“ฉันแน่ใจว่าพรุ่งนี้เกรซจะไม่มาร่วมโต๊ะอาหาร เรื่องนั้นสบายใจได้”
มาเทโอรู้จักนิสัยของกชกรดีว่าเป็นคนเย่อหยิ่งทระนงตนแค่ไหน และพอจะรู้ว่าเธอก็มีใจให้เขาถึงได้ตอบตกลงที่จะหมั้นตามคำขอของมเหศักดิ์โดยง่าย แต่เขาไม่ได้คิดอยากมีใครเป็นบ่วงผูกคอ เพราะชีวิตไม่คิดเรื่องการมีครอบครัวในหัวแม้แต่น้อย และรู้ดีว่ามเหศักดิ์ไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดของเขาแน่นอน จึงจำเป็นต้องหาคนมาตบตาเป็นเมียออกหน้าแม้นจะรู้ว่าพ่อตนเกลียดความไม่ตรงไปตรงมาเป็นที่สุดก็เถอะ
“อืม ฉันเตือนเพราะเป็นห่วงนายเท่านั้น พรุ่งนี้ไม่เจอ วันหน้าก็ต้องเจอกันอยู่ดี”
“ขอบใจ”
ไอเซย่า บราวน์ หรือ แอล หนุ่มหล่อร่างสูงกำยำสัญชาติอเมริกัน ตัดผมทรงวินเทจเซ็ตเนี้ยบ ดวงตาคมนัยน์ตาสีฟ้า คิ้วคมเข้มหางคิ้วมีรอยบาก มีลักยิ้มที่แก้มซ้ายแต่คนไม่ค่อยรู้เพราะเขาได้ฉายาว่าเสือยิ้มยาก เป็นคนมีฝีมือในการใช้มีดสั้นมาก ค่อนข้างสุขุม เงียบๆ ไม่ค่อยพูด คนนอกมองเขาเหมือนว่าเป็นคนหยิ่ง แต่แท้ที่จริงไม่รู้วิธีการที่จะเข้าหาคนมากกว่าว่าจะต้องทำยังไง เขาไม่ได้มองว่ามาเทโอเป็นเพื่อนหรือเป็นเจ้านายเท่านั้น แต่มองเหมือนพี่น้องแท้ๆ ด้วยครั้งที่เขาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดที่ต่างประเทศ เวลาที่เขามีปัญหาของตัวเองหรือแม้กระทั่งปัญหาในครอบครัว มาเทโอจะเป็นคนช่วยเขาตลอด จนมาเทโอต้องกลับมาบริหารงานที่ไทยเขาจึงขอติดตามมาดูแลเพื่อนที่นี่
หญิงสาวในชุดนอนลายการ์ตูนสีชมพูมีตุ๊กตาหมีตัวใหญ่สองตัวขนาบข้างอยู่บนเตียง ดวงตากลมโตจ้องมองสร้อยจี้รูปหงส์นัยน์ตาเพชรของแทนใจของคนเป็นแม่แท้ๆ ครู่หนึ่ง ก่อนจะอมยิ้มและเอ่ยอะไรบางอย่างออกมา
“พ่อคะแม่คะ วันนี้มะลิได้ตอบแทนบุญคุณครอบครัวผู้มีพระคุณแล้วนะคะ ถึงแม้ว่าเรื่องนี้มะลิจะลำบากใจบ้าง แต่มะลิจะทำหน้าที่ของมะลิให้ดีที่สุดค่ะ พ่อกับแม่เป็นกำลังใจให้มะลิด้วยนะคะ”
มินตราจะคุยกับสร้อยรูปหงส์นี้ทุกครั้งไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ เพราะรู้สึกว่าเหมือนกับการได้คุยกับพ่อและแม่แท้ๆ ของเธอ ส่วนเจ้าตุ๊กตาหมีตัวโตที่เธอเอามานอนขนาบข้างตั้งแต่เล็กยันโต เปรียบเสมือนเธอได้นอนกอดพ่อและแม่ไปในตัว
“คุณแอลมาทำอะไรแต่เช้าคะ”
พอใจกับมินตราเดินเข้าออฟฟิศก็เห็นไอเซย่ามานั่งรออยู่ด้านในแล้ว พอใจจึงเริ่มมองหน้าชายหนุ่มด้วยสายตาแปลกใจ ไอเซย่าเห็นสองสาวเข้ามาทักจึงรีบลุกขึ้นเอ่ยธุระที่มาทันที
