“เฮียแม่งงงง เจ๊าะแจ๊ะผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าผมอ่ะ!” ฉันเหวอ รีบผละตัวออกจากคนตัวใหญ่ข้างๆ กายทันที เมื่อยังไม่ทันได้ทำอะไรจู่ๆ ตัวใหญ่ๆ ของเล้งก็โถมทับเข้ามากอดฉลามดุทั้งตัวจนเขาต้องผละออกห่างจากฉันไปด้วย ดูเหมือนเล้งนี่ล่ะจะเมาจริงจังแล้ว เขาถูไถใบหน้าไปมากับท้ายทอยของฉลามดุที่เริ่มมีสีหน้าหงุดหงิดแล้วคร่ำครวญ “พวกมึงดูดิ เฮียแม่งชอบทำร้ายกูอ่ะ เศร้า”
“เหี้ยเล้งเมาล่ะ พี่ต้องจัดการมันหน่อย” เสียงพวกเพื่อนๆ ของเขาหัวเราะลั่นขึ้นมา แล้วฉลามดุก็หันมาดึงคอเสื้อของเขาออก “พี่เดี่ยวยังไม่ทันมา กูว่าถ้าพี่แกมาแม่งคงสร่าง”
“มาเอามันออกไปจากหลังกูทีดิ๊” ฉลามดุหันไปสั่งลูกน้องของเขาที่พยักหน้ารับทันทีพร้อมกับกันตัวเล้งที่อยู่ๆ ก็ฟูมฟายเสียงดังออกไป แล้วหยิบบุหรี่ขึ้นมาจะสูบ แต่เขาก็ชะงักแล้วเหลือบมามองฉัน แล้วจู่ๆ เขาก็เก็บมันใส่กระเป๋ากางเกงไปซะเฉยๆ
“ไมวะพี่ ไม่ดูดบุหรี่เหรอ” ลูกน้องที่จับคนที่ชื่อเล้งไว้ทางด้านขวาถามขึ้นเมื่อสังเกตเห็นท่าทีของเขา แล้วฉลามดุก็เหลือบมามองฉันอีกจนฉันต้องเอียงคอสงสัย
“ไม่” เสียงของเขาจริงจังมาก “มีคนขอให้เลิก”
เดี๋ยวก่อนนะ
เขาหมายถึงฉันรึเปล่าอ่ะ?
“แน่ะเฮีย! ทีไอ้เล้งขอให้เลิกเป็นเพื่อนมันไม่ยอมเลิกนะครับ”
“น้องกับผู้หญิงมันคนละอย่างกันปะ” ร่างสูงพยายามแก้ต่างด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่ฉันเห็นว่าใบหูของเขาแดงมากเลย แต่... เดี๋ยวสิ เขาเลิกบุหรี่ให้ฉันจริงๆ เหรอ? ก็แค่พูดไปตามที่เขาถามเท่านั้น ไม่ได้คิดจะให้เลิกจริงๆ สักหน่อย
แต่... จู่ๆ ฉันก็นึกถึงคำของฉลามดุในคืนนั้นที่ลงไปหาเขาด้านล่างหอพักขึ้นมา
“ไม่ชอบคนสูบบุหรี่?”
“อื้อ ไม่ชอบ”
“งั้นเดี๋ยวเราเลิกให้”
เขาเลิกให้ฉันจริงๆ เหรอ ฉันนึกว่าเขาจะพูดไปส่งๆ ไม่คิดจริงจังซะอีก
“พี่แม่ง สูบมาจะหกเจ็ดปีมาเลิกเพราะติดหญิงอ่ะ”
“แล้ว?”
