บทนำ
เสียงขึ้นลำกล้องของปืนหลายกระบอกดังก้องไปทั่ว ความเย็นเยียบของโลหะที่พร้อมปลิดชีวิตทำให้บรรยากาศรอบสะพานยิ่งกดดัน ทว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ได้สะท้อนอยู่ในดวงตาของหญิงสาวที่ยืนอยู่บนราวสะพาน เธอไม่สนใจเลยสักนิดว่าความตายกำลังจ่ออยู่ตรงหน้า
ยาหยี หลุบตามองปลายเท้าของตัวเอง ความเสียใจฉายชัดในแววตา ราวกับความหวังทั้งหมดได้มอดดับลงแล้วในวันนี้
“อย่านะ!”
เสียงเข้มปนความตกใจดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงที่ก้าวเข้ามาใกล้ เขาไม่อาจปล่อยให้เธอทำเรื่องโง่ๆ ต่อหน้าต่อตาแบบนี้ได้
“ถ้าเธอกระโดดลงไป เธอตาย!”
หญิงสาวยังคงนิ่ง ไม่มีแม้แต่คำตอบรับ
“ถอยออกมา ออกห่างจากตรงนั้นเดี๋ยวนี้!”
“อย่ามายุ่งกับฉัน!”
“คิดว่าฉันอยากยุ่งนักหรือไงวะ? ถ้าลูกในท้องเธอไม่ใช่ลูกฉัน ป่านนี้ฉันคงปล่อยให้เธอสมหวังไปนานแล้ว!”
น้ำเสียงของเขาแข็งกระด้าง เจือไปด้วยความหัวเสีย เขาไม่ใช่คนที่จะมาพูดจาอ่อนโยนเพื่อปลอบโยนใครง่ายๆ แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวกับลูกของเขา และเขาจะไม่ยอมให้เธอจบชีวิตลงแบบนี้เด็ดขาด
เดย์ตัน กัดฟันแน่นจนสันกรามเด่นชัด แววตาของเขาร้อนแรง ราวกับเปลวไฟที่พร้อมจะเผาผลาญทุกสิ่ง ทว่าไม่ว่าจะพูดอะไรออกไป ผู้หญิงตรงหน้าก็ไม่มีท่าทีว่าจะยอมแพ้ ความดื้อรั้นของเธอทำให้เขาหงุดหงิดจนแทบจะระเบิด
“ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าเธอไม่ลงมาจากราวสะพาน ฉันยิง!”
“เอ่อ… นายครับ ผมว่ามันก็ไม่ได้ต่างกันเลยนะครับ” เสียงลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างหลังเอ่ยขึ้นเบาๆ
“หุบปาก!” เดย์ตันตวาดกลับอย่างเหลืออด
ยาหยีมองชายตรงหน้าด้วยความเย็นชา เขาบอกให้เธอเลือก แต่ทุกทางที่เขาเสนอให้ล้วนมีจุดจบเดียวกันความตาย
“ถอยออกไป!”
“ลงมา!”
น้ำเสียงของเดย์ตันหนักแน่นและเฉียบขาด ดวงตาเข้มคุกรุ่นด้วยโทสะ เขาไม่เคยต้องอ้อนวอนใคร โดยเฉพาะกับคนที่กำลังจะตาย เพราะที่ผ่านมามีแต่คนพวกนั้นที่ร้องขอชีวิตจากเขา!
“ฉันจะตายไปพร้อมกับเด็กคนนี้”
“อย่า!”
ชีวิตคนเรามันบัดซบกว่าที่คิด และตอนนี้เธอก็กำลังเผชิญกับมันเพียงลำพัง
“ชีวิตฉันมันไม่มีความหมายแล้ว… ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน”
“ถ้าเธอกระโดด เธอจะตาย! เพราะฉะนั้น รีบลงมาจากราวสะพาน ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน”
ยาหยีมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่า ไม่ว่าจะอยู่หรือไป เธอก็ต้องทนทุกข์ แล้วเขาจะให้เธอเลือกอยู่ไปเพื่ออะไร?
“นายครับ ผมว่าเธอดูแปลกๆ นะครับ”
ลูกน้องของเขาเอ่ยขึ้น หลังสังเกตเห็นว่าหน้าหญิงสาวซีดเซียวจนผิดปกติ เดย์ตันเองก็คิดเช่นกัน ทั้งสองสบตากันก่อนพยักหน้าให้
“เอาแบบนี้…” มาเฟียหนุ่มขมวดคิ้ว “เธอลงมาคุยกับฉันดีๆ ฉันพร้อมจะช่วยหาทางออกให้ เราสองคนจะหาทางออกที่ดีที่สุดไปด้วยกัน”
“ฉันขอตายดีกว่าถ้าต้องอยู่กับคนอย่างนาย!”