“มารับคุณมะลิครับ วันนี้คุณพ่อคุณเรียวอยากทานข้าวกับคุณมะลิ”
พอใจหันไปมองหน้ามะลิด้วยสีหน้าลำบากใจ
“มะลิไปได้ค่ะ”
มินตราพยักหน้าให้พอใจก่อนจะหันมายิ้มตอบรับชายหนุ่ม ด้วยไม่อยากขัดใจคำสั่งของมาเทโอหลังจากพอจะรู้ฤทธิ์ของเขาเมื่อวานนี้แล้ว
“แล้วจะกลับตอนไหน มันยังไม่ถึงเวลาที่น้องฉันจะต้องไปอยู่กับคุณเรียว คุณรู้ใช่ไหม”
พอใจพูดเป็นนัย หากเรียกตัวน้องเธอไปทำหน้าที่แค่ทานข้าว ก็ขอให้ธุระมีแค่นั้น
“ครับ แค่ไปทานข้าวครับ”
ไอเซย่าพอจะรูว่าพอใจคิดอะไร ก่อนจะยืนยันเสียงหนักแน่น และเดินนำหน้ามินตราไปที่รถตู้คันหรู
อันที่จริงการทานข้าวครั้งนี้จะเริ่มขึ้นช่วงเย็น แต่ที่ไอเซย่าต้องไปรับมินตราแต่เช้าเพราะต้องพาเธอไปแปลงโฉมตามที่มาเทโอสั่ง ด้วยเธอจะต้องเป็นว่าที่สะใภ้ที่ดูดีที่สุดต่อหน้าของมเหศักดิ์และคนในครอบครัว
ไอเซย่าพาหญิงสาวมาถึงห้างสรรพสินค้าได้ก็พามินตราหาอะไรทานรองท้อง หลังจากนั้นก็ส่งตัวเธอให้กับทีมช่าง วันนี้มะลิทั้งขัดตัวนวดหน้าแต่งหน้าผมทำ หลังจากนั้นถึงได้เลือกชุดเลือกรองเท้า กระเป๋าและเครื่องประดับ จนตอนนี้เธอนั้นเปลี่ยนไปแทบจะเป็นคนละคน
“ซ่อนรูปเหมือนกันนะคะน้องมะลิ”
หลังจากแต่งตัวให้มินตราเสร็จทีมช่างก็มองหญิงสาวกันเป็นตาเดียวอย่างชื่นชม เพราะเธอนั้นเหมือนชิ้นงานชิ้นโบว์แดงที่ทีมของเธอได้ช่วยกันรังสรรค์ก็ว่าได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพื้นฐานรูปร่างที่อกเป็นอกเอวเป็นเอว เครื่องหน้าอันครบเครื่องของหญิงสาวนั้นดีอยู่แล้วแต่งเติมให้มันเข้าที่เข้าทางเลยออกมาดูดีราวกับตุ๊กตาหรือภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ
“นี่สร้อยค่ะ”
“ค่ะ”
พิมรักช่างทำผมยื่นสร้อยรูปหงส์ใส่มือมินตราหลังจากถอดมันออกจากคอหญิงสาว เพราะจะต้องเปลี่ยนใส่ชุดเครื่องประดับชิ้นใหม่ให้เข้ากับชุดเดรสสีชมพูที่ใส่
“คุณมะลิสวยอย่างกับตุ๊กตาเลยค่ะ”
เติมขวัญ ช่างแต่งหน้าที่กำลังเก็บอุปกรณ์หันมาชมหญิงสาวหน้าหวานที่แต่งแต้มเครื่องหน้าไม่เท่าไรก็ดูโดดเด่น บวกกับทรงผมที่ดัดลอนใหญ่ สวมคาดผมเพชรเล็กๆ และชุดเดรสสีหวานโชว์เนินอกเล็กน้อย ทำให้มินตราสวยสง่าจนเธออดที่จะชมตามคนอื่นๆ ไม่ได้ สาวเจ้าดูสูงชะลูดไม่น้อยหน้านางแบบชื่อดังเมื่อได้มาสวมรองเท้าส้นเข็มสีเงิน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้กุมหัวใจของมาเทโออยู่จะประกาศแต่งกันเร็วๆ นี้
“แอลพามะลิมาแล้วใช่ไหม”
