว่าแต่พี่เขาไปไหนละเนี่ย

“นั่นไง! พี่โลคาคะ” ฉันวิ่งสุดแรงเกิดเพื่อจะไล่ตามพี่เขาให้ทัน ให้ตายสิทำไมพี่เขาถึงได้เดินเร็วขนาดนั้นนะ หรือว่าผิดที่ฉันดันเกิดมาขาสั้นละเนี่ย

“มีอะไร?” พี่เขาหยุดเดินแล้วหันมามองฉันที่กำลังก้มตัวหอบหายใจอยู่

“แฮ่ก ๆ ขะ...ขอบคุณนะคะ” ฉันพยายามปรับการหายใจเข้าออกให้บาลานซ์ที่สุด แต่ก็ยังคงมีเสียงหอบหายใจแทรกเข้าไปอยู่ดี

“เรื่อง?” เออนั่นสิ! แล้วฉันจะบอกพี่เขาไปอย่างไรดี แบบว่าขอบคุณที่พูดเสียงดังให้ฉันลอกคำตอบงั้นเหรอ  ไม่ได้สิ ไม่งั้นพี่เขาก็ต้องรู้นะสิว่าฉันโง่อะ เอาไงดีวะ

“เอ่อ...คือว่า ขอบคุณที่ไปส่งหนูที่บ้านเมื่อวันก่อนน่ะค่ะ” อะไรของแกเนี่ยยัยเน่! แกก็เคยขอบคุณพี่เขาไปแล้วไม่ใช่เหรอโอ๊ย!

“อืม” ว่าจบพี่เขาก็หันหลังเดินออกไป ฉันได้แต่ยืนทำหน้าเศร้ามองพี่เขาที่กำลังเดินออกไปอย่างเสียดาย อุตส่าห์ได้คุยกันแล้วแท้ ๆ

“เฮ้อ ยัยเน่นะยัยเน่!” ฉันยืนคอตกโทษตัวเองที่ดันเผลอไปพูดอะไรไม่เข้าเรื่อง และพี่เขาก็ดันจบบทสนทนาได้สวยมากจนฉันไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี

แต่แล้วฉันก็ต้องเงยหน้าขึ้นมามองที่พี่เขาอีกรอบเมื่อได้ยินเสียงของอีกฝ่ายเอ่ยพูดขึ้น

“ถ้าคุณมีเวลาว่างขนาดที่มาตามผมได้ ผมว่าคุณควรเอาเวลานี้ไปเรียนเพิ่มนะ จะได้ไม่เป็นภาระ” และนั่นเป็นบทสนทนาสุดท้ายที่พี่เขาพูดออกมา ก่อนที่พี่เขาจะเดินออกไปจนลับตา

ส่วนฉันนะเหรอ...ได้แต่ยืนนิ่งอ้าปากค้าง เพราะคำพูดของพี่เขาที่มันฟังดูเหมือนว่าจะเป็นคำด่าก็ไม่ใช่ จะเป็นคำแนะนำก็ไม่เชิง เพราะพี่เขาดันพูดว่าฉันด้วยคำว่า ‘ภาระ’ อะไรนั้นออกมาด้วยไง

“ภาระงั้นเหรอ...นี่อย่าบอกนะว่า” ฉันยิ้มหน้าบานเป็นกระด้งอย่างไม่อายใครพร้อมกับบิดตัวไปมา มือทั้งสองข้างจับเข้าที่หน้าร้อน ๆ ของตัวเองอย่างเคอะเขิน เมื่อคิดได้ว่าคำว่าภาระที่พี่โลคาพูดออกมามันหมายความว่าอย่างไร อร้ายยยย

ถึงมันจะดูออกว่าเป็นคำว่าคำด่าก็เถอะ แต่ฉันไม่สนใจหรอก ฉันให้อภัยคุณว่าที่สามีในอนาคตได้ค่ะ ^3^

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • GENTLEMAN บุรุษเย็นชา   บทที่ 30 END-3

