ราเดนเดินเข้าไปใกล้กับเตียงของมารีน่าได้ หญิงสาวก็โผเข้ากอดพี่ชายเธอทันที
“ทำไมถึงไม่คิดรักตัวเองบ้าง” ราเดนกอดน้องสาวของเขาเอาไว้แน่น แววตาดุดันเริ่มไหววูบ ทั้งสงสารทั้งโกรธเคืองที่น้องตนเลือกจบชีวิตอันมีค่าเพียงเพราะผู้ชายคนเดียว อีกทั้งยังคับแค้นใจแพทริค น้องเขยนักธุรกิจเจ้าของสายการบินของสิงคโปร์มากจนอยากจะฉีกเนื้อผู้ชายคนนั้นเป็นชิ้นๆ
ก่อนหน้าที่จะแต่งงานสัญญากับเขาอย่างดิบดีว่าจะรักและดูแลน้องสาวของเขาด้วยชีวิต ผ่านไปไม่ถึงปีก็นอกใจน้องสาวของเขาจนเธอช้ำใจจนคิดฆ่าตัวตาย เพราะเห็นคนในครอบครัวล้มเหลวเรื่องชีวิตคู่ เขาถึงได้ครองตัวเป็นโสดมาถึงทุกวันนี้ และเหตุการณ์ของมารีน่าก็ยิ่งทำให้เขารู้ว่าตัวเองคิดถูก
“ฉันหวังกับเค้าไว้มากจริงๆ ไม่คิดว่าเค้าจะหักหลังฉัน” สาวเจ้ายังคงซุกหน้าสะอื้นอยู่ในอ้อมอกของพี่ชาย
“พี่จะไปฆ่ามัน”
“ไม่นะคะ เค้าเป็นพ่อของลูกฉันนะ”
“ลูก?” แววตาของราเดนฉายแววตกใจเป็นที่สุด เขายันตัวมารีน่าให้ผละออกจากตัวก่อนจะมองจ้องหน้าน้องสาวอย่างต้องการคำยืนยันอีกครั้งว่าที่เขาได้ยินไม่ผิด แล้วการที่มารีน่าทำร้ายตัวเองมีผลกระทบอะไรกะบหลานของเขาไหม
มารีน่าพยักหน้าน้อยๆ “ใช่ค่ะ หมอเพิ่งบอกว่าฉันท้อง ถ้าฉันรู้ว่ามีลูกจะไม่ทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้เลย” มันเหมือนเป็นเวรกรรมของเธออย่างไงอย่างงั้น ก่อนหน้านี้เธอทระนงตนว่าสวยเลือกได้ คบกับผู้ชายได้ไม่นานพอเจอคนที่ดีกว่าก็หักอกเขาไปเรื่อย จนตอนนี้เธอได้มารักใครคนหนึ่งมากๆ สุดท้ายเธอก็ถูกหักหลังจนหัวใจสลายพังไม่เป็นท่า ซ้ำยังเกือบจะทำร้ายหนึ่งชีวิตที่บริสุทธิ์โดยที่ไม่ได้ตั้งใจอีกด้วย
ราเดนรั้งมารีน่าเข้ามากอดเอาไว้อีกรอบ “มันรู้รึยัง”
“ไม่ค่ะ ฉันไม่ได้บอก ฉันไม่อยากให้เค้ามายุ่งอะไรกับฉันอีกแล้ว”
“คิดได้แบบนี้ก็ดี ส่วนหลานพี่จะช่วยดูแลเอง” ราเดนพอจะโล่งใจไปหนึ่งเปราะที่มารีน่าเลือกที่จะรักตัวเองหลังจากผ่านความเป็นความตายมาได้ หากแต่คนที่ทำให้น้องสาวของเขาต้องเป็นเช่นนี้ ไม่ได้อยู่ดีมีสุขแน่
ราเดน มาเฟียหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวขาว ผมสีดำหยิกยาวประบ่าชาวรัสเซีย เขาเป็นเจ้าของดวงตาคมดุดันประดุจหมาป่า นัยน์ตาสีฟ้าแฝงไปด้วยเสน่ห์ที่ใครได้มองเป็นต้องตกอยู่ในภวังค์ รวมไปถึงจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหนาพอดีอมชมพูระเรื่อ ส่งให้ใบหน้าของเขาน่ามองยิ่งขึ้นเป็นทวี
ชายหนุ่มอายุเข้าสามสิบปลายๆ มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าคลุมคลังอาวุธ เป็นคนแสนเย็นชาไม่ค่อยพูด จริงจังในการทำงาน และไม่สนใจที่จะมีชีวิตครอบครัว เพราะความปวดร้าวจากบาดแผลในครอบครัว ไม่เคยเชื่อในรักเพราะไม่เคยเห็นคนในครอบครัวมีรักที่สมหวัง