คนที่พึ่งแต่งตัวเสร็จเดินลงมาจากชั้นบนเห็นเคนชิ ยืนรอเขาอยู่จึงเอ่ยถามถึงคนที่จะต้องทานข้าวเย็นกับเขาที่บ้านของพ่อในวันนี้
“ครับคุณเรียว”
มินตราที่นั่งรออยู่บนโซฟาพักใหญ่เห็นเคนชิผายมือมาทางเธอจึงรีบลุกยืนขึ้น
“จะไปกันเลยไหมคะ”
เสียงหวานพร้อมรอยยิ้มสดใสของมินตรา ทำมาเทโอละสายตาจากเธอไม่ได้อีกครั้ง ทั้งชุดการแต่งหน้าทำผมส่งให้เธอดูโดดเด่นสะดุดตาแทบจะเป็นคนละคนที่เขาเจอเมื่อวาน คราแรกว่าเธอสวยหวานมีเสน่ห์อยู่พอตัวแล้ว ตอนนี้เธอยิ่งทำให้เขาทึ่งได้อีก
“คุณเรียวครับ”
“อืม ไปกันเลย”
เสียงเรียกของเคนชิทำมาเฟียหนุ่มหลุดจากภวังค์ และเดินดุ่มนำหน้าไปที่รถ
“คุณต้องหัดเรียกผมว่าพี่เรียว แล้วก็ทำตัวให้เหมือนคนรักกับผมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เรื่องอื่นค่อยตามน้ำไปกับผมที่หน้างานอีกที”
มาเทโอเอ่ยกำชับกับมินตราเมื่อนั่งรถออกมาจากบ้านได้พักใหญ่
“ค่ะ คุณพ่อคุณดุหรือเปล่าคะ”
เรื่องนี้มินตราค่อนข้างกังวล เพราะตอนนี้เธอไม่รู้รายละเอียดอะไรเกี่ยวกับคนที่บ้านของพ่อชายหนุ่มเลย
“ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง ผมขี้เกียจตอบ”
น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยปฏิเสธอย่างไม่สนมารยาทของมาเทโอทำหญิงสาวเริ่มขมวดคิ้ว เธอไม่อยากจะเชื่อว่ามนุษย์สัมพันธ์ของมาเทโอจะแย่ขนาดนี้
“คุณเรียวตอบหน่อยไม่ได้เหรอคะ มะลิตื่นเต้น”
“อย่าเซ้าซี้ได้ไหม ผมบอกให้เรียกผมว่ายังไงลืมแล้วเหรอ”
“พี่เรียว มะลิจะไม่เซ้าซี้อีกเลยถ้าพี่เรียวตอบคำถาม”
“มะลิ อยากตายตอนนี้ไหม”
มาเทโอหันมาส่งเสียงแข็งใส่มินตรา แค่เรื่องที่เขากังวลในหัวว่าไปที่บ้านจะไปเจออะไรบ้างก็ปวดหัวแย่แล้ว ยังจะมามีคำถามที่น่ารำคาญของหญิงสาวมากวนใจอีก สาวเจ้าที่ได้ยินคำถามเช่นนั้นก็รีบสงบปากสงบคำนั่งบุ้ยปาก ตอนนี้ที่เธอกังวลจนต้องถามเซ้าซี้มาเทโอก็เพราะกลัวว่าคนที่เธอกำลังจะไปเจอจะนิสัยเหมือนชายหนุ่ม หากเป็นเช่นนั้นคงได้อึดอัดตลอดเวลาที่อยู่ที่นั่นแน่
คนตัวเล็กหลับตาพริ้มแอ่นสะท้าน มือเรียวทั้งสองวาดจิกเกร็งอยู่กับหมอนนุ่ม ริมฝีปากบางขบเม้มไม่ยอมละ ขณะที่สามีตัวโตกำลังเล่นลิ้นอยู่กับยอดอกอิ่ม มาเทโอรู้สึกคุ้นกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของมินตรามากเป็นพิเศษ ภาพจำครั้งที่เคยนอนร่วมรักกันอยู่บนเตียงค่อยๆ หลั่งไหลมาเป็นระยะ จนเขาต้องหยุดการกระทำฟุบใบหน้าลงกับกลางอกอิ่ม“พี่เรียวโอเคไหมคะ เราหยุดแค่นี้ดีไหม”มินตราเริ่มลืมตามองคนเป็นสามีหลังจากรับรู้ได้ว่ามาเทโอหยุดการกระทำและกำลังถอนหายใจเหนื่อยอยู่บนตัวของเธอ“ไม่”มาเทโอสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้อารมณ์ค้างคาอยู่อย่างนี้แน่ เมื่อรู้สึกดีขึ้นกิจกรรมสวาทก็เริ่มดำเนินต่อ และครั้งนี้ดูจะร้อนแรงและดิบเถื่อนอยู่พอสมควรยิ่งได้ใกล้ชิดดอมดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ได้สัมผัสผิวเนื้อเนียนนุ่มนิ่มเสมือนร่างกายของมินตราเป็นทั้งแม่เหล็กดึงดูดอารมณ์วาบหวามและเป็นทั้งเชื้อเพลิงเติมไฟสวาทให้กับเขาได้เป็นอย่างดีมาเทโอไล่ละเลงลิ้นสัมผัสร่างกายคนตัวเล็กครู่ใหญ่ก่อนจะเริ่มสอดใส่มังกรหัวโปนอัดแน่นเข้าไปในร่องสวาทแล้วเริ่มบรรเลงเพลงรักด้วยลีลาเร่าร้อน ทำสาวเจ้าหัวสั่นหัวคลอนครางเสียงหวานแทบจะตลอดทั
“ฉันซื้อตุ๊กตาหมีจริงๆ เหรอ”มาเทโอเห็นไอเซย่าเข้ามาในห้องทำงานตอนเช้าได้ก็รีบเอ่ยถามถึงเรื่องตุ๊กตาหมีทันที เพราะยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นว่าเขาจะไปคนไปซื้อของพวกนั้นด้วยตัวเอง“อืม นายรีบซื้อมาง้อคุณมะลิ ตอนนั้นฉันก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาเหมือนกัน”ไอเซย่านึกไปถึงภาพตอนนั้นเขาก็อดมีท่าทีขบขันไม่ได้“แสดงว่าฉันใส่ใจเธอมากเลยล่ะสิ”“ที่สุด”มาเทโอนึกยังไงก็นึกภาพตัวเองไม่ออกว่าตอนนั้นมีความคิดความอ่านแบบไหนถึงได้เลือกที่จะทำตัวอ่อนโยนกับผู้หญิงได้ขนาดนั้น แต่ก็ต้องละการคิดเรื่องนี้ไปก่อนเพราะเขามีอีกเรื่องที่อยากรู้มากกว่า“เออแล้วนี่ตำรวจได้เบาะแสอะไรการันต์บ้างไหม”มาเทโอเห็นว่านี่ก็ผ่านงานศพของกชกรและภาคภูมิมาพักใหญ่แล้วแต่ตำรวจก็ยังตามหาการันต์ไม่เจอเลย เขากลัวว่าการันต์ยังจะมีชีวิตอยู่และหวนกลับมาทำร้ายพวกเขาได้อีก“ไม่ ฉันหวังว่ามันจะหายสาบสูญไปในทะเล”ไอเซย่าส่ายหัวและหวังว่าการันต์จะไม่มีโอกาสจะกลัยมาใช้ชีวิตได้อีก แต่ถึงกลับมาได้เขาก็ไม่ได้คิดกลัวเพราะการันต์มีหมายจับและไม่มีอำนาจอะไรในมือแล้ว“อ่อ อีกเรื่องที่ฉันจะถามนาย”“อะไร”“ถ้าฉันไปอยู่ญี่ปุ่นกับคุณพ่อนายจะไปด้วยหรือเปล่า
“ย่าไม่อยากเห็นหลานย่าอ่อนแอแบบนี้เลยลูก”พุดกรองนั่งกอดหลานตัวเล็กด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวหัวใจ ทั้งที่ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตามีความสุขแล้วก็ยังจะมามีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอีกจนได้“มะลิไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ค่ะ แต่มันห้ามไม่ได้จริงๆ ค่ะ มะลิกลัวว่าพี่เรียวจะกลับมาจำมะลิไม่ได้”มินตราสะอึกสะอื้นซุกอยู่กับอกอุ่นของพุดกรอง“ย่าเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น หมอก็บอกเองไม่ใช่เหรอลูกว่าอาการของเรียวน่าจะเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น เข้มแข็งเข้าไว้นะลูกนะ คนเราคู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอก มันอาจจะมีอุปสรรคเข้ามาบ้างถ้าผ่านไปได้ความรักของหนูกับเรียวก็จะมั่นคงขึ้น”“ค่ะคุณย่า”พุดกรองได้แต่นั่งลูบหัวทุยไล่ไปถึงหลังปลอบคนตัวเล็กที่สะอื้นตัวสั่นเทาด้วยความสงสารจับใจเวลาพ้นผ่านร่วมเดือนกว่าตอนนี้บาดแผลตามร่างกายของมาเทโอหายเป็นปกติ และกลับมาอยู่ที่บ้านได้เป็นเดือนแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววการกลับมาของมินตราจนทุกคนต่างก็กังวลในความสัมพันธ์ของสองสามีภรรยาไปตามๆ กันเพราะฝ่ายภรรยาหากสามีไม่ตามกลับก็ไม่ยอมกลับ ส่วนคนเป็นสามีก็ปล่อยเอ้อระเหยเพราะจำภรรยาตัวเองไม่ได้เลยไม่ชินที่จะอยู่ด้วยกันและไม่คิดจะตามภรรยาตัว
“พี่เรียว ฮือๆๆ”“คุณมะลิ”มินตราเข่าทรุดจนพรนับพันต้องรีบรวบมานั่งที่เก้าอี้ หญิงสาวเริ่มสะอื้นตัวโยนเมื่อรับรู้ความจริงว่ามาเทโออาการหนักและหมอกำลังช่วยชีวิตอยู่ในห้องผ่าตัด“ทำไมคะ ทำไม ฮือๆๆ”มินตราแทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรง เธอตัวอ่อนปวกเปียกยิ่งรู้ว่ามาเทโอเป็นแบบนี้ก็เพราะมุ่งมั่นที่จะตามหาเธอก็ยิ่งรู้สึกแย่ ทั้งที่ได้กลับมาเจอกันแท้ๆ แต่กลับต้องมาเกิดเรื่องร้ายแบบนี้ขึ้น ตอนนี้โชคชะตากำลังเล่นตลกอะไรกับชีวิตของเธอกันแน่“เมื่อไรพี่เรียวจะตื่นมาคุยกับมะลิคะ มะลิมีเรื่องจะคุยกับพี่เรียวตั้งเยอะเลย คุณพ่อเล่าให้มะลิฟังว่าตอนเด็กๆ พี่เรียวชอบหนีไปแอบบนต้นไม้ให้คุณพ่อตามหาเป็นว่าเล่น พี่เรียวดื้อเหมือนกันนะคะ พี่เรียวจำได้ไหมว่าเราจะไปพักผ่อนกันที่บ้านสวนของคุณย่ารีบๆ ตื่นมานะคะตอนนี้ผลไม้ที่สวนกำลังออกผลเยอะเลย เราจะได้ไปทานผลไม้สดๆ จากต้นเลยดีไหมคะ”ร่วมครึ่งเดือนแล้วที่มินตรามานั่งคุยกับสามีที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงไม่มีเว้นว่าง หลังจากการผ่าตัดหมอบอกให้เธอสบายใจได้ว่าสามีของเธอยังไงก็ฟื้นคืนกลับมาเป็นคนปกติได้แน่นอน แต่เธอก็ยังไม่เป็นว่าเขาจะลืมตาตื่นหรือรู้สึกตัวบ้างเลย“เฮ้อ”สาวเ