“อีแบบนี้มันมีแววกลัวเมียเห็นๆ เลย ฮ่าๆ”
“ไอ้น้องเวร ถ้ามึงล้ออีกทีกูจะฟ้องนิ้งล่ะ” ฉันเหวอไปเลยเมื่ออีกฝ่ายพูดติดตลกกับน้องๆ ของเขาไม่ทันไร จู่ๆ คนตัวโตก็หันเข้ามาคว้าต้นคอของฉันเข้ามาโอบแล้วเอาหน้าซุกมาที่ท้ายทอยของฉันเหมือนจะเด็กน้อยที่กำลังถูกรังแกแล้วกำลังงอแง “นิ้ง พวกมันแกล้งเราอ่ะ นิ้งตบหัวแม่งให้หน่อยดิ”
“ดะ เดี๋ยว...”
“เฮีย! ทำไมต้องหลบหลังนิ้งไรนั่นอ่ะ ผมงงมาก” ยังไม่ทันที่ฉันจะอ้าปากพูดอะไรด้วยซ้ำ จู่ๆ เล้งที่นั่งสะอึกเงียบๆ อยู่คนเดียวก็โพล่งขึ้นมาเสียงดังลั่นร้าน ทุกคนเหวอ ในขณะที่เขาจะไล่ชี้หน้าผู้ชายทุกคนบนโต๊ะ “แล้วผมก็งงมากว่าทำไมวะ มึงก็มีเมีย มึงก็มีเมีย เฮียก็มีเมีย แล้วทำไมกูถึงไม่มี!!”
“มึงหน้าเหี้ยมั้ง” เพื่อนอีกคนสวนขึ้นมา แล้วเล้งก็เหมือนโมโห เขาผุดลุกออกจากเก้าอี้เสียงดังมากแต่อยู่ดีๆ ก็เซไปเซมา
“หน้ากูเหี้ยเหรอ? เออ!! หน้าเหี้ยแล้วไง ก็เร้าใจอ่ะ เข้าใจคำว่าถึงหน้าผมจะเหี้ยแต่ทำเธอเพลียได้ป่าวค้าบ!” ฉันเผยอปากค้างเมื่อเขาเริ่มพูดอะไรเรื่อยเปื่อยในขณะที่ฉลามดุจะแค่นหัวเราะชิดกับไหล่ฉัน แล้วเขาก็ผละออกไปเพื่อพูดกับเล้ง
“มึงเมาเหรอไอ้เล้ง?”
“ไรเฮีย! ตลกล่ะ ผมไม่ได้เมา” แต่ฉันว่าเขาเมามากแล้วล่ะ จริงๆ นะ “ก่อนหน้าเฮียมาผมดกๆ เป็นขวดเลยนะบอกไว้ก่อน!!”
“งั้นก็เอาอีกแก้ว มา เดี๋ยวกูชงให้เอง” ฉันทำตาโตเมื่อฉลามดุหัวเราะแล้วชงเหล้าให้เล้ง ฉันดูไม่ออกหรอกว่าเขาชงกันแบบไหน แต่ได้ยินคนอื่นๆ พูดว่า เข้มไปๆ อยู่นั่นแหละ “เอ้าน้องรัก ชนกับกู”
“เฮียจะมอมผมปะ” เล้งพูดด้วยน้ำเสียงยานคาง หน้าเขาเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นตอนรับแก้วเหล้าเข้าไปชนกับแก้วของฉลามดุ “เหี้ยยยย! กลิ่นเหล้าแรงอ่ะ เฮียแม่งมอมผมชัดๆ อึก”
แต่เขาก็ยกดื่มอยู่ดี
“กูมอมแม่งเองแหละเฮีย” ลูกน้องอีกคนหันมากระซิบกระซาบกับฉลามดุที่มีสีหน้าชอบใจ “กะว่าเดี๋ยวจะพามันไปร้องเพลงต่อที่ผับพี่วิน”
ฉันเงี่ยหูฟังสิ่งที่พวกเขาคุยกันแล้วก็ได้แต่ทำหน้ามุ่ยเล็กๆ อย่างไม่เข้าใจ
ผับงั้นเหรอ? พูดอะไรกันเนี่ย ฉันเริ่มจะฟังไม่เข้าใจแล้วนะ
“มึงก็ชอบไปแกล้งมัน” ฉลามดุส่ายหน้าทันที “จะพามันไปไหนก็พากลับดีๆ”
“เออน่าเฮีย มอมมันจนชินแล้วมั้ง” น้องๆ เขาหัวเราะ ก่อนที่จะหันไปให้ความสนใจกับเล้งที่โหวกเหวกโวยวายต่อหลังจากดื่มแก้วนั้นไป ฉันมัวแต่มึนงงจนลืมสั่งอาหาร ฉลามดุที่นั่งชงเหล้าเองเลยหันมาให้ความสนใจแทน
“สรุปเลือกได้ยัง?”