    “พี่หิวไหมคะ เดี๋ยวเน่จะได้ไปจัดโต๊ะให้” ฉันเดินเข้าช่วยพี่โลคาถอดเสื้อนอกออก จากนั้นก็ถือเสื้อนอกไว้ในมือตัวเอง พลางถามคนตรงหน้าที่เพิ่งกลับมาจากที่ทำงานเหนื่อย ๆพี่โลคาตอนนี้ขึ้นทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการของโรงพยาบาลแทนแม่พี่เขาแล้ว พ่วงด้วยดูแลมหา’ลัยแยกอีก แต่ดีที่การดูแลมหา’ลัยไม่ได้ลำบากมากนัก เพราะการเป็นอธิการบดีไม่จำเป็นต้องเข้าไปดูแลทุกวันเหมือนกับโรงพยาบาล จึงไม่ใช่งานหนักอะไรพี่โลคาของฉันไม่ได้จบปริญาโทเท่านั้น แต่พี่โลคาใฝ่เรียนจนจบเด็กเตอร์เหมือนกับพ่อแม่ของตัวเองได้ในอายุที่ยังน้อย ส่วนฉันจบตรีได้ก็ถือว่าบุญมากแล้ว T^T“ครับ มานี่ก่อนเร็ว” ฉันเดินเข้าไปหาพี่โลคาด้วยสีหน้ายิ้ม ทุกครั้งที่พี่เขากลับมักจะอ้อนแบบนี้ตลอด ฉันรู้ดีว่าพี่เขาจะทำอะไร เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาพี่เขาก็มักจะทำแบบนี้เสมอเวลาที่กลับมาบ้านหรือว่าจะออกไปทำงานฟอด~ “หายเหนื่อยเลยครับ” ปากหวานตลอด ฉันไม่อยากจะบอกเลยว่ายิ่งอยู่กับพี่โลคานานขึ้นพี่โลคาก็มักจะทำอะไรที่ฉันไม่คาดคิดมาก่อนเสมอ ไม่ว่าจะชอบชมฉัน ชอบเซอร์ไพรส์ทุกครั้งที่เป็นวันเกิดหรือวันครบรอบ เอาเป็นว่าพี่เขาโรแมนติกมากขึ้นเรื่อย ๆ เ

  • GENTLEMAN บุรุษเย็นชา   บทที่ 30 END-2

    “รับผิดชอบยัยหนูด้วยการหมั้นไงละครับ” หมั้นอย่างนั้นเหรอ! “หา! หมะ...หมั้นเหรอคะ!” ฉันมองแม่พี่โลคากับพี่โลคาสลับกันไปมาด้วยความตกใจ “เรียนจบเมื่อไหร่แม่สัญญาว่าจะรีบจัดงานแต่งงานให้ไวที่สุดเลย เพราะงั้นหนูเลเน่รีบเรียนให้จบไว ๆ นะลูก ส่วนเรื่องมหา’ลัยถ้าหนูอยากกลับมาเรียนที่เดิมก็ไม่เป็นปัญหา แม่จะไปคุยกับพ่อพี่เขาให้เอง” เรื่องหมั้นฉันยังตกใจไม่หาย นี่มาเรื่องเรียนจบแล้วแต่งงานอีก ให้ตายเถอะ “เอ่อ...คือว่า เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่ หนูคงต้องขอคุยกับแม่ก่อนค่ะ” ฉันพูดออกไปด้วยความนอบน้อม เรื่องหมั้นเรื่องแต่งงานมันเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก แถมวันนี้แม่ฉันก็ไม่ได้มานั่งฟังด้วย เพราะงั้นฉันต้องไปเล่าให้แม่ฟังก่อน “เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเลย เดี๋ยวแม่จะไปคุยกับพราวเองจ้ะ” ฉันยิ้มให้แม่พี่โลคา แต่ภายในใจก็รู้สึกกังวลกลัวว่าแม่ฉันจะไม่ยอม เอาจริงแล้วฉันดีใจมากที่จะได้หมั้นกับพี่โลคา แต่แค่กลัวว่าที่พี่เขาทำแบบนี้มันจะเป็นเพราะโดนบังคับให้ทำหรือเปล่า พี่เขาเต็มใจใช่ไหม...เวลา 13.23 น. “พี่โลคาแน่ใจแล้วเหรอคะว่าอยากจะหมั้นกับเน่จริ