“โลกกลมเหมือนกันนะคะ มันเป็นเรื่องบังเอิญมากๆ ที่มะลิได้มาแต่งงานกับเรียว”มารตีออกมานั่งคุยกับตฤณภพที่หน้าบ้านกลางดึกหลังจากที่ลูกๆ ของพวกเธอหลับกันไปแล้ว“ฟ้าคงลิขิตมาแล้ว พี่ดีใจที่ลูกเราได้เรียวมาดูแล”“ม่านก็เหมือนกันค่ะ ม่านอยากให้ถึงเวลาที่เราได้กลับบ้านแย่แล้วค่ะ”“พี่ก็อยากกลับไปเห็นที่ที่เคยอยู่เหมือนกันว่าตอนนี้มีอะไรที่เปลี่ยนไปแล้วบ้าง อีกอย่างมินทร์จะได้เข้าเรียนมหาลัยด้วย”ตฤณภพผ่านอะไรมาจนถึงตอนนี้ก็เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างฟ้าได้กำหนดมาแล้ว แม้จะผ่านเรื่องราวร้ายๆ มามากมายแต่เขาก็ลืมมันไปได้เพราะคิดว่าต่อจากนี้คงจะมีแต่ความสุข“เราจะบอกกับพวกเค้าเลยไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น”เคนชิกระซิบถามไอเซย่าขณะที่กำลังล่องเรือไปยังเกาะพร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญการภาคพื้นทะเลแห่งนี้“ให้พวกเค้ากลับไปถึงกรุงเทพก่อนจะดีกว่า”ไอเซย่าไม่อยากให้มินตราได้รับรู้จนกว่าจะกลับถึงกรุงเทพ เพราะหากรู้ว่าอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุของมาเทโอเป็นตายเท่ากันทุกคนคงใจเสียกันนานแน่ ให้ไปรับรู้ด้วยตัวเองที่โรงพยาบาลเลยจะดีกว่า“ยินดีที่ได้เจอนะครับคุณภพคุณม่าน ผมแอลแล้วนี่ก็เคนชิ ผมเป็นคนสนิทของคุณเรียวครับ
“หนูจ้ะ”มารตีพอจะยกยิ้มออกเพราะหญิงสาวที่ลูกชายเธอช่วยเอาไว้เมื่ออาทิตย์ก่อนเริ่มรู้สึกตัวแล้ว“โอ้ย”มินตราพยายามลุกขึ้นแต่ก็รู้สึกปวดหัวและอ่อนเพลียเหลือเกิน“อย่าเพิ่งลุกจะ ตอนนี้หนูมีแผลที่หัวอยู่อาจจะปวดๆ นิดหน่อยนะ พี่ภพคะหนูคนนี้ตื่นแล้วค่ะ”“เหรอ”ตฤณภพรีบเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกะละมังน้ำและผ้าขนหนู เพราะจะได้เวลาที่ภรรยาของเขาต้องเช็ดตัวให้หญิงสาวที่บาดเจ็บ“เป็นยังไงบ้างหนู แล้วเป็นยังไงมายังไงถึงได้ตกน้ำตกท่ามาได้ ดีที่ลูกชายลุงเห็นหนูลอยอยู่ใกล้ฝั่งเลยช่วยเอาไว้ได้”มินตรามองจ้องผู้ใหญ่ทั้งสองสลับกันไปมา ก่อนจะมีน้ำตารื้นสะอื้นตัวสั่นเทา คนทั้งสองตรงหน้าเธอตอนนี้แม้พวกเขาจะดูมีอายุมากกว่าในภาพที่เธอเคยเห็น แต่ก็จำได้ว่าพวกเขาคือพ่อกับแม่ของเธอไม่ผิดไปจากที่คิดแน่“เป็นอะไรไปจ้ะ”มารตีมองอาการของหญิงสาวด้วยสีหน้าเป็นห่วง“คุณพ่อคุณแม่คะ มะลิเองค่ะ คุณพ่อคุณแม่ฝากมะลิไว้กับคุณย่าพุดกรองจำได้ใช่ไหมคะ”“อ อะไรนะ”คำพูดปนเสียงสะอื้นของหญิงสาวที่นอนเจ็บทำมารตีและตฤณภพตัวชาวาบ ทั้งสองจ้องหน้ากันโดยที่ไม่มีคำพูดใดๆ เอื้อนเอ่ยออกมาจากปาก มีเพียงน้ำตาที่ทะลักออกมาพรั่งพรูบ่งบอกถึง