“เอ่อ สั่งรวมๆ เลยได้มั้ยอ่ะ” ฉันถาม เพราะอยากกินก๋วยเตี๋ยวหม้อไฟ ทำไมมากับเขาทีไรต้องรู้สึกอยากกินก๋วยเตี๋ยวทุกทีเลยนะ “เราอยากกินก๋วยเตี๋ยวอันนี้”
“ได้ดิ เดี๋ยวช่วยกิน อีกนานกว่าพวกมันจะกลับ” อีกฝ่ายพูดอย่างใจดี ฉันเลยยิ้มเล็กๆ ให้เขานิดหน่อย แล้วตั้งท่าจะวางเมนูลงที่ตักเพราะไม่อยากรบกวนพื้นที่คนอื่น แต่ก็ถูกฉลามดุฉวยเอาไปวางข้างหลังเก้าอี้ของเขาแทน แล้วเขาก็พูด “ฝากไว้กับเราได้นะ”
“เอ่อ...” ฉันชะงักไป หน้าร้อนนิดๆ ก่อนที่จะเอ่ยขอบคุณเขา “ขอบคุณนะ”
“เปล่า เราไม่ได้หมายถึงเมนูอาหาร”
“...”
“หมายถึงใจเธออ่ะ ฝากไว้กับเราได้”
[พาร์ท : ฉลามดุ]
ทันทีที่ผมพูดประโยคนั้นจบ แก้มของคะนิ้งก็แดงจัดจนเห็นเส้นเลือดฝาด
เธออ้าปากค้าง แต่น่ารักชิบหาย ผมก็เลยกระดกเหล้าเย็นๆ ลงคออีกทีแล้วนั่งยิ้มอยู่คนเดียว หรือผมจะเมาแล้ววะ? ทำไมยิ่งมองหน้าเธอแล้วหยุดมองไม่ได้ เหมือนโรคจิตก็ไม่ต่าง
“ยะ... ยังไม่ฝากได้มั้ย?” เธอถามผมกลับมาด้วยว่ะ แต่ไม่ได้ถามแบบกวนตีนนะ เธอถามเหมือนกลัวว่าผมจะรู้สึกแย่ ผมก็เลยกระตุกยิ้มกลับ เพราะผมไม่คิดมากหรอก
“ได้”
“...”
“เดี๋ยวเธอก็ให้เราเองอ่ะ” ผมก็ไม่มั่นใจหรอก แต่พูดไว้เผื่อเธอจะเปลี่ยนใจ แค่เมื่อกี้ไอ้เล้งมันเมาแย่งซีนผมก็พอล่ะ ครั้งนี้ผมขอตีตื้นทำคะแนนกลับบ้าง “เธอยังดูเราไม่ถึงเดือนเลยนิ้ง เผลอๆ พอถึงเดือนเธออาจจะรักเราเลยก็ได้”
“...”