โดยเฉพาะแม่ของเขา ที่ถูกคนเป็นพ่อทิ้งไปอย่างไม่เหลือเยื่อใยแล้วไปมีครอบครัวใหม่ ส่วนเขาก็ถูกคนเป็นพ่อเลี้ยงให้เป็นแค่มือสังหารรองมือรองเท้าเท่านั้น
ราเดนอยู่ที่สิงคโปร์ร่วมสามวัน เมื่อมารีน่าแข็งแรงจนหมอให้ออกจากโรงพยาบาลได้เขาก็รีบพาน้องสาวขึ้นเครื่องบินส่วนตัวกลับมาที่บ้านทันที
“ทำไมไม่พาฉันไปพักที่บ้านล่ะคะ” มารีน่าแปลกใจพอสมควรที่คิดว่าตัวเองจะได้กลับไปพักที่บ้านที่พี่สาวเธออยู่ ทว่าพี่ชายก็ดันพาเธอมาพักที่เพนท์เฮ้าส์แทนเสียอย่างนั้น
“อยู่ที่นี่ไปก่อน พี่ว่ามันสะดวกกว่า”
“มิล่าอาการไม่ดีเหรอคะ” เห็นอีกฝ่ายไม่สบสายตาเธอก็พอจะรู้แล้วว่าบ้านที่เธอเคยอยู่กำลังมีปัญหา
“ตอนนี้เธอมีหมอกับพยาบาลดูแลตลอดเวลา ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แล้วพี่จะแวะมาหาบ่อยๆ พักผ่อนเถอะ” ราเดนไม่อยากพูดอะไรให้มารีน่าไม่สบายใจ รวมถึงไม่อยากตอกย้ำตัวเองด้วย
ที่มิล่าต้องกลายเป็นคนเสียสติก็เพราะเขา อีกทั้งเขาเองยังใกล้ชิดและเข้าไปดูแลเธอด้วยตัวเองไม่ได้เพราะมิล่าไม่เคยเห็นเขาเป็นพี่ชาย เพียงเพราะเขาเป็นลูกชายนอกสมรสของพ่อเธอ
ก่อนหน้านี้มิล่าได้ทำผิดมหันต์กับหัวหน้ามาเฟียและภรรยา ทำให้ทุกคนยื่นคำขาดว่าหากเธอออกมาข้างนอกให้ได้เห็นจะถูกเฉือนเป็นชิ้นๆ
เขาที่อยากดัดนิสัยน้องของตัวเองเลยสั่งให้ลูกน้องพาเธอไปขังห้องมือชั้นใต้ดินของบ้าน อีกทั้งเป็นการปกป้องเธอจากอันตรายที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตจากการหมายหัวของครอบครัวหัวหน้ามาเฟีย
สุดท้ายน้องสาวของเขาก็โกรธเขามาก เธออาละวาดจนเสียสติ และควบคุมไม่ให้ทำร้ายร่างกายตัวเองและคนอื่นที่พบเห็นได้ยาก เธออาการหนักขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ต้องมีหมอและพยาบาลดูแลยี่สิบสี่ชั่วโมง แล้วเรื่องนี้มันก็เป็นตราบาปของเขาตลอดมา
เขาอยากให้มิล่าให้โอกาสเขาได้เข้าใกล้ชิดเธอเพื่อดูแล ทว่าเมื่อเขาใกล้เธอมากเท่าไร อาการของเธอก็หนักมากขึ้นเท่านั้น ตอนนี้เลยทำได้เพียงแค่ดูแลอยู่ห่างๆ
ราเดนกลับมาถึงบ้านในช่วงเย็น เท้ายังไม่ทันได้เหยียบพื้น เพื่อนรักอย่างซีโวลอดก็ยืนยิ้มรอต้อนรับเขาลงจากรถแล้ว
“มารีน่าเป็นยังไงบ้าง” ชายหนุ่มเจ้าของรอยยิ้มแสนทะเล้นยืนล้วงกระเป๋ายิ้มทักทายเพื่อนรักที่เพิ่งลงจากรถคันหรู
“นายมาตั้งแต่เมื่อไร” ราเดนถามเสียงเรียบ หากรู้ว่าซีโวลอดจะมาเขาจะได้กลับมาเร็วกว่านี้