  • GENTLEMAN บุรุษเย็นชา   บทที่ 30 END-1

    ผลั๊ก! เสียงกระชากเปิดประตูของฉันดังขึ้น เรียกความสนใจให้สองแม่ลูกที่นั่งอยู่ตรงโซฟาต่างหันมามองที่ฉันเป็นทางเดียว ฉันพยายามใช้มือลูบผมที่กำลังยุ่งให้ดูเรียบร้อยขึ้นแล้วเดินไปยกมือไหว้แม่พี่โลคาด้วยท่าทางเกร็ง แม่พี่โลคาเองก็พยักหน้ารับไหว้ฉันเหมือนกัน “หนะ...หนูอธิบายได้นะคะ ท่านกำลังเข้าใจผิด” ฉันพูดด้วยเสียงตะกุกตะกัก รีบเดินไปทางแม่พี่โลคาเพื่อจะอธิบายเรื่องนี้ไปในทางที่ดี แม้ฉันจะต้องโกหกท่านก็เถอะ แต่เพื่ออนาคตพี่เขาแล้วฉันจะทำตัวน่าสงสัยแบบนี้ไม่ได้ “ไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น เห็นเต็มสองตาขนาดนี้ยังจะแก้ตัวอะไรได้อีก” แม่พี่โลคาพูดในขณะที่สายตายังคงจ้องหน้าลูกชายตัวเองด้วยความโมโห “ท่านคะ! เป็นความผิดหนูเองค่ะ คือ...คือหนูอะ...อ่อยพี่เขาค่ะ! หนูสัญญาค่ะว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก” ฉันวิ่งเข้าไปนั่งกอดขาแม่พี่โลคาพลางพูดรัวพูดมั่วไปหมด คิดอะไรได้ก็พูดเพื่อให้พี่โลคาไม่ซวย “ยัยหนู!/หนูเลเน่!” ฉันมองทั้งสองคนด้วยความงุนงง เนื่องจากทั้งสองต่างพากันเข้ามาจับฉันให้ยืนขึ้น “เลเน่ ทำไมหนูทำแบบนี้ละลูก” ฉันมึนเ

  • GENTLEMAN บุรุษเย็นชา   บทที่ 29 NC-2

    “อ๊า” ฉันนอนหอบหายใจเมื่อตัวเองได้ปลดปล่อยบางอย่างออกมา ฉันรู้สึกโล่งตัวอย่างบอกไม่ถูก แต่เพียงแค่แป๊บเดียวเท่านั้น เพราะตอนนี้ฉันกำลังจะกลับมาเกร็งอีกรอบเมื่อเห็นว่าพี่โลคาขยับตัวลงมานั่งติดกับส่วนนั้นของฉัน “พะ...พี่โลคา” ฉันพูดด้วยเสียงหอบหมายจะห้ามพี่เขา แต่ทำไมเหมือนกับว่าตรงส่วนนั้นมันขยายใหญ่มากขึ้นกว่าเดิมได้ล่ะ แถมมัยยังกระตุกขยับไปมาเล็กน้อยอีกด้วย “รู้ตัวไหมเวลาที่ยัยหนูนอนพูดด้วยสีหน้าแบบนั้นมันทำให้พี่มีอารมณ์มากขึ้นแค่ไหน” พี่โลคาชักรูดส่วนนั้นของตัวเองพลางมองหน้าฉันไปด้วย ไม่นานพี่โลคาก็ใช้แขนมาค้ำยันลงที่ข้างหูฉัน อีกมือก็จัดการจับเจ้าส่วนนั้นของพี่โลคามาถูที่น้องสาวสุดหวงของฉันไปด้วย “อือ ดะ...เดี๋ยวสิคะ” แม้ฉันจะร้องห้ามแต่ขาทั้งสองข้างของตัวเองกลับขยับออกห่างเองโดยอัตโนมัติ เพื่อให้สิ่งนั้นถูไถได้ง่ายขึ้น “ชอบเหรอครับ” พี่โลคายิ้มมุมปาก พลางก้มหน้าจ้องมองฉันที่กำลังใช้มือปิดปากตัวเองไว้เพราะไม่อยากส่งเสียงน่าเกลียดออกมา แต่ภายในใจจริง ๆ ก็กำลังก่นด่าตัวเองด้วยที่ดันไปขยับขาออกเพื่อรับสัมผัสอย่างน่าอับอาย “ส