“อนาคตไม่แน่นอน” ผมพูดแล้วมองเธอด้วยแววตาที่สื่อความหมายบางอย่างที่เธอน่าจะเข้าใจ ผมจะไม่เลิกจีบเธอ จะไม่เบื่อเธอด้วย ผมชอบนิ้งจากใจจริง ชอบมาตั้งแต่เจอหน้าครั้งแรก จากที่มากอยู่แล้วก็มากขึ้นทุกวัน
เธอน่ารัก เธอสวย เธอขี้แย และเธอซุ่มซ่าม เรียบร้อย ทุกอย่างที่นิ้งเป็น คือสเป็คในใจผม
อนาคตผมไม่รู้หรอกว่าผมจะทำตัวเหี้ยใส่เธอมั้ย แต่เวลาผมชอบใครผมให้เต็มร้อย ให้แม่งหมด ชอบขนาดนี้ผมก็จะชอบไปจนตาย
เหมือนที่เคยจะรู้สึกกับพราว... แต่เธอก็ทิ้งผมไปมีคนอื่นก่อน
“... ก็ไม่รู้สิ” นิ้งคงไม่รู้จะตอบผมว่ายังไง เธอก้มหน้างุด ผมมองหน้าเธอโคตรเพลิน จนมันสะดุดเพราะมีไอ้แก่ขี้เมาคนหนึ่งเซมาชนกับโต๊ะจนน้ำส้มหกใส่ชุดนักศึกษาของนิ้ง วินาทีนั้นเสื้อขาวๆ ของเธอก็เปียก แล้วเพราะเธอใส่ชั้นในสีเข้ม มันก็เลยเห็น...
“เวร!” ผมสบถออกมาทันทีพร้อมกับวางแก้วเหล้ากระแทกกับโต๊ะไม้เสียงดัง คว้าตัวของคะนิ้งที่ทำหน้าตกใจสุดขีดเข้าหาตัวผม ในขณะที่ไอ้แก่นั่นยกมือไหว้ขอโทษขอโพยใหญ่ นั่นเพราะผมดูมีท่าทางจะเอาเรื่องมันจริงๆ “นิ้งเป็นไรมั้ย”
ผมหันกลับมาถามเธออย่างเป็นห่วง แต่คะนิ้งกลับมีสีหน้าตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด เธอตัวสั่นตอนที่เงยหน้ามองผมเพราะคนที่อยู่ในร้านต่างหันมามองที่หน้าอกเธอทั้งนั้น
ผมแม่ง... หงุดหงิดว่ะ ยิ่งกินเหล้ามางี้ยิ่งหงุดหงิด
“แฟนพี่เป็นไงบ้างวะพี่หลาม” พวกน้องๆ ผมถามขึ้นด้วยท่าทางตกใจ ผมส่ายหน้า กอดคะนิ้งไว้แนบอกในขณะที่ลากเธอให้ไปด้วยกันที่หลังร้าน ผมมาที่นี่บ่อย มันมีห้องน้ำเล็กๆ อยู่ด้านหลัง
ผมมาส่งเธอที่หน้าห้องน้ำหญิง ในขณะที่คะนิ้งยังคงทำหน้าตื่นๆ แล้วเอามือมาปิดอกเสื้อไว้
“เดี๋ยวเราซื้อชุดใหม่ให้วันหลังนะ” ผมพูดอย่างรู้สึกผิด แล้วเธอก็ส่ายหน้าเบาๆ
“มะ... ไม่เป็นไรหรอก” คะนิ้งมองซ้ายมองขวาเลิ่กลั่ก ผมก็เลยถอดเสื้อยีนส์ตัวนอกที่ใส่มาส่งให้เธอ “อะ... ไม่เป็นไรหรอก”
“ใส่” ผมกดเสียงลงต่ำนิดๆ อย่างบังคับ เสื้อเธอมันซักที่นี่ไม่ได้หรอกเพราะคะนิ้งจะใส่ไม่ได้ ผมแค่อยากให้เธอมาล้างแขน “แล้วก็เข้าไปล้างตัวซะ”
“ขะ... ขอบคุณนะ” ผมพยักหน้า แล้วเธอก็คว้าเสื้อยีนส์ของผมแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที
ผมก็ยืนล้วงกระเป๋ารออยู่หน้าห้องน้ำหญิงนั่นแหละ เผื่อกันพวกผู้ชายในร้านที่มองเธอด้วยสายตาแบบนั้นมาวอแวเธอต่อด้วย ผมจ้องมาหลายคนอยู่ ลองมันทำมากกว่านี้ผมจะไม่อยู่เฉยแน่ สถานที่แบบนี้มันไม่น่าไว้ใจนักหรอก
รอไม่นานคนตัวเล็กก็ออกมา เธอชะงักหน่อยๆ ที่ผมยังยืนรออยู่ข้างหน้าห้องน้ำ และพอเธอใส่เสื้อยีนส์ของผม จากที่ตัวเล็กอยู่แล้วก็ยิ่งตัวเล็กน่ากอดเข้าไปใหญ่ เสื้อยีนส์ของผมยาวไปจนถึงต้นขาของเธอเลยว่ะ ผมแม่งจะอารมณ์ดีขึ้นก็ตอนนี้แหละ
ไซส์ขนาดตัวที่ต่างกันของเรามันกำลังทำให้ผมคิดไปไกล ให้มันรู้ไปว่าทั้งคนทั้งเสื้ออ่ะของผม
ก็ลองมาแย่งดู แต่ขอไม่รับประกันความปลอดภัย
ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขาที่ทำสีหน้าเหมือนห่อเหี่ยวแปลกๆ ก่อนที่จะทำสีหน้าครุ่นคิด อืม... จะอธิบายยังไงดีนะ“ก็... หน้าโหดๆ แต่ขี้อ้อนล่ะมั้ง” ฉันพูดแล้วก็นึกถึงน้องหมาประเภทหนึ่ง แล้วอยู่ๆ ก็หลุดพูดออกไป “เหมือนร็อกไวเลอร์ที่นิสัยน่ารักๆ อ่ะ”แต่ฉันพูดแล้วฉันก็งงเองเหมือนกัน ร็อกไวเลอร์ที่นิสัยน่ารักๆ เนี่ยนะ คิดภาพไม่ออกเลย“ใครเป็นร็อกไวเลอร์?”ฉันสะดุ้งทันทีเมื่อทันทีที่พูดออกไปแบบนั้นก็ได้ยินเสียงทุ้มที่คุ้นเคยที่ดังขึ้นด้านหลังเหมือนบังเอิญเข้ามาได้ยินประโยคนั้นพอดี พอหันกลับไปก็เห็นว่าเป็นฉลาม เขากำลังเดินถือขวดอะไรสักอย่างมาหาฉันพร้อมกับถุงอะไรก็ไม่รู้เต็มไม้เต็มมือไปหมดฉันเรียกเขาด้วยท่าทางตื่นๆ “ฉะ... ฉลาม ถืออะไรมาน่ะ”“ขนม” เขาตอบสั้นๆ แล้ววางถุงขนมลงตรงหน้าฉัน “เห็นบอกว่ามีเพื่อนเลยซื้อมาให้เยอะหน่อย”“โห ดีจัง ขอบคุณนะ” ฉันคลี่ยิ้ม ฉลามพยักหน้ารับแล้วเขาก็นั่งลงข้างๆ ฉันอีกฝั่งที่ไม่มีใครนั่งอยู่ แต่หันหน้าไปทางสนามบาสแทน ฉันก็เลยเหลือบมองขวดในมือของเขา “นั่นอะไรน่ะฉลาม”“เอ็มร้อย” เขาตอบกลับมาทันทีแล้วยกมาจ่อตรงหน้าให้ฉันดู แล้วฉันก็ทำหน้ามุ่ยใส่เขา“มันไม่ดีนะ ไม่ต้องกินแล
ผมซบหน้าลงที่แผ่นหลังของเธอแล้วอ้อน อย่างน้อยก็แก้ตัวที่ทำสันดานแย่ๆ ใส่เธอวันนี้ ร่างเล็กมองหน้าผมเหมือนไม่รู้จะพูดยังไง ก่อนที่เธอจะค่อยๆ หันกลับมาเผชิญหน้ากันเหมือนไม่เต็มใจเท่าไหร่เเขนผมคล้องไว้ที่รอบเอวเธอแล้วลูบมันเบาๆตัวก็เล็ก เอวก็เล็ก แฟนใครวะเนี่ย“ตัวฉลามเหม็นเหล้าจัง” เธอเหมือนประชดผมด้วย คะนิ้งทำหน้ามุ่ยตอนที่ทายาให้ผมอีกแล้วแปะพลาสเตอร์ให้ผมอย่างเบามือ โคตรเบา ผมแทบไม่รู้สึก พอโดนต่อยผมก็สร่าง แต่ตอนนี้จะเมาเธอแทน “สะ... เสร็จแล้ว”“เสร็จแล้ว งั้นจูบต่อนะ” ผมแหย่เธอ คะนิ้งทำหน้าเหวอทันที เธอพยายามจะดึงมือผมออก แต่ผมก็ประสานมือเอาไว้ไม่ให้เธอดึงมันออกได้ง่ายๆ“กะ... กลับไปได้แล้ว”“อยากอยู่กับแฟน ไม่ได้เหรอ” ผมสวนขึ้น แล้วคะนิ้งก็เงียบไป“ดะ... ได้ แต่พรุ่งนี้ได้มั้ย” เธอต่อรอง “พรุ่งนี้นะ... ได้มั้ย?”ซึ่งพอเห็นเธออ้อนบ้างผมก็หวั่นไหว ก็เลยพยักหน้าไปอย่างว่าง่าย เออ ตามใจเธอหน่อยละกัน ค่อยรวบยอดทีหลังแล้วถ้าถึงตอนนั้นผมจะไม่ยอมให้นิ้งได้ลุกขึ้นมาห้ามอีกเลย คอยดู[จบพาร์ท : ฉลามดุ]ฉลามมารับฉันตั้งแต่เช้าตอนที่เจอหน้ากันเขาก็ดึงฉันเข้ามากอดนิดหน่อย ฉันหน้าแดงไปหมด รู้
“เฮ้ย! ไอ้หลาม หยุดนะมึง!!”ผมได้ยินเสียงของไอ้วินดังขึ้นข้างหลังตอนที่ผมผลักไอ้เด็กเวรนั่นจนล้มลงไปกองกับพื้น ผมขึ้นคร่อมมันไว้แล้วจะเหวี่ยงขวดเหล้าเปล่าใส่หัวมัน แต่ก็โดนเพื่อนผมกันออกไปก่อน ตอนนั้นในวงเด็กแว๊นพวกนั้นแตก ผมไม่เห็นว่าคะนิ้งทำหน้ายังไงเพราะถูกหิ้วปีกอยู่ แต่สติผมขาดไปแล้ว ในหัวผมมีแต่สิ่งชั่วๆ ที่พวกมันพูด“คนอะไรโคตรขาวจั้วะน่าเจี้ยะเลย นมนี่แบบ ผมอ่ะอื้มมม”“เออว่ะ น่าจับเ*ดสดสักที สวิงกิ้งกันให้หมดทั้งแก๊งเลยดีปะ”สวิงกิ้งเหรอ? อยากสวิงกิ้งกันมากนักใช่มั้ยมึง กูจัดให้เลย!!เพล้ง!!“เฮ้ย!” พวกมันตกใจเมื่อผมโยนขวดเหล้าไปจนเกือบโดนหนึ่งในพวกนั้น อย่าคิดว่าถูกกันไว้แบบนี้ผมจะทำอะไรไม่ได้ ผมได้ยินเสียงของไอ้วินไม่ชัดเพราะผมใช้ศอกกระแทกหน้ามันให้ปล่อยผมออก ตัวผมเซไปนิดหน่อย หน้ามืดเพราะฤทธิ์เหล้า แต่ก็ยังพอมีสติบ้างใครก็ห้ามผมไม่ได้ทั้งนั้นเวลาผมเลือดขึ้นหน้า“มึงเป็นเหี้ยอะไรวะ!!” ไอ้เด็กแว๊นที่ผมจะฟาดหัวมันตวาดลั่นพอลุกขึ้นมาได้ มันโยนเสื้อทิ้งอย่างกร่างๆ ผมเดือดก็เลยถอดเสื้อที่ใส่อยู่เหวี่ยงทิ้งไปบ้าง ให้มันรู้ว่าอย่ามาห้าวกับคนอย่างผมเพื่อนมันทุกคนอึ้งไปแล้วไม่กล้า