“เพิ่งมาถึง แล้วฉันก็หาวิธีแก้เครียดให้นายเอาไว้แล้วด้วย” เขาส่งสายตาให้เพื่อนตนมองไปยังโถงในบ้าน เขารู้ว่าราเดนเครียดหลายเรื่องเลยอยากพาสาวๆ มาให้ราเดนได้ระบายความเครียด
“อ้าวพี่เร ไหนบอกว่าจะกลับพรุ่งนี้ไงคะ”“ธุระเสร็จไวพี่ก็เลยรีบกลับ ลูกๆ บ่นคิดถึงพี่บ้างรึเปล่า” ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สีดำเข้ามาสวมกอดพร้อมกอดหอมพวงแก้มนวลของคนเป็นภรรยาฟอดใหญ่“คนตามใจไม่อยู่ทั้งคนจะไม่บ่นถึงได้ยังไงล่ะคะ”“รู้สึกเหมือนกำลังโดนบ่นยังไงก็ไม่รู้”“แล้วทานอะไรมารึยังคะ”“เรียบร้อยครับ แล้วสิ่งที่อยากทานตอนนี้ก็คือเมีย” เขาช้อนก้นอุ้มคนตัวเล็กให้ขึ้นไปนั่งบนโต๊ะก่อนจะแทรกตัวกึ่งกลางขาเรียวทั้งสอง จากนั้นก็รวบใบหน้าหวานด้วยมือทั้งสองประคองบดจูบด้วยความโหยหาปารวียกแขนทั้งสองคล้องคอคนเป็นสามีอย่างรู้งานก่อนจะแลกลิ้นอุ่นนุ่มกับเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ใช่ว่าเขาโหยหาเธอเพียงฝ่ายเดียว เธอเองก็เฝ้าคิดถึงสัมผัสของเขาแทบทุกวินาทีที่ต้องห่างเช่นกันราเดนละมือจากใบหน้าหวานเลื่อนลงมาปลดกางเกงปลดปล่อยแท่งร้อนที่กำลังผงาดหัวปูดเป่งออกมาเผชิญโลกกว้างก่อนจะถลกชุดคลุมตัวบางจากหัวไหล่มนคนเป็นภรรยาให้ไปกองอยู่กับหน้าโต๊ะเมื่อคนตัวเล็กล่อนจ้อนเผยผิวเนื้อนวลเนียนชวนสัมผัสเขาก็วาดแขนประคองแผ่นหลังบางไล่พรมจูบตั้งแต่ลำคอระหงส์สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้เต็มปอดจนมาบรรจบอยู่ที่เนินอกอวบ
วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผันนานร่วมสามปีกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปมากมายโดยเฉพาะชีวิตของปารวี จากก่อนหน้านี้เธอเป็นเพียงเจ้าของไร่ผูกรักริมธาร มีหน้าที่บริหารไร่ และต้อนรับนักท่องเที่ยวตอนนี้เธอกลายเป็นคุณแม่ลูกสองที่ทำหน้าที่ดูแลลูก และเป็นผู้บริหารรีสอร์ทยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดไปแล้ว หลังจากที่เธอคืนดีกับราเดนได้ เขาก็เข้ามาพัฒนาไร่ของเธออย่างเต็มที่ ส่วนงานที่คลังอาวุธก็ยังคงบินไปดูแลอยู่บ่อยๆ แต่ส่วนใหญ่เขาก็จะใช้ชีวิตอยู่กับเธอที่ไร่ส่วนเพื่อนๆ ของเธอตอนี้ต่างคนต่างก็มีชีวิตเช่นที่ฝัน ไก่หวานเปิดธุรกิจร้านเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วดูท่าทุกอย่างก็กำลังไปได้สวย ส่วนอารยาก็เป็นเภสัชอยู่ที่เดิม เพิ่มเติมคือร้านยาของเธอได้ขยายไปอีกสามสาขาส่วนมุขรินทร์ตอนนี้ก็เลิกทำงานเป็นบัญชีฟรีแลนซ์ แล้วเข้าไปช่วยสามีบริหารงานอยู่ที่รัสเซีย ใช่แล้ว ตอนนี้สองคนนั้นแต่งงานกันเรียบร้อย และตอนนี้ก็กำลังจะมีโซ่ทองคล้องใจออกมาลืมตาดูโลกแล้วด้วยส่วนสามภพก็กลายเป็นนักธุรกิจเต็มตัว ไหนจะดูแลไวน์ที่โรงบ่ม และยังเป็นนักขายตัวยงที่หาลูกค้าได้เก่งมากๆ จนราเดนไม่ต้องเข้าไปช่วยทำอะไรในส่วนของชวิน ต