ยาหยีหันหลังให้พวกเขา ก้าวขาขึ้นไปพาดราวสะพานเตรียมจะกระโดดลงไป แต่เดย์ตันเร็วกว่า เขาคว้าเธอเข้ามาแนบอกและกอดไว้แน่น
“เธอ! เธอ!!”
ร่างเล็กอ่อนแรงในอ้อมแขนเขา และในเสี้ยววินาทีนั้นเอง เธอกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้หัวใจมาเฟียหนุ่มเต้นแรงจนควบคุมไม่ได้…
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฟ้าสงสารหรือจงใจกลั่นแกล้งกันแน่ ที่รีบส่งทั้งแม่ของลูกและลูกมาให้เขาในเวลาอันรวดเร็ว… รวดเร็วจนเขาไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ
ตอนพิเศษ 2 จบหลายปีต่อมาเสียงหัวเราะใสๆ ดังขึ้นท่ามกลางสวนหลังบ้านที่ร่มรื่น“พี่ดาริน รอด้วยสิ~!”เด็กชายวัยหกขวบวิ่งกระหืดกระหอบตามหลังพี่สาวอย่างไม่ลดละ เขามีใบหน้าคล้ายเดย์ตันในวัยเด็กอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะดวงตาคมเข้มกับคิ้วที่ขมวดแน่นเวลาเอาจริงเอาจัง“ก็พี่บอกแล้วไงว่าใครช้าต้องเป็นลูกหมา!” ดารินวัยเก้าขวบในชุดเอี๊ยมยีนกับหางเปียคู่ หัวเราะแล้ววิ่งนำหน้าต่อไป“ไม่เป็นลูกหมาหรอก! จะวิ่งแซงเลยด้วยซ้ำ!” ดารัณเร่งฝีเท้าขึ้น เสียงหอบเหนื่อยแทรกมาเป็นระยะ แต่ความมุ่งมั่นในแววตานั้นไม่ยอมแพ้แม้แต่น้อยใต้ศาลากลางสวน เดย์ตันนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่กับคุณพ่อในวัยชรา ใบหน้าของเขานิ่งสงบ แต่แววตาอ่อนโยนเมื่อมองไปยังลูกทั้งสอง“รัณโตเร็วใช่เล่นนะ…” พ่อของเดย์ตันพูดขึ้นพลางยกแก้วน้ำชา“ครับ…เหมือนผมตอนเด็ก แต่ใจนุ่มเหมือนแม่เขา” เดย์ตันตอบยิ้มๆ แล้ววางหนังสือพิมพ์ลง มองลูกชายที่เริ่มวิ่งไล่พี่สาวได้ทันดารัณกระโจนไปเกาะหลังพี่สาว แล้วสองพี่น้องก็ล้มลงไปในกองหญ้าแห้ง หัวเราะกันลั่น“พอแล้วลูก เดี๋ยวเปื้อนหมด!” เสียงของยาหหยีดังขึ้นจากระเบียง เธอยืนกอดอกมองลูกๆ ด้วยสายตาหวานปนเอือมระคนเอ็น
ตอนพิเศษ 1วันเกิดปีที่ 3 ของดารินเด็กหญิงในชุดเดรสฟูฟ่องเดินถือของเล่นไปหาพ่อกับปู่ซึ่งนั่งคุยกันอยู่ในศาลากลางสวน เธอส่งยิ้มให้ทั้งสองด้วยความสดใส“ปะป๋า ดารินอยากได้ของเล่นอีก”“หนูก็ได้แล้วไงครับ ของเล่นหนูเยอะมากแล้ว เล่นให้หมดก่อนนะครับลูก”ดารินยู่ปาก เธอหันไปมองปู่เพราะรู้ว่าคนที่จะตามใจเธอมากที่สุดคือปู่ไม่ใช่พ่อ“คุงปู่~” ดารินหันไปหาคุณปู่ด้วยดวงตากลมโตเปล่งประกายวาววับ เธอกะพริบตาปริบๆ พลางเอียงคอเล็กน้อยอย่างรู้เชิง ก่อนจะเอ่ยเสียงหวานใสแบบที่เธอมั่นใจว่าคุณปู่ต้องใจอ่อนแน่ๆ “คุงปู่ขา~ หนูอยากได้บ้านตุ๊กตาหลังใหญ่เลย มีลิฟต์ด้วยนะคะ~ หนูจะให้ตุ๊กตาอยู่กันเป็นครอบครัวเลย~”ดาร์เรลหัวเราะเบาๆ ด้วยความเอ็นดู ก่อนจะโน้มตัวลงมาลูบผมหลานสาวอย่างรักใคร่“โอ๋ๆ หลานปู่คนเก่ง อยากได้บ้านตุ๊กตาเหรอ…เอาไว้คุณปู่จะให้คนไปดูให้เลยนะ ว่ามีรุ่นที่มีลิฟต์จริงไหม ถ้ามี…ปู่จัดให้!”“เย่~! คุงปู่ใจดีที่สุดในโลกเลยค่ะ!” ดารินโผเข้าไปกอดคุณปู่อย่างดีใจสุดๆ แล้วหันมายักคิ้วใส่พ่อของเธอด้วยความเหนือชั้นเดย์ตันที่นั่งอยู่ข้างพ่อของตัวเองถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ เขาส่ายหน้าอย่างยอมแพ้ในความเจ้