หลังจากนั้นเราก็ไปหาอะไรกินกันใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยของฉัน แต่นั่นยังไม่พอ ฉลามยังพาฉันนั่งรถไปเที่ยวเล่นที่นู่นที่นี่อีก พอขากลับเขาก็ขับรถเล่นอยู่ตั้งหลายชั่วโมง มารู้สึกตัวอีกทีก็หกโมงเย็นแล้วฉันไม่คิดว่าเวลามันจะผ่านไปเร็วขนาดนี้ จนกระทั่งเพื่อนของเขาก็โทรมาตามให้เขาไปกินเหล้าด้วยแล้ว ฉันกอดอกมองเขาทันที เเต่ฉลามก็ได้แต่ฉีกยิ้มให้ฉันเหมือนให้ฉันหายโกรธเขาเถอะ เรื่องแค่นี้เอง แล้วขับตรงไปในซอยใกล้ๆ กับมหาลัยที่ฉันเรียนอยู่มันเป็นบ้านที่มีโต๊ะม้าหินอ่อนข้างหน้า แล้วฉันก็เบิกตาโตเพราะจำได้แล้วว่าที่นี่คือที่ไหนมันคือที่แรกที่ฉลามดุขับขับพาฉันมาเพื่อที่จะขอเบอร์ฉันนี่“เราเคยพานิ้งมาที่นี่ จำได้ปะ” ร่างสูงดับเครื่องแล้วถามขึ้นมาตรงกับสิ่งที่ฉันคิดพอดี ฉันสะดุ้งทันทีเพราะมัวแต่คิดอะไรเพลินๆ อยู่ ก่อนที่จะพยักหน้าหงึกหงัก แต่เขาก็ถามเรื่องอื่นขึ้นมาซะก่อน “ลงได้มั้ยนิ้ง?”“อื้อ ลงได้” ฉันพยักหน้าอีกแล้วทำท่าจะลง แต่ก็ถูกเขาใช้มือทั้งสองข้างยกตัวของฉันขึ้นอุ้มทั้งตัวแล้ววางลงกับพื้นซะก่อน ฉันหน้าร้อนวาบขึ้นมาทันที ยังไงก็ไม่ชินจริงๆ เวลาที่เขามาจับมาอุ้มแบบนี้อ่ะ“เพื่อนเราปากหมาหน่อยนะ
“แต่... บางวันเรามีเรียนเช้ามากเลยนะ” ฉันยู่หน้าแล้วดึงมือของเขาออก ใช่แล้ว บางวันฉันมีเรียนตั้งเจ็ดโมงกว่าๆ แน่ะ ฉันเกรงใจเขาอ่ะ “ฉลามตื่นไหวเหรอ”“เอ้า ไหวดิ เช้าแค่ไหนก็โทรมาเหอะ” เขาพูดอย่างจริงจัง “ต่อให้เธอมีเรียนตอนตีสามเราก็จะตื่นมาส่งอ่ะ เข้าใจปะครับ”ฉันหลุดยิ้มออกมาเลย โห... เขาน่ารักจัง“ขอบคุณนะ” ฉันคลี่ยิ้มหวานให้เขาบ้าง ฉลามมองหน้าฉันนิ่งๆ ก่อนที่ต่อมาเขาจะดึงกระจกหมวกกันน็อคลงมาปิดหน้า แล้วเอียงหน้าลงมาหอมแก้มฉันหนักๆ ผ่านพลาสติกอุ่นๆ จากแดดยามเช้าโดยที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว ฉันเบิกตากว้าง หน้าแดงขึ้นมาทันทีเพราะที่ตรงนี้ก็มีคนอยู่ แต่ฉลามไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น เขาแค่ลูบหัวฉัน แล้วพูดอะไรบางอย่าง“ตั้งใจเรียนนะนิ้ง จะได้รีบจบมาแต่งกับเราเร็วๆ”“...!”ขะ... เขาพูดเสียงดังด้วยอ่ะแต่ฉันก็ตั้งใจเรียนอย่างที่เขาบอกก่อนที่จะขับออกไปจริงๆ นั่นแหละจนตอนนี้สิบเอ็ดโมงกว่าๆ แล้ว ฉันเพิ่งเลิกคลาส แต่ยังไม่ทันเดินออกจากห้องเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทันทีว่ามีคนโทรเข้ามา พอยกขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นฉลามเขารีบโทรมาจังนะ กลัวฉันจะหนีกลับก่อนรึไงก็ไม่รู้“ฮัลโหลค่ะ” ฉันกดรับ แล้วเสียงลมก็แท
ฉันว่าฉันคิดดีแล้วล่ะเพราะหลังจากที่ฉันโทรไปบอกฉลามดุว่าจะเป็นแฟนกับเขา ฉลามก็ตัดสายใส่ทันทีเลย ฉันเองก็เขินจนไม่กล้าคุยต่อแล้วเหมือนกัน มันยากนะที่ต้องขอใครสักคนเป็นแฟนก่อนแบบนี้ ยิ่งกับอีกฝ่ายที่เป็นคนแบบเขาด้วยฉันไม่เคยพูด ไม่เคยคบกับใคร ก็เลยอายจนต้องซุกหน้าลงกับหมอนที่ตัวเองกอดอยู่แบบนั้นส้มหลับไปแล้ว เธอเพิ่งได้กลับมาค้างที่ห้องก็วันนี้ แต่เพราะทำกิจกรรมมาหนักก็เลยหลับไปตั้งแต่หัวค่ำ ประตูห้องปิดอยู่ ส่วนฉันก็นั่งอยู่ที่โซฟาข้างนอกห้อง ที่ฉันเงียบไปไม่ยอมคุยกับเขาก็เพราะตอนที่ไปเที่ยวกับเขาฉันมีความสุขมากจนเก็บอาการไม่อยู่แล้ว ฉันชอบฉลามดุ แล้วก็ชอบมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยฉันนั่งทำใจให้หายเขินอยู่นานมาก จนประตูห้องเหมือนถูกใครเคาะ เสียงค่อนข้างดังก็อกๆๆ!ฉันชะงักไป สงสัยนิดหน่อยว่าเป็นใคร ตอนเปิดประตูออกไปตัวก็แทบจะถลาไปด้านหลังเพราะถูกคนๆ นั้นโถมตัวเข้ามาหาทันทีฉันรู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ท่วมตัวเขา ใจเต้นขึ้นมาทันทีพอเห็นว่าเป็นเสื้อยืดที่คุ้นเคย พอเขาผละออก ฉันก็ตกใจที่เห็นว่าเป็นฉลามเขา...“พูดจริงเหรอนิ้ง!” เขาผละออกมาแล้วคว้าไหล่ฉันมาเขย่าทันที ฉันเอ๋อไป ก็พอรู้อยู่นะว่าฉลาม