ราเดนได้แต่ก้มหน้ากลืนน้ำลายอึกใหญ่ แม้จะเห็นว่าปารวีไม่ได้อยากจะเชียร์เขาสักนิด ทว่าเขาก็ยังอยากจะทำในสิ่งที่รับคำท้าชวิน วันนี้เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า เขา หรือ ชวิน ที่จะเป็นผู้ชนะในการแข่งครั้งนี้พักใหญ่แล้วที่เสียงของท่อไอเสียรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ดังลั่นสนั่นไปทั้งสนาม บีบให้หัวใจของคนที่เฝ้ามองไม่ละสายตาได้เต้นแรงตามเสียงนั้นไปด้วยปารวีแทบจะหยุดหายใจเมื่อเห็นว่าราเดนแทบจะหลุดโค้งทุกครั้งที่เข้าโค้ง ทว่าชวินกลับขับรถในสนามได้อย่างชำนาญ แต่ก็ทิ้งห่างราเดนได้ไม่ไกลมากนัก“รอบสุดท้ายแล้ว ใครจะชนะล่ะเนี่ย”เสียงของไก่หวานยิ่งทำให้ปารวีใจเต้นไม่เป็นส่ำ เธอกลืนน้ำลายไม่ลงคอและจับจ้องไปยังรถของราเดนตาไม่กระพริบ ยอมรับกับหัวใจตัวเองเลยว่าตอนนี้เขาอยากให้เป็นราเดนที่เข้าเส้นชัยไม่ใช่ชวิน ทว่าเหมือนเธอจะมองไม่เห็นโอกาสนั้นเลยและในโค้งสุดท้ายก่อนจะเข้าเส้นชัย รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่สองคันก็ได้ตีคู่กันมาติดๆ เล่นเอาคนที่เกาะขอบสนามแทบจะหยุดหายใจเพราะลุ้นไปตามๆ กัน ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น“อ๊าย...พี่เร!...” ปารวีร้องเสียงหลงเมื่อรถของราเดนพุ่งออกไปจากสนามแข่งแล้วไ
หวังว่าการยอมลงทุนเรียกคะแนนความสงสารจากคนตัวเล็กจะทำให้เธอกลับมาเป็นของเขาได้โดยเร็ว เขาจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลกับไอ้หนุ่มหน้าละอ่อนที่พยายามจะขโมยหัวใจของเขาไปเช้านี้ชวินเลือกที่จะไปเยี่ยมราเดนพร้อมกับทุกคน เพราะเมื่อคืนเขาเจอหลักฐานเด็ดที่ทำให้เห็นว่าการที่ราเดนต้องเข้าโรงพยาบาลมันไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ทว่าเขาเชื่อว่าราเดนต้องการเรียกร้องความสนใจจากปารวีต่างหาก“ดีขึ้นแล้วใช่ไหมครับ”ทุกคนมองไปยังชวินกันเป็นตาเดียวที่เห็นเขาเข้าไปหาราเดนเป็นคนแรกทั้งที่ก็ไม่ค่อยจะชอบหน้ากันสักเท่าไร“อืม ก็ดีขึ้นมากแล้ว” ราเดนพยักหน้าน้อยๆ ตอบชวินเสียงห้วน ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาไม้ไหนถึงได้แสดงออกว่าเป็นห่วงเป็นใยเขาก่อนทุกคน“เมื่อวานผมดูกล้องวงจรปิดแล้ว ผมเห็นว่าคุณเข้าไปเล่นกับลูกหมาตัวนั้นเอง ไม่ใช่ลูกหมาตัวนั้นวิ่งมาหาคุณ เรียกคะแนนสงสารจากลูกปลาสินะครับ” เมื่อเห็นว่าทุกคนอยู่กันครบ ชวินก็ไม่รีรอที่จะเผยธาตุแท้ของราเดน โดยเฉพาะปารวี เขาอยากให้เธอรู้ว่าราเดนกำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของเธออีกแล้ว ดูสิว่าหากหญิงสาวรู้แล้วมันจะเป็นยังไง“จริงเหรอคะ” ปารวีมองจ้องคนตัวโตที่นั่งห้อยขาอยู่บนเตียงด้วยแววตาผิ