บทที่ 46 บทส่งท้ายเสียงหัวเราะของทั้งสามคนผสานกันเป็นความอบอุ่นที่แผ่กระจายไปทั่วห้องรับประทานอาหาร ดารินที่กำลังกินข้าวอยู่บนโต๊ะหยุดชะงัก หันมามองผู้ใหญ่ด้วยตาแป๋ว ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้ชีวินจนตาทั้งสองข้างหยีน่าเอ็นดู“ดูสิ หลานผมรู้ด้วยว่าใครรักจริง” ชีวินยิ้มกว้าง ย่อตัวลงอุ้มเจ้าตัวน้อยขึ้นมาแนบอก ก่อนจะโยกเบาๆ อย่างทะนุถนอม“หึ เด็กมันเลือกคนใจดีได้แม่นเหมือนกันนะ” เดย์ตันพูดเสียงเรียบ แต่แววตาที่มองลูกสาวเปล่งประกายด้วยความรักล้นเหลือ“ไม่ใช่แค่ใจดีหรอกค่ะ ปะป๋าวินชอบแอบให้ขนมกับดารินตลอด หยีต้องมาคอยห้ามประจำเลย เดี๋ยวจะฟันผุเอา” ยาหยีว่าแล้วก็กอดอกทำหน้าจริงจังชีวินรีบหันไปกระซิบกับหลานเบาๆ“อ้าว หลานเรานี่ไปฟ้องแม่ด้วยเหรอครับ แบบนี้เราต้องเป็นทีมเดียวกันนะ ห้ามหักหลังกันสิ” เขาย่นจมูกใส่ดาริน ก่อนเจ้าตัวน้อยจะหัวเราะเสียงใสอย่างไร้เดียงสา“ดูสิ…ติดวินเข้าแล้วจริงๆ” เดย์ตันบ่นอุบ แต่ก็ลอบยิ้มเมื่อเห็นลูกสาวหัวเราะอย่างมีความสุข“อิจฉาล่ะสิ” ชีวินแซว พร้อมส่งยิ้มกวนๆ ให้เพื่อนรัก“เปล่าสักหน่อย” เดย์ตันตอบ แต่ยาหยีที่นั่งอยู่ข้างๆ กลับกลั้นขำไม่อยู่ เธอเอื้อมมือไปแตะหลังสามี
บทที่ 45 เมียมาเฟียหลังจากคืนเข้าหออันร้อนแรงผ่านไป รอยยิ้มอ่อนโยนของเดย์ตันก็กลายเป็นสิ่งที่ยาหยีได้เห็นบ่อยขึ้นกว่าเดิม เขาเปลี่ยนจากมาเฟียผู้เย็นชาและเอาแต่ใจ กลายเป็นสามีที่พร้อมยอมให้เธอทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน ตั้งแต่เมนูอาหารเช้า ไปจนถึงการออกคำสั่งกับลูกน้อง เขาเลือกจะถามความเห็นเธอก่อนเสมอ“ฉันมีปืน แต่เธอมีคำพูดที่คมกว่า” เขาบอกกับเธอในวันที่พายุในบ้านเริ่มสงบลง และเขาได้เห็นว่าเธอไม่จำเป็นต้องขึ้นเสียงหรือใช้กำลังใดๆ ก็สามารถจัดการความวุ่นวายรอบตัวได้อย่างหมดจดยาหยีเรียนรู้ทุกอย่างอย่างตั้งใจ จากหญิงสาวที่เคยร้องกรี๊ดเมื่อได้ยินเสียงปืน กลับกลายเป็นคนที่ยืนถือปืนในสนามซ้อมด้วยท่าทางนิ่งสงบ วันแรกที่เธอยิงถูกเป้าเป๊ะ ลูกน้องของเดย์ตันถึงกับเงียบทั้งสนาม แล้วเสียงปรบมือก็ลั่นตามมาไม่ขาดสาย“เธอจำได้ไหม ครั้งแรกที่มาที่นี่ เธอดูกล้าและท้าทายมาก แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็แอบกลัวใช่ไหม” เดย์ตันเดินเข้ามากระซิบข้างหู ขณะที่ยาหยียังถือปืนมั่นในมือ“ใช่สิ… แล้วฉันก็จำได้ด้วยว่าที่รักที่บังคับให้กล้า” เธอยิ้มเจ้าเล่ห์ ส่งสายตาแวววาวให้เขาอย่างคนที่รู้ว่าตั
บทที่ 44 ค่ำคืนนี้มีแค่เรา NCเดย์ตันยกยิ้มมุมปาก สอดฝ่ามือไปตามกลุ่มผมดกดำของเธอเบาๆ ก่อนจะโน้มหน้าลงไปหอมแก้มยาหยีฟอดหนึ่ง“ถึงเวลาแล้วนะ”“อะไรเหรอ?”“ก็…เรายังไม่ได้เข้าหอกันเลยนะ”“นี่แผนนายด้วยไหมเนี่ย”“เปล่า…แค่จะทวงสัญญาเฉยๆ อดเปรี้ยวไว้กินหวานอะ”“ใครไปสัญญากับนายไม่ทราบ คิดเองเออเองทั้งนั้น อ๊ะ!” ไม่ทันได้ตั้งตัวยาหยีก็ถูกเขารวบตัวไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวและแรงมหาศาล เธอตกใจเบิกตากว้างกับความเร็วของเขา “นะ นี่เร็วไปไหมเนี่ย”“เร็วมากกว่านี้อีก อยากดูไหมว่าเร็วมากแค่ไหน”“อะไร?”เดย์ตันยกยิ้มแล้วดึงผ้านวมมาคลุมตัวเขากับยาหยีไว้ ก่อนจะถอดเสื้อผ้าเธอออกอย่างช่ำชองผ้านวมผืนหนากลายเป็นปราการแห่งความลับที่ห่อหุ้มร่างของทั้งสองเอาไว้ โลกภายนอกเงียบงัน เหลือเพียงลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดกันอยู่ใต้ความมืดมัวแผ่วเบานั้นเสียงหัวเราะแผ่วเบาหลุดลอดริมฝีปากของยาหยี เมื่อความเย็นวาบจากปลายนิ้วของเขาแตะต้องลงบนผิวเปลือยเปล่า ความรู้สึกวูบไหวแล่นไปตามแนวสันหลัง เธอเม้มปากแน่นแต่ก็ยังหลุดเสียงครางต่ำๆ ออกมาเมื่อฝ่ามือของเขาลูบไล้ไปตามทรวงอกอย่างมั่นคง อ่อนโยน ทว่ากลับเต็มไปด้วยแรงปรารถนาเกิน
บทที่ 43 แต่งงานวันแต่งงานมาถึงในช่วงสาย อากาศเย็นกำลังดี แดดนุ่มพาดผ่านม่านไม้เลื้อยที่พันอยู่ตามซุ้มเหล็กดัดในสวนหลังบ้าน กลิ่นดอกไม้หอมจางๆ ลอยอ้อยอิ่งไปทั่วสนามหญ้าที่ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ละเมียดละไมวันนี้ไม่มีขบวนแห่ ไม่มีแขกเหรื่อเป็นร้อย ไม่มีแสงแฟลชถ่ายภาพเป็นพัน มีเพียงแค่โต๊ะกลมสีขาวไม่กี่ตัว เก้าอี้หวาย และครอบครัวไม่กี่คนที่รักทั้งสองคนอย่างแท้จริงแม่ของเดย์ตันเป็นคนจัดดอกไม้เองกับมือ คุณพ่อของยาหยียืนพัดไล่ยุงพร้อมรอยยิ้มภาคภูมิชีวินรับบทบาทผู้ดำเนินพิธีการอย่างขันแข็ง พร้อมกับแอบเตรียมซองอั่งเปาขนาดยักษ์แทรกระหว่างของขวัญแต่งงาน และที่กลางสวน ซุ้มไม้สีขาวประดับด้วยผ้าลูกไม้บางเบา พวงดอกกุหลาบครีมและใบไม้เขียวสดพาดพรมคือจุดที่เดย์ตันกำลังยืนรออยู่เขาในชุดสูทสีเทาเข้ม สะอาดเรียบและคลาสสิก ผมถูกเซ็ตเรียบกว่าทุกวัน มือถือช่อดอกไม้สีขาวล้วนที่เตรียมไว้ให้เจ้าสาวด้วยตัวเองท่ามกลางความสง่างามของมาเฟียหนุ่มผู้เคยเย็นชามีเพียงดวงตาเท่านั้นที่ตอนนี้ดูตื่นเต้น…เหมือนชายหนุ่มวัยยี่สิบที่เพิ่งมีรักแรกแล้วเธอก็ปรากฏตัว…ยาหยีในชุดกระโปรงลูกไม้ยาวสีขาวสะอาด ผมถูกรวบครึ่งหัว