  • GENTLEMAN บุรุษเย็นชา   บทที่ 29 NC-1

    “ปล่อย” ฉันพูดด้วยเสียงนิ่งและจริงจังเพื่อให้อีกคนรับรู้ว่าฉันไม่ได้พูดเล่น ส่วนพี่โลคานางก็เลิกยุกยิกกับฉันเลยเมื่อเห็นว่าฉันเริ่มจะไม่มีท่าทีเล่นแล้ว “ยัยหนู...” พี่โลคากอดเอวฉันจากทางด้านหลังไว้หลวม ๆ พลางเกยคางไว้บนไหล่ของฉัน จากนั้นนางก็เริ่มเรียกฉันแบบที่ชอบเรียกด้วยเสียงอ้อน “ออกไป เน่ขอร้อง” เสียงของฉันเริ่มจะสั่นเครือแล้ว ความรู้สึกของฉันมันเริ่มจะไม่เชื่อฟังตัวฉันซะแล้ว ยอมรับเลยว่าวันนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมาก แต่มันเป็นความสุขที่ฉันจะต้องเก็บเอาไว้ภายใต้จิตใจของฉัน ฉันพยายามแสดงออกให้พี่เขาเห็นมากที่สุดว่าฉันไม่ต้องการกลับไปยุ่งกับพี่เขาแล้ว “อย่าไล่พี่ ยัยหนูไม่รักพี่แล้วงั้นเหรอ” ฉันจุกกับคำพูดของพี่เขาจนตัวเองนั่งนิ่งเงียบไป ไม่รักงั้นเหรอ เหอะ! ถ้าฉันไม่รักพี่เขาฉันก็คงไม่ยอมให้ตัวเองมาทรมานแบบนี้หรอก “…” พี่โลคาจับฉันให้นั่งหมุนตัวหันไปตรงหน้าพี่เขา เราสองคนต่างมองตากันด้วยความรู้สึกที่ต่างฝ่ายต่างรู้ดีว่าอีกคนคิดอย่างไรกับเรา ใบหน้าพี่เขาเริ่มเลื่อนเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้นเรื่อย ๆ “คิดถึง” พี่

  • GENTLEMAN บุรุษเย็นชา   บทที่ 28-2

    กลับไปก็ต้องรีบไปทำควิซอีก เพื่อเก็บคะแนนตรงนี้ให้เป็นคะแนนช่วยเวลาที่คะแนนสอบออกมาได้ไม่ดีอะไรแบบนี้ วิชานี้เป็นวิชาที่ยากมากพอสมควรเลยคอนโดเลเน่ พอฉันเปิดประตูเข้าไป จมูกก็ได้กลิ่นหอมออกมาจากทางห้องครัว ไม่ต้องบอกก็พอเดาได้ว่าใครเข้ามาในห้องของฉันถ้าไม่ใช่พี่โลคา ส่วนที่นางเข้ามาได้อย่างไรอันนี้ฉันคงไม่ต้องไปคิดให้ปวดหัว คงจะใช้อำนาจอีกนั่นแหละ “กลับมาแล้วเหรอครับ หิวไหม?” พี่โลคาหันกลับมามองฉันที่เดินตามกลิ่นหอมยั่วยวนนี้เข้ามาในห้องครัว ฉันแอบตกใจและแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้เห็นพี่โลคาในมุมที่ใส่ชุดแบบนี้ พี่เขาสวมผ้ากันเปื้อนลายกระต่ายสีชมพูของฉันอยู่นะสิ อยากขำนะแต่ต้องเก๊กหน้านิ่งเอาไว้ก่อน “ใครอนุญาตให้พี่เข้ามาทำอาหารในนี้กันคะ” ฉันยืนกอดอกพูดกับพี่เขาด้วยน้ำเสียงเข้มแบบที่พี่เขาเคยทำใส่ฉัน “พี่อนุญาตตัวเอง ไปนั่งรอก่อนจะเสร็จแล้ว” คนหน้ามึนพูดจบก็หันกลับไปทำกับข้าวต่อโดยไม่สนใจเลยว่าฉันยืนจ้องตาเขม็ง สุดท้ายฉันก็ต้องยอมแพ้ออกมานั่งเปิดโน้ตบุ๊กเพื่อทำควิซแทน “ยากจัง” ฉันนั่งทำควิซมาได้สักพักแล้วแต่ก็ยังไม่เ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status