“ทำไมมาอยู่ตรงนี้ ไม่เข้าไปร่วมโต๊ะล่ะ”“ไม่ กลัวอดใจกระทืบคนไม่ได้”“หึ่...” ซีโวลอดขำพรืดกับคำตอบของเพื่อนรัก นับว่าไม่ผิดหวังกับคำตอบที่ออกมาจากปากของราเดน“ขำอะไรของนายนักหนา”“ก็ตั้งแต่คบกันมาฉันไม่เคยเห็นแกหึงผู้หญิงนี่หว่า เอาน่า... ฉันเชื่อว่าแกเอาลูกปลากลับคืนมาได้อยู่แล้ว แต่อย่าใจร้อนทำให้เธอโกรธอีก ห้ามบังคับ แต่ควรหัดใช้สมองให้เป็น”“พูดให้มันเข้าใจง่ายๆ หน่อยสิ” ราเดนเริ่มขมวดคิ้วระหว่างส่งเครื่องดื่มให้ซีโวลอด“เรื่องอื่นล่ะเก่งเหลือเกิน มาตกม้าตายเพราะเรื่องผู้หญิง” พูดจบก็ยกแก้วดื่มน้ำเมาสีสวยอึกใหญ่ ทั้งอมยิ้มน้อยๆ ให้เพื่อนที่ดูจะไร้เดียงสาเรื่องหัวใจ“ขอความเห็น ไม่ใช่ให้มาด่าฉัน”“ฉันว่ายังไงลูกปลาก็ยังหลงเหลือความรักให้นายอยู่ แค่ทำตัวน่าสงสารให้เธอเห็นใจนาย เดี๋ยวเธอก็ใจอ่อนกับนายเอง แต่ตอนนี้ห้ามทำอะไรให้เธอโกรธเด็ดขาดถึงจะหมั่นไส้หมอนั่นแค่ไหนก็ช่าง เข้าใจไหม”ราเดนนั่งเงียบ ดวงตาคมยังคงจับจ้องไปยังกลุ่มคนที่ร่วมโต๊ะดินเนอร์กันที่ริมชายหาด ไม่ค่อยชอบใจนักที่เห็นปารวีนั่งหัวร่อต่อกระซิกอยู่กับชวิน เพราะรอยยิ้มที่เธอให้ชวินมันควรจะเป็นของเขา เขาหลี่ตามากขึ้นเรื่
“ก็ฉันจะอยู่รีสอร์ทพี่โชน ทำไมคะ หรือจะบังคับเอาฉันไปขังที่อื่นอีก บอกเลยนะคะว่าให้ฉันเจ็บตัวมากกว่านี้เพื่อหนีไปจากคุณฉันก็ยอม” สาวเจ้าในชุดมินิเดรสคอบัวแขนสั้นสีชมพูนั่งกอดอกบุ้ยปาก ดวงตามีแต่ความแข็งกร้าว ทำเอาคนที่มองจ้องอยู่ต้องถอนหายใจอ่อน“จะให้พี่ทำยังไงถึงจะหายโกรธพี่” ว่าจะไม่พูดเรื่องนี้เขาก็อดไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายเริ่มที่จะประชดประชันเขาขึ้นมา“ก็แค่เซ็นใบหย่ากัน แล้วก็ต่างคนต่างอยู่ค่ะ”“ถ้าพี่บอกว่าจะยอมเซ็นใบหย่าให้ จะไปอยู่รีสอร์ทอื่นได้ไหม”“คุณมีสิทธิ์อะไรมาต่อรองกับฉันคะ”ราเดนยืนกัดฟันถอนหายใจและเงียบไปครู่หนึ่ง สุดท้ายเขาก็ต้องทำตามใจปารวี เมื่อเก็บของเรียบร้อยก็พาเธอไปที่รีสอร์ทของชวินเมื่อมาถึงเขาก็ต้องพยายามสงบอารมณ์ให้มากที่สุดเท่าที่เคยทำมา เพราะหลังจากชวินรู้ว่าปารวีกลับมาพักที่รีสอร์ทของตัวเองก็รับเดินทางจากบ้านมาหาภรรยาของเขาทันที แถมยังทำเหมือนเขาเป็นธาตุอากาศ พูดคุยกันอย่างออกรสทำเหมือนว่าเขาไม่ได้อยู่ด้วย จนเขาต้องเดินหนีมาหาที่สงบอารมณ์ดีที่เขารู้ว่าซีโวลอดกับมุขรินทร์ยังเที่ยวด้วยกันอยู่แถวนี้เลยได้โทรตามให้ทั้งสองมาที่นี่ อย่างน้อยเขาก็ยังมีซีโวลอดเป